ตอนที่ 851 พรสวรรค์ใหม่!
กองยานคือกองกำลังหลักของอารยธรรมประสิทธิภาพของผู้อยู่เหนือไม่อาจนำมาเทียบกับยานรบนับล้านได้ แต่ทว่า บุคคลที่ทรงพลังจะมีแนวคิดต่างไป คนเหล่านี้จะก่อให้เกิดผลพิเศษบนสนามรบ
เทียบกับทั้งกองยานผู้อยู่เหนือเล็กและคล่องตัวกว่า พวกเขาสามารถสู้ทั้งกองยานได้และเจาะแนวป้องกันเพื่อบรรลุเป้าหมายได้ง่ายๆ เช่นการสังหารผู้นำศัตรู
ในช่วงการต่อสู้หานเซี่ยวได้วิเคราะห์ว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง ตราบเท่าที่จักรวรรดิคิดสร้างประตูดาว ศาสนจักรย่อมลงมือแน่
ตอนนั้นหกผู้อยู่เหนือเป็นไปได้ว่าจะเปลี่ยนกลยุทธ์พวกเขาจากการโจมตีเป็นตั้งรับ ขณะส่งพวกเขาไปโจมตีประตูดาว
นี่คือโอกาสที่เขากำลังรอ!
หลังสู้มานานความทรมานของการยกระดับก็ค่อยๆหายไป และหานเซี่ยวก็ชินกับการเปลี่ยนแปลงในร่างกายแล้ว
เขามีห้าตัวเลือกวิวัฒนาการเผ่าเพื่อเลือกสองอันและจากนั้นก็เลือกพรสวรรค์เผ่าพันธ์สองอันจากสองเผ่านี้เพื่อเสริมพรสวรรค์เผ่าแบล็คสตาร์
เทียบกับการวิวัฒนาการเผ่าก่อนหน้านี้การวิวัฒนาการเผ่าที่ระดับผู้อยู่เหนือมีการสุ่มน้อยกว่าและให้ตัวเลือกมากกว่า
สองเผ่าที่หานเซี่ยวเลือกครั้งนี้คือ[นักบุญมิติ]และ[ผู้ลวงหลอก]
นอกจากจะมอบโบนัสความทนทานให้45มันยังมอบโบนัสสถานะ266พละกำลัง 310ความเชี่ยวชาญ 454ความทนทาน 537สติปัญญา 372 ลี้ลับ 177เสน่ห์และ1600พลังงาน!
ด้วยโบนัสเกรดS[รากฐานชีวิตขั้นสูง] [กายนิรันดร์] และ[กายพิเศษ] พลังชีวิตของหานเซี่ยวจึงสูงกว่าสามล้าน!
นอกจากความช่วยเหลือของเพื่อนเขาโบนัส10%ค่าสถานะที่มอบโดย[รากฐานชีวิตขั้นสูง]คือปัจจัยสำคัญ?ทำให้เขายืนอยู๋ได้ภายใต้การโจมตีของศัตรู
เรื่องนี้มันอันตรายตั้งแต่ต้นและเขาก็ใช้บัตรออโรร่าไปสองครั้งเมื่อค่าสถานะเขาสูงขึ้น จากนั้นเขาถึงรั้งไว้ได้
สายอาชีพหลักเขาเปลี่ยนจาก[จักรพรรดิช่างกล]เป็น[จ้าวแห่งช่างกล]และความสัมพันธ์กับเครื่องจักรเขาก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง ด้วยโบนัสของบัตรอัญเชิญตัวละคร[สัมผัสจักรกลสมบูรณ์] พลังของกองทัพจักรกลเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างเห็ฯได้ชัด
จากพรสวรรค์ของสองเผ่าใหม่หานเซี่ยวเลือกสองอันที่จะช่วยให้เขาหลุดพ้นสถานการณ์นี้ได้ดีสุด จากที่เขามอง หากเขาสามารถคว้าโอกาสได้ ความสามารถสองอันนี้จะช่วยให้เขาพลิกกระดาน …และโอกาสนั้นก็คือตอนที่ผู้อยู่เหนือศัตรูแยกกัน
ดีแลนและเมอเซอร์เจาะกองยานจักรวรรดิเหมือนสว่านและตรงไปประตูดาวที่กำลังสร้างขณะที่แซ็กแมนและอีกสามอยู่เพื่อรั้งพวกหานเซี่ยว
มิลิซาสทำได้แค่ดูศัตรูแยกออกไปเขาพยายามไปหนุนกองยานจักรวรรดิแต่ก็ถูกหยุดโดยแซ็กแมนและคนอื่น
มีเพียงหานเซี่ยวถึงสามารถส่งกองทัพจักรกลส่วนหนึ่งไปไล่ตามดีแลนและเมอเซอร์ได้
จำนวนกองทัพจักรกลสูงมากแม้กระทั่งแซ็กแมนและคนอื่นก็ไม่อาจหยุดทั้งหมดได้ แต่ทว่า พวกเขาก็ไม่กังวลว่าสองผู้อยู่เหนือจะไม่สามารถจัดการมันได้
เมื่อเห็นดีแลนและเมอเซอร์กำลังตรงมาทางเขาทาราคอฟก็ปรับขบวนรบของกองยานเพื่อขวางทางทั้งสอง
แม้นี่จะสามารถชะลอความเร็วทั้งสองได้มันก็ไม่อาจป้องกันความจริงที่ระยะห่างระหว่างทั้งสองและประตูดาวกำลังลดลง
”แบล็คสตาร์ออสตินและพลังเวทย์เขาลดไม่หยุด เราจะทนได้ไม่นาน เราไม่อาจปล่อยให้ศาสนจักรทำลายประตูดาวได้”มิลิซาสกังวล
”ศัตรูมีจำนวนเยอะกว่าและบังคับให้เราเป็นฝ่ายป้องกัน”หานเซี่ยวกล่าว”ทางเดียวคือลดแรงกดดันที่เรากำลังเผชิญโดยทำให้ผู้อยู่เหนือคนหนึ่งของอีกฝ่ายแพ้”
”พวกมันร่วมมือกันดีเราไม่มีโอกาสเลย”
”ไม่ฉันมีทางจัดการกับสองคนที่แยกตัวไป บางทีมันอาจคุ้มเสี่ยง”น้ำเสียงหานเซี่ยวจริงจัง”แต่ทว่า เทพเอสจะไล่ตามฉันไปแน่ ความสามารถเขาสามารถหยุดแผนฉันได้”
”อัตราสำเร็จละ?”
