ตอนที่ 1455 ถวายความจงรักภักดี
คำพูดของหลี่ชิเย่ทำให้ราชินีเทพเจ็ดสมุทรไม่รู้ว่าควรจะโกรธหรือฝืนยิ้มดี นับว่านางได้รับรู้ถึงความยโสอวดดีและความพาลของหลี่ชิเย่แล้ว ทอดสายตามองไปทั่วแดนวิญญาณสวรรค์ จะมีสักกี่คนที่หาญกล้าบอกว่าจะสังหารหอสัตตะยุทธพวกเขาจนเลือดไหลกลายเป็นแม่น้ำ
แต่ กับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า ราชินีเทพเจ็ดสมุทรได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ชายผู้นี้พาลจนไม่สามารถหาคำใดๆ มาเปรียบเปรยได้อีกแล้ว เข่นฆ่าปลาทะเลกว้างไพศาลนับล้านล้าน ทำลายสำนักฉลามโลหิต แคว้นชี ทำลายหุบเขาจักรพรรดิ สู้กับเมิ่งเจิ้นเทียน
ผลงานการสู้รบที่อบอวลด้วยกลิ่นคาวเลือด ได้ประกาศต่อใต้หล้าแล้วถึงการใช้อำนาจบาตรใหญ่อย่างไม่มีเหตุผลของชายผู้นี้ ดังนั้น ในเวลานี้ไม่ว่าเขาจะพาลและไร้เหตุผล ไม่ว่าเขาจะยโสอวดดีอย่างไร ผู้คนจำนวนมากต่างมองว่ามันดูสมเหตุสมผลดี
“เคล็ดเจ็ดกระบวนท่านับว่ายอดเยี่ยมโดยแท้จริง” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่งกล่าวว่า “กล่าวสำหรับข้าแล้ว มีหรือไม่มีก็ไม่ใช่ปัญหา ที่ข้าต้องการเวลานี้ไม่ใช่เคล็ดเจ็ดกระบวนท่า”
“เช่นนั้นแล้ว ไม่ทราบว่าที่พี่หลี่ต้องการคืออะไร?” ราชินีเทพเจ็ดสมุทรเอ่ยขึ้นมาอย่างช้าๆ
“เจ้า…” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่งและกล่าว
“ข้า…” ราชินีเทพเจ็ดสมุทรตะลึงเล็กน้อย จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยท่าทีแปลกๆ เวลานี้นางไม่รู้ว่าควรจะเรียบเรียงคำพูดอย่างไรดี
“เจ้าอย่าได้คิดมาก” หลี่ชิเย่หัวเราะขึ้นมา และกล่าวว่า “ข้าไม่ได้ต้องการผู้หญิงคนหนึ่ง ข้าต้องการเทพเจ้าแห่งทะเล ข้าจะให้โอกาสแก่เจ้า ให้เจ้ามีโอกาสได้พลิกสถานการณ์ แน่นอน ในอนาคตเจ้าก้าวไปได้ถึงจุดไหนนั้น ประสบผลสำเร็จในสถานะเช่นใดขึ้นอยู่กับเจ้าเองแล้ว ถ้าหากเจ้าก้าวไปไม่ถึงจุดนั้นล่ะก็ บอกได้เพียงช่างน่าผิดหวังสำหรับข้าเสียเหลือเกิน เป็นข้าที่ดูคนผิดไป…”
“…หลังจากที่ข้าให้โอกาสนี้แก่เจ้าแล้ว ในอนาคตหากเจ้ามีโอกาสได้พบกับข้าอีก เจ้าก็รับใช้ภักดีต่อข้า” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “รับใช้ข้าชั่วชีวิต”
ราชินีเทพเจ็ดสมุทรสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สุดท้ายกล่าวอย่างช้าๆ ว่า “ข้าขอบคุณพี่หลี่ที่รักและเมตตา เกรงว่าข้าคงไม่มีวาสนาที่จะได้รับวาสนาที่พี่หลี่มอบให้”
