Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1447

เรื่อง ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1447

ตอนที่ 1447 กำแหง

กู่หลิงโซ่วจู่ถูกยั่วโมโหจนร่างสั่นเทิ้ม ถูกหลี่ชิเย่ชี้หน้าด่าว่าสำนักเทพเจ้าโบราณทะเลลึกนับเป็นตัวอะไรต่อหน้าผู้คนทั่วหล้า เรื่องที่เกิดขึ้นแม้เทพเจ้าโบราณทะเลลึกต้องการจะกล้ำกลืนฝืนทนก็กลืนไม่ลง

“หลี่ชิเย่ เจ้าคิดว่าสามารถทำอะไรตามอำเภอใจก็ได้ในเสินจื่อโจวอย่างนั้นรึ? ” กู่หลิงโซ่วจู่ถึงกับต้องลุกขึ้นยืนและร้องกล่าวเสียงดังออกมา

“ไม่ ไมใช่ทำอะไรตามอำเภอใจก็ได้ในเสินจื่อโจว” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “ทั้งเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ข้าก็สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้! ”

“เจ้า…” เมื่อกู่หลิงโซ่วจู่ถูกคำพูดที่อันธพาลและกำแหงอวดดีของหลี่ชิเย่ยั่วโมโหจนพูดอะไรไม่ออก กระทั่งนิ้วที่ชี้ไปยังหลี่ชิเย่ยังสั่นเทา

หลี่ชิเย่ขึ้คร้านจะไปมองหน้าของกู่หลิงโซ่วจู่ด้วยซ้ำ กล่าวท่าทีเฉยเมยว่า “คนอย่างข้าโดยปรกติมีความเมตตามาก และไม่ค่อยชอบทำลายสิ่งมีชีวิต วันนี้ข้าจะให้โอกาสฝากคำพูดคำหนึ่งให้เทพเจ้าโบราณทะเลลึกพวกเจ้า ไม่ก็ไสหัวไปให้พ้น หรือไม่ก็ล้างทั้งสำนัก! เวลานี้ สำนักเทพเจ้าโบราณทะเลลึกพวกเจ้ารีบไสหัวไปเสียเดี๋ยวนี้ยังทัน ต่อไปนี้ ไม่ว่าที่ใดก็ตามขอเพียงข้าปรากฎตัว เทพเจ้าโบราณทะเลลึกพวกเจ้าจงทำตัวแบบเจียมเนื้อเจียมตัว ข้าก็จะถือว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น”

“ถ้าไม่ล่ะ! ” กู่หลิงโซ่วจู่โกรธจนแทบหายใจไม่ทัน ร้องกล่าวเสียงดังออกมา

“ถ้าไม่อย่างนั้นรึ” หลี่ชิเย่ทำท่าผายมือออกไป กล่าวว่า “ข้าจะทำลายสำนักเทพเจ้าโบราณทะเลลึกเสีย แม้ว่าข้าจะไม่ค่อยชื่นชอบในการต่อยตีฆ่าแกง แต่ ไม่ว่าใครก็ตาม เป็นศัตรูกับข้า ขวางทางของข้า ฆ่าไม่มีละเว้น! ”

พลันที่คำว่าฆ่าไม่มีละเว้นหลุดออกมาจากปาก ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่ได้กลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นยิ่งโชยมา คำพูดลักษณะเช่นนี้ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องยิ้มเจื่อนๆ คนที่ไม่ทันใดก็จะฆ่าล้างทั้งสำนัก เข่นฆ่าปลาทะเลกว้างไพศาลนับล้านล้าน เวลานี้ กลับมาบอกว่าเป็นคนที่ไม่ชอบฆ่าคน คำพูดเช่นนี้ไม่ว่าใครก็ไม่เชื่อ

“เจ้าคนแซ่หลี่ อาศัยเจ้าสังหารศิษย์ของข้าเทพเจ้าโบราณทะเลลึกพวกเราก็ไม่สามารถกล้ำกลืนฝืนทนได้…………”กู่หลิงโซ่วจู่ถูกยั่วโมโหจนกระอักเลือด ร้องกล่าวด้วยเสียงอันดังออกมา

