”เทพเอสถูกจับแล้วจริงๆ?”
เออแรนเรลได้รับรายงานจากผู้บัญชาการกองยานและแปลกใจเล็กน้อย
ผู้ปกครองยุ่งตลอดดังนั้นหลังเจรจาการร่วมมือระหว่างสามอารยธรรม เออแรนเรลก็ไม่ได้สนใจปฏิบัติการนี้นัก
เออแรนเรลแค่ทำตามเจตนาของหานเซี่ยวเพื่อกำจัดเทพเอสแต่เธอไม่ได้สนใจมันนัก นี่เหมือนกับเศรษฐีที่ทุ่มเงินลงทุนแค่ไม่กี่แสน มันเหมือนการทดสอบน้ำ และไม่ว่ามันจะสำเร็จหรือไม่ก็ไม่สำคัญ เมื่อได้รับรายงานถึงความสำเร็จ เธอจึงแปลกใจ
เทพเอสผู้ทำให้พวกเธอปวดหัวมานานถูกกำจัดแล้วจริงๆ
การดำรงอยู่ของเทพเอสมักเป็นเนื้อร้ายต่อสามอารยธรรมจักรวาลมันแสดงถึงความโกลาหลและความไร้กฏหมาย และก็มอบจุดยืนให้พวกอาชญากร ทั้งสองฝั่งประกาศเขตแดนพวกเขาชัดเจน แต่ในบางกรณี สามอารยธรรมต้องพึ่งพาพลังมัน
ชื่อเสียงของเทพเอสมาจากการกระทำเขาและแม้มันจะเผด็จการ มันก็ไม่ได้ทำให้สามอารยธรรมเลือดขึ้นหน้าขนาดนั้น เป้าหมายของอาชญากรรมมันล้วนเป็นอารยธรรมกลุ่มดาวหรืออารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอด และการปล้นชิงอาณาเขตเหล่านี้ก็เป็นประโยชน์ต่อสามอารยธรรม
ในอีกด้านหนึ่งกองยานผู้ร่วงหล่นจะดึงดูดพวกอาชญากรจากทุกมุมจักรวาล ข้อเสียคือพลังของเทพเอสมีแต่จะเพิ่ม ซึ่งทำให้เขายากจะจัดการมากขึ้นเรื่อยๆ ผลประโยชน์ในเรื่องนี้คือเพราะอาชญากรทั้งหมดจะมารวมกันในสถานที่เดียว มันจึงง่ายต่อการควบคุมกว่า
แน่นอนนี่อยู่ภายใต้ข้อเท็จจริงที่ว่าเทพเอสทรงพลังพอ หากเขาไม่ทรงพลังพอ สามอารยธรรมคงไม่ปล่อยเขาไว้
ตอนนี้ที่แบล็คสตาร์จับเทพเอสได้จริงๆการกำจัดศัตรูเจ้าเล่ห์ผู้นี้จึงทำให้เขาพอใจ
นี่้เทียบกับการจับหัวหน้าผู้ก่อการร้ายและมันก็แสดงถึงมาตรการกำจัดผู้ก่อการร้ายของสามอารยธรรม ยิ่งเงาของเทพเอสกว้างใหญ่เพียงใด พวกเขาก็ยิ่งได้รับชื่อเสียง
เออแรนเรลพยักหน้าพอใจ”แบล็คสตาร์ไม่ทำให้ฉันิดหวังเลยจริงๆเขาทำได้ดีมาก”
”เทพเอสประมาทไม่งั้น ด้วยพลังเขา คงไม่มีใครในจักรวาลที่สามารถจับตัวเขาได้”คล็อตติกล่าว
เขาเคยเจอกับเทพเอสหลายครั้งและการตัดสินของเขาก็ถูกต้องหากเทพเอสหนีไปทันทีที่พบศัตรู ไม่มีใครสามารถจับเขาได้
น่าเสียดายที่ทั้งหมดนี่แค่สมมติฐานนิสัยของเทพเอสไม่มีทางยอมให้เขาทำแบบนี้ เขาต้องสู้ก่อน หากเขารู้จักแค่การหนี ไม่มีทางที่เขาจะมาถึงจุดๆนี้ได้ เขาคงถูกสามอารยธรรมจักรวาลลบไปนานแล้ว
”ไม่ว่ายังไงแบล็คสตาร์ก็ไม่ทำให้ฉันผิดหวังเลย”
เออแรนเรลยิ่งพอใจในตัวหานเซี่ยวขึ้นจากการเอาชนะแผนร้ายของศาสนจักรบนดาวประภาคาร จนการกำจัดศัตรูของสามอารยธรรมจักรวาล เขานำพาชื่อเสียงและผลประโยชน์ให้จักรวาลได้มาก
..
