Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

The Legendary Mechanic - ตอนที่ 679-680

เรื่อง The Legendary Mechanic - ตอนที่ 679-680

ตอนที่ 679 ช่วยโลกด้วยการโจมตีปกติ
  ตัวเลือกทั้งห้านั้นเหมาะสม และก็มุ่งเน้นคนละด้าน
  [การสะท้อนเซลล์]สามารถฟื้นฟูพลังงานและลบดีบัฟได้มันสามารถใช้ได้กับทุกสายและเป็นความสามารถที่ดี
  [คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า]ก็มีประโยชน์เช่นกันมันสามารถลดพลังของเป้าหมาย เมื่อเจอกับศัตรูระดับเดียวกัน นี่จะช่วยให้ได้ปเรียบ[โจมตีจุดอ่อน]คือความสามารถประเภทความเสียหายรุนแรง
  [เจตจำนงค์แห่งการต่อสู้]คือพรสวรรค์สายชน+180ความทนทานนับว่าสูง แต่มีผลข้างเคียง หานเซี่ยวรู้สึกว่าเขาอึดพอแล้ว เขาจึงไม่สนใจมัน
  โชคดีขีดจำกัดต่ำสุดของโชคคือ0 ไม่งั้นฉันคงเป็นลบหากรับความสามารถนี้..
  สิ่งที่น่าแปลกใจสุดคือตัวเลือกสุดท้าย[เทคนิคการต่อสู้ในตำนาน]
  นี่คือพรสวรรค์การปั้น!
  แถมยังเป็นหนึ่งในพรสวรรค์สายต่อสู้ที่ดีสุด!
  ทุกการโจมตีครั้งที่สามจะสร้างความเสียหายจริงเพิ่ม35%ซึ่งหมายความว่าการโจมตีเขาจะมีพลังเพิ่มขึ้นมาก แถมพรสวรรค์ยังเป็นแบบติดตัว ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร
  ทุกการโจมตีครั้งที่สาม?ด้วยความเร็วการโจมตีของภัยพิบัติมันจะโจมตีสามครั้งได้กี่รอบภายในหนึ่งวินาที?
  นี่ช่างน่าทึ่ง!
  อีกสี่ตัวเลือกเป็นอันถูกตัดทิ้งไป
  ท่านได้รับ[เทคนิคต่อสู้ในตำนาน]!
  นี่มันสุดยอดไปเลย!
  หานเซี่ยวตื่นเต้นมากรีบตรงไปห้องฝึกเพื่อทดสอบพรสวรรค์ใหม่
  พื้นเปิดออกและผนักโลหะผสมที่ใช้ทดสอบความเสียหายก็โผล่ออกมา หานเซี่ยวเริ่มชกใส่กำแพงไม่หยด
  ความเสียหายจริงไม่สนใจพลังป้องกันตัวอย่างเช่น หากความสามารถทางทฤษฏีของการโจมตีคือหนึ่งหมื่น และความต้านทานของเป้าหมายลดมันลงไปห้าพัน เพิ่มกับความเสียหายจริง ความเสียหายก็จะเป็น5000+3500
  เกือบสองเท่า!
  หากการโจมตีถูกดูดซับโดยม่านพลังเกราะเวทย์ หรือเกราะจักรกลหนัก ผลของความเสียหายจริงก็จะไปลดความทนทานของม่านพลังและเกราะ เมื่อศัตรูได้รับความเสียหายจริงๆ งั้นความเสียหายจริงนี้ถึงเข้าตัวศัตรู
  ดังนั้นศัตรูสายอึดที่โจมตีด้วยร่างกายจะถูกตอบโต้อย่างสมบูรณ์ด้วยสิ่งนี้!
  หากไม่ใช่พรสวรรค์ของผู้นำต้นกำเนิดฉันคงลำบากมาก หานเซี่ยวยินดี
  ไม่แปลกใจที่สเตฟานีคือบอสความสามารถเธอโกงเกินไป!
  หานเซี่ยวตื่นเต้นเขาอึดอยู่แล้ว เทียบกัน แม้การโจมตีรูปแบบกองทัพเขาจะไม่อ่อนแอ มันก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับความอึดเขาเพราะเขามักสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งว่าเขาหรือจำนวนมากกว่าพร้อมกัน เวลาส่วนใหญ่ เขาจะพึ่งพาความอึดเขาเพื่อเอาชนะศัตรู
  หากเขาใช้วิธีจริงๆของรูปแบบกองทัพเขาก็จะทำลายศัตรูได้ทุกคนที่ระดับเท่ากับเขา ยิ่งตอนนี้ที่เขาเชี่ยวชาญพลังงานไซโอนิค เขาสามารถสู้กับศัตรูหลายคนได้พร้อมกันโดยไม่ต้องใช้ความอึดเขา
  แต่ทว่าวัฏจักรพลังชีวิตมานาทำให้เขาอึดเกินไป ทำให้รูปแบบกองทัพดูหม่นไป ฉายากายอมตะเขาได้ปกปิดข้อเท็จจริงที่ว่าเขาเป็นช่างกลไปแล้ว
  แต่ไม่ใช่อีกต่อไป!
