ตอนที่ 491 ยินดีต้อนรับ
เพราะอโรเชียการประชุมจึงจบลง ท้ายที่สุด พวกเขาก็ทำตามความคิดของอัลวินและเลือกนอนรอให้กำลังเสริมมาถึง แม้นากาคินจะแสดงความกังวลต่อกองกำกลังดาราทมิฬที่กำลังไล่ล่าอัลวิน อัลวินก็ดูเหมือนจะมั่นใจถึงสถานการณ์ของร่างหลักเขามากว่าจะไม่ถูกพบ แต่ทว่า ริมฝีปากเขาก็ปิดแน่นและไม่ยอมบอกข้อมูลแม้แต่น้อย
อัลวินคือแกนกลางของภารกิจและพวกเขาก็ต้องเคารพการตัดสินใจเขาดังนั้น พวกเขาจึงทำได้แค่เลือกอยู่ข้างหลังฐานและเพิ่มการเฝ้าระวัง และสามวันก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
สามวันสงบสุขมากและทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้รับอันตรายเลย
ดาราทมิฬสนใจแค่การหาร่างหลักของอัลวินแต่ก็ไม่ได้เบาะแสใดพวกเขาวิ่งไปมั่วและทหารรับจ้างที่วิตกก็สบายใจขึ้น ในช่วงเวลาพักผ่อนนี้ หานเซี่ยวได้ซ่อมเครื่องจักรที่ได้รับความเสียหายในการต่อสู้กับเอ็มเบอร์และฟื้นกำลังรบเขา เขาไม่คิดว่าภารกิจนี้จะจบลงง่ายๆ ท้ายที่สุด มันคือภารกิจที่มีค่าประสบการณ์กว่าล้าน ดังนั้นจะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหรือหลังกำลังเสริมมาถึง
ภารกิจนี้ไม่ได้สร้างความโกลาหลใดๆแต่ก็เกิดอีกเหตุการณ์ที่ดึงดูดความสนใจของสุดยอดช่างกลหาน ในช่วงสามวันที่ผ่านมา อโรเชียได้พบว่าเสียงเรียกในหัวเธอดังขึ้น ตามคำพูดเธอ มันเหมือนเครื่องบันทึกเสียงที่เล่นเสียงไม่หยุด ระดับเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ และเธอก็รู้สึกถึงพลังที่อยากนำเธอไปที่ไหนสักแห่ง
หานเซี่ยวรู้มาตลอดว่าอโรเชียเต็มไปด้วยความลับเธอเรียกได้ว่าเป็นอมตะ แม้แต่เอเมสก็ไม่อาจทำลายเธอได้ และต้นกำเนิดเธอก็ลี้ลับมาก นอกจากนี้ เธอยังมีภารกิจต่อเนื่องระดับA และเขาก็ไม่เคยเห็นเธอมาก่อนในชีวิตก่อนหน้า นี่หมายความว่าผู้เล่นยังไม่เจอตัวละครลับนี้?จากนั้นหานเซี่ยวก็คิดถึงผลลัพธ์ของเกาะมังกรในชีวิตก่อนหน้าเขา เกาะมังกรจบลงด้วยการถูกทำลาย ในเวลานั้น อโรเชียยังอยู่บนเกาะมังกรไหม?หากไม่ เธอคืนชีพที่ไหน?
ในฐานะกัปตันผู้คอยดูแลลูกน้องเขาหานเซี่ยวเริ่มถามอโรเชียถึงสถานการณ์ หลังรู้ว่าเสียงเรียกมาจากฟ้าและไม่ไกล มันก็มีความเป็นไปได้มากกว่าตำแหน่งที่อโรเชียกล่าวถึงคือท่าจอดในนอเรียส
ด้วยระยะทางที่ใกล้กับเขาหานเซี่ยวจึงอดรู้สึกกังวลไม่ได้ เมื่อพวกเขามานอเรียสครั้งแรก อโรเชียไม่มีความรู้สึกเช่นนั้น ซึ่งหมายความว่าความรู้สึกนี้เกิดจากการที่อีกฝ่ายไล่ตามอโรเชียมา ดังนั้น อีกฝ่ายต้องมีความสามารถในการระบุตำแหน่งของอโรเชีย หากหานเซี่ยวเลือกไม่สนใจอีกฝ่าย มันก็เป็นไปได้มากว่าอีกฝ่ายจะคอยรบกวนพวกเขาต่อไป สิ่งที่ทำให้หานเซี่ยวกังวลสุดคือการที่เขาไม่รู้ถึงเจตนาของอีกฝ่าย
อโรเชียไม่อาจนึกสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกนี้ได้และตัดสินใจตรวจสอบเป็นการส่วนตัวหานเซี่ยวไม่อยากให้เธอวิ่งวุ่นด้วยตัวเอง เนื่องจากอัลวินเอาแต่เก็บตัวต่ำในฐานพวกเขา หานเซี่ยวจึงตัดสินใจตามอโรเชียไป
หลังพิจารณาสักพักเขาก็เรียกเฟย์ดินให้มาด้วย
มันคล้ายกับการนำเครื่องรางติดตัวไปด้วย
..