หลี่ชิเย่พูดตัดบทกู่หลิงโซ่วจู่ว่า “กลืนไม่ลงก็ต้องกลืน มิฉะนั้นล่ะก็ รอให้ข้ามีเวลาเสียก่อน ข้าจะไปที่เทพเจ้าโบราณทะเลลึกทำลายเทพเจ้าโบราณทะเลลึกพวกเจ้าให้สิ้นซากด้วยตัวเอง! ”

เมื่อหลี่ชิเย่พูดออกมาเช่นนี้พลันทำให้ทุกคนต้องมองหน้ากันและกัน ในเวลานี้ ทุกคนสามารถเข้าใจได้ว่า ที่หลี่ชิเย่พูดมาไม่ใช่การล้อเล่น และไม่ใช่เป็นการกล่าววาจาสามหาวอวดดี แต่เป็นการพูดที่หนักแน่นจริงจัง

เมื่อทุกคนนึกถึงข้อนี้แล้วก็ต้องใจหายใจคว่ำขึ้นมา รู้สึกขนลุกซู่ในใจ ทุกคนย่อมรู้ดีว่า คนอย่างคนโหดผู้นี้พูดและทำได้จริง

การบอกว่าจะทำลายสิ้นสำนักเทพเจ้าโบราณทะเลลึกในเสินจื่อโจว ช่างเป็นคำพูดที่พาลเหลือเกิน สมควรทราบว่า ความแข็งแกร่งของเทพเจ้าโบราณทะเลลึกนั้น ไม่เพียงเพราะมีพลังสยบจากเสินจื่อโจวเท่านั้น เล่าลือกันว่า บริเวณส่วนที่ลึกที่สุดของสำนักเทพเจ้าโบราณทะเลลึกมีบรรพบุรุษที่เก่าแก่โบราณที่สุดของเทพเจ้าโบราณทะเลลึกหลับไหลอยู่ที่นั่น

แม้ว่าสำนักเทพเจ้าโบราณทะเลลึกไม่เคยมีราชันเซียนมาก่อน และทุกคนก็มี่รู้เหมือนกันว่าในเทพเจ้าโบราณทะเลลึกมีระดับบรรพบุรุษเช่นใดอยู่ แต่ เล่าลือกันว่าบริเวณส่วนที่ลึกที่สุดของสำนักเทพเจ้าโบราณทะเลลึกมีผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวมากที่สุดของเผ่าวิญญาณเทพนอนหลับไหลอยู่ในนั้น! ด้วยสาเหตุนี้เอง สำนักเทพเจ้าโบราณทะเลลึกจึงเป็นที่หวาดกลัวของผู้คนตลอดมา

ในโลกนี้ มีไม่กี่คนที่กล้าประกาศว่าจะทำลายเทพเจ้าโบราณทะเลลึกเสีย เว้นแต่ราชันเซียนเท่านั้น

“สหายน้อย วาจาโอหังมาก” ขณะที่กู่หลิงโซ่วจู่กำลังถูกยั่วโมโหจนร่างสั่นเทิ้มอยู่นั้น ระดับบรรพบุรุษที่นั่งดื่มน้ำชาเป็นเพื่อนกับกู่หลิงโซ่วจู่ก็เปิดปากพูดขึ้น

“เจ้าน่ะเป็นใครรึ? ” หลี่ชิเย่มองหน้าระดับบรรพบุรุษผู้นี้ตามอารมณ์ และเอ่ยขึ้นแบบไม่ใส่ใจ

“ชื่อของข้านั้น ข้าจำไม่ได้เสียแล้วล่ะ” ระดับบรรพบุรุษผู้นี้กล่าวอย่างเชื่องช้าว่า “แต่ว่า ขณะที่ข้ายังอยู่ในวัยหนุ่ม ใครๆ ต่างเรียกข้าว่า เจียวเสินจวู๋ (ไผ่เทพมังกร)! ”

