Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

The Legendary Mechanic - ตอนที่ 657 ย่ามใจเมื่อชนะ ซ่อนเมื่อแพ้

เรื่อง The Legendary Mechanic - ตอนที่ 657 ย่ามใจเมื่อชนะ ซ่อนเมื่อแพ้

ตอนที่ 657 ย่ามใจเมื่อชนะ ซ่อนเมื่อแพ้
  ในเวลาเดียวกันทัพหน้าของแดนหลั่งเลือดก็ได้สรุปผลการต่อสู้
  “เราได้โต้กลับศัตรูทั้งหมดทำได้ดีมากและยังกำจัดพลรบระดับสูงไปได้หลายคน กองกำลังพันธมิตรของผลึกม่วงต้องระวังตัวขึ้นแน่”
  จอร์ดชมผลการต่อสู้
  ดาบนักล่าพยักหน้า”ศัตรูโจมตีครั้งแรกและต้องไม่ส่งกองกำลังระดับสูงมามากเกินไปการคาดเดาของคุณถูกต้อง”
  กองกำลังแนวหน้าได้ตระเตรียมกลยุทธ์มากมายกลยุทธ์เดิมพวกเขามุ่งเน้นการป้องกัน แต่เมื่อเห็นว่าเซ็คชั่นซีโร่ส่งกำลังมาน้อย จอร์ดจึงเปลี่ยนกลยุทธ์และให้แปดขุนพลลงมือพร้อมกัน พวกเขาสามารถกำจัดศัตรูได้มากและข่มขู่ศัตรูได้สำเร็จ
  “เราควรมีเวลาประมาณสิบวันจนกว่าศัตรูจะโจมตีอีกพวกคุณควรจัดการกับเหล่าภัยพิบัติของศัตรูต่อ นี่คือจุดอ่อนของกองทัพพันธมิตร”จอร์ดกล่าวด้วยความมั่นใจ
  ดาบนักล่าขมวดคิ้ว”ด้วยความล้มเหลวแรกศัตรูจะไม่ประมาทเราอีกและคงไม่เต็มใจสู้กับเราซึ่งๆหน้า เราอาจไม่มีโอกาสอีกในอนาคต”
  “งั้นเราก็จะต้องสร้างโอกาส”ฟอสเตอร์กล่าว”หากศัตรูไม่ส่งพลรบระดับสูงมาสู้กับเราเราก็จะทำลายกองยานพวกมัน”
  จอร์ดพยักหน้าเห็นด้วย”ไม่ว่ายังไงพยายามหาโอกาสสังหารศัตรูให้ได้มากที่สุด ยิ่งศัตรูกลัวเรา ความยากของการขยายก็ยิ่งลดลง”
  “แบล็คสตาร์ควรเข้าร่วมในโจมตีหน้าด้วยฉันมีคำขอ”ฟอสเตอร์กล่าว”ทุกคนต้องส่งพิกัดของแบล็คสตาร์ให้ฉัน หากทีมจู่โจมหน้าไม่ต้องการฉัน ฉันจะไปกำจัดแบล็คสตาร์”
  “ตกลง”จอร์ดตอบ”แต่อย่าปล่อยให้เรื่องส่วนตัวมาส่งผลต่อสถานการณ์รวม”
  “ฮึมฉันไม่ต้องให้นายมาสอน นอกจากนี้ นี่ไม่ใช่ความแค้นส่วนตัว”ฟอสเตอร์กล่าวเสียงเย็น”แบล็คสตาร์คือคนของจักรพรรดินีมังกร การกำจัดเขาจะยังบังคับให้จักรพรรดินีมังกรอออกมา จากนั้นท่านฮีเบอร์ถึงสามารถเข้าร่วมสงครามได้”
  การาปรากฏของผู้อยู่เหนือคือตัวยับยั้งและพวกเขาจะไม่ลงมือ ต่อให้ฮีเบอร์คือผู้นำแดนหลั่งเลือด เขาก็จะไม่เข้าร่วมสงครามเอง แต่ทว่า หากเอเมสลงมือ เขาก็จะมีข้ออ้าง
