Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

The Legendary Mechanic - ตอนที่ 709-710

เรื่อง The Legendary Mechanic - ตอนที่ 709-710

ตอนที่ 709 จักรวรรดิคริมสัน:เป็นบ้าอะไรเคล็นท์?
  “วันนี้มีรายงานเรื่องผู้นำดาราทมิฬด้วยดูสิ”เรย์โนลพลันกล่าว
  หานเซี่ยวนำอุปกรณ์สื่อสารเขาขึ้นมา
  หลังผ่านไปแค่วันเดียวข่าวเกี่ยวกับการส่งมอบผู้นำดาราทมิฬก็กระจายไปทั่วแล้ว จุดเน้นของสื่อคือเคล็นท์สงสัยว่าจะมีการเชื่อมต่อกับดาราทมิฬและผู้ล่วงหล่น
  เคล็นท์เตรียมการมานานแล้วพวกเขาอยากระงับมันเมื่อสาธารณะพูดกัน ดังนั้น พวกเขาจึงปฏิเสธต่อสาธารณะด้วยทัศนคติแข็งกร้าว ปฏิเสธที่จะยอมรับและอ้างว่านี่เป็นการใส่ร้ายโดยผลึกม่วง
  “การไม่ยอมรับนับว่าเปล่าประโยชน์ผลึกม่วงต้องมีวิธีทำให้ผู้นำดาราทมิฬพูด”หานเซี่ยวยิ้ม
  เคล็นท์พยายามลอบสังหารเขาบ่อยมากตอนนี้ที่เขามีโอกาส เขายิ่งมีความสุขที่จะทำให้เคล็นท์ลำบาก
  สงครามลับอยู่ที่ทางตันแถม มันไม่อาจทำร้ายเคล็นท์ได้ แต่ผู้นำดาราทมิฬสามารถทำร้ายเคล็นท์ทางการเมืองได้
  สำหรับเดือนถัดไปหานเซี่ยวรอคำตอบของเซอร์เบียที่ห้าขณะให้ความสนใจกับเหตุการณ์ผู้นำดาราทมิฬ ผลึกม่วงมุ่งมั่นที่จะระเบิดเหตุการณ์นี้ ดึงดูดความสนใจขององค์กรจากทุกที่
  ไม่มีคำจำกัดความที่แน่นอนว่าอาชญากรรมของการให้เงินทุนดาราทมิฬและการร่วมมือกับผู้ล่วงหล่นร้ายแรงแค่ไหนหากมันไม่ได้รับการเปิดเผย ไม่มีใครคิดสนใจ การพัฒนาของสิ่งต่างๆเช่นนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมตอนนั้น แต่ทว่า ตอนนี้มันเป็นช่วงเวลาอ่อนไหว และเคล็นท์ก็แสดงจุดอ่อน อารยธรรมกลุ่มดาวอื่นในวงแหวนดาวกระจายก็เหมือนฉลามที่ได้กลิ่นเลือด ทั้งหมดอยากใช้โอกาสนี้เพื่อกัดเนื้อเคล็นท์และสร้างความเสียหายทางอำนาจการเมือง
  ความทะเยอทะยานที่จะขยายตัวของเคล็นท์ทำให้หลายอารยธรรมตื่นตัวไม่ใช่แค่เคล็นท์จะเข้าร่วมกับจักรวรรดิคริมสันเพื่อโลกริบหรี่ เคล็นท์ยังไม่อยากยอมแพ้ตำแหน่งพวกเขาในวงแหวนดาวกระจาย พวกเขาอยากปกครองสองทุ่งดาว ความโลภนี้อุกอาจเกินไป
  ดังนั้นอารยธรรมกลุ่มดาวเหล่านี้จึงหวังที่จะทำให้สถานะทางการเมืองของเคล็นท์ในวงแหวนดาวกระจายลดลง
  พวกเขาไม่อาจหยุดเคล็นท์จากการไปโลกริบหรี่ได้แต่พวกเขาสามารถลดชื่อเสียงได้
  แกอยากพัฒนาในสองทุ่งดาวพร้อมกัน?หวังสูงเกินไป!