  เทคนิคต่อสู้ในตำนานแข็งแกร่งพอสมควรหากคนอื่นใช้แต่เมื่อถูกใช้โดยช่างกลที่ใช้รูปแบบกองทัพ มันจะน่ากลัวมาก!
  จากNPCในชีวิตก่อนหน้าเขาที่มีพรสวรรค์คล้ายกันสุดยอดช่างกลหานรู้ว่าพรสวรรค์ประเภทนี้สามารถประยุกต์ใช้กับสิ่งมีชีวิตอัญเชิญหรือกองทัพจักรกลได้ สิ่งมีชีวิตอัญเชิญสามารถเพลิดเพลินกับพรสวรรค์ของจอมเวทย์ผ่านการเชื่อมโยงเวทมนตร์ ส่วนกองทัพจักรกลสามารถแบ่งปันผลของพรสวรรค์ผ่านพลังจักรกล เหนือสิ่งอื่นใด กองทัพจักรกลถือว่าเป็นอุปกรณ์ ดังนั้นพรสวรรค์นี้ก็เหมือนกับการเพิ่มพลังอาวุธในมือ
  หานเซี่ยวขยายทหารจักรกลที่เขานำมาและทำการทดสอบพรสวรรค์นี้
  หลังทดสอบเขาก็พบว่าเครื่องจักรทุกชิ้นล้วนมีการนับผลเทคนิคต่อสู้ในตำนานแยก นี่หมายความว่าทุกการโจมตีครั้งที่สามของเครื่องจักรจะกระตุ้นความเสียหายจริง แทนจำนวนรวมของทั้งกองทัพ
  จำนวนการโจมตีของเครื่องจักรทุกชิ้นถูกคำนวณแยกกันดังนั้น หากหานเซี่ยวให้เครื่องจักรอันหนึ่งยิงสองครั้ง จากนั้นก็เปลี่ยนให้อีกเครื่องจักรยิงครั้งที่สาม มันจะไม่เกิดผล
  หานเซี่ยวเริม่เพ้อฝันหากการนับการโจมตีถูกคำนวณพร้อมกัน มันก็หมายความว่าหากจักรลนับร้อยยิงพร้อมกัน พวกมัน33ตัวก็จะได้รับความเสียหายจริงเพิ่มเติม
  แค่คิดก็มีความสุขแล้ว
  อืมมันก็แข็งแกร่งพอแล้ว
  หานเซี่ยวพอใจมากนี่หมายความว่าหากเครื่องจักรนับร้อยยิงพร้อมกันสามครั้ง การโจมตีร้อยครั้งของสามร้อยครั้งก็จะติดผลความเสียหายจริง อัตราก็เหมือนกับการนับการโจมตีแบบรวม ความแตกต่างแค่ความถี่การกระตุ้นพรสวรรค์
  แต่ทว่าพรสวรรค์นี้ไม่ต้องโจมตีโดนเพื่อนับ มันยังกระตุ้นได้ด้วยการโจมตีใส่อากาศ!
  นี่หมายความว่าเวลากระตุ้นพรสวรรค์นี้ควบคุมได้หากเขาใช้มันได้ดี เขาจะทำให้ทุกการโจมตีที่ยิงโดนศัตรูติดความเสียหายจริงพิเศษ
  หานเซี่ยวมีความคิดมากมายในหัว
  พรสวรรค์ที่แข็งแกร่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความสามารถต่อสู้
  สำหรับสุดยอดช่างกลหาน[เทคนิคต่อสู้ในตำนาน]แข็งแกร่งพอๆกับวัฏจักรพลังชีวิต มานา มันเพิ่มความแข็งแกร่งและเขากองทัพจักรกลเขาอีกครั้ง!
  หากฉันสามารถทำให้ความคิดนี้เป็นจริงความสามารถต่อสู้จริงๆฉันจะเพิ่มขึ้นหลายเท่า!ฉันอาจจะบดขยี้ใครก็ได้ที่อยู่ต่ำกว่าผู้อยู่เหนือ!
  ความตื่นเต้นระเบิดในตาหานเซี่ยว
  ผลของการสัมผัสเฟย์ดินช่างเหมือนกับฝัน!
