ตอนที่ 501 หลอก?
เมื่อนากาคินเป็นอิสระนักรบดาราทมิฬที่เหลือก็ถูกจัดการอย่างรวดเร็ว ม่านพลังที่ก่อตัวคือเวทีเป็นตายสำหรับพวกเขา ทหารรับจ้างที่รอดตายลากร่างใกล้ตายของพวกเขามารวมกันใจกลางสนามรบ
หานเซี่ยวนับคนและทหารรับจ้างกว่าร้อยก็เหลือไม่ถึงสามสิบคน สายตาเขากวาดผ่านเฮอลัส ซิลเวีย พี่น้องโวลก้าและเฟยืดิน เขาถอนหายใจแรง อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่มีใครตาย
กองทัพจักรกลกระจัดกระจายไปทั่วและเมื่อเขาสั่งให้ทหารรับจ้างรื้อถอนพวกมัน หลายคนก็เริ่มบ่นทันที
ด้วยแรงลมก่อนหน้าใครจะไปรู้ว่าเครื่องจักรแกบินไปไหนบ้าง?เราเพิ่งสู้เสร็จ และแกก็ยังสั่งเราอีก!
แม้จะบ่นทุกคนก็ยังปฏิบัติตามคำสั่งเขาอย่างเชื่อฟัง
แม้จะไม่ใช่ทุกคนที่เห็นหานเซี่ยวใช้บัตรอัญเชิญตัวละครเอเมสแต่ความเคารพก็สามารถเห็นได้ในตาของทหารรับจ้างที่เห็นมัน
หานเซี่ยวแคะหูและดูหงุดหงิด
ทหารรับจ้างเหล่านี้บ่นตอนฉันขอให้เก็บของผู้เล่นยังมืออาชีพกว่าอีก ตราบเท่าที่ให้รางวัล พวกเขาจะทำทุกอย่าง พวกเขาดีกว่าทหารรับจ้างเหล่านี้มาก ฉันคิดถึงพวกเขา
เฮอลัสก้าวออกมาและส่งปืนใหญ่ของเชอร์แมนให้”สินสงครามสำหรับนาย.
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกายหลังตรวจสอบมัน เขาก็ถอดมันและพยักหน้าพลางสังเกตภายในของปืน”ปืนนี้ไม่เลวเลย”
ตามคำแนะนำบนหน้าต่างสถานะชื่อของปืนใหญ่คือ[ปืนใหญ่ดฟตอนสามแกน] นี่คืออาวุธของผู้ใช้ปืนใหญ่ และผู้ใช้ปืนใหญ่ที่ใช้อาวุธแบบนี้ก็จะได้รับโบนัสพิเศษ พิมพ์เขียวหายาก และการมีอาวุธแบบนี้ก็จะช่วยให้หานเซี่ยวไม่ต้องสุ่มพิมพ์เขียว หานเซี่ยวสามารถหาพิมพ์เขียวจากตัวอาวุธได้เอง ปืนใหญ่นี้มาในเวลาที่เหมาะสมเพราะหานเซี่ยวต้องการอาวุธปืนพลังงานแสงอยู่พอดี แม้เขาจะไม่ใช่ผู้ใช้ปืนใหญ่ เขาก็สามารถติดตั้งอาวุธได้ด้วยสนามพลังจักรกลเขา มันแค่สถานะโบนัสที่จะได้ไม่เท่าผู้ใช้ปืนใหญ่
ผู้ใช้ปืนใหญ่คือผู้ทำความเสียหายระยะไกลและผู้เล่นก็จะต้อนรับพวกเขาในทุกดันเจี้ยน ผู้ใช้ปืนใหญ่ถือเป็นส่วนสำคัญของการสร้างขบวนสามเหลี่ยม ซึ่งรวมถึงสายชนหลัก ทำความเสียหายระยะไกลและสายควบคุม
หานเซี่ยวยังเคยเล่นเป็นผู้ใช้ปืนใหญ่มาก่อนและนอกจากการยิงปืนใหญ่ ผู้ใช้ปืนใหญ่จะยิงปืนใหญ่ได้หลายกระบอกพร้อมกัน(ปืนใหญ่คืออีกสายของช่างกล) แม้ความเสียหายของผู้ใช้ปืนใหญ่จะยอมรับได้ แต่มันก็ขาดการเปลี่ยนแปลง แม้มันจะสนุกกับการยิงปืนทุกวัน แต่มันก็จะเบื่อหลังเล่นอยู่นาน ในสายทั้งสามของช่างกล หานเซี่ยวจึงเลือกสายเครื่องจักร ซึ่งหลากหลายกว่ามาก
หลังเก็บปืนใหญ่ไปหานเซี่ยวก็มองซิลเวียและเห็นว่าเธอไม่บาดเจ็บ แต่ทว่า เมื่อเขาหันไปมองเฟย์ดิน เขากลับตระหนักว่าเฟย์ดินเต็มไปด้วยเลือด
“นายไม่เป็นไรนะ?”หานเซี่ยวถาม
เฉินซิ่งวิตกนึกถึงพฤติกรรมตามปกติของเฟย์ดินและรีบยิ้มอย่างอบอุ่น”ฉะ…ฉันไม่เป็นไร แค่เจอศัตรู…”
ซิลเวียรีบกล่าว”ใช่แล้วฉันเห็นนายถูกทุบตี และศัตรูก็แกร่งกว่านายมาก ฉันกังวลว่านายจะตาย แต่นายกลับไม่เป็นไร นายเอาชนะศัตรูได้ยังไง?”
