พันธมิตรลงทัณฑ์ไม่มีเงินทุนหนาเพื่อสร้างป้อมปราการอวกาศดังนั้นศูนย์ใหญ่พวกเขาจึงเป็นยานอวกาศดัดแปลงที่จอดในท่ากาแล็กซี่ชื่อลงทัณฑ์
หลังเข้ายานทั้งสองก็สำรวจยานภายใต้การนำของเรย์มอนด์ โครงสร้างของยานอวกาศเป็นแบบวงกลมโดยมีพื้นที่ต่างๆเชื่อมต่อกันด้วยทางเดิน
“นี่คือฐานเรานี่คือพื้นที่กิจกรรมประจำวันของเราและสมาชิกทุกคนก็มีห้องเป็นของตัวเอง ฉันได้จัดเตรียมให้พวกนายแล้ว และพวกนายสามารถเข้าพักได้ตลอด นั่นคือห้องฝึก่อสู้และนั่นคือห้องเก็บอุปกรณ์..”
จากนั้นพวกเขาก็มาถึงบริเวณที่มีประตูซึ่งเขียนไว้ว่า’พิพิธภัณฑ์สงคราม’
“นั่นคือ..”เฟย์ดินชี้ประตูเขารู้สึกว่าเบาะแสต้องอยู่ในห้อง
“โอ้!นี่คือเกียรติยศของพันธมิตรลงทัณฑ์เรา”เรย์มอนด์หัวเราะ”เหล่านี้คือสินสงครามที่เราได้รับจากการต่อสู้ไปกัน ฉันจะเล่าเรื่องราวความสำเร็จของเราให้นายฟัง”
ห้องกว้างขวางมากมีตู้ใสเต็มไปหมด ตู้ส่วนหนึ่งว่างเปล่า และบางอันเต็มไปด้วยของหลากหลาย มีอาวุธหัก หน้ากากแตกครึ่ง ลูกตาอิเล็กทรอนิกส์ที่ไหม้เกรียมและของอื่นๆอีกมาก
เรย์มอนด์นำทางและเริ่มอธิบายต้นกำเนิด
“นี่คือโทมาฮอว์คของอาชญากรที่ชื่อว่าไร้ปราณีผู้มีค่าหัวสามแสนอีกนาส เราได้เสียเพื่อนไปในช่วงการต่อสู้นี้…”
“เห็นลูกตานั่นไหม?นั่นคือลูกตาเทียมของศาสตราจารย์วิเชียสศพเขาถูกทำลายอย่างสมบูรณ์และนี่คือสิ่งเดียวที่เขาทิ้งไว้..”
“นี่คือค้อนสงครามของหัวหน้าบิชอปที่เพิ่งนำมาวาง”
เมื่อได้ยินคำอธิบายของเรย์มอนด์เฟย์ดินก็มองผ่านสิ่งประดิษฐ์ขณะเปรียบเทียบพวกมันกับภาพที่หานเซี่ยวส่งให้
ทันใดนั้นเฟย์ดินก็หยุดชะงัก สายตาเขาจับจ้องตู้โปร่งใส
กล่องขาวที่มีรอยไหม้ถูกวางไว้ในตู้มันดูธรรมดามาก
“นี่คืออะไร?”ความยินดีฉายผ่านตาของเฟย์ดิน
นี่คือสิ่งที่หานเซี่ยวให้เขาตามหา
นี่คืออะไร?มันง่ายขนาดนี้เชียว?ฉันคิดว่ามันจะยากกว่านี้ซะอีก
“ขอฉันคิดก่อนนะ..”เรย์มอนด์คิดสักพักก่อนกล่าว”ฉันจำได้แล้ว!นี่คือของจากหนึ่งในปฏิบัติการเรามีคนที่อยากโค่นอารยธรรมพื้นผิวด้วยอาวุธที่เขาลักลอบมา เมื่อเราได้ยินข่าว เราก็ออกเดินทางไปเพื่อกำจัดเขา เราพบของหลายชิ้นในห้องเก็บของเขาและนี่ก็คือหนึ่งในนั้น”
“มันใช้ทำอะไรได้?”