ทั้งสามนั่งในลิฟต์อวกาศและมาถึงท่าที่สัญชาตญาณของอโรเชียร้องบอกนี่คือท่าที่มีทางออกหันหน้าไปด้านนอกของวงแหวนดาวกระจาย มีเพียงผู้มาจากเขตดาราอื่นเท่านั้นถึงหยุดที่ท่านี้
“สัญชาตญาณเธอชี้ไปทางไหน?”
โถงใหญ่ของท่าเต็มไปด้วยผู้คนที่เดินไปยังท่าจอดต่างๆนอกจากผู้คนและนักท่องเที่ยว ยังมียามนอเรียสและเจ้าหน้าที่ของท่าด้วย เพดานของท่าจอดโปร่งใส และสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของจักรวาลได้ ทั้งสามเดินแบบเรื่อยเปื่อย
“ตรงนั้น”อโรเชียชี้ไปด้านหน้า
“ทิศทางที่ชัดเจนละ”หานเซี่ยวกล่าว
“มันน่าเสียดายที่ความสามารถฉันยังอ่อนแอ”เฟย์ดินยิ้ม”หากไม่ฉันคงใช้พลังจิตฉันเพ่อรักษาสมองของอโรเชียและช่วยเธอฟื้นคืนความทรงจำได้”
“นายจะต้องทำการวิจัยเรื่องวิธีเก็บความทรงจำของสิ่งมีชีวิตรูปแบบพลังงานก่อนเธอไม่มีสมองให้นายค้นหา”
“จริงหรอ?”เฟย์ดินมองอโรเชีย”แม้ว่าจะเป็นตอนร่างกายเธอแข็งตัวงั้นหรอ?”
“ความสามารถเอสเปอร์เธอไม่ได้กระตุ้นตอนเธอใช้เมื่อเธอปลุกความสามารถเอสเปอร์เธอขึ้น มันจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ทั่วร่างเธอ สมอง กระดูก กล้ามเนื้อ ผิวหนังและอื่นๆไม่ต่างอะไรกับการเลียนแบบ แม้เธอจะดูไม่แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตธรรมดา แต่อะไรจะไหลออกมาหากนายผ่าเปิดหัวเธอ?”
หานเซี่ยวหยุดมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอยากรู้ของเฟย์ดิน”นายอยากลองดูใช่ไหมละ?”
“นายก็รู้ว่าฉันจะไม่ทำอะไรป่าเถื่อนแบบนั้น…”เฟย์ดินโบกมือก่อนหัวเราะขมขื่น”อย่างไรก็ตามผู้หญิงที่อยู่ในหัวฉันคงไม่คิดแบบนั้น”
“เฉินซิ่งอาจรู้สึกราวกับเธอมักถูกสะกดโดยนายหากฉันเป็นผู้หญิง ฉันคงไม่ประทับใจนายเหมือนกัน”หานเซี่ยวกล่าวติดตลก”แต่ทว่า ความรู้สึกเกิดขึ้นตามเวลา บางทีหลังถูกนายกดขีมานาน เธออาจรู้สึกสนุกและไม่เต็มใจออกมาอีกเลยก็ได้”
“ไอเศษสวะผู้หญิงคนนี้แหละจะฆ่าแกทันทีที่ฉันออกไปได้”เฟย์ดินชี้หัวเขาและหัวเราะเบาๆ”นี่ออกจากปากเธอ”
หานเซี่ยวโน้มตัวไปข้างหน้าและจ้องลึกไปในตาของเฟย์ดินมันราวกับเขาสามารถมองเห็นจิตสำนึกของเฉินซิ่งได้ แม้เฉินซิ่งจะไม่อาจควบคุมร่างกายได้ เธอก็สามารถแบ่งปันความรู้สึกของเฟย์ดินได้ จากนั้นหานเซี่ยวก็เดาะลิ้น”ไม่ ต่อให้เธออกมาได้ เธอก็ไม่อยากเจอฉันหรอก”
หลังคุยเล่นกันทั้งสามก็มาถึงแหล่งที่มาของการเรียก นี่คือห้องเก็บของและประตูก็ปิดตาย พวกเขาต้องใช้รหัสผ่านหรือบัตรผ่านก่อนเข้าไปได้
“สิ่งที่ร้องเรียกเธอดูเหมือนจะอยู่ข้างในมันเหมือนจะเป็นสิ่งมีชีวิต เราต้องหาวิธีเข้าไปดู”
สีหน้าของหานเซี่ยวดำมืดในเวลานี้ เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบบริเวณนี้ได้เดินมา
“พวกคุณรู้จักคนในคลังสินค้างั้นหรอครับ?”
