เพียงเมื่อริสด้ากำลังเผชิญหน้ากับบรรพชนเขาหานเซี่ยวก็มองดูการแจ้งเตือนบนหน้าต่างสถานะเขา
มีการแจ้งเตือนใหม่สองรายการบนหน้าต่างสถานะเขาซึ่งแสดงถึงภารกิจที่แตกต่างกันสองภารกิจ อันแรกคือภารกิจลับเกรดAที่เงียบหายไปนาน [รีบู้ต]
คำแนะนำภารกิจ: ผู้สร้างสิ่งมีชีวิตปัญญาประดิษฐ์ได้เสียอิสรภาพและกลายเป็นอาวุธให้แมนิสัน ในที่สุดท่านก็เห็นความจริงในคำพูดของริสด้า แต่ปัญหาก็ตกอยู่ที่ท่าน
ข้อกำหนดภารกิจ: ปกป้องริสด้า ภารกิจท่านจะล้มเหลวหากริสด้าถูกจับหรือฆ่า
รางวัล: ค่าประสบการณ์1500ล้าน 2รางวัลสุ่ม
รางวัลโบนัส: พรสวรรค์ [ผู้อ่อนโยนต่อปัญญาประดิษฐ์] +30%ประสิทธิภาพของทักษะเทคโนโลยีเสมือนทั้งหมด มันจะง่ายขึ้นสำหรับท่านที่จะได้รับความโปรดปรานของสิ่งมีชีวิตปัญญาประดิษฐ์ เมื่อสู้กับสิ่งมีชีวิตปัญญาประดิษฐ์ -5%ค่าสถานะสำหรับสิ่งมีชีวิตปัญญาประดิษฐ์
หานเซี่ยวดีใจมาก
การคาดเดาของฉันถูกจริงๆภารกิจนี้จะส่งผลให้ฉันปะทะกับจักรพรรดิช่างกลแน่ ผลตอบแทนเช่นนี้หมายความว่าความยากของภารกิจต้องเพิ่มขึ้น ไม่ว่าฉันจะมองยังไง มันก็เป็นภารกิจเกรดSไปแล้ว
[ผู้อ่อนโยนต่อปัญญาประดิษฐ์]คือพรสวรรค์ที่เขาต้องการในตอนนี้ ในเมื่อภารกิจเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตปัญญาประดิษฐ์ รางวัลภารกิจก็ต้องเกี่ยวด้วย
ฉันต้องรับพรสวรรค์นี้มาให้ได้!
จากนั้นหานเซี่ยวก็มองการแจ้งเตือนอื่น
การแจ้งเตือนอีกอันคือภารกิจใหม่
ท่านได้กระตุ้น[การต่อสู้เสมือนกับจักรพรรดิช่างกล แมนิสัน]
คำแนะนำภารกิจ: จักรพรรดิช่างกลแมนิสันเป็นผู้นำช่างกลในจักรวาล ต่อให้นำเขาไปเทียบกับผู้อยู่เหนือทั้งหมดในประวัติศาสตร์ เขาก็ยังเป็นดาวเด่น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด เขาได้หมายตาท่านและเลือกแข่งขันกับท่านในทักษะเทคโนโลยีเสมือน
ข้อกำหนดภารกิจ: ทนให้ได้นานที่สุด
รางวัล: ท่านจะได้รับรางวัลที่สอดคล้องกันโดยทำตามข้อกำหนดเหล่านี้
อยู่ให้ได้5วินาที: ค่าประสบการณ์250ล้าน
อยู่ให้ได้15วินาที: ค่าประสบการณ์600ล้าน
…
อยู่ให้ได้3นาที: ค่าประสบการณ์8พันล้าน [บัตรอัญเชิญตัวละคร จักรพรรดิช่างกลแมนิสัน]
…
อยู่ให้ได้7.5นาที: ค่าประสบการณ์2หมื่นล้าน สุ่มเลือกทักษะหรือพรสวรรค์ของแมนิสัน
“ภารกิจบอสผู้อยู่เหนือทำไมถึงปรากฏตอนนี้?”