รอยยิ้มของเฉินซิ่งแข็งไปเธอเกลียดความจริงที่ไม่อาจยัดปากของซิลเวียได้ นี่เธอพยายามจะผลักฉันไปตายรึยังไง?ทำไมถึงมาถามอะไรเอาตอนนี้?
ความคิดพลันผุดขึ้นในหัวเธอ”เอ่อ..ฉันไม่ได้ชนะศัตรูคือยอดมนุษย์ระดับB และฉันก็เกือบถูกฆ่า เธอก็รู้ว่าฉันไม่ถนัดต่อสู้ ต้องขอบคุณ พายุนั่นได้กวาดมาและแยกเรา ดังนั้นฉันจึงรอด”
“นายโชคดีมาก”ซิลเวียกล่าว
ไม่มีใครสงสัยคำพูดเธอเหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาต่างยอมรับว่าโชคพวกเขาไม่ดีเท่าเธอ
“ใช่แล้วนายโชคดีจริงๆ”หานเซี่ยวกล่าวพลางตบหลังเธออย่างแรง บังคับให้เธอต้องไอเพราะความเสียหาย1หน่วยบนหัว
เฉินซิ่งระงับความหงุดหงิดไว้และฝืนยิ้มเมื่อเห็นว่าหานเซี่ยวไม่สงสัยคำพูดเธอ เธอก็ถอนหายใจ ในที่สุดเธอก็หลอกแบล็คสตาร์ได้
จากนั้นหานเซี่ยวก็เรียกนากาคินมาและคว้าไหล่ของเฉินซิ่งไม่ยอมให้เธอหนี
เฉินวิ่งกระวนกระวายและกล่าว”นายจับฉันไว้ทำไม?”
“หยุดแสดงได้แล้ว”หานเซี่ยวกลอกตา”เธอหลอกฉันไม่ได้หรอก”
เฉินซิ่งหลั่งเหงื่อเย็นและพยายามมองหาช่องโหว่ในคำพูดเธอแต่ก็ไม่อาจมองเห็นได้
เธอไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดเลย!
“ผิดแล้วฉันคิดเฟย์ดิน”เธอพยายามอธิบายด้วยรอยยิ้ม
หานเซี่ยวเลิกคิ้วและกระซิบหูเฉินซิ่ง”ฉันเคยพูดไปแล้วหากเธอหนีไปจริงๆ เธอคงไม่อยากเจอฉัน”
หัวใจของเฉินซิ่งเต้นกระหน่ำ
ในเวลานี้นากาคินเดินมาและหานเซี่ยวก็ตบไหล่เฉินซิ่งด้วยรอยยิ้ม”อย่าขัดขืน ด้วยการคงอยู่ของเขา มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะหลบหนี ฉันคิดว่าเธอคงไม่อยากถูกเขาทุบตีใช่ไหม?”
เฉินซิ่งกัดฟันและหยุดเสแสร้ง”แกจำฉันได้ยังไง?”
เมื่อได้ยินหานเซี่ยวก็ทำหน้าช่วยไม่ได้ หน้าต่างสถานะได้เผยตัวตนของเธอแล้ว และมันคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะถูกหลอกต่อให้อยากถูกหลอกก็ตาม!