ทั้งสามหันไปและหานเซี่ยวก็ถาม”มีเรื่องอะไร?”
“มันเป็นอย่างนี้ครับยานอวกาศได้มาจอดในคลังสามวันก่อน แต่ทว่า ไม่มีการลงทะเบียนและค่าธรรมเนียมก็ยังไม่ได้เรียกเก็บ การร้องขอสื่อสารทั้งหมดของเราถูกปฏิเสธ และคนบนยานก็ไม่ได้ลงมา หากพวกคุณรู้จักเขา โปรดจ่ายค่าธรรมเนียมด้วย”
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกายอีกฝ่ายไม่ได้ออกจากยานและยังไม่ปรากฏตัว มันลึกลับมาก
“รอเดี๋ยวทำไมคุณไม่ไล่เขาไปละ?”เฟย์ดินถาม
“เพราะยานเขาเป็นยานลาดตระเวนของสหพันธ์แห่งแสงนี่คือสัญลักษณ์สถานะเขา กลุ่มการเงินนอเรียสเราไม่มีทางไล่ยานระดับสูงแบบนั้นได้ง่ายๆ”คำพูดของเจ้าหน้าที่สมเหตุสมผล
“ในความเป็นจริงผมก็ไม่มั่นใจว่าเรารู้จักเขาไหม”หานเซี่ยวชี้ประตู”เราขอเข้าไปดูได้ไหม?”
“เกรงว่าจะไม่ได้ครับผมไม่มีสิทธิ์ ตามข้อบังคับ มีเพียงเจ้าของคลังชั่วคราวถึงสามารถยอมให้แขกเข้าไปได้”นี่เพื่อป้องกันคนจากการขโมยยาน
“งั้นขอเราทำการยื่นคำขอก่อนในเมื่อเขายังอยู่ในคลัง”หานเซี่ยวกดปุ่มสื่อสารของคลัง เนื่องจากอีกฝ่ายมาหาอโรเชีย พวกเขาก็ไม่น่าจะถูกปฏิเสธ
หลังส่งคำขอและรอสักพักเวลาก็ดูเหมือนจะไหลช้ามาก อุปกรณ์สื่อสารพลันเปลี่ยนเป็นสีเขียวและประตูก็เปิดช้าๆ เจ้าของยานเปิดคลังโดยไม่พูดอะไรกับพวกเขา
ยานอวกาศสีดำยาวกว่าร้อยเมตรจอดไว้ในโกดังยานขนาดเล็กนี้ดูปราดเปรี่ยวมากและเป็นขนาดปกติของยานลาดตระเวน ด้านนอกมันเป็นสีดำมันวาว สะท้อนให้เห็นถึงมุมตกแต่งภายในของโกดัง
สุดยอดช่างกลหานจะไม่รู้จักยานได้ยังไง?เขารู้ทันทีว่านี่คือยานแสงทมิฬไม่เพียงแต่มันจะแพง แต่คุณภาพมันยังยอดเยี่ยม ในชีวิตก่อนหน้าเขา เมื่อใดก็ตามที่ยานแบบนี้ปรากฏบนตลาด มันจะถูกซื้อโดยกิลด์ใหญ่หรือผู้เล่นสุดร่ำรวยทันที
หานเซี่ยวรู้สึกถึงแรงกดดันเจ้าของยานเช่นนั้นย่อมไม่ใช่ตัวละครทั่วไป หากคนๆนั้นเป็นศัตรู มันคงลำบากมาก
ครืน!
