ตอนที่ 615 ของขวัญจากออสติน
เมื่อนักดนตรีนเริ่มเล่นงานเลี้ยงก็เปิดฉาก แขกล้วนมีเป้าหมานย พวกเขาแยกเป็นสองและสาม มุ่งตรงไปพื้นที่ส่วนตัว หารือเรื่องธุรกิจ
ฮีเบอร์พาแขกไม่กี่คนขึ้นบันไดไม่ไกลนัก เจ้าหน้าที่เคล็นท์ยังขึ้นบันไดไปพร้อมคนอื่น
เมื่อเห็นหานเซี่ยวก็ไตร่ตรอง
ฮีเบอร์และเคล็นท์เป็รพันธมิตรเขาได้เข้าร่วมกับฝั่งของจักรวรรดิเงียบๆ ดังนั้นเคล็นท์อาจกลายเป็นมิตรของจักรวรรดิ อาจเร็วยิ่งกว่าฮีเบอร์ซะอีก เหนือสิ่งอื่นใด จักรวรรดิอยากคล้ององค์กรในวงแหวนดาวกระจายเข้าด้วยกัน ดังนั้นความสำคัญพวกเขาควรเป็นอารยธรรมกลุ่มดาว เคล็นท์ได้รับการชักชวนก่อน จากนั้นก็แนะนำแดนหลั่งเลือด เหตุผลที่ฮีเบอร์แนะนำฑูตให้กับจักรพรรดินีมังกรและเมกัสอาจเป็นเพราะเคล็นท์ขอให้เขาเจรจากับผู้อยู่เหนือกว่าเกรดA…
นี่หมายความว่าใน7อารยธรรมกลุ่มดาวอาณาจักรเคล็นท์อาจเข้าร่วมกับฝั่งจักรวรรดิแล้ว
เมื่อเชื่อมต่อกับเนื้อเรื่องในชีวิตก่อนหน้าเขาเนื้อเรื่องหลักของเวอร์ชั่น3.0[คลื่นแดงเดือด]คือการขยายของจักรวรริดคริมสันที่ทำให้ทุ่งดาราทั้งหมดปั่นป่วน รวมถึงวงแหวนดาวกระจาย แต่ทว่า ความโกลาหลส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากจักรวรรดิโดยตรงแต่เป็นองค์กรของทุ่งดาวนั้นๆ
ย้อนกลับไปผู้เล่นไม่เข้าถึงข้อมูลภายในใดๆ หลังหานเซี่ยวเชื่อมต่อสองสิ่งนี้..จักรวรรดิอาจอยู่เบื้องหลังทุกองค์กรก็ว่าได้ พวกเขาชักนำความโกลาหลและทำให้โครงสร้างจักรวาลไม่มั่นคง
ฮีเบอร์ไม่แนะนำโซเอลให้แขกทุกคนอาจเพราะจักรวรรดิไม่อยากทำตัวเด่น พวกเขาอาจเชิญแค่ตัวแทนขององค์กรที่แข็.แกร่ง อย่างการประชุมส่วนตัวของเหล่าสี่สุดยอด
ดังนั้นพายุจึงกำลังก่อตัวขึ้น…
หานเซี่ยวส่ายหัวตามการคำนวณเขา ผลกระทบที่จักรวรรดิคริมสันทำจะไม่ปรากฏในเวอร์ชั่นนี้ สถานการณ์ที่เป็ฯไปได้มากสุดคือผลเหล่านี้จะค่อยๆเกิดขึ้นหลังผ่านไปกว่าสิบปีในช่วงการอัปเดทเวอร์ชั่น2.0เป็น3.0
ปัจจุบันมันเป็นแค่ช่วงแรกของเวอร์ชั่น2.0 นอกจากผู้เล่นอความารีน ผู้เล่นบนดาวเริ่มต้นอื่นยังเล่นโคลนอยู่เลย ยังมีเวลาอีกหลายปีก่อนการอัปเดทเวอร์ชั่น
เนื้อเรื่องหลักเดิมของอความารีนคือการขัดแย้งระหว่างดาราทมิฬและโกโดร่าแต่ทว่าดาราทมิฬสูญสิ้นแล้ว ดังนั้นกองทัพแบล็คสตาร์เขาจึงกลายเป็นเนื้อเรื่องหลักใหม่ของผู้เล่น เนื้อเรื่องตอนนี้เป็นการสำรวจแบบกึ่งอิสระ ดังนั้นผู้เล่นจะไม่เจอเหตุการณ์ใหญ่อะไร
นี่คือเวลาดีสุดสำหรับกองกำลังเขา
ขณะช่างกลหานกำลังใคร่ครวญโรซอสซี่ก็เดินมา
“แบล็คสตาร์ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณ”
หานเซี่ยวหยุดคิดยิ้มและพยักหน้า”คุณโรซอสซี่ มีอะไรงั้นหรอครับ?”
