ตอนที่ 488 ถอย
gความปั่นป่วนของอาคารถล่มทำให้คนเดินถนนตกใจและรวมตัวกันไกลออกไปชี้มายังซากปรักหักพังพลางพูดคุยกัน
ในท้องฟ้าเครื่องบินจำนวนมากหยุดกลางอากาศและมองลงไปยังด้านล่าง
แม้การทำลายล้างนี้จะไม่เลวร้ายเท่าการต่อสู้ระหว่างเหล่าภัยพิบัตอแต่เพราะเกิดเรื่องเดิมขึ้นอีกครั้ง พลเมืองนอเรียสจึงให้ความสำคัญกับการต่อสู้อย่างใกล้ชิด
“แบล็คสตาร์เป็นยังไง?ใครชนะ?”ทหารรับจ้างสองคนที่จุดระเบิดได้หนีออกมาจากฐานนานแล้วและอยู่กลางอากาศภายในเครื่องบิน
ครืน!
แขนกลผลักก้อนหินใหญ่ออกไปและและเงาร่างก็สามารถเห็นได้ว่ากำลังปีนขึ้นมาจากเศษหินด้วยความลำบาก หานเซี่ยวหอบหายใจในท่าคุกเข่า
“อุ้บ…กระดูกซี่โครงฉันร้าว”หานเซี่ยวรู้สึกเจ็บชายหน้าอกทั่วอาคารได้ถล่มลงใส่เขา และแม้กระทั่งการป้องกันอันทรงพลังของชุดจักรกลมังกรมิติ ความทนทานก็ลดจาก67%เหลือประมาณ30% รอยแตกสีดำสามารถเห็นได้ทั่วเกราะ และประกายไฟก็สามารถเห็นได้ออกจากรอยแตกบางส่วน ต้องขอบคุณ ความสามารถติดตัวของอุปกรณ์[ความแข็งที่ทำลายไม่ได้] และความต้านทานของเกราะก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
ส่วนหนึ่งของความเสียหายทะลุผ่านการป้องกันของชุดจักรกลหานเซี่ยวมองหน้าต่างสถานะตรงหน้าเขา และมันก็แสดงให้เห็นว่าเขาเสียพลังชีวิตไปมากกว่า4000 พร้อมกับติดสถานะเวียนหัว
ความเสียหายส่วนใหญ่มาจากเศษซากที่ตกมาเศษซากหลายพันตันกระแทกใส่ร่างเขาและเมื่อเขาล้มลง เขาก็ถูกกระหน่ำ เขาปล่อยให้ฟิลลิปเข้าควบคุมเครื่องจักรเพื่อให้เขาไม่ต้องเบี่ยงเบนความสนใจ เมื่อเขาลงกับพื้น ทั้งเขาและเอ็มเบอร์ก็แยกห่างกัน ฟิลลิปเปลี่ยนรูปแบบรัศมีเป็นม่านพลังเพื่อป้องกันเศษซากส่วนใหญ่ หากไม่มีมัน ความเสียหายที่เขาได้รับคงมากกว่านี้
เพราะการถล่มของตึกเครื่องจักรส่วนใหญ่เขาจึงถูกฝัง แต่ทว่า เขายังมีบอลบีบอัดกว่า70ลูกที่อยู่กับตัวและยังมีความสามารถต่อสู้ อโรเชียได้แยกออกจากชุดจักรกล และแสงเธอก็หรี่ลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด หานเซี่ยวใช้พลังงานไปมาก
เมฆฝุ่นกระจายตัวและทัศนวิสัยเขาก็จำกัด หานเซี่ยวกวาดตามองรอบๆเพื่อหาตัวเอ็มเบอร์
การฆ่าตัวตนระดับภัยพิบัติไม่ง่ายแต่การโจมตีชุดนี้ย่อมทำให้เอ็มเบอร์บาดเจ็บ เอ็มเบอร์ไม่มีร่างกายที่ทรงพลังเหมือนนักสู้หรือความสามารถเอสเปอร์ใดเพื่อเสริมร่างกาย หากเขาไม่ใช้ความสามารถเอสเปอร์เขาเพื่อป้องกัน ความทนทานเขาจะไม่สูงมาก
แต่กแต่ก!