  วลีแข็งแกร่งขึ้นผ่านการต่อสู้ภายในคำแนะนำภารกิจเหยื่อคือเรื่องจริง แม้เขาจะตกเป็นเป้าของพันเงา หานเซี่ยวก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่าที่ตอนนี้เขาได้รับพรสวรรค์ใหม่
  หานเซี่ยวดูสถานะเขาบนหน้าต่างสถานะเขาแข็งแกร่งจนยังกลัวตัวเอง
  ไม่นานมานี้เขากังวงว่าเมื่อเขากลบสนามรบ เมื่อรู้ว่าเขาอึดแค่ไหน ศัตรูจะส่งคนไม่กี่คนมาสู้กับเขา
  แต่ตอนนี้หากพวกเขาส่งมาน้อยเกินไป เขาจะฆ่าได้ทั้งหมด!
  หานเซี่ยวขังตัวเองไว้ในห้องดัดแปลงใช้เวลาสิบวันสดท้าย วางแผนปรับโหมดควบคุมการรบของฟิลลิปเพื่อให้วิธีต่อสู้ของกองทัพจักรกลสามารถนำพลังของเทคนิคต่อสู้ในตำนานมาใช้ได้เต็มที่ ตัวอย่างเช่น เขาสามารถปล่อยให้ทีมหนึ่งของป้อมปืนมุ่งเน้นการยิงสามครั้ง ใช้หน่วยอื่นของกองทัพเพื่อสร้างโอกาสและปล่อยให้ทีมแนวหลังยิงเมื่อเหมาะสม ทำให้มั่นใจว่าจะยิงโดน มันจะสร้างความเสียหายได้มหาศาล แต่ทว่า เพื่อให้กองทัพทำงานเช่นนั้นได้ เขาต้องการโมดูลคำนวณขนาดใหญ่
  เฮอลัสและคนอื่นสามารถจัดการเรื่องกองทัพแบล็คสตาร์ได้ดังนั้นเขาไม่ต้องกังวล วิธีดีสุดในการเพิ่มตำแหน่งของกองทัพแบล็คสตาร์คือ เขาต้องแข็งแกร่งขึ้น
  เปลวไฟของสงครามปกคลุมระบบดาวลมตะวันตกไชด้าและคาย่า
  ราล์ฟนับถอยหลังเพื่อเตือนแบล็คสตาร์ให้กลับสนามรบเขาต้งรักษาเสถียรภาพการต่อสู้ระหว่างพลรบระดับสูง จอร์ดของแดนหลั่งเลือดยังระวังแบล็คสตาร์ผู้หายไปสองเดือนมาก
  …
  ในเวลาเดียวกันใจกลางวังของวิหารชุดคลุมแดง ออสตินกำลังลอยเหนือพื้นสี่เมตร ชุดคลุมขนาดใหญ่ลากบนพื้น ดีโซโลและคนอื่นยืนอยู่ด้านข้าง
  ออสตินค่อยๆลืมตาและกล่าว”ไม่คิดเลยว่าเขาจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้”
  จอมเวทย์ต้องห้ามรอบๆมีสีหน้าแปลกไปไม่นานมานี้ ออสตินได้เรียกลากีมาและพวกเขาก็เฝ้าดูการสนทนาจากด้านข้าง
  ลากีคือศิษย์คนที่สี่ของออสตินจอมเวทย์ต้องห้ามที่ติดตามออสตินมานานรู้จักลากีดี แต่ทว่า เมื่อเห็นเขาอีกครั้งหลังผ่านไปหลายปี ผู้บัญชการจอมเวทย์ต้องห้ามที่อาจหาญและไร้ความกลัวกลับเปลี่ยนไป
  พวกเขาไม่อาจจินตนาการได้ว่าลากีผ่านอะไรมาบ้าง
  ออสตินส่ายหัว”อย่างไรก็ตามแม้บุคลิกเขาจะเปลี่ยนไป เขาก็ยังเป็นคนแน่วแน่เหมือนเคย ปฏิเสธฉันแบบนั้นโดยไม่ลังเลสักนิด”
  หลังขับไล่ลากีมานานหลายปีออสตินก็ให้อภัยความผิดเขาแล้ว ดังนั้น เขาจึงถามว่าลากีอยากกลับมาไหม ด้วยความแปลกใจ ลากีกลับมุ่งมั่นที่จะกลับไปหาแบล็คสตาร์
  แม้ลากีจะทำให้ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ออสตินก็สามารถเห็นได้ว่าลากีรู้สึกขอบคุณแบล็คสตาร์จริงๆ เขาไม่คิดกลับมาวิหารชุดคลุมแดงอีก แบล็คสตาร์มาแทนที่เขาและได้รับความภักดีของลากี ลากีไม่ได้ทำเช่นนี้เพราะเขาขอบคุณอย่างเดียว แต่ยังเพราะเห็นศักยภาพในตัวแบล็คสตาร์
  เมื่อออสตินเห็นตราสังเกตบนหัวลากีเขาก็เข้าใจว่าหานเซี่ยวหมายความว่ายังไง เขาได้วางตราสังเกตบนตัวลากีแม้จะรู้ว่าจะถูกพบ นี่แสดงว่าลากีสำคัญต่อเขาแค่ไหน
  เมื่อเห็นแบบนั้นออสตินก็เต็มใจปล่อยเขาไป
  “การติดตามเมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือเป็นเส้นทางที่อันตรายอย่าตายซะละ..”ออสตินถอนหายใจ
  ที่ท่าจอดด้านนอกวังลากีเดินขึ้นยาน เมื่อเขามาถึง จอมเวทย์ต้องห้ามมากมายก็ได้มาต้อนรับเขา แต่เมื่อเขาไป เขากลับโดดเดี่ยว
  เขาหันไปและมองวังที่เขาเคยรู้จักทุกซอกมุมและอารมณ์ต่างๆก็ปรากฏในตาเขา จากนั้นเขาก็ส่ายหัวและก้าวขึ้นยาน
  หวือ!
