ตอนที่ 1450 สถานการณ์กลับตาลปัตร
ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากถึงกับรู้สึกอิจฉา เมื่อเห็นเจียวเสินจวู๋สามารถเชิญให้เทพผู้พิทักษ์เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้
“นี่แหละคือข้อแตกต่างของหลงจวู๋หย่าจู่ โด่งดังไปทั่วหล้า อาศัยหน้าตาของเขาทำให้เจียวเสินจวู๋สามารถเชิญเทพผู้พิทักษ์ออกมาได้ก็หาใช่เรื่องที่อยู่เหนือความคาดคิด” มีผู้กล่าวด้วยความรู้สึกอิจฉา
ชื่อเสียงของหลงจวู๋หย่าจู่นั้นโด่งดังมาก ถูกยกย่องให้เป็นบรรพบุรุษคนที่สอง กระทั่งมีผู้ยกให้เขาเป็นบุคคลอันดับหนึ่งใต้ปรมาจารย์พฤกษา โดยเฉพาะเมื่อเขาสามารถกลับสู่ที่พักพิงสุดท้ายด้วยการหยั่งรากลงสู่พื้นดินนั้น ทำให้เขามีพลังต่อสู้ที่ไม่เคยมีมาก่อน ถึงกับมีผู้คิดว่าเขาคือผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะสามารถโจมตีราชันเซียนได้
แน่นอน ผู้คนบนโลกใบนี้ที่ล่วงรู้ถุงประวัติความเป็นมาของเทพผู้พิทักษ์เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์มีอยู่น้อยมากถึงน้อยที่สุด ความจริงแล้ว หากจะว่ากันถึงลำดับความเป็นอาวุโสแล้ว ฐานะของจิ่วจุงเสินจู่หาใช่หลงจวู๋หย่าจู่สามารถเทียบเคียงได้ ขณะที่หลงจวู๋หย่าจู่ยังอยู่ในวัยหนุ่มยังเคยมาที่เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ขอคำชี้แนะเรื่องการบำเพ็ญเพียรกับจิ่วจุงเสินจู่ด้วยซ้ำ
เนื่องเพราะมีวาสนาเช่นนี้นี่เอง จึงทำให้เจียวเสินจวู๋อาศัยสิ่งนี้ขอความช่วยเหลือจากจิ่วจุงเสินจู่
หลี่ชิเย่ถึงกับเผยรอยยิ้มที่เฉยเมยออกมาให้เห็น เมื่อมองเห็นเจียวเสินจวู๋ไปขอความช่วยเหลือกับจิ่วจุงเสินจู่ เขายังคงสบายอกสบายใจเหมือนเดิม
ในเวลานี้ สายตาขงอจิ่วจุงเสินจู่ตกไปอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่ และเผยรอยยิ้มออกมา กล่าวอย่างเชื่องช้าว่า “การก่อเรื่องขึ้นที่เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นการก่อกวนความสงบนะ”
เมื่อจิ่วจุงเสินจู่พูดคำๆ นี้ออกมา เจียวเสินจวู๋พลันรู้สึกดีใจ เขาเข้าใจว่าคำพูดนี้เป็นคำพูดที่พุ่งเป้าไปยังหลี่ชิเย่ อาศัยหน้าตาอาจารย์ของเขาแล้ว ในที่สุดจิ่วจุงเสินจู่ก็ออกหน้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เมื่อมีจิ่วจุงเสินจู่ลงมือเข้าแทรกแซง ทำให้เจียวเสินจวู๋มีความมั่นใจเต็มที่
“เจ้าคนแซ่หลี่ ได้ยินหรือยัง! ” เมื่อเจียวเสินจวู๋มีความมั่นใจมากขึ้นจึงมองหลี่ชิเย่อย่างเย้ยหยัน กล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “ทำลายความสงบสุขของเมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เข่นฆ่าเผ่าพฤกษาพวกเรา โทษสมควรตายหมื่นครั้ง ฆ่าโดยไม่มีละเว้น! ”
หลายคนรู้สึกเสียวสันหลังวาบบในใจ เมื่อเห็นเทพผู้พิทักษ์เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์จะออกหน้าแทนเจียวเสินจวู๋
