Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

The Legendary Mechanic - ตอนที่ 655 ศึกแรก

เรื่อง The Legendary Mechanic - ตอนที่ 655 ศึกแรก

ตอนที่ 655 ศึกแรก
  กองยานของกองทัพแบล็คสตาร์ผสมกับกองกำลังอื่นเดินไปข้างหน้าเต็มกำลัง จากด้านนอก คนสามารถเห็นได้แค่เส้นแสง คล้ายกับฝนดาวตก
  “แนวหน้าจะโจมตีและเปิดแนวป้องกันโจมตีฐานศัตรูจากอวกาศ ช่วยให้พลังยิงปกคลุมแนวรับอื่น สำหรับเรา เราจะรับผิดชอบการขนาบข้าง ยับยั้งศัตรูไม่ให้ไปเสริมกำลัง”
  ภายในห้องขับหานเซี่ยวกำลังสื่อสารกับผู้บัญชาการคนอื่น
  โครงสร้างบัญชาการของกองทัพแบล็คสตาร์ได้รับการแก้ไขแล้วจากสามร้อยยานที่มี พวกเขาแบ่งเป็นหลายกองยาน โดยมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบแต่ละกองยาน นี่ช่วยให้การปรับกลยุทธ์ยืดหยุ่นขึ้น
  “ลากีฉันจะมอบภารกิจรุกให้นาย นอกจากนี้ เรามีพันธมิตรหลายคนที่ส่งภัยพิบัติมาข้างนาย ภารกิจนายคือการทำลายกองยานศัตรูให้ได้มากที่สุด แน่นอน ความปลอดภัยของนายสำคัญสุด”
  น้ำเสียงหานเซี่ยวเข้มงวดมากในช่วงสงครามดวงดาว ภัยพิบัติจะมีหน้าที่ตัดหัวผู้บัญชาการของกองยานตรงข้าม แต่ทว่า พวกเขาสามารถเข้าสนามรบหลักได้ด้วย ความสามารถต่อสู้หมายถึงความยืดหยุ่นสูงหากไม่มีภัยพิบัติอื่นจากฝั่งศัตรูมายับยั้ง ภัยพิบัติจะสามารถสร้างความเสียหายให้กับกองยานได้มาก แม้กรัทั่งมีโอกาสส่งผลต่อสถานการณ์รวม
  ตัวอย่างเช่นความสามารถของชานะที่เป็นอาวุธทำลายล้างในการต่อสู้ระหว่างดวงดาว
  ในสนามรบระหว่างดวงดาวตัวตนระดับAมักทำให้ผู้บัญชาการกองยานต้องปวดหัว นี่เพราะความไม่แน่นอน ทำให้พวกเขายากจะรับมือ ภัยพิบัติทีท่ได้รับการปกป้องโดยกองยานจะยิ่งอันตราย
  อย่างไรก็ตามมันยังอันตรายสำหรับภัยพิบัติที่จะไปปะทะกับกองยาน หากประมาท พวกเขาอาจถูกปืนใหญ่ยานนับพันรุมยิงและชีวิตก็จะถูกพรากไป แต่ทว่า หานเซี่ยวมั่นใจในตัวลากี เขารู้วิธีป้องกันตัวเอง ดังนั้นจึงไม่ควรเป็นปัญหา
  “เห้อ”ลากีถอนหายใจไม่พูดออกมา
  ตึงตึง!
