Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

The Legendary Mechanic - ตอนที่ 552 ถึงเวลา

เรื่อง The Legendary Mechanic - ตอนที่ 552 ถึงเวลา

ตอนที่ 552 ถึงเวลา
  บนท่าจอดมีคนมากมายกำลังจับจ้องยานแสงทมิฬด้วยความอิจฉาและความโลภ
  ยานชั้นสูงจากสหพันธ์แห่งแสง!
  น่าเสียดายยานอวกาศล้ำค่านี้เป็นของแบล็คสตาร์ บนเกาะมังกร ไม่มีใครกล้าสร้างปัญหา และพวกเขาก็ทำได้แค่อิจฉา
  “หลบไป”
  เสียงของหานเซี่ยวดังจากภายนอกและชาวอวกาศนับร้อยก็หันมามอง ใบหน้าพวกเขาพลันขาวซีดและรีบถอยหนีราวกับเห็นผี สายตาพวกเขาจับจ้องหญิงงามข้างหานเซี่ยว เธอก็คือเจ้าของเกาะมังกรลอยฟ้า
  “มันคือจักรพรรดินีมังกร!”
  เหงื่อเย็นชโลมทุกคนมันหายากที่คนนอกจะได้เห็นเอเมสกับตาตัวเอง เมื่อคิดถึงพลังและฐานะของเธอ เหล่าโจรสลัดก็แทบหมดแรงยืน
  ทั้งสองไม่สนใจฝูงชนรอบตัวและขึ้นยานไป
  หู่!
  ยานแสงทมิฬออกตัวและหายไปในจักรวาล
  ทุกคนเฝ้าดูเอเมสตามติดหานเซี่ยวขึ้นยานไปอย่างคนโง่และได้สติหลังยานหายลับไป
  “จักรพรรดินีมังกรออกไปแล้ว!”
  “เธอออกไปกับแบล็คสตาร์!เขาคือผู้นำทีมภาคสนามของเกาะมังกรหรือเอเมสจะไปลงมือเอง?”
  “ไม่นานหลังเขามาถึงเอเมสก็ตามเขาออกไป ฉันมีลางสังหรณ์ว่ากำลังจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น!”
  สถานะของเอเมสยกสูงขึ้นและการกระทำทั้งหมดของเธอก็ล้วนถูกนำมาคาดเดา โจรสลัดทั้งหมดที่หยุดพักบนเกาะมังกรมีเครือข่ายข้อมูลของตน และข่าวนี้ก็กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว
  ไม่ช้าข่าวนี้ก็กระจายไปทั่วเกาะมังกรและเข้าถึงหูของเจนนี่
  เจนนี่ตะลึง
  เมื่อเธอพบข่าวนี้อารมณ์เธอก็ร่วงลง
  มันเป็นเรื่องธรรมที่เอเมสจะออกไปเล่นข้างนอกแต่เธอมักไปลำพัง แต่ครั้งนี้ เธอกลับหนีไปกับแบล็คสตาร์!
  แบล็คสตาร์พูดอะไรกับเอเมสกันแน่?!
  เจนนี่โกรธจนปากเริ่มสั่นเธอสามารถทำนายได้ว่าในอนาคต ปัญหามากมายจะมาหาเธอ และงานเธอจะเพิ่มขึ้นหลายเท่า!
  แต่…เอเมสคือเจ้านายในอดีต เธอยังสามารถบ่นถึงแบล็คสตาร์ได้ แต่หากหัวหน้าเธอคือคนสร้างปัญหา ใครจะตำหนิเธอได้?!
  ใบหน้าของเจนนี่เหี่ยวย่นและรู้สึกคล้ายจะเป็นลม
  นี่คือความรู้สึกท้อแท้!
  ..
  หลังเข้าอวกาศหานเซี่ยวก็เปิดการขับอัตโนมัติและยืนขึ้นจากที่นั่งนักบิน
  “มันจะต้องใช้เวลาประมาณสิบวันมีแค่เราสองคนบนยาน หากเธอไม่อยากนอน ฉันเต็มใจจะพาเธอไปฆ่าเวลา”
  “ยานนี้ไม่เลวเลย”จากนั้นเอเมสก็มองรอบยานก่อนมองหานเซี่ยวด้วยรอยยิ้ม”มีอะไรให้ดื่มบ้างไหม?”
