Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

The Legendary Mechanic - ตอนที่ 937 เฟย์ดิน คนโชคดีมักลำบาก

เรื่อง The Legendary Mechanic - ตอนที่ 937 เฟย์ดิน คนโชคดีมักลำบาก

  เลพตัสไม่รู้ความหมายของชื่อกลุ่มการเงินแต่รอยยิ้มแปลกๆบนหน้าแบล็คสตาร์ตอนเขาพูดถึงชื่อนี้ก็บอกเขาว่าชื่อนี้มีความหมายพิเศษ
  หานเซี่ยวส่ายหัวและเคาะโต๊ะ”ฉันจะให้คนไปส่งนายที่ศูนย์ใหญ่กองทัพบนวงแหวนดาวกระจายตอนเราไปถึงดาวถัดไปเมื่อนายไปถึง นายจะมีเวลาทำความคุ้นเคยกับงาน นายออกไปได้แล้ว ไปและทำงานของนายซะ”
  “ครับ”เลพตัสพยักหน้ากัมหัวและออกห้องไป
  เมื่อเลพตัสออกห้องซิลเวียก็กลอกตาและกล่าว”อาจารย์ใจแคบไป ถึงกับคิดชื่อเช่นนั้น.”
  แม้เธอจะไม่ใช่คนจากดาวอความารีนเธอก็รับใช้หานเซี่ยวมาหลายปีและยังได้ยินถึงประสบการณ์ของเขาในช่วงแรกๆ
  “ฉันไม่ได้ใจแคบ”หานเซี่ยวฮึดฮัด
  ในความเป็นจริงฮีล่า ออโรร่าและตัวเขาล้วนเคยเป็นคนของต้นกำเนิด
  หลังคุยเล่นกันสักพักหานเซี่ยวก็กลับเข้าประเด็นหลัก”ยังไงก็ตาม เรื่องในวงแหวนดาวกระจายเป็นยังไงบ้าง?”
  เมื่อได้ยินซิลเวียก็ถอนรอยยิ้มและรายงานสถานการณ์ของแดนหลั่งเลือดและกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัด นับตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน หานเซี่ยวก็ให้ซิลเวียรายงานเขาเป็นระยะๆ
  ปัจจุบันองค์กรที่เหลือซึ่งทำงานร่วมกับกองทัพแบล็คสตาร์ได้จัดตั้งพันธมิตรและจำกัดกลยุทธ์เข้าซื้อกิจการของกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดได้ในระดับหนึ่ง กลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดและแดนหลั่งเลือดได้เปลี่ยนกลยุทธ์พวกเขาและเริ่มสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจที่พวกเขาได้มา
  ประสิทธิภาพของแดนหลั่งเลือดแสดงให้เห็นทันทีพวกเขาย่อยตลาดที่ถูกขโมยโดยกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดอย่างรวดเร็ว และแดนหลั่งเลือดก็ขยับขยายขึ้นมาก
  ทั้งสองฝ่ายเติมเต็มซึ่งกันและกันกลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดเทเงินเพื่อซื้อองค์กรขณะที่แดนหลั่งเลือดใช้อิทธิพลและเครือข่ายพวกเขาในการจัดระเบียบทรัพยากรเหล่านี้ใหม่ ด้วยเหตุนี้ การพัฒนาของแดนหลั่งเลือดจึงเป็นไปอย่างราบรื่นและได้รับสถานะของกองทัพแบล็คสตาร์ในวงแหวนดาวกระจาย
  การผสมผสานระหว่างมังกรต่างถิ่นและงูท้องถิ่นทำให้คนปวดหัวหกไม่เป็นเช่นนั้น ต่อให้กลุ่มการเงินไร้ขีดจำกัดจะร่ำรวย ภัยคุกคามพวกเขาก็ยังมีจำกัด
  ฮีเบอร์สร้างปัญหาให้เขากับอย่างแท้จริงหานเซี่ยวส่งเสียงไม่พอใจหลังได้ยิน
  ฉันจะทุบตีแกเองหลังยกระดับ!