“เกรงว่าหลี่ชิเย่คงจะต้องเดือดร้อนแล้วล่ะ ตามตำนานเล่าว่า แม้แต่ราชันเซียนยังสังหารเทพผู้พิทักษ์เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้” บางคนถึงกับเป็นกังวลในตัวของหลี่ชิเย่ขึ้นมา
แม้จะกล่าวว่า ความแข็งแกร่งของหลี่ชิเย่เป็นที่ประจักษ์ของทุกคน แต่ทว่า เทพผู้พิทักษ์เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งยิ่งกว่าเสียอีก มันได้ยืนหยัดอยู่ที่เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์มาอย่างยาวนาน ความแข็งแกร่งของมันนั้นสุดจะหยั่งถึง กระทั่งมีผู้ยกย่องว่ามันม5กำลังเพียงพอที่จะโจมตีราชันเซียนได้
มาวันนี้ เทพผู้พิทักษ์เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ถึงกับจะออกหน้าแทนเจียวเสินจวู๋ ซึ่งไม่ใช่เป็นการบ่งบอกว่าหลี่ชิเย่จะแย่แล้ว แต่เกรงว่าจะเป็นการพ่ายแพ้อย่างยับเยินของหลี่ชิเย่ ไม่แน่นักอาจจะต้องเดิมพันเอาชีวิตเข้าไปด้วย
“จู่ลู่ย่อมเป็นจู่ลู่ หน้าใหญ่จนสุดจะคาดคิดได้” เผ่าวิญญาณเทพยังกล่าวด้วยความรู้สึกอิจฉาว่า “ในโลกนี้ยังจะมีสักกี่คนที่สามารถเชิญให้เทพผู้พิทักษ์เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้ เจียวเสินจวู๋อาศัยหน้าตาของหลงจวู๋หย่าจู่ที่เป็นอาจารย์ของเขา ยังสามารถเชิญเทพผู้พิทักษ์เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ให้ออกมาได้”
แม้แต่เย่เสี่ยวเสี่ยวยังถึงกับเม้มปากหัวเราะเบาๆ มองดูท่าทีของเจียวเสินจวู๋ที่หลงระเริงหลังจากได้ผู้คอยให้การสนับสนุนแล้ว นางมองว่าเจียวเสินจวู๋นั้นช่างน่าขันเสียเหลือเกิน
“ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง” หลี่ชิเย่ถึงกับเอามือลูบที่บริเวณลำคอของตน หัวเราะและพูดกับจิ่วจุงเสินจู่ว่า “เมื่อเขาพูดแบบนี้ ข้ากลับรู้สึกเสียวคอขึ้นมาบ้างเหมือนกัน ข้าชักเป็นห่วงความปลอดภัยของตนขึ้นมาบ้างแล้วสิ ข้าควรจะคุกเข่าลงเพื่อยอมแพ้ดีหรือไม่นะ”
“แหะ ยอมแพ้นั้นหริอ เวลานี้คิดจะยอมแพ้ก็สายไปเสียแล้ว! ” เจียวเสินจวู๋หัวเราะเยือกเย็น กล่าวว่า “เจ้าทำลายความสงบสุขของเมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ สังหารเผ่าพฤกษาพวกเรา ต่อให้ตายร้อยครั้งก็ยังชดเชยกันไม่ได้! ท่านปรมาจารย์ของพวกเราจะเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์เองสังหารเจ้าคนชั่วอย่างเจ้า! เจ้าคนแซ่หลี่ วันสุดท้ายของเจ้ามาถึงแล้ว ต่อให้เจ้าแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม เมื่อเทียบกับท่านบรรพบุรุษเผ่าพฤกษาแล้วไม่นับเป็นอะไรได้ ต่อให้เจ้าอยู่ในระดับเทพสวรรค์ ท่านบรรพบุรุษเผ่าพฤกษาของพวกเราก็สามารถบี้เจ้าให้ตายด้วยนิ้วเดียว……..”
ในเวลานี้ ท่าทีของเจียวเสินจวู๋ดูจะลืมตัวอยู่บ้าง ในสายตาของเขาจิ่วจุงเสินจู่จะออกหน้าแทนเขา และหลี่ชิเย่ต้องตายอย่างไม่น่าสงสัย อย่าว่าแต่หลี่ชิเย่เลย ต่อให้เมิ่งเจิ้นเทียนมาด้วยตนเอง ก็ไม่กล้าทำกำเริบเสิบสานต่อหน้าจิ่วจุงเสินจู่!
