ตอนที่ 490 ความขัดแย้ง
“หมายความว่าไง?”
“เราซ่อนในความมืดและร่างหลักของอัลวินก็ไม่กล้าปรากฏ”ฟอร์ซิทอธิบาย”ดังนั้น อีกฝ่ายต้องกำลังรอกำลังเสริมโกโดร่าอยู่ กองยานเรากำลังรอพวกมันอยู่ใกล้ๆนอเรียส และเราสามารถเรียกยานแม่มาได้เพิ่ม เมื่อกำลังเสริมของอีกฝ่ายมาถึงและพยายามช่วยอัลวินจากนอเรียส กองทัพเราก็สามารถซุ่มโจมตีและทำลายกองยานศัรตูได้ ไม่เพียงแต่เราจะสามารถกำจัดคนทรยศได้ เราจะยังกำจัดกองยานโกโดร่าได้อีกด้วย”
“พูดถูกแล้ว”อานูกล่าว”ท่าจอดคือจุดที่พวกมันต้องผ่านและก็ง่ายต่อการติดตามนี่คือหลักประกัน แต่เราไม่อาจผ่อนปรนได้ ค้นหาร่างหลักของอัลวินต่อไปและให้แรงกดดันกับอีกฝ่าย”
…
หานเซี่ยวและคนอื่นพบอีกฐานหลักปักหลัก เขาก็ไปหานากาคินและอัลวินเพื่อคุยเรื่องแผน แต่ทว่า ก่อนการหารือ คำถามก็ผุดในหัวเขา ทำไมอัลวินถึงเลือกทรยศดาราทมิฬ?ไม่มีข้อมูลของตัวละครนี้จากชีวิตก่อนหน้าเขา
“ทรยศ?ฉันไม่รู้สึกว่านี่เป็นการทรยศเลย”อัลวินส่ายหัว”ฉันมีผิวสีทองและเป็นชาวโกโดร่านี่คือการละทิ้งความมืดและเข้าสู่แสงสว่าง ฉันเคยเข้าร่วมดาราทมิฬ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นสมาชิกดาราทมิฬไปตลอด”
“มีชาวโกโดร่าเลือดผสมมากมายที่ถูกปฏิบัติอย่างเป็นอคติดังนั้น เมื่อสมาชิกดาราทมิฬปรากฏต่อหน้า ฉันจึงเลือกหันหลังโดยไม่ลังเล กระบวนการจ้างของดาราทมิฬเข้มงวดมาก และมันก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่สายลับโกโดร่าจะลอบเข้ามาได้ ฉันเองก็ไม่ใช่สายลับเหมือนกัน”
คิ้วของหานเซี่ยวขมวดและถาม”งั้น ทำไมตอนนี้ถึงมาเลือกข้างโกโดร่า?”
“เพราะฉันสังเกตเห็นว่าปัญหาของดาราทมิฬไม่ง่ายดาราทมิฬมักล้างสมองสมาชิกพวกเขาด้วยความชิงชังและอธิบายว่าโกโดร่าคือสิ่งชั่วร้าย พวกเขาต้องการกำจัดโกโดร่าเลือดผสมทั้งหมด ตอกย้ำความภักดีของสมาชิกด้วยความชิงชัง สมาชิกดาราทมิฬจึงเริ่มเกลียดโกโดร่ามากขึ้นและผ่านไปหลายปี แต่ข่าวของสถานการณ์จริงในโกโดร่ามักถูกจำกัดอยู่เสมอ”
อัลวินเงยหน้าและถอนหายใจ”ทัศนคติของโกโดร่าที่มีต่อเลือดผสมไม่ขนาดนั้นและรัฐบาลกลางก็เปิดกว้างมาก พวกเขาปฏิบัติต่อดาราทมิฬในฐานะศัตรเท่านั้น และสำหรับเลือดผสมทั่วไป รัฐบาลกลางมักมีความยุติธรรมอย่างยิ่งในการปกป้องสิทธิพวกเขา”
