Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

The Legendary Mechanic - ตอนที่ 495 - 496 ศึกแห่งนอเรียส 1 + 2

เรื่อง The Legendary Mechanic - ตอนที่ 495 - 496 ศึกแห่งนอเรียส 1 + 2

cต้นทางมาแแบติดกันยาววว

ตอนที่ 495 – 496 ศึกแห่งนอเรียส 1 + 2
  ด้วยพลังที่ระเบิดออกมาของสองภัยพิบัติหานเซี่ยวจึงรู้สึกเจ็บปวดที่คิ้วอย่างรุนแรงราวกับมันเป็นสัญญาณเตือนภัย ในมุมมองของหมวกเขา ร่างทุกส่วนของอานูและเอ็มเบอร์เต็มไปด้วยพลังงานเหมือนแสงเจิดจ้า ทุกวินาที พวกเขาแผดเผาพลังงานออกมาจนทุกอณูเซลล์ปฏิกิริยาพลังงานของตัวตนระดับAเหนือกว่าระดับBมาก ความแตกต่างระหว่างทั้งสองเหมือนค่ายไฟที่สว่างและเผาไหม้กับไฟแช็ค ปัจจุบัน มีเพียงนากาคินนั้นที่มีปฏิกิริยาพลังงานเท่ากับทั้งคู่และแม้กระทั่งปฏิกิริยาพลังงานของหานเซี่ยวก็ยังห่างไกลเกินกับทั้งสามการถล่มของอาคารเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้ยุ่งเหยิง หานเวี่ยวสูดหายใจลึก สงบตัวเองลง สมองเขาคิดอย่างรวดเร็วถึงวิธีโต้ตอบสถานการณ์เราไม่ดี ดาราทมิฬส่งกำลังทั้งหมดออกมาและหากสองภัยพิบัติตัดสินใจร่วมมือกันและกำจัดพวกเราออกไปก่อน แม้เราจะซื้อเวลาให้อัลวินได้ มันก็จะมีคนตายมากมายแม้ฉันจะสามารถหลบหนีได้หมือนเดิม เฮอลัส ซิลเวียและคนอื่นก็จะตกอยูในอันตราย พวกเขาอาจจะตายด้วยน้ำมือของเอ็มเบอร์ และความสูญเสียคงยิ่งใหญ่ อัลวินได้หลบหนีไปแล้ว และแรงจูงใจหลักของดาราทมิฬคือการฆ่าคนทรยศ เมื่อเห็นว่าคนทรยศอยู่นี่แล้ว มันก็มีโอกาส50%ที่พวกเขาจะแยกกองกำลังตัวเองเพื่อไล่ล่า…อัลวินไม่ควรหนีไปได้ไกลเกิน และศัตรูก็ยังควรเห็นร่างที่หลบหนีของเขาได้ เราต้องทำให้ศัตรูคิดว่าเรากลัวว่าพวกมันจะไล่ตามอัลวิน…ตามคาด อานูกวาดตามองก่อนและเมื่อตระหนักว่าคนทรยศไม่อยู่ สีหน้าเขาก็ดำมืด จากนั้นเขาก็เริ่มมอง และด้วยสายตาเฉียบแหลม เขาเห็นเครื่องบินกำลังหลบหนีด้วยความเร็วสูง คนขับมันก็คืออัลวิน“ฉันเห็นพวกมันแล้ว!”ท่อด้านหลังของอานูปล่อยเสียงแหลม และเมื่อเขาอยากเร่งความเร็วไล่ตาม หานเซี่ยวก็คำรามเสียงดัง”หยุดพวกมัน!”ปัง! *******************