ราชินีเทพเจ็ดสมุทรพูดได้ไพเราะมาก เกรงว่าหากเปลี่ยนเป็นผู้อื่นคงด่าหลี่ชิเย่ไปแล้วว่าประสาทหรือเปล่า จะอย่างไรเสียเทพเจ้าแห่งทะเลที่ไหนจะยินยอมไปภักดีรับใช้คนอื่น? มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ต่อให้เป็นราชันเซียน เทพเจ้าแห่งทะเลก็ไม่ต้องการไปภักดีต่อเขา
“เจ้าคิดว่าหลังจากที่ตนได้เป็นเทพเจ้าแห่งทะเลแล้ว การมารับใช้ภักดีต่อข้าเป็นการหยามเจ้า” หลี่ชิเย่หัวเราะขึ้นมา รู้ว่าในใจของราชินีเทพเจ็ดสมุทรคิดอะไรอยู่
หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “บอกตามตรงเลยนะ หากไม่เป็นเพราะมีคนทำให้ใจของข้าต้องหวั่นไหว ต่อให้เจ้าได้เป็นเทพเจ้าแห่งทะเล เจ้าคิดจะเกาะข้าก็ไม่แน่นักว่าข้าจะเห็นเจ้าอยู่ในสายตา”
คำพูดลักษณะเช่นนี้พลันทำให้ราชินีเทพเจ็ดสมุทรต้องอึ้ง นางพูดไม่ออกอย่างสิ้นเชิง คำพูดเช่นนี้นับว่าโอหังอวดดีจนสุดจะเปรียบเปรย หากไม่เป็นเพราะมีผลงานการสู้รบที่ปราศจากผู้เทียบเทียม ราชินีเทพเจ็ดสมุทรคงเข้าใจว่าหลี่ชิเย่นั้นพูดจาสามหาวอวดดี
“เจ้ารู้ไหม?” หลี่ชิเย่ชันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆ นั่งตัวตรงและมองดูราชินีเทพเจ็ดสมุทร แล้วกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “ข้าไม่เพียงให้โอกาสแก่เจ้า และยังเป็นการให้โอกาสหอสัตตะยุทธของพวกเจ้า ยิ่งเป็นการให้โอกาสเผ่าปีศาจทะเลของพวกเจ้า”
“พูดอย่างจริงใจเลยนะ ข้าไม่เคยให้ความสนใจกับความตายของเผ่าปีศาจทะเลพวกเจ้า และข้าขี้คร้านจะไปใส่ใจ ในบรรดาปีศาจทะเลผู้ที่สามารถทำให้ข้ามองได้ก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นเอง กระทั่งพูดไม่ค่อยน่าฟัง ต่อให้เผ่าปีศาจทะเลพวกเจ้าสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ข้าก็ไม่ให้ความสนใจแม้แต่น้อย” ครั้นหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยออกมา
คำพูดของที่หลี่ชิเย่พูดออกมา ทำให้ภายในใจของราชินีเทพเจ็ดสมุทรถึงกับหวาดกลัวขึ้นมา ทันใดนั้น นางเหมือนจับอะไรได้บางอย่าง
“ทำไมข้าถึงต้องการพบเทพเจ้าแห่งทะเลเทียนสื่อของพวกเจ้า?” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าข้าต้องการทำเพื่อตนเองรึ ? บอกตามตรง หากว่าข้าขี้คร้านจะไปสนใจเรื่องความเป็นความตายของแดนวิญญาณสวรรค์พวกเจ้าล่ะก็ ข้าจะไม่ไปพบเทพเจ้าแห่งทะเลเทียนสื่อพวกเจ้า ข้าได้เคล็ดเจ็ดกระบวนท่าแล้วก็ไปเลย เผ่าปีศาจทะเลพวกเจ้าจะสูญสิ้นเผ่าพันธุ์หรือไม่มันเกี่ยวอะไรกับข้า! ข้าให้โอกาสแก่เจ้า ให้โอกาสแก่หอสัตตะยุทธ กระทั่งให้โอกาสเผ่าปีศาจทะเลพวกเจ้า บอกได้ว่านั่นเป็นเพราะข้ามีความเมตตามากเกินไป!”
