ตอนที่ 661 ระดับใหม่
บนดาวฮีเบอร์ศูนย์ใหญ่แดนหลั่งเลือด ข้อมูลแนวหน้าถูกส่งกลับมา จอร์ดร้องขอพบฮีเบอร์ เขารู้สึกว่าเขาต้องรายงานเรื่องแบล็คสตาร์
ฮีเบอร์นั่งบนบังลังก์ใหญ่โตภายในวังหลังได้ยินรายงาน เขาไม่เพียงไม่โกรธ เขายังแสดงสีหน้าสนใจแทน
“ฉันเดาไม่ผิดแบล็คสตาร์มีแต่จะเสียพรสวรรค์เปล่าภายใต้เอเมส เขาควรมาเข้าร่วมกับฉัน”
ฮีเบอร์ส่ายหัวเขามักคิดว่าหานเซี่ยวมีความสามารถมาก แต่หานเซี่ยวกลับปฏิเสธเขาถึงสองครั้ง เขาย่อมไม่เชิญเป็นครั้งที่สาม
“เคล็นท์ไม่พอใจมากพวกเขาคิดว่าแบล็คสตาร์คือปัจจัยไม่แน่นอนและควรกำจัดโดยเร็ว”จอร์ดกล่าว
“ฉันไม่ต้องให้พวกเขามาสอนฉันทำสงคราม”ฮีเบอร์กล่าว”แปดขุนพลของฉันคิดยังไง?”
“เอ่อฟอสเตอร์บอกว่าเขานำความอับอายมาสู่แดนหลั่งเลือด เขาจะใช้ชัยชนะร้อยครั้งเพื่อลบล้างความอับอายในวันนี้”
จอร์ดกล่าวอย่างระมัดระวังความจริงคือ ฟอสเตอร์ไม่ได้มีอารมณ์มั่นคงอย่างที่จอร์ดกล่าว เขาหดหู่มาก
“ตำแหน่งของแดนหลั่งเลือดไม่มีทางลดเพราะศึกเดดียว”ฮีเบอร์ตอบ”เขาคือผู้ชนะดังนั้นเขาไม่ควรทำเหมือนผู้แพ้ ในวงแหวนดาวกระจาย มีภัยพิบัตินับสิบที่มีศักยภาพจะกลายเป็นผู้อยู่เหนือ แต่หลังผ่านมาหลายปี มันก็ยังมีแค่สี่สุดยอด..”
หลังหยุดแรงสั่นสะเทือนก็มาจากฮีเบอร์ จอร์ดรู้สึกราวกับเขาถูกบีบคอ และลมหายใจก็หยุดชะงักไป
“ศักยภาพก็แค่ศักยภาพด้วยการคงอยู่ของฉัน ไม่จำเป็นต้องกลัวใคร”
จอร์ดพลันฮึกเหิมความมั่นใจของฮีเบอร์ทำให้เขารู้สึกมั่นใจตาม
…
ในเวลาเดียวกันบนดาวแม่อารยธรรมผลึกม่วง…
การพ่ายแพ้สองครั้งติดทำให้เบื้องบนของผลึกม่วงไม่พอใจมากมีเพียงแบล็คสตาร์ถึงทำให้พวกเขาชื่นใจ
เจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูงจากแผนกต่างๆจัดการประชุมเพื่อหารือเรื่องแบล็คสตาร์
“เมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือหายากมากแม้จักรพรรดินีมังกรจะเป็นกลาง แบล็คสตาร์ก็อยู่ข้างเรา เขาคู่ควรกับการลงทุน”
“ถูกต้องกองกำลังของแบล็คสตาร์อยู่ในกลุ่มดาวโคลตัน ดังนั้นเขาจึงใกล้ชิดกับเรา หากเขาสามารถกลายเป็นผู้อยู่เหนือได้ นี่ก็หมายความว่าจะมีกองกำลังผู้อยู่เหนือในโคลตัน นี่จะทำให้เราไม่เสียเปรียบเคล็นท์”
อารยธรรมผลึกม่วงอิจฉาเคล็นท์มากที่มีแดนหลั่งเลือดเป็นพันธมิตร
หากพวกเขามีองค์กรผู้อยู่เหนือด้วยพวกเขาคงไม่ต้องพยายามมากเพื่อสร้างเซ็คชั่นซีโร่ และก็คงไม่เสียเปรียบแบบนี้ในสงครามลับ
แบล็คสตาร์มีศักยภาพและเขาก็โน้มน้าวได้มากกว่าจักรพรรดินีมังกร เมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์ทางการเมือง ผลึกม่วงก็รู้สึกว่าเขาควรค่า
การประชุมนี้คือการหารือว่าพวกเขาคิดยังไงกับแบล็คสตาร์พวกเขาเป็นผลประโยชน์ระยะยาวในตัวหานเซี่ยว