หานเซี่ยวพยักหน้าและกล่าวด้วยน้ำเสียงล้อเลียน”ฉันกำลังรอให้นายพูดคำว่า’แต่’อยู่เลย”
อัลวินหัวเราะขมขื่น”ใช่แต่…จุดยืนและนโยบายของรัฐบาลไม่พอจะเปลี่ยนมุมมองของชาวโกโดร่า การดูถูกของพวกเลือดบริสุทธิ์ได้ฝังลึกในประเพณี แม้รัฐบาลจะให้ความมั่นใจ แต่การเลือกปฏิบัติก็เป็นอิสระ รัฐบาลกลางไม่อาจควบคุมความคิดของประชาชนได้ รัฐบาลโกโดร่าอยากยอมรับเลือดผสม แต่ศัตรูของนโยบายนี้กลับเป็นพลเมืองพวกเขาและวัฒนธรรมล้านปี”
“การปรากฏของดาราทมิฬทำให้เกิดความขัดแย้งมากยิ่งขึ้นและทำให้เลือดบริสุทธิ์แตกแยกกับเรากว่าเดิมแม้พวกก่อการร้ายอย่างดาราทมิฬจะไม่เกี่ยวอะไรกับเลือดผสมทั่วไป แต่นั่นก็ไม่พอจะเปลี่ยนมุมมองของคนสาวนใหญ่”
“เทียบกับดาราทมิฬที่อันตรายเลือดผสมที่อาศัยในโกโดร่าตกเป็นเป้าของความโกรธ แม้ดาราทมิฬจะกล่าวอ้างว่าพวกเขาสู้เพื่อเลือดผสม แต่วิธีไร้ยางอายพวกเขาก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตของเลือดผสมดีขึ้น มันกลับยิ่งทรมาน เช่นนั้น เลือดผสมจึงพากันถูกบังคับให้เลือกฝั่งดาราทมิฬมากขึ้น”
“นี่คือปมที่ยากจะแก้นายไม่อาจหวังว่าเลือดบริสุทธิ์เปลี่ยนการเลือกปฏิบัติได้ในชั่วข้ามคืน และก็ไม่อาจคิดว่าเลือดผสมจะไม่โต้ตอบเมื่อถูกเลือกปฏิบัติ นี่คือความจริงที่ดาราทมิฬวางไว้ หากไม่ใช่เพราะดาราทมิฬ เลือดผสมจะได้รับความทุกข์ทรมานจากการเลือกปฏิบัติมากขนาดนี้งั้นหรอ?”
หานเซี่ยวเคาะโต๊ะด้วยนิ้วและมองนากาคิน”คุณคิดว่ายังไงฦ.
นากาคินถอนหายใจ”เขาพูดถูกฉันไม่เลือกปฏิบัติกับพวกเลือดผสม แต่ก็ไม่ได้เป็นตัวแทนของทุกคน นโยบายของเบื้องบนมักจะปฏิบัติต่อเลือดผสมอย่างจริงใจและให้โอกาสอย่างยุติธรรม แต่ทว่า เพราะดาราทมิฬ พวกชั้นสูงจึงกลัวว่าเลือดผสมอาจทรยศพวกเขา ดังนั้น มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เลือดผสมคนใดจะใต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งสูงได้”
“แม้นโยบายอาจจะดีแต่แผนดีก็อาจไม่เป็นไปตามที่วาง โดยเฉพาะเมื่อมันเกี่ยวกับผลประโยชน์และความอยู่รอดของเผ่าพันธ์”อัลวินครุ่นคิด”ดังนั้น ฉันจึงเต็มใจเข้าหาโกโดร่า บางทีชีวิตของเลือดผสมอาจดีขึ้นหากดาราทมิฬถูกกำจัด”
“ความทะเยอทะยานของนายยิ่งใหญ่มาก”หานเซี่ยวกล่าวด้วยความเคารพ
