Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

The Legendary Mechanic - ตอนที่ 833-834

เรื่อง The Legendary Mechanic - ตอนที่ 833-834

ตอนที่ 833 การประชุมอารยธรรม
  การประชุมอารยธรรมวงแหวนดาวกระจายคือการประชุมอารยธรรมที่ตั้งโดยอารยธรรมกลุ่มดาวทั้งเจ็ดในวงแหวนดาวกระจายแรงจูงใจของการประชุมเพื่อให้ง่ายต่อการจัดการทุ่งดาว สามอารยธรรมจักรวาลมักไม่เข้ามายุ่งกับเรื่องภายในของทุ่งดาวและกลุ่มดาวก็มักเป็นคนที่จัดการปัญหาประจำวัน
  ผู้จัดการของวงแหวนดาวกระจายคือเจ็ดอารยธรรมกลุ่มดาวและก็รับผิดชอบการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งของอารยธรรมระบบดาวต่างๆแม้แรงจูงใจพวกเขาจะคือช่วยทุกคนแก้ปัญหา การประชุมอารยธรรมก็มักแค่การอภิปรายที่อารยธรรทั้งหมดจะใช้โอกาสนี้เพื่อโต้แย้งเกี่ยวกับุทกเรื่อง แต่ทว่า พวกเขาไม่ค่อยแก้ปัญหาใดได้
  ในช่วงสงครามลับที่เกิดไม่นานมานี้แม้กระทั่งเคล็นท์และผลึกม่วง ผู้ควรจะเป็นผู้พิพากษายังสู้กันเอง
  เหนือสิ่งอื่นใดวงแหวนดาวกระจายคือขอบจักรวาล และความวุ่นวายก็มีอยู่ทั่ว นานมาแล้ว อารยธรรมต่างๆส่งฑูตตนให้เข้าร่วมการประชุม แต่หลังเจ็ดอารยธรรมกลุ่มดาวไม่อาจทนการยั่วยุได้ในช่วงประชุม พวกเขาจึงเปลี่ยนการประชุมเป็นการใช้แบบโฮโลแกรม
  เนื่องจากทุกคนเป็นแค่ภาพเสมือนมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะสู้กัน
  การประชุมอารยธรรมอยู่ห่างไปหลายวันและนี่ก็คือครั้งแรกที่ดาวอความารีนจะเข้าร่วม
  โดยปกติมีเพียงอารยธรรมระบบดาวถึงมีสิทธิ์เข้าการประชุมแต่หานเซี่ยวทำข้อตกลงกับอารยธรรมกลุ่มดาวเพื่อให้อความารีนมีสิทธิ์ ดาวอความารีนยังเป็นอารยธรรมระดับพื้นผิวเดียวที่ได้เข้าการประชุม
  ….
  ไม่กี่วันต่อมาการประชุมจัดขึ้นตามปกติ และหานเซี่ยวก็ได้รับการแจ้งเตือนจากผลึกม่วง จากนั้นเขาก็เข้าระบบฉายภาพโฮโลแกรมและเข้าร่วมการประชุม
  บูซ…
  เสียงไฟฟ้าสามารถได้ยินและหานเซี่ยวก็รู้สึกว่ามีแสงส่องผ่านหน้าเขาวินาทีต่อมา เขาก็สามารถแบ่งปันมุมมองของภาพโฮโลแกรมเขา และฉากการประชุมก็อยู่ในสายตา
  สถานที่ประชุมแบบวงกลมปรากฏตรงหน้าเขาและมันก็ดูเหมือนโครงสร้างของโคลอสเซียม เก้าอี้ดำถูกวางอย่างประณีตในรูปแบบวงกลม เกาะอี้ที่อยู่ตรงกลางจะต่ำสุด เก้าอี้จะค่อยๆสูงขึ้นไปด้านนอกเหมือนบันได
  รอบๆสถานที่จัดประชุมคือท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาวและแผนที่ดาวขนาดย่อของวงแหวนดาวกระจายก็เป็นฉากหลังห้อง
  หานเซี่ยวลดหัวและตระหนักว่าภาพจำลองเขาได้นั่งลงบนเก้าอี้เขาพร้อมเบนเน็ตที่นั่งข้างเขาป้ายสีทองดาวเคราะห์อความารีนวางบนโต๊ะตรงหน้าพวกเขา และเก้าอี้พวกเขาก็ตั้งอยู่ที่จุดสูง พวกเขาสามารถเห็นทั้งสถานที่ได้ และตัวแทนต่างๆจากอารยธรรมอื่นก็นั่งห่างกัน ไม่ได้เบียดกัน
  “นี่คือสถานที่สำหรับการประชุมวงแหวนดาวกระจาย..”เบนเน็ตถอนหายใจด้วยความชื่นชมและก็หันไปทักทายหานเซี่ยว”แบล็คสตาร์ในที่สุด”
  “การประชุมยังไม่เริ่มเลยฉันมาเร็วไป”
  จากนั้นเขาก็ก้มมองและสาตาก็กวาดผ่านศูนย์กลางสถานที่ ตัวแทนของเจ็ดกลุ่มดาวมาถึงแล้วและพวกเขาก็กำลังรอให้ตัวแทนของอารยธรรมอื่นปรากฏ
  จากนั้นหานเซี่ยวก็หันไปถาม”นายมานานแค่ไหนแล้ว?”
