ตอนที่ 632 กันดั้มคือความหลงใหลของผู้ชาย
จุดรวมตัวตั้งอยู่ในระบบดาวอีกแห่งภายในกลุ่มดาวโคลตันไกลจากกาตอนมาก หานเซี่วยให้ริสด้าบินพาเขาไปดาวนั้น
นี่คือดาวไร้คนอาศัยเมื่อยานแสงทมิฬมาถึงพิกัด มันก็มียานอวกาศมากมายจอดอยู่ และฝูงชนก็ก่อตัวแล้ว พวกเขาแหงนมองผู้มาใหม่
ยานอวกาศลอยลงหานเซี่ยวเดินออกมาและมองรอบๆ มีคนแค่สองคนที่มีสัญญาณระดับA ดูเหมือนจะเป็นผู้นำ แต่พวกเขาไม่คุ้นหน้า ทั้งคู่นำกลุ่มคนมา หมายความว่าปัจจุบันมีสององค์กร
“แบล็คสตาร์แห่งระบบดาวกาตอน?ฉันเคยได้ยินชื่อเขา”
“เขาก็มาด้วย”
“เขาไม่ได้นำทหารรับจ้างอมตะเหล่านั้นมาด้วย?”
ฝูงชนมองหานเซี่ยวอย่างแปลกใจ
สมาชิกของอารยธรรมผลึกม่วงออกจากยานและยืนตรงหน้าหานเซี่ยว”ยินดีต้อนรับแบล็คสตาร์ ผมคือคนรับผิดชอบปฏิบัติการนี้ นักการฑูตระดับ3ของแผนกบริการลับ4 ด็อดเดอร์”
“สวัสดี”หานเซี่ยวพยักหน้า”แล้วราล์ฟละ?”
“ตำแหน่งของท่านราล์ฟสูงมากผมคือผู้ใต้บังคับบัญชาเขา ปฏิบัติการนี้ไม่ต้องให้เขามารับผิดชอบเอง”
ตำแหน่งของราล์ฟสูงมากในอารยธรรมผลึกม่วงสิ่งที่เขาไม่รู้คือ คนทั้งหมดที่ถูกเชิญมานี้ เขาเป็นคนเดียวที่ราล์ฟเชิญมาด้วยตัวเอง คนอื่นแค่มีการติดต่อกับด็อดเดอร์เท่านั้น
มันพิเศษเพราะหานเซี่ยวเคยเข้าร่วมงานของฮีเบอร์มาก่อนสำหรับราล์ฟ แบล็คสตาร์คือคนของแวดวงชั้นสูง ดังนั้นเขาจึงต้องเชิญหานเซี่ยวเอง
“มีสามองค์กรที่จะทำงานร่วมกันในปฏิบัติการนี้ผมขอแนะนำอีกสองคนให้คุณรู้จัก”
ด็อดเดอร์พาหานเซี่ยวไปแนะนำกับผู้นำของสององค์กร
“นี่คือเจย์เน่เอสเปอร์ที่แข็งแกร่ง คนอื่นเรียกเขาว่า’คลื่นสะเทือน’ นี่คือกาเดลี ฉายาเขาคือ’ปืนใหญ่ร้อยกระบอก’ เขาเป็นผู้ใช้ปืนใหญ่”
ทั้งสองสำรวจหานเซี่ยวและจับมือด้วยความเคารพ
อุปกรณ์ของเจย์เน่และกาเดลีซับซ้อนมากโดยเฉพาะของกาเดลี ชุดรบเขาทำจากนาโนเทคโนโลยี หานเซี่ยวสามารถเห็นได้ว่าชุดรบนี้มีการเปลี่ยนรูปแบบที่แข็งแกร่งมาก ชายคนนี้คือผู้ใช้ปืนใหญ่ ดังนั้นเขาอาจมีไพ่ตายในส่วนต่างๆของชุดและสวมบนตัว
หานเซี่ยวไม่เคยได้ยินชื่อสองคนมาก่อนดังนั้นเขาจึงบอกฟิลลิปให้ค้นหา จากนั้นก็ตระหนักว่าทั้งสองไม่ใช่ทหารรับจ้างแต่เป็นองค์กรทหารเอกชนขนาดเล็กที่เพิ่งก่อตั้งไม่กี่ปีก่อนและมีขนาดค่อนข้างเล็ก
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้กองทัพแบล็คสตาร์เองก็สร้างได้ไม่กี่ปี แต่มันกลับขยับขยายอย่างรวดเร็ว
ในกาแล็กซี่จำนวนองค์กรเช่นนั้นอยู่ต่ำกว่ากลุ่มทหารรับจ้าง มีหลายเหตุผลที่องค์กรเหล่านี้สร้างขึ้น แต่มันสามารถจัดได้เป็นสองหมวดหมู่ หนึ่งคือเหตุผลส่วนตัว องค์กรเหล่านี้มีเป้าหมายของตนและไม่ยอมรับคำขอ