  ในสายตาพวกเขาฮีเบอร์นั้นแข็งแกร่งกว่าจักรพรรดินีมังกรมาก
  ดวงตาทุกคนสว่างขึ้น
  จอร์ดพยักหน้า”งั้นมันก็สมเหตุสมผลแล้ว”
  “ไม่ต้องห่วงฉันจะหาเขาไม่ว่าเขาจะซ่อนอยู่ไหน”ฟอสเตอร์พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
  …
  ในขณะที่กองทัพพันธมิตรกำลังรอกำลังเสริมการจราจลก็เกดิขึ้น องค์กรแสงรุ้งร้องขอเปลี่ยนภารกิจด้วยเหตุผลว่าพวกเขาเสียหายหนัก
  การตายของเซวิตต์ทำให้ทั้งองค์กรแสงรุ้งตกใจหัวหน้าพวกเขาเสียใจมาก เซวิตต์คือผู้ช่วยมากความสามารถ และเขาก็เชื่อใจเซวิตต์มาก แต่ทว่า เขาไม่คิดเลยว่าเซวิตต์จะต้องตายในศึกแรก และผู้นำก็ขอถอนกำลัง ทุกองค์กรที่มีส่วนร่วมในแนวหน้าต่างก็เสียบุคลากรชั้นสูง
  การต่อสู้เช่นนี้อยู่นอกเหนือความคิดพวกเขาและแปดขุนพลก็ทำให้พวกเขาขลาดกลัวมาก
  บางทีพวกเขาอาจสามารถเอาชนะแปดขุนพลได้หากร่วมมือกันแต่ไม่มีใครเต็มใจเสียภัยพิบัติ เช่นนั้น พวกเขาจึงหลีกเลี่ยงกัน
  นี่คือปัญหาไร้ทางแก้ผู้บัญชาการของเซ็คชั่นซีโร่ทำได้แค่จัดโครงสร้างขบวนรบใหม่และเปลี่ยนสมาชิกแนวหน้า หวังว่ากำลังเสริมจะเต็มใจรับหน้าที่
  แต่ทว่ากำลังเสริมเองก็ได้ยินถึงการตายของแนวหน้าและไม่เต็มใจรับหน้าที่นี้ ไม่มีใครเต็มใจเสียพลรบระดับสูงของคน
  อารยธรรมผลึกม่วงไร้หนทางและทำได้แค่ให้องค์กรไม่กี่แห่งรับงานหลังเจรจาส่วนตัว
  …
  กลยุทธ์ของแดนหลั่งเลือดมีประสิทธิภาพมากเปิดเผยจุดอ่อนของศัตรูในศึกแรก ต่อให้สมาชิกของเซ็คชั่นซีโร่จะเป็นองค์กรชื่อดังจากกลุ่มดาวโคลตัน พวกเขาก็ไม่มีอะไรไปกว่าพวกก่อจราจล
  แต่ทว่าหานเซี่ยวไม่ผิดหวังที่เขามีโอกาสแสดงความสามารถตอนฝ่ายพวกเขาเสียเปรียบ
  เพียงเมื่อทุกคนพยายามหลีกเลี่ยงบทบาทจู่โจมหานเซี่ยวคือคนเดียวที่อาสา
  ข่าวชิ้นนี้กระจายไปทั่วและทำให้เกิดความปั่นป่วนทุกคนมองหานเซี่ยวด้วยความตกใจ สงสัยและอารมณ์อื่นๆ
  แม้จะรู้ว่าเขาต้องรับความเสี่ยงแต่แบล็คสตาร์ก็ยังอาสา เขาเสียสติไปแล้ว?
  หลายองค์กรที่เสียสหายพวกเขามองดูอย่างเย็นชาพวกเขาเข้าใจเจตนาของแบล็คสตาร์ผิดและรู้สึกว่าเขากำลังพยายามเหยียบหัวพวกเขาเพื่อให้ผลึกม่วงขอบคุณเขา
  แต่แล้วยังไง?มันไม่แตกต่างอะไรกับรนหาที่ตายเขาไม่มีสมองเลย?
