ตอนที่ 1722 พันธมิตรร้อยปราชญ์ของเก้าแดน
ในที่สุด หลี่ชิเย่ได้มาถึงด้านล่างของชะตาฟ้า เขาเงยหน้าขึ้นมองชะตาฟ้าทีหนึ่ง เวลานี้บริเวณกลางหน้าผากของเขาปรากฎประกายขึ้นมา ซึ่งก็คือสัญลักษณ์ของชะตาฟ้านั่นเอง
“สัญลักษณ์ชะตาฟ้า!” มีคนที่สายตาแหลมคมสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า บริเวณหน้าผากของหลี่ชิเย่ปรากฎประกายขึ้นมา ถึงกับพูดขึ้นมาแผ่วเบา
แดนมนุษย์กษัตราในเวลานี้ชุมนุมเต็มไปด้วยยอดฝีมือจำนวนนับไม่ถ้วนของเก้าแดน โดยเฉพาะบริเวณฟ้าดินแห่งนี้ยิ่งเป็นที่ชุมนุมของบรรดายอดฝีมือที่มาจากเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน รวมทั้งพันธมิตรร้อยปราชญ์ที่ไม่ยอมรับก็มาอยู่ ณ ที่ตรงนี้เช่นกัน
หลายคนรู้สึกไม่สบอารมณ์นักกับภาพที่ได้เห็น โดยเฉพาะบรรดาดาวรุ่งที่ถูกลิดรอนสิทธิ์จากการเป็นผู้เข้ารับการคัดเลือกเป็นราชันเซียนเหล่านั้น ยิ่งรู้สึกอึดอัดในใจยิ่งนัก กระทั่งเรียกได้ว่าเพลิงแห่งความโกรธสุมอยู่เต็มอก ดังนั้น จึงมีผู้ที่ส่งเสียงฮึน่าเกรงขามออกมา
แม้ว่าในขณะนี้หลี่ชิเย่ได้ครอบครองอานุภาพราชันเซียนแล้ว โดยเฉพาะเมื่อสิบสามลัคนาของเขาปรากฏ และสี่ยอดกายเซียนปะทุออกมานั้น ทำให้ระดับจักรพรรดิเทพยังยืนได้ไม่มั่นคง แต่ก็ยังคงมีดาวรุ่งที่ไม่ยอมรับสิ่งนี้
กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว จะอย่างไรเสียก็เคยได้รับการคัดเลือกจากชะตาฟ้ามาก่อน และพวกเขาเคยเป็นผู้ได้รับสิทธิ์เขารับการคัดเลือกเป็นราชันเซียน แต่ว่า ภายหลังถูกตัดสิทธิ์ไปแบบหาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้ แล้วจะให้พวกเขายอมรับได้อย่างไร
เวลานี้ พวกเขามองเห็นหลี่ชิเย่มีสิทธิ์ได้ครอบครองตำแหน่งราชันเซียนแล้ว ยิ่งทำให้ในใจของพวกเขีรู้สึกไม่สบอารมณ์ยิ่งขึ้น
“แหะ ดาวรุ่งของเก้าแดนสูญเสียสิทธิ์การรับคัดเลือกเป็นราชันเซียนไปโดยไร้เหตุผล เวลานี้ต่อให้สืบทอดชะตาฟ้าได้ ก็ไม่สามารถให้ผู้อื่นยอมรับได้” เวลานี้มีผู้ที่พูดเสียงแผ่วเบาขึ้นมา แต่ผู้คนจำนวนมากกลับได้ยินอย่างชัดเจน
สิ่งนี้เป็นความตั้งใจของผู้พูด จงใจหาโอกาสลดค่าและทำลายชื่อเสียงของหลี่ชิเย่
หลังจากเสียงที่แผ่วเบานี้ถูกปล่อยออกมาแล้ว ผู้คนจำนวนมากถึงกับมองหน้ากันและกัน โดยเฉพาะบรรดาร้อยปราชญ์ของเก้าแดนที่รวมตัวกันเป็นพันธมิตรแล้วยิ่งทำส่งเสียงด้วยความไม่พอใจออกมา พวกเขาไม่พอใจในเรื่องนี้เป็นอันมาก ดังนั้น เมื่อมีคนพูดลักษณะเช่นนี้ออกมา ย่อมเป็นการพูดความในใจของพวกเขาออกมา
เพียงแต่หลี่ชิเย่ในเวลานี้แข็งแกร่งมากเหลือเกิน จึงไม่มีใครกล้าที่จะก้าวออกมาพูด จะอย่างไรเสีย สิบสามลัคนาที่ลอยอยู่นั่น และสี่ยอดกายเซียนที่ปะทุออกมา ด้วยสภาพของหลี่ชิเย่ในขณะนี้ ต่อให้ระดับต้านรับกับราชันเซียนได้ลงมือเองก็ต้องถูกสังหารได้เช่นกัน