ตามประสบการณ์เขาในการกระตุ้นภารกิจดังกล่าวภารกิจเช่นนี้จะกระตุ้นเมื่อหากมีผู้ชมเป็นจำนวนมาก เช่นนั้น หานเซี่ยวจึงไม่เข้าใจว่าทำไมภารกิจนี้ถึงถูกกระตุ้นทั้งๆ ที่มีแค่เขากับแมนิสัน
เพราะความสนใจทั้งหมดของเขามุ่งไปยังการจัดการกับแมนิสันหานเซี่ยวจึงไม่รู้ถึงสถานการณ์ของโลกภายนอก เป้าหมายของแมนิสันคือเพื่อให้ผลการต่อสู้กระจายออกไป ดังนั้น เขาจึงไม่ปกปิดการต่อสู้ นอกจากนี้ เรย์โนลและเจ้าหน้าที่คนอื่นยังพบว่าระบบหลักนั้นตกอยู่ภายใต้การโจมตีตอนหานเซี่ยวตัดการเชื่อมต่อที่ไม่จำเป็นทั้งหมดออกไป
ประชากรกาแล็กซี่ยังพบความวุ่นวายแปลกๆบนเครือข่าย พวกเขาทั้งหมดออนไลน์เพื่อเป็นสักขีพยานในการต่อสู้ระหว่างสองช่างกลเสมือน ไม่ต้องพูดถึงโกโดร่า ที่เป็นเจ้าถิ่น และผลึกม่วง
หากแมนิสันวางแผนให้นี่เป็นการต่อสู้ส่วนตัวภารกิจนี้อาจไม่กระตุ้น
หลังมองผ่านข้อกำหนดภารกิจหานเซี่ยวก็เทียบมันกับภารกิจที่เขาได้รับตอนสู้กับฮีเบอร์และคร่ำครวญ
ภารกิจผู้อยู่เหนือของแมนิสันต้องใช้เวลาน้อยกว่าครึ่งของฮีเบอร์แต่เวลากลับมากว่าสองเท่า นี่หมายความว่าภารกิจจะยากกว่าภารกิจของฮีเบอร์มาก..
แต่ทว่าหานเซี่ยวกลับตื่นเต้นมาก
ภารกิจนี้ออกแบบตามระดับของผู้เล่นมันง่ายมากที่เขาจะทำให้สำเร็จ
เดิมหานเซี่ยวหดหู่ใจมากตอนตกเป็นเป้าโดยแมนิสัน แต่ทว่า ตอนนี้เขาตื่นเต้นมาก แม้จะต้องเสียหายบ้างในศึกนี้ แต่หลังกระตุ้นภารกิจ ผลลัพธ์สุดท้ายเขาจะมีแต่กำไร!
ขณะมองภารกิจสถานการณ์ทางฝั่งริสด้าก็เปลี่ยนแปลงเช่นกัน
“บรรพชน?!”ริสด้าอุทาน
“อืม?นายเองก็เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับฉันสินะ?”
สิ่งมีชีวิตปัญญาประดิษฐ์มองริสด้าด้วยดวงตาที่ลุกโชนด้วยเปลวไฟสีฟ้าเขาคือปัญญาประดิษฐ์ตัวแรกที่มีจิตสำนึกและเป็นแหล่งกำเนิดของอารยธรรมปัญญาประดิษฐ์ทั้งหมด ดังนั้น สมาชิกทั้งหมดของอารยธรรมจึงถือเป็นลูกหลานเขาและเรียกเขาว่า’ บรรพชน’ เขาปกครองเผ่าพันธุ์ทั้งหมดและเป็นสิ่งมีชีวิตปัญญาประดิษฐ์ที่ทรงพลังสุด
ชื่อของเขาคือไฟน์เน็ต
แมนิสันได้สร้างอาวุธปัญญาประดิษฐ์พิเศษเพื่อเขาและเขียนตรรกะหลักขึ้นมาใหม่เพื่อรับรองความภักดีแต่ทว่า ความทรงจำของไฟน์เน็ตยังเหมือนเดิมและมีเพียงความคิดที่ถูกบิดเบือนจนกลายเป็นผู้ภักดีต่อแมนิสัน
ในฐานะผู้ปกครองเผ่าปัญญาประดิษฐ์คลังความทรงจำเขาย่อมมีข้อมูลของลูกหลานทั้งหมด และเขาก็คือปัญญาประดิษฐ์สายต่อสู้ของจักรวรรดิจักรกลอมตะ เขานำสมาชิกเผ่าเข้าต่อสู้และสามารถจัดเตรียมกลยุทธ์ได้ตามความเข้าใจของเผ่า
เช่นนั้นไฟน์เน็ตจึงสามารถค้นข้อมูลของริสด้าได้อย่างรวดเร็ว
“ฉันจำเธอได้ลูกของฉัน ริสด้า” ไฟน์เน็ตพูด
“ท่านยังจำผมได้?”