เฟย์ดินอยากรู้มากเขาอยากรู้ว่าของอะไรที่แบล็คสตาร์ถึงพูดว่าอยากได้
“เราไม่ชัดเจนถึงต้นกำเนิดมันและรู้แค่ว่ามันจะเสริมพลังงานจิตและการป้องกันทางจิตแต่ทว่า ผู้ใช้จะเกิดภาพหลอนหากใช้กล่องเป็นเวลานาน และพวกเขาจะได้ยินเสียงในหู ดังนั้น เราจึงเรียกมันว่ากล่องแห่งการล่อลวง เราผนึกกล่องไว้หลังหนึ่งในสหายเราคลุ้มคลั่งเพราะมัน”
ขณะกล่าวเช่นนั้นเรย์มอนด์ก็พลันมีสีหน้าสับสน”ไม่ใช่ว่าเราผนึกของชิ้นนี้ไปแล้ว?ใครนำมันกลับมาแสดง?”
ตอนนี้เองเฟย์ดินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ความสนใจเขายังอยู่ที่กล่อง เขาสามารถได้ยินเสียงเบาๆกำลังร้องเรียกเขาและล่อเขาให้แตะกล่อง
เขาใช้พลังงานจิตเพื่อสแกนกล่องเขารู้สึกราวกับว่ากล่องนั้นถูกปกคลุมด้วยม่านพลังจิต
เฟย์ดินอยากดูสิ่งที่อยู่ในกล่องและแปลงพลังงานจิตเขาเป็นสว่านเพื่อเจาะกระแสจิตของกล่องแต่ทว่า วินาทีที่พลังงานจิตเขาสัมผัสกับกล่อง ใบหน้าเขาก็เปลี่ยนไปและรีบตัดพลังงานจิตเขาที่ถูกดูดเข้ากล่อง
เมื่อเห็นเช่นนั้นเรย์มอนด์ก็โบกแขน”หยุดพยายามเถอะ มันเปล่าประโยชน์ ผู้ใช้พลังจิตเราเคยลองแล้ว แต่พลังงานจิตไม่สามารถตรวจสถานการณ์ภายในกล่องได้เลย”
“เราสามารถเปิดกล่องตามปกติได้ไหม?”
“ได้แต่ไม่มีอะไรข้างใน”เรย์มอนด์เปิดตู้และเปิดกล่อง
ตอนนี้เองออโรร่าก็ศอกใส่เอวเฟย์ดินและทำสัญญาณมือ
เฟย์ดินเข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไรมันมีพลังชีวิตอยู่ในกล่อง
แบล็คสตาร์คงไม่อยากได้กล่องเปล่าเป็นแน่ของที่เขาต้องการแปลกจริงๆ เฟย์ดินคิดกับตัวเอง
จากนั้นเรย์มอนด์ก็วางกล่องกลับไปในตู้และพาทั้งสองเดินชมต่อ
…
หลังเดินชมทั้งฐานและพบกับสมาชิกใหม่บางคนเฟย์ดินกับออโรร่าก็กล่าวลาเรย์มอนด์ก่อนกลับไปห้องพวกเขา
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงพวกเขาก็ออกห้องและเดินตรงไปพิพิธภัณฑ์
สิ่งประดิษฐ์ในนี้แค่มีความหมายเชิงระลึกถึงอุปกรณ์เฝ้าระวังในนี้จึงมีระดับต่ำ เฟย์ดินนำอุปกรณ์แทรกซึมอัตโนมัติของกองทัพขึ้นมา เมื่อเขากำลังจะเสียบเข้ากับประตู เขาก็ถูกหยุดโดยออโรร่า
“คิดจะเดินเข้าไปทั้งอย่างนี้หรือไง?”ออโรร่าถามอย่างสงสัย”สัญญาณเตือนจะดังนะ”
“ฉันรู้”เฟย์ดินกล่าวช้าๆ”ตั้งแต่ที่แบล็คสตาร์อยากได้ของมันก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะสู้กลับ ฉันไม่ชอบรังแกคนอ่อนแอและพวกเขาก็ไม่ใช่กลุ่มคนร้าย ต่อให้ฉันอยากได้ของ ฉันก็ต้องปล่อยให้พวกเขารู้เหตุผล ฉันไม่เต็มใจทำเหมือนพวกหัวขโมย”
“นี่ไม่ดีเลยนะแล้วหากแบล็คสตาร์มีเจตนาของเขาเองละ?”ออโรร่าลังเล
ความจริงแล้วเธอเองก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นหัวขโมย
“เขาไม่มีคำขออะไรพิเศษต่อให้มี..เขาก็แค่จะตำหนิฉันเท่านั้น”
เฟย์ดินยิ้มเดินเข้าห้องไปและหยิบกล่องขึ้นมา
ตี้ดตี้ด…
เขาไม่สนใจสัญญาณเตือนและนำออโรร่าไปทางเข้าของยาน
เขาไม่เจอกับอะไรระหว่างทางเลยเจอแค่เรย์มอนด์ สเลดกับสมาชิกคนอื่นของพันธมิตรลงทัณฑ์ตรงประตูยาน
“ทำไมพวกนายสองคนถึงอยากขโมยกล่องแห่งการล่อลวง?”เรย์มอนด์มีสีหน้าขมขื่นและไม่เต็มใจเชื่อสิ่งที่เห็น
สเลดกัดฟันกล่าวเสียงเย็น”ฉันเกือบเชื่อใจพวกแก!พวกแกมีเจตนาอื่นจริงๆ!”