  หลายองค์กรในกองทัพพันธมิตรทำความเข้าใจร่วมกันเพื่อยกสถานะเขา แบล็คสตาร์ไม่อยากมีชีวิตอีก
  แต่ทว่าไม่มีองค์กรใดสนใจพูดแทนแบล็คสตาร์ พวกเขาต้องการคนมาเป็นโล่เนื้อแทน และเนื่องจากแบล็คสตาร์เต็มใจตาย พวกเขาก็ไม่คิดหยุด
  เนื่องจากแบล็คสตาร์อาสาทำภารกิจอันตรายเช่นนั้นราล์ฟจึงพยายามทำตามคำขอเขาเกือบหมด หานเซี่ยวไม่ยอมให้ลูกน้องเขาเข้าร่วมและให้ลากีนำพวกเฮอลัสไปเข้าร่วมสนามรบอื่น
  ไม่กี่วันต่อมากำลังเสริมชุดสองก็มาถึง และกองทัพพันธมิตรของเซ็คชั่นซีโร่ก็ได้โจมตีฐานของแดนหลั่งเลือดอีกครั้ง
  หานเซี่ยวให้เฮอลัสเป็นผู้บัญชาการกองกำลังชั่วคราวขณะที่เขาเป็นหัวหอกในการโจมตีด้วยยานแสงทมิฬ
  วัตถุประสงค์ของภารกิจเขาครั้งนี้คือตรึงแปดขุนพลไว้และรางวัลก็คือความรู้ล้ำยุคและแต้มกองกำลังจำนวนมากรางวัลจากภารกิจนี้เทียบได้กับภารกิจทั่วไปนับสิบ
  เพราะความล้มเหลวก่อนหน้านี้ความพยายามครั้งสองของเซ็คชั่นซีโร่จึงถูกจับตาดูทั่วทุ่งดาว
  อารยธรรมกลุ่มดาวอีกห้าของวงแหวนดาวกระจายรวมถึงองค์กรใหญ่ภายในทุ่งดาวต่างให้ความสนใจกับระบบดาวลมตะวันตกผลลัพธ์ของการปะทะครั้งที่สองจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงผลลัพธ์ของสงครามลับ
  …
  นี่คือครั้งที่สองที่พวกเขาสู้กันและทั้งแดนหลั่งเลือดและเซ็คชั่นซีโร่ก็เตรียมตัวมาดี การต่อสู้ระหว่างสองฝ่ายพุ่งถึงจุดสูงสุดทันที
  บอลแสงสว่างบนจักรวาลดำมืดยานรบเผาไหม้ ปืนใหญ่ระเบิดและปืนใหญ่เลเซอร์ก็บดบังไปทั่วสนามรบ
  แปดขุนพลที่มีฟอสเตอร์นำได้เข้าทำลายยานรบทีละลำและกวาดผ่านไปทั่วสนามรบ
  แทนที่จะส่งนักสู้ระดับสูงพวกเขาไปหยุดเหล่าขุนพลเหล่าภัยพิบัติจากเซ็คชั่นซีโร่เลือกหลีกเลี่ยงการต่อสู้และเฝ้าดูเหล่าขุนพลทำลายยานพวกเขา
  “ทำไมพวกคุณถึงอยู่เฉย!หยุดพวกเขา!”ผู้บัญชาการคำราม
  “รับทราบเราจะลงมือเดี๋ยวนี้แหละ”
  “นี่ยังไม่ถึงเวลารอให้พวกเขาใช้พลังงานไปก่อน”
  เหล่าภัยพิบัติให้คำตอบส่งๆ
  แม้ผู้บัญชาการจะโกรธแต่ก็ทำไรไม่ได้ เขาไม่มีทางสั่งพวกคนเหล่านี้ได้ แถม เมื่อรู้ว่าผลึกม่วงจะชดเชยยานรบที่เสียหายให้ พวกเขาจึงมองดูกองยานพวกเขาถูกทำลายแทนที่จะลงมือ