”หากเทพเอสแทรกแซงอาจเหลือแค่20% แต่ทว่า หากฉันเต็มใจทุ่มสุดตัว ก็มากกว่า70%!”
”หมายความว่ายังไง?”
”เป้าหมายของเทพเอสคือการวิวัฒนาการและพันธมิตรเขากับศาสนจักรก็ต้องเป็นตามนั้นฉันรู้ว่าเขาต้องการอะไร และหากฉันมอบให้เขา..”
”เอาเลยนี่ไม่ใช่เวลามาลังเล มันดีกว่าการตาย”
”ตกลง!”
หานเซี่ยวกัดฟันและตัดสินใจเขาเหลือบมองเทพเอสและพลันเปิดแขน ใช้พรสวรรค์ใหม่เขา
”คุกมิติ!”
จอมเวทย์ทั้งสี่สังเกตเห็นพลังงานมิติจำนวนมากที่ปล่อยจากร่างหานเซี่ยว
วินาทีต่อมาทุกคนก็รู้สึกว่าอวกาศส่วนนี้กลายเป็นเกรี้ยวกราดและการเคลื่อนไหวพวกเขาก็ช้าลง
หลังสัมผัสรอบๆจอมเวทย์ทั้งสี่ก็พบว่านี่ไม่ใช่แค่ความสามารถลดความเร็วพวกเขา มิติยังปกคลุมอวกาศส่วนนี้และเปลี่ยนสถานะพื้นที่ชั่วคราว สร้างอาณาเขตแปลกๆที่ทำให้ทุกคนช้าลง
”เขาเปลี่ยนอวกาศส่วนนี้ด้วยพลังมิติ?”นินเจียขมวดคิ้วและพยายามกำจัดคุกมิติแต่ก็ตระหนักว่ากระแสเวทย์เขาไหลช้าลงด้วย
ความสามารถประเภทนี้หาไม่ยากแต่จะกำจัดได้ยากตามความสามารถผู้ใช้ พรสวรรค์คุกมิติจาก[นักบุญมิติ]ได้สร้างอาณาเขตพิเศษโดยใช้พลังของมิติ ซึ่งสามารถอยู่ได้นาน
จอมเวทย์ผู้อยู่เหนือสามารถทำลายอาณาเขตนี้ได้แต่ก็ลำบากมาก ต่อให้นินเจียและเทย์เลอร์ร่วมมือกัน พวกเขาก็ต้องใช้เวลา
ความสามารถนี้ยังส่งผลต่อพวกมิลิซาสรวมถึงกองทัพจักรกล มีแค่สองคนที่เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ หานเซี่ยว ผู้ใช้ และเทพเอส ผู้มีความสามารถเอสเปอร์แยกมิติ
ด้วยการหายตัวเทพเอสพลันปรากฏด้านหลังหานเซี่ยวด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน ความสามารถเอสเปอร์พลังเขาปกคลุมหมัด ชกใส่หลังหานเซี่ยว
”นี่ไม่ใช่การต่อสู้แรกของเราแกควรรู้ว่าความสามารถแบบนี้ใช้กับฉันไม่ได้ผล”
”งั้นหรอ?แล้วอันนี้ละ?”หานเซี่ยวหรี่ตา
หมัดของเทพเอสอยู่ใกล้กับหลังเขามากแต่หานเซี่ยวไม่คิดเหลียวมอง เขากลับมองสนามรบกองยานและเพ่งมอง
เมอเซอร์
เทพเอสสังเกตเห็นระลอกมิติบนตัวหานเซี่ยววินาทีต่อมา หานเซี่ยวก็สลับตำแหน่งกับเมอเซอร์
ก่อนเมอเซอร์จะได้ตอบสนองเขาก็ถูกชกกระเด็นด้วยหมัดของเทพเอส
หลังตกตะลึงเทพเอสก็พลันตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้น เขารีบมองสนามรบกองยานที่อยู่ไกลออกไป เมอเซอร์ที่เคยอยู่ตรงนั้นสลับกับหานเซี่ยว ตำแหน่งของทั้งสองสลับกัน!
[สลับมิติ]พรสวรรค์จาก[ผู้ลวงหลอก] ใช้พลังชีวิตและพลังงานเขา15% มันจะบังคับสลับตำแหน่งเขากับเป้าหมายและคูลดาวน์320วินาที
[คุกมิติ]และ[สลับมิติ]คือสองความสามารถที่หานเซี่ยวจงใจเลือกเพื่อสร้างสถานการณ์นี้
”ความสามารถประเภทสลับมิติ..”เทพเอสแปลกใจมันไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นความสามารถแบบนี้ ในความเป็นจริง เขาเองก็มี แต่ทว่า ความสามารถเอสเปอร์เขาสามารถสลับได้แค่ตัวเขากับวัตถุ ไม่ใช่คนที่อยู่ระดับเดียวกับเขา
แซ็กแมนและคนอื่นเองก็ตกใจเช่นกันแบล็คสตาร์ไปได้รับความสามารถนี้มาตอนไหน?
พวกเขามองตามและสีหน้าก็เปลี่ยนไปความจริงที่เมอเซอร์ถูกสลับนั้นหมายความว่าดีแลนกำลังสู้กับหานเซี่ยวลำพัง!
