ตอนที่ 630 คอขวด
ในศูนย์ใหญ่แบล็คสตาร์บนดาวประตูทองการต่อสู้กำลังเกิขึ้น
ปัง!
ทหารจักรกลสีดำได้ผลักนักรบจักรกลสีน้ำเงินด้านหน้าออกไปและพุ่งใส่เรย์นลขณะต้านทานเลเซอร์จากหอคอยปืนใหญ่นับสิบแขนของทหารจักรกลเปลี่ยนเป็นเฟือง8อันที่หมุนด้วยความเร็วสูงและกระแทกใส่โล่ของเรย์โนล
เรย์โนลมีสีหน้าเคร่งขรึมและทิ้งกับดักแม่เหล็กไฟฟ้าไว้ด้านหลังพลางถอยเวลาเดียวกัน เขาก็ปล่อยสายฟ้าของพลังจักรกล จากนั้นก็ใช้ทักษะเพื่อเพิ่มพลังให้กับหอคอยปืนใหญ่เขาและส่งการยิงไร้สิ้นสุดออกไป
ปึกปึก ปึก!
ทันใดนั้นทหารจักรกลดำพลันสลายตัวเป็นอนุภาคนาโนสีดำและบินกลับไปด้านข้างของร่างที่อยู่ไม่ไกล จากนั้นอนุภาคสีดำก็สร้างตัวเองขึ้นใหม่ในรูปลักษณ์ของทหารจักรกลและยืนข้างเงาร่างนั้นเงียบๆ
“นายแกร่งขึ้นเรื่อยๆมันเป็นแค่เรื่องของเวลสก่อนจะเข้าสู่ระดับภัยพิบัติ”“หานเซี่ยวกล่าว
เทียบกับสองปีก่อนหานเซี่ยวยังหนุ่มและหล่อเหลาเหมือนเดิม แถมความสูงยังเพิ่มเล็กน้อย กลิ่นอายเขายิ่งลึกซึ้งกว่าเดดิม หานเซี่ยวสวมเสื้อกันลมสีดำและไม่ได้สวมชุดจักรกล
“มันเป็นเพราะอาจารย์”เรย์โนกล่ลาว
หานเซี่ยวโบกมือ”มันเป็นเพราะพรสวรรค์ของนายต่างหาก”
หลังการชี้แนะสองปีเรย์โนลก็พัฒนาจนเกือบถึงระดับภัยพิบัติแล้ว เขาประมือกับหานเซี่ยวบ่อยครั้งและเนื่องจากทั้งสองเป็นสหายกัน มันจึงไม่จำเป็นต้องให้ท่ากัน ดังนั้น พวกเขาจึงประลองกันในพื้นที่เล็กๆและทดสอบพลังและการควบคุมเครื่องจักรเอา
ทหารจักรกลดำข้างหานเซี่ยวคือหนึ่งในผลิตภัณฑ์ใหม่ที่หานเซี่ยววิจัยขึ้นมันมีความสามารถการแปลงนาโน และความสามารถมันก็ยอดเยี่ยมมาก เหนือกว่าผู้ปกป้อง มันเป็นเครื่องจักรชั้นสูงที่เป็นระดับภัยพิบัติ[ภูติทมิฬ]
เรย์โนลมักตกใจเมื่อใดก็ตามที่ประมือกันหานเซี่ยวแบล็คสตาร์มักสามารถนำเครื่องจักรต่างๆออกมาทดสอบกับเขาเสมอ เรย์โนลไม่อาจจินตนาการได้ว่าหานเซี่ยวมีพิมพ์เขียวมากแค่ไหน
แม้จะในระดับเขามันก็ไม่ง่ายที่จะเรียนพิมพ์เขียวสักอันและการวิจัยเครื่องจักรใหม่ก็ต้องใช้ความพยายามมากขึ้น แต่ทว่า เรย์โนลไม่อาจเข้าใจแบล็คสตาร์ได้ และเขาก็ไม่อาจเข้าใจว่าทำไมประสิทธิภาพของแบล็คสตาร์ถึงน่ากลัวขนาดนั้น
นอกจากนี้เรย์โนลยังรู้สึกว่าหานเซี่ยวรับมือกับเขาได้ง่ายขึ้นทุกครั้ง แบล็คสตาร์เป็นภัยพิบัติ แต่เขาไม่ดูเหมือนจะมีคอขวดและสามารถเติบโตได้เรื่อยๆ นี่ทำให้เรย์โนลสับสนมากและรู้สึกว่าหานเซี่ยวไม่อาจหยั่งรู้ได้