แม้ว่าคำพูดของเจียวเสินจวู๋ฟังดูแล้วออกจะลำพองตนไปบ้าง แต่ทว่า เวลานี้ผู้คนจำนวนมากที่มองดูหลี่ชิเย่แล้ว ก็รู้สึกว่าคราวนี้หลี่ชิเย่จะต้องประสบกับความพ่ายแพ้อย่างยับเยิน ไม่แน่นักอาจจะต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่
ทุกคนต่างรู้ดีว่า เมื่อไหร่ที่เทพผู้พิทักษ์เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ลงมือ ในโลกนี้อยากจะมีผู้ต่อกรได้
“หนวกหู…………..” ขณะที่เจียวเสินจวู๋กำลังลำพองใจตวาดใส่หลี่ชิเย่อยู่นั้น ในที่สุดจิ่วจุงเสินจู่ก็ได้ปริปากพูดแล้ว เขากล่างอย่างช้าๆ ว่า “ที่ข้าพูดนั้นหมายถึงเจ้า! ”
“เอ่อ……….”เจียวเสินจวู๋ถูกจิ่วจุงเสินจู่พูดตัดบทอย่างกะทันหัน เขาถึงกับรับไม่ทัน เวลาพูดออกจะติดอ่างอยู่บ้าง กล่าวว่า “ท่านบรรพบุรุษ เจ้า เจ้าคนแซ่หลี่นี่ เขา เขา เขาทำลายความสงบสุขของเมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ สังหารลูกหลานเผ่าพฤกษาของพวกเรา………….”
“เศษสวะ! ” เวลานี้ นัยน์ตาทั้งสองของจิ่วจุงเสินจู่ลืมตาขึ้นมา ปรากฏประกายศักดิ์สิทธิ์ออกมา กล่าวอย่างเชื่อช้าว่า “ก่อเรื่องใหญ่โตขึ้นมาแล้วยังไม่รู้ตัวอีก รีบไปปลิดชีพตัวเองเพื่อเป็นการขอขมาเสีย บางที จู่ลู่ของพวกเจ้าอาจมีโอกาสรอดพ้นจากการถูกฆ่าล้างสำนัก! ”
การที่จิ่วจุงเสินจู่พูดเช่นนี้นับว่าทำเพื่อเจียวเสินจวู๋แล้ว ถือว่าได้หาทางหนีทีไล่ให้กับจู่ลู่เอาไว้แล้ว ตัวเจียวเสินจวู๋เองไม่รู้ว่าคนที่ตัวเองไปแหย่คือใคร แต่ว่า จิ่วจุงเสินจู่รู้ดี
ดังนั้น เขาจึงได้พูดคำๆ นี้ออกมา ที่เขาพูดเช่นนี้ถือว่าเป็นการขอความเมตตาให้กับจู่ลู่แล้ว มิฉะนั้นล่ะก็ หากทำให้มือมืดที่มองไม่เห็นต้องโกรธล่ะก็ การทำลายล้างจู่ลู่ใช่เป็นเรื่องยากแต่อย่างใด นับแต่อดีตกาลเป็นต้นมา สำนักต่างๆ ที่ถูกเขาทำลายไปมันน้อยเกินไปอย่างนั้นรึ?
ในเวลานี้กะทันหันเช่นนี้ เจียวเสินจวู๋ตั้งตัวไม่ทัน เขาจึงรู้สึกงงงันอยู่ตรงนั้น เขาเข้าใจว่าจิ่วจุงเสินจู่จะออกหน้าแทนเขา อาศัยหน้าอาจารย์ของเขาหลงจวู๋หย่าจู่ จิ่วจุงเสินจู่จะต้องลงมือช่วยเหลือเขาอย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องสังหารหลี่ชิเย่