ทั้งสองอยู่ลึกในกองยานจักรวรรดิและไกลจากคนอื่นมากด้วยการจำกัดของคุกมิติ พวกเขาไม่อาจช่วยเหลือดีแลนได้
”แบล็คสตาร์ซ่อนความสามารถนี้มาตลอด”นินเจียตกใจ
”เราต้องรีบทำลายความสามารถนี้และส่งคนไปช่วยดีแลน”แซ็กแมนสั่ง
หากดีแลนถูกรั้งจักรวรรดิย่อมประกอบประตูดาวเสร็จ ในสายตาพวกเขา นี่คือเป้าหมายของหานเซี่ยว
แต่ทว่าไม่มีใครคิดว่าเป้าหมายจริงของหานเซี่ยวนั้นคือลดจำนวนคนของศาสนจักร
ในสายตาพวกเขาแบล็คสตาร์ไม่มีความสามารถเอาชนะดีแลนได้ในเวลาอันสั้น ดังนั้น จึงไม่มีใครคิดว่าหานเซี่ยวจะเอาชนะดีแลนได้ ต่อให้พวกเขารู้เป้าหมายหานเซี่ยว พวกเขาก็ไม่คิดว่าหานเซี่ยวจะทำได้ เหนือสิ่งอื่นใด ดีแลนคือผู้อยู่เหนือที่ถนัดด้านการป้องกันและควบคุม เขาไม่มีทางแพ้ง่ายๆ
…
วิสัยทัศน์ของหานเซี่ยวไหววูบขณะสลับตำแหน่งกับเมอเซอร์และปรากฏตัวไม่ไกลจากดีแลน
แม้ดีแลนจะแปลกใจกับการปรากฏของหานเซี่ยวเขาก็ไม่ตื่นตระหนก ในสายตาเขา แบล็คสตาร์ไม่อาจทำอะไรเขาได้มากนัก
แต่ทว่าดีแลนไม่รู้ว่าหานเซี่ยวนั้นน่ากลัวแค่ไหน
”นี่คือโอกาสเดียว!”โดยปราศจากการแทรกแซงของคนอื่นตอนนี้เขาถึงมีโอกาสทุ่มสุดตัว
วินาทีต่อมาหานเซี่ยวก็เล็งมือเขาที่ดีแลน ผู้ปกคลุมด้วยม่านน้ำและใช้บัตรอัญเชิญตัวละครเอเมส
สนามพลังเกรี้ยวกราดระเบิดออกมาและทำลายม่านน้ำด้วยความตกใจของดีแลน เขาตระหนักว่าเขาถูกตรึงด้วยสนามพลัง
บัตรอัญเชิญตัวละครเอเมส-เนตรมังกร!
หานเซี่ยวเคยใช้บัตรอัญเชิญตัวละครเอเมสไปแล้วตอนเขาเป็นภัยพิบัติเขาได้รับบัตรอัญเชิญตัวละครเปล่าใหม่ทีหลังและใช้มันกับเอเมสอีกครั้ง เขาไม่เคยพบสถานการณ์ที่เขาต้องใช้มันอีก จนถึงตอนนี้
ความสามารถควบคุมที่ทรงพลังนี้ไม่อาจยับยั้งคนที่อยู่ระดับเดียวกับเขาได้นานดีแลนสามารถหลบหนีได้ทุกเมื่อ
หานเซี่ยวกำลังคิดจะทำตามแผนต่อแต่เทพเอสก็มาถึงโดยใช้ความสามารถเคลื่อนย้ายอีกครั้ง
แยกมิติและการเคลื่อนย้ายเขาทำให้เขาเมินเฉยคุกมิติได้เขาคือคนเดียวที่สามารถทำลายแผนของหานเซี่ยวได้ แต่ทว่า เขาไม่ได้มาเพื่อปกป้องดีแลน ลูกบาศก์วิวัฒนาการคือสิ่งเดียวที่เขาต้องการ
”เจ้าหมอนี่..”หานเซี่ยวคิดไว้แล้วหลังตัดสินใจ เขาก็กระตุ้นลูกบาศก์วิวัฒนาการและยิงลำแสงพลังงานวิวัฒนาการใส่เทพเอส
”หืม?!”สีหน้าเทพเอสเปลี่ยนไปขณะหยุดกลางอากาศ
แต่ทว่าการตอบสนองเขาแตกต่างจากพวกแซ็กแมน
ไม่เพียงเทพเอสจะไม่หลบมันเขากลับพุ่งใส่ลำแสงวิวัฒนาการ กระแสพลังงานวิวัฒนาการสีดำไหลเข้าตัวเขา และรังไหมสีดำก็เริ่มเปล่งแสงบนผิวเขา
เงื่อนไขการร่วมมือของเขากับศาสนจักรคือช่วยให้ศาสนจักรได้รับลูกบาศก์วิวัฒนาการเพื่อแลกกับโอกาสใช้หนึ่งครั้งแต่ตอนนี้ หานเซี่ยวส่งพลังงานวิวัฒนาการที่เขาใฝ่ฝันให้ เขาจึงไม่สนใจสิ่งอื่นและรีบคว้ามัน
นี่คือแผนของหานเซี่ยว
พลังงานวิวัฒนาการนี้คือเหตุผลที่แกตามล่าฉันไม่ใช่หรือไง?งั้นฉันจะให้แกแกจะสู้กับฉันต่อหรือบรรลุเป้าหมายแกก่อน?
เทพเอาถูกควบคุมโดยหานเซี่ยวทันทีและไม่หยุดหานเซี่ยวต่อ
ขณะที่ดีแลนยังถูกควบคุมโดยบัตรอัญเชิญตัวละครเอเมสหานเซี่ยวก็มาถึงตรงหน้าเขาโดยใช้ไฮเปอร์ไดรฟ์มิติ เขาโยนคำสาปโชค คว้าไหล่ดีแลนและกระตุ้นบัตรอัญเชิญตัวละครเทพเอส!
ผนึกเอสเปอร์!