*ตอนที่ 496 ศึกแห่งนอเรียส 2ปัง ปัง ปัง…“อย่าแกแน่จริงก็อย่าหลบ!”เชอร์แมนร้องออกมา เขายกปืนใหญ่ขึ้น ยิงบอลแสงอีกลูก บอลแสงเจาะผ่านกำแพงอาคารและมันก็ไล่เฮอลัสไปอย่างเกรี้ยวกราว“หากแกแน่จริงก็หยุดยิงสิ!”เฮอลัสลากดาบออกมาและด้วยการใช้อาคารเป็นสิ่งกำบัง เขาจึงหลบการโจมตีของเชอร์แมนได้ ด้วยการใช้สนามรบซับซ้อน เขาจึงหลอกล่อเชอร์แมนได้ทันทีที่การต่อสู้ปะทุขึ้น เชอร์แมนก็เลือกเฮอลัสเป็นคู่ต่อสู้ทันที เขายังจำได้ว่าทหารรับจ้างผู้นี้คือคนที่ทำให้เขาบาดเจ็บและเสียแผนการต่อสู้แสนวุ่นวายระหว่างดาราทมิฬและทหารรับจ้างก่อให้เกิดการต่อสู้ขนาดเล็กจำนวนมากระจายทั่ว เสียงของการฆ่า ระเบิดและยิงได้ยินทั่ว และการต่อสู้ระหว่างพวกพิเศษก็ทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้นเรื่อยๆ เปลวไฟลุกไหม้อยู่ทั่วเฮอลัสถูกยิงด้วยปืนใหญ่ของเชอร์แมนหลายครั้ง การโจมตีของคนแคระทรงพลังมาก และการรับการโจมตีเหล่านั้นก็ไม่ดีเลย ชุดแสงกระจายเขาเสียหายหลายจุด และยิ่งพวกเขาวิ่ง พวกเขาก็จะยิ่งไกลออกไปจากสนามรบหลักศัตรูคือนักรบดาราทมิฬชั้นสูงและยังเป็นตัวตนระดับB เฮอลัสไม่มีทางเลือกนอกจากทุ่มเทความสนใจ ไม่อาจแบ่งเวลาไปให้อย่างอื่น เขารู้ว่าคนอื่นก็เจอกันศัตรูที่ทรงพลังเช่นกัน วิลแซนเดอร์กำลังปะทะกับฟอร์ซิทและยังออกจากสนามรบหลักไป สามพี่น้องโวลก้าร่วมมือกันและพัวพันกับนักรบดาราทมิฬเฟย์ดินควรซ่อนตัวอยู่กับซิลเวีย แต่สนามรบกระจายวงกว้างมาก เฮอลัสกังวลว่าทั้งคู่จะไม่มีที่ซ่อนฟิ้ว!ลำแสงพุ่งผ่านไหล่เขาและระเบิดอาคารหลังเขาแหลกเป็นจุล เฮอลัสก่นด่าและรีบหลบการโจมตีในเวลานั้น ลมแรงระเบิดมาและเฮอลัสก็ไม่อาจต้านทานได้ เขาถูกระเบิดด้วยลมแรงและกระเด็นไปไกลกว่าสิบเมตร จากหางตาเขา เขาเห็นอีกร่างที่กำลังถูกระเบิดมา เชอร์แมนเองก็ไม่ได้รับการงดเว้นเมื่อเงยหน้ามอง เขาก็เห็นปีศาจลมอานูกำลังบินวนบนท้องฟ้า สร้างเป็นพายุขนาดเล็กที่ปกคลุมรัศมีหนึ่งตารางกิโลเมตร ทุกที่ที่เขาบินผ่าน อาคารและถนนจะสับสนวุ่นวายอาคารสูงที่เดิมทีปิดกั้นมุมมองถูกระเบิด วิสัยทัศน์พวกเขากว้างกว่าเดิม และก็ยังเห็นนากาคินและแบล็คสตาร์กำลังสู้กับอานูบนท้องฟ้า แต่ทว่า เพราะความเร็วของอานู ทั้งสองจึงทำอะไรเขาแทบไม่ได้ปัง!ปืนใหญ่แรงลมส่งแบล็คสตาร์ลอยออกไปเฮอลัสคว้าอาวุธเขาแน่นและพุ่งใส่เชอร์แมน แม้เขาจะอยากไปช่วยหานเซี่ยว เขาก็ต้องกำจัดเชอร์แมนก่อน…“อ้าก!หลังฉัน!”