ขณะที่กองยานจักรวรรดิกำลังเดินทางกลับพวกเขาก็ได้รับการตอบกลับจากจักรวรรดิ
ในห้องบัญชาการภาพฉายระยะไกลปรากฏ มันคือเออแรนเรล เมื่อเห็นแบบนี้ ทุกคนก็ทำความเคารพ และหานเซี่ยวกับผู้อยู่เหนือก็ยังก้มหัวเล็กน้อย
”พวกคุณทำได้ดีมากพวกคุณได้ทำผลงานครั้งใหญ่ให้กับจักรวรรดิเรา จักรวรรดิจะไม่ตระหนี่ในเรื่องของรางวัล”
เออแรนเรลยืนโดยนำมือไว้ข้างหลังน้ำเสียงเธอเต็มไปด้วยความชื่นชม
เมื่อเจอกับผู้นำจักรวรรดิทุกคนต้องรักษาท่าที
”หากไม่ใช่ว่าแบล็คสตาร์สามารถโน้มน้าวสหพันธ์แห่งแสงให้ร่วมด้วยฉันคงไม่สามารถเห็นผลงานมากขนาดนี้ได้ ฉันเห็นรายงานแล้ว และแบล็คสตาร์ก็คือบุคคลสำคัญในการจับเทพเอส จักรวรรดิวางแผนประกาศโดยใช้ชื่อ
แบล็คสตาร์เป็นหลักต่อสาธารณะฉันเชื่อว่าคงไม่มีใครคัดค้าน”เออแรนเรลกล่าว
การจับเทพเอสเป็นบันทึกต่อสู้ที่น่ากลัวและเออแรนเรลก็เตรียมทุ่มความดีความชอบให้หานเซี่ยว ช่วยให้เขากระจายชื่อเสียง
”แน่นอนว่าไม่นี่คือความจริง”มิลิซาสหัวเราะ
เขาบาดเจ็บสาหัสในศึกบนดาวประภาคารและเขาก็มักจำความขุ่นเคืองนี้ได้ เมื่อเห็นว่าเทพเอสตกอยู่ในเงื้อมมือพวกเขา เขาจึงพอใจมาก
คนอื่นไม่คัดค้านพวกเขายังรอรับพลังงานวิวัฒนาการ มันจึงไม่มีใครคิดเถียงกับหานเซี่ยว
”งั้นผมคงต้องขอบคุณจักรวรรดิล่วงหน้า”หานเซี่ยวหัวเราะ
”ดีพวกคุณควรรีบนำเทพเอสกลับมา จักรวรรดิจะขังเขาไว้ในสถานที่ลับสุดยอด”เออแรนเรลหยุดสักพัก”ใช่แล้ว แบล็คสตาร์ คุณบอกว่าคนที่ถูกผนึกโดยกาลอวกาศแอมเบอร์ วิญญาณพวกเขาจะค่อยๆตายไปสินะ?”
”ถูกต้อง”หานเซี่ยวพยักหน้าและเข้าใจเจตนาเธอ”จักรวรรดิอยากศึกษาเทพเอสงั้นสินะฦ.
”ใช่ตัวเขามีค่ามาก หลังการผสานยีนมากมาย มันใช้ความสามารถได้ทุกประเภท หากนี่สามารถวิจัยได้ เทคโนโลยีพันธุกรรมของจักรวรรดิจะก้าวหน้ามากและจำนวนของผู้ใช้พลังจะเพิ่มขึ้นด้วย”เออแรนเรลไม่ปิดบัง”แนนอน นี่จะเกิดขึ้นเมื่อวิญญาณเขาตายแล้วเท่านั้น คุณคิดว่าเราต้องรอนานแค่ไหน?”