  ยานอวกาศสั่นสะเทือนและออกจากไฮเปอร์ไดรฟ์คิ้วของหานเซี่ยวขมวด และเขาก็เปิดใช้เรดาห์ทันที พื้นที่สีแดงถูกทำเครื่องหมายไว้บนเรดาห์
  “เรามาถึงแล้วตรงหน้าเราควรเป็นฐานที่มั่นของศัตรู”
  หานเซี่ยวสูดหายใจ
  เวลาสองสามปีได้ผ่านไแต่พวกเขายังมาทำสงครามกับแดนหลั่งเลือด
  ในช่องสื่อสารผู้บัญชาการหลายคนกลั้นหายใจไว้
  มันไม่น่าแปลกใจที่สมาชิกของเซ็คชั่นซีโร่จะประหม่าชื่อเสียงของแดนหลั่งเลือดยิ่งใหญ่มาก ไม่มีใครกล้าดูถูกฮีเบอร์
  หานเซี่ยวพบว่ากองยานของแดนหลั่งเลือดรวมตัวกันเป็นแนวต่างๆโดยจะมียานหลักเป็นแดน
  “คำเตือนคำเตือน ตรวจพบพลังงานสูง โปรดใช้ความระมัดระวัง ฮึม!’
  เวลานั้นหานเซี่ยวก็ได้รับการเตือนจากฟิลลิป ตะโกนบอกคนอื่นและกองยานเขาก็ขับหลบ
  วินาทีถัดมากองยานของแดนหลั่งเลือดก็ปล่อยจุดแสงนับไม่ถ้วน นี่ตามมาด้วยปืนใหญ่อนุภาคพลังงานสูงที่ยิงใส่กองกำลังผสม พวกมันกินม่านพลังของยานต่างๆก่อนหายไปในระยะไกล ยานหลายลำหลบไม่ทัน และม่านพลังพวกเขาก็กระพริบรัวๆ
  “รุนแรงมากโจมตีทันทีที่เจอเรา”ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย
  ตึง
  เวลานั้นเองฟิลลิปก็พูด”ยอมรับคำแนะนำทางยุทธวิธี ท่านอยากดำเนินการทันทีหรือไม่?”
  ภายในหน้าจอเสมือนขบวนรบของทั้งสองกองยานเปลี่ยนเป็นรูปแบบสามมิติ สถานการณ์ชัดเจนมาก การเคลื่อนไหวทางยุทธวิธีของกองยานเขาโดดเด่นมาก ภายในกองกำลังของหานเซี่ยว ยานแต่ละลำจะมีเป้าหมายของตนและกองยานศัตรูก็ถูกทำเครื่องหมายสีแดง นี่คือภารกิจพวกเขา ด้านบนซ้ายของหน้าจอมีพารามิเตอร์ต่างๆเช่นเดียวกับเวลาปะทะ
  ผู้บัญชาการด้านหลังจะปรับยุทธวิธีและออกคำสั่งใหม่ตลอดเวลาตามสถานการณ์วิธีการนี้ทำให้แต่ละทีมปฏิบัติหน้าที่ได้โดยไม่สับสน
  หลังมองกระดานยุทธวิธีหานเซี่ยวก็พยักหน้า
  “ดำเนินการทันที!”
  กองยานแบล็คสตาร์ติดตามกองยานที่เหลือหลังวนรอบหนึ่ง พวกเขาก็บินตรงหาเป้าหมายพวกเขา
  ในเวลาเดียวกันกองยานเซ็คชั่นซีโร่ทั้งหมดก็ลงมือ พวกเขากระจายตัวและโจมตีฐานที่มั่นจากทุกทิศทาง
  เพราะกองยานพันธมิตรอยู่ในสภาพแตกแยกเพื่อป้องกันการต่อสู้แบบประจัญบาน ผู้บัญชาการได้จัดกองยานพันธมิตรเป็นสิบทีม กองยานของหานเซี่ยวอยู่ทีมเจ็ด จุดประสงค์หลักคือการยับยั้งและควบคุม
  เปลวไฟแห่งสงครามระเบิด!
  กองกำลังผสมได้เข้าหาป้อมปราการดาวเคราะห์จากทุกเส้นทางขณะที่ปืนใหญ่อนุภาคของทั้งสองฝ่ายยิงใส่กัน ยานอวกาศสำรวจเส้นทางผ่านตาข่ายป้องกันของรังสีอนุภาค และพลุไฟก็ปูพรมไปทั่วเป็นครั้งคราว ด้วยความที่กองกำลังผสมโจมตีจากหลายทาง ขบวนรบของแดนหลั่งเลือดจึงเปลี่ยนเป็นการป้องกันแทน
  เมื่อทั้งสองฝ่ายเปิดฉากยิงใส่กันทีมเจ็ดก็พุ่งใส่อย่างหาญกล้า และแรงกดดันที่พวกเขาเผชิญก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
  บูม บูม บูม!