หานเซี่ยวบินออกมาจากรูใหญ่ในอาคารและสูดอากาศเย็นเกราะเขาได้รับความเสียหายหนัก และสถานการณ์การต่อสู้ก็แสดงบนหน้าต่างสถานะเขา ปัจจุบัน การต่อสู้ระหว่างสองฝ่ายรุนแรงมาก แต่เขาไม่มีทางเลือกนอกจากให้ความสนใจกับอานู เมื่อมองปีศาจลมผู้บินโฉบไปมา หานเซี่ยวก็รู้สึกปวดหัว“เขามีประสบการณ์สูงมาก ความสามารถเขาช่างลำบากจริงๆ และการไม่อาจไล่ทันเขาได้ก็ทำให้เราเสียเปรียบมาก”สีหน้าหานเซี่ยวดำมืด ในภารกิจระดับA[พันธมิตรแห่งโกโดร่า] มีข้อกำหนดอยู่มากและส่วนใหญ่ก็คือการฆ่าหรือจับสมาชิกดาราทมิฬหรือยานรบ ข้อกำหนดเหล่านี้ต้องมีปริมาณแน่นอน มีข้อกำหนดอื่นที่มีรางวัลสูง เช่นบุคคลสำคัญของดาราทมิฬ อานูคือหนึ่งในเป้าหมายนั้นขนาดของรางวัลเป็นวิธีที่ดีในการประเมินความยากของภารกิจ รางวัลการกำจัดอานูนั้นสูงเป็นอันดับหกของข้อกำหนดอื่น นี่คือตัวบ่งชี้ถึงพลังของอานูวิธีสู้ปกติของฉันส่วนใหญ่ไร้ประโยชน์ ความเร็วเขาสูงเกินไปและยังหายตัวได้ด้วย มันยากมากที่อาวุธฉันจะโจมตีโดนเขาและเขาก็ไม่ต้องสัมผัสเราด้วยซ้ำ ตราบเท่าที่เขาบินวน แรงลมก็จะโจมตีเราได้นอกจากนี้ เขาสามารถควบคุมแรงดันลมเป็นโล่ และการป้องกันเขาก็ไม่อ่อนด้อยเลย นากาคินไม่อาจสู้กับเขาได้ในแง่ของความเร็วบนท้องฟ้า ต่อให้หมัดและระเบิดคลื่นของนากาคินจะทรงพลัง มันก็ไร้ประโยชน์หากไม่โดน เขาจะจบลงด้วยการถูกเย้าหยอกหานเซี่ยววิเคราะห์สถานการณ์อย่างใจเย็นพลางยิงอาวุธไป ความสามารถของอานูรอบด้านและด้วยทักษะทั้งหมดของเขา มีน้อยมากที่จะจัดการกับอานูได้ อันที่ทรงพลังสุดย่อมเป็นบัตรอัญเชิญตัวละครของเอเมส การหยุดอานูไว้สิบวินาทีย่อมร้ายแรงกับศัตรูที่พึ่งพาความเร็วมาก แต่ทว่า บัตรอัญเชิญตัวละครสามารถใช้ได้แค่ครั้งเดียวและก็ล้ำค่ามาก ต่อให้เขาอยากใช้มัน หานเซี่ยวก็อยากรอโอกาสที่ดีกว่าบางทีบัตรอัญเชิญตัวละครของเฉินซิ่งอาจใช้ได้…อาจล่อลวงศัตรูหรือบางอย่างในท้องฟ้า แม้จะเจอหมัดของนากาคิน อานูก็ยังสังเกตศัตรูเช่นกันงั้น นี่ก็คือแบล็คสตาร์…อานูศึกษาหานเซี่ยวอย่างระมัดระวัง นี่คือครั้งแรกที่เขาเจอกับหานเซี่ยว ในอดีต เขาแค่เข้าใจหานเซี่ยวจากข้อมูลและคำอธิบายของเอ็มเบอร์ อานูอยากรู้เกี่ยวกับคนที่สามารถทำให้เอ็มเบอร์พ่ายแพ้มากเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเอ็มเบอร์ถึงมักเสียท่าให้กับแบล็คสตาร์ มันราวกับว่าแบล็คสตาร์คือตัวซวยของเขาองค์กรได้ดูแลเอ็มเบอร์เพื่อให้เขากลายเป็นคนสำคัญ ความสามารถของเอ็มเบอร์เติบโตเร็วมากแถมยังสังหารคนกลุ่มใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว นี่คืออาวุธสำคัญของพวกเขาในการกวาดโกโดร่าเลือดบริสุทธิ์ อาวุธไม่ควรทำงานผิดพลาดเมื่อดาราทมิฬพบพรสวรรค์ของเอ็มเบอร์ พวกเขาก็ได้ตัดสินใจเปลี่ยนให้เขาเป็นอาวุธสังหารที่เป็นของดาราทมิฬ!