Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

The Legendary Mechanic - ตอนที่ 739-740

เรื่อง The Legendary Mechanic - ตอนที่ 739-740

ตอนที่ 739 แขก
  พรสวรรค์การปั้นคือสิ่งที่ไม่อาจได้รับง่ายๆและหานเซี่ยวก็ได้รับพรสวรรค์การปั้นทั้งหมดผ่านวิธีการผิดปกติ
  แม้ภารกิจเหยื่อจะมีโอกาสได้รับพรสวรรค์เขาก็ไม่ได้กระตุ้นภารกิจขั้นต่อไปหลังผ่านไปนาน เขาเกือบคิดว่าพันเงาไม่สนใจเขาแล้ว แต่ทว่า ภารกิจยังไม่จบ ดังนั้นหานเซี่ยวจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้น เขาจึงไม่อาจนิ่งนอนใจได้
  มีภารกิจต่างๆที่มอบพรสวรรค์ให้ในความทรงจำเขาแต่รางวัลมักเป็นพรสวรรค์ทั่วไป มีพรสวรรค์หายากไม่มาก และหานเซี่ยวก็ถือว่าเป็นภารกิจที่เขาควรทำ
  ก่อนอื่นเขาต้องทำภารกิจรอบนอกวงแหวนดาวกระจาย
  ความสามารถบางอย่างไม่ได้เพิ่มพลังรบเขาและจะเสียเวลาเปล่าๆเขาตัดสิ่งเหล่านั้นทิ้งไป
  หลังกำจัดภารกิจทั้งหมดที่เขาเห็นว่าไม่เหมาะสมหานเซี่ยวก็เลือกภารกิจที่เหมาะขึ้น
  แม้พรสวรรค์จากภารกิจเหล่านั้นจะไม่สามารถทำให้พลังเขาเพิ่มขึ้นจนสั่นสะเทือนโลกมันก็ยังเพิ่มความสามารถเขาได้ระดับหนึ่ง
  ฉันอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนเพื่อทำภารกิจเหล่านี้ให้เสร็จ..สงครามจะไม่จบเร็วๆนี้ฉันควรมีเวลาพอ…
  ปัจจุบันเขามีระดับ221และต้องเลื่อนขั้นสายอาชีพที่ระดับ225เขาเก็บบัตรสำเร็จภารกิจไว้ในช่วงการอัปเดทเวอร์ชั่น และยังเหลืออีกสองสามใบหลังใช้ไปครึ่งหนึ่งตอนระดับ220 ดังนั้น เขาจึงขาดแค่ค่าประสบการณ์
  จำนวนค่าประสบการณ์ที่ต้องใช้หลังระดับ220เพิ่มขึ้นแบบเท่าทวีแต่ด้วยพืชสองแปลง เขาต้องใช้เวลาแค่ไม่กี่เดือนเพื่อสะสม
  เขาสามารถทำภารกิจให้สำเร็จได้ขณะรอให้ค่าประสบการณ์เพิ่ม
  จากนั้นหานเซี่ยวก็โทรหาฮีล่าออโรร่าและเฟย์ดินให้มาเพื่ออธิบายแผนการเขาให้ทั้งสามฟัง
  “ใช่แล้ว”หานเซี่ยวพลันคิดและกล่าวกับออโรร่า”ช่วยฉันสร้างยารักษาหน่อยฉันอยากให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพ มันควรสามารถช่วยชีวิตพวกเขาได้ในเวลาอันตราย.
  แดนหลั่งเลือดเริ่มทุ่มสุดตัวเพื่อป้องกันเบื้องบนของกองทัพจากการได้รับบาดเจ็บ เขาอยากให้การคุ้มครองกับพวกเขา ยาพลังชีวิตของอโรร่ามีผลศักดิ์สิทธิ์และคล้ายกับชีวิตที่สอง
  ออโรร่าสามารถควบคุมความสามารถเธอได้อย่างอิสระแล้วและการสร้างยาก็ไม่ทำให้เธออ่อนเพลียนัก
  “ไม่มีปัญหา!”
  ออโรร่าตื่นเต้นมากในที่สุดฉันก็ได้ช่วยอะไรบ้าง!
