Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

The Legendary Mechanic - ตอนที่ 847-848

เรื่อง The Legendary Mechanic - ตอนที่ 847-848

ตอนที่ 847 คฑาหมื่นเทพ
  สี่ผู้อยู่เหนือมองกลิ่นอายเวทย์ที่เล็ดลอดออกจากวังคาถาลับการมาถึงของออสตินทำให้พวกเขาตกใจ
  ไซเคอร์เต็มไปด้วยความสงสัย
  เฒ่าทารกนี่เป็นกลางไม่ใช่หรือ?
  ทำไมเขาถึงมาที่นี่!แถมมันดูเหมือนจะมาเพื่อช่วยแบล็คสตาร์!
  ไซเคอร์โกรธ”ออสตินนายเข้าร่วมกับจักรวรรดิแล้วงั้นหรอ?!”
  “ไม่”ออสตินยิ้ม
  “งั้นนายมาทำอะไรที่นี่?เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนายไปซะ อย่ามาสร้างปัญหาที่นี่”ไซเคอร์กล่าว
  “ขอโทษด้วยฉันมีข้อตกลงกับแบล็คสตาร์ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับจักรวรรดิ มันคือเรื่องส่วนตัว”ออสตินหัวเราะ
  เพื่อยืมลูกบาศก์วิวัฒนาการเขารับปากหานเซี่ยวหลายข้อในช่วงงานเลี้ยงฮีเบอร์ หนึ่งในนั้นคือช่วยหานเซี่ยวเรื่องหนึ่งที่ไม่ขัดกับหลักการเขา นี่ทำให้เขามาที่นี่
  ทันทีที่หานเซี่ยวสังเกตเห็นการกระทำแปลกๆของศาสนจักรเขาก็ร้องขอความช่วยเหลือจากออสติน เพื่อทำตามสัญญา ออสตินขับวังคาถาลับเขาและลอบมาถึงโลกริบหรี่
  เขาไม่ใช่ประตูดาวของจักรวรรดิและประกาศว่าเขากำลังค้นหาวัตถุเวทย์มิติที่สองต่อสาธารณะ
  เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาที่จอมเวทย์ผู้อยู่เหนือจะหาวัตถุมิติที่สองร่วมกับความจริงที่ออสตินมักเป็นกลาง โลกภายนอกจึงไม่สนใจการเคลื่อนไหวของวังคาถาลับ ไม่มีใครคิดว่าออสตินจะลอบมาโลกริบหรี่โดยไม่ได้รับอนุมัติจากจักรวรรดิคริมสัน
  อุปกรณ์เกรดทองและสมบัติจักรวาลมูลค่าของวังคาถาลับมากมหาศาล มันสามารถเคลื่อนย้ายทางไกลและต้องใช้เวลาแค่สิบกว่าวันเพื่อมาโลกริบหรี่จากวงแหวนดาวกระจาย มันเร็วกว่ายานรบของพวกลอบเร้น จากนั้นเขาก็พบสถานที่เพื่อรอและใช้วงเวทย์ปกปิดของวังคาถาลับ มันไม่ง่ายสำหรับอุปกรณ์ตรวจจับธรรมดาที่จะเป็นผ่านความสามารถปกปิดของสมบัติจักรวาล
  แต่ทว่าออสตินไม่รู้ว่ามีศัตรูมากมายตั้งแต่ต้น เดิมเขาคิดว่าศาสนจักรคงไม่ลงมือจริงจังและก็มาที่นี่เพื่อทำตามสัญญา ต่อให้เขาถูกพบโดยจักรวรรดิ จักรวรรดิก็ย่อมไม่ทำอะไรเขาด้วยการให้คำของแบล็คสตาร์
  แต่ทว่าเขาไม่คิดว่าศาสนจักรจะลงมือเอิกเกริกขนาดนี้!
  หลังอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกสักพักเขาก็ตัดสินใจไม่ดูและนำวังคาถาลับมาหนุนแบล็คสตาร์!
  ในฐานะคนที่เป็นกลางเขาย่อมเข้าใจว่าการกระทำเช่นนี้ไม่ดีต่อเขานัก แต่ในเมื่อเขารับปากไปแล้ว ออสตินก็ไม่คิดกลับคำพูด
  แม้ออสตินจะดูหัวเราะและผ่อนคลายแต่จริงๆเขากำลังลอบสาปแช่ง
  เขาถูกหลอก!
  หานเซี่ยวถอนหายใจ”เฒ่าทารกในที่สุดก็มา มาช่วยเราแบ่งเบาแรงกดดันหน่อย”
  ออสตินกลอกตา”ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆที่มาร่วมสู้ฉันนับว่าขาดทุนแล้ว!”
  เมื่อได้ยินเบโยนี่ก็เห็นด้วยกับความรู้สึกนี้
  เขามองหานเซี่ยวที่กำลังฟื้นฟูและอดบ่นในใจไม่ได้
  ฉันควรเก็บความคับข้องใจทั้งหมดไว้
  เมื่อเห็นสีหน้าเบโยนี่หานเซี่ยวก็นำเข็มฉีดยาออกมาและฉีดใส่เบโยนี่
  “นายทำอะไร?”
  “รักษานาย”
  “เห้อพลังชีวิตของผู้อยู่เหนือมากมหาศาล เข็มฉีดเล็กๆนี้จะทำอะไร…โอ้?นายฉีดอะไรให้ฉัน?!”