อารยธรรมกลุ่มดาวไม่กลัวผู้อยู่เหนือแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่อยากมี อารยธรรมกลุ่มดาวทั่ววงแหวนดาวกระจายล้วนจริงจังมากกับการบ่มเพาะพวกพิเศษ พวกเขาสร้างโรงเรียนมากมาย ผลิตคนมากพรสวรรค์ทุกปี
แต่พวกเขาก็บ่มเพาะได้แค่ระดับภัยพิบัติพวกเขาไม่มีหวังจะฝูมฟักผู้อยู่เหนือ นี่ไม่ใช่สิ่งที่สามารถสร้างขึ้นได้
ดังนั้นเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือที่สนิทกับอารยธรรมผลึกม่วงจึงมากพอทำให้พวกเขาวางฐิติลงมาจัดประชุม
“หากแบล็คสตาร์กลายเป็นผู้อยู่เหนือเราจะสามารถช่วยเขาสร้างองค์กรที่เทียบเคียงกับแดนหลั่งเลือด แบบนั้น เคล็นท์จะไม่ได้เปรียบอีก นอกจากนี้ นี่จะทำให้เรามีอิทธิพลมากในทุ่งดาว”
“การบ่มเพาะผู้อยู่เหนือเรา..มันเป็นความคิดที่ดีแต่แบล็คสตาร์จะต้องมีศักยภาพพอ”
พวกเขาหารือกันสักพักและในที่สุดก็ได้ข้อตกลง
พวกเขาจะเปลี่ยนวิธีลงทุนกับแบล็คสตาร์เพิ่มทรัพยากรให้ เหนือสิ่งอื่นใด ค่าใช้จ่ายการสร้างสัมพันธ์กับภัยพิบัติไม่อาจนำมาเทียบได้กับการสร้างสัมพันธ์กับผู้อยู่เหนือ ที่พวกเขาลงทุนไปก่อนหน้าแค่ก้อนน้อยๆ
ผลึกม่วงไม่ขาดทรัพยากรพวกเขาเต็มใจลงทุนและเดิมพันกับศักยภาพของแบล็คสตาร์
ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็ตัดสินใจเพิ่มตำแหน่งของแบล็คสตาร์ในเซ็คชั่นซีโร่ พวกเขามุ่งเน้นการเติบโตของแบล็คสตาร์และให้การปกป้องเขาลับๆจากองค์กรที่หมายหัวเขา
เมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือเป็นระดับใหม่ที่เหนือกว่าภัยพิบัติทั่วไปทุกคนคือแกนสำคัญขององค์กรต่างๆ
ชื่อเสียงที่เกิดจากการต่อสู้นี้ได้เปลี่ยนทัศนคติของอารยธรรมกลุ่มดาวที่มีต่อหานเซี่ยว
ด้วยคนที่กำลังกระจายข้อมูลข่าวที่แบล็คสตาร์ได้กลายเป็นเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือจึงกระจายไปทั่ววงแหวนดาวกระจาย ประชากรนับไม่ถ้วนรู้ และมันก็ไม่เกินจริงเลยที่จะบอกว่าเกือบทุกคนในวงแหวนดาวกระจายต่างรู้
แม้อารยธรรมกลุ่มดาวเหล่านั้นที่ไม่ได้ขัดแย้งกับผลึกม่วงก็ยังไม่เต็มใจเห็นผลึกม่วงได้รับคนที่อาจกลายเป็นผู้อยู่เหนือในอนาคตนั่นทำให้หานเซี่ยวกลายเป็นจุดสนใจ
หลังกระจายออกไปข่าวก็ถูกบิดเบือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้าย มันก็กลายเป็น…
“แบล็คสตาร์จะเป็นผู้อยู่เหนือคนที่ห้าของวงแหวนดาวกระจายในอนาคต!”
นี่น่าตกใจกว่าที่เขาเป็นเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือซะอีกมันเป็นการผลักหานเซี่ยวขึ้นบัลลังก์ล่วงหน้า คนนับไม่ถ้วนตกตะลึง
องค์กรใหญ่รู้ว่านี่ไร้สาระแต่ส่วนใหญ่ไม่รู้รายละเอียด ภายใต้ข่าวเกินจริง หลายคนเชื่อข่าวลือนี้และเริ่มกระจายข่าวว่าผู้อยู่เหนือคนที่ห้าของวงแหวนดาวกระจายกำลังจะปรากฏ
ข่าวนี้ได้ยกระดับของเกาะมังกรขึ้นเช่นกัน
…
หวือ!