“เจียวเสินจวู๋ ” ผู้บำเพ็ญตนแดนวิญญาณสวรรค์ที่มีประสบการณ์สักหน่อยต่างรู้สึกสะท้านภายในใจ

“หนึ่งในระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งมากที่สุดของจู่ลู่ ศิษย์โดยตรงของหลงจวู๋หย่าจู่ (บรรพบุรุษลำดับที่สองไผ่มังกร) และมีฐานะเป็นหลานแท้ๆ ของหลงจวู๋หย่าจู่ มีสายเลือดของหลงจวู๋หย่าจู่ในตัว! ” ระดับปราชญ์ผู้หนึ่งรู้สึกตื่นตระหนกอยู่ลับๆกล่าวขึ้นมา

หนึ่งในระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดของจู่ลู่มาถึงเสินจื่อโจวกลับไม่มีใครรู้มาก่อน นาทีนี้ ผู้คนจำนวนมากสังหรณ์อะไรได้บางอย่าง

จู่ลู่นั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นสายสำนักปรมาจารย์พฤกษาของเผ่าพฤกษาที่แข็งแกร่งที่สุดพวกเขาเคยมีปรมาจารย์พฤกษามาแล้วถึงสามคน อีกทั้งจู่ลู่ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลได้รับการปกป้องคุ้มครองจากพฤกษาจารย์สามต้น ดังนั้น จู่ลู่จึงมีสมญาว่าเป็นที่ที่แม้แต่ราชันเซียนก็ตีไม่แตก

นอกเหนือจากจู่ลู่จะมีพฤกษาจารย์สามต้นคตอบปกป้องคุ้มครองแล้ว จู่ลู่ยังมีบุคคลที่น่ากลัวยิ่งกว่าอีกหนึ่งคน นั่นก็คือหลงจวู๋หย่าจู่ เล่าลือกันว่า หลงจวู๋หย่าจู่ห่างจากการเป็นปรมาจารย์พฤกษาเพียงครึ่งก้าวเท่านั้น ที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นก็คือ หลงจวู๋หย่าจู่ได้บรรลุถึงตวามลี้ลับมหัศจรรย์เกี่ยวกับการกลับคืนสู่ดั้งเดิมของเผ่าพฤกษา ทำให้เขาสามารถหยั่งรากลงสู่ใต้ดินได้เช่นเดียวกับบรรดาพฤกษาจารย์

ด้วยเหตุนี้เอง จึงมีคำกล่าวในแดนวิญญาณสวรรค์ว่าเอาไว้ว่า หากหลงจวู๋หย่าจู่หยั่งรากลงพื้นดิน แม้แต่ราชันเซียนก็ฆ่าเขาให้ตายไม่ได้! เขาก็จะเหมือนดั่งพฤกษาจารย์อย่างนั้น

และด้วยสาเหตุที่จู่ลู่มีหลงจวู๋หย่าจู่ จึงทำให้จู่ลู่ไม่เพียงเหมาะแก่การป้องกันเท่านั้น จู่ลู่ของพวกเขายังสามารถโจมตีทุกๆ สำนักที่ตั้งอยู่ในแดนวิญญาณสวรรค์

อย่างไรก็ตาม สำหรับเผ่าพฤกษาแล้ว หลังจากที่ปรมาจารย์พฤกษาได้กลายเป็นพฤกษาจารย์แล้ว สามารถทำได้เพียงเฝ้าปกป้องคุ้มครองชนรุ่นหลังอยู่ในพื้นที่บรรพชนเท่านั้น ไม่สามารถนำทัพออกศึก ไม่โจมตีผู้อื่นก่อนโดยพลการ

แต่ว่า การที่จู่ลู่มีผู้ดำรงอยู่ในฐานะอย่างหลงจวู๋หย่าจู่ย่อมแตกต่างไม่เหมือนเดิม เพราะไม่เพียงเป็นการบ่งบอกว่าไม่มีใครสามารถโจมตีจู่ลู่ของพวกเขาให้แตกพ่ายได้เท่านั้น ยังไม่มีใครกล้าโจมตีจู่ลู่ของพวกเขาอีกด้วย ทั้งยังบ่งบอกว่าจู่ลู่ของพวกเขาสามารถเปิดศึกกับสำนักใดๆ ก็ได้ พวกเขามีกำลังที่กล้าแข็งเพียงพอ!

