Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

The Legendary Mechanic - ตอนที่ 572 ต้านรับปืนใหญ่ 1?

เรื่อง The Legendary Mechanic - ตอนที่ 572 ต้านรับปืนใหญ่ 1?

ตอนที่ 572 ต้านรับปืนใหญ่ 1?
  ปืนใหญ่รังสีหลักของยานแม่!
  หานเซี่ยวเริ่มตื่นตระหนกความรุนแรงของปืนใหญ่หลักเหนือกว่าปืนใหญ่เลเซอร์ที่ติดอยู่ข้างยานมาก ตามขนาดของยานแม่ การยิงหนึ่งนัดใส่ดาวสามารถทำให้เกิดหลุมลึกได้ การใช้มันกับเขาก็เหมือนการใช้ปืนใหญ่เพื่อฆ่ายุง!
  ฉันยั่วโมโหมากไปงั้นหรอ?หานเซี่ยวอดคิดไม่ได้
  หากเขารู้เรื่องนี้เขาคงยับยั้งชั่งใจให้มากขึ้น ร้องโหยหวนออกมาและแสร้งทำเป็นบาดเจ็บสาหัส อย่างน้อย นั่นก็ยังเป็นการไว้หน้าพวกเขา!สำหรับการเย้ยหยัน มันเหมือนกับการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีพวกเขา!
  อีกฝ่ายคือภัยพิบัติพวกเขาต้องรักษาหน้าไว้บ้างอยู่แล้ว
  หานเซี่ยวไม่รู้ว่าปืนใหญ่หลักจะสร้างความเสียหายแค่ไหนแม้เขาจะพิสูจน์ความอึดทนผ่านการต่อสู้ มันก็เป็นคนละเรื่องกับปืนใหญ่หลักของยานแม่!
  การสังหารผู้มีการฟื้นฟูเร็วคือพลังโจมตีถึงตายแม้มันจะห่างไกลกับยานพิฆาตดาว พลังสังหารมันก็สามารถสลายตัวตนระดับภัยพิบัติได้หากใช้กายเนื้อรับ หากพวกเขาโชคดี พวกเขาอาจยังเหลือเนื้อไม่กี่ชิ้น
  ดังนั้นมีเพียงคนโง่เท่านั้นที่จะยืนอยู่และยอมรับรังสีของปืน!
  หานเซี่ยวไม่พูดสักคำรีบสวมชุดจักรกลมังกรมิติเขาและบินขึ้นฟ้า
  ยานแสงทมิฬพุ่งลงมาพร้อมรับตัวหานเซี่ยวไป
  “หยุด!”เอ็มเบอร์หันความสนใจจากผู้เล่นและโกบมือ คลื่นดำพุ่งสูงขึ้นไปเพื่อจับหานเซี่ยว
  แต่ความเร็วของคลื่นดำห่างไกลจากความเร็วสูงสุดของชุดจักรกลมังกรมิติมาก
  เมื่อมาถึงจุดนี้หัวของเดกูลิชก็มีเส้นเลือดปูดหลายเส้น เขางอขา กระทืบเท้าและทำลายพื้นรัศมีร้อยเมตรรอบตัวเขา ในชั่วพริบตา เขาก็ปรากฏเหนือหัวหานเซี่ยว และลมแรงก็รวมกันรอบหมัดเขา นั่นคือทักษะนักสู้ที่หานเซี่ยวเคยรับมาหลายครั้ง
  หานเซี่ยวทำได้แค่ยกแขนขึ้นกันและหมัดเรืองแสงก็ชกใส่กึ่งกลางของแขนเขา
  ปัง!
  มันราวกับท้องฟ้าระเบิดเป็นดวงอาทิตย์สีม่วง!