  ราล์ฟไม่อาจนั่งเฉยได้แม้จะรู้ว่าสถานการณ์ไม่ดี เขาก็ไม่คิดว่าจะร้ายแรงขนาดนี้ ดังนั้นเขาจึงติดต่อหานเซี่ยว
  “แบล็คสตาร์เราไม่อาจพึ่งพาคนอื่นได้เลย คุณจะลงมือตอนไหน?เราจะแพ้แน่หากเป็นแบบนี้”
  ในห้องขับหานเซี่ยวมองพิกัดของแปดขุนพลและตอบ”ส่งผมไปสนามรบ”
  “เข้าใจแล้ว!”ราล์ฟดีใจมาก
  เขายังสงสัยความจริงที่ว่าแบล็คสตาร์จะถ่วงแปดขุนพลได้ลำพังแต่ก็จำต้องเชื่อใจ
  …
  ที่ใจกลางสนามรบเหล่าขุนพลมีเวลาพักขณะทำลายยานทีละลำและขัดขวางการก่อตัวของศัตรู
  แปดขุนพลเหมืนเสือดาวและยานรบก็เหมือนแกะโดยปราศจากนักสู้ระดับสูงมาตรึงกำลังพวกเขา ยานรบจึงลดลงมาก
  “ฮ่าๆพวกภัยพิบัติทางฝั่งนั้นยังไม่ลงมือ พวกมันไม่สนใจกองยานพวกมันเลย?”
  มาเลคิธระเบิดเสียงหัวเราะในช่องสื่อสาร
  “พวกขี้ขลาดพวกมันไม่แม้แต่จะมีความกล้า”ดาบนักล่าเหยียดหยาม
  บูม!
  ด้านในยานฟอสเตอร์บดขยี้ยานครึ่งลำด้วยหมัดเขาและขึ้นยานจู่โจมก่อนยานจะระเบิด เมื่อได้ยิน เขาก็อดถามไม่ได้”ทำไมถึงยังไม่มีใครรายงานตำแหน่งของแบล็คสตาร์ให้ฉัน?เขาอยู่ไหน?”
  “ผมไม่รู้ไม่มีใครรายงานตำแหน่งของแบล็คสตาร์เลย เราสามารถหากองยานแบล็คสตาร์ได้ แต่แบล็คสตาร์ไม่อยู่ในกองยาน มีแค่จอมเวทย์ระดับภัยพิบัติกำลังควบคุมสถานการณ์”
  ฟอสเตอร์มองสนามรบและกล่าวเสียงเย็น”ในเมื่อศัตรูทำตัวเหมือนพวกขี้ขลาดฉันก็ไม่ต้องอยู่อีก ฉันจะไปกองทัพแบล็คสตาร์ เขาจะต้องซ่อนอยู่แถวนั้นแน่”
  “ดีไปเลย ปล่อยทางนี้ให้เราเถอะ”ดาบนักล่าพยักหน้าตอบ
  เพียงเมื่อฟอสเตอร์กำลังจะออกไปขบวนบานรบก็แหวกทางและยานแสงทมิฬก็บินออกมา
  “นั่น..แบล็คสตาร์?!”
  ฟอสเตอร์หยุดชะงักสายตาเขาจับจ้องยานแสงทมิฬ อีกเจ็ดก็อดมองตามไม่ได้
  จากนั้นหานเซี่ยวก็กระโดดออกจากยานในชุดลิงคลั่งและลอยในอวกาศเขาก้มมองแปดขุนพลและกวักมือเป็นการท้าทาย
  มนุษย์หนึ่งคนในสนามรบกว้างใหญ่เล็กมากแต่ไม่มีใครกล้าละเลยหานฌซี่ยว เขาปล่อยพลังงานและพลังงานสูงก็มากพอให้เรดาห์ของยานทุกลำตรวจพบเขา
  แม้จะอยู่ไกลจากหานเซี่ยวฟอสเตอร์และคนอื่นก็สามารถเห็นการกระทำของหานเซี่ยวได้ชัดเจน
  “เขากำลังท้าทายเรา?”