  “ฉันมากลุ่มแรกสุดเลย”เบนเน็ตกล่าว”นี่คือครั้งแรกที่ฉันได้เข้าร่วมงานระดับนี้และฉันก็ประหม่า ดังนั้นจึงรีบมาดู”
  เขาไม่กระวนกระวายเพราะสภาพแวดล้อมอันยิ่งใหญ่แต่แค่รู้สึกถึงแรงกดดันบนบ่าของเขา
  หานเซี่ยวยิ้มนี่คือครั้งแรกที่เขาได้เห็นการประชุมอารยธรรมเช่นกัน
  อารยธรรมชื่อดังทั้งหมดในทุ่งดาวจะมารวมกันและผู้เล่นส่วนใหญ่ก็ไม่มีโอกาสจะได้เข้าร่วมการประชุมเช่นนี้
  “แบล็คสตาร์ขอบคุณนะ”เบนเน็ตพูด”หากไม่ใช่เพราะนาย มันอาจต้องใช้เวลาหลายร้อยปีหรือพันปีสำหรับดาวอความารีนที่จะมานั่งในเก้าอี้นี้”
  “ไม่ต้องให้มันเป็นพิธีเราเพียงตอบสนองความต้องการเรา”หานเซี่ยวชี้ให้เห็นว่าเขาเองก็ได้รับผลประโยชน์ จากนั้นเขาก็ตบไหล่เบนเน็ต แต่ฝ่ามือเขากลับผ่านไหลเบนเน็ตไป เขาลืมไปว่าทั้งคู่เป็นแค่ภาพจำแลง
  เบนเน็ตพยักหน้าและไม่พูดอะไรอีกเขาจะไม่ลดทัศนคติเขาที่มีต่อหานเซี่ยวแค่เพราะคำพูด เขาผ่านมามากและเข้าใจตรรกะง่ายๆนี้ แรงจูงใจของคนนั้นไม่สำคัญเท่ากับการกระทำ
  ขณะที่ทั้งคู่กำลังสนทนากันตัวแทนจากอารยธรรมอื่นก็ยังสังเกตเห็นหานเซี่ยวและมองมาด้วยสายตาซับซ้อน
  ในสถานที่ดาวเคราะห์อความารีนนับว่าแปลกตา และหานเซี่ยวก็มีความสัมพันธ์ร่วมมือกับอารยธรรมหลายแห่ง อารยธรรมทั้งหมดรู้ว่าหานเซี่ยวช่วยให้ดาวอความารีนเข้าร่วมการประชุมอารยธรรมและก็อดอิจฉาไม่ได้
  พวกเขาได้รับการปกป้องจากแบล็คสตาร์และตอนนี้ยังเป็นค่ายหลักของเกาะมังกรทำไมดาวเล็กๆถึงโชคดีขนาดนั้น?
  แต่แม้จะอิจฉาพวกเขาก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าดาวอความารีนสามารถได้รับเก้าอี้เพราะความสามารถพวกเขา อารยธรรมในปัจจุบันไม่ได้ดูถูกดาวอความารีนเลย
  ไม่นานหลังจากนั้นทุกคนก็มาถึง และการพูดพล่อยก็ลดน้อยลง
  ตอนนี้เองตัวแทนจากหนึ่งในกลุ่มดาวยืนขึ้นและเสียงเขาก็ดังผ่านเครื่องขยายเสียง
  “ผมดีใจมากที่ได้พบกับเพื่อนที่คุ้นเคยวันนี้อืม เทียบกับการประชุมครั้งก่อน จำนวนคนไม่ได้ลด แต่ดูเหมือนความปลอดภัยของวงแหวนดาวกระจายจะดีขึ้น..”