เรย์โนลมักรู้สึกว่าเขามีพรสวรรค์มากและมั่นใจตัวเองสูงแต่หานเซี่ยวกลับทำลายความมั่นใจเขา เรย์โนลรู้สึกด้อยกว่าหานเซี่ยวมาก
มีให้เรียนรู้มากจากแบล็คสตาร์และเรย์โนลก็เกลียดความจริงที่เขาไม่อาจใช้ชีวิตทุกนาทีเพื่อติดตามหานเซี่ยวและบันทึกทุกการกระทำได้
หลังเก็บเครื่องจักรไปหานเซี่ยวก็พลันนึกถึงบางสิ่งและถาม”ฝ่ายโลจิสเป็นยังไงบ้าง?”
เมื่อเป็นเรื่องงานสีหน้าของเรย์โนลก็จริงจัง”เรามีทรัพยากรทุกประเภทมากพอ และทุนสำรองเราก็ดี มีแค่ฐาน17 21และ24ที่ขาดทรัพยากร และก็ขาดกระสุน เชื้อเพลิงกับวัสดุสำหรับเครื่องจักรเป็นหลัก สี่วันก่อน ผมได้ส่งทรัพยากรจากฐานที่ใกล้สุดห้าแห่งไปและทรัพยากรกลุ่มแรกก็ควรไปถึงในสองวัน..”
เมื่อได้ยินรายงานหานเซี่ยวก็พยักหน้าและให้เรย์โนลออกไป
ตลอดสองปีที่ผ่านมากองทัพแบล็คสตาร์เติบโตเร็วมากและตามที่คนคาด พวกเขาค่อยๆผูกขาดงานทั้งหมดในระบบดาวกาตอนและตั้งฐานหลายสิบแห่งทั่วระบบดาวกาตอน พวกเขายังสร้างสำนักงานบนดาวแม่โกโดร่า
ผู้เล่นกว่าล้านนำผลประโยชน์มากมายเข้ามาสู่กองทัพหานเซี่ยวยืมแม่ไก่เพื่อวางไข่ และชื่อเสียงแบล็คสตาร์ก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อขนาดของกองทัพแบล็คสตาร์ขยาย ทหารรับจ้างอิสระจำนวนมากขึ้นก็มาเข้าร่วมกองทัพแบล็คสตาร์
ปัจจุบันนอกจากทหารเดนตาย…อะแฮ่ม ผู้เล่น กองทัพก็มีทหารรับจ้างอีกนับแสน นอกจากนี้ จำนวนนักเรียนที่ได้รับการฝึกในค่ายต่างๆยังมากกว่าจำนวนนี้สามถึงสี่เท่า แม้จะพึ่งพาแค่NPC กองทัพแบล็คสตาร์ก็ถือเป็นกลุ่มใหญ่แล้ว
เป้าหมายของค่ายฝึกไม่ได้จำกัดแค่ทหารรับจ้างอิสระที่ไม่ผ่านแต่ยังเป็นบุคคลทั่วไปไร้พื้นฐาน ในฐานต่างๆ มีคนหนุ่มที่อยากเข้าจักรวาลหรือกลายเป็นพวกพิเศษ
ทั่วกองทัพได้ปรับโครงสร้างใหม่ด้วยระบบที่ชัดเจนขึ้นเจ้าหน้าที่ทุกคนมีบทบาทเป็นของตัวเอง บางคนเป็นผู้จัดการภูมิภาคเพื่อจัดการกับทีมทหารรับจ้างนับแสน ทหารรับจ้างหัวกะทิที่จะจัดการงานระดับสูง ผู้บัญชาการกองยาน ผู้ฝึกในค่าย และเลขาของผู้บัญชาการกองทัพ
ตำแหน่งของรองผู้บัญชาการทัพยังว่างคนที่นั่งในตำแหน่งนี้ต้องทรงพลังมากพอจะโน้มน้าวทุกคนในกองทัพ หานเซี่ยวเป็นแค่ภัยพิบัติคนเดียวในกองทัพ และรองผู้บัญชาการก็ต้องเป็นภัยพิบัติเช่นกัน ในหมู่เจ้าหน้าที่เขา มีเพียงเรย์โนลถึงใกล้เคียงสุด