  ประตูปิดแผ่นหลังเขากลายเป็นโดดเดี่ยว
  ยานอวกาศค่อยๆยกตัวขึ้นเปลี่ยนเป็นลำแสงและหายไป

ตอนที่ 680 หมดสิ้นวันหยุด
  ภายในบ้านแห่งความสุขการซักถามยังดำเนินต่อไป
  “ใครส่งแกมา?”หานเซี่ยวตะโกนเหมือนไม่รู้
  สเตฟานีถูกจับด้วยสายแม่เหล็กไฟฟ้าทั่วตัวซึ่งปล่อยกระแสไฟฟ้าแรงสูง มันดูเหมือนเธอจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย และเธอก็มองหานเซี่ยวด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ สีหน้าเธอขาวซีด ริมฝีปากเธอค่อยๆเปิดขึ้น”อย่างที่ฉันบอก แกจะไม่ได้ข้อมูลอะไรไปจากฉัน”
  หานเซี่ยวหรี่ตาและไม่พูด
  ภารกิจเหยื่อยังไม่จบและรอบสี่ก็ยังไม่ถูกกระตุ้น พันเงาสามารถรับรู้ความร้สึกของเงาเขาได้ ดังนั้นหานเซี่ยวจึงไม่อยากเปิดเผยความจริงว่าเขารู้ความจริง การทำเช่นนั้นมีแต่จะนำอันตรายมาสู่ตัวเอง ดังนั้น เขาจึงทำเป็นแกล้งสอบสวนสเตฟานี ทำเหมือนเขาไม่รู้จักพันเงา
  ไม่ว่าเขาจะทำไปสูญเปล่าหรือไม่การระวังก็ย่อมดีกว่า
  หานเซี่ยวได้ยายีนจากเธอมานับร้อย
  หากเขาไม่รู้ว่าศัตรูคือพันเงาเขาอาจเก็บเธอไว้เพื่อผลิตยาเพิ่ม แต่ทว่า พันเงาสามารถรับรู้ถึงเงาเขาได้ ดังนั้นการเก็บสเตฟานีไว้มีแต่จะนำความเสี่ยงมา
  สายตาของหานเซี่ยวเปลี่ยนไปท้ายที่สุด เขาก็ถอนหายใจ ด้วยการระเบิดของพลังจักรกล อนุภาคนาโนยิงออกจากบอลบีบอัดและปกคลุมแขนเขาเหมือนทรายสีดำ กลายเป็นปืนใหญ่ไซโอนิคที่กดลงบนหัวของสเตฟานี
  ปังปัง ปัง!