การยอมให้หานเซี่ยวมีชีวิตอยู่จะส่งผลต่อสภาวะจิตใจของเอ็มเบอร์และผลประโยชน์ของดาราทมิฬ ตอนนี้เขามีโอกาสแล้ว อานูรู้สึกว่าเขาควรกำจัดแบล็คสตาร์เพื่อให้เอ็มเบอร์เลิกหมกมุ่นกับทหารรับจ้างผู้นี้ “ในเมื่อลูกศิษย์ที่ไร้ประโยชน์ของฉันไม่อาจกำจัดแกได้ งั้นฉันก็จะจัดการแกเอง”อานูพึมพำครืนน!ทันใดนั้น พื้นก็เริ่มสั่นในสภาพแวดล้อมไม่กี่กิโลเมตร พื้นเมืองเริ่มแตกและฐานจักรกลใต้เมืองก็เผยขึ้นมา อาคารทั้งหมดถูกดึงหดกลับลงใต้ดิน และเสาจักรกลสูงยี่สิบเมตรก็ผุดขึ้นและล้อมสนามรบไว้ฮึม!เสากลไกเหล่านั้นเปล่งแสงพร้อมกันและม่านพลังสีฟ้าก็ก่อตัวขึ้น มันเหมือนชามคว่ำและมีเส้นผ่านศูนย์กลาง20กิโลเมตร มันแยกสนามรบออกจากภูมิภาคอื่นของเมืองทุกเมืองจะติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไว้ใต้ดิน และนี่คือม่านพลัง นอเรียสได้ทำเพื่อลดความสูญเสียและจำกัดขอบเขตการต่อสู้ไว้ พวกเขาอยากหยุดสนามรบจากการขยายตัวเพื่อปกป้องเมืองอื่นการกระทำนี้เทียบเท่ากับการละทิ้งภูมิภาคของเมืองนั้น แต่เทียบกับการเสียทั้งเมือง นี่ถือเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดหากมันเป็นคนธรรมดาที่สร้างปัญหา พวกเขาก็จะจับผู้กระทำผิดโดยไม่ลังเล อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ระหว่างภัยพิบัติไม่ได้หยุดง่ายๆ และนอเรียสก็ผู้พิทักษ์ระดับนั้นแค่คนเดียว นอกจากนี้ ผู้พิทักษ์ยังถูกจ้างด้วยเงินเดือนสูงลิบ ดังนั้นเขาจึงไม่อาจหยุดการต่อสู้ได้เพียงลำพังการแทรกแซงการต่อสู้มีแต่จะเพิ่มความสูญเสีย และเบื้องหลังของตัวตนเหล่านั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่สามารถเมินเฉยได้ช่วยโกโดร่า?แม้กลุ่มการเงินนอเรียสจะไม่กลัวดาราทมิฬ พวกเขาก็เป็นนักธุรกิจและไม่อยากอยู่ในรายชื่อขององค์กรที่น่ากลัวช่วยดาราทมิฬ?พวกเขาไม่มีทางทำ!ดังนั้น เหล่าผู้บริหารจึงหมดหนทาง พวกเขาไม่ใช่นักการเมือง เป็นแค่ผู้จัดการดาวนี้ กำไรเป็นเป้าหมายเดียวของพวกเขา หากราคาของความสงบสูงเกินไป พวกเขาก็จะพิจารณาเฝ้าดูจากด้านข้าง มันเป็นเวลาหลายปีแล้วที่ไม่มีตัวตนระดับภัยพิบัติมาสู้กับบนนอเรียส และนี่อาจเป็นความโกลาหลครั้งใหญ่สุดที่ดาราทมิฬสร้างขึ้นในรอบสิบปีเหล่าผู้บริหารรู้สึกว่าพวกเขาไม่ควรเข้าไปแทรกแซงเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง นากาคินดีดตัวขึ้นอากาศและขัดขวางอานู แรงดันลมแตกเป็นเสี่ยงๆ และทั้งคู่ก็กระเด็นไปคนละทิศทางอานูเสียจังหวะบนพื้น ทหารรับจ้างปะทะกันกับกองกำลังดาราทมิฬอย่างดุเดือด ลูกระเบิดสีสดสามารถได้ยินทุกที่!