CR เพื่อนบ้านลายน้ำตัว L
ตอนที่ 1443 กลั่นแกล้งจิ่วจุงเสินจู่
คำพูดของเย่เสี่ยวเสี่ยวทำให้หลี่ชิเย่ถึงกับทำอะไรไม่ถูก แต่ว่า สุดท้ายแล้ว เขายังคงกล่าวด้วยท่าทีจริงจังว่า “เทพธิดาเก็บจันทรา นาง นางมีความงดงามอย่างแท้จริง สวยราวกับนางฟ้า! ”
ครั้นกล่าวถึงตรงนี้แล้ว หลี่ชิเย่ถึงกับทอดถอนใจภายในใจเบาๆ มู่เยว่หลีเป็นชื่อที่ทำให้ผู้คนยากจะลืมเลือน ครั้งนั้นผ่านเหตุการณ์อะไรมามากมาย มาถึงวันนี้เรื่องบางเรื่องจำเป็นต้องไปเผชิญหน้ากับมัน
ในอนาคต เขาจะต้องมุ่งหน้าตรงไปยังสุดปลายทางของโลก บางทีการไปครั้งนี้อาจจะไม่ได้กลับมาอีกเลย บุญคุณความแค้นที่ผ่านมา สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็สมควรแก่เวลาที่จะต้องสะสางเสียที
“เจ้าเคยเห็นเทพธิดาเก็บจันทรามาแล้วจริงหรือ? ” เย่เสี่ยวเสี่ยวไม่ค่อยอยากจะเชื่อ กล่าวว่า “ลือกันว่า หลังจากที่เทพธิดาเก็บจันทราถอนตัวออกจากยุทธภพแล้วก็ไม่มีใครได้เคยเห็นนางอีกเลย”
หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ กับท่าทีของเย่เสี่ยวเสี่ยวที่ดูเหมือนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง โดยไม่ได้พูดอะไรออกไป
หลี่ชิเย่พาเย่เสี่ยวเสี่ยวและซือหม่ายวี่เจี้ยนวิ่งมุ่งหน้าตรงไปยังเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ไปยังเมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์และเมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ในเวลานี้เรียกได้ว่าคึกคักน่าดู โดยเฉพาะบริเวณหุบเขาลึกและยอดเขาที่สูงชัน สามารถพบเห็นร่างเงาของผู้บำเพ็ญตนได้โดยทั่วไป
ทั้งหมดล้วนแล้วแต่มาจากเหตุของสมุนไพรเซียน เมื่อมีข่าวเรื่องสมุนไพรเซียนที่แพร่สะพัดออกไป ทุกคนจึงได้มุ่งหน้ามาเพื่อค้นหาสมุนไพรเซียน อีกทั้งยังมีผู้บำเพ็ญตน และหมอโอสถที่มีประสบการณ์ล้วนแล้วแต่มุ่งมาที่เทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น เนื่องจากเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์คือสถานที่ที่มีโอกาสกำเนิดต้นสมุนไพรเซียนได้มากที่สุด
ดังนั้น บรรดาหุบเหวลึก และยอดเขาสูงชันที่อันตรายปรกติแล้วจะมองไม่เห็นใครแม้แต่คนเดียว เวลานี้กลับสามารถมองเห็นได้ทุกหนทุกแห่ง แม้ว่าผู้คนจำนวนมากจะรับรู้ถึงอันตรายยิ่งของเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม โดยเฉพาะบริเวณที่ลึกเข้าไปของเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นั้น ยิ่งมีโอกาสถูกเมล็ดพันธุ์มุดเข้ากลางหน้าผากดื้อๆ แต่ทว่า ยังคงมีผู้คนจำนวนมากยอมเสี่ยงอันตรายต่อการที่ต้องกลายเป็นมนุษย์ต้นไม้เพื่อเข้าไปค้นหาสมุนไพรเซียน
ถ้าหากว่าสามารถค้นหาสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะได้จริง ย่อมหมายถึงร่ำรวยมหาศาล ต่อให้ตนเองไม่ใช้แต่ขายให้คนอื่นไป ก็จะได้รับประโยชน์ทั้งชาติ
