Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1469 การต่อสู้ชี้ขาดระหว่างกายสุริยันกับกายมายา

เรื่อง ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1469 การต่อสู้ชี้ขาดระหว่างกายสุริยันกับกายมายา

1469 การต่อสู้ชี้ขาดระหว่างกายสุริยันกับกายมายา

บรรดาผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ ผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจกับการต่อสู้ในครั้งนี้ ทุกคนต่างกระหายอยากจะรู้ว่าการศึกในครั้งนี้ใครจะแพ้ใครจะชนะ

กล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเหตุการณ์แล้ว ในใจของผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยย่อมคาดหวังว่าโอรสสวรรค์ปกสมุทรเป็นฝ่ายชนะ โดยเฉพาะเผ่าปีศาจทะเลยิ่งกระหายให้โอรสสวรรค์ปกสมุทรเป็นฝ่ายชนะ

แค่หลี่ชิเย่เพียงคนเดียวก็สยบพวกเขาจนหายใจไม่ออกแล้ว ถ้าหากแม้นโอรสสวรรค์ปกสมุทรผู้ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิ์ได้เป็นหนึ่งในผู้เข้ารับการคัดเลือกเป็นเทพเจ้าแห่งทะเลก็ยังพ่ายแพ้ให้กับผู้ที่เป็นแค่เผ่าพันธุ์มนุษย์เท่านั้นล่ะก็ เผ่าปีศาจของพวกเขาคงต้องถูกสยบจนไม่อาจหายใจได้อีกแล้ว

ซูหย่งหวงก้าวเดินออกมา หางตาที่เฉียงขึ้นบนมองไปรอบๆ เย็นยะเยือกและหยิ่งยโส แม้ว่านางไม่ได้จงใจอวดเบ่ง แต่ทว่า กลิ่นอายความเป็นกษัตริย์ที่สูงส่งของนางนั้นเผยให้เห็นอย่างไม่ได้ซ่อนเร้นปิดบังแต่อย่างใด ความเป็นผู้มีสถานะสูงส่งของนางนั้นไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแกล้งทำ โดยไม่มีตำหนิแม้แต่น้อย

“ลงมือเถิด…” ซูหย่งหวงเพียงมองหน้าโอรสสวรรค์ปกสมุทรอย่างเยฌ็นชาทีหนึ่งพร้อมเอ่ยขึ้นมาอย่างช้าๆ

“ดี…” พลันที่ขาดคำ โอรสสวรรค์ปกสมุทรได้หายตัวไปในทันทีอย่างไร้ร่องรอย คล้ายดั่งระเหยไปจากโลกนี้อย่างนั้น

ในเวลานี้เอง ต่อให้เปิดเนตรสวรรค์เพื่อกวาดมองไปทั่วก็ยากจะพบเห็นร่องรอยของโอรสสวรรค์ปกสมุทรได้ โดยที่เขาไม่ได้ทิ้งร่องรอยใดๆ ให้ติดตามได้เอาไว้เลย

นี่แหละคือหนึ่งในความลึกลับมหัศจรรย์ของกายมายา เมื่อมีการสำแดงกายมายาออกมา นั่นหมายความว่าเขาจะไปมาโดยไร้ร่องรอย สามารถหลบซ่อนตัวที่ใดก็ได้ ทำให้ผู้คนยากที่จะพบเห็นตัวเขา

เมื่อฝึกกายมายาได้สำเร็จ ทำให้ร่างกายของผู้บำเพ็ญตนหลอมรวมกับอากาศจนเป็นเนื้อเดียวกัน กระทั่งอาจกล่าวได้ว่า อากาศธาตุก็คือร่างกายของผู้บำเพ็ญตน ร่างกายผู้บำเพ็ญตนก็คืออากาศธาตุ