อีกหนึ่งก็คล้ายกับทหารรับจ้างแต่ไม่ยอมรับงานจ้างสาธารณะเช่นทหารรับจ้างปกติพวกเขาจะยอมรับคำเชิญส่วนตัวหรือมองหาหุ้นส่วนระยะยาว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมทหารรับจ้าง พวกเขามีข้อบังคับที่เข้มงวดต่อสมาชิกกว่าทหารรับจ้าง แดนหลั่งเลือดจัดอยู่ในหมวดนี้
โดยปกติตราบเท่าที่ผู้จัดการมีเงินและพลังพอ มันก็จัดตั้งกองทัพส่วนตัวได้ง่ายๆ พลังของผู้นำคือเพดานกองทัพ พวกที่สร้างโดยตัวตนระดับภัยพิบัติย่อมแข็งแกร่ง เจย์เน่และกาเดลีสร้างองค์กรแบบนั้น หานเซี่ยวไม่รู้จักทั้งสอง แต่ทั้งสองกลับรู้จักหานเซี่ยว
คราวนี้เจย์เน่พลันถามด้วยน้ำเสียงสับสน”คุณมาคนเดียวงั้นหรอ?”
“แค่ผมคนเดียวก็พอแล้ว”หานเซี่ยวยิ้มเนื่องจากนี่เป็นภารกิจฉับพลัน เขาจึงไม่เสียเวลารวมคนอื่น
เจย์เน่และกาเดลีมองหน้ากันอย่างมีความสุข
พวกเขาเป็นองค์กรใหม่ดังนั้นปฏิบัติการร่วมมือจึงเป็นโอกาสอันดีให้ติดต่อกับอารยธรรมผลึกม่วง สำหรับทั้งสอง นี่เป็นการแข่งขันเพื่อเป็นหุ้นส่วนระยะยาวกับอารยธรรมผลึกม่วง องค์กรอื่นคือคู่แข่ง พวกเขาจึงแสดงฝีมือให้ดี
เดิมทีเมื่อเห็นแบล็คสตาร์ พวกเขาก็กังวลมาก หากแบล็คสตาร์นำทัพอมตะมาด้วยว ทั้งสองคงไม่อาจแข่งขันด้วยได้
แต่ทว่าตอนนี้พวกเขาตระหนักว่าแบล็คสตาร์มาลำพัง พวกเขารู้สึกโล่งใจที่มีโอกาสได้แสดงฝีมือ
หลังแนะนำด็อดเดอร์ก็นำแผนที่ดาวออกมาและอธิบายรายละเอียด
“ปัจจุบันเราอยู่ในเขตดารา3ของระบบดาวพันแสงเป้าหมายคือเขตดารา7 ตามการเคลื่อนไหวของเป้าหมาย เราสามารถสกัดกั้นพวกมันได้ในเขตดารา9…”
“เรามีสามภัยพิบัติและยานรบ44ลำเป้าหมายมียานรบ65ลำ แต่บางลำมีพลเรือนอยู่ ดังนั้น ความสามารถการรบจริงๆย่อมต่ำกว่านั้น พลังของสมาชิกไม่อาจรับรู้ พวกเขาเข้ากลุ่มดาวโคลตันมาจากจักรวาลรกร้างและไม่ผ่านการตรวจสอบตัวตนใดๆ พวกเขายังไม่หยุดและเติมเสบียงระหว่างทาง”
คนอื่นพยักหน้าเครือข่ายข่าวกรองของอารยธรรมผลึกม่วงครอบคลุมทั้งกลุ่มดาว สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือเร่งรีบ พวกเขามีสามภัยพิบัติ ดังนั้นความได้เปรียบของศัตรูก็แค่ยานรบกว่ายี่สิบลำ
“แค่กองยานเล็กๆ..”หานเซี่ยวเลิกคิ้วเดิมทีเขาคิดว่ามันเป็นภารกิจความยากสูง แต่มันกลับเป็นกุ้งตัวน้อย แต่อารยธรรมผลึกม่วงก็ยังเชิญภัยพิบัติมา หานเซี่ยวรู้สึกว่าเป้าหมายหลักพวกเขาน่าจะเป็นการคัดเลือกองค์กรทหารส่วนตัวใหม่มาร่วมงานกันในอนาคต
ตึง!