ฮึม!สายฟ้าพุ่งออกจากร่างของหานเซี่ยว และกองทัพอสูรจักรกลก็กระโจนออกมาอย่างหาญกล้า มีเสือดาวดำ ทหารม้าและแมงมุม พวกมันเร่งความเร็วเข้าไปในสนามรบและสนับสนุนทหารรับจ้างคนอื่น หอคอยปืนใหญ่178อันปล่อยออกมาและตาข่ายเลเซอร์หนาแน่นก็ยิงออกไป ฟิลลิปยังควบคุมชุดจักรกลไร้คนสามชุดเข้าร่วมสนามรบในทันที กองทัพของหานเซี่ยวก็แสดงประสิทธิภาพออกมา!เขาเงยหน้ามองเอ็มเบอร์และใช้บอลบีบอัดในมือตึง…โลหะผสมสีเทาหนาจำนวนมากขยายและยึดติดกับชิ้นส่วนต่างๆของชุดจักรกลมังกรมิติ ขนาดตัวของหานเซี่ยวขยายขึ้นและก็เปลี่ยนเป็นชุดเกราะสูงห้าเมตร เกราะหนามากและเขาก็เหมือนทหารราบเกราะหนักและให้ความรู้สึกเหมือนภูเขา บอลเสียงและรูปแบบรัศมีลอยอยู่ด้านหลังเขาโหมดรถถัง รุ่นสอง!หลังได้รับความรู้ขั้นสูง หานเซี่ยวก็เสริมแหล่งพลังงานของชุดเกราะ นี่ทำให้ประสิทธิภาพมันเพิ่มขึ้นมากและขนาดเกราะก็ด้วย ร่างเขาอยู่ใจกลางเกราะและก็สามารถควบคุมเกราะภายนอกได้ผ่านการเชื่อมต่อกับร่างกายตัวขับบนหลัง น่องและเท้าเขาเปิดใช้พร้อมกัน และเกราะก็ยิงขึ้นฟ้า หานเซี่ยวปล่อยหมัดและหมัดเหล็กก็ส่งพลังมหาศาลออกไป “แกอีกแล้ว”บาดแผลของเอ็มเบอร์ยังเจ็บอยู่ ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เมฆดำเปลี่ยนเป็นโล่หินแข็งบูม!หมัดเหล็กปะทะกับโล่ และกลไกการสั่นสะเทือนในข้อมือเขาก็เบี่ยงคลื่นกระแทกไปในโล่ วินาทีต่อมา โล่ของเอ็มเบอร์ก็เริ่มแตกตัวและเปลี่ยนกลับเป็นอนุภาคคาร์บอนดวงตาของเอ็มเบอร์เย็นเฉียบ และเพียงเมื่อเขาอยากโจมตี อานูผู้ต่อสู้กับนากาคินก็คำราม”พวกมันอยากหยุดเราไม่ให้ไล่ล่าคนทรยศ คนทรยศควรเป็นเป้าหมายเรา!ฉันจะรับมือกับพวกมันเอง รีบตามไป!”เมื่อได้ยิน สีหน้าของเอ็มเบอร์ก็เปลี่ยนไปและจ้องหานเซี่ยวอย่างเกลียดชัง“แกโชคดีที่ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับแก!”ภารกิจเขาสำคัญสุด และเอ็มเบอร์ก็ระงับจิตสังหารในใจ ด้วยเมฆดำที่เปลี่ยนเป็นงู ร่างเขาพุ่งออกสนามรบและไล่ล่าอัลวินไป อาคารใหญ่ที่อยู่ในเส้นทางเขาล้วนถูกพังถล่มเสียงอึกทึกดังไม่หยุดและเมฆฝุ่นก็กระเพื่อมไปทั่วสถานที่การทำลายล้างเริ่มกระจายออกไป และผลกระทบก็ขยายใหญ่ขึ้น คนเดินถนนทุกคนต่างหนีเอาชีวิตรอด เหตุการณ์ทำลายล้างแบบเดิมเกิดขึ้นบ่อยครั้งเร็วๆนี้ หน่วยรักษาความมั่นคงสาธารณะปรากฏต่อหน้าเอ็มเบอร์ โดยไม่มีเวลาหลบเขา เครื่องบินทั้งหมดล้วนถูกเมฆดำกลืนและเปลี่ยนเป็นเศษหลักในเสี้ยววินาที เจ้าหน้าที่ทั้งหมดล้วนถูกบีบจนตายเครื่องบินกว่าสองร้อยลำถูกทำลายทันที!