ตอนที่ 498 ศึกแห่งนอเรียส 4
“ฮู่ฮู่…”
ซิลเวียหอบอย่างหนักพลางวิ่งหลบศัตรูสุดความสามารถการต่อสู้ระดับนี้ยังมากเกินไปสำหรับเธอ และเธอก็ไม่อาจทำอะไรได้เลย เฟย์ดินยังถ่วงเวลาศัตรู และก็ไม่กล้าเสียโอกาสที่เฟยิ์นสร้างขึ้นเพื่อเธอ
หลังวิ่งมารนานซิลเวียก็รู้สึกเหมือนปอดกำลังไหม้ และไม่อาจวิ่งไดด้อีก เธอก้มลง หอบอย่างหนัก
บูม!
ทันใดนั้นลมแรงก็พัดมา และแรงลมที่อานูปล่อยออกมาก็รุนแรงขึ้น ความกลัวฉายบนใบหน้าของซิลเวีย ด้วยรัศมีกว้างใหญ่แบบนั้น มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะหนีพ้น เธอยืนนิ่งด้วยความงุนงงและเงยหน้ามองพายุที่ใกล้เข้ามา
ในเวลานั้นชุดจักรกลอสรพิษนภาก็พุ่งพรวดมาและเปิดหน้าอกกับหมวกมันออก กลืนซิลเวียเข้าไปก่อนพายุจะพัดมาเพียงเสี้ยววินาที
ซิลเวียซ่อนอยู่ภายในชุดจักรกลและนอกจากอาการเวียนหัวแล้ว เธอปลอดภัยดี หลังรอความตาย เธอก็ร้องด้วยความแปลกใจ”ฟิลลิป?!”
“นายท่านขอให้กระผมมาปกป้องคุณฮึม…เขาบอกว่าพายุกำลังขยายตัว ฮึม…”
จากนั้นเธอก็แหงนมองฟ้าและผ่านวิสัยทัศน์ภาคสนามของชุดจักรกล เธอตระหนักว่าท้องฟ้าภายในม่านพลังได้สร้างเป็นพายุขนาดดใหญ่กว่าเดิม พายุยังคงขยาย และอานูก็กำลังบินวนตามเข็มนาฬิกาเหมือนแสงอาทิตย์ที่กระทบกับอากาศ
ม่านพลังใหญ่มากและอานูก็เตรียมพร้อมทุ่มสุดตัวและสร้างพายุที่ปกคลุมทั้งม่านพลัง ในพื้นที่ปิดผนึก พายุเขาสามารถบรรลุถึงพลังทำลายล้างระดับสูงสุดได้ง่ายๆ
ในท้องฟ้าความเร็วของอานูสูงมาก และไม่ว่าหานเซี่ยวหรือนากาคินก็ไม่อาจแตะตัวเขาได้
“หากเรายอมให้เขาทำแบบนั้นต่อไปเมื่อพายุก่อตัวขึ้นเสร็จสมบูรณ์ ทุกสิ่งภายในม่านพลังจะถูกทำลาย และแม้กระทั่งลูกน้องเขาด้วย เขาปฏิบัติเหมือนลูกน้องเขาเป็นหมากที่ละทิ้งได้ง่ายๆงั้นหรอ?”
น้ำเสียงของนากาคินดูหนักจากประสบการณ์เขา เขาสามารถทำนายตอนจบได้ เนื่องจากพวกเขาไม่อาจไล่ทันอีกฝ่ายได้ พวกเขาจึงไม่มีทางหยุดอานูได้ หากผู้พิทักษ์ของนอเรียสลงมือช่วย พวกเขาอาจหยุดอานูได้ แต่ผู้พิทักษ์กลับไม่มีทีท่าว่าจะช่วยเลย
การต่อสู้บนพื้นเบี่ยงไปจากศูนย์กลางแต่ก็ยังมีหลายคนที่จบลงด้วยการถูกกวาดและเปลี่ยนเป็นกองเลือดด้วยแรงลมรุนแรง เครื่องจักรมากมายของหานเซี่ยวก็ไม่เว้น อสูรจักรกลเขาดดิ้นรนในพายุอย่างหมดหนทาง และหอคอยปืนใหญ่ซึ่งมีรากฐานฝังลึกก็ยังถูกถอนราก
เมื่อมองจากด้านนอก มันเหมือนพายุสีเทาที่เกิดจากวัตถุนับไม่ถ้วน และม่านพลังก็จะมีรอยขีดข่วนเป็นครั้งคราวโดยวัตถุในพายุ ทำให้เกิดประกายไฟจากการชน มันเหมือนเครื่องซักผ้าหมุน
ท้องฟ้ากำลังหมุนและพื้นดินก็สั่นสะเทือน!