ในเวลานั้นเสียงบดคุ้นเคยก็ดังขึ้น สีหน้าหานเซี่ยวเปลี่ยนไป เขากระโดดถอยทันที และหอกดำหนาสามเล่มก็ยิงลงมายังจุดที่เขาอยู่ก่อนหน้า หอกดำเหล่านั้นเจาะผ่านซากหินได้ง่ายๆและทำเป็นหลุมยาวสิบเมตร
เมฆฝุ่นถูกพัดโดยลมแรงและหานเซี่ยวก็สามารถเห็นคลื่นดำหนาที่มีขนาดมากกว่าเดิมถึงสองเท่าได้มันขยายไปกว่าสองสามร้อยเมตรและยังขยายอยู่ ตอนนี้เขาไม่อยู่ในอาคาร เอ็มเบอร์จึงสามารถเข้าถึงแหล่งคาร์บอนไร้สิ้นสุดได้
ทันใดนั้นกระแสสีดำควบแน่นก็กลายเป็นอสรพิษใหญ่ซึ่งหนาสามเมตรและยาวนับร้อยเมตร ลำตัวมันตั้งตรง หัวมันกำลังมองหานเซี่ยว ยื่นลิ้นออกมา มันดูเหมือนมีชีวิตจริงๆ บนหัวงู เอ็มเบอร์กำลังยืนอยู่บนนั้น
เขาควรเต็มไปด้วยความสง่างามแต่ตอนนี้เขากลับดูน่าสมเพชเล็กน้อย เสื้อผ้าเขาฉีกขาดและเลือดแห้งก็เกาะอยู่ครึ่งหน้า ผิวหนังหลังหัวเขายาวจนถึงคอเป็นแผลเหวอะ การถูกลำแสงมิติยิงใส่20-30ครั้งทำให้มันเกิดแผลเป็น ใบหน้าของเอ็มเบอร์บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด เขาจ้องหานเซี่ยวอย่างอาฆาต
ทุกการโจมตีที่หานเซี่ยวยิงล้วนเล็งหัวเขาและเอ็มเบอร์ก็ต้องทุ่มสมาธิทั้งหมดเพื่อควบคุมความสามารถเขา ดังนั้น เขาจึงถูกบังคับให้ต้องอดทนกับอาการปวดหัว ซึ่งส่งผลต่อความสามารถการควบคุมพลังเอสเปอร์เขา เขาไม่อาจทำการควบคุมอย่างพิถีพิถันและทำได้แค่ขยายช่วงของคลื่นคาร์บอนเท่านั้น
ในท้องฟ้าทหารรับจ้างสองคนอ้าปากค้าง”ตัวตนระดับภัยพิบัติบาดเจ็บสาหัส!”
พวกเขาเป็นพยานถึงความแข็งแกร่งของเอ็มเบอร์และยังมีคนหนึ่งเคยสัมผัสมาก่อนแต่ทว่า แบล็คสตาร์กลับไม่แพ้และทำให้ตัวตนระดับAผู้ถือว่าเป็นบุคคลทรงอำนาจในกาแล็กซี่บาดเจ็บสาหัสได้
เขาน่าเกรงขามมาก!
สายตาของคนในบริเวณใกล้เคียงถูกส่งไปหาเอ็มเบอร์อย่างรวดเร็วในความเป็นจริง มันยากสำหรับพวกเขาที่จะไม่สังเกตเห็นงูดำตัวโต
นี่ดูแย่หานเซี่ยวรู้ว่าเรื่องต่างๆไม่เป็นไปตามการควบคุมเขา สำหรับเขาที่จะบรรลุผลการต่อสู้เช่นนั้น มันเพราะความพิถีพิภันของเขาที่เตรียมตัวไว้ก่อนหน้า แม้เขาจะทำให้เอ็มเบอร์บาดเจ็บได้ เอ็มเบอร์ก็ยังห่างไกลจากความตาย เนื่องจากพวกเขาอยู่ข้างนอกแล้ว เอ็มเบอร์ย่อมสามารถใช้ความสามารถเขาได้เต็มที่ และมันคงยากที่เขาจะทำให้เอ็มเบอร์บาดเจ็บได้อีก ไม่มีโอกาสเหมือนเดิมแล้ว
ความคิดพุ่งผ่านหัวของหานเซี่ยวความสนใจเขาอยู่กับฉัน ตราบเท่าที่ฉันถ่วงเขาไว้ได้ เมื่อนากินคินจัดการอีกฝั่งเสร็จ…
เขาจะไม่ทำเท่ห์เพราะเขาถือไพ่เหนือกว่าเขาย่อมเป็นฝ่ายแพ้หากการต่อสู้ยืดเยื้อ
เขาไม่สู้ต่อและเครื่องขับของชุดจักรกลก็เริ่มพ่นไฟหานเวี่ยวบินขึ้นฟ้าและเริ่มหนี
‘อย่าคิดหนี!”เอ็มเบอร์คำรามและงูใต้เท้าเขาก็พุ่งขึ้นฟ้า ไล่ตามหานเซี่ยวไป
หนี?นี่คือกลยุทธ์ต่างหาก!