“ไม่รู้จัก” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเมินเฉยเด็ดขาดตรงไปตรงมามาก

“ข้าเป็นเพียงสามัญชนคนหนึ่งเท่านั้น การที่เจ้าไมรู้จักข้านับเป็นเรื่องปรกติ” เจียวหลงจวู๋กล่าวอย่างช้าๆ ว่า “เพียงแต่ ข้าอยากจะบอกสหายน้อยว่า แดนวิญญาณสวรรค์นั้นเป็นสถานที่ที่มังกรเร้นกายพยัคฆ์หมอบ ก่อนที่สหายน้อยจะได้เป็นราชันเซียน ทางที่ดีให้เก็บงำเอาไว้บ้างคนที่แข็งแกร่งกว่าเจ้าในใต้หล้ามีอยู่มากมาย”

ผู้คนจำนวนมากต่างมองหน้ากันและกันกับคำพูดของเจียวหลงจวู๋ ฟังจากที่พูดแล้วเหมือนว่าเป็นความหวังดี เหมือนดั่งผู้อาวุโสที่กล่าวเตือนผู้เยาว์ของตนอย่างนั้น

“แสร้งทำใจกว้างอย่างนั้นรึ? ”หลี่ชิเย่ถึงกับเผยรอยยิ้มออกมา กล่าวว่า “แสร้งทำใจกว้างข้าก็เป็น สำนักเล็กๆ อย่างจู่ลู่ควรทำตัวค่อมต่ำสักหน่อยจะดีกว่า อย่าได้แส่เรื่องของคนอื่นไปทั่ว คนอย่างข้าหาใช่คนที่พวกเจ้าจู่ลู่สามารถมาแหย่ได้………….”

“อีกอย่าง ไม่ต้องเอาเทพเจ้าโบราณทะเลลึกมาหยั่งเชิงข้า คราวก่อนข้าไม่ได้จัดการดูดพลังของผู้เยาว์หลงจวู๋อะไรนั่นของจู่ลู่จนแห้ง นับว่าเป็นโชคดีของเขา ถ้าหากจู่ลู่ของพวกเจ้ายังกล้ามายุ่งกับข้าอีกล่ะก็ เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว ข้าไม่เพียงดูดพลังหลงจวู๋หย่าจู่จนแห้ง ข้ายังจะดูดจู่ลู่ทั้งหมดจนแห้ง! ในมือของข้ามีต้นกล้าต้นหนึ่งอยู่พอดี จำเป็นต้องอาศัยสถานที่อย่างจู่ลู่เป็นปุ๋ย!” ครั้นเอ่ยถึงตรงนี้แล้ว หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะออกมา

พลันที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา ทุกคนต้องอึ้งไม่รู้ว่าจะพูดอะไรได้อีก สุดท้าย มีคนผู้หนึ่งได้แต่พึมพำออกมาว่า “คนโหดย่อมเป็นคนโหด นี่มันคนโหดอันดับหนึ่งนะเนี่ย ไม่ว่ากับใครก็กล้าทำกำเริบเสิบสาน ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใด”

สีหน้าของเจียวหลงจวู๋ปั้นยากถึงขีดสุด กับคำพูดของหลี่ชิเย่ แน่นอน สิ่งที่เขาพูดออกไปก่อนหน้าย่อมไม่ใช่เพราะใจดี เขาเพียงแค่ต้องการวางท่าทีนิดหนึ่งเท่านั้น