เมื่อหลี่ชิเย่พาเย่เสี่ยวเสี่ยวและซือหม่ายวี่เจี้ยนปรากฎตัวที่เทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ พลันดึงดูดสายตาของผู้คนจำนวนมากเข้ามา
“คนโหดมาแล้ว คนโหดมาแล้ว” มีคนที่มองเห็นหลี่ชิเย่แต่ไกล อดไม่ได้ที่จะร้องเสียงดังออกมา
มาวันนี้ ชื่อเสียงด้านความโหดของหลี่ชิเย่โด่งดังไม่มีใครเทียบอยู่แล้ว ไฟแห่งความโหดของเขานั้นส่องสว่างไปทั่วฟ้าดิน ไม่ว่าใครก็ตามหากได้ยินชื่อของเขาแล้วต้องรู้สึกสั่นเทิ้มอยู่ในใจ
ทุกคนต่างทยอยกันหลีกเป็นทางให้เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ก้าวเดินเข้ามา ทุกที่ที่หลี่ชิเย่เดินผ่านไปก็จะเงียบกริบปราศจากเสียงใดๆ ไม่มีใครกล้าพูดจาให้ร้ายต่อหลี่ชิเย่
เมื่อครั้งที่หลี่ชิเย่ทำการบดขยี้ร่างที่เป็นร่างตัวแทนของเมิ่งเจิ้นเทียนนั้น ผู้คนจำนวนมากได้จัดอันดับของหลี่ชิเย่ไปอยู่ในระดับเดียวกันกับเมิ่งเจิ้นเทียนแล้ว ในบรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่ว่าจะเป็นโอรสสวรรค์ปกสมุทร หรือราชินีเทพเจ็ดสมุทร ยังต้องด้อยกว่าหลี่ชิเย่ขั้นหนึ่งในด้านของชื่อเสียง
“ว้าว ดูไม่ออกเลยว่า เจ้าคนอวดดีเจ้าก็มีอำนาจบารมีไม่ธรรมดานะเนี่ย” เย่เสี่ยวเสี่ยว ถึงกับเหลือบมองหลี่ชิเย่ทีหนึ่งและหัวเราะออกมา เมื่อเห็นทุกที่ที่เดินผ่านล้วนแล้วแต่เงียบกริบ
ในเวลานี้ก็มีเพียงเย่เสี่ยวเสี่ยวเท่านั้นที่กล้าพูดจาเช่นนี้กับหลี่ชิเย่เท่านั้น มีเพียงเย่เสี่ยวเสี่ยวที่สามารถทำตัวสบายๆ อิสระเสรีโดยไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่
“เฉกเช่นคนอย่างข้าที่ปราศจากผู้ต่อกรในหล้า ก็สมควรต้องมีอำนาจบารมีอยู่บ้าง” หลี่ชิเย่ หัวเราะและกล่าวตามอารมณ์ออกมา
“เชอะ คุยโว อวดดีขึ้นมาอีกแล้ว พอชมเข้าหน่อยก็ทันทีเลย ได้คืบเอาศอก! ”เย่เสี่ยวเสี่ยวมองดูหลี่ชิเย่อย่างดูแคลน กล่าวว่า “เวลานี้ เจ้าทำลำพองไปเถอะ รอให้ข้าได้เป็นปรมาจารย์พฤกษาก่อนเถอะ จะปราบเจ้าเป็นคนแรกเลย ให้เจ้าไม่ได้ผุดได้เกิดตลอดไป”
กล่าวพลาง นังหนูผู้นี้ทำท่าเท้าสะเอว แสดงออกถึงท่าทีที่ต้องการสยบหลี่ชิเย่เอาไว้
หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ กับท่าทีขึงขังของเย่เสี่ยวเสี่ยว ส่ายหน้าเบาๆ แล้วกล่าวว่า “ต่อให้เจ้ากลายเป็นปรมาจารย์พฤกษาที่ปราศจากผู้ต่อกร ไม่สิ ต่อให้เจ้ากลายเป็นราชันเซียน เมื่ออยู่ต่อหน้าข้าเจ้ามีแต่ถูกข้าสยบเพียงสถานเดียวเท่านั้น! ”
“ถุย ถุย ถุย หน้าไม่อาย เจ้าคนเลว! ” เย่เสี่ยวเสี่ยวพลันดุดันขึ้นมาทันที สายตาที่จ้องมองหลี่ชิเย่เหมือนต้องการฆ่าหลี่ชิเย่ให้ตายอย่างนั้น
“นังหนูน้อย เจ้าคิดไปถึงไหนแล้ว? ” หลี่ชิเย่ทำอะไรไม่ถูก ยิ้มกล่าวหยอกล้อไปว่า “อายุน้อยๆ ไม่รู้จักคิดอะไรเลย วันๆ เอาแต่คิดเรื่องที่น่าขายหน้าอย่างเดียว”