“ในเมื่อกล้ายืนออกมาพูดเช่นนี้แล้วก็อย่าได้หลบซ่อนตัวอีกเลย หรือต้องการให้ข้าลากตัวเจ้าออกมาอย่างนั้นรึ?” หลี่ชิเย่ยืนอยู่ตรงนั้น ยิ้มกล่าวท่าทีเฉยเมยออกมา
“แว้งค์” เสียงหนึ่งดังขึ้น บนท้องฟ้าพลันปรากฏร่างเงาแวบขึ้นมา เห็นคนสองคนยืนอยู่ที่ตรงนั้น หนึ่งเฒ่าหนึ่งหนุ่ม ร่างของพวกเขาเปล่งประกายศักดิ์สิทธิ์ออกมา อีกทั้งลมปราณของพวกเขาดูศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ยามที่พวกเขาสองคนปรากฏขึ้นมาแล้ว ได้ให้ความรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ที่สูงส่ง เหมือนว่าพวกเขามีชาติกำเนิดมาจากเผ่าเทพอย่างนั้น
“กล้าทำกล้ารับ” ผู้เฒ่าผู้นั้นกล่าวเสียงทุ่มต่ำขึ้นมา “ต่อให้เจ้าแข็งแกร่งมากไปกว่านี้ แต่ว่าไม่ได้ผ่านศึกชิงชะตาฟ้ามา ย่อมทำให้ผู้คนต้องมีคำนินทาได้”
หลี่ชิเย่มองดูผู้เฒ่าผู้นั้นทีหนึ่ง จากนั้นมองดูชายหนุ่มผู้นั้น ยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “ข้านึกว่าเป็นใครเสียอีก ที่แท้คือเทพแท้จริงเหวยเต้า สายเลือดเช่นนี้ของพวกเจ้าในเก้าแดนมีอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นแล้ว ยามที่พ่อของเจ้ายังคงมีชีวิตอยู่ก็ทำได้เพียงคุกเข่าตรงหน้าของข้าเท่านั้น เจ้าเปรียบกับพ่อของเจ้ายังห่างชั้นกันมากนัก”
“เจ้า” ด้วยคำพูดคำเดียวของหลี่ชิเย่ ทำเอาผู้เฒ่าผู้นี้ถึงกับมีใบหน้าที่แดงก่ำขึ้นมา
“เอาเถอะ ในเมื่อมากันแล้วข้าก็ไม่เกรงใจล่ะนะ” หลี่ชิเย่มองดูผู้เฒ่านั่นทีหนึ่ง จากนั้นกวาดตามองฟ้าดินทีหนึ่ง พื้นที่บริเวณนี้ได้รวบรวมยอดฝีมือของเก้าแดนเอาไว้ โดยเฉพาะพันธมิตรร้อยปราชญ์ของเก้าแดนล้วนแล้วแต่อยู่กันที่ตรงนี้ ไม่เพียงดาวรุ่งของเก้าแดนเท่านั้น แม้แต่ผู้คุ้มครองของพวกเขาก็มาด้วยแล้ว
ความจริงแล้ว พันธมิตรร้อยปราชญ์แห่งเก้าแดนตั้งใจทำการใหญ่สักครั้ง พวกเขาต้องการท้าทายอำนาจของรนาชันเซียนองค์ใหม่ ดังนั้น พวกเขาจึงมีท่าทีอยากลองเต็มทีแล้ว การถูกตัดสิทธิ์ผู้เข้ารับการคัดเลือกเป็นราชันเซียนกล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว ในใจของพวกเขาไม่ยอมรับ และไม่เต็มใจ
หลี่ชิเย่ละสายตากลับมา กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “เอาเถอะ เดิมทีข้าคิดจะคงพลังชีวิตเอาไว้ให้กับเก้าแดน ในเมื่อพวกเจ้ามีตาแต่ไร้แววเช่นนี้ก็อย่าได้โทษข้า พวกเจ้าร้อยปราชญ์เก้าแดนอะไรนั่น ในใจคงไม่ยอมรับข้ามากสินะ รู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมกับการสูญเสียสิทธิ์เข้ารับการคัดเลือกเป็นราชันเซียน”
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา การจะเป็นราชันเซียนก็ต้องผ่านการแย่งชิงชะตาฟ้า มีเพียงผ่านสงครามที่โหดร้ายทารุณแล้วจึงมีสิทธิ์ได้เป็นราชันเซียน” ดาวรุ่งผู้สูญเสียสิทธิ์เข้ารับการคัดเลือกเป็นราชันเซียนกล่าวด้วยความไม่พอใจ