  ทุกคนมีสีหน้าเย็นชาเรื่องตลกนี้เย็นเกินไปและไม่ตลกเลย
  “บางทีทุกคนอาจสังเกตเห็นว่าเรามีสมาชิกใหม่”ตัวแทนมองไปทางหานเซี่ยว”อารยธรรมดาวเคราะห์อความารีสหพันธ์อความารีน ตัวแทนของอารยธรรมเขา..ท่านแบล็คสตาร์”
  จากนั้นทุกคนก็มองมาและพยักหน้าเคารพ
  หานเซี่ยวโบกมือและมองรอบๆเมื่อเขาเห็นไซเคอร์ที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งสำหรับเผ่าเนตรม่วง เขาก็โบกมือ
  ไซเคอร์แสร้งทำเป็นไม่เห็น
  “ท่านแบล็คสตาร์คือคนที่เราคุ้นเคยกันดีดังนั้นจึงไม่ต้องแนะนำอะไรมาก ในเมื่อทุกคนมากันแล้ว งั้นก็มาเริ่มการประชุมและหารือกันที่เรื่องแรก..“
  จากนั้นผู้เข้าร่วมประชุมหลายคนก็เริ่มหยิบยกประเด็นที่พวกเขาเตรียมมา ปัญหาเหล่านี้คือความขัดแย้งทางการค้า ชายแดน เรื่องต่างดาว และปัญหาอื่นๆที่ไม่มีอะไรใหม่
  ตัวแทนที่ได้รับการเลือกโดยอารยธรรมล้วนแต่มีคารมคมคายและทุกข้อเสนออาจถูกเถียงกันกว่าครึ่งวันก่อนจะสรุปได้
  กระบวนการนี้นานและยุ่งยากมากแต่เบนเน็ตกลับนั่งตรงเพื่อศึกษาทุกรายละเอียด
  หานเซี่ยวเริ่มฝันกลางวันไปนานแล้ว
  หลังรอนานตอนนี้มันก็ถึงคราวของพวกเขาพูด
  “หมายเลขข้อเสนอCL7984D66จากดาวเคราะห์อความารีนโปรดให้คำอธิบานสั้นๆเกี่ยวกับข้อเสนอ”ตัวแทนผลึกม่วงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
  เบนเน็ตยืนขึ้นและเริ่มอ่านเนื้อหาที่เขาเตรียมไว้ล่วงหน้าเขาสรุปการกระทำของพวกหัวรุนแรงวิญญาณอวิตานและน้ำเสียงเขาก็สะท้อนไปทั่ว
  จากนั้นเขาก็มองไซเคอร์และกล่าว”เราพบระเบิดไซโอนิคในยานของพวกหัวรุนแรงเหล่านี้ และพลังของระเบิดเหล่านี้ก็มากพอทำลายดาวอความารีน ด้วยอาวุธทหารระดับสูงที่ปรากฏในมือพวกหัวรุนแรง เรามีเหตุผลให้เชื่อว่าอาวุธเหล่านี้มาจากเผ่าเนตรม่วง และการกระทำของพวกรัวรุนแรงก็ต้องถูกสั่งโดยเผ่าเนตรม่วง ดาวเคราะห์อความารีนรู้สึกว่าเผ่าเนตรม่วงอยากต่อต้าน[สนธิสัญยาของอารยธรรม]และกวาดล้างอารยธรรมที่ได้รับการคุ้มครองโดยสนธิสัญญา..”
  ผู้สนับสนุนของวิญญานอวิตานนั้นคือคู่แข่งของเผ่าเนตรม่วงอารยธรรมกลุ่มดาวที่ชื่อทาลอส แต่เบนเน็ตยืนกรานว่าผู้สนับสนุนคือเผ่าเนตรม่วงเพื่อให้ไซเคอร์ถูกตำหนิ
  สีหน้าแปลกๆปรากฏบนหน้าของทุกคนพวกเขาล้วนแต่เป็นพวกจิ้งจอกและรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่ไซเคอร์จะทำเช่นนี้
  อารยธรรมพื้นผิวที่ได้รับการยอมรับเข้าประชุมเป็นข้อยกเว้นกลับสาดน้ำใส่ผู้อยู่เหนือในการประชุมแรก?พวกเขากล้าหาญมาก
  จากนั้นเจ็ดอารยธรรมกลุ่มดาวก็สบตากันและทั้งหกก็มองไปที่หนึ่งในตัวแทน เขาคือตัวแทนอารยธรรมทาลอส
  ตัวแทนทาลอสมองไซเคอร์และถามด้วยรอยยิ้มที่ดูเหมือนไม่ยิ้ม”ตัวแทนของเผ่าเนตร่มวงคุณมีอะไรจะพูดไหม?”
  “พวกแกกำลังใส่ร้ายฉัน”ไซเคอร์กล่าวตอบ”ฉันไม่เคยต่อต้านสนธิสัญญาและไม่มีเหตุผลให้โจมตีดาวอความารีนพวกหัวรุนแรงเหล่านั้นไม่ได้ทำตามคำสั่งฉัน”
  “งั้นคุณจะอธิบายเหตุการณ์นี้ว่ายังไง?”
  “หากให้เดาละก็ดาวอวิตานนั้นเสียหายจากการซุ่มโจมตีและลูกบาศก์วิวัฒนาการก็หายไป จากนั้นแบล็คสตาร์ก็ชิงลูกบาศก์วิวัฒนาการมาได้เป็นมือสุดท้าย..”
  ขณะกล่าวไซเคอร์ก็จ้องหานเซี่ยวอย่างเย็นชา”เพราะการซุ่มโจมตี ผู้รอดชีวิตส่วนหนึ่งของดาวอวิตานจึงอยากล้างแน ในสาตาเผ่าเนตรม่วง ลูกบาศก์วิวัฒนาการคือสมบัติของเรา และแบล็คสตาร์ก็ชิงมันไป ดังนั้นกลุ่มหัวรุนแรงจึงโทษเขาและเรื่องนี้ก็เป็นการกระทำส่วนตัว ไม่มีส่วนเกี่ยวกับเผ่าเนตรม่วง หากดาวอความารีนยืนกรานว่าฉันคือผู้กระทำผิดเบื้องหลังเรื่องนี้ ก็โปรดนำหลักฐานออกมา”
  หานเซี่ยวหัวเราะ”คนตายจะเล่าอะไรไม่ได้แกอยากแก้ต่างตัวเองด้วยคำพูดแค่ไม่กี่คำ?”