  ทันทีที่กองกำลังของหนึ่งในพวกเขาเติบโตเกินไปอารยธรรมอื่ยย่อมไม่สนใจที่จะร่วมมือกัน มันเป็นการทำลายคู่แข่งและปกป้องผลประโยชน์ไปในตัว
  การกระทำของหานเซี่ยวจี้ตรงจุดทำให้อารยธรรมกลุ่มดาวอื่นมีโอกาส ทันใดนั้น เคล็นท์ต้องเจอกับสถานการณ์ที่ถูกหลายคนมุ่งเป้า นี่ทำให้พวกเขาลำบากมาก
  เคล็นท์เกลียดความกล้าหาญของหานเซี่ยวเหตุการณ์นี้กระทบต่อกลยุทธ์ทั้งหมดของพวกเขา
  แต่หลังการลอบสังหารล้มเหลวเคล็นท์ก็ไม่มีทางจัดการหานเซี่ยวได้ลเย พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากแก้ปัญหานี้จากมุมมองทางการเมือง
  ครึ่งเดือนต่อมาผลึกม่วงและเคล็นท์ต่อสู้กันด้วยวาจาตลอด ฝ่ายหนึ่งกล่าวหา อีกฝ่ายไม่ยอมรับ
  “แกมันโหดเหี้ยมเลือดเย็นและไร้เหตุผล!”เคล็นท์กล่าว
  “ไม่แกนะแหละ!”ผลึกม่วงโต้กลับ
  การสนทนาแบบนี้เกิดขึ้นไม่หยุด
  เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อจักรวรรดิคริมสันจักรวรรดิคริมสันส่งฑูตไปเคล็นท์แบะสืบสวนเรื่องนี้
  จักรวรรดิคริมสันกำลังเจรจากับสหพันธ์แห่งแสงเพื่อสิทธิ์ในโลกริบหรี่ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ เคล็นท์ดันมีส่วนเกี่ยวกับผู้ล่วงหล่น
  เขาคืออาชญากรที่สามอารยธรรมจักรวาลต้องการตัวตัวตนเขาอ่อนไหวมาก เคล็นท์คือลูกน้องใหม่ของจักรวรรดิคริมสัน ดังนั้น เรื่องอื้อฉาวจึงส่งผลกระทบต่อจักรวรรดิคริมสันและสงชิปเจรจาทางการเมืองไปยังสหพันธ์แห่งแสง
  นี่ทำให้จักรวรรดิคริมสันหงุดหงิดมากจุดยืนพวกเขาชัดเจน
  แกเป็นอะไร?
  ข้อมูลมาถึงราล์ฟเขาแบ่งปันข้อมูลภายในเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้กับหานเซี่ยว วันนี้ เขาเรียกหานเซี่ยวมาอีกครั้งเพื่อคุยเรื่องนี้ บอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้น
  “จักรวรรดิคริมสันแทรกแซงพวกเขามาตกลงกับเราในนามเคล็นท์ เคล็นท์จะให้สิทธิ์ส่วนหนึ่งของพวกเขาในวงแหวนดาวกระจาย แลกกับเราต้องระงับเหตุการณ์นี้”
  “คุณเห็นด้วย?”หานเซี่ยวอยากรู้
  “เหนือสิ่งอื่นใดตอนนี้อารยธรรมจักรวาลกำลังเจรจากัน เราไม่อาจผลักดันต่อได้ มีอารยธรรมบางแห่งที่ติดต่อกับสหพันธ์แห่งแสงเป็นการส่วนตัว หวังว่าสหพันธ์แห่งแสงจะพูดให้เรา พวกเขาอาจคิดว่าสหพันธ์แห่งแสงตอนนี้กำลังสู้เพื่อโลกริบหรี่ พวกเขาจะไม่ยอมละทิ้งโอกาสนี้เพื่อทำร้ายจักรวรรดิคริมสัน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง สหพันธ์แห่งแสงกลับไม่ทำอะไร เราจึงทำได้แค่หยุด”
  หานเซี่ยวพยักหน้านี่คือข้อเสียเปรียบของการเป็นผู้ติดตาม จักรวรรดิคริมสันให้ผลกำไรในนามเคล็นท์เพื่อลดความสูญเสีย แน่นอน จักรวรรดิคริมสันไม่เต็มใจเสียหมากชิ้นนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงรับปากกับเคล็นท์ว่าจะตอบแทน
  เนื่องจากเคล็นท์อยากเข้าร่วมโลกริบหรี่ด้วยพวกเขาจึงทำได้แค่เงียบ
  “จบแค่นี้?”
  “ใช่เราทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว”
  “แล้วเคล็นท์จ่ายอะไร?”