การแจ้งเตือนปรากฏบนหน้าต่างสถานะ
ท่านได้กระตุ้นภารกิจ[การเตือนของอารยธรรมผลึกม่วง]!
หานเซี่ยวรีบสแกนและข้ามรางวัลค่าประสบการณ์ไปแม้รางวัลจะได้เงินกว่าล้านอีนาส แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขาตอนนี้
รางวัลเดียวที่เขารู้สึกคุ้มค่าคือแต้มกองกำลังของอารยธรรมผลึกม่วงซึ่งคือ330แต้ม
ยิ่งกองกำลังระดับสูงมันยิ่งยากจะได้รับความโปรดปราน แต่ทว่า เนื่องจากแต้มตำนานและฉายาของหานเซี่ยว ความสัมพันธ์เขากับอารยธรรมผลึกม่วงจึงไม่เริ่มด้วย[ไม่แยแส]แต่เป็น[เป็นกลาง] ดังนั้นเขาจึงเริ่มความโปรดปรานที่450
เพื่อได้รับความรู้ล้ำยุคการเก็บเกี่ยวความโปรดปรานคือวิธีที่ประสบความสำเร็จสูงุสด
คราวนี้ด็อดเดอร์พลันนึกถึงบางสิ่ง
“อีกสิ่งหนึ่งอารยธรรมระบบดาวที่ปกครองระบบดาวพันแสงได้ร้องขอการสนับสนุนจากอารยธรรมผลึกม่วง หนึ่งในคนที่แข็งแกร่งสุดของพวกเขาหายไป ดังนั้นพวกเขาจึงร้องขอให้ช่วยหาเขา คนที่หายไปชื่อเคอนิด ฉายาวอล็อคม่วง นี่คือหน้าตาเขา หากคุณพบเจอเบาะแสใด โปรดบอกผม”
หานเซี่ยวตกตะลึงชื่อนี้ฟังดูคุ้นมาก
เคอนิดดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในรายชื่อเป้าหมาย
หานเซี่ยวพลันเก็บเรื่องนี้ไว้
…
เป้าหมายของปฏิบัติการร่วมมือคือกองยานที่ปลอมเป็นนักเดินทางที่ค่อยๆเคลื่อนผ่านเขตดารา9ของระบบดาวพันแสง
ในห้องบัญชาการของยานหลักกัปตัน เบร็ตกำลังบันทึกข้อมูลต่างๆ
“บันทึกเดินทางK-003015 มันเป็นเวลา134วันนับตั้งแต่เข้าสู่กลุ่มดาวโคลตัน ทุกอย่างปกติดี ปัจจุบันกำลังรวบรวมข้อมูลครั้งที่6 พื้นที่ลาดตระเวนคือระบบดาวพันแสง การถ่ายโอนข้อมูลเพื่อพัฒนาอารยธรรม ระบบนิเวศของดาวเคราะห์พลเรือน ความปลอดภัยและอื่นๆเสร็จสิ้น สถานีถัดไปคือพื้นที่ใจกลางกลุ่มดาวโคลตัน ระบบดาวเพดานแสง เราจะรวบรวมข้อมูลของอารยธรรมผลึกม่วงที่นั่น”
หลังบันทึกถูกส่งออกไประบบก็ทำลายข้อมูลจนหมด
เบร็ตถูตาและบรรเทาความเหนื่อยล้า
“เตือนภัย!เตือนภัย!ตรวจพบกองยานกำลังเข้าใกล้!”