  “อ่าเช่นเดียวกับแก ในเมื่อคนตายเล่าอะไรไม่ได้ แกก็ยังพยายามใส่ร้ายฉันด้วยข้อโต้แย้งไร้เหตุผล”ไซเคอร์กล่าวเย็นชา
  ตัวแทนทาลอสพลันกล่าว”ไม่ว่าเผ่าเนตรม่วงจะเป็นคนสั่งการหรือไม่ผู้โจมตีก็มาจากเผ่าคุณ”
  ไซเคอร์สูดหายใจลึกและพยักหน้า”แม้พวกเขาจะมาจากเผ่าเราเรา..”
  ตัวแทนทาลอสกล่าวแทรก”คุณไม่ต้องพูดอะไรอีกเผ่าเนตรม่วงแตกต่างจากเผ่าพันธ์อื่นมาก เผ่าคุณควรเป็นหนึ่งเดียวและการมีกลุ่มหัวรุนแรงก็เป็นผลมาจากการบริหารที่ผิดพลาดของคุณ”
  “..นี่เป็นเรื่องภายในและฉันจะถอนรากกลุ่มหัวรุนแรงเอง ไม่ต้องให้ใครมาแทรก”ไซเคอร์กล่าว
  “หากคุณต้องการเราสามารถส่งกองกำลังไปช่วยคุณกวาดล้างได้ในฐานะเพื่อนบ้านที่ดี”
  “..นั่นไม่จำเป็น”ไซเคอร์ตกใจใครจะไม่รู้เจตนาพวกแก?แกกล้าพูดเรื่องเช่นนี้ต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ได้ยังไง?ไม่รู้สึกอับอายกันเลย?
  จากนั้นตัวแทนทาลอสก็หัวเราะและกลับเข้าเรื่อง”มาคุยถึงมาตรการเพื่อแก้ไขความผิดพลาดคุณในอนาคตเรากำลังคุยเรื่องความรับผิดชอบคุณ กลุ่มหัวรุนแรงนี้มาจากเผ่าคุณและพวกเขาก็ใช้ตัวตนพวกเขาในฐานะพลเมืองเผ่าเนตรม่วงเพื่อทำการโจมตี ผมเชื่อว่าเผ่าเนตรม่วงควรรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้”
  ในความเป็นจริงไม่ว่าพวกเขาจะมาจากเผ่าเดียวกัน นี่ก็ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญเลย แต่ทว่า ตัวแทนทาลอสอยากมุ่งเป้าเผ่าเนตรม่วงโดยใช้เรื่องนี้
  เขาไม่ใช่คนเดียวที่ทำเช่นนั้น
  “ผมก็คิดเช่นนั้น”ผลึกม่วงกล่าว
  “ผมด้วย”ตัวแทนจากกลุ่มดาวอื่นพยักหน้า
  ผลึกม่วงพูดแทนอความารีนเพราะหานเซี่ยวและอารยธรรมกลุ่มดาวอื่นก็อยากโจมตีเผ่าเนตรม่วง
  เพราะเผ่าเนตรม่วงมีการสนับสนุนของศาสนจักรการพัฒนาพวกเขาจึงเร็วมาก และพวกเขาก็มีโอกาสกลายเป็นอารยธรรมกลุ่มดาวที่แปด คนอื่นไม่เต็มใจยอมให้คนอื่นมาแบ่งปันผลประโยชน์กับพวกเขา
  เช่นนั้นทั้งหมดจึงยืนข้างกันและใช้โอกาสนี้สร้างปัญหาให้เผ่าเนตรม่วง
  ตัวแทนคนอื่นนิ่งเงียบพวกเขาเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
  ใครขอให้สมาชิกในเผ่าแกพยายามทำลายดาวคนอื่นและยังทิ้งหลักฐานไว้?