  หานเซี่ยวส่ายหัว
  “ฉันเข้าใจสถานการณ์แล้วเธอกลับไปทำงานได้”
  “ฮึ่มอาจารย์รู้แค่การสั่งฉันหรือไง?ให้ฉันอยู่กับอาจารย์มากกว่านี้ก็ไม่ได้?นับตั้งแต่ฉันกลายเป็นหัวหน้าผู้ดูแล อาจารย์ก็ยิ่งห่างเหินจากฉัน!”ซิลเวียอดบ่นไม่ได้
  “ตั้งแต่ตอนไหน?”หานเซี่ยวตกตะลึง
  “ฉันไม่สน!ฉันไม่ได้หยุดพักมานานมากแล้วฉันอยากเป็นอิสระเหมือนเจนนี่!”ซิลเวียบ่นด้วยความโกรธ’แม้ฉันจะเต็มใจทำงานให้กองทัพ อาจารย์ก็ไม่สามารถปฏิบัติต่อฉันเหมือนทาสได้!ฮึ่ม!อาจารย์คิดว่าฉันชอบทำงานหรือไง?!หากไม่ใช่เพราะอาจารย์ ฮึ่มมมม!”
  หานเซี่ยวทำได้แค่ปลอบเธอ
  ในสายตาสมาชิกกองทัพซิลเวียไม่เคยบ่นและรักษาภาพลักษณ์มาตลอด เธอจะเริ่มสะอื้นและฉุนเฉียวเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาเท่านั้น
  ที่ดาวถัดไปหานเซี่ยวเลือกยานรบหลายลำและส่งเลพตัสกลับไปวงแหวนดาวกระจาย
  จากนั้นเขาก็ท่องผ่านอาณาเขตจักรวรรดิต่อค้นหาพืชผลขณะฝึกฝนพลังงาน
  เขาท่องผ่านหลายกลุ่มดาวเมื่อเวลาผ่านไป องค์กรต่างๆก็ไม่พบว่าการกระทำเขาแปลกอีก
  หลังสำรวจจักรวรรดิมานานหานเวี่ยวก็สะสมพลังงานเขาจนถึงขอบเขตของระดับ19 เขายิ่งเข้าใกล้กับภารกิจยกระดับมากขึ้น
  …
  หวือ!
  ในห้องแรงโน้มถ่วงหานเซี่ยวที่เปลือยกายครึ่งหนึ่งลอยอยู่กลางอากาศด้วยดวงตาที่เปล่งแสงเจิดจ้า
  จากนั้นหานเซี่ยวก็สุดหายใจลึกและถอดพลังจักรกลทั้งหมดเขากลับเมื่อสิ้นสุดการจำลองแรงโน้มถ่วง เขารู้สึกราวกับว่าข้อจำกัดถูกถอดออกจากเซลล์เขาและพลังงานใหม่ก็กำลังก่อตัวขึ้น
  ฉันเสร็จเทคนิคฝึกฝันพลังงานอีกอันแล้ว
  ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกายและพยักหน้าพอใจ
  นี่คือเทคนิคฝึกฝนพลังงานที่ใช้แรงโน้มถ่วงเพื่อบังคับพลังงานของเซลล์เขาฝึกฝนมันจนถึงขีดสุดและบีบคุณค่าทั้งหมดออกมา.ไอลีนโนเวล.