หานเซี่ยวลูบคาง”ผมคิดว่าอย่างน้อยห้าร้อยปี”
เออแรนเรลตกอยู่ในห้วงความคิดก่อนพยักหน้า”ดีแม้จะนานไปหน่อย แต่การปลอดภัยไว้ก่อนย่อมดี”
ห้าร้อยปีไม่นับเป็นอะไรต่อจักรวรรดิคริมสันช่วงเวลาที่พวกเขาดำรงอยู่นานกว่ามากและการเตรียมทำสงครามบางครั้งยังต้องใช้เวลาระดมพลนับร้อยปี
หลังคุยกันอีกสักพักเออแรนเรลก็วางสายและทหารจักรวรรดิก็กลับไปทำงาน
เรเวนลูดหันมาหาหานเซี่ยว”ในเมื่อเทพเอสถูกจับแล้วมันก็ถึงเวลาที่นายต้องทำตามข้อตกลง”
ปากของหานเซี่ยวฉีกยิ้มยกมือขึ้น อนุภาคนาโนพุ่งออกมาและลูกบาศก์วิวัฒนาการก็ปรากฏในฝ่ามือเขา
”ใจเย็นฉันไม่ใช่คนชอบกลับคำพูด และในเมื่อพวกนายมาช่วยฉันกัน ฉันย่อมไม่หลอก”
…
สามอารยธรรมจักรวาลได้มติและหลังกองยานพวกเขากลับไป พวกเขาถึงประกาศการจับกุมเทพเอส เพราะการต่อสู้เกิดขึ้นในแถบจักรวาลรกร้างที่มีร่องรอยมนุษย์จำกัด องค์กรส่วนใหญ่จึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการเผชิญหน้านี้
ครึ่งเดือนต่อมากองยานจักรวรรดิก็กลับมาถึงโดยไร้อุบัติเหตุ
หานเซี่ยวส่งมอบเทพเอสให้กองยานจักรวรรดิอื่นผู้ขังเทพเอสไว้ในสถานที่ลับ
ผู้อยู่เหนือคนอื่นยังได้รับการวิวัฒนาการและจากไปอย่างพอใจทิ้งหานเซี่ยวไว้คนเดียวที่ต้องกลับไปดาววงแหวนคริมสัน
เขาติดต่อเฟย์ดินและคนอื่นทันทีหลังจากกันเดือนหนึ่ง ในที่สุดพวกเขาก็มารวมกัน
เป้าหมายเขาในการไปกาแล็กซี่กลางบรรลุแล้วหานเซี่ยวประกาศยุติการพักร้อนก่อนกลับไปยานตัวเขา เดินทางกลับไปวงแหวนดาวกระจาย
ในยานหานเซี่ยวใช้ข้ออ้างไม่พบพวกเขาเป็นเวลานานเพื่อกินข้าวและ’ขืนใจ’เฟย์ดินกับเนโร่
เฟย์ดินชินกับมันแล้วและแค่ยืนทำอะไรไม่ถูกแต่เนโร่ดิ้นไปมา ไม่คุ้นเคยกับท่าทางอันหลงใหลของหานเซี่ยว เขามึนเมาจากความทั้งที่พ่อบุญธรรมมอบให้
เรย์โนลคิดว่าเขาคงถูกทำแบบนั้นเช่นกันและสูดหายใจลึกเตรียมใจไว้ แต่หานเซี่ยวกลับเดินหนีไป ราวกับไม่สนใจเขา นี่ทำให้เรย์โนลรู้สึกหดหู่
หลังเติมพลังโชคเขาหานเซี่ยวก็ขังตัวเองในห้องและเปิดหน้าต่างสถานะเพื่อรับรางวัลภารกิจ[ศัตรูของสามอารยธรรมจักรวาล]
ภารกิจ[ศัตรูของสามอารยธรรมจักรวาล]สำเร็จ
ความเสียหายสะสมของท่านต่อเทพเอสคือ100%(สูงถึงขีดจำกัด)ท่านจะได้รับรางวัลที่สอดคล้องกัน
ท่านได้รับค่าประสบการณ์2หมื่นล้านx1รางวัลสุ่ม x1[บัตรอัญเชิญตัวละคร เทพเอส]
[บัตรอัญเชิญตัวละคร-เทพเอส]ความสามารถเอสเปอร์-เสริมความสามารถนี่สามารถใช้ได้กับเอสเปอร์ที่มีระดับต่ำกว่าท่านเท่านั้น มันจะมอบศักยภาพของความสามารถได้รับการพัฒนาถาวร แต่ละเป้าหมายสามารถเลื่อนระดับได้ครั้งเดียว การใช้:0/3
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย
ทักษะนี้…ดีมาก..ไอลีนโนเวล
หากผู้อยู่เหนือของสามอารยธรรมได้รับความสามารถนี้มันเท่ากับการมีของเหลวเพิ่มศักยภาพเอสเปอร์ไม่จำกัด ต่อให้นี่สามารถใช้ได้กับแค่เอสเปอร์ มันก็มากพอจะเพิ่มพลังของเอสเปอร์ไปอีกขั้น
นี่คือความสามารถระดับกลยุทธ์!