  เดิมทีฮีล่าอยากเกลี้ยกล่อมเธอแต่เมื่อเห็นสีหน้าดีใจของออโรร่า เธอก็เลือกเงียบ
  เนื่องจากมันเป็นคำขอของหานเซี่ยวและไม่ได้ยากเกินไปเธอจึงตัดสินใจปล่อยออโรร่าให้ทำตามใจชอบ เธอเห็นการเติบโตของออโรร่าเองกับตาและก็ไม่ได้ปกป้องเกินเลยแบบก่อน
  หานเซี่ยวใช้เวลาหนึ่งวันกับการจัดการสิ่งที่จำเป็นก่อนพาทั้งสามออกเดินทาง
  ยานอวกาศสีดำโค้งสามลำออกจากแถบจักรวาลว่างเปล่าและเข้าสู่วงแหวนดาวกระจายจากภูมิภาครกร้าง
  ในห้องโดยสารของยานคอลลินมองออกนอกหน้าต่างและพ่นผลไม้เน่าออกากปากเขา ปากเขาเต็มไปด้วยน้ำสีม่วงจากผลไม้
  “หลังบินมาเกือบหกปีเราก็มาถึงแล้ว”
  ขณะที่กล่าวเขาก็ตบปุ่มละลายบนยานอวกาศ
  ฟู่…
  ห้องเย็นอุณหภูมิต่ำหลายห้องเริ่มละลายและประตูของห้องเหล่านั้นก็เปิด อากาศเย็นปกคลุมทั่วยานและหลายคนก็เดินออกมา
  ‘เราหลับไปสามปี?”
  “ถึงเวลาเปลี่ยนกะแล้วหรือเรามาถึงแล้ว?”
  คนเหล่านี้ที่เพิ่งตื่นจากการหลับสวมชุดและเดินไปห้องนักบิน
  เมื่อได้ยินเสียงเท้าคอลลินก็ชี้แผนที่ดาวโดยไม่หันกลับ”เรามาถึงวงแหวนดาวกระจายแล้ว รีบปรับร่างกายกันซะ จะได้ไม่ทำให้ภารกิจของนายเราล่าช้า”
  “ไม่ต้องห่วงฉันแค่ต้องดูดเลือดเพื่อฟื้นสภาพ”ชายผมสูงกล่าวพลางเลียปาก
  “บารอนโอโรเซ็น อย่าตำหนิฉันที่จะโยนแกออกยานหากแกล้าแตะต้องลูกน้องฉัน”
  “ทำไมฉันถึงต้องฟังแก?”โอโรเซ็นแค่นเสียง
  “เพราะฉันคือกัปตันที่ท่านเทพเอสแต่งตั้งหรือแกอยากสู้?”คอลลินจ้องเขม็ง
  โอโรเซ็นหัวเราะขนลุกก่อนยักไหล่แสดงท่าทางยอมแพ้
  จากนั้นคอลลินก็แค่นเสียง”แกควรทำตัวให้ดีฉันจำได้ว่าแกเป็นผู้หลบหนีจากวงแหวนดาวกระจาย ฉันไม่อยากให้อดีตอันโง่เขลาของแกมาเปิดเผยตัวเราก่อนทำภารกิจลุล่วง”
  “เงินค่าหัวนั่นก็ผ่านมากว่า60ปีแล้วมันอาจถูกลบไปแล้ว”โอโรเซ็นตอบอย่างไม่แยแส
  ทุกคนบนยานล้วนเป็นคนของแดนผู้ล่วงหล่นและเป็นอาชญากรจากหลายๆทุ่งดาวพวกเขาถูกส่งมาปฏิบัติภารกิจในวงแหวนดาวกระจาย
  คอลลินมีฉายาว่า’พิษกร่อน’และคือกัปตันของทีมนี้ครั้งหนึ่งเขาเคยแพร่กระจายโรคระบาดไปหลายดาวอาณานิคมในทะเลทรายดาวโบราณ ซึ่งส่งผลให้มีคนตายกว่าสามพันล้านคน เขาเป็นอาชญากรที่ถูกอารยธรรมระบบดาว23แห่งและอารยธรรมกลุ่มดาว2แห่งต้องการตัว จากนั้นเขาก็เข้าร่วมกับเทพเอส
  โอโรเซ็นมีฉายาว่า’บารอน’และเป็นเผ่าเลือดเขาคือภัยพิบัติอีกคนในทีม เขาเป็นคนที่ดุร้ายมากและเป็นอาชญากรในห้าทุ่งดาว
  โดยเฉพาะวงแหวนดาวกระจาย
  เขาเคยกินเจ้าหน้าที่ระดับสูงในช่วงพิธีของอารยธรรมระบบดาวต่อหน้าทั้งระบบดาวเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความปั่นป่วนอย่างยิ่งและเขาก็เข้าร่วมกับเทพเอสหลังหลบหนออกวงแหวนดาวกระจาย
  คนกลุ่มนี้ออกเดินทางหกปีก่อนและเพิ่งมาถึงวงแหวนดาวกระจายในฐานะอาชญากร พวกเขาไม่กล้าใช้ประตูดาวและใช้เวลาส่วนใหญ่ในแถบจักรวาลรกร้าง
  ยานอวกาศ’แสงพังพอน’ทั้งสามติดตั้งเครื่องยนต์ไฮเปอร์ไดรฟ์ขั้นสูงและสร้างเป็นพิเศษสำหรับการเดินทางระหว่างทุ่งดาวความเร็วสูงสุดของยานคือ17.89วาร์ป หากมันเดินทางภายในทุ่งดาว มันจะสามารถเดินทางจากระบบดาวหนึ่งไปอีกระบบดาวได้ในไม่กี่นาที
  แม้เกร่ดต่ำสุดในกลุ่มจะเป็นBพวกเขาก็ตองพักในห้องค้ำจุนชีวิตเพื่อทนต่อการเดินทางด้วยความเร็ววาร์ป
  ทีมเล็กๆนี้สามารถเดินทางผ่านทุ่งดาวต่างๆได้โดยเครื่องยนต์นี้
  จากนั้นลูกน้องคนหนึ่งก็ถาม”หัวหน้าภารกิจไหนที่เราควรทำก่อน?”