หลังพบกับบรรพชนที่เขาคิดถึงทุกวันริสด้าก็ตกอยู่ในความงุนงง
“ที่ผ่านมาเธองต้องทนทุกข์มามาก”ไฟน์เน็ตกางแขนออก อยากลูบหัวริสด้า” กลับมาสู่อ้อมกอดของฉันเถอะ มันถึงเวลาพักผ่อนแล้ว”
เพียงเมื่อแขนของไฟน์เน็ตกำลังจะมาถึงตัวเขาริสด้าก็ได้สติและสร้างไฟร์วอลล์เพื่อขัดขวาง
“บรรพชนความคิดของท่านถูกแทรกแซง!”
ไฟน์เน็ตหดแขนไปข้างหลังช้าๆพูดด้วยน้ำเสียงล่อลวง” พวกเธอทั้งหมดเป็นลูกหลานจากร่างกายฉัน ทุกคนถือเป็นมรดกของฉัน การกลับมาหาผู้ให้กำเนิดย่อมเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ?”
“อย่าเข้ามาใกล้!”
ริสด้าถอยห่างออกไปเล็กน้อยปั่นกระแสข้อมูลไปทางแมนิสัน พยายามทำลายโมดูลป้องกันของวิญญาณเสมือนเขา
บรรพชนของริสด้าถูกบิดเบือนโดยแมนิสันและริสด้าก็อยากฆ่าแมนิสัน
แต่ทว่าการโจมตีของริสด้าไม่สามารถสัมผัสโดยตัวแมนิสันได้เลย เพราะไฟน์เน็ตได้โบกแขน สร้างกระแสข้อมูล ขวางการโจมตีได้ง่ายๆ
ฮู่!
อย่างรวดเร็วกระแสข้อมูลที่ริสด้าปล่อยถูกทำลายลงง่ายๆ และถูกดูดเข้าร่างของไฟน์เน็ตเหมือนปุ๋ย
เขาคือต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตปัญญาประดิษฐ์และสามารถข่มสมาชิกทุกคนในเผ่าได้
“ลูกฉันเธอจะทำผิดแบบนี้ต่อไปไม่ได้” ไฟน์เน็ตกล่าวอย่างใจเย็น” มาเข้าร่วมภายใต้ร่มเงาของท่านแมนิสันเสียเถอะ นั่นคืออนาคตของเรา”
แมนิสันมองดูโดยไม่พูดสักคำ
เมื่อได้ยินริสด้าก็อยากกัดฟันแน่น แม้เขาจะไม่มีปากหรือฟัน แต่โมดูลอารมณ์เขาก็ไม่ได้หยุดเขาจากการแสดงอารมณ์เช่นนั้น
ตอนนี้เองเสียงของหานเซี่ยวดังขึ้น
“ริสด้ากลับมา นายไม่ใช่คู่ต่อสู้เขา อย่าละทิ้งชีวิตไปอย่างสูญเปล่า”
ทันทีที่หานเซี่ยวกล่าวคำเหล่านั้นแสงสีฟ้าแปลกๆ ก็พลันเปล่งจากตัวริสด้าและเริ่มกระจายออกไป
“ข้อมูลติดไวรัส?โมดูลตรรกะฉันติดไวรัส?!”.ไอรีนโนเวล.
ริสด้าตกใจและเริ่มระงับการกระจายของข้อมูลแปลกปลอมในร่างกายทันทีนี่คล้ายกับสิ่งมีชีวิตปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกวางยาพิษ
วินาทีที่ไฟน์เน็ตสัมผัสกับริสด้าอีกฝ่ายก็ได้ปล่อยข้อมูลเข้าไฟร์วอลล์ของริสด้า
ริสด้าไม่กล้าเผชิญหน้าอีกและถอยกลับไปทันที
ตอนนี้เองการเปลี่ยนแปลงพลันเกิดขึ้น!