  ก่อนเขาจะพูดจบหานเซี่ยวก็ฉีดยาชีวิตของออโรร่าให้เขาแล้ว
  จากนั้นใบหน้าของเบโยนี่ก็ปเลี่ยนไป
  เขาสามารถรู้สึกได้ถึงพลังชีวิตมหาศาลที่อัดแน่นทั่วร่างเซลล์เขากำลังยินดี การฟื้นฟูบาดแผลเขาเร่งขึ้นหลายเท่า
  แม้เขาจะไม่ฟื้นเต็มที่เขาก็ยังไม่บาดเจ็บสาหัสอีก
  “ยานี้คืออะไร?มันกลับมีผลกับผู้อยู่เหนือมากขนาดนี้!”เบโยนี่ตกใจ
  “นายยังมีเวลามาสนใจอีก?มาจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้าเราก่อน”
  แม้กลุ่มไซเคอร์สี่คนจะหยุดการโจมตีพวกเขากองทัพจักรกลก็ยังสู้กับสิ่งมีชีวิตอัญเชิญ เนื่องจากทหารจักรกลที่ได้รับการเสริมพลังโดยหานเซี่ยวยังสู้อยู่ มันก็คล้ายกับหานเซี่ยวกำลังสู้ นอกจากนี้ เขาต้องออกสนามรบห้านาที และมันก็ห่างไกลจากคำว่าพอ
  แม้ศัตรูจะตกใจพวกเขาก็ไม่นิ่งเฉยเป็นเวลานาน เมื่อเห็นออสตินแทรกแซง พวกเขาก็ยอมรับความเป็นจริงและยังถือว่าออสตินเป็นเป้าหมายไปด้วย
  ออสตินกระตุ้นวังคาถาลับและกระตุ้นวงเวทย์ทั้งหมดเพื่อดูดซับพลังงานมืดด้วยเสียงกึกก้อง วังคาถาลับเริ่มเปล่งแสงเวทมนตร์และรังสีพลังงานเวทย์ก็ยิงออกมา
  อีกด้านเมอเซอร์ที่อยู่ใกล้กับหานเซี่ยวสุดพลันปรากฏตรงหน้าหานเซี่ยวและหมัดเขาก็บดขยี้ลงใส่หัวหานเซี่ยว
  ด้วยระยะสั้นๆพร้อมกับความจริงที่เขาใช้กระโดดมิติมารับการโจมตีแทนเบโยนี่ไปแล้วหานเซี่ยวจึงใช้บัตรอัญเชิญตัวละครฮีเบอร์ และพละกำลังเขาก็เพิ่มขึ้นสี่พันหน่วย!
  พลังมหาศาลระเบิดจากกล้ามเนื้อเขาและหานเซี่ยวก็ปล่อยหมัดออกไป
  ปัง!
  หมัดชนกันและคลื่นกระทบก็ส่งออกไปทุกทิศทางกวาดหมอกออกไป
  เมอเซอร์สามารถรู้สึกถึงพละกำลังที่ไม่ด้อยไปกว่าเขาและร่างเขาก็ถูกส่งลอยออกไปอย่างควบคุมไม่ได้ เมื่อปรับสมดุลร่างกาย เขาก็ตระหนักว่าหานเซี่ยวเองก็ถูกส่งออกไปเช่นกัน
  ทั้งสองฝ่ายต่างลอยและพละกำลังพวกเขาก็เท่ากัน!
  “ทำไมแกถึงมีพละกำลังเช่นนั้นได้?”เมอเซอร์ตกใจถึงขีดสุด
  ค่าสถานะที่ทรงพลังสุดของเขาคือพละกำลังแต่ช่างกลกลับแข่งขันกับเขาได้ในด้านนี้?!
  ล้อกันเล่นหรือเปล่า?แกยังสมควรจะได้ชื่อว่าช่างกลอีกงั้นหรือ?!
  หานเซี่ยวกัดฟันพลางสะบัดแขนบัตรอัญเชิญตัวละครฮีเบอร์สามารถมอบค่าสถานะที่สูสีกับศัตรูให้ได้ แต่เพลิงนักสู้ก็ยังมีความสามารถทำลายล้างสูงจนทำลายเซลล์เขาไปมาก
  ด้วยการหยิบยืมแรงปะทะหานเซี่ยวจึงถอยออกมาพร้อมเบโยนี่และซ่อนภายในแนวป้องกันของกองทัพจักรกลเขา ในเวลาเดียวกัน เขาก็เริ่มวิเคราะห์สถานการณ์
  “มิลิซาสสามารถรั้งไว้ได้สองและการต่อสู้ทางฝั่งฉันก็เป็นสามต่อสี่แล้วแม้ศัตรูจะมีมากกว่าหนึ่งคน ออสตินก็มีวังคาถาลับและสามารถรับแรงกดดันได้ เราจะไม่เป็นฝ่ายแพ้และสามารถถ่วงได้นาน..”
  “แต่ทว่าศัตรูยังมีกำลังเสริมที่ทรงพลังมาก หากเทพเอสมาถึงสนามรบ สมดุลจะพังทลาย”
  “วังคาถาลับของออสตินสามารถนำฉันหลบหนีไปได้และก็ไม่ควรมีจอมเวทย์คนใดหยุดยั้งเขาได้ แต่ทว่า ศัตรูมีสองจอมเวทย์และจะต้องยับยั้งการเคลื่อนย้ายของวังคาถาลับได้หากพวกเขาร่วมมือกัน หากฉันอยากหนี ฉันสามารถนำเบโยนี่ไปด้วยได้ หากฉันอยากพามิลิซาสไปด้วย จอมเวทย์ศัตรูจะต้องลงมือพร้อมกันแน่และเราจะไม่อาจหนีได้….”