โรซอสซี่ลูบหนวดยุ่งเหยิงบนคางเขา”ผมอยากลงทุนกับเกาะมังกรและกองทัพแบล็คสตาร์คุณบางทีเราควรคุยเรื่องข้อกำหนดและเงื่อนไขกัน”
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกายโชคดี มีคนมาให้เงินเขาอีกแล้ว!
เขาหันไปมองเอเมสเอเมสไม่ปฏิเสธและปล่อยให้หานเซี่ยวจัดการเอง หานเซี่ยวดึงโรซอสซี่ไปข้างๆและทั้งสองก็คุยเรื่องรายละเอียดกัน
ไม่นานทั้งสองก็รีบตัดสินใจแผนลงทุน คล้ายกับเงื่อนไขของกลุ่มการเงินนอเรียส กลุ่มของโรซอสซี่จะให้ทรัพยากรกับกองทัพแบล็คสตาร์และเกาะมังกรแลกกับผลตอบแทนด้านอื่นๆ
การลงทุนในองค์กรทางทหารมักมีความสำคัญต่อกลุ่มการเงินใหญ่โรซอสซี่ก็ไม่เว้น
สัญญาและเงื่อนไขจะจัดส่งหลังงานเลี้ยงจบหานเซี่ยวดีใจมาก กองทัพแบล็คสตาร์ได้รับผู้สนับสนุนอีกคนแล้ว ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนามาก
“แบล็คสตาร์”
มีบางคนเรียกเขา
หานเซี่ยวหันไปมองด้วยความแปลกใจ มันเป็นออสติน เขาพากลุ่มนักเวทย์ต้องห้ามมา
“ท่านเมกัสมีอะไรงั้นหรอครับ?”เมื่อเจอกับผู้อยู่เหนือ หานเซี่ยวจึงต้องสุภาพ
ออสตินไม่ตอบเขายิ้มและหงายมือ แสงสีน้ำเงินปรากฏในมือเขา มันเปลี่ยนเป็นวังวนและแสงก็หายไปอย่างรวดเร็ว จากนั้น ลูกบอลสีเทาขนาดเล็กก็ปรากฏ
หานเซี่ยวหรี่ตามองบอลนี้ไม่แข็งทำจากหมอกเทา มันถูกบีบอัดโดยพลังและรักษารูปทรงบอลไว้
“นี่คือ..”หานเซี่ยวสับสนและไม่เข้าใจเจตนาของออสติน
ออสตินเล่นกับบอลหมอกเทาและกล่าว”ครั้งหนึ่งกายวิญญาณฉันได้ท่องไปยังมิติที่สองและเจอกับจ้าวมิติที่แข็งแกร่งแปลกๆเข้า มันเกือบจะทำลายกายวิญญาณฉันแต่สุดท้ายฉันก็เอาชนะได้ นี่คือแก่นแท้ที่จ้าวมิติทิ้งไว้หลังแตกสลาย ฉันอยากมอบมันให้นาย”
หานเซี่ยวตกตะลึง
แก่นแท้ของจ้าวมิติหามากยากมีเพียงจอมเวทย์ถึงได้รับของดังกล่าว
การเข้าสู่มิติที่สองคือความสามารถเฉพาะจอมเวทย์ชั้นสูงพวกเขามักได้รับของแปลกๆมา
ในแง่ของการแสวงหากำไร..อะแฮ่มความสามารถการผลิต จอมเวทย์และช่างกลยืนอยู่บนจุดสูงสุดในหมู่ทั้งห้าสาย ในแง่ของการรวบรวมวัตถุดิบ จอมเวทย์อาจเหนือยิ่งกว่าช่างกล