  ดาบนักล่ามึนงงเขาไม่รู้ว่าแบล็คสตาร์ไปเอาความกล้ามาจากไหน
  ฟอสเตอร์อดแปลกใจไม่ได้เขาคิดว่าแบล็คสตาร์จะซ่อนตัวเหมือนคนอื่น
  “ไม่เลวอย่างน้อยเขาก็มีความกล้ากว่าคนอื่น นั่นช่วยฉันประหยัดเวลาได้มาก”
  ดวงตาของฟอสเตอร์หรี่แคบและสั่งให้ยานจู่โจมพุ่งใส่หานเซี่ยว จากนั้นก็กระโดดออกจากยานและทะยานเข้าหาหานเซี่ยวด้วยร่างกายที่ลุกไหม้เหมือนอุกกาบาตสีแดงเข้ม
  หานเซี่ยวยกแขนและอะไหล่บนชุดจักรกลเขาก็ขยายเป็นหมัดเหล็กขนาดใหญ่กว่าร้อยเมตร พลังจักรกลปกคลุมหมัดและหมัดเขาก็ทุบลงบนอุกกบาตนั่น
  เสียงไม่อาจสร้างขึ้นได้ในสูญญากาศและทุกคนก็ทำได้เพียงจินตนาการเสียงในหัว
  ปัง!
  หมัดยักษ์ถูกเจาะโดยอุกกาบาตเผยให้เห็นรูขนาดเท่าคนและหมัดของฟอสเตอร์ก็มาถึงหน้าอกของหานเซี่ยว
  หานเซี่ยวถูกบังคับให้ถอยและร่างเขาก็รอยไประยะหนึ่งก่อนจะปรับสมดุลได้จากนั้นเขาก็สะบัดแขนจักรกลที่พังเสียหายทิ้ง
  “แสดงทุกอย่างที่แกมีออกมาซะ”ฟอสเตอร์ส่งข้อความเสียงหาระบบสื่อสารของชุดจักรกลหานเซี่ยว
  ส่งข้อความเสียงในการต่อสู้..น่ารำคาญมาก
  จากนั้นหานเซี่ยวก็โบกมือและเปิดประตูยานแสงทมิฬจากนั้นกองทัพจักรกลเขาก็กรูกันออกมาเหมือนฝูงตั๊กแตน
  อย่างรวดเร็วกองทัพเขาเผยตัวและจักรกลนับหมื่นก็ลอยอยู่ข้างเขา
  กองทัพเช่นนี้ไม่อาจประมาทได้!
  เพราะอารยธรรมผลึกม่วงจะชดเชยให้หานเซี่ยวจึงไม่เก็บรั้งและปล่อยเครื่องจักรทั้งหมดออกมา
  “พวกแกแปดคนเข้ามาพร้อมกันเลยแกคนเดียวไม่อาจเอาชนะฉันได้หรอก’หานเซี่ยวส่งข้อความเสียงกลับหาฟอสเตอร์
  ฟอสเตอร์แค่นเสียงเย็นและไม่ตอบกลับแบล็คสตาร์คือคนที่ตายแล้วในสายตาเขา และเขาคนเดียวก็พอจะกำจัดวัชพืชนี่
  เหล่าภัยพิบัติของเซ็คชั่นซีโร่ต่างโดดถอยและไม่มีใครเต็มใจช่วยแบล็คสตาร์
  จนถึงตอนนี้แบล็คสตาร์คือภัยพิบัติคนเดียวจากเซ็คชั่นซีโร่ที่ก้าวเท้าสู่สนามรบหลัก!

อ่านตอนอื่นๆของ The Legendary Mechanic คลิกเลย

แฟนเพจ