  “นั่นเป็นความลับและผมก็ไม่รู้ อารยธรรมกลุ่มดาวอื่นจะแบ่งผลกำไรที่เคล็นท์ให้เอง”
  “งั้นสงครามลับ…”หานเซี่ยวเลิกคิ้ว
  ราล์ฟถอนหายใจและกล่าว”เห้อมันยังดำเนินต่อ จักรวรรดิคริมสันปฏิเสธที่จะพูดอะไรเกี่ยวกับสงครามลับและอารยธรรมกลุ่มดาวอื่นก็หยุดสนใจหลังได้สิ่งที่เคล็นท์มอบ เห็นได้ชัด พวกเขาหวังว่าเราจะสู้ต่อและทำร้ายกันเอง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อพวกเขา”
  “ไม่มีมิตรใดคงอยู่ไปตลอดมีแค่ผลประโยชน์”หานเซี่ยวส่ายหัว
  ในเนื้อเรื่องเดิมจักรวรรดิคริมสันจะเจรจาในนามเคล็นท์ตอนปลายสงครามเท่านั้น แต่ตอนนี้ พวกเขากลับต้องออกมาเก็บกวาดเอง นี่เพราะเขา
  นี่คือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนมันต้องเปลี่ยนทิศทางของเนื้อเรื่องทั้งหมด
  หานเซี่ยวไตร่ตรองเขารู้สึกว่าเพราะเคล็นท์หลั่งเลือดไปมาก เพื่อฟื้นฟู พวกเขาอาจให้ความสำคัญกับสงครามลับขึ้นและการต่อสู้อาจยิ่งรุนแรง
  เขาแบ่งปันความคิดนี้กับราล์ฟผู้ยิ้มแปลกๆ
  “คุณรู้ไหมว่าเพราะเรื่องนี้ฮีเบอร์ถึงไม่พอใจเคล็นท์”
  ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกายและเริ่มคาดการณ์
  เดิมทีฮีเบอร์เป็นแค่พันธมิตรผู้อยู่เหนือเดียวของเคล็นท์ ในเมื่อเคล็นท์เล่นชู้กับเทพเอสและถูกจับได้โดยฮีเบอร์ มันก็เหมือนภรรยาที่ค้นพบชู้
  ดูเหมือนสงครามลับจะอยู่ในสภาวะหยุดนิ่งควรยืดจนถึงเวอร์ชั่นสาม
  หานเซี่ยวพอใจกับผลลัพธ์นี้มากการสร้างทั้งปัญหาภายในและภายนอกให้เคล็นท์คือการส่งของขวัญคืนให้เคล็นท์ที่พยายามลอบสังหารเขา
  “อีกเรื่องเซอร์เบียที่ห้าบอกเราว่าคุณอยากยืมความสามารถของโรเซลลินเพื่อช่วยโกโดร่าแก้ปัญหาทางสายเลือด”
  “ใช่แล้ว”หานเซี่ยวหรี่ตา
  “เรื่องนี้อ่อนไหวเล็กน้อยดังนั้นเขาจึงอยากเชิญเราให้เป็นพยานและดำเนินการตามแผนนี้ภายใต้ชื่อผลึกม่วง คุณคิดว่าไง?”
  หานเซี่ยวตกตะลึงจากนั้นก็คิดออก เซอร์เบียที่ฟ้าได้ตัดสินใจแล้ว
  เซอร์เบียที่ห้ายังพบข้อแก้ตัวที่ดีกว่าโดยใช้ชื่อผลึกม่วงเพื่อดำเนินตามแผนดังนั้นมันจึงเหมือนกับว่าอารยธรรมระดับสูงกำลังช่วยโกโดร่า
  เมื่ออารยธรรมกลุ่มดาวเข้ามาเอี่ยวรัฐบาลโกโดร่าย่อมไม่คัดค้านและผู้คนก็ยอมรับง่ายๆ หลายคนรู้สึกว่าอารยธรรมระดับสูงมีความน่าเชื่อถือกว่ารัฐบาลตัวเอง
  หานเซี่ยวคิดและโทรหาเซอร์เบียที่ห้ามันถูกรับสายทันที เห็นได้ชัดว่าเซอร์เบียที่ห่ากำลังรออยู่
  “ท่านแบล็คสตาร์ผมวางแผนใช้วิธีท่าน แต่ผมหวังว่านี่จะสามารถทำได้ภายใต้ชื่อผลึกม่วง บางทีเราคงไม่อาจประกาศได้ว่านี่เป็นแผนท่าน”เซอร์เบียที่ห้ากล่าวตรงเข้าประเด็น”แต่ผมเต็มใจจ่ายราคาสูงเป็นการส่วนตัว ท่านคิดว่ายังไง?”
  หานเซี่ยวเกาเปลือกตาและกล่าว’งั้นก็ตามนั้น”
  เป้าหมายหลักเขาคือการทำภารกิจสายเลือดดังนั้นเขาจึงไม่สนใจเรื่องการประกาศผลสำเร็จ
  เซอร์เบียที่ห้าโล่งใจเขาอธิบาย”นั่นเยี่ยมมาก มันไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อใจท่าน แต่เรื่องนี้สำคัญมาก ผมต้องใช้วิธีที่อ่อนโยนกว่าเพื่อให้ชาวโกโดร่าเต็มใจยอมรับมัน..”