ครั้งนี้สนามพลังหายไป ดีแลนกำลังคิดจะผลักหานเซี่ยวไปโดยใช้ความสามารถเอสเปอร์เขา แต่ด้วยความตกใจ เขาตระหนักว่าเขาไม่อาจสัมผัสได้ถึงพลังเขาเลย สีหน้าเขาดำมืด
”แก..”
หานเซี่ยวใช้ความสามารถระเบิดพลังโจมตีเขาทั้งหมดรวมถึง[ปลดปล่อยยีน]และตะโกนในเครือข่ายควอนตัม”ยิง!”
วินาทีต่อมากองทัพจักรกลรอบพวกเขาก็ยิงใส่ทั้งคู่ ลำแสงไซโอนิคกระหน่ำซัดใส่ร่างพวกเขา
ดีแลนคือเอสเปอร์โดยปราศจากความสามารถเอสเปอร์เขา เขาจึงไม่อาจต่อต้านได้เลย
นอกจากนี้เขายังไม่มีความสามารถต้านทานความเสียหายจริง!
กลุ่มแสงสีฟ้าขยายและระเบิด!
เมื่อแสงหายไปดีแลนก็กลายเป็นชุ่มไปด้วยเลือดและลมหายใจรวยริน หนวดอนุภาคนาโนจากทหารจักรกลสร้างเป็นโซ่ตรวนใหญ่ที่ล็อคแขนขาของดีแลนไว้แน่น
กับดักจักรกลทุกประเภทล้อมรอบดีแลนและสะกดการเคลื่อนไหวเขาด้วยปากกระบอกปืนของทหารจักรกลทั้งหมดที่เล็งใส่เขาและพร้อมยิงทุกเมื่อ
หานเซี่ยวอยู่ด้านหลังดีแลนแขนเขาล็อครอบคอดีแลนแน่นและดวงตาเขาก็จ้องพวกแซ็กแมนอย่างเย็นชา มันเห็นได้ชัดว่าเขากำลังข่มขู่พวกเขาด้วยชีวิตของดีแลน!
สีหน้าของพวกแซ็กแมนขาวซีด!
นี่อยู่เหนือการคาดการณ์ของพวกเขา!
ดีแลนถูกจับโดยแบล็คสตาร์?!
แบล็คสตาร์มีความสามารถต่อสู้เช่นนั้นได้ยังไง?!
”ปะ-เป็นไปไม่ได้!”ดวงตาของไซเคอร์เบิกกว้างอย่างเหลือเชื่อ
แซ็กแมนเองก็ตกใจตอนนี้เขาเพิ่งเข้าใจว่าเป้าหมายของหานเซี่ยวไม่ใช่การรั้งดีแลน แต่เป็นการจับตัวเขาเพื่อลดจำนวนฝ่ายพวกเขา!
ครั้งนี้ในที่สุดสองจอมเวทย์ของศาสนจักรก็ทำลายคุกมิติได้ ไม่ว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรู ทุกคนล้วนมองหานเซี่ยวด้วยความตกใจ
เขาจับผู้อยู่เหนือได้ยังไงด้วยเวลาสั้นๆเช่นนั้น?!
แซ็กแมนและคนอื่นไม่กล้าโจมตีพวกมิลิซาสอีกพวกเขากลัวว่าหานเซี่ยวจะฆ่าดีแลน
มิลิซาสและอีกสองเองก็ตกใจและไม่ขยับ
”บัดซบ…”แซ็กแมนลำบากใจดีแลนบาดเจ็บสาหัสและชีวิตเขาก็อยู่ในมือหานเซี่ยว หากพวกเขาสู้ต่อ ไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขาจะยังทำภารกิจได้สำเร็จไหมหลังเสียผู้อยู่เหนือไปคนหนึ่ง แต่ดีแลนต้องตายแน่
ดีแลนคือผู้อยู่เหนือไม่ใช่คนที่พวกเขาสามารถละทิ้งได้ง่ายๆ
พวกเขาไม่กล้าลงมือทำอะไรทั้งสองฝ่ายหยุดสู้กันและสถานการณ์ก็ดูเหมือนจะหยุดชะงัก
แซ็กแมนกัดฟันเขาลอบมองนินเจีย นินเจียเข้าใจความหมายเขาและส่งข้อความจิตหาเทพเอส
”เทพเอสทำลายประตูดาวของจักรวรรดิซะ!”
มันไม่ใช่ว่าแซ็กแมนไม่อยากช่วยดีแลนแต่ดีแลนถูกจับไปแล้ว และหากพวกเขาอยากทำลายสถานการณ์นี้และมีโอกาสทำภารกิจให้สำเร็จ ทางเดียวคือต้องปล่อยดีแลนไป
แต่ทว่าเขาไม่อยากลงมือเพื่อตัดพวกพ้องตัวเอง ดังนั้นเขาจึงลอบส่งสารให้เทพเอสลงมือแทน เทพเอสไม่ได้อยู่ฝ่ายศาสจักร หากแบล็คสตาร์ฆ่าดีแลนเพราะเหตุนั้น พวกเขาก็ไม่เกี่ยวอะไรด้วย นี่คือทางออกเดียว
แต่ทว่าเทพเอสไม่สนใจเขาและทิ้งสนามรบไป กลับยานหลักของกองยานผู้ร่วงหล่นที่ฟาซิเค็นกำลังรอ
เมื่อได้ยินเสียงฟาซิเค็นก็หันไปแต่ก็ตกใจกับสภาพของเทพเอส ลายเส้นสีดำแหวกว่ายรอบตัวเทพเอสเหมือนงูใต้ผิวหนัง มันน่ากลัวมาก
”ท่านเทพเอสท่านบาดเจ็บ?!”
”บาดเจ็บ?ไม่ไม่ …ฉันรู้สึกดีมาก!”
เทพเอสฝืนยิ้มเขาระงับพลังงานวิวัฒนาการในตัวไว้ชั่วคราว ซึ่งทำให้เขายังไม่เปลี่ยนเป็นรังไหม
”ถ่ายทอดคำสั่งออกไปถอนทัพเดี๋ยวนี้!”