ความจริงแล้ว การเปลี่ยนแปลงชนิดกลับตาลปัตรอย่างกะทันหันเช่นนี้ ทำให้ทุกคนตั้งตัวไม่ทัน ทุกคนต่างมองดูภาพตรงหน้าด้วยความมึนงง ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ท่านบรรพบุรุษ อา อา อาจารย์ข้าคือหลงจวู๋หย่าจู่ ท่านเคยบอกข้าว่า………….” ไม่ง่ายนักกว่าเจียวเสินจวู๋จะได้สติกลับมา แต่ ในขณะนี้เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะร้อยเรียงถ้อยคำอย่างไรดี
“ข้ารู้ว่าอาจารย์เจ้าเป็นใคร ต่อให้ร่างแท้จริงของหลงจวู๋มาด้วยตนเองก็เหมือนกัน” จิ่วจุงเสินจู่กล่าวตัดบทเจียวเสินจวู๋ กล่าวว่า “ไปเถอะ เพื่อจู่ลู่ของเจ้า ปลิดชีพตัวเองเสียตอนนี้ยังทัน”
“ท่านปรมาจารย์ ข้า ข้า ข้า………..” ในเวลาเช่นนี้ เจียวเสินจวู๋ถึงกับพูดไม่ออก เขาไม่นึกไม่ฝันเลยว่า จิ่วจุงเสินจู่จะยืนอยู่ข้างหลี่ชิเย่อย่างกะทันหัน
“เอาล่ะ ข้าไม่มีความอดทนมากพอ เวลาข้ามีจำกัด ต้องรีบไปทำธุระอย่างหนึ่ง” หลี่ชิเย่มองดูเจียวเสินจวู๋ที่กำลังเหม่อลอย กล่าวเฉยเมยว่า “จะให้ข้าลงมือด้วยตนเอง หรือว่าเจ้าจะลงมาปลิดชีพตัวเอง? ตาเฒ่าพูดไม่ผิด การฆ่าตัวตายตอนนี้ยังทัน”
“เจ้า เจ้า เจ้า………..ข้า ข้า ข้า…………” เจียวเสินจวู๋ถึงกับพูดติดอ่างขึ้นมาในเวลานี้ พูดไม่คล่องเอาเสียเลย
“ให้ข้าส่งเจ้าไปก็แล้วกัน” ครั้นจิ่วจุงเสินจู่เห็นเป็นเช่นนี้ จึงกล่าวด้วยท่าทีเฉยเมยขึ้นมา ทันใดนั้น มือขนาดใหญ่ได้สยบลงมาจากท้องฟ้า พุ่งเข้าสยบต่อเจียวเสินจวู๋
“ท่ายบรรพยบุรุษ ข้า ข้า ข้าคือบรรพบุรุษของจู่ลู่ อาจารย์ของข้าคือหลงจวู๋หย่าจู่……….” การลงมือของจิ่วจุงเสินจู่ ทำเอาเจียวเสินจวู๋ตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่าง
“นี่เป็นการทำเพื่อเจ้า ทำเพื่อจู่ลู่ของเจ้า” จิ่วจุงเสินจู่กล่าวด้วยท่าทีเรียบเฉย พลันที่จบคำ “ปัง” เจียวเสินจวู๋ถูกสังหารในทันที กลายเป็นหมอกเลือดบางเบา ไม่ทันแม้แต่จะร้องออกมา
“เฮ่อ เดิมทีข้ายังคิดว่าเมื่อฆ่าตัวเล็กนี่เสีย รอให้เจ้าแก่โผล่หน้าออกมา” เมื่อหลี่ชิเย่เห็นจิ่วจุงเสินจู่ลงมือสังหารเจียวเสินจวู๋แล้ว ถึงกับพูดท่าทีเรียบเฉยออกมา
จิ่วจุงเสินจู่ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ การที่เขาลงมือสังหารเจียวเสินจวู๋เท่ากับเป็นการให้โอกาสจู่ลู่ เนื่องจากเจียวเสินจวู๋ไม่รู้เลยสักนิดว่า ที่ตัวเองไปแหย่นั้นคือใคร ถ้าหากทำให้หลี่ชิเย่โกรธขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็ ต่อให้จู่ลู่มีความแข็งแกร่งมากกว่านี้แล้วไง ภายใต้ฝีมือเขาช้าหรือเร็วก็ต้องมลายกลายเป็นเถ้าธุลีไป!