ประตูเหล็กห้องฝึกเปิดและฮีล่าก็เดินออกมาขณะปาดเหงื่อบนหน้าผาก
หลายปีที่ผ่านมาบนเกาะมังกรเธอเอาแต่ฝึก เธอเปลี่ยนชุดต่อสู้สีดำเธอและเปลี่ยนไปใส่ชุดกันลมสีแดงถักด้วยผ้าพิเศษ มันสลักด้วยม่านพลังชั้นสูงและยังเสริมพลังเอสเปอร์เธอ
หากหานเซี่ยวอยู่เขาย่อมรู้สึกว่ามันคุ้นๆ การออกแบบของชุดกันลมนี้เหมือนกับที่เขาสวมตอนเป็นปีศาจทมิฬ
“มันเกือบสามปีแล้วฉันเชี่ยวชาญทักษะแนมากขึ้น ตามมาตรฐานจักรวาล ฉันเป็นเกรดB ตามการเติบโตปัจจุบัน ฉันควรกลายเป็นB+ได้ภายในสามปี เอเมสบอกว่าฉันมีศักยภาพจะเป็นภัยพิบัติ…”
ฮีล่ายินดีมาก
เอเมสคืออาจารย์ของสายเอสเปอร์ดังนั้นประสบการณ์ที่เธอใช้สอนจึงไม่ธรรมดา เพื่อให้ไล่ทันหานเซี่ยว ฮีล่าไม่เคยหย่อนยาน
เธอพอใจกับความคืบหน้าเธอนี่คือผลลัพธ์ที่เธอได้รับหลังฝึกหนัก
“พี่คะหนูมีข่าวดี!”
ขณะที่ฮีล่ากำลังจะพักออโรร่าก็วิ่งมาด้วยใบหน้ามีความสุข
“มันเกี่ยวกับหานเซี่ยวทุกคนต่างบอกว่าเขาจะกลายเป็นผู้อยู่เหนือในไม่ช้า แม้กระทั่งสำนักข่าวก็ยังรายงานเรื่องนี้!”
ออโรร่ายกอุปกรณ์สื่อสารที่กำลังเล่นข่าวตรงหน้าฮีล่า
ฮีล่าตกตะลึง
“เขากำลังจะเป็นผู้อยู่เหนือ?”
เอเมสคือผู้อยู่เหนือนั่นไม่ได้หมายความว่าหานเซี่ยวกำลังจะแข็งแกร่งเท่าเอเมส?!”
ฮีล่ากัดฟันเดิมทีเธอพอใจกับความคืบหน้าเธอมาก แต่ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนเธอไม่อาจไล่ตามหานเซี่ยวได้ทัน เธอรู้สึกกดดันมาก
เทียบกับเขาแล้วความคืบหน้านี้ไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึง!
ฉันยังฝึกหนักไม่พอ!
ออโรร่ายังพูดด้วยความตื่นเต้นทันใดนั้น เธอก็เห็นฮีล่าเดินกลับเข้าห้องฝึกไป วินาทีถัดมา แสดงไฟในห้องฝึกก็สว่างขึ้น
“พี่?”ออโรร่าตกตะลึง
ทั้งคู่ไม่สังเกตเห็นว่าเอเมสกำลังจับตาดูพวกเธออยู่บนอากาศ
“ด้วยบุคลิกแข็งกร้าวฮีล่าจะคืบหน้าเร็วกว่าที่คาดไว้”เอเมสยิ้ม
แม้เธอจะขี้เกียจเธอก็ชอบเห็นฮีล่าฝึกหนัก
ผู้อยู่เหนือทุกคนต้องผ่านช่วงเวลาที่ฝึกหนักมากและสร้างตำนานของตัวเองก่อนกลายเป็นผู้อยู่เหนือในตัวฮีล่า เธอรู้สึกเหมือนเห็นตัวเธอตอนเด็ก
สำหรับแบล็คสตาร์เอเมสไม่เข้าใจได้เลย
ขณะที่หานเซี่ยวทำเรื่องน่าแปลกใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าความประทับใจของเอมสที่มีต่อเขาก็แตกสลายและก่อตัวขึ้นใหม่หลายครั้ง ตอนนี้ เธอไม่เต็มใจคาดเดาศักยภาพของหานเซี่ยวอีก เธอมีแค่คำพูดเดียว-ยากจะหยั่งถึง!
เอเมสไม่เคยคิดว่าทหารรับจ้างที่เธอรับมาลวกๆจะบรรลุเช่นนี้
เธอไม่ต้องการให้หานเซี่ยวทำอะไร
ตราบเท่าที่แบล็คสตาร์อยู่ข้างๆเธอเธอก็พอใจแล้ว
…
ครึ่งทุ่งดาวกำลังพูดถึงเขาและข่าวก็พูดเกินจริงจนหานเซี่ยวยังอาย
พวกเขาพูดถึงฉันกันจริง?
ฉันไปสูสีกับฮีเบอร์ตอนไหน?!
ฉันไปไล่ล่าเอเมสตอนไหน?!
ฉันไปประกาศท้าทายจักรวรรดิคริมสันตอนไหน!