  จริงแล้วนี่แค่หนึ่งในปัจจัย เซอร์เบียที่ห้ายังไม่มั่นใจมากเพราะหานเซี่ยวไม่ใช่ขุมกำลังอย่างเป็นทางการ ดังนั้นเขาจึงดึงผลึกม่วงมารับรอง แน่นอน เขาย่อมไม่พูดเหตุผลนี้
  “ในเมื่อคุณยอมรับแล้วผมก็จะพาโรเซลลินไปหารือ”
  ‘ตกลงผมจะให้นากาคินไปรับคุณ มาดาวแม่เราโดยตรง”
  “..นากาคินอีกแล้ว?”หานเซี่ยวพลันตระหนักว่าทุกครั้งที่เขาติดต่อกับอารยธรรมโกโดร่าพวกเขาดูเหือนจะส่งนากาคินมาต้อนรับ
  “เอ่อ…เขาเป็นเพื่อนท่านไม่ใช่หรือ?”เซอร์เบียที่ห้าสงสัยเขาโยนเรื่องไม่สำคัญออกและพูด”ยังไงก็ตาม ผมจะรอท่านที่ดาวแม่เรา”
  หานเซี่ยวพยักหน้าและวางสายก่อนโทรหาโรเซลลิน
  “เก็บของและเตรียมตัวฉันมีงานให้เธอ”
  ไม่กี่วันต่อมาบนดาวแม่โกโดร่า ยานอวกาศลงจอดที่ท่าจอด หานเซี่ยวและโรโวลลินเดินออกมาพร้อมนากาคิน
  พวกขึ้นรถบินและมาถึงอาคารรัฐบาลหานเซี่ยวและโรเซลลินตรงไปห้องทำงานของเซอร์เบียที่ห้า
  “ในที่สุดท่านกมา”เซอร์เบียที่ห้ารอมาระยะหนึ่งแล้วเขารีบยืนและต้อนรับหานเซี่ยว
  หลังทักทายกันพวกเขาก็นั่งลง เซอร์เบียที่ห้าสำรวจโรเซลลินเป็นครั้งคราว
  เมื่อมาถึงจุดนี้โรเซลลินได้แสดงท่าทางได้สมกับเป็นพระสันตะปาปา ดุจขุนนางชั้นสูงและสง่างาม เซอร์เบียที่ห้าเดาความคิดเธอไม่ออก เขารู้สึกแค่ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนสำคัญมาก
  ทั้งสองฝ่ายทำงานร่วมกันมาหลายปีและก็คุ้นเคยกันดีดังนั้นหานเซี่ยวจึงถามตรงๆ”เข้าเรื่องเถอะ คุณมีแผนยังไง?”
  ด้วยตำแหน่งเขาตอนนี้อารยธรรมระบบดาวไม่สำคัญเท่าเดิม เขาวางแผนจัดการภารกิจสายเลือดให้เสร็จและรับรางวัล
  เขายังมีเวลาสักพักก่อนวันหยุดจะหมดแถม เคล็นท์ยังมีปัญหาภายใน เขาไม่ต้องรีบไปร่วมสงคราม เขาไม่อยากใช้เวลามากกับสายเลือดด้วย เขาวางแผนใช้เวลาหยุดเพื่อทำภารกิจและรับเอารางวัลสุ่มให้ได้มากที่สุด
  จะดีสุดหากมีบัตรสำเร็จภารกิจเก็บไว้เพิ่มก่อนเวอร์ชั่นสาม
  “อืมตามความสามารถของโรเซลลิน เราได้เตรียมแผนไว้ให้เลือก..”
  เซอร์เบียที่ห้าหยิบเอกสารขึ้นมาและมอบให้หานเซี่ยว
ตอนที่ 710 ผู้นำดาราทมิฬสับสน
  ในสองนาที หานเซี่ยวอ่านผ่านแผนของเซอร์เบียที่ห้า จากนั้นก็ส่งเอกสารให้โรเซลลิน”ดูเหมือนคุณจะไม่คิดถามหาความคิดเห็นของชาวโกโด่รา”
  “แม้แผนนี้จะเป็นประโยชน์ต่ออนาคตของอารยธรรมอิสระของคนส่วนใหญ่ก็จะหมดหาย แผนนี้สามารถดำเนินได้โดยไม่ต้องขออนุมัติจากทุกคน”การประชุมนี้เป็นการประชุมลับ ดังนั้นเซอร์เบียที่ห้าจึงพูดตรงๆ
  โรเซลลินตรวจเอกสารอย่างรวดเร็วพยักหน้าด้วยท่าทางสงบ”ฉันเข้าใจคำขอของคุณ คุณแน่ใจนะว่าไม่ต้องการปลูกฝังสิ่งอื่นในหัวของพวกคุณ?”