  พลังมหาศาลลุกล้ำเข้าหาหานเซี่ยวและด้วยการอยู่กลางอากาศเขาจึงไม่มีทางถ่ายโอนผลกระทบได้ วิสัยทัศน์เขาเลือนราง และเห็นแค่ยานแสงทมิฬกำลังเคลื่อนห่างจากเขาด้วยความเร็วสูง ตามด้วยแรงกระแทกรุนแรงที่มาจากหลัง ทั่วร่างเขากระแทกกับพื้น จมดิ่งลงไป
  หมัดนี้ทำให้หานเซี่ยวตกลงมาจากฟ้าโดยตรง
  แขนเขาอ่อนแรงและเจ็บปวดมากหน้าต่างสถานะเขาแสดงสถานะ[แขนหัก] หานเซี่ยวลอบบ่นถึงพลังหมัดของนักสู้ระดับภัยพิบัติ ขณะที่กระตุ้นพลังงานเขาให้เพิ่มเซลล์ และรักษาบาดแผลเขาอย่างรวดเร็ว
  กระดูกหักถูกจับไว้ผ่านการหดตัวของกล้ามเนื้อและเมื่อเซลล์เพิ่มขึ้น กระดูกก็เชื่อมต่อกันในพริบตา
  การเพิ่มจำนวนเซลล์สามารถซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับส่วนใดของร่างกายก็ได้ตราบเท่าที่ได้รับการซ่อมแซม สถานะด้านลบก็จะหายไปด้วย
  ตึง!ตึง!
  ก่อนเขาจะได้หายใจเศษซากเหนือหัวเขาก็ถูกระเบิดเมื่อเดกูลิชกระแทกกับพื้น หมัดเขาชกใส่พื้นไม่หยุด
  หานเซี่ยวไม่อยากถูกฝังทั้งเป็นดังนั้นเขาจึงเตะเศษหินที่ตกลงมาและพุ่งออกไป แต่ทว่า คลื่นดำของเอ็มเบอร์ก็พุ่งมา ขวางเขาไว้
  “ฉันจับแกได้แล้ว!”
  เดกูลิชรีบพุ่งมาคว้าเอวของหานเซี่ยวไว้ รีบเปลี่ยนท่าไปอยู่หลังหานเซี่ยว มือเขาล็อคแน่น อยากใช้พลังทั้งหมดเขาเพื่อระงับการเคลื่อนไหวของหานเซี่ยว
  เทียบด้านพละกำลังแล้วหานเซี่ยวต้องไม่ใช่คู่ต่อกรกับนักสู้ระดับภัยพิบัติ และดังนั้นจึงไม่อยากถูกเขารัดเลย
  ซวบ!
  วินาทีนั้นเทอรี่ก็คว้าโอกาส โลหะหลายชิ้นยืดตัว พุ่งใส่ตา คอ หัวใจและจุดสำคัญอื่นๆของหานเซี่ยว
  เกร๊ง!
  ผู้รักษาสัจจะทั้งสองเข้ามากันหานเซี่ยวทุกครั้งที่เขาใช้[การดัดแปลงของเสีย] คุณภาพของเครื่องจักรจะลดระดับ ดังนั้น ผู้รักษาสัจจะจึงไม่อาจขวางโลหะที่พุ่งมาได้ก่อนถูกเจาะจนพรุน แต่พวกมันก็ช่วยซื้อเวลาให้หานเซี่ยวได้
  หานเซี่ยวเปิดใช้งานโมดูลขับเคลื่อนชุดจักรกลเขาเต็มกำลังพาเดกูลิชกับเขาขึ้นฟ้าไปเพื่อหลบการจู่โจมจากเทอรี่
  .แม้จะสะบัดอยู่สองครั้งหานเซี่ยวก็ยังมีอาจสลัดเดกูลิชหลุดได้ ดังนั้น เขาจึงเปลี่ยนวิธี ขาของชุดจัรกกลแยกออก และหานเซี่ยวก็สไลด์หลุดจากชุด หลบหนีไปง่ายๆ ในเวลาเดียวกัน เขาก็ใช้พลังจักรกลเพื่อสลายชุดจักรกลมังกร ทำให้มันมาก่อตัวรอบเขาอีกครั้ง
  เดกูลิชถูกทิ้งไว้กลางอากาศและตกลงพื้นทันที
  ภัยคุกคามของปืนใหญ่หลักได้ยึดกุมหัวใจเขาและทุกๆวินาที หานเวี่ยวยิ่งรู้สึกถึงอันตราย แต่ ด้วยการคงอยู่ของเดกูลิชและเทอรี่ การพยายามหลบหนีจึงถูกขวาง