”อะไรนะครับ?”ฟาซิเค็นสับสน
”เป้าหมายบรรลุแล้วปล่อยให้ศาสนจักรรั้งกองยานจักรวรรดิไว้ เราจะถอย!”
เมื่อได้รับพลังงานวิวัฒนาการเทพเอสก็บรรลุเป้าหมายเขาแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องร่วมมือกับศาสนจักรอีก
ตอนนี้เขาอยากหาสถานที่เงียบสงบเพื่อทำการวิวัฒนาการและไม่กล้าคิดเรื่องช่วยเหลือศาสนจักรอีก
เทพเอสรู้ว่านี่เป็นแผนของหานเซี่ยวแต่เขาก็ไม่ใส่ใจอะไรหากมันบรรลุเป้าหมายเขา
ความสามารถต่อสู้เขาจะได้รับผลขณะระงับพลังงานวิวัฒนาการสำหรับเขา การวิวัฒนาการสำคัญกว่าการจัดการแบล็คสตาร์
สำหรับความไว้วางใจ..เขาไปมีมันตอนไหน?
กองยานผู้ร่วงหล่นหยุดยิงทันทีไม่ว่าผู้บัญชาการศาสนจักรจะคำรามเสียงดังแค่ไหน พวกเขาก็ยังไม่หยุดถอนตัวจากสนามรบ
เมื่อเห็นปากหานเซี่ยวก็กระตุก
ชื่อเสียงของเทพเอสไม่ทำให้เขาผิดหวังเลย
หานเซี่ยวไม่มีทางเลือกนอกจากตอบสนองความต้องการของเทพเอสเทพเอสคือคนที่แข็งแกร่งสุด ตราบเท่าที่เขาอยู่ หานเซี่ยวจะเสียเปรียบเสมอ เขาต้องหาทางทำให้เขาถอนตัวจากสนามรบ
”เอาชนะอันตรายนี้ก่อนค่อยหาทางรับมือกับเทพเอสทีหลัง…เขาเข้าร่วมการโจมตีนี้และร่วมมือกับศาสนจักร จักรวรรดิย่อมไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆแน่”
อีกด้านการถอนตัวของเทพเอสทำให้ฝ่ายศาสนจักรตกตะลึงมาก
”เทพเอส!”แซ็กแมนคำรามด้วยความโกรธ
ในเวลาอันสั้นความได้เปรียบที่พวกเขามีกลับหายไป หนึ่งในพวกเขาถูกจับ และอีกคนหนีไป เจ็ดผู้อยู่เหนือกลายเป็นห้าในชั่วพริบตา!
และรากเหง้าของปัญหาทั้งหมดก็คือแบล็คสตาร์!
แซ็กแมนกัดฟันแรงจนฟันเขาแทบแตก
ตอนที่ 852 ถอยทัพ
เมื่อกองยานผู้ร่วงหล่นหยุดยิง ยานรบนับล้านของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นกระแสแสงและออกดาวประภาคารไป หายไปอย่างไร้ร่องรอยในชั่วพริบตา มันเห็นได้ชัดว่าพวกเขาคุ้นเคยกับการทรยศหักหลัง
เมื่อกองยานเทพเอสหายไปสถานการณ์ก็เปลี่ยนไป
โดยปราศจากผู้ช่วยจำนวนยานรบของฝั่งศาสนจักรลดถึงครึ่ง แถม กองทัพดาวประภาคารก็ยังเรียกกองยานทั้งหมดกลับมา จำนวนยานรบของสองฝั่งเท่ากัน ศาสนจักรไม่เหนือกว่าอีกต่อไป
“บ้าจริง..”แซ็กแมนมองพลางกัดฟันแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขาไม่มีอารมณ์จะไปตำหนิเทพเอสด้วยซ้ำ
เขารู้ว่าแม้พวกเขาจะร่วมมือกันเบื้องบนของศาสนจักรก็ไม่หวังในเทพเอสมาก มันเพราะเบื้องบนเหล่านี้มั่นใจเกี่ยวกับชื่อเสียงเชิงลบของเทพเอส พวกเขาจึงรวมหกผู้อยู่เหนือพร้อมกับคฑาหมื่นเทพ พวกเขาวางแผนทำสงครามก่อนเทพเอสจะเดินทางมาถึง
ในความเป็นจริงตามการคำนวณของศาสนจักรอาร์เคน อัตราความสำเร็จของปฏิบัติการสูงมาก มันคือการต่อสู้หกต่อสาม และหากพวกเขากำจัดมิลิซาสด้วยคฑาหมื่นเทพ แผนก็จะสำเร็จถึง80% มันไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ที่จะจับสามผู้อยู่เหนือของจักรวรรดิ
แต่ทว่าสิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดคือการปรากฏของออสติน ซึ่งเปลี่ยนเป็นหกต่อสี่
แม้มันจะเพิ่มมาแค่คนเดียวมันก็ลดความได้เปรียบของศาสนจักรไปมาก
สำคัญสุดอาวุธป้องกัน อาวุธทำลายล้าง คฑาหมื่นเทพถูกโต้ตอบด้วยแบล็คสตาร์โดยใช้วิธีพิเศษ!
หากไม่ใช่เพราะมันเราคงจับแบล็คสตาร์ได้แล้ว ได้รับลูกบาศก์วิวัฒนาการและถอนกองยานกลับ..ความคิดนี้พุ่งผ่านหัวของแซ็กแมนและอีกสี่ ทำให้พวกเขาโกรธ
เมื่อสังเกตสถานการณ์ที่เสียเปรียบแซ็กแมนก็รู้สึกปวดหัว
หากมันแค่เทพเอสถอยทั้งหกก็ยังมีโอกาส
หลังสู้กันนานมิลิซาสบาดเจ็บสาหัส วังคาถาลับของออสตินเสียหาย และเบโยนี่ก็สภาพย่ำแย่ แบล็คสตาร์คือคนเดียวที่ยังแกร่ง..แต่กองทัพจักรกลเขาก็เสียหายหนัก
เทียบกันแล้วทั้งหกอยู่ในสภาพดี หากสู้ต่อ พวกเขายังมีโอกาสชนะ
แต่ทว่าตอนนี้ดีแลนถูกจับโดยแบล็คสตาร์ แผนของแซ็กแมนพังพินาศ
ในการต่อสู้นี้แบล็คสตาร์ได้แสดงความสามารถใหม่ที่ไม่มีใครรู้ แซ็กแมนไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับว่าเขากลัวแบล็คสตาร์จริงๆ
นินเจียขมวดคิ้วและถาม”เอายังไงต่อ?”