  หลังจากนั้นไม่นานเสียงปืนใหญ่ก็หยุด
  ประตูเปิดและหานเซี่ยวก็เดินออกมาพลางส่ายหัว
  แม้ประวัติองสเตฟานีจะน่าสงสารเขาก็ไม่ได้ใจอ่อน เงาของพันเงาสูญเสียตัวตนไปแล้วและไม่อาจหลุดการควบคุมเขาได้ ความตายคือทางเดียว
  รงาวัลสำหรับการฆ่าสเตฟานีให้ค่าประสบการณ์เพิ่ม280%มอบค่าประสบการณ์ให้หานเซี่ยวกว่า350ล้าน มันยังมอบบัตรอัญเชิญตัวละครสเตฟานีให้เขาอีกด้วย
  บัตรอัญเชิญตัวละครสเตฟานี[เสียงสะท้อนทะลวง] ลดการป้องกันกายภาพของเป้าหมาย50%-80%โดยการใช้การสะท้อนเสียงระยะประชิด สำหรับทุกๆความทนทาน100หน่วยที่เป้าหมายมี ระยะเวลาจะลดลง1วินาที
  ระยะเวลาพื้นฐาน: 24วินาที
  ระยะเวลาขั้นต่ำ: 3วินาที
  การใช้: 0/4
  หานเซี่ยวหลับตาและนึกถึงภาพก่อนหน้าในวินาทีสุดท้ายของชีวิต สเตฟานีดูเหมือนจะได้สติ เขาเห็นความโล่งใจและความขอบคุณในสายตาของสเตฟานี
  ครั้งนี้การแจ้งเตือนพลันผุดขึ้นหน้าต่างสถานะของหานเซี่ยว
  ท่านได้กระตุ้นภารกิจ[ความปราถนาสุดท้ายของสเตฟานี]
  คำแนะนำภารกิจ: วินาทีสุดท้ายก่อนหมดลมหายใจ เธอได้ขอร้องให้ท่านช่วยเธอทำสิ่งหนึ่งที่เธอเสียใจมากสุดในชีวิต
  ข้อกำหนดภารกิจ: ค้นหาสายเลือดสุดท้ายของชาวแอนทาร์
  รางวัล: ค่าประสบการณ์15ล้าน
  หมายเหตุ: นี่คือภารกิจโบราณสถาน บางคนอาจสนใจสิ่งนี้
  กระตุ้นภารกิจ…
  หานเซี่ยวแปลกใจเล็กน้อย
  แอนทาร์คืออารยธรรมของสเตฟานีซึ่งหายไปนานแล้ว
  ดูเหมือนว่าการไม่สามารถปกป้องอารยธรรมเธอได้จะเป็นความเสียใจสุดในชีวิตเธอแต่ทว่า หลังกลายเป็นเงาของพันเงา ความเชื่อเธอก็บิดเบี้ยวและเธอก็จำได้ในวินาทีก่อนตาย
  ภารกิจโบราณสถานคือภารกิจประเภทพิเศษรางวัลมักต่ำมาก แต่มันจะเกี่ยวกับสถานที่ที่ถูกกลบฝังในประวัติศาสตร์ การสำรวจโบราณสถานจะนำไปสู่รางวัลที่มากขึ้น
  หากฉันมีเวลาฉันอาจทำ
  วันหยุดของเขาใกล้หมดแล้วหานเซี่ยวคิดพักหนึ่งและนำอุปกรณ์สื่อสารออกมา เลื่อนหลายหน้าผู้ติดต่อ ค้นหาราล์ฟ
  ..
  ในระบบดาวคาย่ากองยานกำลังเคลื่อนในโหมดซ่อนตัว นี่คือกองยานซุ่มโจมตี ส่วนใหญ่มาจากกบฏฟีเล็นใหม่ ยานรบส่วนใหญ่เป็นโหมดจู่โจม
  ภายในห้องควบคุมหลักของยานอีกาเกรดยานหลักผู้บัญชาการมอเร็ดและคนอื่นกำลังวางแผนกัน คนสำคัญขององค์กรอื่นของกองยานนี้ต่างนั่งฟัง เหนือโต๊ะเป็นแผนที่ดาวสามมิติ ทำเครื่องหมายด้วยฐานที่มั่นของแดนหลั่งเลือดและกองยานที่เป็นแสงสีแดงเข้ม
  “ในบริเวณเรามีฐานที่มั่นแดนหลั่งเลือด12แห่ง ปฏิบัติการนี้คือคำสั่งระดับสูงสุดที่มอบโดยผู้บัญชาการรบโดยตรง นับรวมเรา มี27กองยานร่วมภารกิจนี้ด้วย พวกคุณคิดว่ายังไง?”