“บางทีพวกเขาอาจถูกล่อลวงด้วยกล่อง..”เรย์มอนด์มองเฟย์ดินด้วยสายตาซับซ้อนซึ่งมีร่องรอยของความหวังในนั้น
“ฉันขอโทษ”เฟย์ดินส่ายหัว”ฉันมาที่นี่เพื่อของชิ้นนี้”
เรย์มอนด์อดถามไม่ได้”การที่ช่วยฉันก็รวมอยู่ในแผนด้วยงั้นหรอ?”
“นายจะเชื่อไหมหากฉันบอกว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ?”เฟย์ดินกล่าว.ไอลีนโนเวล.
จากนั้นสเลดก็ก้าวออกมาชี้อาวุธเขาใส่ทั้งสอง”ฉันเคยบอกไปแล้ว หากฉันพบว่าพวกแกสองคนมีเจตนาอื่น ฉันจะไม่แสดงความเมตตา ในเมื่อพวกแกยอมรับแล้ว ก็วางกล่องลงซะและยอมจำนนหรือจะเจอกับพลังของอาวุธฉัน!”
เฟย์ดินมองกลุ่มฮีโร่ที่กำลังกระวนกระวายใจ”ออร่าและฉันช่วยพวกนายไว้บนศูนย์เอ็นย่าพวกนายคิดจะสู้กับเราจริงๆงั้นหรอ?”
เมื่อได้ยินมันก็ราวกับว่าพวกเขาถูกสาดด้วยน้ำเย็น
เขาพูดถูกหากไม่ใช่ความสามารถรักษาของออร่า พวกเขาคงบาดเจ็บสาหัสหรือล้มตายกันไปแล้ว มันคงไม่พูดเกินไปที่จะบอกว่าทั้งคู่ช่วยชีวิตพวกเขาไว้ แม้ทั้งคู่จะมีเจตนาอื่น มันก็ไม่ใช่เรื่องโกหกที่ทั้งคู่เคยช่วยพวกเขามาก่อน
ทุกคนดูลำบากใจและหมดความตั้งใจต่อสู้
สเลดเองก็เหมือนกันแต่เขาก็รีบสลัดอารมณ์ดังกล่าวออกไป จับอาวุธแน่น”นี่มันไม่เกี่ยวกัน!นายจะกลายเป็นศัตรูเราหากอยากขโมยกล่องแห่งการล่อลวง!เราจะไม่ปล่อยนายไป!”
จากนั้นเฟย์ดินก็เหลือบมองกลุ่มฮีโร่และนั่งลงกับพื้น
“เอาละงั้นฉันจะไม่ไปไหน”
ทุกคนตกตะลึง
“นายกำลังทำอะไร?”เรย์มอนด์ถาม
“รอให้คนมารับ”จากนั้นเขาก็หลับตาทำสมาธิ
“นายนี่มันจริงๆเลย”ออโรร่าผู้อยู่ข้างๆเหลือบมองกลุ่มฮีโร่และกล่าวอย่างช่วยไม่ได้”ทำไมพวกนายถึงยังถืออาวุธอีกละ?อยากโจมตีฉันจริงๆงั้นหรอ?”