ฉันไปคุยเล่นกับออสตินราวกับเราเป็นเพื่อนกัน…โอ้นี่เป็นเรื่องจริงแหะ
หานเซี่ยวพูดไม่ออก
นักข่าวเหล่านี้ไม่มีจรรยาบรรณกันเลยหรือไง?
หลังกลับฐานระบบดาวกาตอนในที่สุดเขาก็รู้ถึงผลกระทบของเรื่องนี้
ทัศนคติของอารยธรรมโกโดร่าเปลี่ยนไปพวกเขาเคารพเขามากขึ้น รวมถึงเปิดช่องทางทรัพยากรให้มากขึ้น
หานเซี่ยวยังได้ยินเซอร์เบียที่ห้ากำลังเตรียมเยี่ยมชมระบบดาวและจะมาดาวประตูทองเพื่อหาเขาอย่างเปิดเผย
ทรัพยากรเพื่อชดเชยความสูญเสียของผลึกม่วงมาถึงฐานเขาแล้วแค่เงินสดก็มากกว่าสิบล้านแล้ว มากกว่าที่ผลึกม่วงรับปาก ปริมาณทรัพยากรยังเพิ่มขึ้นเช่นกัน นี่เป็นเรื่องน่ายินดีมาก
หานเซี่ยวรู้ว่าสิ่งที่เขาทำน่าตื่นเต้นแต่เขาก็ประเมินมันต่ำไป เห็นได้ชัดว่าผลึกม่วงจริงจังกับเขามากขึ้นแค่ไหน
นี่เร่งแผนที่เขาวางไว้
เขารีบบอกฟิลลิปเฮอลัสและซิลเวียให้รีบจัดการเรื่องแทนที่ยานที่พังและคนก่อนไปห้องฝึก เขานำอุปกรณ์สื่อสารและเปิดข้อมูลที่ผลึกม่วงส่งให้เขา[พลังงานสภาวะผิดปกติ]
เมื่อฉันเรียนรู้มันฉันจะแกร่งขึ้นหลายเท่า กองทัพจักรกลฉันจะพัฒนาขึ้นมาก
หานเซี่ยวเปิดหน้าต่างสถานะเขาอย่างตื่นเต้น
ตรวจพบความรู้ล้ำยุคสายช่างกล[พลังงานสภาะผิดปกติ]ใช้แต้มศักยภาพ12หน่วยเพื่อเรียนรู้?
“ใช่”
กำลังเรียนรู้โปรดอย่ายกเลิก
9%…43%…78%…
เรียนรู้สำเร็จ!ท่านได้รับ[พลังงานสภาวะผิดปกติ]!
ความรู้ที่ซับซ้อนและยากบินเข้าหัวหานเซี่ยวเขาย่อยมันครู่หนึ่งและสูดหายใจลึก
แน่นอนเขาบอกราล์ฟว่าเขาต้องการเวลาเดือนหนึ่ง แต่มันไม่จริง คนอื่นไม่มีทางเรียนรู้ได้เร็วเท่าเขา
ท้ายที่สุดฉันก้ได้ความรู้ล้ำยุคอันแรก
และเขาก็บรรลุข้อกำหนดเลื่อนขั้นสายอาชีพไปพร้อมกัน
การแจ้งเตือนผุดขึ้นหน้าต่างสถานะ
ข้อกำหนดการเลื่อนขั้นสายอาชีพลุล่วง+
ท่านได้รับสายใหม่[ช่างกลที่แท้จริงระดับ1]!
+210พลังงาน+2พละกำลัง +4ความเชี่ยวชาญ +4ความทนทาน +10สติปัญญา
ท่านได้รับแต้มสถานะ7หน่วย
ท่านได้รับแต้มศักยภาพ1หน่วย
เรียบร้อย!
หานเซี่ยวยินดี
[ช่างกลที่แท้จริง]คือระดับสูงในสายช่างกลสูงกว่า[ช่างกลกาแล็กซี่] ขีดจำกัดระดับมันคือ25
ชื่อนี้แสดงถึงความจริงที่ว่าช่างกลได้เริ่มเรียนรู้ความจริงเกี่ยวกับเครื่องจักร
แต่สำหรับผู้เล่นในชีวิตก่อนหน้าเขา ชื่อนี้มีอีกความหมาย
ภายในขอบเขตการโจมตีฉันฉันคือของจริง!
—————————————————–
ตอนที่ 662 ก้าวกระโดด
หานเซี่ยวสงบอารมณ์และมองดูความสามารถใหม่
ท่านได้รับพรสวรรค์[ความรู้แท้จริงเกี่ยวกับเครื่องจักร]!
ท่านได้รับความสามารถ[กำลังขับพลังงานขั้นสูงสุด]!
ท่านได้รับความสามารถ[เสริมแกร่งโปรแกรมตรรกะ]!