  “ยังมีอีกปัญหาวังคาถาลับต้องการเวลาเพื่อรวมพลังและจอมเวทย์อีกคนต้องไม่ปล่อยให้เป้าหมายหนีไปง่ายๆ เขาจะทิ้งมิลิซาสและพยายามหยุดเรา หากมิลิซาสเห็นว่าเรากำลังทิ้งเขาเพื่อหนี เขาย่อมไม่อยู่ด้านหลังและรั้งนินเจียไว้ เมื่อนินเจียมาจัดการเรา มิลิซาสอาจใช้คาถาเคลื่อนย้ายเพื่อหนี ตอนนั้น วังคาถาลับจะถูกทิ้งไว้ แต่เราจะเสียพันธมิตรอย่างมิลิซาสไป”
  สีหน้าหานเซี่ยวดำมืดหากพวกเขาอยากพึ่งพาวังคาถาลับเพื่อหนี พวกเขาจำต้องละทิ้งมิลิซาส แต่ทว่า โอกาสสำเร็จก็ต่ำมากและมันก็เป็นไปได้ว่ามิลิซาสจะเลือกคว้าโอกาสเพื่อหนีเช่นกัน หากนั่นเกิดขึ้น พวกเขาจะเสียพลรบและสถานการณ์ก็จะยิ่งย่ำแย่
  หากเขาเลือกหนีจริงกองทัพจักรวรรดิย่อมถูกกวาดล้าง ไม่ว่ามันจะเป็นองครักษ์มังกรหรือองครักษ์แบล็คสตาร์ ไม่มีใครจะรอดชีวิตไปได้
  มันยังยากที่จะให้วังคาถาลับส่งกำลังเสริมมาแม้กระทั่งอุปกรณ์เปิดท้องฟ้าหลากมิติก็ยังมีขีดจำกัดการใช้ นอกจากนี้ ฮีเบอร์และกำลังเสริมทั้งสองอยู่กลุ่มดาวอื่น และกำลังรีบมาดาวประภาคารผ่านประตูดาว ดังนั้น วังคาถาลับย่อมไม่อาจนำกำลังเสริมมาให้พวกเขาได้เช่นกัน
  “ทาราคอฟพูดถูกเรามีทางเลือกไม่มากนัก เราทำได้แค่ถ่วงเวลาจนกว่ากำลังเสริมจะมาถึง”หานเซี่ยวกัดฟัน
  ยิ่งเขาทรงพลังความหวังก็ยิ่งสูง เขาต้องออกการต่อสู้เพื่อให้ภารกิจสำเร็จและก็ต้องหาโอกาส…
  …
  หลังออสตินเข้าร่วมการต่อสู้ก็ยิ่งรุนแรงและมันก็เป็นไปไม่ได้ที่ใครจะแทรกแซง
  วังคาถาลับคืออุปกรณ์ต่อสู้ของออสตินและมันก็เสริมพลังเวทย์เขาจนถึงขีดสุด มันเหมือนหอคอยเวทย์ที่ยิงไม่หยุด
  แม้การต่อสู้จะเป็นสี่ต่อสามการต่อสู้ก็ไม่ใช่การยำข้างเดียว ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบกัน
  หานเซี่ยวมีคนมาแบ่งเบาภาระด้วยและกองทัพจักรกลเขาจึงคุกคามกลุ่มไซเคอร์ได้มากขึ้น ศัตรูไม่มีทางเลือกนอกจากระวังตัวและลดความถี่การโจมตี
  เทย์เลอร์ยังไม่อาจอัญเชิญได้โดยปราศจากแรงกดดันอีกและการอัญเชิญเขาก็ถูกขัดเป็นครั้งคราว
  สี่ผู้อยู่เหนือตั้งใจแยกวังคาถาลับออกจากหานเซี่ยวและพวกเขก็กำลังหารือกลยุทธ์กันขณะสู้
  ไซเคอร์ใช้พลังจิตเขาเพื่อติดต่อกับสหายเขาและกล่าว”ออสตินมีความช่วยเหลือของวังคาถาลับและความสามารถต่อสู้เขาก็เพิ่มไปอีกระดับ มันยากมากที่จะจัดการกับเขา”
  “จิ๊ฉันคงไม่ต้องกลัวเขาหากฉันสามารถนำเจดีย์เวทย์ของฉันมาด้วย”เทย์เลอร์หงุดหงิด
  จอมเวทย์ผู้อยู่เหนือทุกคนล้วนมีเจดีย์เวทย์ของตนแต่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถสร้างสมบัติจักรวาลได้เหมือนวังคาถาลับ
  เทย์เลอร์และนินเจียไม่นำเจดีย์เวทย์พวกเขามาก็เพราะพวกมันใหญ่หลังถูกส่งมาโดยสหพันธ์แห่งแสง พวกเขาก็ต้องกลับด้วยตนเองและพวกเขาต้องถูกไล่ล่าโดยกองยานจักรวรรดิแน่ เช่นนั้น การนำเจดีย์เวทย์มาจึงจะทำให้ความคล่องตัวพวกเขาลดลง นอกจากนี้ พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาต้องได้เปรียบแน่และก็ไม่ควรมีความผิดพลาดระหว่างต่อสู้ สุดท้าย มันก็เพื่อปกปิดปฏิบัติการไว้เป็นความลับ
  “จำไว้แบล็คสตาร์อาจใช้วังคาถาลับเพื่อหลบหนี”ดีแลนเตือน
  “หากเขาทำเช่นนั้นฉันจะบอกนินเจียให้มาร่วมมือกับฉัน ฉันไม่สามารถหยุดวังคาถาลับได้ลำพัง แต่เราสองคนควรหยุดมันได้”เทย์เลอร์กล่าว
  “จากนั้นมิลิซาสอาจถือโอกาสหลบหนี…”
  “งั้นก็บอกแซ็กแมนและนินเจียให้เร่งมือและใช้คฑาหมื่นเทพหากไม่ ก็บังคับมิลิซาสให้หนีไป หากเราต้องเลือกระหว่างทั้งคู่ เราต้องเลือกแบล็คสตาร์เป็นเป้าหลัก”ไซเคอร์กล่าว
  เมอเซอร์ไม่อาจมาร่วมการสนทนาด้วยได้และก็ยังไล่ตามหานเซี่ยว อยากทดสอบพละกำลังของหานเซี่ยวอีกครั้ง
  เมื่อวังคาถาลับปรากฏทั้งสามที่ต่อสู้นอกชั้นบรรยากาศก็เห็นสถานการณ์
  มิลิซาสมีความสุขที่ได้ผู้สนับสนุนแต่สีหน้าของแซ็กแมนและนินเจียกลับดำมืด
  “ไซเคอร์บอกว่าอีกฝ่ายคือออสตินจากวงแหวนดาวกระจายเขามาที่นี่เพื่อช่วยแบล็คสตาร์ ด้วยผู้อยู่เหนืออีกคน ความได้เปรียบเราจึงลดลง”แซ็กแมนกล่าวด้วยคิ้วขมวด
  “สี่ต่อหกมันยากสำหรับเราที่จะจัดการก่อนเทพเอสมาถึง”นินเจียส่ายหัว
  ศาสนจักสั่งพวกเขาให้รีบจบงานและพยายามอย่าให้เทพเอสมาร่วมด้วยแต่ดูเหมือนมันจะไม่ง่ายอย่างนั้น ไพ่ตายของหานเซี่ยวคือสิ่งที่พวกเขาไม่คาดฝัน
  “อย่ารีบสรุป”
  แซ็กแมนพลันปลดปล่อยแสง
  คลื่นแสงทำลายลมหายใจมังกรของมิลิซาสและส่องสว่างขึ้นในอวกาศมืด
  วิสัยทัศน์และสัมผัสของมิลิซาสเองก็ได้รับผลไปด้วยและเขาก็พลันรู้สึกกลัวในหัวใจ
  เขาปล่อยคาถาป้องกันโดยไม่ลังเลและคลุมตัวเองในชั้นเวทย์หลากสีเหมือนกระดองเต่า
  จากนั้นมิลิซาสก็กระพือปีกมังกรและพยายามพุ่งออกจากแสง หันไปมอง และเห็นว่านินเจียกำลังถือคฑาสีดำแปลกๆอยู่ ด้วยสัมผัสของมิลิซาส เขาสามารถเห็นอักขระเล็กๆนับพันบนคฑาสีดำได้
  “นี่คือ…คฑาหมื่นเทพ?!”