  กองทหารแนวหน้าของแดนหลั่งเลือดเปลี่ยนดาวเป็นป้อมปราการโดยใช้ของจากจักรวรรดิคริมสันพื้นมีฐานใหญ่และปืนต่อต้านก็ยิงขีปนาวุธที่สามารถยิงใส่ยานอวกาศนอกอวกาศได้ พลังยิงพวกมันดุร้ายและก็เกือบยิงโดนกองยานของหานเซี่ยวมากกว่าหนึ่งครั้ง
  “สนามรบขนาดใหญ่อันตรายจริงๆ”
  หานเซี่ยวเปลี่ยนไปใช้การขับด้วยมือเพ่งสมาธิเต็มที่ เขาแสดงการขับผาดโผน หลบปืนใหญ่อย่างพริ้วไหว
  ด้วยสนามรบขนาดใหญ่เช่นนี้เขาจึงไม่กล้าทำอะไรเกินเลย เขาติดตามการกระทำของกองทัพหลัก หลบการโจมตีต่างๆด้วยการกระพือขึ้นลงเหมือนผีเสื้อ
  เมื่อมองหน้าจอยุทธวิธีเขาก็พบว่ากองกำลังจู่โจมได้เริ่มเข้าปะทะกับแดนหลั่งเลือดในระยะประชิดแล้ว หลังมองออกนอกหน้าต่าง เขาก็เห็นว่าพื้นที่อวกาศด้านนอกได้เปลี่ยนเป็นสนามรบ ด้วยสีดำของจักรวาลรวมถึงขอบของป้อมปราการเป็นฉากหลัง ทั้งสองฝ่ายพัวพันกันอย่างดุเดือด และแสงหลากสีจากอาวุธก็ทำให้แสบตา
  สนามรบกว้างมากแม้จะมองสุดตาก็ไม่อาจเห็นได้หมด พวกเขาสามารถเข้าใจการต่อสู้ทั้งหมดได้ผ่านการตอบรับจากหน้าจอยุทธวิธีเท่านั้น ปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายเพิ่งปะทะกันและสูสีมาก
  การบุกของกองยานผสมช่วยยับยั้งพลังยิงของศัตรูช่วยเหลือทีมเจ็ดของหานเซี่ยวอ้อมๆให้เข้าหาศัตรูได้
  ตำแหน่งปัจจุบันของหานเซี่ยวพลันเปลี่ยนเป็นสนามรบขนาดเล็ก
  ….
  วินาทีที่สู้กันหานเซี่ยวก็รู้สึกกดดันมาก
  กองยานี้มียานรบชั้นพิเศษเป็นแกน ดูเหมือนกำลังจะไปสนับสนุนแนวหน้า ทีมเจ็ดได้ยับยั้งและปะทะอย่างต่อเนื่องและถูกโต้กลับอย่างเกรี้ยวกราด
  ทีมเจ็ดมียานรบประมาณพันลำซึ่งสามร้อยเป็นของหานเซี่ยว จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มอย่างรวดเร็ว
  “ไม่ดีแล้ว!”หานเซี่ยวกัดฟัน
  แม้ผลึกม่วงบอกว่าจะมีการชดเชยหานเซี่ยวก็ไม่อาจทนเห็นยานรบระเบิดทีละลำได้ พวกมันคือสินทรัพย์เขาที่ใช้เวลาสะสมมานาน
  เขาเปิดใช้การบุกรุกเสมือนแต่ก็พบการต่อต้านกองยานศัตรูก็ใช้ช่างกลเสมือนเพื่อปกป้องยานพวกเขา นอกจากนี้ พวกเขายังวางแผนเจาะยานกลุ่มพันธมิตรด้วย
  หานเซี่ยวไม่มีทางเลือกเขาทำได้แค่สู้กับช่างกลเสมือนจากฝั่งศัตรู โจมตีและป้องกัน
  ในเวลาเดียวกันภายในห้องบัญชาการของดาวป้อมปราการ ช่างกลเสมือนเกรดAสองคนกำลังสู้กับหานเซี่ยว และสีหน้าพวกเขาก็เปลี่ยนไป
  “ช่างกลเสมือนของศัตรูปรากฏแล้ว!”