  พวกเขามีสองภารกิจ
  ““โง่หรือเปล่า?เราต้องจัดการคนที่ง่ายกว่าก่อนสิ!”“คอลลินตอบอย่างหงุดหงิดจากนั้นก็เปิดไฟล์บนหน้าจอโฮโลแกรม
  มีข้อมูลเกี่ยวกับคนสองคนแฮร์โรฟาลและหานเซี่ยว
  พวกเขาสองคนร่วมมือกันจัดการกับเทพเอส
  “แฮร์โรฟาลภัยพิบัติในอารยธรรมไทล่า รองอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนช่างกลไทล่า เขาเป็นนักวิจัย”
  “แบล็คสตาร์หานเซี่ยว ผุ้นำกองทัพแบล็คสตาร์และพันธมิตรของผลึกม่วง เมล็ดพันธ์ผู้อยู่เหนือ..เอ๊ะ?บันทึกต่อสู้เขาอัปเดทอีกแล้ว เขาคือคนที่ทรงพลังและกล่าวกันว่าเป็นยอดนักสู้ในหมู่ภัยพิบัติของวงแหวนดาวกระจาย”
  โอโรเซ็นยิ้ม”แบล็คสตาร์?ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนก็แค่พวกหน้าใหม่ที่เพิ่งปรากฏตัว”
  “วงแหวนดาวกระจายเป็นแค่ทุ่งดาวชนบท”คอลลินกล่าวอย่างไร้อารมณ์”พลังของพวกพิเษในสถานที่นี้เทียบไม่ได้กับสามทุ่งดาวในกาแล็กซี่กลาง”
  คอลลินและคนอืนที่มักใช้เวลาในกาแล็กซี่กลางต่างดูถูกพวกพิเศษจากทุ่งดาวชนบทอย่างวงแหวนดาวกระจายในฐานะอาชญากรดุร้ายสุดในกาแล็กซี่ พวกเขาล้วนอวดดีและยังไม่เห็นผู้อยู่เหนือในสายตา
  ตั้งแต่เจ็ดปีก่อนเทพเอสก็พึมพำถึงต้นไม้ทุกวี่วัน พวกเขาต่างรู้สึกว่าอาการป่วยทางจิตของเทพเอสจะยิ่งย่ำแย่ ถึงส่งพวกเขามาวงแหวนดาวกระจายเพื่อหาพิกัดของรูหนอน
  “แฮร์โรฟาลมีข้อมูลที่เราต้องการดังนั้นเขาจึงเป็นเป้าหมายสำคัญ”คอลลินกล่าว”หากเราสามารถได้รับข้อมูล เราก็ไม่ต้องไปหาแบล็คสตาร์ ยังไงซะ แฮร์โรฟาลก็จัดการได้ง่ายกว่าแบล็คสตาร์”
  ทุกคนพยักหน้า
  “จากนั้นเราค่อยขโมยลูกบาศก์วิวัฒนาการหลังทำภารกิจแรกสำเร็จ”
ตอนที่ 740 เที่ยวเล่น
  หลังเดินทางหลายวัน ยานแสงทมิฬก็มาถึงจุดหมายปลายทาง
  มุมมองจากภายในช่องหน้าต่างแสดงดาวเคราะห์พืชเขียวและโลกสีเหลืองมหาสมุทรสีฟ้าสามารถมองเห็นได้บนผิวดาว แต่ดินสีเหลืองก็ปกคลุมซะส่วนใหญ่
  ออโรร่าจ้องดาวอย่างสงสัย
  “ฟิลลิปนี่คือดาวอะไร?”
  “กำลังค้นฐานข้อมูลฮึ่ม..การค้นหาเสร็จสิ้น”
  “ดาวนาลุนตั้งในเขตดาว6ของกลุ่มดาวโคลตันในวงแหวนดาวกระจาย หมายเลขดาวคือS0706812 มันถูกค้นพบและบันทึกโดยอารยธรรมกาลูท มีสัญลักษณ์ของอารยธรรมอยู่ภายใน แต่ก็ถือเป็นพวกล้าหลัง แต่ก็ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีดวงดาว..”