ยังไม่มีการสื่อสารและประตูสู่ยานแสงทมิฬก็เปิดขึ้นราวกับเจ้าของกำลังเชิญพวกขเแต่ทว่า ทางเข้าดำสนิทกลับเปล่งอากาศเย็นออกมา
“ไม่แม้แต่จะแสดงตัวตน”หานเซี่ยวมองอโรเชีย’จะเข้าไปไหม?”
อโรเชียพยักหน้าและกล่าวอย่างไม่แน่นอน”ฉันรู้สึกได้ว่ามีคนเรียกฉันจากข้างในเขาเป็นกังวลมาก แถม ยานนี้ยังให้ความรู้สึกคุ้นเคยกับฉัน และฉันคิดว่าฉันเคยใช้เวลาอยู่บนยานนี้มานาน มันอาจเป็นเรื่องสำคัญ..แต่ไม่อาจจำอะไรได้เลย”
หน้าต่างสถานะของหานเซี่ยวพลันฉายการแจ้งเตือนส่วนสองของ[รีบู้ต]มีแต้มพิเศษในความคืบหน้าภารกิจ มันดูเหมือนว่ายานนี้จะเป็นชิ้นส่วนสำคัญในความทรงจำของอโรเชีย
“งั้นก็ไปดูกันไม่ต้องห่วง ฉันจะอยู่ข้างหลังเธอ”หานเซี่ยวกล่าว
ทั้งสามเดินไปในยานและถูกต้อนรับด้วยทางเดินมืดหลังเดินเข้าไป ไฟก็สว่างทั้งสองด้าน
ครืน
ในเวลานั้นประตูด้านหลังทั้งสามก็ปิดลงและจำกัดการถอย
“เจ้าของยานอยากให้เราเดินไปข้างหน้า”เฟย์ดินกล่าว
โดยไม่สนใจประตูที่ปิดทั้งสามเดินตามทางและมาถึงทางแยก แสงทางขวาสว่างขึ้น แต่ทางซ้ายกลับมืด ทั้งสามเข้าใจทันที
แสงสีขาวเย็นและซีดนำบรรยากาศน่าขนลุกมาด้วยและใบหน้าของทั้งสามก็ดูขาวซีดภายใต้แสง
“จริงๆแล้วฉันอยากไปทางซ้าย แต่ตามแสงไปก็ได้ จนกระทั่งตอนนี้เจ้าของก็ยังไม่เผยตัว เจ้าของคนนี้ทำให้ฉันนึกถึงอีซอบผู้แสนน่ารำคาญ”หานเซี่ยวลูบคางและยิ่งอยากรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของอโรเชียและอีกฝ่าย
ตามแสงพวกเขาเดินตามทางเดินคดเคี้ยวก่อนมาถึงห้องคนขับ ห้องคนขับว่างเปล่าอย่างสมบูรณ์ และแผงควบคุมก็กำลังเรืองแสงสีเหลือง สิ่งที่สะดุดตาสุดคือเครื่องประดับที่กำลังห้อยจากด้านบนและอยู่ทางขวาของที่นั่งนักบิน นี่คือกระจกใสที่มีบอลแสงสีทองกระพริบอยู่ด้านใน เหมือนหลอดไฟไม่เสถียร
อโรเชียตกตะลึงสักพักก่อนเดินไปเพื่อสัมผัสกับมันราวกับเธอถูกครอบงำ
ฮึม!
ทันใดนั้นเหตุประหลาดก็เกิดขึ้น!
แสงทั้งหมดในยานสว่างขึ้นพร้อมกันและห้องนักบินก็สว่างไสวแสงสีทองจากภายในบอลแก้วผสานเข้ากับฝ่ามือของอโรเชียราวกับแสงสีทองนั้นเป็นของอโรเชีย
ในเวลานั้นเองเสียงของระบบยานก็ดังขึ้น
“การยืนยันสิทธิ์เสร็จสิ้นยินดีต้อนรับ กัปตัน”
ไฟกระพริบจำนวนมากเริ่มบินรอบห้องนักบินก่อนเงาร่างแสงจะควบแน่นต่อหน้าทั้งสามร่างแสงอ้าแขนและกอดอโรเชียที่ยังคงตกตะลึง
“ในที่สุดฉันก็พบเธอสหาย!”