ราชินีเทพเจ็ดสมุทรถึงกับงงงันอยู่ครู่หนึ่ง ความจริงแล้วสิ่งนี้ก็ได้ทำให้นางรู้สึกแปลกใจ หลี่ชิเย่ ละทิ้งค่าตอบแทนที่สูงทุกอย่างไป เพียงต้องการพบเทพเจ้าแห่งทะเลเทียนสื่อที่ไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกแล้ว ข้างในมีสิ่งที่อธิบายไม่ถูกมากมายเหลือเกิน
ห้ากระบวนท่าแรกของเคล็ดเจ็ดกระบวนท่าบวกกับการเกี่ยวดองสมรสกัน ความเย้ายวนเช่นนี้ไม่ว่ากับใครก็ตาม ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถปฏิเสธได้ทั้งสิ้น
แต่ หลี่ชิเย่กลับละทิ้งมัน กระทั่งไม่ใส่ใจกับมันทั้งสิ้น ท่าทีเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในนั้นมีความลึกลับมากเหลือเกิน ทำให้ราชินีเทพเจ็ดสมุทร มองไม่ออก
สุดท้าย ราชินีเทพเจ็ดสมุทรสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆ โค้งคำนับต่อหลี่ชิเย่ กล่าวด้วยความจริงใจว่า “น้องบุ่มบ่ามไป ความรู้ตื้นเขิน หากมีคำพูดใดที่พูดผิดไป ขอให้พี่หลี่ได้โปรดอภัย”
นาทีนี้ เหมือนว่าราชินีเทพเจ็ดสมุทรจะจับอะไรได้บางอย่าง นางเดาเรื่องได้ลางๆ ในฉับพลันทันทีอย่างนั้น
“ไม่มีอะไรต้องอภัยหรือไม่อภัย” หลี่ชิเย่ กล่าวด้วยท่าทีเรียบเฉยว่า “เจ้าสามารถรู้ได้ สามารถคิดได้ ย่อมเป็นการบ่งบอกว่าเจ้าไม่ใช่พวกสวะ เจ้ายังคงเป็นผู้ที่สามารถขัดเกลาได้”
“สำหรับความงงงวยต่างๆ เกี่ยวกับเผ่าปีศาจทะเลนั้น ขอพี่หลี่ได้โปรดชี้แนะทางสว่างให้ด้วย เพื่อให้น้องได้มองเห็นตะวันอีกครั้ง” ราชินีเทพเจ็ดสมุทรกล่าวด้วยท่าทีจริงใจมาก
หลี่ชิเย่ส่ายหน้าเบาๆ กล่าวว่า “เรื่องนี้ข้าไม่สามารถให้คำชี้แนะได้ หากทัศนะคติต่างกัน ย่อมไปด้วยกันไม่ได้ ต่อให้เจ้ารู้แล้วไง มันก็แค่ทำให้ข้าต้องเสียเวลา ให้ข้าต้องเปลืองน้ำลายเท่านั้นเอง”
“เช่นนั้นแล้ว พี่หลี่ต้องการให้ทำอย่างไร? ”
“ให้คำสาบานก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่มองดูราชินีเทพเจ็ดสมุทร หัวเราะแล้วกล่าวว่า “หลังจากได้เป็นเทพเจ้าแห่งทะเลแล้ว หากเจ้ารับใช้ภักดีต่อข้า เท่ากับเป็นการช่วงชิงโอกาสให้กับตัวเจ้าเอง หอสัตตะยุทธ และกระทั่งเผ่าพันธุ์ปีศาจทะเลของพวกเจ้า”
เงื่อนไขของหลี่ชิเย่ทำให้ราชินีเทพเจ็ดสมุทรต้องนิ่งเงียบ หากเปลี่ยนเป็นใครก็ตาม ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถยอมรับเงื่อนไขเช่นนี้ได้
“ข้าสามารถให้โอกาสแก่เจ้า” หลี่ชิเย่มองดูราชินีเทพเจ็ดสมุทร ที่อยู่ในอาการนิ่งเงียบ ยิ้มกล่าวว่า “ถ้าหากเจ้าได้เป็นเทพเจ้าแห่งทะเลแล้ว เจ้าไม่ต้องการรับใช้ภักดีต่อข้า ง่ายมาก เจ้าท้าประลองกับข้า ถ้าหากเจ้าสามารถเอาชนะข้าได้ เจ้าก็สามารถไถ่คืนอิสระภาพของตัวเอง แต่หากว่าเจ้าแพ้ เจ้ายังคงต้องภักดีและรับใช้ข้าต่อไป”
ราชินีเทพเจ็ดสมุทรถึงกับงุนงงนิดหนึ่ง นางนึกไม่ถึงว่าหลี่ชิเย่จะเสนอโอกาสเช่นนี้กับนาง
สุดท้าย ราชินีเทพเจ็ดสมุทรสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง ตัดสินใจเด็ดขาดกล่าวท่าทีหนักแน่นจริงจังว่า “ได้ ข้าตกลงตามเงื่อนไขของพี่หลี่ เมื่อข้าได้เป็นเทพเจ้าแห่งทะเลแล้ว จะภักดีและรับใช้พี่หลี่!”