เมื่อฝึกกายมายาจนสำเร็จแล้ว จะทำให้ผู้บำเพ็ญตนสามารถอยู่ได้ทุกหนทุกแห่ง ขณะเดียวกันก็ไม่อยู่ทุกหนทุกแห่ง กระทั่งมีคนล้อว่า กายมายาเป็นวิชาที่ใช้ในการลอบโจมตีได้ดีที่สุด

ในวันนี้ แม้ว่ากายมายาของโอรสสวรรค์ปกสมุทรยังไม่ได้สำเร็จขั้นสมบูรณ์ แต่ ก็ได้เก้าวสู่ระดับกลางแล้ว จึงทำให้เขาสามารถสำแดงพลังที่แข็งแกร่งมากออกมา

“แว้งค์…” ทันใดนั้น ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ประกายเยือกเย็นสายหนึ่งพุ่งเป้าตรงไปยังลำคอของซูหย่งหวง ยามที่ประกายเยือกเย็นสายนี้เกือบจะทิ่มแทงเขาไปยังลำคอของซูหย่งหวงอยู่แล้ว จังหวะนั้นจึงได้ทำให้ช่องว่างของอากาศมีการกระเพิ่อมขึ้นมา

ท่ามกลางความเป็นความตายในชั่วพริบตาเดียวนี้ “ตูม” ซูหย่งหวงได้อาศัยความเร็วที่ว่องไวมากปะทุกายสุริยันออกมาในทันที เปลวเพลิงที่ร้อนแรงพวยพุ่งขึ้นไปอย่างรุนแรง “ตูม ตูม ตูม” ท่ามกลางเสียงที่ดังตูมตาม เรื่องที่เหลือเชื่อได้เกิดขึ้น เปลวเพลิงของดวงอาทิตย์เสมือนได้แฝงเข้าไปอยู่ภายในกายของซูหย่งหวง ถึงกับรับกับประกายเยือกเย็นที่ลอบโจมตีเข้ามาเอาไว้ได้

“ตูม…” จังหวะที่เปลวเพลิงร้อนแรงของดวงอาทิตย์ได้รับมือกับประกายเยือกเย็นที่แทงเข้ามาอย่างกะทันหันของโอรสสวรรค์ปกสมุทรเอาไว้นั้น ภายในกายของซูหย่งหวงได้มีการพวยพุ่งเพลิงแก่นสุริยันที่รุนแรงออกมา เหมือนดั่งภูเขาไฟจำนวนเสนลูกที่ได้ปะทุขึ้นมาพร้อมๆ กันในทันทีทันใดอย่างนั้น ด้วยความร้อนแรงปราศจากผู้เทียบเทียมของเพลิงแก่นสุริยันที่พุ่งออกมานั้น ได้ทำการเผาผลาญท้องฟ้าที่โอรสสวรรค์ปกสมุทรอาศัยหลบซ่อนตัวนั้นถูกเผาไหม้จนกลายเป็นหลุมดำที่น่ากลัวขึ้นมา และทำให้โอรสสวรรค์ปกสมุทรไม่มีที่ที่จะซ่อนตัวในฉับพลัน

แต่ทว่า โอรสสวรรค์ปกสมุทรก็ไวมาก ขณะที่ท้องฟ้าที่ใช้เป็นที่หลบซ่อนตัวถูกทำลาย เขาได้หายตัวไปอย่างรวดเร็ว และย้ายไปซ่อนตัวอยู่ในท้องฟ้าได้อีกครั้งหนึ่ง

“ตึง ตึง ตึง” ระหว่างที่โอรสสวรรค์ปกสมุทรได้หายตัวไปทันทีนั้น บนตัวของชองซูหย่งหวงปรากฏเป็นกฎเกณฑ์เพลิงแก่นสุริยันออกมาทั่วตัว นาทีนี้เอง เพลิงแก่นสุริยันได้กลายเป็นชุดเกราะ เมื่อชุดเกราะนี้ถูกสวมใส่บนตัวของซูหย่งหวงแล้ว ทำให้นางที่เปี่ยมด้วยกลิ่นอายความเป็นกษัตริย์ของนางพลันเปี่ยมไปด้วยบุคลิกลักษณะองอาจฝึ่งผายขึ้นมาหลายส่วน ให้ความรู้สึกถึงบุคลิกลักษณะอันองอาจห้าวหาญกับผู้คน