สองปีได้ผ่านไปหานเซี่ยวจ้างพวกพิเศษเกรดBมานับร้อย มีบางคนที่เริ่มเข้ากองทัพเอง และคนอื่นก็มีอยู่ในความทรงจำเขา มีตัวละครเอกเกรดต่ำบางคนที่มาเติมเต็มชนชั้นกลางของกองทัพ
หลังผูกขาดระบบดาวกาตอนหานเซี่ยวก็ขยายต่อด้วยการใช้ระบบดาวกาตอนเป็นแกน เขาเริ่มตั้งเป้าไปยังระบบดาวหลายแห่งรอบๆ
ยิ่งกองทัพเขาครอบครองตลาดใหญ่แค่ไหนความต้องการก็ยิ่งมาก
ในฐานะวัยรุ่นที่เติบโตในสังคมทุนนิยมหานเซี่ยวลงทุนทรัพยากรทั้งหมดเขากับการสร้างฐานใหม่และขยายกองยานเขา พยายามอย่างดีสุดดเพื่อสร้างวัฏจักรของผลประโยชน์ไร้สิ้นสุด
ปัจจุบันกองทัพแบล็คสตาร์มี26กองยาน ซึ่งรับผิดชอบหน้าที่ต่างๆเช่นการรบ ขนส่ง กำลังเสริมและอื่นๆ กองทัพแบล็คสตาร์มียานถึง1600ลำและก็มาจากการปล้นโจรสลัดอวกาศ…แค่ก แค่ก กำจัดพวกทรราชเพื่อช่วยคนอ่อนแอ
จำนวนของฐานยังเพิ่มเป็น34แห่งและนอกจากนอเรียสและโรซอสซี่กองทัพแบล็คสตาร์ยังมีผู้สนับสนุนอีกสามราย สองแห่งเป็นกลุ่มการเงินธรรมดาและหนึ่งในนั้นก็คือรัฐบาลโกโดร่า พวกเขาทำให้ทรัพยากรของแบล็คสตาร์เพิ่มขึ้นมาก
อิทธิพลของกองกำลังพวกเขาขยับขยายออกไปและกองทัพแบล็คสตาร์ก็ได้รับการจัดอันดับให้เป็นองค์กรชื่อดังภายในกลุ่มดาวโคลตัน ครั้งนี้ มันคือเกาะมังกรที่ได้รับผลประโยชน์จากชื่อกองทัพแบล็คสตาร์ พลังของทีมภาคสนามเกาะมังกรทำให้เอเมสไม่ใช่แค่ผู้ทรงอำนาจคนเดียวของเกาะมังกร
แต่ทว่าหานเซี่ยวสามารถรู้สึกว่าการพัฒนากองกำลังเขากำลังมาถึงคอขวด
ในฐานะกลุ่มทหารรับจ้างกองทัพแบล็คสตาร์ได้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว และหากพวกเขาขยายการดำเนินงานต่อไป ประสิทธิภาพพวกเขาย่อมลดลง ระยะทางเป็นข้อจำกัดที่ชัดเจนมาก ยิ่งขอบเขตการดำเนินงานกว้าง พลังของกองกำลังก็ยิ่งสูง การผูกขาดระบบดาวกาตอนมาถึงขีดจำกัดแล้วและพวกเขาก็ไม่มีความสามารถผูกขาดระบบดาวอีกแห่ง
เหตุผล้เบื้องหลังคอขวดของกองกำกลังย่อมเป็นตัวกองกำลังทหารรับจ้างเป็นองค์กรที่สบายมากและหากอยากเข้าสู่ระดับต่อไป องค์กรก็ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้ภารกิจจ้างงานมีความสำคัญเป็นรอง กองกำลังต้องกลายเป็นองค์กรติดอาวุธกึ่งเอกชนเช่นแดนหลั่งเลือด
ความยากของงานดังกล่าวสูงมากและนี่ไม่ใช่เวลาจะทำการเปลี่ยนแปลงแบบนั้น แต่ทว่า หานเซี่ยวก็วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้วและรู้ว่านี่เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องทำในที่สุด
“สิ่งเดียวที่ฉันไม่กังวลคือพลังฉัน..”