  ดาวนาลุนประกอบไปด้วยอารยธรรมพื้นเมืองแต่ระดับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียังโบราณ โดยปราศจากเครื่องบินติดตั้งปืนใหญ่นิวเคลียร์ก็นับว่าห่างไกลจากการสำรวจอวกาศ
  “ทำไมหานเซี่ยวถึงพาเรามาที่นี่ละ?”ออโรร่าสงสัย
  “เขาต้องมีเหตุผลของเขาแค่ถามเขาเอาเลย”เฟย์ดินยิ้ม
  ตอนนี้หานเซี่ยวไม่อยู่บนยาน ขณะที่ทั้งสามอยู่ในยาน เขากำลังพุ่งผ่านจักรวาลด้วยกายเนื้อเขาเพื่อสัมผัสกับรังสีจักรวาล นี่เพื่อให้ได้รับสถานะผ่านพรสวรรค์ของผู้ไล่ตามดาว[การดูดซับรังสี] เช่นนั้น ความเร็วการเดินทางเขาจึงช้ากว่าทั้งสาม
  ยานอวกาศลอยเหนือดาวนาลุนและไม่นาน มิติข้างๆมันก็เริ่มบิด หานเซี่ยวกระโดดออกจากมิติ เขาหาวและเปิดประตูเพื่อบินเข้ายานไป
  หวือ!
  หานเซี่ยวพ่นเอาอากาศร้อนออก
  วินาทีที่เขาออกจากสภาพแวดล้อมสูญญากาศร่างกายเขาก็เริ่มปล่อยควันขาวราวกับเขากำลังถูกปรุงสุก
  เพราะเซลล์ในตัวเขากำลังย่อยรังสีจากจักรวาลร่างเขาจึงเหมือนเตาเผา ผิวเขาร้อนจนพอจะทอดไข่
  เขาเปิดหน้าต่างสถานะและพอใจ
  นี่เป็นสายพันธ์วิวัฒนาการระดับกลางค่อนสูงพรสวรรค์แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่ดี และตราบเท่าที่มีเวลาสะสมพอ โบนัสจะเพิ่มขึ้นมาก
  หลังทดสอบหานเซี่ยวก็เข้าใจกลไกการทำงานของการดูดซับรังสี
  หลังพัฒนาเป็นผู้ไล่ตามดาวเซลล์เขาก็เปลี่ยนและตอนนี้ก็มีความสามารถดูดซับรังสีจักรวาล หากร่างกายเขาสัมผัสกับอวกาศเป็นเวลาหนึ่ง มันจะกระตุ้นการดูดซับรังสี ซึ่งจะเพิ่มพละกำลังหรือความอดทนเขาถาวรโดย1-3หน่วยหรือเพิ่มความจุพลังงานเขา5-10หน่วย
  หากการดูดซับรังสีถูกนำมาใช้ต่อเนื่องผลก็จะยิ่งลด และต้องแช่ในอวกาศนานก่อนจะได้รับสถานะที่เพิ่มขึ้น
  แต่ทว่าหากมันไม่ถูกกระตุ้นเป็นวัน เวลาที่ต้องแช่ตัวเองในอวกาศก็จะกลับสู่สถานะเริ่มต้น
  กระบวนการดูดซับนี้สามารถแยกได้เป็นสามขั้นตอนดูดซับ จัดเก็บและย่อย เนื่องจากเซลล์ไม่ได้อยู่ลึกสุดและมีแค่ความสามารถจัดเก็บและย่อย สถานการณ์นี้จึงเกิด
  นี่คือพรสวรรค์เผ่าที่จะช่วยให้ได้รับผลประโยชน์มากมายมันสามารถเพิ่มพลังได้ระหว่างเดินทางและแน่นอนว่าคุ้มค่า การดูดซับรังสีคือพรสวรรค์ที่หานเซี่ยวพอใจมากสุด
  ณจุดนี้โบนัสสถานะทั้งหมดที่สะสมโดยพรสวรรค์ประกอบไปด้วยพละกำลัง16หน่วย ความเชี่ยวชาญ13หน่วย ความทนทาน21หน่วยและพลังงาน68หน่วย
  หลังกลับเข้ายานหานเซี่ยวก็ทักทายทั้งสาม
  “เริ่มกันได้เลย”
  “ทำไมเราถึงมาดาวนี้ละ?”ออโรร่าถาม
  “เพื่อเป็นชาวสะมาเรีย”