ในเวลานี้ ทุกคนต่างรู้สึกงงงัน ไม่ว่าใครก็นึกไม่ถึงว่า เทพผู้พิทักษ์เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์จะลงมือสังหารเจียวเสินจวู๋ด้วยตนเอง
ทุกคนยังเข้าใจว่า อาศัยหน้าตาของหลงจวู๋หย่าจู่ เทพผู้พิทักษ์เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์จะต้องลงมือให้การช่วยเหลือเจียวเสินจวู๋ กระทั่งลงมือสังหารหลี่ชิเย่ก็เป็นได้
แต่ทว่า ใครก็นึกไม่ถึงว่า เรื่องราวถึงกับกลับตาลปัตรถึงเพียงนี้ อย่าว่าแต่สังหารหลี่ชิเย่เลย เทพผู้พิทักษ์เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ไม่เพียงไม่ยื่นมือช่วยเจียวเสินจวู๋เอาไว้เท่านั้น กระทั่งยังลงมือสังหารเจียวเสินจวู๋ด้วยตนเองด้วยซ้ำ
ผลที่ออกมาลักษณะเช่นนี้ นับว่าไม่อาจจินตนาการได้ มันอยู่เหนือความคาดคิดของทุกคน
“ใครก็ได้หากพบเจอเจ้าองค์ชายแห่งความชั่วร้ายอะไรนั่น บอกเขาประโยคหนึ่งว่า นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าไม่ต้องการเห็นคนของเทพเจ้าโบราณทะเลลึก หาไม่แล้ว ข้าจะเหยียบเทพเจ้าโบราณทะเลลึกให้ราบ และตัดศีรษะของเขากับตาแก่ไปแขวนเอาไว้ในจุดที่สูงที่สุดของเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์! ” หลี่ชิเย่กวาดตามองไปรอบหนึ่ง ไม่สนว่าจะมีศิษย์ของเทพเจ้าโบราณทะเลลึกอยู่ในเมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์หรือไม่
หลังจากที่หลี่ชิเย่พูดจบ พาเย่เสี่ยวเสี่ยวหันหลังจากไปทันที เพืยงชั่วพริบตาเดียวก็หายไปบริเวณมุมถนน
ในขณะนี้ จิ่วจุงเสินจู่เพียงยิ้มๆ นิดหนึ่ง จากนั้น ค่อยๆ หลับตาลงสองข้าง เหมือนนอนหลับไปแล้วอย่างนั่น
“คนโหดผู้นี้มีคุณสมบัติเพียงพอยกให้เป็นคนโหดอันดับหนึ่งได้” ต่อให้ผู้ที่ไม่ยอมรับตัวของหลี่ชิเย่ เมื่อมองดูเงาของเขาที่หายไป เวลานี้ก็ไม่อาจไม่ยอมรับได้ พึมพำออกมาว่า “ทอดสายตามองออกไปในกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั่วหล้า ยกเว้นพวกผิดยุค จะมีใครบ้างที่กล้าบอกว่าจะสังหารองค์ชายแห่งความชั่วร้าย! ”
พลันเปิดปากก็บอกว่าจะเหยียบเทพเจ้าโบราณทะเลลึกให้ราบ จะตัดหัวองค์ชายแห่งความชั่วร้ายออกมา คำพูดที่พาลและไม่มีเหตุผลเช่นนี้ใช่ว่าใครก็สามารถพูดออกมาได้ ไม่ว่าจะเป็นดาวรุ่งที่มีความแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม เมื่อมาอยู่ที่เสินจื่อโจวแล้ว ก่อนจะพูดคำเช่นนี้ออกมา เกรงว่าคงต้องคิดให้รอบคอบเสียก่อน
แต่ มาวันนี้หลี่ชิเย่กลับมีท่าทีอย่างไรก็ได้ ประกาศเลยว่าจะเหยียบสำนักเทพเจ้าโบราณทะเลลึกให้ราบ จะสังหารองค์ชายแห่งความชั่วร้ายเสีย ช่างเป็นท่วงท่าที่ไร้เหตุผลและอันธพาลยิ่งนัก
“หรือจะเป็นความจริงว่า ยุคนี้หลี่ชิเย่ จะต้องเป็นราชันเซียนอย่างนั้นรึ? ดูท่าแม้แต่เทพผู้พิทักษ์เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ยังเชื่อมั่นในตัวของหลี่ชิเย่” แม้แต่ยอดฝีมือเผ่าพฤกษาในเวลานี้ยังไม่อยากจะเชื่อ
ตามหลักแล้ว เทพผู้พิทักษ์เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์มีความสนิทสนทกับหลงจวู๋หย่าจู่ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นใด เทพผู้พิทักษ์เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์สมควรจะยืนอยู่ข้างฝ่ายเจียวเสินจวู๋จึงจะถูก ต่อให้เทพผู้พิทักษ์เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ไม่สังหารหลี่ชิเย่ ก็ควรจะช่วยเหลือเจียวเสินจวู๋เอาไว้
แต่ว่า เวลานี้เทพผู้พิทักษ์เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์กลับลงมือสังหารเจียวเสินจวู๋ด้วยตนเอง สิ่งเดียวที่จะอธิบายได้ก็คือ เทพผู้พิทักษ์เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์มั่นใจในตัวของหลี่ชิเย่ หลี่ชิเย่จะต้องได้เป็นราชันเซียน เขาเองก็ไม่ต้องการเป็นศัตรูกับราชันเซียนในอนาคต!
———————————-