  เซอร์เบียที่ห้าปาดเหงื่อเย็นจากหน้าผากและกล่าว”ไม่ไม่ แค่การขจัดการเลือกปฏิบัติก็พอแล้ว”
  “ตกลงหากมันแค่การขจัดการเลือกปฏิบัติ นั่นก็ง่ายมาก”
  โรเซลลินส่งรอยยิ้มลึกลับให้เซอร์เบียที่ห้า
  สำหรับคนนอกโรเซลลินไม่เป็นกันเองเหมือนหานเซี่ยว ระหว่างทาง หานเซี่ยวบอกเธอให้รักษาท่าทางและอย่าทำให้เซอร์เบียที่ห้ากลัวกับธาตุแท้เธอ โรเซลลินมองเซอร์เบียที่ห้าด้วยรอยยิ้มสง่างามและอธิบายแผนการเธอ
  “แบล็คสตาร์ได้บอกฉันแล้วถึงสถานการณ์ตามความเข้าใจฉัน มีสาเหตุพื้นฐานสามสาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้งทางสายเลือด”
  “หนึ่งแนวคิดดั้งเดิมของเลือดบริสุทธิ์ที่สืบทอดต่อกันมา ในสภาพแวดล้อมกาแล็กซี่ มีน้อยมากที่ยังยึดมั่นในแนวคิดเลือดบริสุทธิ์ ฉันเรียกคนพวกนี้ว่าพวกตายยากและจิตใจก็ยากจะเปลี่ยน”
  “สองการเลือกปฏิบัติที่เกิดจากความแตกต่างทางชีวภาพ นี่มาจากสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิตเมื่อเห็นรูปแบบที่เบี่ยงเบนไปจากตน เลือดบริสุทธิ์หลายคนไม่อยากแยกแยะเลือดผสม แต่เมื่อเห็น พวกเขาก็ยังไม่อาจควบคุมความรู้สึกรังเกียจได้ นี่ทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติ เพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ ฉันคิดว่าประเด็นสำคัญคือความรู้สึกด้านความงาม”
  “สามความเกลียดชังที่สะสมจากความขัดแย้งจำนวนมากที่เกิดจากการเลือกปฏิบัติมานานหลายปี นี่ถือเป็นปัญหาทางประวัติศาสตร์ แถม เนื่องจากการเลือกปฏิบัติ ตำแหน่งทางสังคมเฉลี่ยของเลือดบริสุทธิ์จึงสูงกว่าเลือดผสม ดังนั้นเลือดบริสุทธิ์จึงมีอำนาจกว่าในหลายๆอุตสาหกรรม นี่อาจเป็นความขัดแย้งด้านชนชั้น ฉันสามารถระงับความเกลียดชังประเภทนี้ได้ชั่วคราว แต่หากคนของคุณไม่เปลี่ยนสถานการณ์ปัจจุบัน หลังผ่านไปนาน ความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้นอีก”
  เซอร์เบียที่ห้าปวดหัวกับปัญหาเหล่านี้
  ในสายตาเขาทุกๆปัญหาเหล่านี้ล้วนแก้ไม่ตก เขาสามารถเห็นได้ว่าปัญหาเหล่านี้ยากจะจัดการเพียงใดจากการฟังโรเซลลินพูด เขาเริ่มสงสัยอีกครั้งถึงความเป็นไปได้ของแผนนี้
  ราวกับว่าโรเซลลินมองเห็นความกังวลเธอกล่าวอย่างสงบ”ยังมีแง่บวกอยู่ มันต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบกว่าปีเพื่อทำให้ปัญหาเหล่านี้รุนแรงน้อยลงด้วยวิธีการปกติ แต่ทว่า ตอนนี้ฉันอยู่นี่ ฉันสามารถทำกระบวนการนี้ได้เร็วขึ้นนับพันเท่า สองประเด็นแรกคือปัญหาหลักและตราบเท่าที่ปัญหาพวกตายยากและความรู้สึกด้านความงามได้รับการแก้ไข ความขัดแย้งด้านชนชั้นก็จะลดไปเอง”
  เซอร์เบียที่ห้าสูดหายใจลึกลุกขึ้นยืน โค้งคำนับให้หานเซี่ยวและโรเซลลิน
  “ฝากด้วยครับ!”