  จากนั้นทั้งสองก็ไปห้องโถงพักผ่อนและเอเมสก็นั่งลงอย่างเกียจคร้านขาเธอวางพาดบนโซฟา อยู่ในท่ากึ่งนอน เธอไม่ได้คิดแสดงความเย้ายวน แต่เธอแค่ชอบเพราะมันเป็นท่าที่สบาย
  หานเซี่ยวเปิดชั้นเก็บของและนำขวดไวน์ที่เฮอลัสเก็บไว้ออกมาหยิบแก้วมาสองใบ ก่อนนั่งลงตรงข้ามเอเมส
  เอเมสยกนิ้วเล็กน้อยและแก้วไวน์บนโต๊ะก็ลอยมาทางเธอจิบ บ่นด้วยรอยยิ้ม”รสชาติแย่มาก”
  “จริงหรอ?ฉันคิดว่ามันก็สใช้ได้…”ปากของหานเซี่ยวยับย่นเฮอลัสไม่ใช่มนุษย์ ดังนั้นรสนิยมเขาจึงพิเศษหน่อย
  เอเมสกระพริบตาและกล่าว”พูดถึงนายนับตั้งแต่นายเข้าร่วมเกาะมังกร ฉันก็ไม่รู้จักนายดีนัก”
  บนนอเรียสหานเซี่ยวช่วยเธอจับอีซอป และเอเมสก็ขอบคุณมาก เธอไม่ใช่คนที่รู้สึกว่าลูกน้องเธอต้องทำทุกอย่างให้เธอ เทียบกับอีกสามสุดยอดแห่งวงแหวนดาวกระจาย บุคลิกเธอค่อนข้างเป็นกันเอง
  หลายปีก่อนเธอไม่คิดอะไรมากและยอมให้เขาเข้าร่วมเกาะมังกรเพราะอีซอป ในเวลาไม่กี่ปี แบล็คสตาร์กลับรุดหน้าขึ้นมาก แม้จะยังห่างไกลกับเธอ ความเร็วการเติบโตเขาก็ยังทำให้เธอแปลกใจ
  เอเมสอดสนใจในตัวลูกน้องเธอไม่ได้จากนั้นก็ตระหนักว่าเธอไม่เข้าใจเขามากนัก
  หลังได้ยินหานเวี่ยวก็เริ่มเล่าเรื่องในอดีต แน่นอน เขาปล่อยข่าวเรื่องผู้เล่น ตั้งแต่ต้นจากองค์กรต้นกำเนิด จากนั้นก็เล่าถึงพวกเหนือมนุษย์บนอความารีนและลูกน้องเขา
  หานเซี่ยวหยุดหลังเล่าไปครึ่งวันและดื่มไวน์เพื่อหล่อเลี้ยงลำคอเขาเขาไม่บ่นที่ต้องเล่าเรื่อง นี่คือโอกาสอันดีที่จะได้ใช้เวลากับเอเมสเพียงลำพัง และมันก็เป็นโอกาสสร้างสัมพันธ์ แถม เอเมสยังสวย และแม้หานเซี่ยวจะไม่ถูกควบคุมโดยความปราถนา เขาก็ยังชอบชมความงาม
  อย่างน้อยมันก็ดีกว่าการมองฮาร์ม่อนนัก
  หลังฟังเรื่องราวเอเมสก็เคาะต้นขาเธอด้วยนิ้วและกล่าว”สองพี่น้องที่ควบคุมพลังแห่งชีวิตและความตาย…ดูเหมือนว่าฉันจะเคยได้ยินมาก่อน”
  เธอไม่สนใจการเมืองประเทศหรือสงคราม เธอกลับสนใจออโรร่าและฮีล่า
  เขาไม่ปิดบังเรื่องของออโรร่าและฮีล่าในชีวิตก่อนหน้าเขา ฮีล่าผู้ดำดิ่งสู่ความมืดน่ากลัวยิ่งกว่าเอเมส ฮีล่ายังอ่อนแอมาก แต่ดูเหมือนจะมีบางสิ่งแปลกไป เอเมสมักไม่สนใจเรื่องบนดาวล้าหลัง หากเธอได้ยินเรื่องที่คล้ายกันมาก่อน มันต้องมาจากพวกระดับสูง
  “นายกล่าวว่าอโรเชียคือสิ่งมีชีวิตปัญญาประดิษฐ์อวกาศอัศจรรย์นับล้านจากบ้านเกิดนายก็เหมือนกัน?”
  หานเซี่ยวส่ายหัวและแสร้งทำเป็นไตร่ตรอง”พวกเขาควรแตกต่าง”
  หลังพูดจบการเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นในโถงพักผ่อน
  ฮึม!