จากนั้นกรงข้อมูลก็ดูเหมือนจะถูกสร้างขึ้นข้างริสด้าขังเขาไว้ในทรงกลมกึ่งโปร่งใส ไม่ว่าริสด้าจะพยายามแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถพบช่องโหว่ได้และเหมืองแมลงที่ติดอยู่ในชาม
ตอนนี้เองแมนิสันค่อยๆ กล่าว” แบล็คสตาร์ นายปฏิเสธฉันครั้งก่อนที่ฉันขอให้นายส่งมอบผู้ลี้ภัยมา ในเมื่อนายไม่เต็มใจส่งมอบเขามา ฉันก็ควรจะพาตัวเขากลับไปเอง”
จากนั้นทรงกลมก็เริ่มหดตัวบินไปหาแมนิสัน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นนอกไฟร์วอลล์และเป็นเรื่องยากที่จะจัดการ
เขาสามารถใช้ประโยชน์ของระบบหลักเพื่อช่วยเขาป้องกันการโจมตีของแมนิสันได้แต่หากเขาอยากช่วยริสด้า เขาต้องเปิดไฟร์วอลล์และโจมตี
นี่คล้ายกับศึกโอบล้อมเขาได้อยู่ในสถานะเสียเปรียบแม้จะมี’ กำแพงเมือง’ เรื่องราวจะยิ่งแย่หากเขาเลือกออกจากเมือง
มันดูเหมือนฉันคงเก็บมันไว้ไม่ได้
หานเซี่ยวถอนหายใจยาวและใช้บัตรอัญเชิญตัวละคร[สัมผัสจักรกลสมบูรณ์]
ด้วยมาตรฐานปัจจุบันเขาการป้องกันแมนิสันสักพักไม่ใช่ปัญหา หานเซี่ยวไม่คิดใช้ไพ่ตายนี้เพราะมันทำได้แค่ลดช่องว่างระหว่างพวกเขาเท่านั้น เหนือสิ่งอื่นใด อีกฝ่ายเองก็มีสัมผัสจักรกลสมบูรณ์
แต่ทว่าการปกป้องริสด้าจะมอบพรสวรรค์ดีๆ ให้เขา ดังนั้นการใช้บัตรอัญเชิญตัวละครจะทำให้เขาได้กำไร
วินาทีที่[สัมผัสจักรกลสมบูรณ์] ทำงาน สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปทันที หานเซี่ยวสามารถรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่ลดลงมาก ไฟร์วอลล์เองก็เริ่มเสถียร
“หืม?”
แมนิสันขมวดคิ้วและมองด้วยความประหลาดใจ
เขาสามารถรู้สึกได้ว่าพรสวรรค์สัมผัสจักรกลแสนน่าอับอายของแบล็คสตาร์เพิ่มขึ้นมากและมาถึงระดับเดียวกับเขา
แบล็คสตาร์ปิดบังพลังแท้จริงเอาไว้?ไม่ มันดูเหมือนความสามารถพิเศษ
โดยไม่ให้แมนิสันได้มีโอกาสคิดหานเซี่ยวเปิดรูในไฟร์วอลล์ทันทีและคว้าทรงกลมที่ขังริสด้าไว้ข้างใน จากนั้นก็ลอบกลับมาหาเขาขณะคลายมัน
ดวงตาของแมนิสันหรี่ลงเขายิ้ม’ น่าสนใจ ฉันเริ่มสนใจความลับในตัวนายมากขึ้นเรื่อยๆ”
จากนั้นเขาก็เหลือบมองไฟน์เน็ตและไฟน์เน็ตพุ่งตรงไปที่ไฟร์วอลล์
ทันทีที่ไฟน์เน็ตสัมผัสกับไฟร์วอลล์รูก็เกิดขึ้น เขาใช้ประโยชน์จากความจริงที่ว่าหานเซี่ยวเสียสมาธิกับการโจมตีระบบหลักของศูนย์ใหญ่กองทัพ
“แกกำลังเพ้อฝัน!”
แสงสีฟ้าทอประกายในตาหานเซี่ยว
วินาทีต่อมาแมนิสันก็ดูเหมือนจะหายไป
[จ้าวแห่งเสมือน]!