  มันเป็นยามเช้าปกติแสงแดดสีเหลืองอบอุ่นได้ปลุกเมืองขึ้น
  ในจัตุรัสเชิงพาณิชย์ที่เต็มไปด้วยอาคารสูงบนดาวแม่โกโดร่ายานพาหนะลอยบินไปมาระหว่างอาคาร มันเป็นฉากที่วุ่นวายและน่าตื่นเต้น
  ครั้งนี้รถโดยสารสาธารณะจอดอยู่บนชานชาลากลางแจ้ง มีคิวยาวเหยียด มันเป็นชั่วโมงเร่งด่วนสำหรับชนชั้นแรงงานในตอนเช้า ชาวโกโดร่าเหล่านี้กำลังตรงไปทำงานของตน
  การผลิตของอารยธรรมระบบดาวนั้นมากพอจะเลี้ยงคนขี้เกียจแต่ในฐานะเมืองหลวงของอารยธรรม ดาวแม่ยังรักษาความมีชีวิตชีวาไว้ ผู้ที่อาศัยบนดาวแม่ต่างเต็มใจทำงานหนัก ไม่เหมือนพวกที่อยู่บนดาวอาณานิคมที่จะอยู่แต่บ้านและไม่มีแนวคิดเรื่องการทำงาน
  รูดี้อยู่กลางแถวชุดเขาดูดีเหมือนชนชั้นสูงของสังคม แต่ไม่เหมือนชาวโกโดร่ารอบๆ เขาไม่มีหูยื่นออกมาและหูเขาก็เป็นรูรูปเกลียว เขายังไม่ไว้ผมหางม้าหรือเครื่องประดับใดบนผมเพราะเขาไม่มีผม อวัยวะใบหน้าเขายังแยกจากกัน
  เขาคือเลือดผสมคนเดียวในแถวยาวเหยียด
  รูดี้สามารถรู้สึกได้ถึงสายตาแปลกๆที่แฝงไว้ด้วยความรังเกียจดูถูก เขามีสีหน้าปกติและมองไปข้างหน้า ราวกับไม่ได้รับผล แต่ในหัวเขา เขาหวังว่ารถจะมาถึงสถานีเร็วๆนี้เพื่อจะได้ไม่ต้องทนต่อสายตาเฉกเช่นสัตว์ในสวนสัตว์
  รูดี้อายุ63ปีในปีนี้ด้วยมาตรฐานชาวโกโดร่า เขาถือเป็นวัยกลางคนแล้ว เขาเป็นพนักงานอาวุโสของธุรกิจใหญ่ และรายได้ก็ค่อนข้างสูง เขาควรเป็นชนชั้นกลางในสังคม แต่รูปร่างหน้าตาคือตัวขัดขวางเขา เขารู้ว่าตำแหน่งปัจจุบันเขาสูงสุดเท่าที่จะทำได้แล้วและก็ไม่เคยได้รับการเลื่อนตำแหน่งอีก
  สิ่งที่เขาเกลียดสุดในแต่ละวันคือการไปทำงานไม่ใช่เพราะงานเขาเหนื่อย แต่เพราะการไปทำงานหมายความว่าเขาต้องเข้าสังคมและทนสายตาแปลกๆทุกชนิด เขาต้องแบกรับความเครียดทุกวี่วัน แต่ก็ไม่แสดงอารมณ์ออกมาทางใบหน้า เขาตื่นกลางดึกบ่อยมากเพราะความเครียด ตื่นมานั่งนิ่งและจ้องไปในความมืด คิดว่าเขาอาจเลือกงานได้เช่นกัน ทำไมต้องมานั่งทนทุกข์ด้วย?
  แต่ทุกครั้งที่เขาเห็นภรรยานอนหลับเขาก็จะเก็บความคิดไป
  ภรรยาเขาเป็นเลือดบริสุทธิ์ที่สวยมากย้อนกลับไป ภรรยาเขาไม่สนใจตำแหน่งทางครอบครัวเธอเลยและแต่งงานกับเขาผู้เป็นเลือดผสม เธอให้ลูกสองคนกับเขา แม้จะแต่งงานมาหลายปี ครอบครัวเธอก็ไม่เคยยอมรับเขา แต่ภรรยาเขาก็ไม่เคยบ่น เพื่อเห็นแก่ครอบครัวเขา รูดี้จึงไม่กล้าลาออก เขาทำได้แค่อดทน
  สำหรับเขาชีวิตก็เหมือนสระน้ำนิ่ง ฉากสีเทาที่เล่นซ้ำทุกวันเริ่มมีสีขึ้นเมื่อเขากลับบ้านและเห็นรอยยิ้มของภรรยาและลูกๆ รูดี้ไม่มีความหวังสำหรับอนาคตอีก อาจจะไม่อาจเห็นเส้นทางข้างหน้าตัวเองได้ ชีวิตที่เขาสามารถเห็นได้ตอนจบช่างน่ากลัว
  รูดี้ยิ้มกับตัวเองเขาได้ยินการสนทนาของคนสองคนด้านหลังเขา
  “ได้ยินไหม?ผู้นำดาราทมิฬถูกจับแล้วและองค์กรดาราทมิฬก็ถูกเหมือนจะถูกถอนรากแล้ว”
  “มันก็ครึ่งเดือนมาแล้วแน่นอนว่าฉันต้องได้ยิน”
  “ฮี่ๆมีรายงานว่าการไต่สวนผู้นำดาราทมิฬจบแล้วและเขาก็ถูกขังในคุกสายรุ้ง”
  “ฉันไม่รู้เรื่องนั้นเลย..”