การมาที่เสินจื่อโจวของเขาในครั้งนี้ได้พกพาเอาภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากหลงจวู๋หย่าจู่ซึ่งเป็นอาจารย์ของเขามาด้วย กล่าวสำหรับเขาแล้ว หากหลี่ชิเย่ขัดแย้งกับเทพเจ้าโบราณทะเลลึกขึ้นย่อมเป็นการดีที่สุด คำพูดที่เขาพูดออกไปก่อนหน้านั้น เป็นเพียงการแสแสร้งแกล้งทำเท่านั้น

“เจ้าสำนักกู่หลิง กับคนอวดีที่หมดหนทางจะเยียวยาได้เช่นนี้มีทางเดียวคือฆ่าเสีย” เวลานี้ เจียวหลงจวู๋ก็ได้กล่าวออกมาอย่างช้า

ดวงตาทั้งสองของกู่หลิงโซว่จู่ดูน่าครั่นคร้าม จ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ กล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “หลี่ชิเย่ สำนักเทพเจ้าโบราณน้ำลึกของข้าไม่ขออยู่ร่วมโลกกับเจ้า หากไม่ใช่เจ้าตาย ก็คือข้าม้วย! ”

“อาศัยพวกเจ้า? ” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ไม่คณามือ ได้ยินว่าองค์ชายแห่งความชั่วร้ายของพวกเจ้ากลับสู่ยุทธภพแล้วนี่ ให้เขาไสหัวมารับความตายเสีย รอให้ข้าตัดหัวของเขาออกมาแล้ว พวกเจ้าจะได้เข้าใจว่าข้าไม่ได้ล้อเล่น”

“ฆ่าเจ้าอัปลักษณ์นี้เสีย! ” กู่หลิงโซว่จู่คำรามเสียงดัง ในเวลานี้หากไม่ใช่ตัวเขาตาย ก็คือหลี่ชิเย่ม้วย

เวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นตัวกู่หลิงโซว่จู่เอง หรือจะเป็นสำนักเทพเจ้าโบราณน้ำลึกของพวกเขา มันถอยไม่ได้อีกแล้ว ไม่ว่าหลี่ชิเย่จะมีความแข็งแกร่งปานใดก็ตาม พวกเขาก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด! หากไม่สังหารหลี่ชิเย่ เทพเจ้าโบราณน้ำลึกของพวกเขาจะไม่ยอมเลิกราอย่างเด็ดขาด

กล่าวสำหรับเทพเจ้าโบราณน้ำลึกแล้ว ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยค่าตอบแทนเท่าไรก็ตาม ต้องสังหารหลี่ชิเย่สถานเดียว!

ในความเป็นจริง สิ่งที่บุคคลภายนอกไม่อาจล่วงรู้ได้ก็คือ การที่เทพเจ้าโบราณน้ำลึกต้องการแก้แค้นหลี่ชิเย่นั้น มันไม่ได้เป็นเพียงบุญคุณความแค้นระหว่างเทพเจ้าโบราณน้ำลึกกับหลี่ชิเย่ที่ง่ายดายเพียงนั้นแล้ว

การมาเยี่ยมคารวะสำนักเทพเจ้าโบราณน้ำลึกของเมิ่งเจิ้นเทียนในครั้งนี้ และองค์ชายแห่งความชั่วร้ายของพวกเขากลับสู่ยุทธภพ หนึ่งในเป้าหมายก็คือเล่นงานหลี่ชิเย่ เพื่อให้เมิ่งเจิ้นเทียนได้ก้าวสู่ตำแหน่งราชันเซียนอย่างสะดวก

“แช้งค์ แช้งค์ แช้งค์………..” ในเวลานี้เอง ปรากฏเสียงดาบดังขึ้น ภายในโรงเตี้ยมพลันมีคนชุดดำหลายร้อยคนปรากฏตัวออกมา คนชุดดำเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีดาบยาวเป็นอาวุธ ท่าทีน่าเกรงขาม บนตัวของพวกเขาแผ่กลิ่นอายที่เยือกเย้นออกมา