แซ็กแมนมองสนามรบขนาดใหญ่และเห็นกองยานของศาสนจักรอาร์เคนที่พัวพันกับศัตรูไม่สามารถป้องกันกองยานจักรวรรดิจากการประกอบประตูดาวได้
“แจ้งผู้บัญชาการเราจะถอย!”เขาเค้นคำพูดออกจากไรฟัน
“นายจะทิ้งดีแลน?”ดวงตาของไซเคอร์ดูไม่เป็นมิตร
“แซ็กแมนพูดถูก”นินเจียพยักหน้า”ดีแลนถูกจับและเทพเอสก็ถอยไปแล้ว ตอนนี้มันเป็นห้าต่อสี่ และพวกมันก็มีตัวประกัน แผนล้มเหลวแล้ว เรามีแค่สองทางเลือก สู้ต่อหรือถอย”
“พวกมันไม่ได้อยู่ในสภาพดีเราจะชนะแน่หากสู้ต่อ แต่ทว่า เวลาคือปัญหา การเสียสองพลรบ ทำให้เราไม่อาจรีบจบการต่อสู้ได้ อย่าลืม โลกริบหรี่คืออาณาเขตของจักรวรรดิ เราไม่มีฐานที่นี่ และประตูดาวลับก็คือทางหนีเดียวของเรา ยิ่งเราสู้นาน ความเสี่ยงก็ยิ่งสูง”
“แถมเทพเอสอยากใช้เราเพื่อรับประกันการถอยเขา”เทย์เลอร์กล่าวเสริม”เราไม่อาจปล่อยให้เขาทำแบบนั้นได้”
“ดีแลน…”
“ความเสี่ยงของการช่วยเขาสูงเกินไปและจะทำให้แบล็คสตาร์ฆ่าเขาเราไม่มีทางเลือกนอกจากทิ้งเขาไว้ แบบนั้น อย่างน้อยเขาก็ยังมีชีวิต ทางเดียวคือต้องให้ศาสนจักรเจรจากับจักรวรรดิคริมสันทีหลัง”นินเจียส่ายหัว ต่อให้จักรวรรดิเต็มใจแลกเปลี่ยนตัวประกัน ศาสนจักรก็ต้องหลั่งเลือดแน่ แถม จักรวรรดิอาจไม่เต็มใจด้วย
ไซเคอร์อยู่ในอารมณ์ไม่ดีเพื่อนสนิทเขาอยู่ในเงื้อมมือแบล็คสตาร์ มีเพียงพระเจ้าถึงรู้ว่าจักรวรรดิจะทำอะไรกับเขา
“ขณะที่จักรวรรดิกำลังสร้างประตูดาวเราจะถอย”แซ็กแมนหยุดก่อนพูด”แจ้งเบืองบนว่าแผนนี้..ล้มเหลว”
อารมณ์ของทุกคนสลดลง
หกต่อสี่แต่พวกเขาคนหนึ่งยังถูกจับ นี่น่าอับอายมาก!
พวกเขาล้มเหลวทุกภารกิจและคฑาหมื่นเทพยังถูกผนึก ศาสนจักรจะมองพวกเขาแบบไหน?
แผนเกือบทุกขั้นล้วนถูกทำลายโดยหานเซี่ยว
แม้พวกเขาจะไม่อยากยอมรับมันแต่พวกเขารู้ว่าพวกเขาถูกบังคับให้ถอยโดยแบล็คสตาร์!
ไซเคอร์สบตากับดีแลนดวงตาเขาเต็มไปด้วยความเสียใจ
เมื่อเห็นสายตาของไซเคอร์ดีแลนก็รู้ว่าเขาถูกทิ้งแล้ว เขารู้สึกเศร้าใจ
ผลของผนึกเอสเปอร์หมดลงแล้วและความสามารถเอสเปอร์ของดีแลนก็ฟื้นคืน แต่ทว่า การโจมตีก่อนหน้าทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสแล้ว หากไม่ใช่เพราะหานเซี่ยวอยากจับตัวเขาเป็นๆ เขารู้สึกว่าเขาคงตายไปแล้ว ความกลัวยังอ้อยอิ่งในหัวใจเขา
ครั้งนี้หานเซี่ยวอยู่ด้านหลังเขา แขนของหานเซี่ยวยังรัดรอบคอเขาด้วยพลังมหาศาล ดีแลนไม่ใช่นักสู้ แม้ร่างเขาจะแกร่งกว่าภัยพิบัติ มันก็เทียบไม่ได้กับผู้อยู่เหนือ ด้วยกับดักจักรกลทุกประเภท ดีแลนไม่อาจหลบหนีได้เลย การต่อต้านนั้นเปล่าประโยชน์
แซ็กแมนและอีกสี่ถอยไปหากองยานจักรวรรดิและขึ้นยานจากนั้นกองยานศาสนจักรก็เริ่มถอย
ด้วยความคล่องตัวที่เหนือกว่ากองยานศาสนจักรจึงค่อยๆทิ้งระยะห่างจากกองยานจักรวรรดิ
มิลิซาสและอีกสองมาหาแบล็คสตาร์เบโยนี่รู้สึกว่าเขาเพิ่งรอดพ้นความตาย
“โชคดีนายจับหนึ่งในพวกมันได้ ไม่งั้นพวกมันคงไม่ถอยง่ายๆแบบนี้..ชายคนนี้ชื่อดีแลน’จิตวิญญาณทะเล’ เขาไม่อ่อนแอเลย นายจับเขาได้ยังไง?”