  ในช่วงเวลานี้หานเซี่ยวฝึกฝนเทคนิคฝึกฝนพลังงานต่างๆ และตอนนี้ก็มีพลังงาน119000หน่วยแล้ว
  อีกแค่พันหน่วยสุดท้ยาฉันอยู่ไม่ไกลจากระดับ19นัก
  จากนั้นหานเซี่ยวก็ควบคุมร่างเขาให้เปิดรูขุมขนเหงื่อพลันไหลออกจากรูขุมขนทันที แต่ก็ระเหยทันทีที่ออกจากตัวเขา
  ด้วยระดับปัจจุบันเขาเขาสามารถควบคุมร่างกายได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้กระทั่งการขับเหงื่อก็เป็นสิ่งที่เขาควบคุมได้ด้วยความคิด เขาสามารถเลือกไม่หลั่งเหงื่อได้หลังออกกำลังกายและจะรู้สึกไม่สบายตัวก็เท่านั้น
  ขณะทำให้ร่างกายแห้งหานเซี่ยวก็แตะกล้ามอกเขาและชื่นชมกับร่างกายเขาสักพักก่อนใส่เสื้อผ้ากลับ
  หานเซี่ยวเดินออกห้องแรงโน้มถ่วงไปมองออกนอกหน้าต่าง
  ภาพที่แสดงบนหน้าต่างสามารถซูมเข้าออกได้ตอนนี้เอง ภาพบนหน้าต่างแสดงผิวของดาวที่เต็มไปด้วยยานอวกาศ
  ศูนย์เอ็นย่าเมืองกาแล็กซี่ชื่อดังในเส้นทางดาว ศูนย์ขนส่งเกรดสูง
  นี่คือเมืองกาแล็กซี่ที่เจริญรุ่งเรืองเป็นหนึ่งในพันธมิตรผู้อยู่เหนือของจักรวรรดิ เพราะการจัดการที่ดีและตำแหน่ง ศูนย์เอ็นย่าจึงกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ชื่อดังของจักรวรรดิ
  แต่ทว่าหานเซี่ยวไม่ได้มาที่ดาวนี้เพื่อขุดหาคนมีพรสวรรค์ กองยานเขาต้องเติมทรัพยากร และออโรร่ากับกองทัพแบล็คสตาร์เขาก็บ่นว่าอยู่บนยานนานเกินไปและอยากไปเดินเล่นในเมือง ดังนั้น เขาจึงพาพวกกมาที่นี่
  เพื่อไม่ดึงดูดความวุ่นวายหานเซี่ยวได้ปลอมกองยานเขาและให้ฟิลลิปปกปิดข้อมูลการมาของเขาและสร้างตัวตนปลอม เช่นนั้น ปัญญาประดิฐ์ของศูนย์เอ็นยาจึงไม่พบการมาของเขาและไม่มีใครรู้ว่าเขามา
  เมื่อเปิดหน้าต่างสถานะเขาก็สามารถเห็นบัฟโทเท็มวิวัฒนาการได้
  นี่ยังเป็นดาวที่มีโทเท็มวิวัฒนาการหานเซี่ยวลูบคางเขา
  การขายโทเท็มวิวัฒนาการเกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้วจักรวรรดิและพันธมิตรพวกเขาดซื้อทุกอย่างที่ต้องการและเริ่มนำมาใช้กันแล้ว โทเท็มวิวัฒนาการมักถูกใช้กับดาวอาณานิคม และมันก็ยากที่จะเห็นใครใช้มันกับสถานีขนส่ง
  หานเซี่ยวตรวจดูข้อมูลสองปีที่ผ่านมาของศูนย์เอ็นย่าและตระหนักว่าศูนย์เอ็นย่าดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอบางเผ่าจะส่งสมาชิกมาอยู่บนดาวเป็นกลางที่มีโทเท็มวิวัฒนาการ
  เช่นนั้นการอพยพจึงเกิดขึ้น
  หานเซี่ยวเดินไปห้องกิจกรรมของเหล่าเจ้าหน้าที่
  โดยปกติจะมีคนหลายคนนั่งเล่นไพ่และมันก็เสียงดังมาก แต่วันนี้ มันกลับเงียบสงักและมีองครักษ์แบล็คสตาร์ไม่ถึงครึ่งที่เล่นไพ่กัน
  หานเซี่ยวมองรอบๆไม่เห็นเฟย์ดิน เฮดาวี่กับนอื่น จากนั้นก็แตะไหล่บางคนและถาม”คนอื่นไปไหน?”