เวลานี้ ราชินีเทพเจ็ดสมุทรได้คิดรอบคอบแล้ว ถ้าหากหลี่ชิเย่หวังในตัวของนางจริง เขาสามารถได้ทุกอย่างด้วยความง่ายดายอยู่แล้ว ก่อนหน้านั้น หอสัตตะยุทธเองก็คิดจะเกี่ยวดองสมรสกับเขา และราชินีเทพเจ็ดสมุทรเองก็เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าวแล้ว
ถ้าหากหลี่ชิเย่ต้องการอาศัยกำลังของนางจริง เช่นนั้นแล้ว โลกนี้ยังจะมีสิ่งใดสนิทมากไปกว่าความเป็นสามีภรรยากันเล่า? หากพวกเขาทั้งสองแต่งงานเป็นสามีภรรยากัน พวกเขาก็คือคนๆ เดียวกัน ไม่แบ่งแยกเขาแยกเรา กระทั่งเรียกได้ว่าหากก้าวเดินไปถึงจุดนั้นแล้ว หอสัตตะยุทธของพวกเขายินดีทุ่มเทสรรพกำลังทุกอย่างไปสนับสนุนหลี่ชิเย่อยู่แล้ว
แต่ทว่า หลี่ชิเย่กลับปฏิเสธการเกี่ยวดองสมรสนี้โดยไม่ได้ให้ความสำคัญ ย่อมเป็นการบ่งบอกว่าหลี่ชิเย่ไม่ได้คิดวางแผนต่อนาง
ยิ่งไปกว่านั้น เวลานี้หลี่ชิเย่ยังได้ให้โอกาสนางได้เป็นไทแก่ตัวได้ ราชินีเทพเจ็ดสมุทรเป็นคนที่มีความมั่นใจในตนเองสูง ถ้าหากนางได้เป็นเทพเจ้าแห่งทะเลแล้วยังพ่ายแพ้ต่อหลี่ชิเย่ล่ะก็ นางก็คงไม่มีอะไรจะพูด ด้วยผู้ชายที่สุดยอดปราศจากผู้เทียบเทียมเช่นนี้ นับว่าสมควรแล้วที่นางจะไปภักดีและรับใช้เขา!
“ดีมาก ผู้ที่สามารถตัดสินใจเช่นนี้ได้นับว่ามีอยู่ไม่มาก” หลังจากหลี่ชิเย่เห็นราชินีเทพเจ็ดสมุทร ได้ให้คำสาบานด้วยชะตาแท้แล้ว หัวเราะกล่าวว่า “บางทีเจ้าอาจไม่ได้มีความคิดที่ประเสริฐมากนักเฉกเช่นราชันเซียนเทียนสื่อ แต่ เจ้ามีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของปฐมบรรพบุรุษของเจ้า!”
“พี่หลี่กล่าวชื่นชมไปแล้ว” ราชินีเทพเจ็ดสมุทรไม่ได้มีท่าทีที่เย่อหยิ่ง นางกล่าวด้วยท่าทีที่ดูเป็นธรรมชาติ
“ดีมาก ข้าพูดได้ย่อมทำได้ สมควรแก่เวลาที่ข้าจะถ่ายทอดให้กับเจ้าแล้ว” ขาดคำ หลี่ชิเย่ได้เสกเอาประตูเบญจทวารกั้นฟ้าออกมาปิดกั้นช่องว่างภายในห้องนี้เสีย
ขณะเดียวกัน หลี่ชิเย่ยังได้สำแดงสุดยอดวิชาที่อยู่ในตำรานภา ทำการปิดกั้นช่องว่าง และเปิดช่องว่างใหม่เอี่ยมขึ้นมา ภายใต้การปิดผนึกเป็นชั้นๆ จากหลี่ชิเย่แล้ว สุดท้าย เขายังเปิดช่องว่างกำบังมิดชิดออกมา โดยที่ตัวเขาและราชินีเทพเจ็ดสมุทรได้หลบซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางการปิดกั้นจำนวนนับไม่ถ้วนเหล่านี้
ครั้นราชินีเทพเจ็ดสมุทรเห็นหลี่ชิเย่หนักแน่นจริงจังถึงเพียงนี้ถึงกับตกใจยิ่งนัก นางรู้จักสิ่งเหล่านี้ดี การที่หลี่ชิเย่เสกเอาเบญจสัจธรรมปิดกั้นนิรันดร์ออกมา แล้วยังตามมาด้วยการผนึกช่องว่างอีกเป็นชั้นๆ สุดท้าย ยังหลบเข้าไปอยู่ในช่องว่างกำบังมิดชิดอีก ลักษณะการปิดกั้นเช่นนี้ เกรงว่าเป็นลักษณะการปิดกั้นของระดับราชันเซียน
“พี่หลี่ จำเป็นต้องระมัดระวังมากขนาดนี้จริงรึ?” แม้แต่ราชินีเทพเจ็ดสมุทรยังรู้สึกประทับใจ กล่าวว่า “การพูดคุยระหว่างท่านกับข้ามีใครสามารถเข้าใกล้ได้รึ แล้วจะมีใครมาแอบฟังได้?”