  สัญญาณเตือนดังในหัวของมิลิซาสเขามีความรู้มากและมันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้จักสมบัติจักรวาลของศาสนจักรอาร์เคน
  ศาสนจักรอาร์เคนมีความเชี่ยวชาญด้านวิญญาณจิตใจ ภาพลวงตาและความเชื่อ พวกเขามีทักษะเหลือเชื่อที่เปลี่ยน’เทพปลอม’ให้กลายเป็นจริงและสร้าง’เทพ’ประดิษฐ์ขึ้น
  คฑาหมื่นเทพคือสมบัติจักรวาลที่ศาสนจักรสร้างด้วย’ความบังเอิญ’และมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำซ้ำ มันคือสื่อกลางที่หยิบยืมพลังของเทพประดิษฐ์เหล่านี้
  อธิบายง่ายๆ‘เทพ’ของศาสนจักรก็เหมือนดินปืนและกระสุน ส่วนคฑาหมื่นเทพนั้นคือปืน
  หากอุปกรณ์เปิดท้องฟ้าหลากมิติของสหพันธ์แห่งแสงคืออาวุธกลยุทธ์งั้นคฑาหมื่นเทพก็คืออาวุธสังหาร!
  พลังของมันไม่ได้ยิ่งใหญ่แต่มันมีพลังร้ายแรงอย่างเหลือเชื่อต่อสิ่งมีชีวิตที่มีวิญญาณ นอกจากนี้ ยิ่งผู้ใช้ทรงพลัง ความเสียหายก็ยิ่งสูง ในช่วงยุคสำรวจ มีบรรพชนอย่างน้อยสามคนที่ตายด้วยอาวุธนี้!
  คฑาหมื่นเทพต้องใช้’เทพ’เป็นอาวุธและผู้ใช้ก็จะเป็นตัวปล่อยพลัง คนๆเดิมไม่อาจใช้มันได้ต่อเนื่องในเวลาอันสั้น และคฑา
  หมื่นเทพก็จะได้รับความเสียหายทุกครั้งที่ใช้มันนี่คือเหตุผลที่ศาสนจักรแทบจะไม่ใช้สมบัติชิ้นนี้และเก็บมันไว้
  มิลิซาสไม่คิดฝันว่าเขาจะได้เห็นอาวุธชื่อดังนี้กับตา!
  โชคฉันไม่ดีขนาดนั้นเลย?แบล็คสตาร์กระจายโชคร้ายใส่ฉัน?!
  ฉันไปขโมยข้าวของพวกแกมาหรือไง?ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้?!
  เวลานั้นเองนินเจียพลันดีดนิ้วเขาและคฑาหมื่นเทพก็ลอยตรงหน้าเขา เล็งใส่มิลิซาส
  พลังงานของนินเจียถูกสูบเข้าคฑาดำและอักขระบนนั้นก็เปล่งแสง
  อักขระของเหล่าเทพเจ้าส่องแสงและดูเหมือนจะมีชีวิตร่างจำแลงโปร่งใสนับหมื่นพลันปรากฏและรวมกันเป็นเสาพลังงานลวงตาที่ยิงใส่มิลิซาส
  หากเป็นคนอื่นพวกเขาอาจหลบการโจมตีนี้ได้ แต่ทว่า มิลิซาสไม่อาจหลบได้ด้วยร่างกายอันใหญ่โต เขาทำได้แค่ร่ายคาถาป้องกันอย่างบ้าคลั่ง
  แต่ทว่าเสาพลังงานกลับผ่านม่านพลัง ซึ่งพอจะป้องกันปืนใหญ่ไซโอนิคราวกับมันไม่มีอยู่จริง
  มิลิซาสทำได้แค่ดูเสาพลังงานยิงผ่านม่านพลังนับไม่ถ้วนของเขาและกระแทกใส่อกเขา
  “แบล็คสตาร์แกมัน@$*%u0026!#*…”
  ก่อนเขาจะพูดจบร่างมังกรใหญ่โตของเขาก็สั่นคลอน และเขาก็เสียการควบคุมร่างกายราวกับนกที่ถูกยิงร่วง
  ร่างขนาดมหึมาเขาถูกคว้าจับโดยแรงโน้มถ่วงของดาวประภาคารและตกลงมาเหมือนอุกกาบาต
  คชา!