ท่านได้รับความสามารถ[ปลูกฝังข้อมูลขั้นลึก]!
พรสวรรค์ท่าน[แก่นแท้แทคโนโลยีเสมือน]ได้รับการพัฒนา!
ความสามารถท่าน[การป้องกันอัจฉริยะ]ได้รับการพัฒนา
ความสามารถท่าน[การแฮ็ค]ได้รับการพัฒนา!
ความสามารถท่าน[เครื่องเชื่อมเครือข่ายควอนตัม]ได้รับการพัฒนา!
หานเซี่ยวพยักหน้า
หลังเลือกเทคโนโลยีเสมือนการเลื่อนขั้นแต่ละครั้งก็จะเพิ่มความสามารถและพรสวรรค์ของเทคโนโลยีเสมือน ความสามารถสำคัญมากมายของช่างกลเสมือนพัฒนาและมีความสามารถเทคโนโลยีเสมือนใหม่สองอัน
ผลของ[เสริมแกร่งโปรแกรมตรรกะ]คือการอัปเกรดให้ปัญญาประดิษฐ์นั่นเอง
ปัญญาประดิษฐ์คือผู้ช่วยคนสำคัญของช่างกลเสมือนยิ่งระดับของปัญญาประดิษฐ์สูง อัตราความสำเร็จในการเจาะและป้องกันก็ยิ่งสูง
ความสามารถนี้สามารถพัฒนาฟิลลิปได้เหนือสิ่งอื่นใด ริสด้าเป็นสิ่งมีชีวิตอิสระ ฟิลลิปยังมีความภักดีและน่ารักกว่า
[การปลูกฝังข้อมูลขั้นลึก]จะเสริมความสามารถบุกรุกเขาความสามารถนี้ช่วยให้ไม่ต้องโจมตีไฟร์วอลล์แต่จะใช้เวลากับการหาช่องโหว่ก่อนส่งชุดข้อมูลปลอมไปยังตัวโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ของเป้าหมาย ไม่ทำให้เกิดสัญญาณเตือนใดๆ
ความสามารถนี้ไม่มีประโยชน์กับการต่อสู้ตรงๆเพราะมันใช้เวลานานแต่ทว่า มันเหมาะกับการดำเนินการแอบแฝง ชุดข้อมูลสามารถซ่อนลึกภายในปัญญาประดิษฐ์ของศัตรูเหมือนหลุมที่ก้นสมุทร พวกมันสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวของ’กระแส’ กรองข้อมูลที่เป็นประโยชน์ พวกมันยังสามารถทำหน้าที่เป็นระเบิดเวลาได้อีกด้วย
ในเวลาเดียวกันพวกมันสามารถดำดิ่งลงชั้นข้อมูลด้านล่างของปัญญาประดิษฐ์เป้าหมาย ฝังตรรกะใหม่ และลอบทำให้มันทรยศเจ้านาย
นอกจากการปรับปรุงความสามารถบางอย่างการเลื่อนขั้นสายอาชีพนี้ยังมอบความสามารถใหม่สำคัญให้เขาสองอัน
ช่างกลแท้จริงมีชื่อเสียงเรื่องความเสียหายสูงความพิเศษพวกเขาคือการเปลี่ยนทหารจักรกลให้กลายเป็นพวกระดับสูงและเพิ่มค่าสถานะ
[ความรู้แท้จริงเกี่ยวกับเครื่องจักร]คือพรสวรรค์แกนของช่างกลแท้จริงมันผสมผสานความจริงเกี่ยวกับเครื่องจักรเข้ากับการผลิต สิ่งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับเกราะ การป้องกัน แกนพลังงาน พลังอาวุธ ระยะและสถานะอื่นๆของเครื่องจักร
ระดับการเพิ่มขึ้นของแต่ละสถานะแตกต่างกันไปจาก40-50%สรุปแล้ว แค่การเพิ่มพลังของเครื่องจักรก็ดีแล้ว ความสามารถการผลิตเขายังเพิ่มอีกด้วย
[กำลังขับพลังงานขั้นสูงสุด]เพิ่มประสิทธิภาพของแกนพลังงานนี่คล้ายกับการขยายปากภาชนะเพื่อให้น้ำไหลได้เร็วขึ้น
มันเพิ่มพลังของอาวุธตามระดับพลังงานที่ใช้และยิ่งใช้พลังงานสูง ความเสียหายก็ยิ่งสูง
ตามประสบการณ์ของหานเซี่ยวการใช้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เย็นสามารถเพิ่มความเสียหายอาวุธได้ประมาณ11% ส่วนการใช้พลังงานไซโอนิคจะเพิ่มประมาณ25-30%
พลังของพลังงานไซโอนิคเองยังเพิ่มความเสียหายด้วยการเพิ่มความสามารถทั้งสองนี้ มันจึงเพิ่มพลังทำลายล้างได้มาก
การเลื่อนขั้นสายอาชีพช่วยเพิ่มพลังให้เขามากสถานะพื้นฐานของโครงสร้างเครื่องจักรสำคัญมาก แม้จะเพิ่มแค่น้อย โบนัสพลังจักรกลก็จะทวีคูณมาก ช่างกลแท้จริงเป็นก้าวสำคัญ ด้วยการเพิ่มของสถานะมากมายรวมถึงโบนัสพลังจักรกลฉัน นี่หมายความว่ากองทัพจักรกลฉันจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า!
