Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

The Legendary Mechanic - ตอนที่ 489 อานู

เรื่อง The Legendary Mechanic - ตอนที่ 489 อานู

ตอนที่ 489 อานู
  เมื่อทหารรับจ้างที่ประจำอยู่ด้านหลังเห็นพวกนากาคินกลับมาพวกเขาก็รีบลงมาและทั้งสองกลุ่มก็เจอกัน ทหารรับจ้างนับร้อยที่ไปช่วยอัลวินได้ยินทหารรับจ้างสองสามคนนั้นอธิบายอย่างกระตือรือร้นว่าเกิดอะไรขึ้น
  นอกจากเฮอลัสและคนจากกลุ่มทหารรับจ้างแบล็คสตาร์คนอื่นดูไม่เชื่อ แบล็คสตาร์สามารถรับมือกับตัวตนระดับภัยพิบัติได้อย่างสูสีและทำให้ศัตรูได้รับบาดเจ็บสาหัส นี่แตกต่างจากสิ่งที่พวกเขาคิดโดยสิ้นเชิง!
  ทุกคนต่างตกใจ
  แม้กระทั่งเฮอลัสก็ยังงุนงงเล็กน้อย”เขาเก่งขนาดนั้นเลย?”
  นากาคินดีใจมากเขารู้สึกไม่มั่นใจและไม่เคยคิดว่าแบล็คสตาร์จะเป็นพันธมิตรที่พึ่งพาได้
  ในขณะนั้นนากาคินได้รับข้อความ หานเซี่ยวขอให้พวกเขาขุดเครื่องจักรทั้งหมดที่ฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพังก่อนไปพบกันที่อื่น เขายังเตือนพวกเขาว่าอย่าดึงดูดความสนใจมากเกินไป
  นากาคินหันหลังและตระหนักว่ามีคนมาดูมากขึ้นหน่วยความมั่นคงสาธารณะและทีมก่อสร้างก็รีบเร่งมาเช่นกัน มีหลายส่วนของนอเรียสได้รับความเสียหาย และกลุ่มการเงินนอเรียสก็โกรธมาก นากาคินไม่อยากถูกพวกเขาจับและสั่งให้ทุกคนรีบขุดเครื่องจักรก่อนหนี
  หลังรอสักพักหานเซี่ยวก็มาถึง
  ทหารรับจ้างจ้างมองหานเซี่ยวด้วยความเคารพและแหวกทางให้เขา
  เมื่อเดินไปใจกลางฝูงชนหานเซี่ยวก็ตบไหล่ของเฮอลัสและกล่าวด้วยรอยยิ้ม”เอ็มเบอร์บาดเจ็บแล้ว และเขาก็กำลังปวดหัวอย่างรุนแรงอยู่”
  เฮอลัสตกตะลึงสักพักและลูบแขนกลเขาทุกครั้งที่เขาคิดถึงเอ็มเบอร์ การเชื่อมต่อเส้นประสาทที่แขนกลเขาจะเริ่มเจ็บปวด เมื่อได้ยินแบบนั้น เฮอลัสก็ฉีกยิ้มกว้างและรู้สึกโกรธ
  “ทำดีมาก!”
  หลังคุยกันสักพักหานเซี่ยวก็รวบรวมเครื่องจักรทั้งหมดกลับมาเป็นบอลบีบอัด หลังนับเครื่องจักรทั้งหมด หานเซี่ยวก็สรุปได้ว่าเขาเสียเครื่องจักรไปประมาณ30 และเครื่องจักรมากมายของเขาก็มีคุณภาพลดลง นอกจากการทำให้เอ็มเบอร์บาดเจ็บ เขาก็ไม่ได้รับของอะไร ผลประโยชน์มากสุดคือการทำภารกิจสำเร็จและช่วยร่างแยกสุดท้ายของอัลวินได้