  วินาทีที่ปล่อยการโจมตีรอยแตกก็สามารถเห็นได้บนคฑาหมื่นเทพ
  “อ้ากกก!”นินเจียร้องเจ็บปวด
  แซ็กแมนผู้อยู่ข้างๆรีบคว้าคฑาหมื่นเทพมาเขารู้ว่าการโจมตีนี้ไม่พอจะฆ่ามิลิซาสหนังหนา นินเจียไม่อาจใช้อาวุธนี้ได้อีกครั้ง ดังนั้นมันจึงถึงคราวของเขา
ตอนที่ 848 การปรากฏของกาลอวกาศแอมเบอร์
  ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้…
  ในท้องฟ้าของดาวประภาคารเจ็ดผู้อยู่เหนือปะทะกันอย่างรุนแรง ไฟและน้ำ เวทย์และพลังจิต และเครื่องจักรปะทะเนื้อ
  ด้วยสถานการณ์สี่ต่อสามศัตรูไม่มีทางเลือกนอกจากชะลอการโจมตี ด้วยแรงกดดันที่ผ่อนคลายลง หานเซี่ยวค่อยๆได้รับความสามารถฟื้นฟูที่ทรงพลัง
  กองทัพจักรกลของหานเซี่ยววังคาถาลับของออสติน สิ่งมีชีวิตอัญเชิญของเทย์เลอร์ พลังงานจิตของไซเคอร์ การควบคุมน้ำของดีแลน ไฟของเบโยนี่…การโจมตีต่างๆเต็มสนามรบ
  ความสามารถที่ทรงพลังสุดยังมาจากกองทัพจักรกลด้วยทหารกว่าสิบล้าน ปืนใหญ่ไซโอนิคปกคลุมท้องฟ้าเกือบทุกนิ้ว การเสริมจาก[สัมผัสจักรกลสมบูรณ์]และความเสียหายจริงจาก[เทคนิคต่อสู้ในตำนาน]ทำให้กลุ่มของไซเคอร์ไม่กล้าลดการป้องกัน
  แต่ทว่าเทย์เลอร์มีเพื่อนร่วมทีมเขาเพื่อรั้งกองทัพจักรกลของหานเซี่ยวและช่วยให้เขาอัยเชิญสิ่งมีชีวิตออกมาได้ง่ายขึ้น
  มีสิ่งมีชีวิตอัญเชิญหลายรูปบบมีค้างคาวปีศาจ งูพลาสม่า รูปปั้นสีเขียว นักล่าวิญญาณ และอื่นๆ ความสามารถพวกมันหลากหลายและพวกมันก็คืออสูรที่เทย์เลอร์ชุบเลี้ยงหลังทำสัญญา ผู้อัญเชิญเก่งๆต้องมีสิ่งมีชีวิตอัญเชิญเป็นจำนวนมาก
  หานเซี่ยวแยกทหารจักรกลสามล้านให้ปัญญาประดิษฐ์เขาควบคุมเพื่อจัดการกับสิ่งมีชีวิตอัญเชิญ
  การต่อสู้ระหว่างกองทัพจักรกลและสิ่งมีชีวิตอัญเชิญเหมือนสงครามระหว่างสองทัพกองทัพจักรกลมีการร่วมมือดีมากและสามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตอัญเชิญได้ทีละระลอก ดังนั้น ความเสียหายจึงน้อยกว่าสิ่งมีชีวิตอัญเชิญ
  ในสนามรบวุ่นวายหน่วยสิ่งมีชีวิตจักรกลภายใต้การนำของไซโอนิคไพรม์เคลื่อนผ่านสนามรบ
  ปัญญาประดิษฐ์ต่อสู้สปาตาร์ไม่ได้เข้ายึดร่างของสิ่งมีชีวิตจักรกลแต่กลับรับผิดชอบออกคำสั่งเชิงกลยุทธ์เท่านั้น
  ความเร็วการประมวลผมที่ทรงพลังพร้อมกับโมดูลสนามรบแสดงช่องว่างในสายฝนกระสุนและแสดงทางหลบกระสุนทั้งหมดจากนั้นไซโอนิคไพรม์ก็ติดตามเส้นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้ากับทีมทั้งหมดด้านหลังและเลี่ยงลำแสงพลังงานทั้งหมด ขวางอันที่หลบไม่ได้ด้วยม่านพลังไซโอนิค
  ปลายทางของทีมคือกลุ่มสิ่งมีชีวิตอัญเชิญขั้นสูง
  เป้าหมายพวกเขาคือทีมค้างคาวปีศาจเกรดผู้นำที่นำโดยกลุ่มรูปปั้นซึ่งคอยยิงลำแสงพวกมันได้รับการเสริมพลังด้วยผู้อัญเชิญและค่าสถานะพวกมันก็เพิ่มขึ้นมาก ทหารจักรกลทั่วไปถูกทำลายโดยพวกมัน
  “ทั้งหมดจำไว้ ภารกิจเราคือกำจัดพวกระดับสูงของศัตรู”
  เสียงที่ไม่มีอารมณ์ของไซโอนิคไพรม์ดังขึ้น
  ค้างคาวปีศาจเหล่านี้พบทีมสิ่งมีชีวิตจักรกลที่เข้าใกล้และลงมือขัดขวาง
  “ระยะห่างระหว่างเป้าหมายกำลังหดลงเตรียมสู้!’
  “จับเป้ายิง!”
  สิ่งมีชีวิตจักรกลที่เป็นของหน่วยจู่โจมทางไกลกลับคืนสู่รูปแบบเดิมมีหอคอยปืนใหญ่ ปืนใหญ่ลำแสงไซโอนิค ป้อมยิงอาวุธ ขีปนาวุธนำวิถีระยะสั้นพลังงานสูงและอื่นๆ
  บูมบูม บูม!
  ค้างคาวปีศาจเหล่านี้เปิดม่านพลังปีศาจพวกมันและพุ่งมาไม่หยุดบางครั้ง ม่านพลังของพวกมันบางตัวจะแตกและก็จะตายภายใต้พลังยิง
  เมื่อเจอกับคลื่นการโจมตีรูปปั้นสีเขียวยักษ์ก็ยังหันตาพวกมัน รวบรวมพลังงาน วินาทีต่อมา ลำแสงเวทย์หนาก็ยิงออกจากตาพวกมันและทำลายทหารจักรกลทั้งหมดและอัญเชิญสิ่งมีชีวิตในทางของเป้าหมาย
  “คิงคองยักษ์โจมตี!”