หานเซี่ยวพอใจหลังการเลื่อนขั้น ภัยคุกคามของกองทัพจักรกลเขาจะสูงขึ้นมากต่อเหล่าภัยพิบัติ ดังนั้น ความสามารถต่อสู้เขาจึงเพิ่มขึ้นตาม
ยิ่งระดับของสายหลักสูงผลประโยชน์ของการเลื่อนขั้นสายอาชีพก็ยิ่งเพิ่ม ระดับปัจจุบันคือ25 เหนือกว่าขีดจำกัดการเลื่อนระดับห้ารับ นี่หมายความว่าการเลื่อนขั้นสายอาชีพยากกว่าการเลื่อนระดับ
ด้วยประสบการณ์จำนวนมหาศาลหานเซี่ยวไม่ลังเลและเพิ่มความสามารถใหม่เขาจนระดับเต็มรวมถึงเพิ่มระดับตัวเขาถึง180
[ช่างกลแท้จริง]เพิ่มถึงระดับ11
+210พลังงาน+2พละกำลัง +4ความเชี่ยวชาญ +4ความทนทาน +1สติปัญญา
ท่านได้รับ6แต้มสถานะและ1แต้มศักยภาพ
ตามเคยเขาใช้แต้มสถานะลงกับสติปัญญา
การเพิ่มระดับตัวเขาและความสามารถทำให้หานเซี่ยวมีแต้มศักยภาพ13แต้มจากนั้นเขาก็เลื่อนระดับพิมพ์เขียวหลายอัน ร่วมกับที่เขาเก็บไว้ หานเซี่ยวเลื่อนระดับความรู้ล้ำยุคเป็นระดับ4โดนตรง แต่ละระดับต้องใช้แต้มศักยภาพถึง12หน่วย แต้มศักยภาพเขาพลันหมดทันที
ยิ่งระดับความรู้แกนสูงยิ่งดี นี่จะส่งผลถึงสถานะของกองทัพจักรกลที่เขากำลังจะสร้างขึ้นใหม่ เหล่านี้คือแต้มศักยภาพที่ต้องใช้อยู่แล้ว ดังนั้นหานเซี่ยวจึงไม่ลังเล ยังไงเขาก็มีค่าประสบการณ์มาก ดังนั้นเขาจึงสามารถได้รับแต้มศักยภาพจกาการเลื่อนระดับพิมพ์เขียว แม้การใช้แต้มสามเท่าจะเจ็บหนัก เขาก็ยังทนได้
ระดับรวมเขาถึง180ซึ่งเป็นการเลื่อนระดับ และภารกิจเลื่อนระดับก็มาถึง
ภารกิจเลื่อนระดับ180[การทดสอบสุดท้าย]: ผลักดันขีดจำกัดใน่ช่วงต่อสู้ ทะยานสู่จุดสูงสุดของชีวิต
ข้อกำหนดภารกิจ: ได้รับแต้มทดสอบ50แต้ม ความคืบหน้าปัจจุบัน : 5/50
แต้มทดสอบจะได้รับโดยการเอาชนะศัตรูศัตรูต้องเป็นพวกพิเศษระดับเดียวกัน 2แต้มจะได้รับหากชนะ จะได้รับสี่แต้มหากศัตรูมีระดับสูงกว่า หากศัตรูมีระดับต่ำกว่าท่าน5ระดับ ท่านจะไม่ได้รับแต้ม หากศัตรูมีระดับสูงกว่า20 ท่านจะได้รับ6แต้มหลังชนะ เป้าหมายเดียวกันไม่อาจทำซ้ำได้
ใบหน้าของหานเซี่ยวสว่างขึ้น
เมื่อเขาเป็นระดับ60เขาก็กระตุ้นภารกิจคล้ายๆกันแบบนี้ ภารกิจประเภทนี้ไม่ยากและไม่ทำให้ระดับเขาติดชะงัก
ข้อกำหนดภารกิจคือการสู้กับพวกพิเศษเกรดเดียวกันเกรดภัยพิบัติ แต้มทดสอบจะได้รับหลังชนะ ซึ่งหมายถึงการประลองก็ทำได้ ไม่จำเป็นต้องฆ่าอีกฝ่าย
สำหรับผู้เล่นงานนี้ค่อนข้างยุ่ง พวกเขาต้องหาNPCระดับภัยพิบัติ แต่หากเจอสักคนและขอประลอง มันก็ยังขึ้นอยู่กับว่าคนๆนั้นจะอยากสู้ด้วยไหม หากผู้เล่นโจมตีตรงๆ มันจะทำให้กองกำลังของอีกฝ่ายโกรธได้
ผู้เล่นใช้เวลาเกือบทั้งหมดเพื่อหาคู่ต่อสู้บางครั้ง พวกเขายังไม่อาจชนะได้ แต่สำหรับหานเซี่ยว นี่ไม่ใช่ปัญหาเลย