เฉินซิ่งไม่มีไม้เด็ดอะไรซ่อนอีกและก็ไม่อาจคิดหาทางหลบหนี เธอจ้องหานเซี่ยวอย่างเกลียดชัง วาดฝันถึงวิธีทรมานหานเซี่ยวนับร้อยวิธี
ในเมื่อเธอถูกพบแล้วเธอก็จำต้องยอมละทิ้งการควบคุมร่างกาย มันดีกว่าที่จะถูกคนอื่นทุบตี
จิตสำนึกของเฟย์ดิดนกลับมาและหลังยืดเส้นสาย เขาก็ส่ายหัว”ฉันรู้อยู่แล้วว่านายจะจำฉันได้”
“นายโชคดีมากแม้เธอจะยึดการควบคุมกลับ เธอก็ไม่ได้ทำลายจิตสำนึกนาย”หานเซี่ยวกล่าวด้วยความอิจฉา
เฟย์ดินหัวเราะเบาๆ”การได้สื่อสารกับเธอนับว่าสนุกมากฉันเข้าใจเธอดี และเธอก็รู้ถึงความคิดฉัน เรายังสามารถเข้าใจได้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร..”
“ทำไมนายไม่แต่งงานกับเธอเลยละ?จากนั้นภารกิจฉันก็จะเสร็จสมบูรณ์”
หานเซี่ยวส่ายหัว
รอเดี๋ยวนะ….ความสำเร็จที่สมบูรณ์แบบของภารกิจเฟย์ดิน
เฟย์ดินชี้ที่หัวเขาและพูดอย่างช่วยไม่ได้”ฉันจะไม่บอกว่าเธอด่านายยังไง”
หานเซี่ยวหัวเราะแห้งและปล่อยมือเขาทิ้งระยะจากเฟย์ดดิดน จากนั้นก็คว้าผมของซิลเวียเพื่อทำความสะอาดมือเขา ทันใดนั้น เขาก็ไม่รู้สึกว่าอยู่ใกล้กับเฟย์ดินเกินไป
ขณะพูดกันหานเซี่ยวก็มองเวลาและมันก็ใกล้ได้เวลาที่เอ็มเบอร์จะกลับแล้ว ตอนนั้น หานเซี่ยวสังเกตเห็นปัญหาร้ายแรง แม้การต่อสู้จะจบลง ม่านพลังก็ยังอยู่และแยกพวกเขาไว้ หากเขาไม่อาจออกไปได้ เขาก็คงไม่อาจล้อมเอ็มเบอร์ได้ตามแผน
ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้โดยกลุ่มการเงินนอเรียสเท่านั้นผู้พิทักษ์ต้องกำลังดูอยู่ใกล้ๆ และหานเซี่ยวก็รู้สึกว่ามันจำเป็นที่เขาต้องคุยกับผู้พิทักษ์
ร่วมกับนากาคินหานเซี่ยวไปพบผู้พิทักษ์และแสดงเจตนาขอเปิดม่านพลัง โดยไม่ต้องคิด ผู้พิทักษ์ปฏิเสธทันที
“ยังมีสมาชิกดาราทมิฬเหลือรอดอยู่และเขาก็กำลังรีบกลับมา หากคุณไม่เปิดม่านพลัง เราจะไม่อาจจัดการเขาได้”นากาคินกล่าว
“ผมรู้”ผู้พิทักษ์ไม่แยแส”ดังนั้นผมจะไม่เปิดม่านพลังก่อนศัตรูจะออกไป พวกคุณสามารถอยู่ได้จนกระทั่งผมยืนยันว่าการต่อสู้จบลงแล้ว”
“นี่คุณกำลังพยายามปกป้องพวกดาราทมิฬงั้นหรอ?!”นากาคินโกรธ
“ความรับผิดชอบผมคือปกป้องนอเรียสผมควรเปิดม่านพลังเพื่อให้พวกคุณทำลายเมืองกันต่องั้นหรอ?ผมไม่อยากเห็นใครสร้างปัญหาให้นอเรียส หลังเหตุการณ์นี้จบลง กลุ่มการเงินเราจะขอค่าชดเชยจากโกโดร่า”
ดวงตาของผู้พิทักษ์หรี่แคบในเมื่อเขาไม่อาจช่วยอานูได้ เขาจึงต้องยอมแพ้ แต่ทว่า นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาอยู่ฝั่งโกโดร่า ม่านพลังจะไม่เปิดไม่ว่ายังไง นี่คือเส้นที่เบื้องบนขีดเอาไว้ กลุ่มการเงินเขาไม่อยากเห็นยอดฝีมือของดาราทมิฬต้องมาตายอีก