ในพายุเกราะของหานเซี่ยวได้ถูกทำลายไปนานแล้ว และชุดจักรกลมังกรมิติเขาก็ยังเต็มไปด้วยรู พลังงานทั้งหมดของเขาถูกเบี่ยงไปทางปีกจักรกลและตัวขับดัน และเขาก็สามารถทำให้ตัวเองมั่นคงได้ในพายุ เมื่อเห็นว่าสถานการณ์กำลังเลวร้าย เขาก็รู้ว่าหากเขาไม่หยุดอานู ทุกคนคงตาย
ตัวตนระดับAทรงพลังเกินไปหานเซี่ยวได้ใช้[ชีวิตหวนคืน]หนึ่งครั้งในการต่อสู้ แต่ทว่า แถบความคืบหน้าภารกิจก็เริ่มขยับ หากไม่ หานเซี่ยวคงโมโหไปแล้ว
หานเซี่ยวหวังจะมีพลังแข็งแกร่งเช่นนั้นหานเซี่ยวปัจจุบันอยู่ที่ระดับ116 เขามีค่าประสบการณ์กว่าสองร้อยล้านบนหน้าต่างสถานะ หากไม่ใช่ว่าเขามีความก้าวหน้า เขาอาจใช้[ชีวืตหวนคืน]อีกครั้งหรือสองครั้ง ปัจจุบัน ความสามารถส่วนใหญ่เขาไร้ประโยชน์ เหนือสิ่งอื่นใด การโจมตีของดาราทมิฬกะทันหันไป ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลาเตรียมตัวมาก นอกจากนี้ หานเซี่ยวยังไม่มีโอกาสหรือเวลาเพื่อสร้างเครื่องจักรเขา
ต้องขอบคุณบัตรอัญเชิญตัวละครเอเมส หากไม่มี ความคิดเดียวฉันคงเป็นการหลบหนี อย่างน้อยฉันก็ยังมีไพ่ตาย
หานเซี่ยวทำการตัดสินใจก่อนตะโกนเรียกนากาคินผ่านช่องอุปกรณ์สื่อสาร”การโจมตีที่ทรงพลังสุดของนายคืออะไร?”
“นายหมายถึงอะไร?”นากาคินถามอย่างสงสัย
“ฉันมีวิธีหยุดอานูฉันควรหยุดเขาได้สักสิบวินาทีหรือมากกว่านั้น เขาจะไม่อาจขยับหรือใช้ความสามารถใดได้ในช่วงนั้น นี่คือโอกาสเดียวของเรา”หานเซี่ยวกล่าว
สถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและแม้พวกเขาจะเสียเปรียบ หานเซี่ยวก็ยังสงบ แม้เขาจะมีไพ่ตาย ความต้านทานของตัวตนระดับภัยพิบัติก็สูงมากและต่อให้อานูไม่ใช่สายป้องกัน มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำลายศัตรูด้วยพลังเขาคนเดียว เขาได้ลองมันกับเอ็มเบอร์แล้ว
มีเพียงนากาคินผู้เป็นระดับภัยพิบัติเหมือนกันถึงสามารถทำการโจมตีถึงตายและไม่ทำให้บัตรอัญเชิญจักรพรรดินีมังกรอันล้ำค่าสูญเปล่า!
“สิบวินาที?นายมั่นใจนะ?!”นากาคินถามอย่างไม่เชื่อและคิดว่าเขาหูฝาด
สิบวินาทีกับคนระดับพวกเขาไม่ใช่โอกาสแต่เรียกได้ว่าเป็นตัวชี้ความเป็นความตาย!
แต่ทว่าแบล็คสตาร์จะไปสามารถยับยั้งตัวตนระดับนั้นได้ถึงสิบวินาทีได้ยังไง?!