  “เราพบกันอีกครั้งแล้วนะเพื่อน”อัลวินทักทายทุกคนผิวเขาซีด เห็นได้ชัดว่าเขามีสุขภาพไม่ดี
  “การได้เห็นโกโดร่าเลือดผสมอีกครั้งย่อมไม่ใช่เรื่องดี”หานเซี่ยวส่ายหัว”แล้วคนที่มาช่วยไปไหนแล้วละ?”
  “ไปแล้ว”
  “ไปโดยไม่ทิ้งชื่อเขาอาจเป็นพวกซูเปอร์ฮีโร่”
  หานเซี่ยวไม่คิดว่ามันแปลกยิ่งทรงพลัง ความรับผิดชอบพวกเขาก็ยิ่งมากขึ้น อย่างน้อย ก็ยังมีบางคนที่ยึดมั่นในหลักการดังกล่าว ฮีโร่เป็นเหตุการณ์ปกติและก็มียอดฝีมือหลายคนที่ชอบเล่นบทบาทฮีโร่เป็นครั้งคราว
  หลังบันทึกเป้าหมายพวกเขาแล้วหานเซี่ยวและคนอื่นก็เริ่มคุยถึงแผนการต่อไป
  “หากดาราทมิฬต้องการความคืบหน้าใดๆก็มีเพียงสองทางเลือด หนึ่ง หาร่างหลักของอัลวิน ซึ่งจะเหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทร สอง จับร่างแยกสุดท้ายจากเรา พวกมันจะต้องกระวนกระวาย นากาคิน กำลังเสริมจะใช้เวลานานแค่ไหน?”
  “ตำหนักสงครามได้ส่งกองยานที่ใกล้สุดมาแล้วแต่แม้จะใช้ประตูดารา พวกเขาก็จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย12วัน”
  “ดาราทมิฬจะไม่เพิกเฉยต่อกำลังเสริมและจะต้องส่งกองยานมาซ่อนใกล้ๆนอเรียสเป็นแน่ฉันมีความคิด แต่เราควรหาฐานใหม่ก่อนจะเจาะลึกรายละเอียด”
  …
  อีกฝากของเมืองทหารดาราทมิฬที่บาดเจ็บพบที่ซ่อนตัวเพื่อพักฟื้น แม้การต่อสู้จะสั้น แต่มันก็รุนแรง จำนวนพวกพิเศษระดับBทั้งสองฝ่ายรวมกันประมาณ15คน และด้วยทหารรับจ้างที่ฝึกมาอย่างดี การต่อสู้จึงรุนแรง
  ดาบผ่ายานรบของเฮอลัสและปืนใหญ่ของเชอร์แมนได้ปะทะกันอย่างดุเดือดวิลแซนเดอร์เองก็เข้าร่วมการต่อสู้และพบศัตรูที่ทรงพลังสุดอย่างฟอร์วิท พลังของซิลเวียอ่อนแอเกินไป ดังนั้นเธอจึงไม่ได้เข้าร่วมด้วย เนื่องจากเฟย์ดินเป็นแค่ลูกค้า เขาจึงไม่เต็มใจถูกลากเข้าร่วมการต่อสู้
  สีหน้าของอานูน่าเกลียดมากและอารมณ์เขาก็ไม่ดี การต่อสู้ที่เคยได้เปรียบกลับดันมีตัวตนระดับภัยพิบัติที่ไหนก็ไม่รู้กระโดดเข้ามาร่วมด้วย ทำให้ความพยายามทั้งหมดของเขาสูญเปล่า เขาจะไปรู้ได้ยังไงว่าจะเกิดมีพวกยอดฝีมือสะเออะเข้ามา?เขาได้พยายามอย่างดีสุดเพื่อลดความเสียหาย