  เมื่อได้ยินบทสนทนาที่ตั้งใจพูดด้านหลังรูดี้ก็ทำราวกับไม่ได้ยิน
  เนื่องจากการดำรงอยู่ของผู้นำดาราทมิฬเลือดผสมจึงได้รับความชิงชังเพิ่ม หลังองค์กรดาราทมิฬถูกทำลาย เลือดบริสุทธิ์จึงกล่าวถึงผู้นำดาราทมิฬบ่อยครั้ง ราวกับเป็นการเยาะเย้ยพวกเลือดผสม
  รูดี้ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของดาราทมิฬเลยเลือดผสมที่ปราถนาความสงบอย่างเขายังเกลียดการกระทำของดาราทมิฬ แต่สำหรับเลือดบริสุทธิ์ ดูเหมือนเลือดผสมทุกคนจะชื่นชมดาราทมิฬ จุดจบของดาราทมิฬหมายถึงความล้มเหลวของเลือดบริสุทธิ์
  ครั้งนี้จอภาพที่ปรากฏระหว่างอาคารสูงได้ดึงดูดความสนใจของทุกคน
  เซอร์เบียที่ห้าปรากฏบนจอเขานั่งตัวตรงและหันหน้าเข้าหากล้องด้วยใบหน้าจริงจัง
  ฉากเดียวกันปรากฏขึ้นบนดาวทุกดวงของโกโดร่ามันคือการประกาศทั่วอารยธรรม
  “วันนี้ในนามของรัฐบาลโกโดร่า ผมกำลังจะประกาศการตัดสินใจครั้งสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงโศกนาฏกรรมที่คล้ายกับเหตุการณ์ดาราทมิฬ เราจึงตัดสินใจยอมรับความช่วยเหลือจากอารยธรรมผลึกม่วงเพื่อใช้วิธีการนอกรีตเพื่อแก้ปัญหาการแบ่งแยกสายเลือดที่ส่งผลกระทบต่อเรามานาน..”
  เซอร์เบียที่ห้าอ่านบทพูดยาวที่เตรียมไว้ล่วงหน้าอธิบายสถานการณ์ว่าผลึกม่วงเสนอตัวช่วยและเขาก็ตัดสินใจยอมรับการช่วยเหลือหลังพิจารณาถี่ถ้วน เขาใช้คำและลดคำที่ช่วยลดการคัดค้านไปมาก
  แต่ชาวโกโดร่าก็ยังหวาดกลัวกับข่าวนี้และพูดไม่ออก
  หลังการประกาศจบมันก็เกิดเสียงอึกทึก
  “นี่กะทันหันเกินไปไม่มีสัญญาณล่วงหน้าเลย!”
  “นี่คือการล้างสมอง!”
  “ทำไมมุมมองเราต้องเปลี่ยน?จะไม่มีอิสรภาพอีก!เซอร์เบียที่ห้าบ้าไปแล้ว?”
  “จะมีผลข้างเคียงไหม?”