  หากคนอยากระเบิดดาวแม่พวกเขาพวกเขาเองก็จะโทษนายที่ไม่เลี้ยงสุนัขให้เหมาะสม
  ทันใดนั้นไซเคอร์ก็กลายเป็นเป้าของทุกคนและแม้กระทั่งเบนเน็ตก็ยังตกใจ
  ใบหน้าของไซเคอร์น่าเกลียดเขาเข้าใจตรรกะนี้ดี แต่เขาก็ไม่มีเหตุผลพอจะสู้กลับจริงๆ อกฝ่ายเป็นเหยื่อและเขาก็ผิดจริง
  เขาได้แต่สาปแช่งวิญญาณอวิตานพวกนั่นไม่คิดถึงปัญหาที่การกระทำพวกเขาส่งผลต่ออารยธรรมและลากเขาลง
  “แล้วพวกคุณอยากจัดการกับเรื่องนี้ยังไง?”ไซเคอร์กล่าวอย่างโมโห
  ตัวแทนทาลอสกล่าว”ผมคิดว่าคุณต้องขอโทษต่อดาวเคราะห์อความารีนต่อสาธารณะและให้การชดเชย”
  “ชดเชยและขอโทษ?เป็นไปไม่ได้”ไซเคอร์กล่าว”อย่างมากก็ได้แค่บริจาค”
  บริจาคและชดเชยนั้นมีความหมายต่างกันโดยสิ้นเชิง
  ในฐานะผู้นำอารยธรรมเขาคือภาพลักษณ์ของเผ่าเนตรม่วงและต้องพิจารณาหลายสิ่ง มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะขอโทษต่อสาธารณะแค่เพราะการกระทำของพวกหัวรุนแรง มันก็เหมือนกับที่โกโดร่าไม่เคยขอโทษจากการกระทำของดาราทมิฬ นอกจากนี้ไซเคอร์ยังเป็นผู้อยู่เหนือและการทำเช่นนั้นก็เหมือนการทำลายชื่อเสียงเขา ดังนั้นเขาย่อมไม่ลดหัวง่ายๆ
  จากนั้นเบนเน็ตก็ได้สติกลับและกล่าวภายใต้คำแนะนำของหานเซี่ยว”ดาวเคราะห์อความารีนจะขอประณามเผ่าเนตรม่วงสำหรับการกระทำพวกเขาและไม่ยอมรับข้อสรุปที่ไม่จริงใจเช่นนี้”
  “งั้นก็ไม่จำเป็นต้องพูดต่อกันอีก”
  ไซเคอร์มองหานเซี่ยวอย่างเย็นชาและออฟไลน์ไป
  เผ่าเนตรม่วงมีศาสนจักรหนุนและการประชุมอารยธรรมก็มีข้อจำกัดอยู่มันเป็นไปไม่ได้ที่การประชุมนี้จะบังคับให้เขาลดหัว ในเวลาเดียวกัน ไซเคอร์ก็ไม่อาจทำตามใจชอบและจะสูญเสียเช่นกัน
  หลังเหตุการณ์นี้มันก็ยากยิ่งกว่าสำหรับเผ่าเนตรม่วงที่จะแสวงหาความร่วมมือ เขาเสียลูกบาศก์และการสนับสนุนของศาสนจักรก็ลดลง เช่นนั้น พายุนี้จึงส่งผลต่อการพัฒนาพวกเขามาก
  นอกจากนี้ทาลอสยังใช้โอกาสนี้เพื่อเผยแพร่และทำให้ประชาชนมีความคิดเห็นต่อต้านเผ่าเนตรม่วง
  ในสายตาไซเคอร์คนผิดคือหานเซี่ยว หากไม่ใช่ว่าหานเซี่ยวยืนกรานจะทำให้เขาต้องถูกตำหนิ สถานการณ์คงไม่เป็นเช่นนี้
  ความเป็นปฏิปักษ์ของไซเคอร์ที่มีต่อหานเซี่ยวเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ
  อีกด้านหน้าต่างสถานะเขามอบการแจ้งเตือนให้เขาว่าความโปรดปรานเขากับเผ่าเนตรม่วงลดลง800หน่วยและตอนนี้ก็-1250แล้ว ความสัมพันธ์พวกเขาคือศัตรูกัน
  ไซเคอร์โกรธมากหานเซี่ยวส่ายหัว ดาวอความารีนคือดาวแม่เขาและมันเป็นไปมาได้สำหรับเขาที่จะกล้ำกลืนฝืนทนความเจ็บปวดนี้โดยไม่ทำอะไร เนื่องจากไซเคอร์และศาสนจักรไม่คิดปล่อยลูกบาศก์ไป พวกเขาก็ถูกลิขิตให้เป็นศัตรูกัน
  หากดาวอความารีนถูกทำลายจริงๆไซเคอร์ก็ยังไม่ต้องขอโทษหรือจ่ายค่าชดเชยอะไร ไม่มีผิดหรือถูกสำหรับเขา และหานเซี่ยวก็ไม่คิดว่าการกระทำของไซเคอร์นั้นผิด
  “ฉันสงสัยว่าเขาจะโต้ตอบยังไง..”หานเซี่ยวไตร่ตรอง
  ดาวเคราะห์อความารีนได้รับการคุ้มครองโดยสนธิสัญญาและไซเคอร์จะไม่ทำอะไรคนอื่นหากไซเคอร์อยากสู้กลับ เขาต้องมาหาหานเซี่ยว
  อีซอปบอกว่าศาสนจักรส่งคนไล่ล่าเขาและไซเคอร์ก็ต้องเป็นสมาชิกกลุ่มนี้แน่เพราะเขาสามารถจับตำแหน่งเขาได้
  หานเซี่ยวตัดสินใจปล่อยให้ค่ายหลักจับตาดูไวเคอร์เพราะมันคล้ายกับการจับตาดูการกระทำของศาสนจักร
  …
  ในเวลาเดียวกันบนดาวแม่เผ่าเนตรม่วง ไซเคอร์ตัดการเชื่อมต่อกับที่ประชุมและสีหน้าเขาก็บิดเบี้ยวจนน่าเกลียด