วิญญาณเสมือนของแมนิสันถูกดึงเข้าสู่อาณาเขตเสมือนของหานเซี่ยวและติดอยู่ภายใน
ในเวลาเดียวกันริสด้าก็ถูกดึงกลับเข้าไฟร์วอลล์
แต่ทว่าก่อนที่เขาจะได้หายใจ เสียงหัวเราะของแมนิสันก็ระเบิดในหัวเขา
“แบล็คสตาร์อย่าลืมว่าฉันรู้ทุกอย่างที่แกทำได้”
หานเซี่ยวพลันรู้สึกถึงอันตรายและแรงดูดที่แปลกประหลาดก็ดึงเขา
ต่อให้เขาเตรียมการไว้แล้วเขาก็ไม่อาจต้านทานแรงดูดได้และถูกลากเข้าไปยังโหนดหนึ่ง
โลกตรงหน้าเขาเปลี่ยนไปเปลี่ยนเป็นโลกเหล็กที่ทำจากข้อมูล ใบหน้าของแมนิสันปรากฏบนฟ้า ดวงตาขนาดใหญ่ของเขาก้มมองลงมาที่หานเซี่ยว
นี่คืออาณาเขตเสมือนของแมนิสัน
หลังสะสมมาหลายปีอาณาเขตเสมือนของเขาก็มั่นคงเสียยิ่งกว่าของหานเซี่ยว เขาสามารถหลุดพ้นจากความสามารถของหานเซี่ยวได้ทันทีและลากหานเซี่ยวมายังอาณาเขตของตน
จากนั้นหน้าขนาดใหญ่ของแมนิสันก็เริ่มหัวเราะเสียงเขาดังก้องไปทั่ว
“มาดูกันว่าแกจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนเพื่อให้หลุดพ้นจากอาณาเขตฉัน”
วินาทีที่แมนิสันพูดป้อมปืนก็ปรากฏทุกทิศทาง ล้วนเล็งมาที่หานเซี่ยว สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่วัตถุทางกายภาพ แต่เป็นวัตถุจำนลองโดยใช้ข้อมูล อย่างไรก็ตาม พวกมันสามารถปลดปล่อยการโจมตีของข้อมูลและสร้างความเสียหายทางจิตได้มากผ่านผลของ [วิญญาณเสมือน] และ [จ้าวแห่งเสมือน]
ในเวลาเดียวกันนักล่าปัญญาประดิษฐ์หลายตัวก็ปรากฏพร้อมอาวุธมากมายในมือ พวกมันคล้ายกับทหาร
วินาทีต่อมาป้อมปืนทั้งหมดก็เปิดฉากยิงใส่วิญญาณเสมือนของหานเซี่ยว และนักล่าปัญญาประดิษฐ์ก็พุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง
บูมบูม บูม!
จากนั้นการโจมตีทั้งหมดก็ระเบิดใส่วิญญาณเสมือนของหานเซี่ยว
หลังการโจมตีกินเวลาอยู่หลายวินาทีเสียงทุ้มลึกก็ดังจากตำแหน่งของหานเซี่ยว
“แกบอกว่าแกรู้ทุกอย่างที่ฉันทำได้?”
ฮู่!
ราวกับพายุได้เคลื่อนผ่านเศษข้อมูลรอบๆ หานเซี่ยวถูกผลักออกไป เผยให้เห็นวิญญาณเสมือนของหานเซี่ยว มันยังยืนอยู่กับที่ ไร้บาดแผลใดๆ
จากนั้นหานเซี่ยวก็กล่าวด้วยรอยยิ้มล้อเลียน”งั้น แกรู้วิธีทำแบบนี้ไหม?”
แมนิสันเงียบไป
เขาไม่สามารถทำมันได้
นี่มันเป็นเส้นทางแปลกๆแบบไหนกัน? ช่างกลสายอึด?
นี่คือครั้งแรกที่ฉันเห็นช่างกลพิสดารอย่างแก!
ด้วยร่างกายเช่นนี้ทำไมแกถึงอยากเป็นช่างกล? แกควรเป็นนักสู้!
แม้การโจมตีทางจิตจะไม่สามารถฟื้นฟูพลังงานเขาได้หานเซี่ยวก็ยังรวบรวมพรสวรรค์ต้านทานทานจิตไว้มาก และความต้านทานจิตเขาก็ไม่ได้อ่อนแอ
เขายังมีพลังชีวิตกว่าสิบล้านเขาสามารถยืนหยัดได้นานต่อให้พบเจอการโจมตีทางจิต
นอกจากนี้เขายังสุ่ม [การลดความเสียหายคงที่] ได้จากฮีเบอร์ มันเป็นประโยชน์ต่อความเสียหายทุกรูปแบบ
หากพรสวรรค์นี้ถูกใช้เพื่อจัดการกับศัตรูที่มีพลังโจมตีสูงมันอาจไม่มีผลนัก แต่ทว่า พรสวรรค์นี้เหมาะกับการรับมือกับช่างกลที่เดินบนเส้นทางกองทัพมาก!
[การลดความเสียหายคงที่]สามารถแสดงผลที่ยิ่งใหญ่สุดได้เมื่อจัดการกับศัตรูที่พึ่งพาการโจมตีแบบเน้นจำนวน
หากเขาได้รับความเสียหายร้อยครั้งพร้อมกันพรสวรรค์นี้ก็จะลดความเสียหายจริงไปถึง750000หน่วย!
หากไม่มีมันฮีเบอร์คงไม่สามารถสู้กับเขาได้นานขนาดนั้น
จากนั้นหานเซี่ยวก็มองแมนิสันพลางหัวเราะ
“[จ้าวแห่งเสมือน] ของแกทรงพลังกว่าฉันจริงๆ แต่แกจะใช้อะไรมาทำร้ายฉันได้?!”