  ยานแสงทมิฬทำได้แค่บินโฉบเหนือหัวเขาเท่านั้นและไม่กล้าเข้าใกล้ตัวตนระดับภัยพิบัติเพราะมันอาจถูกทำลาย
  เวลาที่ใช้ในการต่อสู้นานกว่าห้านาทีและคูลดาวน์ของ[การท่องมิติ]ก็หมดลงแล้วหานเซี่ยวอยากใช้ทักษะเพื่อรุดไปหายานเขา แต่เมื่อเขาสถานะท่องมิติ เขาจะผ่านวัตถุทุกอย่าง ไม่ส่งผลต่อวัตถุใดๆ แม้กระทั่งชุดจักรกลเขาก็ยังไร้ประโยชน์ และเขาก็ทำไดด้แค่ลอยโดยใช้สนามพลังจักรกลเขา ระยะเวลาของการท่องมิติไม่พอให้เขาบินไปยานอวกาศด้วยตัวเอง
  เรื่องราวดูไม่ดีนัก…
  หานเซี่ยวรู้สึกหมดหนทางและหันไปหาผู้เล่นนับหมื่น
  ตราบเท่าที่ทหารราบพวกนั้นสามารถซื้อเวลาให้ฉันได้บ้างฉันก็จะหลบหนีได้
  เอ็มเบอร์ดีดนิ้วเขาหลายครั้ง
  ปักปัก ปัก…
  ผู้เล่นนับหมื่นเห็นว่าพลังชีวิตพวกเขาลดลงเหลือ0และเปลี่ยนเป็นแสงสีขาวถูกส่งไปรอคืนชีพ
  ความสามารถของเอ็มเบอร์โกงเกินไปหากไม่มความสามารถต้านทานความเสียหายจริง คนที่อ่อนแอกว่าเขาจะไม่มีสิทธิ์สู้เลย จำนวนไม่มีความหมายต่อเขา ซึ่งทำให้เขาถูกมองเป็นเครื่องจักรสังหารโดยดาราทมิฬ เขาสามารถฆ่าคนนับล้านได้ในพริบตา
  …
  ผู้เล่นนับหมื่นฟื้นคืนชีพมาพร้อมกันในจตุรัส
  “บ้าไปแล้ว!”
  “การแยกคาร์บอน?ความเสียหายจริง?!บอสนี้โกงไปแล้ว!”
  “ฉันจะออกไปจากที่นี่เห็นได้ชัดว่าสนามรบของแบล็คสตาร์ไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถยุ่งด้วยได้”
  ‘นั่นคือส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่อง”
  ส่วนใหญ่เชื่อมันและไม่อยากไปเข้าร่วม ในเกม พวกเขาตายได้แค่สิบครั้งทุกหกวัน ดังนั้นผู้เล่นจึงไม่อยากใช้ขีดจำกัดการตายพวกเขากับการกระทำสูญเปล่า ดังนั้น พวกเขาจึงเลือกรัดคอตัวเองและเฝ้าดูการต่อสู้พอ
  นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาเฝ้าดูเนื้อเรื่องช่วงเวลาในเวอร์ชั่น1.0ตอนหกประเทศทำสงครามกับองค์กรต้นกำเนิด รวมถึงการแก้ปัญแหล่งกลายพันธ์ก่อนหน้าก็อยู่ในสายตาผู้เล่น ลองๆคิดดูแล้ว ดูเหมือนดาวเคราะห์อความารีนจะมีเนื้อเรื่องเป็นจำนวนมาก
  ทุกคนรู้สึกว่าครั้งนี้เองก็เป็นเนื้อเรื่องส่วนตัวของแบล็คสตาร์และอยากรู้การพัฒนาโครงเรื่อง
  ในสายตาผู้เล่นการที่ดาวอความารีนพบวิกฤติดังกล่าวเป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงว่าพวกเขากำลังจะออกดาวฝึกหัด ซึ่งควรเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่อง