เมื่อคนชุดดำหลายร้อยคนปรากฏตัวพลันเข้าล้อมหลี่ชิเย่เอาไว้ทันที อีกทั้งยามที่เท้าของพวกเขาเหยียบลงบนพื้นดิน ใต้เท้าถึงกับปรากฏลายพาดกลอนสีดำลอยขึ้นมา จากนั้นลายพาดกลอนเหล่านี้ได้ถักทอเข้าด้วยกันจนกลายเป็นค่ายกลขนาดใหญ่ขึ้นมา

“กองกำลังปฏิบัติการลับ! ” ยอดฝีมือถึงกับหนาวสะท้านเมื่อได้เห็นคนชุดดำจำนวนหลายร้อยคน กล่าวว่า “พวกนี้คือมือปราบ คอยปราบปรามแขกที่มาจากต่างถิ่น”

การที่สำนักเทพเจ้าโบราณน้ำลึกมีความแข็งแกร่งในเสินจื่อโจวใช่จะไม่มีเหตุผล เทพเจ้าโบราณน้ำลึกไม่เพียงสามารถช่วยให้ผู้บำเพ็ญตนที่มาจากต่างถิ่นขจัดพลังสยบจากเสินจื่อโจวได้เท่านั้น ขณะเดียวกันยังมีวิธีสยบบรรดาแขกที่มาจากต่างถิ่นแล้วไม่ได้ถูกพลังจากเสินจื่อโจวสยบ นั่นก็คือกองกำลังปฏิบัติการลับของสำนักเทพเจ้าโบราณน้ำลึก

เล่าลือกันว่า กองกำลังปฏิบัติการลับของเทพเจ้าโบราณน้ำลึกนั้นผ่านการบ่มฟักด้วยวิธีพิเศษ พวกเขาถูกคัดเลือกตั้งแต่แรกเกิด และถูกจับไปฝังเอาไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของเทพเจ้าโบราณน้ำลึก เพื่อให้พลังของเสินจื่อโจวเป็นตัวหล่อเลี้ยงพวกเขา

ด้วยเหตุนี้เอง สวรรค์สาดส่องของสมาชิกกองกำลังปฏิบัติการลับจึงมีพลังสยบ เมื่อผู้ใดถูกประกายของสวรรค์สาดส่องของพวกเขาครอบคลุม ก็จะได้รับพลังสยบจากเสินจื่อโจวทันที

“แว้งค์” กองกำลังปฏิบัติการลับได้ตั้งเป็นค่ายกลขึ้นในทันที ในเวลานี้สวรรค์สาดส่องของพวกเขาปรากฎขึ้นมา โดยที่ภายในสวรรค์สาดส่องของพวกเขาปรากฏเป็นประกายสีดำขึ้นมา นาทีนี้คล้ายดั่งราตรีกาลได้มาถึงแล้วอย่างนั้น และประกายสีดำพลันตรงเข้าล็อคตัวหลี่ชิเย่เอาไว้

“ตึง” เมื่อประกายสีดำได้เข้าล็อคตัวหลี่ชิเย่ไว้นั้น เหมือนมีกุญแจขนาดใหญ่ได้คล้องบนตัวหลี่ชิเย่เอาไว้ และทำให้บนตัวหลี่ชิเย่ มีประกายสีดำผุดขึ้นมาทันที

“ถูกสยบเอาไว้แล้วรึ? ” ผู้คนจำนวนมากรู้สึกสะท้าน เมื่อเห็นบนตัวหลี่ชิเย่ มีประกายสีดำลอยขึ้นมา

เนื่องเพราะกองกำลังปฏิบัติการลับมีพลังสยบเช่นนี้อยู่ในครอบครอง จึงทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องหวาดหวั่น เพราะหากถูกพลังของเสินจื่อโจวลักษณะเช่นนี้สยบเอาไว้ล่ะก็ ต่อหน้ากองกำลังปฏิบัติการลับได้แต่ถูกเชือดสถานเดียว

อ่านตอนอื่นๆของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล คลิกเลย

แฟนเพจ