ในชั่วพริบตาหานเซี่ยวก็มาถึงระดับ170แล้ว ระดับเขาเพิ่มขึ้นอีก20ระดับและก็ติดอยู่กับภารกิจเลื่อนขั้นสายอาชีพ[ช่างกลกาแล็กซี่]
นี่เพราะหานเซี่ยวไม่สนใจกับการยกระดับแต่เป็นการเก็บค่าประสบการณ์ค่าประสบการณ์สะสมเขาพุ่งสูงมากและแม้จะด้วยระดับปัจจุบัน ค่าประสบการณ์ที่เขาเก็บไว้ก็เพียงพอสำหรับการเลื่อนนับสิบระดับ
แต่ทว่าหานเซี่ยวไม่ทำ เขาไม่เคยเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งตลอดสองปีและไม่รีบเพิ่มระดับเขา เช่นนั้น เขาจึงลงทุนค่าประสบกาณณ์เป็นทักษะเพื่อแลกกับแต้มศักยภาพและพนันพิมพ์เขียวแทน
ที่สำคัญกว่าหานเซี่ยววพิจารณาถึงปัญหาของเวอร์ชั่นถัดไป
เวลาที่ใช้ในการอัปเดทเวอร์ชั่นถัดไปคือสิบปีเต็มในเกมนี่หมายความว่ามันจะไม่มีการเก็บเกี่ยวสิบปีเต็ม
“เราได้มาถึงช่วงท้ายเวอร์ชั่น2.0แล้วการอัปเดทควรเกิดหลังโปรลีก เห้อ สิบปีเต็ม..”
หานเซี่ยวอดถอนหายใจยาวไม่ได้จากนั้นก็เปิดหน้าต่างสถานะเขาเพื่อดูสถานะส่วนตัว
ระดับ: 170
สายหลัก: ช่างกล
เผ่าพันธ์: ผู้สังเกตโกลาหล(ร่างมนุษย์)
ค่าสถานะ: 254พละกำลัง 634ความเชี่ยวชาญ 608ความทนทาน 1956สติปัญญา 263ลี้ลับ 105เสน่ห์ 1โชค
แต้มสถานะ: 0
แต้มศักยภาพ: 31
พลังชีวิตซ 93732
ความแข็งแกร่ง: 94180
พลังงาน: 17580[ระดับ11]
สถานะโบนัสพลังงานระดับ11: +111พละกำลัง +158ความเชี่ยวชาญ +174ความทนทาน +204สติปัญญา +129ลี้ลับ +21220ความแข็งแกร่ง +142%ความสัมพันธ์กับเครื่องจักร
ขั้นพลังงาน: 14780
เกรด: A
โบนัสเกรดA: +10ความทนทาน +8ความต้านทานทั้งหมด +10%สถานะสูงสุด +5%สถานะอื่น แต้มสถานะเพิ่มเติม30แต้ม แต้มศักยภาพเพิ่มเติม5แต้ม
ท่านเป็นตัวตนระดับAมากประสบการณ์และศัตรูของท่านก็จะได้ลิ้มรสฝันร้าย
เทียบกับการพัฒนากองกำลังพลังเขาไม่เจอกับคอขวด หากเขาเจอกับภารกิจเลื่อนสายอาชีพหรือเลื่อนระดับที่ผิดปกติ เขายังใช้บัตรสำเร็จภารกิจได้
ตราบเท่าที่ค่าประสบการณ์สะสมเขายังคงเพิ่มนี่ก็เป็นสิ่งที่หานเซี่ยวไม่ต้องกังวลมาก