  สำหรับตัวตนระดับภัยพิบัติส่วนใหญ่ตราบเท่าที่พวกเขาทุ่มสุดตัว พวกเขาจะมีความสามารถในการเปลี่ยนสภาพทางภูมิศาสตร์ของดาวเคราะห์ ด้วยพลังเช่นนั้น พวกเขาจึงถูกมองว่าเป็นอาวุธเดินได้ที่สามารถกวาดล้างอารยธรรม แต่ทว่า พวกเขาต้องควบคุมตัวเองตอนสู้กับบุคคลระดับเดียวกัน ยิ่งควบคุมได้มาก การโจมตีพวกเขาก็จะยิ่งรุนแรง และจะยิ่งทำลายการป้องกันศัตรูได้ง่ายขึ้น หากพวกเขาพยายามกระจายขอบเขตทำลายล้างออกไป มันจะไม่คุกคามคู่ต่อสู้ระดับเดียวกัน
  นอกจากนี้อานูยังไม่ต้องการสร้างความเสียหายกับดาวนี้และตอแยกลุ่มการเงินนอเรียส
  หากเอ็มเบอร์มาทันเวลาพวกเขาอาจมีโอกาสในการต่อสู้สองต่อสอง แต่ทว่า ใครจะไปรู้ว่าเอ็มเบอร์กำลังทำอะไร?เขาไม่มาถึงแม้จะผ่านไปนาน มันยากจะเข้าใจ ศัตรูส่วนใหญ่อยู่กับเขา มันก็ควรเหลือคนในฐานไม่มาก แล้วทำไมเอ็มเบอร์ถึงใช้เวลานานนัก?!
  แม้จะถูกล้อมเขาก็สามารถหลบหนีไปได้เพราะความเร็วเขา
  ใครก็สามารถบอกได้ว่าอานูโกรธเอ็มเบอร์แค่ไหน
  ไม่นานเอ็มเบอร์ก็กลับฐาน เลือดแข็งตัวและกลายเป็นสะเก็ด อาการบาดเจ็บที่คอเขาน่ากลัวมากและทุกคนก็ตกใจ
  เมื่อเห็นแบบนั้นอานูก็ขมวดคิ้ว”แกบาดเจ็บได้ยังไง?แกไปเจออะไร?หรือนากาคินจะพบยอดฝีมือระดับภัยพิบัติอีกคน?”
  เอ็มเบอร์โบกมือและกล่าวพลางกัดฟัน”มันคือแบล็คสตาร์เขาอยู่แนวหลังเพื่อรับมือกับผม”
  ดวงตาของอานูเบิกกว้าง”แกหมายความว่าแกถูกถ่วงเวลาโดยยอดมนุษย์ระดับBและยังถูกทุบตีในสภาพนี้?!”
  เอ็มเบอร์พยักหน้า
  อานูใช้เวลาไม่กี่วินาทีเพื่อฟื้นคืนความเย็นชา”ในเมื่อแกลากถ่วงการต่อสู้นานขนาดนี้แกก็ต้องกำจัดเขาไปแล้วใช่ไหม?”
  “สถานการณ์เร่งด่วนผมจึงถอย”
  อานูสาปแช่งทันที
  เขาฝากความหวังไว้กับเอ็มเบอร์มากแต่ในขณะนั้น เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเขาคิดผิดรึเปล่า
  เอ็มเบอร์สามารถรู้สึกได้ถึงสายตาที่เปลี่ยนไปและรู้ว่าอาจารย์ที่เคารพรักของเขาผิดหวังในตัวเขามากใบหน้าเขาบิดเบี้ยวและอยากอธิบายตนเอง แต่ก็รู้สึกว่ามันจะทำให้ตัวเองอับอายซะเปล่าๆ
  อานูตัดสินใจว่าเขาต้องขังเอ็มเบอร์อีกสักปีหลังกลับไปเขาไม่อยากเห็นหน้าเอ็มเบอร์อีกและกล่าวกับฟอร์ซิท”สถานการณ์ไม่อยู่ข้างเรา แกมีความคิดไหม?”
  ฟอร์ซิทคิดสักพักก่อนกล่าว”เรามีสามทางเลือดเราสามารถใช้ร่างแยกทั้งสามในมือเราเพื่อหาร่างหลักของอัลวิน ชิงตัวร่างแยกจากพวกมันและฆ่านากาคิน หรือ…ไม่ทำอะไรเลย”

อ่านตอนอื่นๆของ The Legendary Mechanic คลิกเลย

แฟนเพจ