  มอเร็ดคือมนุษย์ฟีเล็นร่างเขาผอมบางและดูอ่อนแอมาก แต่พลังของกล้ามเนื้อเขากลับเกือบเท่าโลหะ น้ำหนักเขาเกือบหนึ่งตัน เขาคือหนึ่งในพลรบระดับสูงของกบฏฟีเล็นใหม่ นักสู้จักรกลเกรดภัยพิบัติ ร่างเขาถูกหลอมรวมกับโลหะกึ่งอวัยวะ
  เมื่อหานเซี่ยวลาออกจากสนามรบสถานการณ์ของสงครามลับก็เปลี่ยนไปมาก กองทัพของแดนหลั่งเลือดรวมกับกองทัพหน้า ด้วยโมเมนตัมที่ไม่อาจหยุด พวกเขายังคงขยายฐานในระบบดาวลมตะวันตก คาย่าและไชด้า ในเวลาสองเดือน พวกเขาสร้างฐานบนดาวนับร้อย ตำแหน่งของฐานเหล่านั้นถูกคัดเลือกอย่างดี ช่วยให้พวกเขาส่งผลกระทบต่อเขตดาวหลายแห่ง
  ผู้ปกครองของสามระบบดาวไม่แทรกแซงสงครามลับอย่างไม่เป็นทางการนี้ตามข่าวลือ แดนหลั่งเลือดได้ส่งฑูตไปติดต่อและเจรจากับสามอารยธรรมระบบดาว แม้เวลาจะผ่านไปแค่สองเดือน แต่ตามข้อมูลและการสืบสวน อิทธิพลของผลึกม่วงลดไปประมาณ13.7%ในสามระบบดาว
  การลดอิทธิพลของผลึกม่วงในระบบดาวชายแดนคือหนึ่งในเป้าหมายหลักของอาณาจักรเคล็นท์มันคือความจริงที่ระบบดาวเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มดาว แต่กลุ่มดาวก็ถูกกำหนดทีหลัง ดังนั้น อารยธรรมระบบดาวจึงไม่ได้อยู่ภายใต้คำสั่งของอารยธรรมกลุ่มดาว
  หากอิทธิพลของผลึกม่วงลดลงระบบดาวที่ได้รับคำเชิญจากเคล็นท์และแรงกดดันจากจักรวรรดิคริมสันในอนาคตย่อมประกาศเป็นอิสระและเข้าร่วมกับเคล็นท์ ถึงแม้ระบบดาวชายแดนของโคลตันและกลุ่มดาวโซลของเคล็นท์จะถูกแยกด้วยภูมิภาครกร้าง ระบบดาวชายแดนเหล่านั้นก็ยังสามารถเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มดาวโซลได้ ด้วยเทคโนโลยีประตูดาว ระยะทางไม่ใช่ปัญหา
  เพื่อกำหนดพื้นที่ของกลุ่มดาวใหม่ปัจจัยสำคัญสุดคือการสนับสนุนจากอารยธรรมจักรวาล นี่คือสิ่งที่ทำให้เคล็นท์มีความมั่นใจ ผลึกม่วงเป็นกลางกึ่งหนึ่ง เว้นแต่พวกเขาจะเต็มใจกลายเป็นส่วนหนึ่งของอารยธรรมจักรกวาล สหพันธ์แห่งแสงย่อมไม่ช่วยเหลือ
  กองทัพของฮีเบอร์ล้วนเป็นพวกระดับสูงที่สู้มาหลายร้อยศึกพวกเขาเป็นที่รู้จักในวงแหวนดาวกระจาย ในการต่อสู้ เซ็คชั่นซีโร่ไม่ใช่คู่ต่อกรพวกเขา
  ข้อได้เปรียบใหญ่สุดของเซ็คชั่นซีโร่คือกลยุทธ์พวกเขาผู้บัญชาการรบได้รับเอาคำแนะนำของหานเซี่ยวและปรับกลยุทธ์ตลอดสองเดือน พวกเขาหยุดการสูญเสีย แบ่งแยกกองกำลังของแดนหลั่งเลือด มุ่งเน้นการลอบโจมตี พวกเขากำลังรอโอกาส
  มอเร็ดและคนอื่นกำลังคุยเรื่องปฏิบัติการโต้กลับขนาดใหญ่ที่ใช้เวลาวางแผนมานาน!
  “กองทัพใหญ่สุดของแดนหลั่งเลือดอยู่ในระบบดาวลมตะวันตกที่แปดขุนพลอยู่ นอกจากแบล็คสตาร์ ไม่มีใครรับมือกับพวกนั้นได้ เทียบกันแล้ว ระบบดาวคาย่ามีกำลังน้อยสุด ดังนั้นมันจึงเหมาะจะเป็นเป้าหมาย”
  มอเร็ดพยักหน้าและกล่าว”เป้าหมายของปฏิบัติการนี้คือการกำจัดฐานที่มั่นของแดนหลั่งเลือด12แห่งฐานทั้ง12เชื่อมต่อกันด้วยสถานีไฮเบอร์ไดรฟ์ แม้การหนุนกำลังจะเร็วมาก ขนาดรวมก็ไม่เปลี่ยน กองยานทั้ง27ของเราจะโจมตีทุกฐานและแยกกองกำลังพวกเขา จากนั้น ทีมมีดจะบุกและทำลายสถานีไฮเปอร์ไดรฟ์ ทำให้ศัตรูเสียความสามารถย้ายสนามรบ จากนั้น เราจะรีบทำลายฐานทั้ง12แห่ง”
  ฝูงชนพยักหน้านี่คือวิธีการที่ถูกต้องแล้ว
  “กองยานทั้ง27สามารถแบ่งได้เป็นสี่ประเภททีมยับยั้ง ทีมสนับสนุน ทีมหลอก และทีมมีดที่จะบุกโจมตี”มอเร็ดเคาะโต๊ะ”เราคือหนึ่งในทีมมีดทั้งสาม ศัตรูมีการป้องกันแข็งแกร่งมากรอบสถานีไฮเปอร์ไดรฟ์ ดังนั้นภารกิจเราจึงสำคัญมาก.