  หานเซี่ยวยิ้มและปรับเป็นโหมดบังคับมือเปลี่ยนยานเข้าสู่โหมดล่องหนขณะเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของดาวนาลุนและค่อยๆร่อนลง
  นี่คือจุดแรกที่เขาเลือกดาวนาลุนมีสามทวีปใหญ่ แต่มีแค่หนึ่งที่ยึดครองโดยอารยธรรม อีกสองทวีปยังไม่ถูกค้นพบโดยชาวบ้าน แม้กระทั่งยุคการเดินเรือของพวกเขาก็ยังไม่เริ่ม นับประสาอะไรกับการสำรวจจักรวาล
  นอกจากอารยธรรมกาลูทซึ่งพบดาวนาลุน เขาควรเป็นแขกคนที่สองของดาวแสนงดงามนี้
  อารยธรรมนี้ไล่ตามเส้นทางเวทมนตร์มีหลายอาณาจักรปกครองทั่วทวีป พวกเขาใช้ระบบโบราณของราชาและขุนนาง พิชิตอาณาจักรอื่นเพื่อดินแดน อาณาจักรที่ใหญ่สุดคืออาณาจักรเขตมหาสมุทร
  อาณาจักรเขตมหาสมุทร
  ในชีวิตก่อนหน้าเขาผู้เล่นได้พบภารกิจอาชีพ ซึ่งสามารถเป็นประโยชน์ต่อหานเซี่ยว
  ยานอวกาศร่อนลงด้วยความสูงเหนือระดับน้ำทะเลหนึ่งกิโลเมตรกวาดทั่วพื้นภายใต้การควบคุมขิงหานเซี่ยว จากจุดที่พวกเขาอยู่ เมืองสร้างขึ้นจากอิฐและหิน
  อารยธรรมท้องถิ่นของดาวนาลุนไม่มีความสามารถที่จะค้นพบยานอวกาศ
  อย่างรวดเร็วยานอวกาศพวกเขาโคจรรอบดาว ทำการสแกนจนเสร็จ ฟิลลิปสร้างแผนที่ทั้งดาวขึ้น
  ฮู่!
  ต้นไม้พลิ้วไหวเมื่อยานอวกาศลอยอยู่ท่ามกลางป่าทึบในเทือกเขา
  ทั้งสี่ลงยานซ่อนยานไว้กรณีที่คนท้องถิ่นจะเห็น หานเซี่ยวหยิบแผนที่ขึ้น กวาดมองก่อนอธิบาย
  “ปลายทางเราอยู่ใกล้ๆพื้นที่นี้เป็นของอาณักรเขตสมุทร เรากำลังตรงไปพื้นที่ที่เรียกว่าเมืองใจหิน ขอฉันดูก่อน..โอ้ มันเป็นเมืองนั้น”
  เขาชี้จากนั้นพวกฮีล่าก็เห็นที่ที่หานเซี่ยวชี้
  พวกเขาเห็นบนขอบภูเขา เป็นเมืองที่สร้างขึ้นบนเนินเขาหนึ่ง มีหินเทาล้อมรอบเป็นสีหลักของเมือง
  “ตามฉันมาและอยู่เฉยๆไว้”หานเซี่ยวสั่ง
  เพราะภัยพิบัติเป็นพลังรบระดับยอดในจักรวาลพวกเขาจึงมีพลังบดขยี้อารยธรรมพื้นผิวเช่นนี้ได้ ไม่มีใครสามารถทำอะไรพวกเขาได้บนดาวนี้ และหากพวกเขาไม่ระวัง ทั่วเมืองอาจถูกลบแทน
  เพื่อทำภารกิจหานเซี่ยวต้องให้ทุกคนอยู่เฉยๆ ไม่ทำตัวโดดเด่น
  แม้พวกเขาจะไม่เข้าใจเจตนาของหานเซี่ยวพวกฮีล่าก็ยังพยักหน้าตอบ
  “ฟิลลิปเลียนแบบหน้าตาของพวกชาวนาลุน”
  บอลจักรกลหลายลูกลอยออกมาฉายรังสีแสงใส่ทั้งสี่
  เมทริกซ์ข้อมูลกระพริบและภาพจำลองง่ายๆก็ถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นมนุษย์สี่คนเปลี่ยนพวกเขาเป็นชาวนาลุน โครงสร้างร่างกายของชาวนาลุนเหมือนมนุษย์ แม้จะมีผิวคล้ำเข้มกว่าและมีริ้วรอยมากกว่า
  หลังปรับการแปลงภาษาหานเซี่ยวก็พาทั้งสามเดินทางไปเมืองใจหิน
  ดวงอาทิตย์ยามบ่ายส่องลงมาอย่างเกียจคร้าน