  ด้านหลังไซโอนิคไพรม์เงายักษ์ร่อนลงมา และทหารยักษ์ที่สูงหลายร้อยเมตรก็ปรากฏ มันเรียกว่าคิงคองยักษ์
  คิงคองยักษ์ตั้งม่านพลังไซโอนิคขนาดใหญ่เพื่อป้องกันพรรคพวกและขวางลำแสงเวทย์ทั้งหมด
  ปัง!
  การระเบิดครั้งใหญ่ปะทุขึ้นโดยคิงคองยักษ์คือคนเดียวที่รับความเสียหาย
  ตัวขับด้านหลังคิงคองยักษ์ระเบิดพลังเต็มกำลังและร่างยักษ์ก็ปะทะกับสิ่งมีชีวิตอัญเชิญที่พุ่งเข้ามาก่อนจะไปอยู่ข้างรูปปั้นเขียว ทั้งสองร่างปะทะกัน!
  บูม!
  มันราวกับภูเขากำลังสั่นสะเทือน!
  รูปปั้นเขียวยักษ์เสียหายจากหมัดและเศษรูปปั้นก็กระจายไปทั่วสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ทั้งสองกำลังสู้กัน กองกำลังขนาดเล็กยังเริ่มยิง
  สิ่งมีชีวิตจักรกลเหล่านี้ล้วนเป็นพวกระดับสูงและเติบโตมานานมีพวกที่เป็นเหมือนมินิบอส และความสามารถต่อสู้พวกมันก็ไม่อาจมองข้าม นี่คือกองกำลังชั้นยอดที่ทรงพลังสุดของหานเซี่ยว
  ทหารม้าติดอาวุธผู้รักษาสัจจะ นักรบอสูรและสิ่งมีชีวิตจักรกลรูปแบบต่างๆพุ่งไปข้างหน้าอย่างพร้อมเพรียง มันคือการสังหารหมู่อยู่ด้านเดียว
  นักล่าวิญญาณที่เข้าร่วมการต่อสู้ยังถูกหน่วยสิ่งมีชีวิตจักรกลจัดการง่ายๆ
  ร่างของไซโอนิคไพรม์ได้รับการสร้างขึ้นใหม่หลายครั้งและมันก็ลดค้างคาวปีศาจเป็นเศษเนื้อได้ง่ายๆจากนั้นเขาก็หันไปมองและตระหนักว่าเพื่อนเขาสู้กันจบแล้ว
  “ฮึ่มง่ายมาก”ประกายแสงสีเงินปล่อยศพค้างคาวปีศาจ”มันน่าเสียดายที่เรากำลังสู้ในสงครามป้องกัน หากฉันสามารถโจมตีได้ ฉันคงสามารถปล่อยพลังทั้งหมดได้ และการต่อสู้ก็คงจบไปแล้ว”
  “หยุดคุยโม้ได้แล้ว!”เปลวไฟสีชาติกล่าว
  ประกายแสงสีเงินไม่สนใจเขาและมองสนามรบของเจ็ดผู้อยู่เหนือ”มันน่าเสียดายที่เราไม่แกร่งพอฉันอยากช่วยท่านพ่อ”
  “พ่อกำลังปกป้องพวกเรา”คิงคองยักษ์ตอบ
  “เราคืออาวุธที่พ่อสร้างแต่เขากำลังปกป้องเรา นี่คือความรักของผู้เป็นพ่อ?”ประกายแสงสีเงินถามอย่างอยากรู้
  ไซโอนิคไพรม์กำลังจะตอบแต่เสียงดังสนั่นก็สามารถได้ยินจากฟ้า
  หวือออ!
  สิ่งมีชีวิตจักรกลทั้งหมดแหงนมอง
  มังกรยักษ์กำลังตกลงมาจากนอกชั้นบรรยากาศพร้อมฝนเลือดที่เทลงมาเหมือนพายุร่างของมังกรกำลังเผาไหม้เหมือนอุกกาบาตและมันก็กระแทกกับทหารจักรกลและสิ่งมีชีวิตอัญเชิญ
  บูม!
  มังกรยักษ์กระแทกกับดาวเหมือนระเบิดปรมาณูฝุ่นรูปเห็ดพลันก่อตัวในท้องฟ้า!
  …
  “มันคือมิลิซาสที่ตกจากฟ้า?เขาบาดเจ็บสาหัส?!”
  หานเซี่ยวเบโยนี่และออสตินตกใจ
  นี่ไม่ควรเป็นแบบนั้น!พลังของมิลิซาสมากพอจะจัดการกับแซ็กแมนและนินเจียเขาไม่ควรแพ้เร็วขนาดนี้และยังบาดเจ็บสาหัส!
  ทั้งสามตกใจและขยับไปหามิลิซาสลากสนามรบออกไป กลุ่มของไซเคอร์เองก็ตามมาติดๆ
  วินาทีต่อมาหานเซี่ยวและเบโยนี่ก็ลอยลงข้างหลุมยักษ์และออสตินก็ควบคุมวังคาถาลับเขาเพื่อลอยลกางอากาศ เมือ่เห็นสภาพของมิลิซาส ทั้งสามก็ตกใจ
  ร่างมังกรขนาดยักษ์ของมิลิซาสอยู่ในสภาพน่าสมเพชมีรูขนาดใหญ่เปิดตรงหน้าอกเขาและกระดูกกับอวัยวะภายในก็สามารถมองเห็นได้
  บาดแผลที่น่ากลัวนี้ดูเหมือนจะเกิดจากการโจมตีเดียวและเบโยนี่ก็ตกใจมาก เขาไม่อาจจินตนาการได้ว่าการโจมตีประเภทใดที่สามารถทำให้มิลิซาสบาดเจ็บได้ขนาดนี้
  สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่บาดแผลเดียวรอยแตกใหม่สามารถเห็นได้บนตัวมิลิซาส พลังงานภายในยังคงทำลายเซลล์เขา
  เมื่อเห็นแบบนี้หานเซี่ยวก็นำเข็มฉีดยาออกจากชุดจักรกลและฉีดยาชีวิตของออโรร่าให้มิลิซาส แต่ทว่า มันทำได้แค่ชะลอความเร็วการลุกลามของแผล เขายังไม่แสดงสัญญาณฟื้นตัว
  เพราะหานเซี่ยวฉีดยาการแจ้งเตือนจึงปรากฏ
  หน้าต่างสถานะแสดงสภาพปัจจุบันของมิลิซาสพลังชีวิตเขาอยู่ที่63%และยังลดลง มีสถานะด้านลบมากมาย มีสองอันที่น่ากลัวสุด
  [การยับยั้งเซลล์-สูง]: วิธีฟื้นฟูทั้งหมดจะมีผลลดลง70%(จากนินเจีย)
  [การกัดกร่อนสองเท่า]: รับความเสียหายทางกาย12582หน่วยและความเสียหายทางจิต15733หน่วยทุกวินาที(จากนินเจีย)
  “โอ้…”มิลิซาสส่งเสียงคร่ำครวญและพูดกับกลุ่มหานเซี่ยวด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง”ระวังพวกมันนำคฑาหมื่นเทพมา”
  ก่อนเขาจะพูดจบแซ็กแมนและนินเจียก็ลงมา และหกผู้อยู่เหนือศัตรูก็รวมกัน!