ครั้งนี้แสงภายในห้องพลันเป็นสีแดง เสียงเตือนของปัญญาประดิษฐ์ดังขึ้น เขารีบไปหน้าจอเรดาห์ที่กองยานแปลกหน้ากำลังมุ่งมาทางพวกเขา
“ส่งข้อความออกไปและถามเจตนา”เบร็ตตะโกน”บอกพวกเขาว่าเราแค่นักเดินทาง”
แต่เหมือนกับการขว้างก้อนหินลงทะเล ข้อความไม่ได้รับการตอบกลับ
ในไม่ช้ากองยานก็ปรากฏและโดยไม่ลังเล มันก็เริ่มยิงใส่กองยานของเบร็ต การต่อสู้พลันปะทุ!
“พวกมันไม่ใช่โจรสลัดเราตกเป็นเป้าแล้ว!”เบร็ตมีประสบการณ์ เขาพลันรู้ว่าสถานการณ์เป็นยังไง
เบร็ตสั่งโต้ตอบอย่างเด็ดขาดพลางบันทึกวิดิโอและส่งกลับไปยังองค์กรเขาปล่อยให้ศูนย์ใหญ่รู้กันเองว่าศัตรูเป็นใคร
กองยานนี้เป็นของหานเซี่ยวและคนอื่นเจย์เน่และกาเดลีกำลังสั่งการกองยานและสู้กับศัตรู ยานแสงทมิฬคอยดูอยู่ข้างๆ
ในห้องนักบินหานเซี่ยวมองสนามรบและหรี่ตา
“แม้ศัตรูจะไม่เป็นภัยคุกคามมากมันก็เป็นโอกาสให้ทดสอบอาวุธใหม่ฉัน”
เมื่อคิดหานเซี่ยวก็เปลี่ยนเป็นนักบินอัตโนมัติและเดินไปบริเวณส่วนกลางของยาน ชุดลิงคลั่งคลุมร่างเขา เขากระโดดเข้าไปในอวกาศตรงๆ
ความแตกต่างระหว่างขนาดของหานเซี่ยวและยานรบก็เหมือนมดกับช้างแต่ในวินาทีต่อมา แสงของพลังจักรกลก็สว่างวาบ อะไหล่จักรกลนับไม่ถ้วนขยายจากภายในชุดจักรกลลิงคลั่ง และบอลบีบอัดก็เปิดทีละลูก
ในชั่วพริบตาชุดจักรกลทหารยักษ์สูงสามสิบเมตรประกอบตัวขึ้น ขนาดมันไม่แตกต่างจากยานจู่โจมขนาดเล็กเลย คลื่นพลังงานพลันดึงดูดความสนใจและสร้างความประหลาดใจไปทั่ว
ทหารยักษ์ผู้ทำลาย รุ่น3!
ในช่วงสองปีที่ผ่านมาหลังได้รับความรู้ขั้นสูงมามาก หานเซี่ยวก็ทำการย้อนพิมพ์เขียวของยานรบและเรียนสร้างยานรบได้ ด้วยเทคโนโลยีนี้ เขาจึงพัฒนาพิมพ์เขียวทหารยักษ์ที่แครอลส่งมอบให้เขาได้ เขาพัฒนามันขึ้นสองช่างและเสริมอะไหล่มากมาย เทียบกับรุ่นแรก รุ่นสามดูน่าพึงพอใจกว่า จากร่างทรงหลอด มันกลายเป็นทรงมนุษย์ มีแขนขาและหัว
ชุดจักรกลทหารยักษ์สร้างขึ้นเพื่อการต่อสู้ทางอวกาศดังนั้นพลังรบมันย่อมสูง ด้วยโบนัสพลังจักรกลของหานเซี่ยว ทหารยักษ์นี้จึงน่ากลัวมาก นอกจากการบุกรุกเสมือน ตอนนี้หานเซี่ยวยังมีอีกวิธีในการต่อสู้ทางอวกาศ
ในห้องนักบินของผู้ทำลายยานรุ่น3หานเซี่ยวทำการเชื่อมต่อประสาท ชุดจักรกลยักษ์กลายเป็นควบคุมได้ง่ายๆเหมือนแขนขาเขาเอง และภาระเล็กน้อยต่อสมองก็ไร้ค่าต่อคนอย่างเขา
“มันนานมาแล้วที่ฉันไม่ได้ขับชุดจักรกลใหญ่แบบนี้ฝีมือฉันจะขึ้นสนิทหรือเปล่าเนี่ย”
ดวงตาของเบร็ตเบิกกว้างเสียงของเขาดังไปทั่ว”มันคือชุดจักรกลทหารยักษ์!ระดมยิงมันและทำลายมันให้ได้!”