  แสงเปลี่ยนเป็นร่างมนุษย์และริสด้าก็ปรากฏตัวข้างหานเวี่ยว
  “ทำไมนายถึงออกมา?”หานเซี่ยวถามอย่างสงสัย
  เอเมสมองริสด้าด้วยความอยากรู้
  ริสด้าค่อยๆยืนขึ้นและก้มหัวให้เอเมสอย่างจริงใจ
  “ท่านจักรพรรดินีมังกรเราอยากขอร้องท่านถึงบางอย่าง โปรดช่วยอารยธรรมเราและช่วยพี่น้องของเราด้วย!เราเต็มใจเสนอตัวเองและรับฟังคำสั่งท่านตลอดไป!”
  เมื่อหานเซี่ยวกล่าวถึงอารยธรรมปัญญาประดิษฐ์ริสด้าก็พบว่าเอเมสคือตัวตนที่ทรงพลังเท่ากับช่างกลผู้ยึดครองบ้านเกิดเขา
  นี่คือโอกาสที่เขาจะได้ขอความช่วยเหลือต่อให้โอกาสจะน้อยนิด ริสด้าก็ไม่เต็มใจยอมแพ้ หากเอเมสเต็มใจช่วยเหลือ ทุกอย่างก็จะง่าย
  “ต่อสู้?”เอเมสเลิกคิ้ว”ศัตรูเป็นใคร?”
  “เขาคือช่างกลที่แย่งชิงบ้านเกิดเราและจับเผ่าเราเป็นทาสเปลี่ยนพวกเขาเป็นอาวุธ เราไม่มีทางลืมชื่อเขา เขาชื่อแมนิสัน แอนเชี่ยนวัน ปาปาชี่!”
  “โอ้คนจาก[จักรวรรดิจักรกล]แห่งแม่น้ำดาราแรกเริ่ม และเป็นสมาชิกของแอนเชี่ยนวัน”เอเมสส่ายหัว”ขอปฏิเสธ”
  แม่น้ำดาราแรกเริ่มคือเขตดาราขนาดใหญ่เหมือนวงแหวนดาวกระจายสถานะจักรวรรดิจักรกลของแมนิสันก็เหมือนกับจักรพรรดินีมังกรของเอเมสในวงแหวนดาวกระจาย
  ‘แอนเชี่ยนวัน’คือองค์กรพิเศษและพ่อบุญธรรมของเอเมส อีซอปก็เคยอยู่ในนั้น แต่เขาได้ถอนตัวออกมาแล้ว
  แม้ริสด้าจะเตรียมใจไว้แล้วเขาก็ยังผิดหวังมาและอดถามไม่ได้”เราขอทราบเหตุผลได้หรือไม่?”
  “ฉันไม่อาจเอาชนะเขาได้”เอเมสตอบอย่างสบายๆ
  ร่างแสงของริสด้ากลายเป็นไม่เสถียรและเขาก็ตกใจ”แม้แต่..แม้ต่ท่านก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้เขา..”
  หานเซี่ยวไม่แปลกใจตัวตนที่เหนือกว่าระดับAจัดเป็นหมวดหมู่ทั่วไป และมีทั้งพวกแกร่งและอ่อนแอ แม้เอเมสจะทรงพลัง เธอก็ไม่ได้ไร้เทียมทาน เอเมสยังไม่เคยคิดว่าเธอนั้นไร้เทียมทาน
  …
  สิบวันผ่านไปอย่างรวดเร็วหานเซี่ยวนั่งคุยกับเอเมสเกือบทุกวันและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ดีขึ้นกว่าเดิมมาก
  ดาวเคราะห์อความารีนปรากฏนอกหน้าต่างและยานรบโกโดร่าจำนวนมากก็สามารถเห็นนอกชั้นบรรยากาศอความารีน เมื่อเห็นยานแสงทมิฬเข้ามาใกล้ พวกเขาก็ส่งคำเตือน
  “โปรดระบุตัวตนด้วย!”