“ตูม…” บังเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว หลังจากที่ซูหย่งหวงได้สวมใส่ชุดเราะเพลิงแก่นสุริยันแล้วนั้น บนตัวของนางยังคึงพวยพุ่งเป็นเพลิงแก่นสุรยันที่ไร้สิ้นสุดออกมา ทันใดนั้น เพลิงแก่นสุริยันที่น่ากลัวได้เผาผลาญอาละวาดไปทั่วฟ้าดินและ

เสียงดัง “จี๊ด จี๊ด จี๊ด” ขึ้นมา เหมือนว่าท้องฟ้าถูกเผาจนแห้งเกรียม จึงได้ยินเสียงดังึคร๊ากกออกมา ภายใต้การอาละวาดจากเพลิงแก่นสุริยันที่น่ากลัวเช่นนี้ แม้แต่ท้องฟ้ายังถูกเผาทำลายจนแตกละเอียด

ในเวลานี้ เหมือนว้าเพลิงแก่นสุริยันจะแทรกเข้าไปได้ทุกที่ มันสามารถเผาผลาญท้องฟ้าทีร่ว่างเปล่าได้ทั้งหมด สามารถมุดแทรกตัวเข้าไปทุกที่ ขอเพียงที่ใดที่เป็นท้องฟ้าที่ว่างเปล่ามันก็จะโหมลุกไหม้ไปยังที่นั้น

มองดูลักษณะการเผาผลาญเช่นนี้แล้ว ทำให้หลายคนถึงกับรู้สึกใจหายใจคว่ำ พลังอำนาจของกายสุริยันไม่ต้องกล่าวมากความ ภายใต้การเผาผลาญที่แทกตัวเข้าไปได้ทุกจุด เกรงว่าไม่ว่าใครก็ยากจะหลบซ่อนตัว เมื่อท้องฟ้าที่ว่างเปล่าถูกเผาผลาญไปจนสิ้น ไม่ว่าจะหลบซ่อนอยู่ที่ใดก็ต้องถูกเผาโดยเพลิงแก่นฟ้าสุริยัน

แต่จะว่าไปแล้วมันก็เป็นเรื่องแปลก ปล่อยให้เพลิงแก่นสุริยันของซูหย่งหวงเผาผลาญอาละวาดไปทั่งฟ้าดิน ไม่ว่าเพลิงแก่นสุริยันจะแทรกตัวเข้าไปได้ทุกที่ แต่ทว่า โอรสสวรรค์ปกสมุทร กลับยังคงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เหมือนว่าเขาได้ถูกเพลิงแก่นสุริยันเผาจนหายไปจากโลกนี้ไปแล้วอย่างนั้น

แน่นอนที่สุด ทุกคนต่างรู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ที่โอรสสวรรค์ปกสมุทรจะถูกเผาจนไม่เหลือซากเช่นนี้ไปได้ เพียงแต่ทุกคนรู้สึกแปลกใจว่า โอรสสวรรค์ปกสมุทรไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ตรงไหนกันแน่

ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างแอบลุ้นไปกับโอรสสวรรค์ปกสมุทร เมื่อมองดูเพลิงแก่นสุริยันที่เผาผลาญและอาละวาดอย่างรุนแรง ภายใต้เพลิงแก่นสุริยันในลักษณะเช่นนี้ โอรสสวรรค์ปกสมุทรจะหลบได้อย่างไรกัน?