  “บ้าจริงเทคโนโลยีเสมือนของหมอนี่แข็งแกร่งมาก ความเร็วการแทรกซึมเร็วเกินไปแล้ว!”
  “โชคดีเรายังสามารถรักษาไฟล์วอลล์ภายในได้ นายสามารถหาต้นตอได้ไหม?”
  “ได้ฉันล็อคตำแหน่งเขาไว้แล้ว”
  “มันเป็นแบล็คสตาร์นี่เองไม่แปลกใจเลย เขาแข็งแกร่งมาก!”
  “ร่วมมือกับฉันสู้และยึดยานเขา!”
  การร่วมมือของทั้งสองสูงมากพวกเขาจับหานเซี่ยว แทรกซึมยานแสงทมิฬเขา
  ภายในโลกเสมือนกระแสข้อมูลที่ทั้งคู่ควบคุมพบปัญญาประดิษฐ์ของยานทมิฬ ทันทีที่กำลังจะเปิดฉากโจมตี เงาร่างก็ก่อตัว มันคือริสด้า
  เมื่อมองกระแสข้อมูลกำลังพุ่งมาทางเขาริสด้าก็ยกมือขึ้น ทำลายการบุกของทั้งสอง กระแสข้อมูลเปลี่ยนเป็นประกายแสงเล็กๆ กลายเป็นเศษข้อมูลและหายไป
  ช่วงเวลาทีทั้งคู่เห็นหัวใจพวกเขาก็หนาวเหน็บ
  “ปัญญาประดิษฐ์นี้มีระดับสูงเกินไปไม่มีทางที่จะเจาะได้เลย”
  “บ้าจริงเราไม่อาจทำอะไรเขาได้”
  ทั้งสองฝั่งเผชิญหน้ากันหานเซี่ยวได้เปรียบเล็กน้อย แต่สีหน้าเขายังดำมืด
  เขาคิดไว้นานแล้วว่าแดนหลั่งเลือดต้องจ้างช่างกลเสมือนมาไม่มีทางที่พวกเขาจะบกพร่อง แต่ศัตรูกลับส่งช่างกลเสมือนมาถึงสองคน ซึ่งสร้างแรงกดดันให้หานเซี่ยวได้บ้าง หากเขาไม่อยู่ ศัตรูอาจทำตามใจชอบไปแล้ว
  เมื่อมาถึงจุดนี้ทั้งสองฝ่ายต่างยับยั้งกัน แม้เขาจะไม่อาจใช้การบุกรุกเสมือนเพื่อเจาะศัตรูได้ มันก็เหมือนกับสำหรับอีกฝ่าย
  ในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็เข้าประชิดกันและการต่อสู้รุนแรงก็ปะทุขึ้น ทีมเจ็ดและกองยานศัตรูต่างใช้กระสวยพุ่งชน ช่วยให้พวกพิเศษขึ้นยานศัตรูได้
  หานเซี่ยววดึงภาพวงจรปิดยานทุกลำข้างเขาต้องเจอกับการเข่นฆ่าอยู่ฝ่ายเดียว กองทหารพันอสูรจากแดนหลั่งเลือดแข็งแกร่งมาก
  “ยานฉันถูกบุก!”