หานเซี่ยวทำราวกับเขาไม่อาจหยุดเอ็มเบอร์ได้และยิงขีปนาวุธขนาดเล็กไล่ตามไปก่อนหยุดไล่ตาม เมื่อมองร่างของเอ็มเบอร์ที่หายไป หานเซี่ยวก็ถอนหายใจ การปล่อยให้สองภัยพิบัติแยกกันจะลดความเสี่ยงได้มาก สำหรับอัลวิน เขาทำได้แค่พึ่งพาตัวเองแล้วเขากวาดมอง หานเซี่ยวสังเกตเห็นการทำลายล้างทั่วภูมิภาค ทหารรับจ้างมีส่วนร่วมในการต่อสู้รุนแรงกับนักรบดาราทมิฬ และสนามรบขนาดเล็กก็ได้ถูกกำหนดขอบเขต ในท้องฟ้า อานูและนากาคินกำลังสนุกกับการต่อสู้ ร่างพวกเขายิงผ่านอาคารทีละอาคาร และเกิดเป็นวงแหวนแสงที่สร้างจากการปะทะของพวกเขาดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกายด้วยการไล่ล่าของเอ็มเบอร์ และความเร็ซของอานูที่ถูกล่วง สถานการณ์จึงไม่เลวร้าย อย่างน้อย อัลวินก็จะไม่ถูกจับเร็วนัก แม้อานูจะสามารถหลบหนีวงล้อมได้ นักรบดาราทมิฬคนอื่นก็จะไม่อาจทำแบบนั้นได้ ทันทีที่เขาออกไป นากาคินก็จะสามารถฆ่านักรบดาราทมิฬเหล่านี้ได้ทั้งหมดง่ายๆ ดังนั้น อานูจึงไม่มีทางทำแบบนั้น!ปัญหาเดียวคืออานูนั้นทรงพลังมาก และความสามารถเขาก็ยากจะจัดการ เขาอยู่ยงคงกระพันเมื่อเผชิญกับเรา และไม่มีใครจะตามความเร็วเขาทันหานเซี่ยวขมวดคิ้วและรู้ว่านากาคินต้องการความช่วยเหลือเขาเมื่อคิดแบบนั้น หานเซี่ยวก็นำปืนไรเฟิลเลเซอร์ธรรมดาออกมาและยิงใส่อานู…บูม!อาคารที่ถล่มด้านหลังเขาเหมือนกับระฆังแห่งความตาย อัลวินเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อและยังคงเพิ่มความเร็วของเครื่องบินเขาต่อ ความเร็วของเครื่องบินเขาสูงถึง1.3มัคและสูงกว่าความเร็วการบินปลอดภัย กระจกโปร่งใสของห้องนักบินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงราวกับมันพร้อมแตกเครื่องบินธรรมดาที่ใช้ในเมืองจะบินได้เร็วสุดแค่350กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ทว่า ในเวลาเตรียมการสั้นๆที่พวกเขามีก่อนการโจมตีของดาราทมิฬ หานเซี่ยวได้แสดงพลังของช่างกลและลบขีดจำกัดการบินออกไป แถมยังติดตั้งเทอร์โบบูสเพื่อเปลี่ยนเครื่องบินนี้ให้เร็วมาก “ความเร็วของเอ็มเบอร์ไม่ช้าไปกว่าฉัน แต่เขาไม่ต้องหลบอาคาร หากเป็นแบบนี้ เขาจะไล่ทันใน15นาที!”อัลวินกัดฟัน”เธอมีความคิดไหม?”