ด้วยเครือข่ายและสายสัมพันธ์เขาในวงแหวนดาวกระจายมันง่ายที่จะหาคนมาซ้อมมือด้วย
กองทัพแบล็คสตาร์ลำพังก็มีสองภัยพิบัติแล้วด้วยนิสัยของลากี เขาย่อมไม่ใช้พลังเต็มที่ ดังนั้นหกแต้มก็การันตีแล้ว น่าเศร้า ระดับของเรย์โนลต่ำกว่าเขา ไม่งั้นเขาคงได้รับสี่แต้ม
ตอนนี้ฉันมีระดับ180ไม่สูงเกินไปในระดับภัยพิบัติ มันง่ายจะหาคู่ซ้อม…
ระดับ180หมายถึงการาวิวัฒนาการเผ่าพันธ์ครั้งที่สี่เขาใช้น้ำยาแก่นแท้ของสิ่งมีชีวิตมิติไปมาก แม้กระทั่งแกนของจ้าวมิติด้วย เขาควรได้รับเงื่อนไขที่แข็งแกร่ง
เนื่องจากภารกิจเลื่อนระดับไม่ยากหานเซี่ยวจึงไม่รีบ อย่างน้อยเขาก็ต้องสร้างกองทัพจักรกลก่อนหาคนมาประลอง กองทัพจักรกลคือแหล่งหลักของความสามารถต่อสู้เขา
หลังดูความสามารถใหม่สักพักหานเซี่ยวก็เปิดหน้าต่างสถานะและดูค่าสถานะเขา
ระดับ:180
สายหลัก: ช่างกล
เผ่า: ผู้สังเกตโกลาหล(ร่างมนุษย์)
ค่าสถานะ306 พละกำลัง, 674 ความเชี่ยวชาญ, 670 ความทนทาน, 2126 สติปัญญา, 263 ลี้ลับ, 105 เสน่ห์, 1 โชค
แต้มสถานะ: 0
แต้มศักยภาพ: 0
พลังชีวิต: 125390
ความแข็งแกร่ง: 101620
พลังงาน: 19680[ระดับ11]
สถานะโบนัสพลังงานระดับ11: +111พละกำลัง +158ความเชี่ยวชาญ +174ความทนทาน +204สติปัญญา +129ลี้ลับ +21220ความแข็งแกร่ง +142%ความสัมพันธ์กับเครื่องจักร
ขั้นพลังงาน: 17810
เกรดA
โบนัสเกรดA: เพิ่มความทนทาน+10 ความต้านทานทั้งหมด+8 สถานะสูงสุด+10% สถานะอื่น+5% แต้มสถานะ30 แต้มศักยภาพ5
หมายเหตุ: ท่านอยู่ไม่ไกลจากเกรดA+ แม้ระดับพลังจริงท่านจะไม่อ่อนแอกว่าเกรดA+บางคน
เนื่องจากพรสวรรค์รากฐานชีวิตขั้นสูงระดับพลังงานของหานเซี่ยวจึงอยู่ที่16000แล้ว พร้อมด้วยความสามารถใหม่และอีกสิบระดับ ขั้นพลังงานเขาจึงเพิ่มอีก
เมื่อฉันทำภารกิจเสร็จค่าประสบการณ์ฉันจะมากพอให้เลื่อนเป็นช่างกลแท้จริงขั้นสูงสุด ซึ่งจะทำให้ฉันมีระดับ195 แถม ด้วยโบนัสจากการวิวัฒนาการเผ่า ฉันควรไปถึงเกรดA+
เขาบอกเฮอลัสและคนอื่นให้จัดการธุระกองทัพส่วนเขาเริ่มสร้างกองทัพจักรกลขึ้นใหม่ เขากระตือรือร้นที่จะเห็นว่ากองทัพจักรกลเขาแข็งแกร่งแค่ไหนหลังเลื่อนขั้นสายอาชีพ
ก้าวแรกของการสร้างใหม่คือการสกัดพลังงานใหม่และสร้างเตาปฏิกรณ์ไซโอนิค
พลังงานไซโอนิคคือพลังงานระดับสูงที่ไม่เสถียรโดยปกติ มีเพียงอารยธรรมกลุ่มดาวถึงศึกษาพลังงานนี้เพราะมันเสี่ยงมาก หากอารยธรรมศึกษามันโดยไม่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าพอ พลังงานไซโอนิคจะไม่อาจควบคุมได้ ผิวดาวเคราะห์อาจถูกทำลาย