“แค่เชื่อใจฉัน”หานเซี่ยวตอบอานูคือเอสเปอร์ที่เด่นความเร็ว ไม่ว่าจะยังไง พละกำลังเขาไม่ควรเกิน1800หน่วยละมั้ง?
“…ได้’”
นากาคินสูดหายใจแบล็คสตาร์สามารถทำให้เอ็มเบอร์ล่าถอยและไม่เคยทำให้เขาผิดหวังมาก่อน บางทีแบล็คสตาร์อาจทำได้จริงๆ นากาคินตัดสินใจเชื่อแบล็คสตาร์สักครั้งและเริ่มสะสมพลังงานทันที ทั่วร่างเขาพลันปกคลุมด้วยเพลิงนักสู้และนากาคินก็ดูเหมือนจะกลายเป็นบอลไฟทองที่ไม่มีวันมอดดับ พายุไม่อาจดับไฟลูกนี้ได้ แต่กลับทำให้มันมีพลังมากขึ้นเมื่อลมพัด
เขาไม่ต้องการถึงสิบวินาทีทการหยุดอานูแค่วินาทีเดียวก็เกินพอ พายุคอมโบเป็นเทคนิคที่ทรงพลังสุดของเขา และเขาก็กลัวแค่ว่ามันจะไม่โดนศัตรู
หานเซี่ยวหรี่ตาแคบและจับจ้องปีศาจลมซึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงยกมือขึ้น เล็งไปยังปีศาจลม
ชัยชนะจะถูกกำหนดตอนนี้!
…
“เขาพยายามจะทำอะไร?”
อานูสังเกตเห็นการกระทำของหานเซี่ยวและยังเห็นทุกรายละเอียดในพายุ
เขาไม่อาจเข้าใจการกระทำของหานเซี่ยวแต่ก็แปลกใจที่หานเซี่ยวสามารถอยู่รอดได้ในพื้นที่พายุจนถึงตอนนี้สำหรับยอดมนุษย์ระดับB พลังชีวิตของหานเซี่ยวช่างอึดทน
แต่ทว่าเขาควรมีขีดจำกัดด จากนั้นอานูก็สังเกตขอบสนามรบ ผู้พิทักษ์ได้ทำการเคลื่อนไหวและมุ่งมาทางแบล็คสตาร์ เขาดูเหมือนจะรู้สึกว่าแบล็คสตาร์อยู่ในอันตรายและอยากเอาตัวแบล็คสตาร์ไป วินาทีนั้น อานูก็เข้าใจเจตนาของกลุ่มการเงินนอเรียส
“คิดช่วยแบล็คสตาร์เพราะไม่อยากตอแยเอเมส?ฮึมอย่าหวัง!”อานูเย้ยหยันและควบคุมลมแรงให้โจมตีผู้พิทักษ์ หลังถ่วงเวลาผู้พิทักษ์ ร่างของอานูก็พุ่งไปทางหานเซี่ยว มาพร้อมแรงกดดันลมที่สามารถทำลายได้แม้กระทั่งภูเขา!
อานูอยากกำจัดเขาตรงนี้และเดี๋ยวนี้!
“บัดซบ!”ผู้พิทักษ์สบถเบื้องบนขอให้ เขาแทรกแซงกรณีฉุกเฉินและป้องกันไม่ให้ทั้งสองฝ่ายฆ่ากัน เดิมทีเขาอยากย้ายแบล็คสตาร์ออกจากสนามรบ แต่ไม่คิดว่าอานูจะโจมตีแบล็คสตาร์แทน แม้จะเสี่ยงต่อการทำให้ผู้พิทักษ์โกรธ อานูก็อยากฆ่าแบล็คสตาร์!เขาไร้ความกลัวอย่างแท้จริง!
ทันใดนั้นพลังงานน่ากลัวก็ปะทุจากร่างของหานเซี่ยว
บรรยากาศทั้งหมดดูเหมือนจะถูกแช่แข็ง
ฮึม!
มือของผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏด้านหลังของหานเซี่ยวและยื่นฝ่ามือเธอออกไป
“นั่น….จักรพรรดินีมังกรเอเมส!”
นากาคินอานูและผู้พิทักษ์ตกใจจนสะดุ้ง!