“ถ้าหากเป็นการพูดคุยล้วนๆ เกรงว่าคงยากจะมีใครมาแอบฟังได้” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “วันนี้ ข้าไม่เพียงจะบอกเล่าความลับที่กระทั่งตาเฒ่าบรรพบุรุษเจ็ดยังไม่อยากจะพูดถึงให้กับเจ้า ขณะเดียวกัน ข้ายังจะกระทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับสายเลือดของเจ้า”
ราชินีเทพเจ็ดสมุทรถึงกับตะลึงนิดหนึ่ง ในเวลานี้นางจึงรับรู้ได้ว่า สิ่งที่เกี่ยวพันอยู่ด้านในนั้นอยู่เหนือจินตนาการของนางไปมากทีเดียว
“เจ้าเข้าใจหรือไม่ว่า เพราะเหตุใดตาเฒ่าบรรพบุรุษเจ็ดถึงไม่ยอมเปิดเผยความลับบางอย่างให้กับเจ้าแล้วสิ” หลี่ชิเย่มองดูราชินีเทพเจ็ดสมุทรที่กำลังตกตะลึงอยู่ กล่าวว่า “สิ่งนี้หาใช่เรื่องของกำแพงมีหู เขากลัวว่าจะถูกล่วงรู้ถึงแผนการลับของหอสัตตะยุทธ หรือจะกล่าวให้ถูกต้องมากกว่านั้นก็คือ แผนการลับของเทพเจ้าแห่งทะเลเทียนสื่อ” กล่าวพลาง เขาได้ชี้ไปบนท้องฟ้า
“สวรรค์รึ?” ราชินีเทพเจ็ดสมุทรถึงกับสะดุ้งนิดหนึ่ง
“ไม่ ไม่ใช่สวรรค์ อย่างน้อยที่สุดเทพเจ้าแห่งทะเลพวกเจ้ายังไม่ถึงระดับนั้น” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวด้วยท่าทีเรียบเฉยว่า “คือเผ่าพันธุ์ของพวกเจ้าเอง ต้นกำเนิดของพวกเจ้า!”
พลันที่หลี่ชิเย่กล่าวคำๆ นี้ออกมา ราชินีเทพเจ็ดสมุทรถึงกับรู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออก นางเป็นผู้ที่มีความเฉลียวฉลาดมากคนหนึ่ง หลังจากได้ฟังคำเช่นนี้แล้วก็รู้ได้ทันทีว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ นี่มันเป็นลางสังหรณ์ที่ไม่ดี! เป็นลางสังหรณ์ที่มาจากสายเลือดของนางเอง!
“นี่ก็เป็นสาเหตุว่าเพราะอะไร เทพเจ้าแห่งทะเลพวกเจ้าถึงต้องมีการประชุมเงา”
“ประชุมเงา?” ราชินีเทพเจ็ดสมุทรถึงกับงุนงงนิดหนึ่ง
“ข้าเข้าใจแล้วล่ะ” เมื่อหลี่ชิเย่มองเห็นท่าทีของราชินีเทพเจ็ดสมุทรแล้ว หัวเราะและกล่าวว่า “ตาเฒ่าบรรพบุรุษเจ็ดไม่ได้บอกต่อเจ้า อีกทั้งหอสัตตะยุทธพวกเจ้าได้ทำการลบเลือนร่องรอยทุกอย่างออกไป ไม่เพียงไม่มีการบันทึก ทั้งยังไม่มีการถ่ายทอดปากต่อปากอีกด้วย!”
……………………………………………..