“เจ้าคนอวดดี ข้าจะฆ่าเจ้า” เย่เสี่ยวเสี่ยวพลันออกอาการคลั่งขึ้นมาทันที เหมือนแมวถูกเหยียบหางวิ่งไล่ฆ่าหลี่ชิเย่ในทันที
หลี่ชิเย่ ถึงกับหัวเราะและมุ่งไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว
ไม่นานนัก หลี่ชิเย่พาเย่เสี่ยวเสี่ยว และซือหม่ายวี่เจี้ยนมาถึงเมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาเพิ่งจะมาถึงยังไม่ทันได้เข้าเมือง จิ่วจุงเสินจู่ที่กลับกลายเป็นต้นไม้ที่สูงใหญ่เสียดฟ้าพลันลืมตาทั้งสองขึ้นมา
“แม่หนูน้อย ยินดีด้วย ยินดีด้วย” สายตาของจิ่วจุงเสินจู่ตกอยู่บนตัวของเย่เสี่ยวเสี่ยว กล่าวว่า “หนทางที่ราบเรียบอยู่ตรงหน้าของเจ้าแล้ว อนาคตของเผ่าพฤกษาต้องเปล่งรัศมีเจิดจ้าออกมาเพราะเจ้าแน่นอน”
“ขอบคุณท่าน” เย่เสี่ยวเสี่ยวก็รู้ว่าสิ่งที่จิ่วจุงเสินจู่พูดมาหมายถึงอะไร นางเองรู้สึกดีใจยิ่งเช่นกัน
“จากนี้ไป ขณะเจ้าอยู่ที่เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์หากต้องการสิ่งใด สามารถมาหาข้าได้ทุกเมื่อ” จิ่วจุงเสินจู่เองก็ได้พูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะเหอะเหอะออกมา เดิมทีจิ่วจุงเสินจู่ตัวของเขาคือประเภทที่จัดอยู่ในระดับฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่งนัก การหยั่งราก ณ ที่ตรงนี้ของเขาคือผู้ปราศจากผู้ต่อกรโดยแท้จริง
โดยปรกติแล้ว ผู้ดำรงอยู่ในสถานะเช่นเขานั้น ต่อให้ระดับจักรพรรดิเทพมาด้วยตนเอง หรือแม้กระทั่งผู้ที่อยู่ในฐานะเช่นเมิ่งเจิ้นเทียนมาถึง เกรงว่าเขายังไม่อยากมองหน้ามากกว่าครั้งหนึ่งเสียด้วยซ้ำ แต่กลับมีความรู้สึกที่ดีกับเย่เสี่ยวเสี่ยวเป็นพิเศษ หากไม่เป็นเพราะมีหลี่ชิเย่อยู่ เกรงว่าเขาคงแย่งเอามาเป็นศิษย์นานแล้ว
เมื่อเย่เสี่ยวเสี่ยวได้ยินคำพูดจากจิ่วจุงเสินจู่แล้วเอียงคอคิดไตร่ตรองนิดหนึ่ง และพูดขึ้นมาว่า “สามารถหาท่านได้ทุกเรื่องเลยรึ? ”
“ถูกต้อง” จิ่วจุงเสินจู่หัวเราะเหอะ เหอะ และกล่าวว่า “ขอเพียงเป็นเรื่องที่ข้าสามารถทำได้ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ได้ทั้งนั้น”
“งั้นดีล่ะ ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากจะรบกวนท่าน” ดวงตาที่งดงามของเย่เสี่ยวเสี่ยวกระพริบทีหนึ่ง เผยให้เห็นถึงท่าทีที่ซุกซนออกมา
“ไหนลองว่ามาซิ” จิ่วจุงเสินจู่กล่าวพร้อมกับหัวเราะเหอะ เหอะ กับบุคคลอื่นจิ่วจุงเสินจู่ขี้คร้านจะมองหน้าสักครั้งด้วยซ้ำ กับเย่เสี่ยวเสี่ยวเขากลับรู้สึกชื่นชอบเป็นพิเศษ
ถ้าหากเย่เสี่ยวเสี่ยวได้ถูกวางตัวเอาไว้แล้วล่ะก็ เขาแทบอยากจะเสนอตัวเป็นผู้คุ้มครองด้วยตนเองให้มันรู้แล้วรู้รอดไป เฝ้ามองดูนางกลายเป็นปรมาจารย์พฤกษาผู้ปราศจากผู้ต่อกรแห่งยุค
“เรื่องของข้าไม่มีอะไรมาก” เย่เสี่ยวเสี่ยวหัวเราะเสียงน่ารัก แล้วชี้ไปที่ตัวของหลี่ชิเย่ และกล่าวว่า “ท่านช่วยข้าสยบเจ้าคนอวดดีนี้เสีย ให้เขาไม่ได้ผุดได้เกิดไปตลอดกาล ฮึ อยากรู้นักว่าจะกล้าทำตัวยโสอีกหรือไม่! ”