อารยธรรมที่พบพลังงานไซโอนิคก่อนใครคือสหพันธ์แห่งแสงในด้านการวิจัยและพัฒนา สหพันธ์แห่งแสงมักล้ำหน้า ก่อนการปรากฏของผู้อยู่เหนือ พลังงานไซโอนิคถูกใช้ในสงครามระหว่างสามอารยธรรม
การค้นพบครั้งแรกของพลังงานไซโอนิคคือเมื่อสหพันธ์แห่งแสงกำลังศึกษาโครงการกาลอวกาศในช่วงการทดลองเกี่ยวกับการพังของมิติที่สอง พวกเขาพบว่าสสารจำนวนมากแตกสลายในการพัง ซึ่งเปลี่ยนเป็นพลังงานประเภทพิเศษ ดังนั้นพวกเขาจึงค้นพบพลังงานไซโอนิค
หลังศึกษาอยู่นานสามอารยธรรมก็ค่อยๆเข้าใจถึงพลังงานไซโอนิค
นี่คือพลังงานระดับสูงมากมันมาจากการยุบเชิงมิติที่สอง มันสามารถดูดซับพลังงานรอบๆมันได้ เช่นความร้อน กระแสไฟฟ้าและอื่นๆ ทั้งหมดจะเปลี่ยนเป็นพลังงานไซโอนิค พลังงานนั่นจะรวมกันพร้อมกับการเสียพลังงานที่ต่ำมากในช่วงดูดกลืน ปฏิกิริยานี้เรียกว่า’การขยายตัวของไซโอนิค’
ด้วยความที่ต้นทุนของการยุบช่องว่างอวกาศสูงเกินไปตามร่องรอย ทั้งสามอารยธรรมจึงได้สกัดอนุภาคไซโอนิคดั้งเดิมจากการทดลองและพัฒนาเทคโนโลยีจัดเก็บที่เก็บอนุภาคไซโอนิคดั้งเดิมให้จำศีลได้ จากนั้นพวกเขาก็เริ่มทำการผลิตจำนวนมาก
มีความล้มเหลวระหว่างการทดลองเมื่อพลังงานไซโอนิคหลุดการควบคุมและสัมผัสกับโลกภายนอก มันกลายเป็นพลังงานคล้ายหลุมดำ ดูดซับพลังงานทุกรูปแบบรอบมัน พลังงานที่ถูกแปลงกลายเป็นพลังงานไซโอนิค ซึ่งทำให้การขยายตัวของไซโอนิคเกิดเรื่อยๆและสร้างปฏิกิริยากัมมันตภาพรางสีที่เรียกว่ามลพิษไซโอนิค เมื่ออนุภาคไซโอนิคดั้งเดิมสลายตัวจนถึงจุดวิกฤต มันก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ อนุภาคเพียงเสี้ยวเดียวของมันสามารถทำให้ดาวดวงเล็กๆแบนราบไปครึ่งหนึ่ง ทำลายอารยธรรมทิ้ง
หลังการวิจัยพลังงานไซโอนิคเป็นเวลานานในที่สุดสามอารยธรรมก็เริ่มผลิตเตาปฏิกรณ์ไซโอนิคที่ควบคุมได้ แต่ทว่า เนื่องจากความกลัวในพลังของมันตอนหลุดการควบคุม มันจึงไม่อาจใช้กันได้อย่างแพร่หลายในช่วงแรก
หลังการศึกษาสามอารยธรรมก็พบอีกคุณสมบัติของพลังงานไซโอนิค มันไม่เพียงแต่จะดูดซับได้ แต่ยังซับเปลี่ยนเป็นรูปแบบพลังงานต่างๆ ด้วยความที่มันถูกสร้างจากการยุบเชิงมิติ บางคนจึงคิดว่าไซโอนิดเป็นพลังงานแรกเริ่มหรือรูปแบบสุดท้ายของพลังงาน มันถูกเรียกว่า’พลังงานจักรวาล’
การวิจัยพลังงานไซโอนิคยังดำเนินและมีสมมติฐานนับพันสามอารยธรรมจักรวาลได้พัฒนาวิธีการเก็บรวบรวมและกลั่นเป็นสูตรต่างๆมากมาย พลังงานไซโอนิคกลายเป็นแหล่งพลังงานที่ควบคุมได้ และยังเป็นเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับช่างกล
ในฐานะช่างกลเกรดภัยพิบัติหลังเรียนรู้[พลังงานสภาวะผิดปกติ] หานเซี่ยวจึงสามารถสกัดอนุภาคไซโอนิคแรกเริ่มได้อย่างปลอดภัย
———————————-