  “เมื่อทุกคนไปถึงตำแหน่งเราจะเริ่มปฏิบัติการ..”คำพูดของรองผู้บัญชาการยังไม่จบ แต่ทันใดนั้น แผนที่ดาวสามมิติก็ถูกแทนด้วยคำขอสื่อสารที่แทรกประโยคเขา
  ราล์ฟปรากฏเขากวาดตามองและกล่าวเสียงดัง”ปฏิบัติการนี้ถูกเลื่อนไปชั่วคราว กำลังเสริมใหม่จะมาเข้าร่วมด้วย มอเร็ด ประจำการใกล้ๆและรอการนัดพบของพวกเขา พวกเขาจะโจมตีสถานีไฮเปอร์ไดรฟ์กับคุณ”
  การเลื่อนปฏิบัติการเพื่อรอกำลังเสริม?
  ทุกคนตกตะลึงมอเร็ดตอบสนองไวสุด เขาขมวดคิ้วและกล่าว”กำลังเสริมเหล่านี้เป็นใครครับ?”
  ราลืฟยิ้มและกล่าวด้วยน้ำเสียงยินดี”แบล็คสตาร์”
  ตาของมอเร็ดเป็นประกาย
  มันเป็นเขา!
  หลังศึกเมื่อสองเดือนก่อนแบล็คสตาร์ก็ออกสนามรบไป ตอนนี้ เขากลับมาแล้ว!
  “ด้วยผู้ช่วยเช่นนั้นโอกาสชนะเราย่อมสูงขึ้น อย่างน้อยในแง่พลรบระดับสูง เราก็ได้เปรียบ!”
  มอเร็ดพยักหน้าไม่แปลกใจที่ปฏิบัติการถูกเลื่อน มันเป็นที่ยอมรับได้เพราะพวกเขากำลังรอแบล็คสตาร์
  …
  ไม่กี่วันต่อมากองยานของกองทัพแบล็คสตาร์ก็มาถึงระบบดาวคาย่าและพบกับมอเร็ด
  ยานหลักเชื่อมต่อกันและมอเร็ดก็รออยู่พร้อมกัปตันยานต่างๆที่สะพาน ประตเปิด และชายในชุดดำก็เดินออกมาก่อน ตามด้วยกลุ่มคนในชุดทหารรับจ้าง ครั้งนี้ หานเซี่ยวพายานรบมาหกร้อยลำ คนที่ติดตามเขาคือเฮอลัส ฮาร์ม่อนและเจ้าหน้าที่ระดับBต่างๆ เรย์โนลคือผู้รับผิดชอบด้านโลจิสติกส์ และลากีก็ยังไม่กลับมา
  มอเร็ดสำรวจรีบเดินมาหาและยื่นมือมาจับ
  “ผมคือผู้บัญชาการทีมกองโจรมอเร็ด ผมมาจากกบฏฟีเล็นใหม่ เรายินดีรับความช่วยเหลือจากคุณ แบล็คสตาร์”
  “สวัสดีครับ”หานเซี่ยวจับมือเขา
  “อย่าเสียเวลากันอีกเลยแผนของปฏิบัติการเป็นแบบนี้ครับ..”