  หานเซี่ยวยกหัวและเห็นอาวุธที่ทำให้มิลิซาสบาดเจ็บมันคือคฑาหมื่นเทพที่ลอยข้างแซ็กแมน
  มันคือสมบัติจักรวาลชื่อดังนี่เอง….สีหน้าหานเซี่ยวบิดเบี้ยว
  ศาสนจักรนับว่าทุ่มสุดตัวจริงๆ!
  “พวกมันถึงกับนำของชิ้นนี้ออกมา?”สีหน้าออสตินเปลี่ยนไปและคิดหาทางหนีทันที
  เขาได้ทำตามสัญญาเขาแล้วและรู้สึกว่าเขาทำทั้งหมดที่ทำได้แล้วเขาไม่อยากตายแค่เพราะคำสัญญา มันเพราะการป้องกันของวังคาถาลับเขาและความคล่องตัวที่ทำให้เขากล้าเข้าร่วมการต่อสู้นี้ แต่ทว่า การโจมตีของคฑาหมื่นเทพน่ากลัวไปและมันก็สามารถเมินเฉยการป้องกันทางกายภาพและม่านพลัง การโจมตีสามารถหลบได้แต่ป้องกันไม่ได้ ซึ่งหมายความว่าวังคาถาลับจะไม่อาจช่วยเขาป้องกันได้
  ความคิดของออสตินชัดเจนเป้าหมายของศาสนจักรคือแบล็คสตาร์และจักรวรรดิ ในเมื่อเขาไม่ใช่เป้าหมายศัตรู ศัตรูต้องไม่สิ้นเปลืองผู้อยู่เหนือมาไล่ล่าเขาหากเขาอยากหนี
  เขาไม่อยากสัมผัสความรู้สึกของอาวุธที่สามารถคุกคามผู้อยู่เหนือได้
  เฒ่าทารกนี่กำลังคิดหนี….
  แม้เขาจะไม่รู้วิธีอ่านใจหานเซี่ยวก็รู้ว่าออสตินกำลังคิดอะไรจากสีหน้าลังเล
  การปรากฏของคฑาหมื่นเทพนับว่าเหนือความคาดหมายหากเขารู้ว่าศัตรูมีไพ่ตายเช่นนี้ เขาคงไม่ยอมให้มิลิซาสแยกจากพวกเขา
  หานเซี่ยวมีสีหน้าเคร่งขรึมและฉีดยาให้มิลิซาสหลายครั้งจากนั้นอาการบาดเจ็บเขาก็หยุดแย่ลง พร้อมสัญญาณฟื้นฟู
  [การยับยั้งเซลล์-สูง]อ่อนลงเพราะผลของยาชีวิตออโรร่าแต่ด้วยสถานะด้านเลยจำนวนมาก หานเซี่ยวจึงต้องฉีดหลายเข็ม
  แต่ทว่าศัตรูผู้อยู่เหนือต้องไม่ให้เวลาพวกเขา
  หวือ!
  ทั้งหกลอยอยู่กลางอากาศและก้มมองมิลิซาสเบโยนี่และหานเซี่ยว แรงกดดันที่น่าตกใจกดทับมาจากฟ้า แต่ออสตินกลับไม่โดนกดดัน
  ไซเคอร์มองออสติน”หยุดแทรกแซงได้แล้วนี่คำเตือนสุดท้าย”
  “…”ออสตินมองหานเซี่ยวและไม่กล้าขยับตัวอีก
  คฑาหมื่นเทพลอยอยู่ตรงหน้าแซ็กแมนและเล็งมิลิซาสที่ขยับตัวไม่ได้
  ความสิ้นหวังสามารถเห็นได้ในตามิลิซาสเขาชัดเจนมากถึงสถานการณ์เขา แม้หานเซี่ยวจะสามารถช่วยเขาฟื้นฟูได้ เขาก็ต้องตายแน่หากโดนโจมตีอีก
  เพียงเมื่อแซ็กแมนกำลังจะกระตุ้นคฑาหมื่นเทพหานเซี่ยวก็สูดหายใจลึกและกล่าวเสียงดัง”พวกนายอยากได้ลูกบาศก์วิวัฒนาการสินะ?!”
  แซ็กแมนหยุดขยับและหรี่ตา
  “แกอยากมอบมันเพื่อแลกกับชีวิตพวกแก?”