  ทั้งสี่เคลื่อนตัวเร็วมากและในไม่ช้าก็มาถึงหมู่บ้านนอกเมืองมันเป็นบริเวณทำนา และชาวนาก็กำลังทำงานหนักกันอยู่ อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นของมูลสัตว์บางชนิด
  เมื่อคุ้นเคยกับทิวทัศน์อันงดงามของจักรวาลพวกเขาก็ชื่นชมทิวทัศน์ดั้งเดิมของอารยธรรมนี้ มันมีรสชาติที่แตกต่างไป ทุกๆอารยธรรมย่อมเคยประสบกับช่วงเวลานี้ ไฟแห่งอารยธรรมอ่อนแอในตอนแรก และมันก็เพราะพวกเขาได้รับการดูแลมาหลายชั่วอายุคนแล้ว สุดท้ายพวกเขาจึงทะยานสู่อวกาศได้
  การมีส่วนร่วมในสงครามจักรวาลเห็นแค่ยานรบและเกราะ มันจึงรู้สึกสดชื่นหลังเห็นอารยธรรมล้าหลังที่เต็มไปด้วยธรรมชาติเช่นนี้
  ไม่จำเป็นต้องสนใจศัตรูใดๆพวกเขาสามารถเดินเล่นได้ตามใจชอบ
  “สภาพแวดล้อมที่นี่ไม่เลวไม่มีมลพิษทางอากาศเลย”หานเซี่ยวสูดหายใจลึกก่อนส่ายหัว”แม้กระทั่งกลิ่นอุจจาระที่นี่ก็ยังสดชื่น..”
  พวกเขาคุยเล่นกันตลอดทางไปเมืองยามไม่อาจเห็นผ่านการปลอมตัวของเทคโนโลยีดวงดาวได้ ซึ่งช่วยให้หานเซี่ยวกลมกลืนกับฝูงชนเข้าเมืองไป
  ด้วยลมเย็นสบายและเสียงจอแจในหูพวกเขาเจอกับถนนหินที่เต็มไปด้วยชาวเมือง ซึ่งแสดงถึงการวางผังเมืองแบบย้อนหลัง
  “เรามาที่นี่ทำไมกัน?”ออโรร่ากระซิบ
  “เธอเป็นคนเดียวที่เอาแต่ถามแค่ตามมาก็พอ เราจะทำงานให้เสร็จ”
  เขาใช้สองนิ้วบีบแก้มนุ่มๆของออโรร่าดึงมันเล็กน้อยก่อนปล่อย ออโรร่าประคองแก้มแดงของเธอ
  “พี่เขารังแกฉัน!”ออโรร่ารีบฟ้อง
  น่าเสียดายดวงตาของฮีล่ายังมองตรง ราวกับไม่เห็นอะไร
  พวกเขาเดินไปยังกระดานประกาศในเมืองฟิลลิปแปลภาษนาลุนเป็นภาษาพวกเขาและหานเซี่ยวก็เดินไปประกาศเก่าที่ถูกทิ้งไว้หลายปี
  ตามประกาศคฤหาสน์ในเมืองใจหินเชื่อว่ามีผีสิงและมีผีอยู่ข้างใน เจ้าของคฤหาสน์หวังให้มีคนไปและแก้ไขมัน
  ประกาศนี้วางมานานแล้ว
  ตำแหน่งของภารกิจคือคฤหาสน์เล็กๆหลังหานเซี่ยวและคนอื่นแสดงเจตนา พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับโดยเจ้าของคฤหาสน์และนั่งในโถงใหญ่
  วินาทีที่นั่งเจ้าของก็เริ่มพูด
  “นับเป็นเรื่องดีมากในที่สุดก็มีคนที่เต็มใจช่วยข้า ประกาศนี้แปะมาหลายปีแล้ว และข้าก็ได้ต้อนรับคนมาอย่างน้อยร้อยคน แถมยังมีผู้วิเศษห้าคนในหมู่พวกเขาด้วย ไม่มีใครสามารถแก้ปัญหานี้ได้เลย”
  “ใจเย็นๆเราแตกต่างจากพวกเขา”หานเซี่ยวกล่าวและเครื่องแปลก็เปลี่ยนคำพูดเขาเป็นภาษานาลุน”งั้น พวกท่าน..พวกท่านก็คือผู้วิเศษ?”เจ้าของคฤหาสน์มองพวกเขา
  “จะเรียกแบบนั้นก็ได้บอกสถานการณ์กับข้ามาก่อน”
  “ตะ-ตกลง”
  บนดาวนาลุนมีสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับภูติผีอยู่ ซึ่งคนพื้นเมืองเรียกกันว่า’วิญญาณร้าย’ หลายปีก่อน วิญญาณร้ายปรากฏในคฤหาสน์และออกมาหลอกหลอนผู้คนตอนกลางคืน