  หลังคิดไซเคอร์ก็ส่งข้อความหาศาสนจักรอาร์เคน
  “ผมตกลง”
  ศาสนจักรให้ภารกิจกับเขามาและไซเคอร์ก็กำลังพิจารณาตอนนี้เขาเพิ่งตัดสินใจ
  สีหน้าที่เย็นชาของไซเคอร์สามารถเห็นได้บนจออุปกรณ์สื่อสาร
  “แบล็คสตาร์แกควรอยู่ในโลกริบหรี่และอย่ากลับมา”
ตอนที่ 834 ร่องรอยของศาสนจักร
  การออกประชุมกลางคันเป็นการไม่เคารพสมาชิกอื่นอย่างชัดเจนแต่อารยธรรมเจ็ดกลุ่มดาวและสมาชิกอื่นไม่สนใจ เผ่าเนตรม่วงกลายเป็นศัตรูต่อสาธารณะ และไซเคอร์ก็แค่ใช้การกระทำเขาเพื่อแสดงความไม่พอใจ
  เนื่องจากเป้าหมายพวกเขาไปแล้วข้อเสนอนี้จึงถูกระงับไว้ และเบนเน็ตก็นั่งลง
  การประชุมดำเนินต่อไปและข้อเสนอต่อไปก็ถูกหยิบยกบรรยากาศการประชุมสงบมาก
  ข้อเสนออื่นทั้งหมดไม่มีอะไรเกี่ยวกับเขาอีกดังนั้นหานเซี่ยวจึงตัดมุมมองของภาพฉายและเริ่มค้นฟอรั่ม
  หลังรอนานการประชุมวันแรกก็จบลง ทุกครั้งที่มีการจัดประชุมอารยธรรม พวกเขาจะประชุมกันหลายวันก่อนจะสามารถสรุปผลได้ หานเซี่ยวตั้งใจเผยหน้าเขาแค่วันแรกและก็ไม่คิดไปเข้าร่วมทุกวัน เบนเน็ตคนเดียวก็พอแล้ว
  หลังตัดการเชื่อมต่อหานเซี่ยวก็ปิดฟอรั่มและคิด เผ่าเนตรม่วงถูกวิจารณ์โดยดาวอความารีน แต่เรื่องอนาคตจะไม่เกี่ยวกับ
  ดาวอความารีน
  เนื่องจากไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงมันก็เป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะสืบสาวหาความไซเคอร์ หานเซี่ยวไม่ได้เรียกร้องอะไรอีก อิทธิพลของดาวอความารีนยังอ่อนแอและต่อให้วิจารณ์ ไซเคอร์ก็ไม่สะทกทสะท้าน
  หลังเรื่องนี้ถูกกล่าวถึงคนที่จะสร้างปัญหาให้ไซเคอร์ไม่ใช่ดาวเคราะห์อความารีน แต่เป็นอารยธรรมทาลอส
  อารยธรรมทาลอสลอบสนับสนุนวิญญาณอวิตานเพื่อให้พวกหัวรุนแรงเหล่านี้สร้างปัญหากับเผ่าเนตรม่วงแม้พวกเขาจะไม่ได้สั่งให้วิญญาณอวิตานโจมตีดาวอความารีน แต่สถานการณ์ไม่คาดคิดนี้เอื้อต่อพวกเขา และพวกเขาสามารถใช้เรื่องนี้เพื่อสร้างปัญหาได้
  หานเซี่ยวให้เบนเน็ตวิจารณ์ไซเคอร์เพื่อเป็นข้ออ้างให้อารยธรรมทาลอสและอารยธรรมทาลอสก็เข้าใจเจตนาเขาพวกเขาอยากจัดการกับเผ่าเนตรม่วงมานานแล้ว และการยืนข้างดาวอความารีนก็ยังเอาชนะใจหานเซี่ยวได้ด้วย
  ดังนั้นดาวอความารีนจึงไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ต้องรอดูจากด้านข้าง
  จากนั้นหานเซี่ยวก็ติดต่อเอเมสและถามเธอถึงสถานการณ์ของเกาะมังกร
  ทั้งคู่คุยกันครึ่งชั่วโมงก่อนวางสาย
  เขาเดินไปทางแผนที่สามมิติหานเซี่ยวมองแผนที่กลุ่มดาวการู พื้นที่สำรวจสีเขียวยังเล็กมากและมันดูเหมือนมีไม้จิ้มฟันสองอันยิ่นจากหยดสีเขียว ไม้จิ้มฟันสองอันนี้เป็นเส้นทางเดินทางไกลที่กำลังก่อสร้าง
  “หน่วยเฉพาะกิจของเฮดาวี่ต้องการเวลาอีกสามเดือนก่อนจะสร้างประตูดาวเสร็จ..”หานเซี่ยวลูบคาง
  ตามแผนเขาหน่วยเฉพาะกิจจะไปถึงตะวันออกของกลุ่มดาวการูในช่วงแรก
  ตามความเข้าใจเขาต่อกลุ่มดาวการูควรไม่มีพายุลูกใหญ่อีกเช่นกองทัพจักรวาล และพวกเขาก็จะสำรวจได้อย่างสงบจนกระทั่งพวกเขาสำรวจได้ประมาณ80%ของระบบดาว
  ..
  เวลาผ่านไป
  สามเดือนต่อมาในห้องทำงานของผู้ปกครองจักรวรรดิ เออแรนเรลถือรายงานในมือและก็กำลังตำหนิหนึ่งในฝ่ายบริหารด้วยน้ำเสียงเข้มงวด
  “สหพันธ์แห่งแสงลอบย้ายกองยานและเข้าเขตแดนเราพวกคุณคิดจะจัดการเรื่องนี้ยังไง?แค่ดูเฉยๆและปล่อยให้พวกมันทำตามใจชอบหรือไง?ฉันบอกให้คอยคุ้มกัน ไม่ใช่ถอยมา!รีบไปทำตามแผนเดี๋ยวนี้!”