  เมื่อมาถึงจุดนี้เสียงของเฮอลัสก็ดังจากอุปกรร์สื่อสาร
  หานเซี่ยวรีบเปลี่ยนหน้าจอเห็นกระสวยพุ่งชนสามลำกำลังแนบติดยานของเฮอลัส เฮอลัสนำทัพและกำลังพัวพันกับกองทหารพันอสูร
  โชคดียานของลากีผ่านจุดเชื่อมนี้ไปและให้การช่วยเหลือ พวกเขาฆ่าศัตรูได้ง่ายๆ แก้ปัญหาบนยานของเฮอลัส
  อารมณ์ของหานเซี่ยวพุ่งพล่านภายในความวุ่นวาย เขาพบจุดทะลวงโดยไม่ตั้งใจ
  “ทั้งหมดฟังสนับสนุนทีมจู่โจมระดับภัยพิบัติ พยายามและช่วยพวกเขาให้ขึ้นยานหลักของศัตรู!”
  ภายในสงครามขนาดเล็กนี้แกนหลักจะเป็นยานหลักของทั้งสองฝ่าย เทียบกับศัตรู ทีมเจ็ดมีข้อได้เปรียบด้านตัวตนระดับภัยพิบัติ ดังนั้นการเด็ดหัวผู้บัญชาการย่อมมีโอกาสสำเร็จสูงกว่า
  แม้เป้าหมายพวกเขาจะเป็นการยับยั้งกองยานนี้ผู้บัญชาการหลักก็จะให้เป้าหมายเท่านั้น และการกระทำเฉพาะจะปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ การทำลายย่อมดีกว่าแค่การควบคุม
  หากใครได้ผลลัพธืดีเยี่ยมรางวัลก็จะสูงขึ้นตาม
  ทีมจู่โจมระดับภัยพิบัติของทีมเจ็ดมีลากีอยู่ด้วยประกอบไปด้วยสี่ทีม หานเซี่ยวไม่รวมอยู่
  เมื่อออกคำสั่งทีมเจ็ดก็เปลี่ยนตำแหน่งและเริ่มสนับสนุนทีมจู่โจมให้เข้าใกล้ยานหลักศัตรู
  ระยะห่างระหว่างทั้งสองกำลังหดตัวแต่ก็ช้ามาก กลับกัน สนามรบค่อยๆเคลื่อนเข้าหาแนวหน้า มีเพียงพระเจ้าถึงรู้ว่าพวกเขาจะเข้าใกล้ยานหลักศัตรูได้ตอนไหน ดังนั้นเขาจึงออกคำสั่งใหม่
  “ทีมระดับภัยพิบัติทั้งหมดขึ้นทหารยักษ์ของฉัน ฉันจะไปรับ!”
  วินาทีนั้นหานเซี่ยวก็ดีดตัวออกจากยาน อัญเชิญทหารยักษ์เขาและขึ้นขับ ลากีและคนอื่นรีบเข้าไปในตัวของทหารยักษ์
  “จับให้แน่น”
  หานเซี่ยวเดินเครื่องเทพลังทั้งหมดลงยังตัวขับให้พุ่งสุดกำลัง
  ทหารยักษ์มีความคล่องตัวกว่ารวมกับฝีมือการขับขั้นเทพของหานเซี่ยว เขาจึงเจาะเข้าแนวของศัตรูได้ ดึงดูดการยิงจำนวนมาก แต่การยิงส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายเลย และบางนัดยังยิงโดนพวกตัวเอง
  ระยะห่างลดลงทันตาเห็น!
  มันเป็นข้อห้ามที่จะกระทำอย่างอิสระในการต่อสู้แต่หานเซี่ยวคือภัยพิบัติ และเขาก็ยังมีภัยพิบัติอีกสี่คนพ่วงมาด้วย นี่ทำให้พวกเขากลายเป็นดาบแหลมที่น่ากลัว ทำให้ศัตรูระดมยิงใส่พวกเขา ทีมเจ็ดซึ่งยังอยู่ด้านนอกตอบสนอง และยับยั้งกองยานนี้ต่อไป
  ในที่สุดทหารยักษ์ก็มาถึงยานหลักและแทรกซึมเข้ายานหลักได้สำเร็จแค่ภัยพิบัติคนเดียวในนั้นมันก็เท่ากับความตายแล้ว
  หานเซี่ยวไม่นั่งเฉยเขาควบคุมทหารยักษ์ให้ทำลายยานรอบๆ
  มันไม่นานก่อนยานหลักจะระเบิด!