  “ฉันเอง”หานเซี่ยวตอบ
  “แบล็คสตาร์ลงจอดได้”เสียงของอีกฝ่ายคลายลง อันตรายมีอยู่ทั่วและพวกเขาก็ระวังตัวมาก หานเซี่ยวคือคนที่สู้ร่วมกับพวกเขา และมันก็พิสูจน์ว่าเขาไม่ใช่ศัตรู
  หลังได้รับคำอนุญาติยานแสงทมิฬก็ลงจอดในเขตอนุรักษ์ เมื่อก้มมองเขตอนุรักษ์ มันก็ดูเหมือนจะมีผู้ลี้ภัยมากขึ้น ส่วนใหญ่นั้นถูกจับมัดไว้ ขณะที่หานเซี่ยวไม่อยู่ มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมาก แต่พวกเขาก็รับมือกันได้ ผู้เล่นมีหลายสิ่งหลายอย่างให้ทำ และพวกเขาก็ใช้เวลาอย่างดีเยี่ยม
  ดาราทมิฬไม่ได้ซุ่มโจมตีดาวเคราะห์หายนะอีกแต่กลับรังควานดาวอาณานิคมแทน ทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายและพวกโกโดร่าก็โกรธมาก แต่ก็ไม่มีอะไรส่งผลกระทบต่อหานเซี่ยว
  เมื่อเปิดประตูเอเมสก็ลอยออกมา”นี่คือบ้านเกิดนาย?ดีมาก มันน่าเสียดายที่บ้านเกิดฉันเป็นดาวเคราะห์ที่ถูกทอดทิ้ง”
  “พวกเหนือมนุษย์ต่างรวมกันในจตุรัสฉันจะไม่ไปกับเธอ ฉันมีเรื่องต้องทำ”หานเซี่ยวกล่าว
  เอเมสพยักหน้าและลอยไปจตุรัสลำพังพลางมองผู้เล่นด้วยความอยากรู้
  ผู้เล่นหันมาและตกใจจนอ้าปากค้าง
  “อะอะอะอะ…เอเมส?!”
  “รู้จักฉันด้วย?”เอเมสแปลกใจเธอคิดว่าพวกเหนือมนุษย์เหล่านี้เป็นกลุ่มล้าหลัวและไม่คิดว่าพวกเขาจะรู้จักเธอ
  จำนวนคนที่สังเกตเห็นเอเมสเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและผู้เล่นต่างก็ตกใจ
  มันราวกับบังเกิดเวทมนตร์ขึ้นด้วยเอเมสเป็นศูนย์กลาง เวทย์นั้นกระจายไปทุกทิศทาง และทั่วจตุรัสก็เงียบสงัด อารมณ์ทั้งหมดของพวกเขาถูกแช่แข็ง
  บูม!
  วินาทีถัดมาผู้เล่นก็โห่ร้องเสียงดัง!
  …
  อีกด้านหานเซี่ยวไม่ได้ติดตามเอเมสและรีบไปค่ายโกโดร่า ร้องขอพบนากาคิน
  ทหารโกโดร่าส่ายหัวและคำตอบเขาก็ไม่ต่างจากครึ่งเดือนก่อน”แบล็คสตาร์ท่านนากาคินกำลังประชุมฉุกเฉินและไม่มีเวลามาพบคุณ โปรดออกไปก่อน”
  เจตนาของหานเซี่ยวมุ่งมั่นมากและก็กล่าวด้วยน้ำเสียงลึก”ไปบอกเขาว่าฉันมีแหล่งกลายพันธ์ในมือ!ฉันไม่สนใจว่าเขากำลังทำอะไรฉันอยากเจอเขาเดี๋ยวนี้!”
  ใบหน้าของทหารเปลี่ยนไปและไม่กล้าตัดสินใจหนึ่งในนั้นรีบไปแจ้งนากาคิน
  หลังรอไม่ถึงสองนาทีแสงสีทองก็พุ่งออกมาจากส่วนลึกของค่ายโกโดร่าและหยุดตรงหน้าเขา ทุกคนที่ขวางทางแสงสีทองถูกผลักออกไป และแสงสีทองนั่นก็คือนากาคิน
  เมื่อรู้เจตนาของหานเซี่ยวนากาคินก็ตกใจจนถึงจุดที่เกือบตกเก้าอี้ เขาจะกังวลเรื่องการประชุมต่อไปได้ยังไง?เขารีบออกมาโดยไม่ชักช้าและไม่อยากเสียเวลา
  “นี่คือเรื่องจริง?!”นากาคินถามอย่างกระวนกระวาย
  หานเซี่ยวนำบอลโปร่งใสที่กักเก็บแหล่งกลายพันธ์ไว้ออกมาและมันก็ดึงดูดสายตาของนากาคินเหมือนแม่เหล็ก
  “เข้าไปคุยข้างในกัน”
  หานเวี่ยวสะบัดแขนเสื้อเพื่อบดบังวิสัยทัศน์ของนากาคินและหัวเราะ
  มันถึงเวลาพลิกกระดานแล้ว!

อ่านตอนอื่นๆของ The Legendary Mechanic คลิกเลย

แฟนเพจ