“เอ่อ………..” จิ่วจุงเสินจู่พลันรู้สึกอึ้ง เขาไม่นึกเลยว่าเย่เสี่ยวเสี่ยวจะยื่นข้อเรียกร้องเช่นนี้ออกมา
“เรื่องนี้ เรื่องนี้ เกรงว่าข้าคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว” สุดท้าย จิ่วจุงเสินจู่หัวเราะเจื่อนๆ และส่ายหน้าเบาๆ เขาย่อมรู้ดีว่าที่ตนเองเผชิญอยู่นั้นคือผู้ดำรงอยู่ในสถานะใด ต่อให้เขามีใจเช่นนี้จริงก็ไม่มีความสามารถที่จะทำได้
“ฮึ เมื่อครู่ยังพูดเสียดิบดีเลยว่า ไม่ว่าเรื่องอะไรก็สามารถมาหาท่านได้ เวลานี้กลับเปลี่ยนใจเสียแล้ว” เย่เสี่ยวเสี่ยวพูด้วยความไม่พอใจพร้อมกับทำปากจู๋
“นอกเหนือจากเรื่องนี้” จิ่วจุงเสินจู่หัวเราะแห้งๆ ท่าทีเหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก กล่าวว่า “นอกเหนือจากเรื่องนี้แล้ว เรื่องอื่นๆ หากอยู่ในเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ข้าสามารถออกหน้าแทนเจ้าได้หมด”
“นอกจากเรื่องนี้แล้ว ข้าก็ไม่มีเรื่องอื่นๆ อีกแล้ว” เย่เสี่ยวเสี่ยวบ่นพึมพำอยู่คนเดียวว่า “ก็ข้าต้องการเห็นท่าทางของเจ้าคนหลงตัวเองถูกสยบนี่”
หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะเมื่อได้เห็นท่าทางของเย่เสี่ยวเสี่ยว เคาะหัวของนางเบาๆ ยิ้มกล่าวว่า “จะไม่มีเรื่องอื่นได้อย่างไรกัน เจ้าสามารถถามเขาว่าสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะอยู่ที่ใด ให้เขาช่วยเจ้าอีกแรงหนึ่ง เก็บสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะมาให้ได้“
“มันก็จริงนะ” ดวงตาของเย่เสี่ยวเสี่ยวพลันเปลี่ยนเป็นสุกใสขึ้นมา ส่งประกายตาที่แวววาววูบวาบออกมา
พลันที่หลี่ชิเย่พูดเช่นนี้ออกมา ทำให้จิ่วจุงเสินจู่เหน้าเจื่อนทันที เขายิ้มเจื่อนๆ ว่า “คุณชายเป็นผู้ที่สามารถติดต่อฟ้าดินได้ ในเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์มีสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะหรือไม่นั้น คุณชายรู้ดีกว่าใครๆ เก้าแดนคือแดนมนุษย์ปุถุชนไหนเลยจะมีสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะได้ มันเป็นเรื่องที่บรรดาเศษสวะพูดต่อๆ กันไปเท่านั้น”
“ไม่มีจริงหรือ? ” เย่เสี่ยวเสี่ยวเองก็รู้สึกแปลกใจ หลังจากมาที่เสินจื่อโจวแล้ว นางได้ยินบางคนพูดคุยกันถึงเรื่องสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะ ซึ่งทำให้นางรู้สึกสนใจต่อสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะขึ้นมา
“ไม่มีจริงๆ ” จิ่วจุงเสินจู่ส่ายหัวเบาๆ กล่าวว่า “เป็นไปได้อย่างไรที่เก้าแดนจะมีสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะได้ หากมีสมุนไพรเช่นนี้อยู่จริง บรรดาราชันเซียนคงลงมือไปแล้ว ยังปล่อยให้ถึงมือพวกเศษสวะไร้สมองเหล่านั้นรึ”