ผู้บัญชาการที่มีคุณสมบัติทุกคนรู้ว่าทหารยักษ์สามารถทำอะไรได้บ้างเทียบกับยานรบเทอะทะ ความคล่องตัวของชุดจักรกลทหารยักษ์เรียกได้ว่าเป็นฝันร้าย ทันทีที่ทหารยักษ์ปรากฏในการต่อสู้อวกาศ พวกมันย่อมเป็นเป้าหมายหลัก
ขีปนาวุธนับไม่ถ้วนพุ่งผ่านอวกาศและขยายในสายตาหานเซี่ยวแต่ความรู้สึกคาดหวังก็ปรากฏบนหน้าหานเซี่ยว
ด้วยความคิดร่างจักรกลสามมิติก็ทำงาน เหมือนกระสุน มันพุ่งเข้าฝนกระสุน หลบหลีกอย่างต่อเนื่องพลางใช้ม่านพลังงานระดับสูงขัดขวาง
ทักษะการขับของหานเซี่ยวได้รับการยกย่องมาตลอดมีเพียงชุดจักรกลทหารยักษ์เท่านั้นที่ช่วยให้เขาแสดงฝีมือจริงได้
ชุดจักรกลยักษ์เคลื่อนตัวเหมือนเงาเข้าใกล้กองยานศัตรูอย่างรวดเร็ว
ครั้งนี้ปืนใหญ่สองกระบอกยื่นออกจากด้านหลังของหุ่นและติดตั้งบนไหล่สองข้าง พวกมันยิงลำแสงพลังงานหนาออกไปสั่นคลอนม่านพลังของยานศัตรูหลายลำ
จากนั้นโล่ลอยขนาดใหญ่สี่อันก็ปรากฏ ล้อมชุดจักรกลทหารยักษ์ไว้
วินาทีที่หานเซี่ยวนำชุดจักรกลทหารยักษ์ออกมาความสนใจของสนามรบทั้งหมดก็มุ่งมาที่เขา!
หลังผ่านไปไม่นานชุดจักรกลก็เข้าใกล้ยานศัตรูตรงขอบขบวนรบได้และถูกหยุดโดยม่านพลังของยาน ครั้งนี้ อวกาศรอบทหารยักษ์พลันโค้งงอ หานเซี่ยวเปิดใช้คลื่นอัดกระแทกต่อต้านม่านพลัง ม่านพลังของยานศัตรูตรงหน้าเขาหม่นแสงและเริ่มกระพริบ พลังป้องกันมันลดฮวบ
หานเซี่ยวไม่เสียเวลาไปเปล่าประโยชน์ตลอดสองปีเขาใช้ค่าประสบการณ์นับไม่ถ้วนและสร้างอุปกรณ์ใหม่มากมาย เทคโนลีต่างๆถูกอัดใส่หุ่นนี้
วินาทีถัดมาเลื่อยความร้อนก็ยื่นออกจากมือของมัน ฟันลงและตัดยานศัตรูเหมือนผ่าเต้าหู้
เวลาดูเหมือนจะถูกหยุด
วินาทีต่อมายานศัตรูที่ถูกผ่าครึ่งก็ระเบิด หากไม่ใช่เพราะสูญญากาศ เสียงระเบิดคงดังจนหูหนวก
เมื่อมองไปยังการระเบิดเจย์เน่และกาเดลีก็หน้าเปลี่ยนสี
ไม่มีทางที่ฝีมือพวกเขาจะเหนือไปกว่าชุดจักรกลทหารยักษ์ของแบล็คสตาร์
อย่างที่แบล็คสตาร์กล่าวแค่เขาคนเดียวก็เกินพอแล้ว
“มันต้องใช้เงินมากแค่ไหนเพื่อสร้างทหารยักษ์นี้?”เจย์เน่พึมพำ
กาเดลีกัดฟันด้วยความอิจฉา”บ้าจริงการเป็นคนรวยต้องรู้สึกดีมากแน่ๆ!”