  “โอ้พวกเขาไปเล่นที่ศูนย์เอ็นย่ากันแล้วครับ เฮดาวี่นำกลุ่มพวกเขาไป..แค่กแค่ก…ไปที่บาร์ประเภทนั้นครับ สำหรับเฟย์ดิน ผมคิดว่าเขาคงไปเดินเล่นกับออโรร่า”องครักษ์ภัยพิบัติคนนี้ลูบหัวและกล่าว”ท่านอยากให้ผมเรียกพวกเขากลับมาไหมครับ?”
  “ช่างเถอะ”หานเวี่ยวส่ายหัว
  เขาไม่รีบร้อนจากไปอยู่แล้วในเมื่อเขาต้องการแต้มพลังงานอีกแค่พันเดียว เขาอาจอยู่ที่นี่และทำภารกิจยกระดับให้เสร็จ
  …
  ในย่านบันเทิงที่สี่มีการจัดพิธีอย่างยิ่งใหญ่และถนนก็เต็มไปด้วยคนหลากเผ่า ขบวนหนึ่งเคลื่อนตัวไปช้าๆตามถนนพร้อมนักแสดงบนขบวนที่แสดงท่าทางแปลกๆต่อผู้ชม บางครั้ง จะมีนักแสดงข้างถนนมาแสดงข้างขบวน
  เฟย์ดินและออโรร่าปลอมตัวและปะปนกับฝูงชนออโรร่ามองไปรอบๆด้วยความอยากรู้และเฟย์ดินก็เดินตามหลังเธอในฐานะคนคุ้มกันชั่วคราว เขามีรอยยิ้มสดใสบนหน้าและแสดงความคิดเห็นกับการแสดงอยู่บ่อยครั้ง
  “เห้อการอยู่บนยานน่าเบื่อเกินไปจริงๆ ที่ที่มีคนสิถึงจะสนุก”
  ออโรร่ากำลังถือขนมอยู่ในมือและพูดขณะเคี้ยว
  ฮีล่าชอบอยู่คนเดียวแต่ออโรร่าไม่ชอบ เมื่อเธอเด็ก แม้จะมีประสบการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจให้หวาดผวา เธอก็ไม่เจอกับปัญหาเช่นนั้นอีกหลังผ่านการปรับตัวมาหลายปี
  เธอใช้เวลาส่วนใหญ่กับฮีล่าและตอนนี้ที่ฮีล่าออกเดินทางออโรร่าจึงอยากเดินรอบเพื่อเพิ่มโลกทัศน์ของเธอ แต่ทว่า เธอไม่ชอบสถานที่แออัดเพราะนิสัยเธอ และก็มีปัจจัยอื่นอีกด้วย ความสามารถเอสเปอร์เธอช่วยให้เธอตรวจจับพลังชีวิตได้ และก็มีแรงดึงดูดระดับหนึ่งในสถานที่ทีมีพลังชีวิตมาก สภาพแวดล้อมเช่นนี้ทำให้เธอมีพลังงานและมีความสุขมาก
  “โอ้ฉันชอบที่ที่เงียบกว่านี้”เฟย์ดินยักไหล่
  ออโรร่ากลอกตา”ไม่ใช่ว่าคุณชอบโลกที่มีแค่คุณสองคนงั้นหรอ?พวกคุณเสพติดมันเกินไปหรือเปล่า?”