หอกดำนับไม่ถ้วนพุ่งออกไปและหานเวี่ยวก็หลับพวกมันกลางอากาศ เมื่อหันไปมอง หานเซี่ยวก็ถอนหายใจโล่งอก ต้องขอบคุณ เอ็มเบอร์ไล่ตามมา เจ้าหมอนี่โกรธจนหน้ามืดไปหมด
การหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าและปล่อยให้เอ็มเบอร์ไล่ตามเขาจะช่วยให้เขาซื้อเวลาได้มากหานเซี่ยวไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องสู้กับเขาซึ่งๆหน้า
ฝ่ายหนึ่งหนีฝ่ายหนึ่งไล่ ทั้งคู่บินผ่านอาคาร งูตัวเขื่องพุ่งไปข้างหน้าอย่างประมาท และขนาดมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เครื่องบินทุกลำตามทางรีบหลบมัน และพวกที่ไม่อาจหลบได้ทันก็จะถูกทำลายทันที แม้กระทั่งอาคารที่มันพุ่งผ่านก็ยังแตกกระจาย
มันกลายเป็นความโกลาหล!
เทียบกับงูดำร่างของหานเซี่ยวก็เหมือนแมลงตัวเล็ก
หวออ…
เสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นและทีมรักษาความมั่นคงก็รีบมาด้วยความเร็วสูง การทำลายที่เอ็มเบอร์ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสงบสุขของเมือง และหน่วยรักษาความมั่นคงจะไม่เพิกเฉย
“ตื่อตื่อ…ท่านมีสายเรียกเข้า.”
เสียงแจ้งเตือนดังในหมวกเขาและหานเซี่ยวก็ยอมรับคำขอ จากนั้นใบหน้าของนากาคินก็ปรากฏ
“ร่างแยกของอัลวินถูกพาไปที่ปลอดภัยแล้วอานูทำลายไปสองถนน แต่ต้องขอบคุณ นักเดินทางระดับภัยพิบัติได้ผ่านมาและตัดสินใจช่วยเรา แต่ทว่า ความเร็วของอานูก็สูงเกินไป และเราก็ทำได้แค่บังคับให้เขาถอย..”
ตัวตนระดับภัยพิบัติที่ผ่านมา?!
ข่าวนี้นับว่าเหนือความคาดคิดเขาไปมากหานเซี่ยวคิดว่าเขาต้องถ่วงเวลาอีกสักพัก และใบหน้าเขาก็อดพับย่นไม่ได้ ในเวลาเดียวกัน เขาก็นึกถึงคำว่าพยัคฆ์หมอบมังกรซ่อน
เขาอดนึกถึงตอนเจออัลวินไมได้โชคของเจ้าหมอนี่อาจดีกว่าเฮอลัส และเขาก็โชคดีอย่างแท้จริง
“แบล็คสตาร์รอก่อน เราจะกลับไปและสนับสนุนนาย!”
เสียงของนากาคินเต็มไปด้วยความกังวลเขาเห็นว่ามันอันตรายเกินไปที่หานเซี่ยวจะรับมือกับเอ็มเบอร์ลำพัง เขากลัวว่าหานเซี่ยวจะพ่ายแพ้ก่อนเขาไปถึง
หลังปิดอุปกรณ์สื่อสารตาของหานเซี่ยวก็เป็นประกาย ด้วยแผนส่วนของนากาคินที่สำเร็จลุล่วง ทางฝั่งเขาก็ไม่ต้องล้อเล่นกับเอ็มเบอร์อีก เขาหันไปและเปิดลำโพงในหมวกเขา
“แกกคิดจริงๆว่าจะกำจัดฉันได้งั้นหรอ?แกลืมความสามารถอื่นของฉันไปแล้วรึไง?”
เมื่อเอ็มเบอร์ได้ยินใบหน้าเขาก็เปลี่ยนสี
ทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่าตอนเขาอยู่บนเกาะมังกร หานเวี่ยวเคยแสดงความสามารถฟื้นฟูในชั่วพริบตา
นี่หมายความว่าการต่อสู้จะยืดเยื้อ!