หานเซี่ยวมองเบโยนี่”เชื่อฉันนายคุ้นเคยกับความสามารถนี้ดี”
ย้อนกลับไปตอนพวกเขาสู้กับเทพเอสเบโยนี่เคยรับผลของความสามารถนี้ แต่เขาไม่รู้ว่าหานเซี่ยวกำลังพูดถึงมัน
ผนึกเอสเปอร์เปรียบเสมือนเทพแห่งความตายต่อเอสเปอร์อาจมีเอสเปอร์ไม่มากในจักรวาลที่สามารถเอาชนะเทพเอสได้ตัวต่อตัว บัตรอัญเชิญตัวละครเทพเอสของหานเซี่ยวใช้ได้สองครั้ง
เขาใช้ครั้งหนึ่งแล้วกับดีแลนและวางแผนใช้อีกครั้งกับเทพเอส
ก่อนเริ่มต่อสู้เขาได้รับบัตรอัญเชิญตัวละครเปล่าสองใบจากรางวัลสุ่ม แต่ทว่า เขาไม่ใช้มันกับเทพเอส เหนือสิ่งอื่นใด เทพเอสมีความสามารถเอสเปอร์มากเกินไป โอกาสได้รับผนึกเอสเปอร์น้อยมาก และความสามารถสุ่มอื่นก็ไม่เป็นประโยชน์ต่อเขา เขาต้องใช้พวกมันเพื่อรับสัมผัสจักรกลสมบูรณ์ของเรย์โนล
อีกด้านมิลิซาสจ้องพวกแซ็กแมนและคนอื่นถอยหนี จากนั้นก็ถาม”พวกมันกำลังหนี-เราควรไล่ตามไหม?”
“อย่านับฉันไปด้วย”ออสตินกล่าว”แบล็คสตาร์ฉันตอบแทนนายแล้ว ตอนนี้นายเป็นหนี้ฉัน”
“เข้าใจแล้ว”หากไม่ใช่เพราะออสตินทางฝั่งจักรวรรดิคงมีคนตาย
ออสตินพยักหน้าพอใจจากนั้นก็หันไปมองจอมเวทย์ต้องห้าม ผู้เสียหายหนักและรู้สึกปวดหัว คนเหล่านี้ใช้เวลานานเพื่อฝึกฝน
สำหรับวังคาถาลับที่เสียหายหนักออสตินไม่สนใจเลย เขาแค่ต้องใช้เวลาเพื่อซ่อมมัน และค่าซ่อมก็ไม่มีอะไรต่อเขา สำหรับจอมเวทย์ระดับเขา การได้รับเงินนั้นง่ายเหมือนการหายใจ
ออสตินไม่ใช่พันธมิตรจักรวรรดิดังนั้นมิลิซาสจึงไม่อาจขอให้เขาทำอะไรได้ จากนั้นเขาก็มองเบโยนี่และถาม”แล้วนายละ?”
“อย่าคุยกับฉัน”เบโยนี่ปฏิเสธทันควัน
หลังรอดพ้นความตายมาได้เขาก็ไม่คิดโยนตัวเองไปหาอันตรายอีก เขาอยากอยู่และรอกำลังเสริม
“นายมันไม่ได้เรื่อง”มิลิซาสดูถูกเขา
“ฉันมันอ่อนแอสุดและฉันก็กลัวตายพอใจหรือยัง?”เบโยนี่หันไปมองหานเซี่ยว”นายจะไล่ตามไหม?”
“คิดว่าไงละ?”ปากหานเซี่ยวกระตุกทั้งนายและออสตินไม่คิดไป แล้วทำไมฉันต้องไปด้วย?คิดว่าฉันเบื่อชีวิตแล้วหรือไง?
“ในเมื่อพวกนายไม่ไปกัน..”น้ำเสียงมิลิซาสเปลี่ยนไปราวกับเขาโล่งใจ”ฉันก็รู้สึกดีขึ้นเยอะ”
อีกสามมองเขาพร้อมกัน
“อะไรเห็นรูบนหน้าอกฉันไหม?ฉันบาดเจ็บหนักสุด พวกนายยังคิดบังคับให้ฉันไล่ล่าอีกหรือไง?ช่วยห่วงในมังกรแก่ๆอย่างฉันกันบ้างไม่ได้หรือไง?”
หานเซี่ยวพูดไม่ออก
แกไม่คิดไปแล้วทำไมถึงต้องไล่ถามคนอื่น?
แต่ทว่ามันคือเรื่องจริง อีกสามไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดี ความเสี่ยงของการไล่ล่าสูงเกินไป ไม่มีใครสามารถตำหนิพวกเขาได้
ครั้งนี้ทาราคอฟติดต่อพวกเขาและน้ำเสียงก็แปลกใจ
“แบล็คสตาร์นายจับผู้อยู่เหนือของอีกฝ่ายได้?”