  ทั้งสองเดินเคียงข้างกันขณะที่มอเร็ดอธิบายแผนทีละขั้นให้หานเซี่ยวฟังคนอื่เดินตามมาขณะเดินไปทางห้องควบคุมหลัก
  หานเซี่ยวไม่สนใจคำอธิบายของมอเร็ดเมื่อยอมรับภารกิจ ราล์ฟก็ได้บอกรายละเอียดเขาแล้ว
  ราล์ฟรอคอยการกลับมาของเขาตลอดทันทีที่วันหยุดเขาหมด ราล์ฟก็ส่งหานเซี่ยวไประบบดาวคาย่าเพื่อเข้าร่วมปฏิบัติการนี้
  ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาเป้าหมายที่หานเซี่ยวกำหนดไว้เบื้องต้นลุล่วงแล้ว เขาเรียนรู้ความรู้ล้ำยุค สร้างกองทัพใหม่เสร็จ เลื่อนระดับเป็น195 เปลี่ยนค่าประสบการณ์จำนวนมากเป็นพลังรบ และเรียนรู้พรสวรรค์การปั้นใหม่ พลังเขาพุ่งทะยาน
  ขณะที่ผลึกม่วงกำลังเสียเปรียบในสนามรบพวกเขาก็ฝากความหวังไว้กับหานเซี่ยวมากขึ้น ทันทีที่เขากลับมา เขาก็ได้รับมอบหน้าที่
  เริ่มได้ดีตราบเท่าที่ฉันยังทำงานแบบนี้ต่อไป ตำแหน่งฉันในเซ็คชั่นซีโร่จะเพิ่มขึ้นมาก!
  เป้าหมายเขาคือการทำให้กองทัพแบล็คสตาร์ได้รับความช่วยเหลือจากผลึกม่วงแน่นอน เขาไม่ปฏิเสธภารกิจสำคัญ
  เขาวางภารกิจเลื่อนขั้นสายอาชีพไปก่อนค่าประสบการณ์ที่เขาเก็บไว้มีจำกัด และเขาก็กลัวว่าจะทำเสร็จเร็วเกินไป พลังปัจจุบันเขามากพอจะจัดการสถานการณ์ส่วนใหญ่ มีพิมพ์เขียวมรดกระดับ180ไม่มาก และก็มีความซับซ้อนมากเกินจะได้รับ หานเซี่ยวไม่มีเวลาทำมัน สงครามลับเป็นส่วนสำคัญสำหรับแผนเขา เขาต้องยึดถือมันอย่างจริงจัง
  เมื่อพวกเขามาถึงมอเร็ดก็เปลี่ยนแผนที่ดาวสามมิติและอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติม จากนั้นหานเซี่ยวจึงเริ่มฟังอย่างตั้งใจ ภารกิจผุดขึ้นบนหน้าต่างสถานะเขา
  หลังวิเคราะห์มอเร็ดก็ตรวจดูข้อมูล และสีหน้าก็จริงจัง
  “ตามข้อมูลสถานีไฮเปอร์ไดรฟ์ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา มีภัยพิบัติ15คนประจำการอยู่ ท่ามกลางทั้ง15 12เป็นคนของกลุ่มดาวโคลตัน และอีกสามเป็นคนของแดนหลั่งเลอืด”
  มอเร็ดชี้มันเป็นสิ่งมีชีวิตเพศหญิงดูดุร้ายผิวเขียว เธอมีผมสั้นสีทองและมีรอยแผลเป็นดุร้ายบนหน้า เธอตาบอดและใช้ตาจักรกล
  “ทามาเรียตุลาการของแดนหลั่งเลือด ภัยพิบัติขั้นสูง ฉายา’กระดูกพิษ’ กล่าวกันว่าเธอฆ่าคนมากกว่าพันล้าน รวมถึงพวกพิเศษนับหมื่นและภัยพิบัตินรับร้อย ข่าวลือนี้เกินจริง มันสรุปได้ว่า เธอเป็นฆาตกรชื่อดังและเป็นหญิงบ้าภายใต้ฮีเบอร์..”
  หานเซี่ยวลูบคางและคิดผิวเขียว?อาจเป็นมนุษย์สัตว์
  แม้กระทั่งลูกน้องผู้หญิงของฮีเบอร์ก็ยังบ้ากล้าม
  มีพวกมีพรสวรรค์มากมายภายใต้ฮีเบอร์นอกจากแปดขุนพล มีภัยพิบัติชื่อดังมากมาย มันว่าแปดขุนพลมีชื่อเสียงสุด
  มอเร็ดจ้องหานเซี่ยว”ผู้หญิงคนนี้และภัยพิบัติอีก14คนเป็นของคุณ”
  หานเซี่ยวหันไปและตบไหล่เฮอลัส”ได้ยินแล้วนะพวกทั้งหมดเป็นของนาย”
  ใบหน้าเฮอลัสเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
  “ล้อเล่นนะทำไมฉันถึงต้องปล่อยให้นายไปตายแบบนั้น?”หานเซี่ยวหัวเราะ”ไม่ต้องห่วง แค่15ภัยพิบัติ ต่อให้ฉันไม่อาจชนะ ฉันก็หนีได้”

อ่านตอนอื่นๆของ The Legendary Mechanic คลิกเลย

แฟนเพจ