แต่ว่า ตั้งแต่ต้นจนจบ โอรสสวรรค์ปกสมุทรก็ไม่เคยปรากฏตัวออกมาเลย ภายใต้การการอาละวาดลักษณะเช่นนี้ของเพลิงแก่นสุริยัน โอรสสวรรค์ปกสมุทรคล้ายดั่งอันตธารหายไปแล้วอย่างนั้น

แต่ว่า แม้โอรสสวรรค์ปกสมุทรยังคงไม่ปรากฏตัวออกมา แต่ซูหย่งหวงไม่กล้าประมาท นางสวมชุดเราะสุริยัรนเอาไว้ ปล่อยให้เพลิงแก่นสุริยันอาละวาดเผาผลาญฟ้าดินอยู่อย่างนั้น ไม่เปิดโอกาสให้กับโอรสสวรรค์ปกสมุทรแม้แต่น้อยนิด

ซูหย่งหวงคือผู้ที้ฝึกคือกายสุริยัน ดังนั้น นางย่อมเข้าใจเป็นอย่างดีว่า กายมายาที่เป็นหนึ่งในสิบสองกายเซียน ความลึกล้ำมหัศจรรย์ของมันไม่ได้ด้อยไปกว่ากายสุริยันเลย

“แว้งค์” นาทีนี้เอง ช่องว่างที่ซูหย่งหวงยืนอยู่พลันเหมือนกับเกิดการบิดเบี้ยวขึ้นมาอย่างนั้น ช่องว่างที่ซูหย่งหวงอยู่ได้มีการแปรเปลี่ยนรูปร่างไปทันที โดยได้กลายเป็นลักษณะที่ทั้งข้นทั้งเหนียว ทำมให้บริเวณช่องว่างที่ซูหย่งหวงอยู่คล้ายกลายเป็นบ่อโคลน ทำให้การเคลื่อนไหวของซูหย่งหวง กลายเป็นเชื่องช้าขึ้น

ในเสี้ยววินาทีนี้เอง โอรสสวรรค์ปกสมุทรได้ปรากฏตัวขึ้นมา เหมือนว่าเขาได้เปิดประตูช่องว่างออกมา และไปปรากฏตัวอยู่บริเวณที่ซูหย่งหวงยืนอยู่ เหมือนว่าเขาได้ปิดกั้นระหว่างช่องว่างเอาไว้ ทำให้เพลิงแก่นสุริยันเผาไม่ถึงตัวของเขา

“ตูม” เสียงดังสนั่นเกิดขึ้น ทันใดนั้น โอรสสวรรค์ปกสมุทรพลันลงมือด้วยการทำท่ามุทราเกิดเป็นตราประทับศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา เมื่อตราประทับศักดิ์สิทธิ์นี้สยบลงมา ทำให้เกิดเป็นคลื่นยักษ์ขึ้นมา น้ำทะเลที่ยิ่งใหญ่ไพศาลเข้าท่วมฟ้าดินในทันที โดยที่ตราประทับศักดิ์สิทธิ์นี้ได้หอบเอาพลังของทะเลปีศาจมังกรมาด้วยเพื่อสังหารซูหย่งหวง

พลังของกระบวนท่านี้สามารถสยบเพลิงแก่นสุริยันของซูหย่งหวงลงได้โดยพลัน ฉับพลันนั้น เพลิงแก่นสุริยันที่กำลังอาละวาดของซูหย่งหวงได้สลดลง จังหวะที่สลดลงทีหนึ่งนี้เอง ทำให้พลังอำนาจของตราประทับศักดิ์สิทธิ์เพิ่มชึ้นอย่างมาก น้ำทะเลได้เข้าท่วมทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนหนึ่งเป็นน้ำหลากเข้าท่วมอาละวาดช่องว่างที่ซูหย่งหวงอยู่นั่น