“อย่างที่เห็น”หานเซี่ยวหันไปมองทางกองยานหลักและคว้าหัวดีแลนมันเปียก ลื่น
“เยี่ยม!นายทำให้ศาสนจักรต้องชดใช้!แบบนี้เราจะมีหมากไว้เจรจา!”น้ำเสียงของทาราคอฟดูตื่นเต้น จากนั้นก็หยุดและกลายเป็นจริงจัง”ศาสนจักรกำลังถอย ฉันจะส่งกองทัพเราไปแกะรอยพวกมัน พวกนายอยู่เฉยๆกันก่อน อย่าไล่ตามศัตรูไป”
“ไม่ต้องห่วงต่อให้นายขอร้อง เราก็ไม่ทำ”หานเซี่ยวถอนหายใจ
“นั่นจะดีสุด”ทาราคอฟพยักหน้า
การโจมตีของศาสนจักรจบลงไม่เพยีงพวกเขาจะไม่เสียหาย แต่แบล็คสตาร์ยังจับคนของอีกฝ่ายได้
ทาราคอฟไม่อยากให้พวกเขาไล่ล่าประตูดาวกำลังสร้างใกล้ดาวประภาคารและไม่สามารถสร้างขณะเคลื่อนที่ได้ หากศาสนจักรกลับมาโจมตีหลังพวกเขาทิ้งดาวประภาคาร ความได้เปรียบที่แบล็คสตาร์สร้างไว้อาจหายไป
ทาราคอฟไม่รีบไล่ตามศาสนจักรในฐานะผู้บัญชาการมากประสบการณ์ เขาอยากทำตามแผนทีละขั้น
ดังนั้นเขาจึงส่งแค่กองทัพออกไปแกะรอยและปิดเส้นทางหนี แบล็คสตาร์และคนอื่นควรรอที่ดาวประภาคาร นี่คือกลยุทธ์ที่ปลอดภัยสุดและไม่ให้โอกาสศัตรู
กองยานศาสนจักรออกสนามรบและเปลี่ยนเป็นกระแสแสงหายไปจากสายตาพวกเขา
ทาราคอฟส่งทีมเล็กๆไปแกะรอยทิ้งที่เหลือไว้คุ้มกันทีมวิศวกร
ศัตรูถอนทัพและการต่อสู้ก็จบลงแล้ว หานเซี่ยวและคนอื่นโล่งใจ พวกเขาบินไปทางยานรบพวกเขาและนับการสูญเสีย
ในเวลาเดียวกันทาราคอฟก็ติดต่อเบื้องบนของจักรวรรดิเพื่อรายงานสถานการณ์
..
หลังข่าวของดาวประภาคารถูกศาสนจักรโจมตีมาถึงดาวแม่ของจักรวรรดิมันก็ทำให้เกิดพายุในหมู่เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง
เออแรนเรลเรียกประชุมทุกคนทันที
สถานะสนามรบแรกที่ทาราคอฟส่งกลับมาแสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับการโจมตีของเจ็ดผู้อยู่เหนือศาสนจักรและแดนผู้ร่วงหล่น ความแตกต่างด้านพลังสูงเกินไป และสถานการณ์ก็ไม่สู้ดี
เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารในห้องได้วิเคราะห์สถานการณ์ส่วนใหญ่รวมถึงเออแรนเรลไม่คิดหวังว่าดาวประภาคารจะรอด สามผู้อยู่เหนืออาจตายหรือถูกจับ
ปัจจุบันพวกเขากำลังหารือว่าควรโต้กลับยังไง
“ท่านผู้ปกครองพูดถูกศาสนจักรอาร์เคนและสหพันธ์แห่งแสงโจมตีกองทัพเราพร้อมกัน ฆ่าสามผู้อยู่เหนือของเรากับท่านจอมทัพทาราคอฟ เราต้องแก้แค้น”
หลายคนเห็นด้วยทาราคอฟมีชื่อเสียงมากในหมู่ทหารและอาจถูกฆ่าในครั้งนี้ เปลวไฟแห่งความแค้นจุดขึ้นในหัวใจของทุกคน
เออแรนเรลพยักหน้า
วินาทีที่เออแรนเรลได้รับข่าวนี้เธอก็ตัดสินใจจะล้างแค้นศาสนจักรอาร์เคนแล้ว
ศักดิ์ศรีของจักรวรรดิถูกท้าทายและพวกเขาก็เสียหายหนัก พวกเขาต้องไม่ปล่อยเรื่องนี้ ไม่งั้น ชื่อเสียงของจักรวรรดิจะพังพินาศและพันธมิตรพวกเขาจะเสียความไว้วางใจ
เจ้าหน้าที่ทหารส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการแก้แค้น
แต่ทว่าต่อให้เป็นอารยธรรมที่ทรงอำนาจอย่างจักรวรรดิ ก็ยังมีพวกเห็นต่าง ส่วนเล็กคัดค้าน พวกเขาไม่อยากล้างแค้น แต่รู้สึกว่าอำนาจทหารของจักรวรรดิถูกจำกัดโดยโลกริบหรี่ และการโต้ตอบของพวกเขาไม่ควรรุนแรงเกินไป หากพวกเขากระตุ้นให้เกิดสงครามจักรวาลขึ้น สถานการณ์ของจักรวรรดิมีแต่จะเลวร้าย
เพียงเมื่อพวกเขากำลังหารือกันอย่างดุเดือดภาพก็ปรากฏขึ้นในห้อง มันคือทาราคอฟ
เจ้าหน้าที่ทหารทั้งหมดปิดปากสนิทและมองเขา
“ท่านผู้ปกครองเราป้องกันดาวประภาคารได้สำเร็จ เราบังคับให้ศาสนจักรและแดนผู้ร่วงหล่นต้องถอย การต่อสู้จบลงแล้วครับ ความเสียหายกำลังคำนวณ เบโยนี่ มิลิซาส และแบล็คสตาร์ปลอดภัยดี”ทาราคอฟพยักหน้าให้ทุกคน
เบื้องบนทั้งหมดตกใจ
“คุณบังคับให้ศัตรูทั้งหมดต้องถอย?”เออแรนเรลเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ”บอกรายละเอียดให้ฉันฟัง”
ทาราคอฟพยักหน้าและอธิบายการต่อสู้โดยไม่พูดเกินจริง
ขณะฟังสีหน้าทุกคนก็เปลี่ยนไปหลายครั้ง พวกเขารู้ว่าแบล็คสตาร์มีผลงานมากแค่ไหนในศึกนี้ ลอบเรียกออสตินมาช่วย หยุดคฑาหมื่นเทพ จับดีแลน…แผนทั้งหมดของศาสนจักรล้วนถูกโต้กลับโดยแบล็คสตาร์
อาจกล่าวได้ว่าหากแบล็คสตาร์ไม่ทำเช่นนี้สามผู้อยู่เหนือของศาสนจักรอาจไม่รอดชีวิตและศั