  แต่ทว่าสี่ทีมก็ได้อพยพออกมาแล้วและขึ้นทหารยักษ์ของหานเซี่ยวอีกครั้ง และฝ่าแนวป้องกันของศัตรูกลับออกไป
  แม้จะทำลายยานหลักศัตรูได้ค่าเกราะของทหารยักษ์ก็เกือบหมด หากไม่ใช่ว่าทีมเขาด้านนอกคอยช่วยเหลือ เขาอาจเสียทหารยักษ์ไปแล้ว
  แต่ทว่าชัยชนะเล็กๆนี้กลับทำให้สถานการณ์เปลี่ยน ภายใต้การระดมยิงต่อ

เนื่อง กองทัพศัตรูเริ่มถอย
  หานเซี่ยวกำลังจะไล่ล่าแต่เวลานั้นเขาก็ได้รับการแจ้งเตือนภารกิจใหม่
  [ถอย]
  ข้อกำหนดภารกิจ: ถอนกำลังทันที และช่วยเหลือทีมให้ได้มากที่สุด
  “ทำไมเราถึงถอยตอนนี้?!”
  หานเซี่ยวตกใจจ้องหน้าจอยุทธวิธี
  บนสนามรบเล็กๆทั้งหมดมีเพียงฝั่งเขาที่ได้เปรียบ!
  สถานการณ์ทางแนวหน้าเสียหายหนักมากกองกำลังใหญ่ของเซ็คชั่นซีโร่ถูกบุกทะลวง และยานรบกว่าสองพันลำถูกทำลาย กองกำลังหลักของภัยพิบัติทั้ง15ยังตายไปถึงแปด และบาดเจ็บเจ็ด
  แปดขุนพลของแดนหลั่งเลือดได้เข้าสู่สภาพรบแล้ว!
  “ไม่แปลกใจที่ฉันไม่เจอพวกเขาเลย!”
  หัวใจของหานเซี่ยวดำดิ่ง
  ด้วยกำลังหลักที่ถูกทำลายต่อให้เขาได้เปรียบทางฝั่งนี้ มันก็ไม่ช่วยอะไร
  เซ็คชั่นซีโร่แพ้!
  …
  บนสนามรบหลักประกายไฟบินผ่านยานหลักขององค์กร มีศพเกลื่อนทั่วและเลือดก็ไหลเหมือนแม่น้ำ
  ซวบ
  ดาบนักล่าดึงดาบเขาและร่างของเซวิตต์ก็ล้มลง มีรูขนาดใหญ่ข้างเขา อวัยวะภายในเขาไม่เหลือแล้วและเลือดเขาก็เกือบจะหมดตัว เขาตายไปแล้ว
  “นี่ควรเป็นคนสุดท้ายไปกัน ยานรบกำลังจะระเบิดแล้ว”
  ดาบนักล่าปาดดาบเขาและพูดผ่านอุปกรณ์สื่อสารด้านข้างเกราะกับฟอสเตอร์ผู้อยู่ใกล้กับรูยาน
  ฟอสเตอร์กำลังมองผ่านรูไปยังสนามรบห่างไกลสูญญากาศน่ากลัวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อร่างกายเขาเลย
  “แบล็คสตาร์ไม่อยู่บนสนามรบหลักเขานับว่าโชคดี”
  ดวงตาของฟอสเตอร์เปล่งประกายเย็นชา

อ่านตอนอื่นๆของ The Legendary Mechanic คลิกเลย

แฟนเพจ