แต่ว่า เพลิงแก่นสุริยันของซูหย่งหวงเพียงสลดลงนิดเดียวเท่านั้น จากนั้น เพลิงแก่นสุริยันก็ได้ปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรงในทันที “ตูม ตูม ตูม” คล้ายดั่งเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ขึ้นอย่างนั้น เพลิงแก่นสุริยันได้เพิ่มพลังขึ้นมาเป็นเท่าตัว พลันระเหยน้ำทะเลที่เข้ามาท่วมและอาละวาดอยู่นั้นจนแห้งไปในทันที

แม้ว่าช่องว่างที่ซูหย่งหวงอยู่นั้นจะถูกควบคุมเอาไว้ ทำให้นางเสมือนหนึ่งตกลงไปอยู่ในบ่อโคลน คิดจะลงมือตอบโต้ก็ทำได้ไม่ง่ายนัก

แต่ทว่า ซูหย่งหวงไม่ได้สำแดงเคล็ดวิชาใดๆ ไม่ได้สำแดงกระบวนท่าใดกระบวนท่าหนึ่งแต่อย่างใด ร่างกายของเขาคล้ายดั่งเป็นภูเขาไฟนับสิบล้านลูกที่ปะทุขึ้นมา พวยพุ่งเพลิงแก่นสุริยันที่บ้าคลั่งยิ่งนักออกมา จากการส่งเสียงคำรามทีหนึ่งของมังกรไฟ ปรากฏมังกรไฟยักษ์พุ่งออกมา ฉีกฟ้าดินจนกระจุย “ปัง” พลันจัดการทำลายตราประทับที่โอรสสวรรค์ปกสมุทรใช้สยบและสังหารนั้นแหลกละเอียดไป

แม้ว่ามังกรไฟที่ดุร้ายยิ่งต้องการจับฉีกร่างของโอรสสวรรค์ปกสมุทรให้ละเอียดจังหวะนั้น โอรสสวรรค์ปกสมุทรก็ได้หายตัวไปทันทีอีกครั้ง โดยที่มังกรไฟยักษ์ได้ทำการค้นหาไปทั่วฟ้าดิน แต่ว่า ยังไม่ตามหาร่องรอยของโอรสสวรรค์ปกสมุทรได้พบ

นาทีต่อมา โอรสสวรรค์ปกสมุทรได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เขาไปปรากฎตัวขึ้นที่ด้านหลังของซูหย่งหวง และลงมือลอบจู่โจมทันที ซูหย่งหวงอาศัยเพลิงแก่นสุริยันที่หม้วนตัวกลับ โดยที่เพลิงแก่นสุริยันปริมาณนับไม่ถ้วนที่มีลักษณะเหมือนน้ำหลากที่เข้าท่วมต่อโอรสสวรรค์ปกสมุทร ทันใดนั้นก็ได้ท่วมโอรสสวรรค์ปกสมุทรจนมิดร่าง หวังจะเผาร่างของโอรสสวรรค์ปกสมุทรให้จนมิด และเผาจนตัวเขากลายเป็นเถ้าธุลีไป

แต่ว่า โอรสสวรรค์ปกสมุทรมีความยอดเยี่ยมมาก ในขณะที่กำลังจะถูกเพลิงแก่นสุริยันเผาผลาญจนกลายเป็นเถ้าธุลีนั้น เขาได้หายตัวไปในทันที หนีไปหลบซ่อนตัวได้อีกครั้งหนึ่ง

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ทั้งโอรสสวรรค์ปกสมุทร และซูหย่งหวงต่างแลกหมัดกันอยู่หลายครั้ง โดยที่โอรสสวรรค์ปกสมุทรได้ลอบโจมตีต่อซูหย่งหวงครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ว่า ก็จบลงด้วยความล้มเหลว แต่ว่า โอรสสวรรค์ปกสมุทรเองก็อาศัยกายมายาที่ไปมาได้อย่างอิสระ หลบซ่อนตัวอยู่บนท้องฟ้า ทำให้ซูหย่งหวงก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ในเวลานี้

ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องกลั้นลมหายใจเอาไว้ที่เห็นการปะมือกันเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกคนไม่เพียงต้องการดูว่า การต่อสู้ชี้ขาดระหว่างซูหย่งหวง กับโอรสสวรรค์ปกสมุทรใครจะชนะใครจะพ่ายแพ้ ขณะเดียวกัน ทุกคนก็ต้องการดูว่าระหว่างกายสุริยันกับกายมายาใครแข็งแกร่งหรืออ่อนด้อยกว่ากัน

ในขณะนี้ ทั้งโอรสสวรรค์ปกสมุทร และซูหย่งหวงต่างเยื้อกันอยู่ โดยที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ได้สำแดงท่าไม้ตายของตนออกมา ต่างฝ่ายต่างกำลังค้นหาช่องโหว่ของฝ่ายตรงข้าม เพื่อลงมือครั้งเดียวให้ถึงตาย

หลี่ชิเย่เพียงแสดงท่าทีที่ยิ้มๆ ออกมาเมื่อเห็นลักษณะการต่อสู้ชี้ขาดเช่นนี้ และไม่ได้มีการให้คำแนะนำแก่ซูหย่งหวงแต่อย่างใด

หากจะว่ากันตามคุณฯสมบัติของกายเซียนแล้ว ทั้งสิบสองกายเซียนมีการจัดแบ่งว่ากายเซียนไหนแข็งแกร่ง กายเซียนไหนอ่อนด้อยล่ะก็ พวกมันต่างมีข้อดีและข้อเสียเหมือนๆ กัน กล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญตนที่ฝึกวิชากายเซียนแล้ว ไม่มีกายเซียนที่ทรงพลังมากที่สุด มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด

หลี่ชิเย่ย่อมรู้ถึงจุดอ่อนของกายมายา แต่ว่า เขาไม่ได้นำสำสิ่งนี้ไปให้การชี้แนะต่อซูหย่งหวง เขาต้องการอาศัยการต่อสู้ตัดสินชี้ขาดด้วยกายเซียนแบบนี้ ให้ซูหย่งหวงได้ไปสืบเสาะค้นหาสิ่งที่ตนขาดหายไป และข้อดึของกายเซียนอื่นๆ !

ก่อนหน้านั้น โอรสสวรรค์ปกสมุทรสู้หลี่ชิเย่ ไม่ได้เลย ซึ่งเป็นเพราะหลี่ชิเย่นอกจากมีความแข็งแกร่งในตัวเองและรู้อย่างละเอียดถึงข้อด้อยของกายมายาแล้ว ขณะเดียวกัน ตัวของหลี่ชิเย่เองก็ได้มีการฝึกวิธีการขับเคลื่อนกายมายากับช่องว่างจากตำรานภา ดังนั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่แล้วจึงกลายเป็นไม่มีข้อได้เปรียบอะไรเลย

ขณะที่ซูหย่งหวงนั้นต่างกัน นางไม่ชำนาญเรื่องของปฏิบัติการเรื่องช่องว่าง เพราะเหตุนี้เอง ในระยะเวลาอันสั้นดูเหมือนนางจะได้เปรียบอย่างชัดเจน แต่ ก็ไม่สามารถทำกะไรโอรสสวรรค์ปกสมุทรได้

บรรดายอดฝีมือที่แท้จริง เช่น พวกของเมิ่งเจิ้นเทียน และองค์ชายแห่งความชั่วร้าย พวกเขาย่อมดูออกว่า หากจะนับถึงเรื่องกำลัง ลำดับชั้นล่ะก็ ซูหย่งหวงมีความได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด เพียงแต่ซูหย่งหวงยังคลำหาช่องโหว่ของกายมายา ทำให้นางไม่สามารถสยบและสังหารโอรสสวรรค์ปกสมุทรได้ในเวลานี้

อ่านตอนอื่นๆของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล คลิกเลย

แฟนเพจ