“หน่วยความมั่นคงสาธารณะกำลังมาและตัวตนระดับAที่ถูกจ้างโดยนอเรียสจะไม่ยอมให้แกทำอะไรอีก เพื่อนๆของฉันได้บังคับให้อานูต้องถอยไปแล้วและจะมาช่วยฉันในไม่ช้า หากแกยังอยากเล่นกับฉันต่อ ฉันก็จะสนองให้”หานเซี่ยวกล่าวด้วยน้ำเสียงเริงร่า
เอ็มเบอร์ลังเลเขาอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่อาจก้าวต่อหรือถอยได้
การสู้ต่อมีแต่จะทำให้เสียเวลาไม่เพียงแต่เขาจะไม่อาจกำจัดแบล็คสตาร์ได้ เขายังถูกล้อม อย่างไรก็ตาม เขาลังเลที่จะถอยแบบนี้!หลังถูกทุบตีอย่างหนัก เขายังไม่ได้ตัดสินกับศัตรูและยังต้องถอย!นี่มากเกินไป!
เสียงไซเรนใกล้เข้ามาและเอ็มเบอร์ก็ตจระหนักว่าหานเซี่ยวลดความเร็วลงดูไร้ซึ่งความกลัว สีหน้าของเอ็มเบอร์เย็นเฉียบ ความเจ็บปวดเริ่มออกฤทธิ์อีกครั้งและอาการเวียนหัวก็เตือนเขาให้นึกถึงสภาพร่างกายตัวเอง
ความภาคภูมิใจและความอวดดีที่เขามีหลังเข้าสู่ระดับภัยพิบัติพลันหายไป
ชื่อของแบล็คสตาร์ยิ่งฝังลึกในใจเขาร่วมกับความเจ็บปวด ความทรงจำนี้ได้แทรกซึมลึกลงกระดูกเขา
“มันเป็นความผิดฉันเองฉันประเมินแกต่ำไป ครั้งหน้า ไม่ว่าจะเป็นพลังแกและเครื่องจักรแก ไม่ว่าแกจะอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือบาดเจ็บ ฉันจะไม่ประมาท”
จากนั้นเขาก็สงบความโกรธลงด้วยสายตาซับซ้อน
หลังมองหานเซี่ยวเป็นครั้งสุดท้ายเอ็มเบอร์ก็หมุนตัว งูดำลอยไปในเมฆดำและหลบหนีไป
“ในที่สุดฉันก็ปลอดภัย”
หานเซี่ยวหยุดเคลื่อนไหวและถอนหายใจแม้ผิวเผินเขาจะดูผ่อนคลาย แต่
ลึกๆแล้วเขาตึงเครียดมาก หากเขาไม่สู้กับเอ็มเบอร์ในสถานที่ที่เขาได้เปรียบ เขาคงแพ้ไปแล้ว หากเครื่องจักรทั้งหมดของเขาถูกทำลาย แม้กระทั่งบัตรอัญเชิญตัวละครออโรร่าก็คงไร้ประโยชน์ อย่างมาก เขาก็ใช้มันได้แค่หกครั้ง และเขาก็ใช้ไปแล้วครั้งหนึ่ง
เขาไม่รอให้นากาคินกลับมาและโอบล้อมเอ็มเบอร์แต่เตือนให้เขาหนี หากเอ็มเบอร์อยากหนีจริงๆ มันคงยากที่จะหยุดเขา ตรงกันข้าม ทหารรับจ้างทุกคนจะต้องเผชิญกับความเสี่ยง
เมื่อมองหน่วยความมั่นคงสาธารณะที่ใกล้เข้ามาหานเซี่ยวก็ไม่อยากถูกสอบสวน ดังนั้นเขาจึงต้องซ่อนตัว
ในเวลาเดียวกันนากาคินก็มาถึงพร้อมทหารรับจ้าง ชั่ววินาทีที่พวกเขาเห็นอาคารสูงถูกทำลาย ทหารรับจ้างเหล่านั้นก็รู้สึกโง่งม
ตลอดทางพวกเขามองโลกในแง่ร้ายถึงโอกาสรอดของหานเซี่ยว การถ่วงเวลาตัวตนระดับนั้นเพียงลำพัง พวกเขารู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้เลย
แต่ทว่าพวกเขาก็ได้เห็นซากปรักหักพังซึ่งเกิดจากการปะทะ และทุกคนรวมถึงนากาคินก็ทอสีหน้าตะลึงงัน
เกิดอะไรขึ้น?!
แบล็คสตาร์ไปไหน?!