ช่างกลจะอยู่ในสถานะล้มละลายตลอดเวลาตรงข้ามกับจอมเวทย์ สายที่สามารถผลาญแถบมานาพวกเขาเพื่อแลกกับเงิน เสริมพลังให้กับสิ่งของ
หานเซี่ยวเข้าในความหมายเบื้องหลังวลีว่า’การกระทำสุ่มๆมีแต่จะนำไปสู่การปล้นหรือข่มขืน’งั้น เจตนาของออสตินคืออะไร?อย่าบอกนะว่าเขาพยายามเอาชนะใจฉันเหมือนฮีเบอร์ แต่ใช้วิธีที่อ่อนโยนกว่า?
“ทำไมถึงต้องให้ผม?”
“เพราะฉันรู้สึกว่านายอาจต้องการมันมากกว่าฉัน”ออสตินขยิบตา
หานเซี่ยวนึกได้
ใช่แล้วฉันใช้ตราสังเกตกับโซเอลเมื่อวานนี้ และออสตินก็รู้ตัว
หรือนี่จะเป็นเหตุผล?
“นายไม่ใช่จอมเวทย์แต่นายสามารถควบคุมพลังงานมิติได้ ดูเหมือนว่านายจะเคยถูกยีนมิติกัดกินมาก่อน เผ่าส่วนใหญ่จะเปลี่ยนเป็นสัตว์ประหลาดหลังจากนั้น แต่นายควบคุมมันและเปลี่ยนมันเป็นความสามารถนาไยด้ นายโชคดีมาก ดังนั้น แก่นแท้ของจ้าวมิติจึงสามารถเสริมความสามารถนี้และมอบพลังอันยิ่งใหญ่ให้นายได้…”ออสตินพิสูจน์การเดาของหานเซี่ยว
ออสตินไม่รู้ว่าหานเซี่ยวมีหน้าต่างสถานะผู้เล่นสำหรับเขา เหตุผลที่หานเซี่ยวสามารถใช้พลังงานมิติได้ก็เพราะเขาถูกยีนมิติกัดเซาะมาก่อน แถม ด้วยโครงกระดูกของมังกรมิติที่ฝังภายในเกาะมังกร เขาจึงคิดว่าเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหานเซี่ยว ดังนั้น เขาจึงอยากช่วยคนของเอเมส
หานเซี่ยวกระแอมและยอมรับการคาดเดาของออสตินเงียบๆจากนั้นก็เริ่มไตร่ตรอง
เผ่าเขาเป็นเผ่ามิติแล้วและแก่นแท้จ้าวมิติก็สามารถเสริมพลังของยีนเขาและเพิ่มค่าสถานะได้ แถม ในช่วงการวิวัฒนาการครั้งต่อไป มีโอกาสที่เขาจะสามารถข้ามขั้นต่อไปในห่วงโซ่วิวัฒนาการและกระโดดข้ามขั้นได้ มอบตัวเลือกเผ่ามิติให้เขามากขึ้น
มันเป็นประโยชน์มากจริงๆแถม มันยังหายากมากและแทบหาไม่ได้บนตลาด
“แล้วผมต้องแลกกับอะไร?”หาเนซี่ยวหรี่ตาเขาถูกดึงดูดแล้ว แต่ก็รู้ว่าจะไม่รับของขวัญโดยไม่ถามราคา
ออสตินมีทรัพยากรมากและแก่นของจ้าวมิติก็แค่หยดน้ำในมหาสมุทร แต่หานเซี่ยวไม่คิดว่าออสตินจะอยากมอบมันให้เขา
ต่อให้ออสตินกำลังช่วยคนของเอเมสเพราะเอเมสหาเนซี่ยวก็ไม่เต็มใจยอมรับความใจดีจากคนแปลกหน้า
ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและออสตินห่างเกินกว่าจะยอมรับของขวัญกันได้ง่ายๆ