อโรเชียไม่ตอบ และแขนเธอก็เปลี่ยนเป็นโล่พลังานเพื่อปกป้องเครื่องบิน เธอไม่สนใจชีวิตของอัลวินและแค่ทำตามคำสั่งของหานเซี่ยว“เวลากระชั้นชิดไป”อัลวินกล่าว”เธอบอกว่าจอมเวทย์อยู่ในเมือง8 หากเรารักษาความเร็วนี้ เราควรไปถึงใน15นาที แต่ทว่า เอ็มเบอร์จะไล่เราทันพอดี..”อโรเชียไม่สนใจเขาและตกอยู่ในความงุนงงไกลออกไป เอ็มเบอร์ยังไม่ยอมแพ้ท่ามกลางอาคารสูง งูดำได้พุ่งตรงด้วยความเร็วสูง ไล่ตามเครื่องบินที่เปลี่ยนเส้นทางตลอดเวลา…การทำลายล้างได้ดึงดูดความสนใจของกลุ่มการเงินนอเรียส ความโกลาหลของการต่อสู้มีขนาดใหญ่มากและเหล่าผู้บริหารของนอเรียสก็จัดการประชุมฉุกเฉิน “..พวกที่สร้างปัญหาให้คือพวกโกโดร่า ระบบเราระบุหนึ่งในตัวตนระดับภัยพิบัติได้ เขาคือเจ้าหน้าที่จากตำหนักสงคราม นากาคิน ศัตรูเขาไม่รู้ และต้องใช้ตัวตนปลอมเข้ามา แต่ทว่า ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นศัตรูของโกโดร่า เราจึงเดาว่าอีกฝ่ายอาจเป็นสมาชิกดาราทมิฬ นอกจากสองฝ่าย เรายังเห็นแบล็คสตาร์ด้วย เขายังมีส่วนร่วมและยืนอยู่ฝั่งโกโดร่า” เหล่าผู้บริหารรู้สึกปวดหัว พวกเขาไม่อยากยุ่งกับฝ่ายไหนเลย“พวกเขายังอยู่ในการต่อสู้ และรัศมีของการทำลายก็ยังคงขยายใหญ่ เราต้องหยุดพวกเขาเดี๋ยวนี้ ฉันขอแนะนำให้เราใช้แผนฉุกเฉินสาม ปล่อยกองยานนอกชั้นบรรยากาศให้เข้ามาแทรกแซง+.“ขอคัดค้าน หากทั้งสองฝ่ายไม่ยอมแพ้ ตัวตนระดับภัยพิบัติจะโจมตีกองยานและความสูญเสียย่อมมาก ฉันขอแนะนำให้เราส่งผู้พิทักษ์ออกไป เหตุการณ์แบบนี้ควรส่งพวกพิเศษออกไปจัดการ ให้เขาช่วยโกโดร่ากำจัดดาราทมิฬ เราไม่อาจยืนอยู่ฝั่งผู้ก่อการร้ายได้ ในเวลาเดียวกัน ฉันขอแนะนำให้เราเปิดใช้งานม่านพลังคุ้มกันเมืองและลดความเสียหาย”“ฉันเห็นด้วยกับคำแนะนำส่วนใหญ่ แต่ต้องเปลี่ยนเล็กน้อย หลังผู้พิทักษ์มาถึง เขาไม่อาจแทรกแซงการต่อสู้ระหว่างสองฝ่ายได้และจะคอยสังเกตเพื่อควบคุมความเสียหาย”“นอเรียสเราจะยังเป็นกลาง การยืนอยู่ฝ่ายโกโดร่าหรือดาราทมิฬมีแต่จะนำปัญหามาให้เรา ให้พวกเขาตัดสินแพ้ชนะเองและผู้พิทักษ์จะแทรกแซงก็ต่อเมื่ออีกฝ่ายกำลังจะถูกฆ่า แถม เรายังไม่อาจปล่อยให้แบล็คสตาร์ตายได้เช่นกัน ฉันยังไม่อยากเห็นเอเมสโยนเกาะมังกรใส่เรา”“คิดว่าเราโชคร้ายเองที่พวกเขาเลือกมาสู้กันบนนอเรียส การสูญเสียไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่เราก็ไม่อยากสร้างปัญหา ให้พวกเขาสู้กันไป ยังไงก็ตาม ดาวนี้ไม่ปลอดภัยแล้ว”“เห็นด้วย”“เห็นด้วย”เหล่าผู้บริหารทั้งหมดพยักหน้า“ดำเนินการตามแผนทันที”

อ่านตอนอื่นๆของ The Legendary Mechanic คลิกเลย

แฟนเพจ