  “คิดหน่อยสิคิด!”
  ดวงตาของเออแรนเรลเปลี่ยนไปการสำรวจโลกริบหรี่เพิ่งเริ่มไม่กี่เดือนและสหพันธ์แห่งแสงก็ไม่นั่งเฉยแล้ว พวกเขาเริ่มกดดันจักรวรรดิจากทางเศรษฐกิจ การเมืองและทหาร พวกเขาเตรียมชิงผลประโยชน์จากจักรวรรดิขณะที่ความสนใจของจักรวรรดิยุ่งอยู่กับการสำรวจทุ่งดาวใหม่
  นี่แค่จุดเริ่มต้นจักรวรรดิต้องระดมกำลังคนและทรัพยากรเพิ่มกับการสำรวจและสหพันธ์แห่งแสงก็จะเพิ่มแรงกดดันเพื่อให้จักรวรรดิทำงานยากขึ้น
  แม้สถานการณ์นี้จะเป็นตามคาดแต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งสหพันธ์แห่งแสงและจักรวรรดิคริมสันอยู่ในระดับเดียวกันและพลังพวกเขาก็เท่าเทียมกัน มันยากมากสำหรับทุกอย่างที่จะราบรื่นและสมบูรณ์แบบ หากจักรวรรดิอยากได้รางวัล พวกเขาก็ต้องจ่ายในราคาที่เหมาะสม เออแรนเรลเตรียมใจไว้แล้ว
  ปี้บปี้บ
  “ท่านครับผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพสำรวจ ทาราคอฟอยู่ในสายครับ”
  จากนั้นเออแรนเรลก็โบกมือและเจ้าหน้าที่ตรงหน้าเธอก็ออกไปเจ้าหน้าที่รู้สึกราวกับเขาได้รับการอภัยโทษและรีบออกไป เหลือแค่เออแรนเรลในห้อง
  “ส่งมา”เออแรนเรลพยักหน้า
  วินาทีต่อมาร่างของทาราคอฟก็ปรากฏภายในห้องและเขาก็แสดงความเคารพต่อเออแรนเรลแบบทหาร
  “ทาราคอฟความคืบหน้าในการสำรวจโลกริบหรี่เป็นยังไงบ้าง?”
  การสำรวจโลกริบหรี่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ต่อจักรวรรดิคริมสันและเออแรนเรลกังวลถึงสถานการณ์มาก
  “ข้อมูลได้ถูกส่งไปให้ท่านแล้วและผมก็ติดต่อมาเพื่อสรุป..”
  จากนั้นทาราคอฟก็เริ่มอธิบาย
  เออแรนเรลมองรายงานและพยักหน้า
  “สรุปแล้วรีนอลท์และมงกุฏกำลังสำรวจโดยกองกำลังของจักรวรรดิและเคล็นท์ ความคืบหน้าเราก็แค่ค่าเฉลี่ย ตรงกันข้าม กองทัพแบล็คสตาร์ที่เลือกกลุ่มดาวการูพบดาวทรัพยากรจำนวนมากตลอดสี่เดือนและยังยึดเขตแดนขององค์กรท้องถิ่น ประหยัดเวลาเราได้มาก แถม กองทัพแบล็คสตาร์ยังไม่กังวลถึงความสูญเสียพวกเขาและสร้างประตูดาวเดินทางไกลเพื่อความสะดวกของทีมสำรวจในอนาคต”ทาราคอฟกล่าว
  เออแรนเรลวางข้อมูลในมือลงและกล่าวด้วยความพึงพอใจ”ไม่เลวเขาเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้”
  ด้วยการเปรียบเทียบเชิงพื้นฐานเธอพอใจมากกับประสิทธิภาพของหานเซี่ยว
  “กองทัพแบล็คสตาร์เป็นพันธมิตรที่สมควรแก่การลงทุนเราควรเพิ่มการลงทุนกับพวกเขา”
  แม้ทาราคอฟจะดูเหมือนได้รับผลประโยชน์จากกองทัพแบล็คสตาร์และมักพูดถึงพวกเขาเยอะเออแรนเรลก็ไม่สนใจรายละเอียดพวกนี้ตราบเท่าที่กองทัพแบล็คสตาร์สร้างผลลัพธ์
  “นอกจากนี้ผมมีเรื่องจะรายงาน”ทาราคอฟพลันกล่าว”เราสังเกตเห็นร่องรอยพวกลอบเร้น”
  พวกลอบเร้นที่เขาอ้างถึงคือพวกที่ลอบเข้าโลกริบหรี่โดยไม่ได้รับอนุมัติจากจักรวรรดิ
  ดวงตาเออแรนเรลหรี่แคบ”แน่ใจนะว่าไม่ใช่พวกพื้นเมือง?”