“นี่คือของขวัญนายไม่ต้อง…หืม”ออสตินดูเหมือนจะนึกบางอย่างได้ จากนั้นก็เปลี่ยนคำพูดกลางประโยค”บางที วันหนึ่งในอนาคต ฉันอาจต้องการความช่วยเหลือของนาย ถือว่านี่เป็นการจ่ายล่วงหน้า”
“ฟังดูดีตราบเท่าที่มันไม่ขัดกับตำแหน่งและหลักการของผม”
“แน่นอน”
หานเซี่ยวพยักหน้าและยอมรับแก่นจ้าวมิติ
[แก่นจ้าวมิติ]แก่นของสิ่งมีชีวิตมิติ เต็มไปด้วยพลังงานมิติคุณภาพสูง ล้ำค่าอย่างยิ่ง จอมเวทย์หลายคนเต็มใจจ่ายราคาสูงเพื่อมัน ท่านสามารถมอบให้ตัวละครพิเศษเพื่อเริ่มภารกิจได้ ท่านยังสามารถกินมัน หากท่านไม่กลัวปวดท้อง…โอ้ หมายถึงไม่กลัวจะถูกกัดเซาะโดยยีนมิติ
หานเซี่ยวใส่มันไว้ในกระเป๋าและก้มหัวให้ออสตินเพื่อแสดงความขอบคุณ
ออสตินยิ้มด้วยใบหน้าน่ารักก่อนกล่าว”ฮีเบอร์เป็นพวกบุ่มบ่ามและเอเมสก็ประมาทฉันรู้ว่านายมีศักยภาพชัดเจนกว่าพวกเขา วันหนึ่ง นายอาจออกจากใต้เอเมสและสร้างชื่อของนายเอง มันเป็นเวลานานมากแล้วที่ไม่มีตำนานเกิดในทุ่งดารานี้…ฉันจะจับตาดูนาย อย่าทำให้ฉันผิดหวังละ”
ก่อนหานเซี่ยวจะได้ตอบออสตินพาเหล่าจอมเวทย์เขาเดินออกไป
หานเซี่ยวมีสีหน้าแปลกๆ
ออสตินไม่ได้พูดราวกับเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่เขาเป็นมิตรมากและให้ความประทับใจดีๆกับหานเซี่ย แต่คำพูดเหล่านั้นก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับผู้อาวุโส….
..
งานเลี้ยงดำเนินต่อไปผู้คนล้วนคุยธุระกินกัน บางครั้ง บางคนจะมาหาหานเซี่ยวเพื่อคุย แต่ก็ไม่บ่อยนัก
นอกจากโรซอสซี่และออสตินคนอื่นที่มาคุยกับเขาส่วนใหญ่แค่การสนทนาไม่เป็นทางการ หานเซี่ยวมีความสุขกับการไม่ยุ่ง เมื่อเขาไม่มีใครคุย หานเซี่ยวจะกินอาหารและเครื่องดื่มข้างเอเมสและสองสาว
เมื่อเวลาผ่านไปงานเลี้ยงก็ค่อยๆจบ แขกส่วนใหญ่ได้ข้อมูลและพันธมิตรที่ต้องการ หานเซี่ยวลอบฟังข้อมูลที่ไม่ถือว่าเป็นความลับแต่ก็เป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่อาจหาได้ เหนือสิ่งอื่นใด ทุกคนล้วนมีตำแหน่งสำคัญ
ในห้องส่วนตัวด้านบนฑูตของจักรวรรดิ โซเอลได้พบกับบุคคลสำคัญทีละคน