สเลดมีสีหน้าลังเลหลังคิดสักพัก เขาก็ตัดสินใจเก็บอาวุธไป
เพียงเมื่อทุกคนกำลังตื่นตัวประตูยานก็เปิดและเงาร่างสีดำก็ยืนอยู่นอกยานอวกาศ
สมาชิกพันธมิตรลงทัณฑ์หันไปมองและประหลาดใจ
คนที่มาถึงคือแบล็คสตาร์!
“คุณคุณ…”ดวงตาของเรย์มอนด์เบิกกว้าง
หานเซี่ยวเหลือบมองเขาก่อนนำองครักษ์แบล็คสตาร์ไปหาเฟย์ดิน
สมาชิกพันธมิตรลงทัณฑ์เปิดเส้นทางให้โดยไม่รู้ตัวทำไมแบล็คสตาร์ถึงมาที่นี่?เกิดอะไรขึ้นกันแน่?!
จากนั้นเขาก็มองเฟย์ดินพูดอย่างหน่ายใจ”ทำไมถึงต้องทำเรื่องให้มันยุ่งยากด้วย?หยุดเล่นได้แล้ว”
เฟย์ดินยิ้มและยืนขึ้น”นายก็รู้นิสัยฉัน”
“ใช่ฉันรู้นิสัยนายตั้งแต่เราอยู่บนดาวซันนิล’หานเซี่ยวลูบหัวอย่างช่วยไม่ได้และพูดติดตลก”หากนายยังประมาทแบบนี้ ฉันคงไม่กล้าใช้นายอีกในอนาคต”
“ฉันรู้วิธีแยกแยะความแตกต่างระหว่างเรื่องสำคัญและไม่สำคัญฉันไม่อยากข้ามเส้นด้วยเรื่องเล็กๆแบบนี้ นอกจานกี้ นายไม่ควรขอให้ฉันเป็นหัวขโมย”เฟย์ดินกระพริบตาปริบๆ
“เห้อการหลีกเลี่ยงงานไม่ใช่เรื่องง่ายนะ”หานเซี่ยวคร่ำครวญ
ทุกตัวละครเอกล้วนมีหลักการของตนมันเป็นไปไม่ได้ที่จะสั่งให้พวกเขาทำทุกอย่าง
เมื่อได้ยินบทสนทนานี้ทุกคนก็ตะลึงงัน
สเลดกังวลเล็กน้อยและอดร้องถามไม่ได้’นายเป็นใครกันแน่?!”
เฮดาวี่เหล่ตามองและแค่นเสียง”เขาชื่อเฟย์ดินรองผู้บัญชาการขององครักษ์แบล็คสตาร์”
ร่างของสเลดแข็งค้าง
เขาไม่อยากเชื่อว่าเขาจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลเช่นนั้นจริงๆ
บุคคลเช่นนั้นสามารถฆ่าเขาได้ง่ายๆเหมือนกับบี้มดมันเป็นเรื่องตลกที่เขาคิดว่าเฟย์ดินจะกลัวพวกเขา มันกลายเป็นว่าอีกฝ่ายไม่สนใจพวกเขาเลยและอาจมองพวกเขาเป็นเด็กด้วยซ้ำ
ใบหน้าของสเลดขาวซีดคิดถึงน้ำเสียงที่ใช้กับเฟย์ดิน เขาเต็มไปด้วยความตกใจและความกลัวในหัวใจ
ตอนนี้เองหานเซี่ยวกล่าวขึ้น”เอาละ ในเมื่อนายอยากปล่อยให้พวกเขารู้เหตุผล..”
จากนั้นเขาก็หันกลับมาดูดกล่องมาบนฝ่ามือเขา ออกแรง บดขยี้มันจนแหลกเป็นชิ้นๆ
“อ้ากกก!”
จากนั้นทุกคนก็รู้สึกได้ถึงพลังงานจิตอันทรงพลังที่ระเบิดจากกล่อง
ใบหน้าของกลุ่มฮีโร่ขาวซีดพวกเขารีบปิดหู แต่ก็ยังได้ยินเสียงร้องแหลมที่กรีดบาดในจิตใจพวกเขา
เสียงในหัวพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นราวกับคนที่ถูกปล่อยตัวหลังโดนขังมานานหลายปี!