ระดับเขาไม่ใช่ส่วนเดียวที่สนับสนุนพลังเขาตลอดสองปี หานเซี่ยวได้มองหาพรสวรรค์ตลอด
แม้หานเซี่ยวจะยังไม่มีเบาะแสกับการเอาพรสวรรค์ของเรย์โนลหานเซี่ยวก็สามารถคว้าพรสวรรค์ที่คล้ายกันอย่าง[สัมผัสจักรกลเกรดเบื้องต้น]ได้
พรสวรรค์[รากฐานชีวิตขั้นกลาง]เขายังได้รับการแจ้งเตือนว่าแข็งแกร่งขึ้นหานเซี่ยวประเมินว่าเขาควรเพิ่มระดับพรสวรรค์เขาได้หากกินยาพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตหายาก
มันน่าเสียดายที่ความสามารถการปั้นหายากเกินไปและหานเซี่ยวก็สามารถได้รับแค่พรสวรรค์ธรรมดา
นอกจากการเปลี่ยนแปลงของค่าสถานะบนหน้าต่างสถานะการเปลี่ยนแปลงในระดับพลังเขายังเห็นได้ชัด!
กองทัพจักรกลของหานเซี่ยวได้ขยายใหญ่ขึ้นและเขาก็เสริมกลยุทธ์ต่อสู้ในรูปแบบต่างๆเขายังเสริมเครื่องจักรเกรดภัยพิบัติใหม่และความสามารถต่อสู้เขาก็รอบด้านกว่าเดิม เขาเปลี่ยนไปจากสองปีก่อนมากและรู้สึกว่าเขาควรสามารถสู้กับตัวเองจากสองปีก่อนได้5-6คนพร้อมกัน
หวือ!
ตอนนั้นเองประตูห้องพลันเปิดและซิลเวียก็ยืนอยู่ด้านนอก
“อาจารย์มีพวกทหารรับจ้างอยากเจอคุณ พวกเขาบอกว่าพวกเขามีข้อมูลสำคัญ”
สองปีก่อนซิลเวียยังเป็นสาววัยรุ่นและตอนนี้ เธอก็โตขึ้นมากแล้วเธอเป็นสาวสวยที่มีส่วนสูงกับร่างกายสมบูรณ์
ตำแหน่งเธอคือเลขาของหานเซี่ยวและศักยภาพเธอก็ได้รับการปลดปล่อยเต็มที่
การบ้านที่หานเซี่ยวมอบให้เธอสามารถทำให้ซิลเวียจากสองปีก่อนเป็นซิลเวียในปัจจุบันได้เธอโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ศักยภาพเธอจะไม่ได้รับการแปลงเป็นพลังเพราะขาดเวลา เธอก็สามารถปล่อยพลังของยอดมนุษย์ระดับC+ได้ด้วยชุดจักรกลที่หานเซี่ยวสร้างให้เธอ เธอสามารถปะทะกับเกรดBทั่วไปได้บ้างและค่อยๆได้รับกลิ่นอายของอัศวินสาวช้าๆ
หานเซี่ยวมองซิลเวียสักพักก่อนถาม”ใครกัน?”
“คนเหล่านี้”ซิลเวียส่งข้อมูลให้หานเซี่ยวผู้ตกตะลึงไปสักพัก คนที่อยากเจอเขาก็คือดาบคลั่ง ห่าวเทียนและพรรคพวก