เมื่อเย่เสี่ยวเสี่ยวได้ยินเช่นนี้แล้ว รู้สึกว่าจิ่วจุงเสินจู่ไม่มีความจำเป็นต้องหลอกนาง
“เกรงว่าเรื่องของสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะคงไม่มี” หลี่ชิเย่ยิ้มท่าทีเรียบเฉย กล่าวอย่างเชื่องช้าว่า “แต่ว่า เท่าที่ข้ารู้ ในเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีสมุนไพรเทพที่ยอดเยี่ยมมากอยู่ต้นหนึ่ง ถ้าหากความจำของข้ายังไม่เลอะเลือนเกินไปล่ะก็ ดูเหมือน ดูเหมือนว่าจะอยู่ที่หุบเขาอะไรนะ”
“เรื่องนี้ เหอะ เหอะ เหอะ” จิ่วจุงเสินจู่ถึงกับต้องฝืนหัวเราะและกล่าวว่า “เรื่องนี้ เรื่องนี้ข้าไม่ค่อยจะรู้แน่ชัดนักแล้ว จะอย่างไรเสียเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์มีขนาดใหญ่โตถึงเพียงนี้”
“งั้นหรือ? ” หลี่ชิเย่เผยรอยยิ้มบนใบหน้าออกมาเต็มที่ กล่าวว่า “เจ้าหยั่งรากอยู่ที่เทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์มานานมากแล้วสินะ เรื่องเช่นนี้สามารถปิดบังเจ้าได้ด้วยรึ? ”
“คุณชายล้อข้าเล่น ล้อข้าเล่นแล้วล่ะ” จิ่วจุงเสินจู่พูดแบบไม่สู้จะจริงใจสักเท่าไรว่า “ตาเฒ่าอย่างข้าเป็นเพียงต้นไม้น้อยๆ ต้นหนึ่งเท่านั้น กำลังความสามารถมีอยู่จำกัด พื้นที่ที่อยู่ใต้การปกครองก็แค่ไม่กี่ตารางเมตรเท่านั้นเอง เทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสิบสองสุสาน ความลึกลับมหัศจรรย์ของที่นี่ ตาเฒ่าอย่างข้าโง่เขลา รับรู้ได้ไม่ถึงหนึ่งในร้อย”
เวลานี้ คำพูดของจิ่วจุงเสินจู่ดูจะถ่อมตนเหลือเกิน ผู้ที่ดำรงอยู่ในสถานะอย่างเขานั้น ต่อให้ระดับจักรพรรดิเทพก็ต้องเดินผ่านหน้าเขาไปอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว แต่ทว่าในขณะนี้จิ่วจุงเสินจู่กลับไม่กล้าถือดีแม้แต่น้อย
หลี่ชิเย่เพียงมองดูจิ่วจุงเสินจู่แล้วยิ้มๆ นิดหนึ่ง และไม่ได้ทำอะไรให้จิ่วจุงเสินจู่ต้องลำบากใจอีก จะอย่างไรเสีย เรื่องบางเรื่องก็หาใช่สิ่งที่จิ่วจุงเสินจู่สามารถทำได้อยู่แล้ว
“ลาก่อน” เย่เสี่ยวเสี่ยวโบกมือกล่าวคำอำลาต่อจิ่วจุงเสินจู่ และติดตามหลี่ชิเย่เข้าไปในเมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์
หลี่ชิเย่พาเย่เสี่ยวเสี่ยวและซือหม่ายวี่เจี้ยนเข้าไปในเมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เขาตั้งใจจะหาที่พักอาศัยให้กับเย่เสี่ยวเสี่ยว และซือหม่ายวี่เจี้ยนให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง เพื่อพบกับคนๆ หนึ่ง
แต่ว่า หลี่ชิเย่ยังไม่ทันหาที่พักให้กับเย่เสี่ยวเสี่ยวและซือหม่ายวี่เจี้ยน ก็ถูกคนเข้ามาขวางทางเอาไว้
ถนนในเมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์กว้างขวางมาก เมื่อพวกของหลี่ชิเย่เดินไปถึงสี่แยกแห่งหนึ่งก็ถูกคนมาขวางทางเอาไว้ทันที บริเวณหน้าหลังซ้ายขวาของสี่แยกล้วนแล้วแต่มียอดฝีมือจำนวนมากมาขวางทางหลี่ชิเย่เอาไว้!
………………………………………….