  ในฐานะผู้นำกองกำลังแบล็คสตาร์จะต้องเป็นหัวหน้าพวกเขาอยู่นาน ดังนั้น หลายคนจึงตั้งสมมติฐานว่าแบล็คสตาร์อาจเฉิดฉายในเหตุการณ์นี้ ทิ้งความประทับใจลึกยิ่งกว่าเดิม แต่ทว่า พวกเขาไม่อาจทำนายได้จริงๆ
  …
  เมื่อเห็นผู้เล่นนับหมื่นถูกลบออกไปหานเซี่ยวก็หนังตากระตุก
  ดูเหมือนว่าฉันจะไม่อาจพึ่งพาผู้เล่นกลุ่มนี้ได้ช่องว่างระหว่างพวกเขาและตัวตนระดับภัยพิบัติสูงเกินไป
  เดกูลิชและอีกสองคนล้อมหานเซี่ยวไว้เป็นรูปสามเหลี่ยมแต่ก็ไม่ได้เข้าใกล้เขาต่อ ทิ้งระยะห่างไว้
  ทั้งสามไม่อยากปล่อยให้หานเซี่ยวหนีแต่พวกเขาก็ยังไม่อยากรับปืนใหญ่ไปพร้อมกับเขา ปืนใหญ่นั้นไม่แยกแยะความแตกต่างระหว่างมิตรหรือศัตรู
  “ริสด้ามีวิธีหยุดการยิงปืนใหญ่ยานแม่ไหม?’หานเซี่ยวถามเสียงเบา
  “ไม่มีทางฉันได้แทรกซึมเข้ายานแม่ลำอื่นและทำได้แค่ตรวจสอบสถานการณ์…โอ้ ไม่ การชาร์จของปืนใหญ่หลักเสร็จแล้ว และเป้าหมายก็ถูกล็อค นายมีเวลาเหลือแค่8.6วินาที”
  “ดูเหมือนฉันจะไม่อาจหลีกเลี่ยงได้สินะเอาละ ฉันจะรับมันเอง…”
  หานเซี่ยวทำได้แค่พยายามปลุกใจตัวเองเขาโยนบอลบีบอัดออกไป ซึ่งขยายออกเป็นชั้นหุ้มโลหะผสม นี่คือป้อมปราการพกพาที่สามารถใช้สำหรับป้องกัน มันไม่มีผลกระทบใดอื่นนอกจากมีความทนทานสูง
  นี่ตามมาด้วยทหารจักรกลที่โยนตัวพวกมันเข้าหาหานเวี่ยวบนป้อมปราการพกพา พวกมันใช้ร่างพวกมันเป็นโล่ แถมยังเปิดใช้งานม่านพลังพวกมันและเผชิญหน้ากับท้องฟ้า
  เดกูลิชและคนอื่นไม่อยากเข้ารัศมีของปืนใหญ่และจะทำเป็นหลับตาตราบเท่าที่แบล็คสตาร์ไม่หลบหนีดังนั้น พวกเขาจึงหันหลังและโจมตีกองทัพจักรกลรอบๆพวกเขาแทน แม้จะมีแค่ส่วนน้อยที่ผ่านทั้งสามไปได้ แนวป้องกันก็หนาขึ้นเรื่อยๆ
  โล่ป้องกันที่เหลือและมือจักรกลเองก็ตั้งขึ้น
  หานเซี่ยวปล่อยเครื่องจักรทั้งหมดเขามาป้องกันและไม่รู้ว่าพวกมันจะชดเชยได้แค่ไหนดังนั้น เขาจึงฟื้นพลังชีวิตเขาจนเต็มและรวบรวมพลังงาน พร้อมใช้บัตรอัญเชิญตัวละครออโรร่า
  ในเวลานั้นเดกูลิชผู้กำลังขัดขวางกองทัพจักรกลได้รับการแจ้งเตือนจากยานแม่ ทั้งสามหยุดการกระทำพวกเขาทันทีและถอยห่าง
  “แบล็คสตาร์จบสิ้นแล้ว!”
  เดกูลิชเผยรอยยิ้มพึงพอใจพวกเขาไล่ล่าเขาและขวางหานเซี่ยวไม่ให้หนี ทั้งหมดก็เพื่อยอมให้ปืนใหญ่หลักจับเป้าแบล็คสตาร์ได้
  ในเวลานั้นภายในป้อมปราการ หานเซี่ยวยกความตื่นตัวสูงสุด รวมถึงใช้ทักษะ[ขวากหนาม]ซึ่งเขาได้รับจากผู้นำองค์กรต้นกำเนิด ทักษะจะหักความเสียหายที่ได้รับจากการโจมตีครั้งต่อไป30%
  “มันกำลังมา!”

อ่านตอนอื่นๆของ The Legendary Mechanic คลิกเลย

แฟนเพจ