น่าเสียดายคนที่ได้รับสิ่งนี้คือเทพเอส ด้วยนิสัยเขา โอกาสต่ำมากที่เขาจะช่วยลูกน้องเพิ่มความแข็งแกร่ง
เทพเอสสะสมความสามารถทั้งหมดไว้ซึ่งเทียบเท่ากับการฆ่าอัจฉริยะนับไม่ถ้วน หากเจ้าของเดิมของความสามารถนี้ไม่ตายในเงื้อมมือเทพเอส มันเป็นไปได้มากว่าพวกเขาอาจกลายเป็นแขกผู้มีเกียรติของอารยธรรมจักรวาล
ข้อกำหนดภารกิจเพิ่มเติมลุล่วง
ท่านได้รับรางวัลเพิ่มเติม: สุ่มสามทักษะของเทพเอส(พรสวรรค์/ความสามารถ)
คำเตือน: เทพเอสคือเอสเปอร์ ส่วนหนึ่งของความสามารถจะปรับตามสายอาชีพท่าน
ท่านมีโอกาสสุ่มสามครั้งและต้องเลือกความสามารถอย่างน้อยหนึ่งอันในการสุ่มแต่ละครั้ง โปรดเลือกประเภทของการสุ่ม(พรสวรรค์/ความสามารถ/ทั้งคู่)
หานเซี่ยวถูมือเลือกพรสวรรค์
เนื่องจากสายเอสเปอร์ไม่สามารถใช้ร่วมกับเขาได้เพราะคนละสายอาชีพเขาจึงรู้ว่ามีความสามารถเอสเปอร์มากมายที่ไม่อาจดึงได้
ในเมื่อเขาสามารถได้รับความสามารถในครั้งนี้เขาจึงควรใช้ให้เมหาะสม แต่ทว่า มันจะเป็นประโยชน์กว่าหากเขาได้รับพรสวรรค์ดีๆก่อน
กำลังสุ่ม…เสร็จสิ้น
โปรดเลือกหนึ่งตัวเลือกจากห้าตัวเลือกด้านล่าง
1.พรสวรรค์: เสริมโครงสร้างอนุภาค ต้านทานความเสียหายจริง
2.พรสวรรค์: ศรัทธาอันแรงกล้า +20%ความต้านทานสถานะทางจิตที่ผิดปกติ
3.พรสวรรค์: การควบคุมการแบ่งเซลล์ ใช้พลังงานเพื่อกระตุ้นการแบ่งเซลล์และบรรลุการฟื้นฟูตัวเอง แปลงพลังงานเป็นพลังชีวิตที่อัตรา1:3 สูงสุดที่15%พลังชีวิตต่อวินาที
4.พรสวรรค์: เสริมความทนทาน +40%ความต้านทานทางกายภาพและพลังงาน
5.พรสวรรค์: สัญชาตญาณการต่อสู้ เมื่อเข้าสู่สถานะต่อสู้ +1%ค่าสถานะทั้งหมด สูงสุดที่12%
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกายเขาดึงสองพรสวรรค์การปั้นได้ในครั้งนี้ ซึ่งคือตัวเลือกหนึ่งและสาม
เขาจับจ้อง[การควบคุมการแบ่งเซลล์]พรสวรรค์นี้ควรได้รับการแปลงจาก’การฟื้นฟูตัวเอง’ของเทพเอส ซึ่งคล้ายกับ[การควบคุมการเพิ่มจำนวนเซลล์ขั้นกลาง] มันแค่ว่าประสิทธิภาพไม่สูงเท่าของเขา
พลังชีวิตเขาตอนนี้ทะลุห้าล้านแล้วและต่อให้เขาแปลงพลังงานทั้งหมดเขามันก็ไม่เกิน10%ของพลังชีวิตทั้งหมดเขา มันไกลจากการบรรลุขีดจำกัด28%ต่อวินาที ดังนั้น เขาจึงจะได้รับผลประโยชน์โดยการเพิ่มประสิทธิภาพของการแปลง
สำหรับความสามารถต้านทานความเสียหายจริงเขามีอยู่แล้ว
ท่านได้เลือก[การควบคุมการแบ่งเซลล์]
[การควบคุมการเพิ่มจำนวนเซลล์ขั้นกลาง]ท่านคล้ายกับ[การควบคุมการแบ่งเซลล์]และพรสวรรค์ทั้งสองก็ผสานกัน
พรสวรรค์สามารถอัปเกรดได้!หานเซี่ยวตื่นเต้น