  “ถูกต้อง”หานเซี่ยวพ่นลมหายใจยาวและปลดผลผนึกของกาลอวกาศแอมเบอร์
  จากนั้นทั้งหกก็มองลูกบาศก์สีเงินในมือหานเซี่ยว
  จากนั้นการเชื่อมต่อจิตของไซเคอร์กับลูกบาศก์ก็กลับคืนและเขาก็ยืนยัน”มันคือของจริง”
  แซ็กแมนพยักหน้าและกล่าวกับหานเซี่ยว
  “แกคิดว่ายังมีสิทธิเจรจา?เรายังสามารถได้รับลูกบาศก์วิวัฒนาการหากเราฆ่าแกทำไมเราต้องตกลงด้วย?แค่ฆ่าหรือจับแกก็พอ”
  “ไม่แกพูดผิด”หานเซี่ยวบีบลูกบาศก์วิวัฒนาการ”หากฉันทำลายสิ่งปกคลุมลูกบาศก์และปล่อยรูปแบบแท้จริงมัน…ฮ่าๆ แกคิดว่าแกจะยังเอามันไปได้ก่อนกำลังเสริมของจักรวรรดิจะมาถึง?”
  ดวงตาของแซ็กแมนหรี่แต่ก็ไม่แปลกใจกับคำพูด
  ก่อนลงมือศาสนจักรเดาแล้วว่าแบล็คสตาร์อาจเลือกทำลายชั้นนอกของลูกบาศก์และเตรียมการมา
  หมากของเทพเอสสำหรับการเจรจากับศาสนจักรคือข้อมูลของอารยธรรมวิวัฒนาการและช่วยให้ลูกบาศก์วิวัฒนาการพกพาไปไหนได้แต่ทว่า เทพเอสจะให้ข้อมูลหลังข้อตกลงนั้นบรรลุผล
  ดังนั้นมันจะทำให้พวกเขาลำบากหากแบล็คสตาร์เต็มใจส่งมอบลูกบาศก์วิวัฒนาการพกพา
  ด้วยอำนาจตัดสินชีวิตของหานเซี่ยวแซ็กแมนกล่าวอย่างมั่นใจ”เอาละ ฉันจะไม่ฆ่าพวกแกหากแกส่งมอบลูกบาศก์วิวัฒนาการและยอมจำนน เบื้องบนจะต้องสนใจที่ได้เห็นจักรวรรดิจ่ายค่าไถ่ตัวพวกแกแน่”
  เขาคือตัวแทนของทั้งหกและมีอำนาจตัดสินใจการจับพวกเขาดีกว่าการฆ่าพวกเขา แม้มันจะยังทำให้จักรวรรดิโกรธ พวกเขาก็ยังมีหมากไว้ต่อรอง
  แม้มิลิซาสจะโกรธเกี่ยวกับวิกฤตที่หานเซี่ยวนำมาให้เขาเขาอ็อดรู้สึกแย่ไม่ได้เมื่อเห็นหานเซี่ยวนำลูกบาศก์วิวัฒนาการออกมาเพื่อช่วยชีวิตพวกเขา
  ตอนนี้เองเขาพลันรู้สึกว่าหานเซี่ยวกำลังลอบเหยียบเขาและรู้ว่าหานเซี่ยวมีแผน ดังนั้น เขาจึงติดต่อกับทั้งสามด้วยเวทมนตร์
  จากนั้นหานเซี่ยวก็ถอนหายใจ”เพื่อรับประกันความจริงใจฉันควรบอกรหัสลับเพื่อใช้ลูกบาศก์วิวัฒนาการพกพากับพวกแกก่อน”
  ขณะกล่าวเขาก็ไม่รอการตอบสนองของแซ็กแมนและรีบใช้มัน
  มีวิธีพิเศษที่ต้องเปิดใช้ลูกบาศก์วิวัฒนาการจริงๆและคำพูดของหานเซี่ยวก็ไม่ผิด
  “อืม?แกจะมีเวลามากพอแสดงให้เราดูหลังแกเป็นเชลย..”แซ็กแมนไม่ตระหนักถึงอะไรตั้งแต่ต้นและแค่ขมวดคิ้วแต่ทว่า เขาก็พลันสังเกตเห็นความผิดปกติและคำราม”ไม่!หยุด!”
  หานเซี่ยวไม่สนใจ
  หู่!
  วินาทีต่อมาเขาก็เปิดใช้พลังงานวิวัฒนาการภายในลูกบาศก์และส่งมันไปทางทั้งหก
  ทั้งหกเรียกม่านพลังออกมาหากพวกเขาถูกพลังงานวิวัฒนาการกระแทกใส่ พวกเขาจะกลายเป็นรังไหมดำและเริ่มกระบวนการวิวัฒนาการ แม้พวกเขาจะสามารถฝืนหยุดกระบวนการได้และฟื้นการเคลื่อนไหว พวกเขาก็จะต้องแบ่งพลังไปสะกดมันไว้
  จิตสังหารของแซ็กแมนระเบิด
  แกไม่รู้ว่าโอกาสที่ฉันมอบให้แกมีค่ามากแค่ไหนและยังพยายามลอบโจมตีเรา!
  โดยไม่ลังเลแซ็กแมนใช้คฑาหมื่นเทพและเล็งมิลิซาส หลังฆ่ามิลิซาส พวกเขาจะค่อยๆทรมานแบล็คสตาร์!
  ฮึ่ม!
  คฑาหมื่นเทพยิงเสาพลังงานออกไป
  มิลิซาสคิดถึงคำพูดของหานเซี่ยวและทำได้แค่เลือกเชื่อใจจากนั้นเขาก็ไม่สนใจการโจมตีจากคฑาหมื่นเทพและปล่อยการโจมตีใส่กลุ่มของแซ็กแมน
  เบโยนี่เองก็ทำเหมือนกันและปล่อยการโจมตีเขา
  กองทัพจักรกลเองก็ได้รับคำสั่งให้ยิง!
  อีกด้านหานเซี่ยวเปลี่ยนบอลจักรกลมากมาย ซึ่งลอยในเส้นทางของเสาพลังงาน บอลจักรกลก่อตัวเป็นชั้นสองชั้นตรงหน้าเขา
  จากนั้นพวกมันก็ผ่านการเปลี่ยนแปลงนาโนและเผยให้เห็นบอลอำพันกึ่งโปร่งใส
  หลังใช้เวลากว่าครึ่งเดือนบนดาวประภาคารหานเซี่ยวก็ใช้ก

อ่านตอนอื่นๆของ The Legendary Mechanic คลิกเลย

แฟนเพจ