  “นี่เป็นความคิดของอารยธรรมผลึกม่วง?งั้นก็อาจเชื่อถือได้”
  ชาวโกโดร่าต่างถกถึงปัญหาและตอบโต้ด้วยวิธีการต่างๆซึ่งส่วนใหญ่ตกใจและไม่พอใจ
  รูดี้ไม่ได้มีส่วนร่วมดวงตาเขาเปิดกว้างและใบหน้าก็เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
  ตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่าหัวใจที่ชาด้านไปแล้วเขากลับมาเต้นแรงอีกครั้ง
  เขาดูเหมือนจะเห็นแสงสว่างอยุ่ร่ำไร
  วันนี้คนจากทุกอุตสาหกรรมเริ่มใช้เครือข่ายเพื่อสอบถามเพิ่มเติมถึงท่าทีของรัฐบาล
  ไม่มีใครเต็มใจปล่อยให้คนมาเปลี่ยนความคิดตนต่อให้มันจะเป็นการกระทำที่ดีต่อส่วนรวมก็ตาม ตามคาด สิ่งนี้ทำให้เกิดฟันเฟืองเพราะความไม่จำยอม เซอร์เบียที่ห้าสัญญาจะลดภี และให้ผลประโยชน์กับคนที่ยอมรับแผนการเปลี่ยนการเลือกปฏิบัติ แต่ก็ไม่ได้ให้ทางเลือกที่จะปฏิเสธ
  มีการจราจลประท่วงเกิดขึ้น แผนของเซอร์เบียที่ห้าได้สั่นคลอนทั้งสังคม แต่เขาก็ตั้งใจแล้วว่าจะไม่เปลี่ยนใจ
  ด้วยการแทรกแซงของผลึกม่วงการต่อต้านภายในจึงถูกปราบปรามอย่างรุนแรง รัฐบาลเริ่มดำเนินการตามประสงค์เขา
  ชนชั้นสูงของสังคมถูกควบคุมโดยเลือดบริสุทธิ์คนเหล่านี้มีอำนาจมากและส่วนใหญ่ก็เป็นพวกตายยาก พวกเขาไม่ได้รับข้อมูลใดๆล่วงหน้าเช่นกัน แม้พวกเขาจะเกลียดแผนของเซอร์เบียที่ห้า พวกเขาก็ไม่ได้ออกมาต่อต้านแต่กลับนิ่งเฉยและเฝ้าสังเกตสถานการณ์
  ชื่อของผลึกม่วงได้ช่วยเซอร์เบียที่ห้าไม่ให้ถูกคัดค้านชื่อเสียงของอารยธรรมกลุ่มดาวช่วยให้ควบคุมชาวโกโดร่าได้ แม้การกระทำของเซอร์เบียที่ห้าจะเหมือนเผด็จการ แต่ชาวโกโดร่าหลายคนก็เชื่อว่านี่เป็นการตัดสินใจของอารยธรรมผลึกม่วง
  เนื่องจากหลายๆปัจจัยเซอร์เบียที่ห้าจึงสามารถดำเนินการตามแผนนี้ได้
  เมื่อเห็นว่าพวกเขาไม่อาจเปลี่ยนความคิดรัฐบาลได้ความสนใจของชาวโกโดร่าทั้งหมดจึงมุ่งเน้นที่การทดสอบครั้งแรกของแผนเปลี่ยนการเลือกปฏิบัติ มันเป็นดาวอาณานิคม กาติน
  ดาวที่มีความสำคัญต่ำมากเต็มไปด้วยพวกขี้เกียจเหมาะกับการทดสอบเป็นที่สุด
  ในคุกสายรุ้งผู้นำดาราทมิฬนั่งอยู่ตรงมุมห้องขัง มันมืดสนิท และก็ได้ยินแค่เสียงหายใจของตัวเอง
  การพิจารณาคดีเขาจบลงแล้วโกโดร่าและผลึกม่วงได้สิ่งที่ต้องการ ดังนั้นเขาจึงถูกขังและจะใช้เวลาทั้งชีวิตในคุก
  ความหวังที่สนับสนุนความเชื่อถูกทำลายมันราวกับผู้นำดาราทมิฬเสียกระดูกสันหลัง และหัวใจเขาก็ชาด้าน
  คุกสายรุ้งสามารถทำลายความเชื่อของสมาชิกดาราทมิฬได้เขาไม่รู้ว่าเขาจะยึดมั่นความเชื่อตัวเองได้นานแค่ไหน แต่ก็ไม่สนใจอีก
  เกร๊ง!
  หน้าต่างให้อาหารด้านล่างประตูเปิดถาดอาหารและแสงสว่างส่องเข้ามา
  “เร็วๆนี้เซอร์เบียที่ห้าประกาศแผนล้างสมองชาวโกโดร่าทั้งหมดเพื่อกำจัดการเลือกปฏิบัติสำหรับเลือดผสม แกโน้มน้าวเขาและทำให้เขาทรยศเราสินะ?”
  ผู้คุมคุกด้านนอกประตูพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันจากนั้นก็ปิดและเดินออกไป
  ในห้องมืดผู้นำดาราทมิฬเบิกากว้าง ดวงตาที่ชาด้านเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
  ล้างสมองทั้งอารยธรรม?
  บ้าอะไรกัน?หรือเราจะมีความเชื่อแบบเดียวกันแต่แกฉลาดกว่าฉัน?
  แกควรเป็นผู้นำดาราทมิฬซะมากกว่า!

อ่านตอนอื่นๆของ The Legendary Mechanic คลิกเลย

แฟนเพจ