พรสวรรค์ที่คล้ายกันบางอย่างสามารถผสานกันได้ซึ่งเทียบเท่ากับการอัปเกรด
การผสานเสร็จสิ้น
ท่านเสีย[การควบคุมการแบ่งเซลล์]
พรสวรรค์ท่าน[การควบคุมการเพิ่มจำนวนเซลล์ขั้นกลาง]อัปเกรดเป็น[การควบคุมการเพิ่มจำนวนเซลล์ขั้นสูง]
การควบคุมการเพิ่มจำนวนเซลล์ขั้นสูง: ใช้พลังงานเพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ รักษาบาดแผล และแปลงพลังงานเป็นพลังชีวิตที่อัตรา1:9 อัตราฟื้นฟูสูงสุดที่35%ของพลังชีวิตทั้งหมดต่อวินาที
อัตราการแปลงตอนนี้เพิ่มจาก1:5เป็น1:9เพิ่มความเร็วการฟื้นฟูเป็นสองเท่า ขีดจำกัดสูงสุดยังเพิ่มจาก28%เป็น35%
หานเซี่ยวถอนหายใจก่อนสุ่มต่อเขายังยึดติดกับตัวเลือกพรสวรรค์
ห้าพรสวรรค์ถูกสุ่มและหลังมองหานเซี่ยวก็เลือกพรสวรรค์[ผ่อนคลายจิตวิญญาณ] ซึ่งมอบความต้านทานทางจิตให้เขา28% รวมถึงเร่งกำจัดสถานะทางจิตที่ผิดปกติและความเสียหายวิญญาณ
การโจมตีทางจิตเป็นจุดอ่อนเขาดังนั้นจึงต้องเพิ่มความต้านทาน
สำหรับการสุ่มครั้งสามเขายังเลือกพรสวรรค์ หลังกวาดมองรางวัลสุ่ม ดวงตาเขาก็สว่างวาบ
ท่ามกลางทั้งห้าหนึ่งในนั้นดูเหมือนจะเป็นเวอร์ชั่นดัดแปลงของเอสเปอร์[หลุมดำ] ซึ่งมอบการแปลงส่วนหนึ่งของความเสียหายเป็นค่าพลังงาน
หลังเลือกพรสวรรค์นี้[การดูดซับพลังงานขั้นกลาง]เขาก็ผสานกับพรสวรรค์ใหม่นี้
[การดูดซับพรสวรรค์ขั้นกลาง]ท่านเลื่อนเป็น[การดูดซับพลังงานขั้นสูง]
การดูดซับพลังงานขั้นสูง: เมื่อตกอยู่ภายใต้การโจมตีทางกาย พลังงาน เวทย์หรืออื่นๆ ความเสียหายที่เข้ามาจะลดลง25% และแปลงเป็นพลังงานโดยตรง ค่าความเสียหายที่ดูดซับจะไม่ถูกหักล้างด้วยความต้านทาน และที่เหลือ75%ของความเสียหายที่ได้รับจะถูกใช้มาคำนวณความต้านทานแทน 60%ของความเสียหายที่เหลือจะถูกแปลงเป็นพลังงาน
หานเซี่ยวทำการคำนวณคร่าวๆ
“หากฉันนับแบบนี้ประสิทธิภาพในการแปลงความเสียหายเป็นพลังงานก็จะเพิ่มขึ้นกว่า1.5เท่า และมันยังมอบความต้านทานสัมบูรณ์ให้มากถึง25%”
ด้วยการเพิ่ม[หลุมดำ]มันจึงแปลงส่วนหนึ่งของความเสียหายเป็นพลังงานโดยตรง ซึ่งเทียบเท่ากับการประหยัดพลังงานที่ต้องใช้เพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตจำนวนมากนี้
หากความต้านทานเขาเท่ากับ50%และเขาได้รับความเสียหายหนึ่งหมื่นในทางทฤษฏีงั้นผลพรสวรรค์เดิมก็จะทำให้เขารับความเสียหายห้าพันและดูดซับพลังงานได้สามพัน
หลังอัปเกรดมันจึงเป็นรับ3750ความเสียหาย(1หมื่นหักไป75% และ75%มาหักอีก60%)และดูดซับพลังงาน4750
พลังงานที่ได้รับมากกว่าพลังชีวิตที่เสียไป!