  สายอาชีพของดาวนาลุนเป็นระบบจอมเวทย์ซึ่งพวกเขาเรียกว่า’โปโปส็อต’ เมื่อแปลเป็นภาษาจักรวาล มันหมายความว่าผู้วิเศษ ระบบเหนือมนุษย์ที่นี่อ่อนแอมาก ผู้วิเศษส่วนใหญ่จะใช้น้ำยาหรือวัตถุในการร่ายคาถา พวกเขาอาจเป็นแค่เกรดDเท่านั้น แต่พวกเขาก็ลึกลับและทรงพลังในสายตาคนพื้นเมือง
  การขับไล่วิญญาณร้ายเป็นงานของผู้วิเศษหลายสิบปีก่อน ผู้วิเศษส่วนใหญ่หายตัวไปอย่างลึกลับ ทำให้พวกเขายากจะพบเจอและมรดกพวกเขาก็ยังหายไป ระบบเหนือมนุษย์พวกเขาถูกตัดและสามารถสำรวจได้ผ่านหนังสือเวทย์คลุมเครือเท่านั้น
  โชคดีวิญญาณร้ายในคฤหาสน์นี้อ่อนแอ ดังนั้นเจ้าของและครอบครัวจึงยังอยู่ได้หลายปี
  วินาทีทที่เจ้าของพูดจบหน้าต่างสถานะของหานเซี่ยวก็เด้ง
  ท่านได้กระตุ้นภารกิจต่อเนื่อง[ราชาปีศาจแห่งดาวนาลุน]!
  คำแนะนำภารกิจ: ท่านได้ยินจากคนว่าผู้วิเศษบนดาวนาลุนหายตัวไปอย่างลึกลับ
  ควรมีมากกว่าที่ตาเห็น
  ข้อกำหนดภารกิจต่อเนื่องแรก: ดับวิญญาณร้ายในคฤหาสน์ รางวัล : ค่าประสบการณ์สองแสน
  เพราะนี่คือภารกิจต่อเนื่องรางวัลแรกจึงต่ำมาก ในชีวิตก่อนหน้าเขา ผู้เล่นยังพบภารกิจนี้ในช่วงการสำรวจอิสระของเวอร์ชั่นสาม
  แต่ละอารยธรรมจะมีภารกิจน่ารำคาญมากมายภารกิจนี้ลึกลับมาก มันถูกค้นพบตอนผู้เล่นที่ชอบทำภารกิจเนื้อเรื่องดันเจอภารกิจนี้โดยบังเอิญ มันถูกพบว่ารางวัลของภารกิจนี้คือพรสวรรค์ที่สามารถเพิ่มความต้านทานทางจิตได้ ส่วนพลังของดาวนาลุนก็เหมือนลูกไก่ แต่รางวัลกลับดีมาก
  ตอนนี้เองเพราะเวอร์ชั่นใหม่เพิ่งเปิด กองทัพแบล็คสตาร์ได้เพาะเลี้ยงผู้เล่นเหมือนกระเทียมหอม และดังนั้นจึงไม่มีใครมาสำรวจดาวนาลุน
  เพราะตัวอ่อนวิญญาณในแดนจิตเขาหานเซี่ยวจึงตัดสินเพิ่มพรสวรรค์ด้านจิตอีกอันและจึงมานี่ ที่ระดับพลังอารยธรรมยังไม่ถึงระดับของหมู่บ้านเริ่มต้นด้วยซ้ำ
  เขาชัดเจนถึงงานและสามารถละเว้นเวลาสำรวจได้มาก
  “ปล่อยวิญญาณร้ายให้เป็นหน้าที่เราเราจะแก้ไขมันคืนนี้”หานเซี่ยวกล่าวขณะเหลือบมองมุมห้อง ที่ลูกตาวิเศษโปร่งใสลอยอยู่ คอยเฝ้าดูการสนทนาของพวกเขา
  มีแค่เจ้าของคฤหาสน์ที่ไม่รู้วินาทีที่พวกเขาก้าวเข้าห้อง หานเซี่ยวและคนอื่นก็เห็นมันได้
  ด้วยระดับพวกเขาตาวิเศษระดับต่ำเช่นนี้ก็เหมือนคนมีชียวิตกำลังนั่งยองๆอยู่มุมห้องและพึมพำ”แกไม่เห็นฉัน”
  พวกเขาทำได้แค่โกหกตัวเอง
  “ปล่อยมันไป”หานเซี่ยวโบกมือเพื่อหยุดเฟย์ดินเขารู้ว่าใครกำลังสนใจคฤหาสน์
  “เป็นไปได้มากว่าพวกเขาเป็นคนที่หยิบหนังสือเวทย์สักสองสามเล่มและว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ”เสียงอ่อนเยาว์ตอบ”เห้อ ไม่มีทางที่พวกเขาจะจัดการกับวิญญาณร้ายได้หรอก”