  เฟย์ดินไม่ใส่ใจกับคำพูดนั้นนักและหัวเราะเบาๆขณะชี้หน้าผากเขา”เธอทำให้เฉินซิ่งเขิน”
  ออโรร่ารู้สึกขนลุกเพียงเมื่ออยากพูดบางสิ่ง สีหน้าเฟย์ดินก็เปลี่ยนไป และเขาก็คว้าไหล่ออโรร่าไว้
  “รอเดี๋ยวดูเหมือนจะมีบางอย่างเกิดขึ้น”
  ออโรร่าทิ้งสีหน้าติดตลกและโยนขนมในมือทิ้งจากนั้นก็คว้าปืนเตรียมพร้อมสู้
  ในเวลาเดียวกันเธอยังหมุนเวียนความสามารถตรวจจับพลังชีวิตเธอและสแกนตามสายตาของเฟย์ดิน จากนั้นก็สังเกตเห็นพลังชีวิตอ่อนแรงราวกับบุคคลนั้นกำลังบาดเจ็บสาหัส
  ทั้งคู่สบตากันและเดินเข้าซอยไปหลังเลี้ยวหลายครั้ง ก็ไม่มีร่องรอยคนเดินผ่านมาอีก
  อย่างรวดเร็วพวกเขามาถึงตำแหน่งของพลังชีวิตแต่ก็ได้รับการต้อนรับด้วยผืนดินว่างเปล่า
  เฟย์ดินขมวดคิ้วและหยิบตราเวทย์ออกมานี่คือของขวัญที่ลากีมอบให้เขา มันคืออุปกรณ์ที่สามารถตรวจพบความผันผวนเวทย์ มันกำลังสั่นและชี้ไปยังผืนดินเปล่าตรงหน้า
  “ดูมเหมือนจะเป็นม่านพลังเวทย์บางอย่างมันลกับสามารถหลบซ่อนจากอุปกรณ์ตรวจจับเวทย์ของเมืองได้ แต่ทว่า พวกเขาคงไม่ใช่คนดีหากอยากคิดซ่อนในเมือง”
  เฟย์ดินไตร่ตรองว่าพวกเขาควรยื่นจมูกไปยุ่งไหม
  แต่ก่อนจะได้ตัดสินใจพื้นที่รอบตัวเขาก็แตกกระจายเหมือนแก้ว!
  เพล้ง!
  ม่านพลังที่มองไม่เห็นถูกทำลายจากภายในและร่างชุ่มเลือดก็พุ่งออกมาก่อนล้มลงกับพื้น ฉากตรงหน้าเฟย์ดินและออโรร่าเปลี่ยนไป และหลุมจำนวนมากก็สามารถมองเห็นได้
  นอกจากคนที่บาดเจ็บยังมีหลายคนยืนอยู่ห่างออกไปพร้อมค้อนในมือและฮู้ดดำบนหัว ชุดคลุมพวกเขาจารึกด้วยสัญลักษณ์สีขาวและแต่ละคนก็มีสร้อยคอแตกต่างกัน พวกเขาแต่งตัวเหมือนนักบุญของศาสนาหนึ่ง
  เห็นได้ชัดว่ามีการต่อสู้เกิดขึ้นที่นี่
  มันอาจเป็นเพราะม่านพลังถูกทำลายและพวกเขาไม่อยากดึงดูดความสนใจใดๆคนเหล่านั้นจึงหนีไปโดยไม่ลังเล
  เฟย์ดินคิดสักพักและไม่ไล่ตามไปเพราะเขาไม่รู้ตัวตนของอีกฝ่ายจากนั้นก็เดินไปพยุงคนบาดเจ็บ
  ก่อนจะได้ถามถึงเหตุการณ์คนที่บาดเจ็บก็คว้าชุดเขาแน่นและกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง”ยะ..หยุด…พวกเขา”
  เขาหมดสติไปและทิ้งรอยเลือดไว้บนเสื้อผ้าเฟย์ดิน
  ทั้งคู่สบตากัน
  “เราควรทำยังไงกันดี?”
  ‘เห้อใช้ความสามารถเธอเพื่อช่วยเขาก่อน เราควรถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันรู้สึกได้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ”
  ขณะพูดเฟย์ดินก็ส่ายหัวและพึมพำ”ทำไมฉันต้องเจอสถานการณ์แบบนี้อยู่เสมอเลยนะ”

อ่านตอนอื่นๆของ The Legendary Mechanic คลิกเลย

แฟนเพจ