  ทาราคอฟส่ายหัวและกล่าว”แม้ผมจะมีหลักฐานไม่มากแต่กองทัพเราที่ประจำการในแถบจักรวาลรกร้างระหว่างวงแหวนดาวกระจายและโลกริบหรี่พบร่องรอยไฮเปอร์ไดรฟ์ความเร็ววาร์ป ระดับเทคโนโลยีเห็นได้ชัดว่าเป็นระดับกลุ่มดาวและควรมาถึงโลกริบหรี่ในไม่ช้า บางกลุ่มอาจมาถึงก่อนหน้านี้แล้ว แต่เรายังไม่ค้นพบ’
  “สหพันธ์แห่งแสงและศาสนจักรอาร์เคนต้องลงมือแล้วแน่ๆ”เออแรนเรลกล่าว
  “ผมคิดว่าพวกเขาจะหลีกเลี่ยงสามกลุ่มดาวแรกที่เราเลือกและสำรวจกลุ่มดาวที่อยู่ลึกภายในทุ่งดาวก่อน”ทาราคอฟกล่าว”พวกเขาอยากกลืนทุ่งดาวเราและหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเรา”
  “ถูกต้อง”เออแรนเรลกล่าว”ส่งกองทัพเราไปลาดตระเวนแถบจักรวาลระหว่างวงแหวนดาวกระจายและโลกริบหรี่ทำลายประตูดาวทั้งหมดที่พบเจอซะ”
  พวกลอบเร้นอาจวางแผนสร้างประตูดาวลับเพื่อเชื่อมต่อกับโลกริบหรี่เพื่อให้ส่งกองทัพใหญ่เข้ามาได้ในอนาคตประตูดาวลับมักซ่อนอยู่ในแถบจักรวาลระหว่างสองทุ่งดาว
  จักรวรรดิคริมสันห้ามองค์กรอื่นสร้างประตูดาวเพราะเหตุนี้วิธีที่มีประสิทธิภาพสุดในการจัดการพวกลอบเร้นคือทำลายประตูดาวและตรวจสอบให้แน่ใจว่าการควบคุมประตูดาวยังอยู่ในมือพวกเขา
  ทางเดียวที่จะเพิ่มผลประโยชน์สูงสุดให้จักรวรรดิได้คือการผูกขาด
  ทาราคอฟส่ายหัวตอบ”เราต้องการกำลังคนเพิ่ม”
  “ฉันรู้”เออแรนเรลพยักหน้า”ฉันจะส่งกองทัพไปโลกริบหรี่เพิ่มนอกจากนี้ พันธมิตรชุดสองเองก็ใกล้ถึงแล้ว”
  ..
  ในเวลาเดียวกันกองยานศาสนจักรอาร์เคนก็ลอบมาถึงชายแดนโลกริบหรี่
  “ในที่สุดเราก็มาถึง!ติดต่อกับสาขาพวกเขาเลือกตำแหน่งในแถบจักรวาลรกร้างหรือยัง?”
  “รายงานกัปตันตำแหน่งถูกตัดสินแล้ว และพวกเขาก็กำลังรอเราอยู่ครับ”
  พวกเขาต้องใช้สองประตูดาวเพื่อสร้างเส้นทางใหม่และกองกำลังลอบเร้นก็มักแยกเป็นสองกลุ่มหนึ่งกลุ่มจะเลือกตำแหน่งประตูดาวลับ และนี่จะเป็นทางเข้าพวกเขา
  กองกำลังที่มาถึงโลกริบหรี่ก็จะสร้าง’ทางออก’
  “ดีมากตรวจสอบให้แน่ใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงเครื่องตรวจจับทั้งหมดได้ วนรอบกลุ่มดาวรุ่งอรุณและตรงไปแถบจักรวาลรกร้างใกล้กลุ่มดาวการูเพื่อสร้างประตูดาว เราจะสร้างฐานชั่วคราว”
  ศาสนจักรยังอยากตั้งฐานในโลกริบหรี่แต่นี่คืองานระยะยาว ในเวลาเดียวกัน ศาสนจักรสนใจในลูกบาศก์กว่า
  พวกเขาเลือกตั้งประตูดาวใกล้กับกลุ่มดาวการูเพื่อให้พวกเขาเก็บกองทัพได้ง่าย
  มันสะดวกกว่าสำหรับพวกเขาที่จะส่งผู้อยู่เหนือออกไปหลังสร้างประตูดาวเหนือสิ่งอื่นใด ผู้เชี่ยวชาญระดับนั้นย่อมไม่เต็มใจใช้เวลาหลายเดือนในการข้ามแถบจักรวาลรกร้าง
  แบล็คสตาร์ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นคนที่จัดการได้ยากมากเพื่อรับประกันความสำเร็จ ศาสนจักรจึงส่งผู้อยู่เหนือมามากกว่าสอง
  แน่นอนสามอารยธรรมจักรวาลจะคอยเฝ้าผู้อยู่เหนือของกันและกัน และวินาทีที่มีใครแสดงการเคลื่อนไหว อีกสองฝ่ายก็จะตื่นตัว
  หากพวกเขาอยากอนุญาตให้ผู้อยู่เหนือตนเคลื่อนไหวพวกเขาต้องหาเหตุผลหลอกคนอื่น

อ่านตอนอื่นๆของ The Legendary Mechanic คลิกเลย

แฟนเพจ