  “พวกเขาบอกว่าพวกเขาจะลงมือตอนกลางคืนโทมาร์ เจ้าควรตามพวกเขาไป”
  “ข้าเข้าใจแล้วข้าจะปกป้องพวกเขา ไม่งั้นคงทำให้พวกวิญญาณร้ายโกรธ”
  บทสนทนาจบลงและเสียงเครื่องกลก็ดังในห้องสักพักก่อนหยุด
  ตกดึกหานเซี่ยวให้เจ้าของคฤหาสน์และครอบครัวออกไปก่อนกลับไปสวนหลังบ้านคฤหาสน์
  นี่คือพื้นที่ร้างล้อมด้วยกำแพงหินและรั้วและประตูก็ถูกล็อคด้วยกุยแจล็อคหลายอัน
  หานเซี่ยวใช้กุญแจที่ได้รับเปิดปะตูเดินเข้าไป ภายในเป็นโกดังร้าง
  บรรยากาศเย็นราวกับมีลมพัดผ่านผิวหนังพวกเขาตลอด
  หากมันเป็นคนปกติพวกเขาคงเริ่มกังวลโดยไม่มีเหตุผล ราวกับพวกเขาเข้าบ้านผีสิง แต่ทว่า สำหรับพวกหานเซี่ยว มันเปล่าประโยชน์
  “มีสัญญาณจิตผิดปกติจางๆที่นี่ฉันเห็นพวกเขาตอนกลางวัน”เฟย์ดินกระซิบ”ฉันควรกำจัดเลยไหม?”
  ต่อหน้าผู้ใช้พลังจิตเช่นนี้วิญญาณร้ายไม่อาจนำมาเทียบ แค่เขาคิดก็กำจัดวิญญาณร้ายได้เป็นพันแล้ว
  “รอให้มันปรากฏ”หานเซี่ยวส่ายหัวเหลือบมองไปที่โรงนา เขาเห็นคนนั่งยองๆอยู่ตรงนั้น นี่คือเป้าหมายจริงเขา
  “เอาละเราจะทำตามนาย”
  เฟย์ดินถอนหายใจ
  แม้เขาจะกังขาหน้าที่เขาก็คือผู้คุ้มกันและงานเขาก็แค่ติดตามหานเซี่ยว
  ตอนนี้โทมาร์ยืนใกล้โรงนา เอนพิงกำแพงขณะแอบดูทั้งสี่
  เขาเป็นเด็กสวมชุดดำซึ่งบดบังหน้าเขาด้วยเงา เขาดูเหมือนนักฆ่า แค่ว่ามีถุงเล็กๆมากมายห้อยอยู่รอบเอวเขา ซึ่งบรรจุวัตถุลงคาถามากมาย
  เมื่อเห็นหานเซี่ยวและคนอื่นกำลังมองรอบๆราวกับพวกเขากำลังออกล่าโทมาร์ก็อดแสดงสีหน้าดูถูกไม่ได้
  พวกเขาไม่คิดเตรียมผงแสงวิญญาณล่วงหน้าด้วยซ้ำคิดว่าจะไล่ผีได้?
  ขณะคิดก็มีลมหนาวพัดมา ฝุ่งยกขึ้นเหมือนพายุและผีสีฟ้าอ่อนก็โผล่ออกมา คำรามใส่อากาศ
  “บ้าจริงแค่ไม่กี่ปีและวิญญาณร้ายเงาฟ้าก็กลายพันธ์แล้ว!”โทมาร์อุทานและเริ่มกังวล
  เขาศึกษาคาถาได้ห้าปีและไม่อาจรับประกันได้ว่าจะจัดการปีศาจตนนี้ได้นับประสาอะไรกับคนทั้งสี่
  เมื่อเห็นสีหน้าไม่แยแสของพวกเขาโทมาร์ก็โกรธก่อนจะร่ายคาถาออกไป ไมว่าตัวตนจะถูกเปิดเผยหรือไม่ เขาก็ไม่สนใจ
  “พรุบ..”
  เวลานั้นเองเฟยืดินก็ส่งคลื่นจิตออกไปอย่างลืมตัว
  ร่างวิญญาณสีฟ้าคล้ายกระจกแตกกระจายเป็นเกล็ดหิมะ หายไปอย่างไร้ร่องรอย
  โทมาร์ผู้เพิ่งพุ่งออกมาตกตะลึง
  เกิดอะไรขึ้น?มันถูกทำลาย?
  ผู้วิเศษควรต่อสู้ด้วยยาและวัตถุลงคาถาสิ?นี่คืออะไร?หนังสือไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้!
  โทมาร์ตาลอย

อ่านตอนอื่นๆของ The Legendary Mechanic คลิกเลย

แฟนเพจ