“ขอบคุณ”อัลวินยิ้มจากนั้นน้ำเสียงเขาก็เปลี่ยนไป”แต่ต่อให้นายชมฉัน ฉันก็จะไม่มอบข้อมูลใดๆให้ก่อนฉันจะปลอดภัย”
“อย่าพูดแบบนั้นกับฉันมันไม่ใช่ปัญหาของฉันเลย”หานเซี่ยวกล่าวด้วยรอยยิ้ม”นายควรบอกกับชาวโกโดร่า ภารกิจฉันแค่ปกป้องนายเท่านั้น”
จากนั้นเขาก็ถอนรอยยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง”เราไม่อาจคาดการณ์แผนของดาราทมิฬได้และปัจจุบันเราก็มีอยู่ไม่กี่ตัวเลือก อย่างแรก ซ่อนตัวและสังเกตทุกการเปลี่ยนแปลง รอให้กำลังเสริมมาถึง นี่จะเป็นแผนทั่วไป สอง ริเริ่มการโจมตี ก่อกวนพวกมันเพื่อให้พวกมันไม่มีพลังงานไปหาค้นร่างหลักนาย”
“ข้อสามจะต้องการความเห็นชอบนายอัลวิน เราสามารถซ่อนร่างหลักนายให้ไกลจากสถานที่นี้ได้ และมันจะดีสุดถ้าอยู่อีกฝากของดาว ด้วยวิธีนี้ ร่างแยกนายจะหายไปหมด นายจะได้รับความเจ็บปวดบ้าง แต่ดาราทมิฬจะเสียเบาะแสทั้งหมด ฉันรู้จักจอมเวทย์เคลื่อนย้ายบนนอเรียส และเขาสามารถช่วยเราได้ หากไม่ เขาจะถูกฉันทุบตีอีกครั้ง”
“สี่หาโอกาสออกนอเรียสไปลับๆ แต่ทว่า แผนนี้เสี่ยงมาก มีโอกาส90%ที่กองยานดาราทมิฬจะซ่อนตัวอยู่นอกชั้นบรรยากาศ และการออกไปก็ไม่ต่างอะไรกับการวิ่งเข้ากับดัก”
นากาคินและอัลวินมองหน้ากันด้วยความลังเล
จากนั้นหานเซี่ยวจึงกล่าว”หากทั้งสองไม่มีข้อเสนออื่นงั้นจะเลือกแผนไหนกัน?”
ด้วยบุคลิกของนากาคินเขาจึงเอนเอียงไปทางแผนโจมตี
แต่ทว่าอัลวินไม่อยากเสี่ยงและอยากรอดู
ปัง!
ก่อนพวกเขาจะตัดสินใจร่างของอโรเชียก็เซ และเธอก็กระแทกกับโต๊ะเสียงดัง
พวกเขาหันไปมองตอนนี้เธอกำลังกุมหัวด้วยวสายตาระส่ำระส่ายและคิ้วเธอก็ขมวดกันเป็นปม
“เกิดอะไรขึ้น?”หานเซี่ยวรีบลุกไปจับไหล่เธอ
อโรเชียนวดขมับเธอ”มันเหมือน…มีเสียงเรียกในหัวฉันมันดูเหมือนกำลังใกล้เข้ามา ฉันสามารถรู้สึกถึงตำแหน่งมันได้….
คิ้วของหานเซี่ยวเลิกขิ้นไม่มั่นใจว่าเกิดอะไรขึ้น
..
ในเวลาเดียวกันยานอวกาศสีดำก็ออกมาจากอวกาศมืดและลอยอยู่ท่ามกลางดวงดาว
มันมาถึงจากเขตดาราห่างไกลโพ้นมันกระโดดผ่านหลายประตูดารา เกือบจะติดอยู่ในหลุมดำ เป็นพยานถึงการระเบิดของดาวใหม่ ขับผ่านแถบดาวเคราะห์น้อย หนีในกระแสปั่นป่วนของอวกาศ เจอพายุรังสี และยังท่องผ่านอวกาศส่วนที่เงียบสุดโดยไม่มีดาวเคราะห์สักดวง หลังพบเจออันตรายมามาก มันก็หยุด
รูปลักษณ์ภายนอกของยานดูไม่ต่างอะไรกับป้อมปราการเหล็กเลยแม้แต่น้อย