“นั่นสิ” ดาวรุ่งอีกคนก็พูดสนับสนุนขึ้นมาว่า “ถ้าหากไม่ได้ผ่านการต่อสู้ที่โหดร้ายทารุณเพื่อชะตาฟ้าแล้ว ต่อให้สืบทอดชะตาฟ้าได้กลายเป็นราชันเซียน มันก็ไม่ถูกต้องตามธรรมเนียม”
สำหรับผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะสายสำนักราชันเซียนของแดนมนุษย์กษัตราที่ไม่ต้องการพูดอะไรออกมา พวกเขายังจะออกห่างจากสถานที่ที่ขัดแย้งตรงนี้ด้วยซ้ำ เนื่องจากวิธีการของคนโหดอันดับหนึ่งนั้นพวกเขาเห็นมามาก ใครที่เป็นศัตรูกับเขาล้วนแล้วแต่ไม่มีจุดจบที่ดี แม้แต่พรรคเซียนเหินยังถูกทำลายล้าง นับประสาอะไรกับคนอื่น
แต่ว่าร้อยปราชญ์แห่งเก้าแดนคือไม่ยอมรับท่าเดียว แม้ว่าพวกเขาจะรู้ดีว่าคนโหดอันดับหนึ่งนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ว่า การถูกลิดรอนสิทธิ์เข้ารับการคัดเลือกเป็นราชันเซียนแบบหาเหตุผลอธิบายไม่ได้ พวกเขาจะยอมได้อย่างไร จะให้พวกเขากล้ำกลืนความอัปยศได้อย่างไร
“เอาเถอะ พวกเจ้าต้องการสงครามชิงชะตาฟ้าที่โหดร้ายทารุณอย่างนั้นรึ” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “ดี งั้นข้าก็จะให้สงครามชะตาฟ้าแก่พวกเจ้า พวกเจ้าร้อยปราชย์เก้าแดนอะไรนั่นเข้ามาพร้อมกันเลย สำหรับผู้คุ้มครองที่อยู่เบื้องหลัง หรือจะมีธาตุแท้ภายในอะไรคอยหนุนหลัง ทั้งหมดให้เข้ามาพร้อมกันทีเดียวเลย ข้าจะจัดการกับพวกเจ้าในหนึ่งกระบวนท่า”
คำพูดของหลี่ชิเย่พลันทำให้สีหน้าของดาวรุ่งร้อยปรายช์แห่งเก้าแดนดูไม่จืดยิ่งนัก พวกเขาต่างก็เป็นลูกรักสวรรค์ที่มาจากทุกๆ ที่ของเก้าแดน พวกเขาต่างมีผลงานที่น่าเกรงขาม มีกำลังความสามารถที่แข็งแกร่งไร้ผู้เทียบเทียม
แม้ว่าพวกเขาเองก็รู้ว่าหลี่ชิเย่นั้นปราศจากผู้ต้อกร และเข้าใจว่าหลี่ชิเย่นั้นมีความแข็งแกร่ง แต่ เวลานี้หลี่ชิเย่กลับประกาศว่าจะจัดการกับพวกเขาทั้งหมดในหนึ่งกระบวนท่า คำพูดนี้นับว่าสร้างความอัปยศต่อพวกเขายิ่งนัก พวกเขาไม่สามารถกล้ำกลืนความอัปยศเช่นนี้เอาไว้ได้
“วาจาโอหังมาก” ดาวรุ่งที่มาจากแดนอื่นอดที่จะส่งเสียงฮึแสดงความไม่พอใจ และกล่าวขึ้นมา
หลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมยว่า “ข้าโอหังเช่นนี้มาตลอด หากพวกเจ้าคิดจะลงมือก็เร็วหน่อย อย่าทำโอ้เอ้เสียเวลาของข้า”
“เป็นเจ้าพูดเองนะ?” มีดาวรุ่งตะโกนถามด้วยเสียงอันดังทันที
“ถูกต้อง” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “ไม่ว่าพวกเจ้าจะเป็นใคร ขอเพียงไม่พอใจข้าล้วนแล้วแต่ลงมือได้ ลงมือได้เต็มที ไม่ว่าจะมีฝีมืออะไร มีกระบวนท่าอย่างไร ท่าไม้ตายเช่นใดสำแดงออกมาให้เต็มที่ ข้าจะจัดการพวกเจ้าทั้งหมดในกระบวนท่าเดียว!”
“ดี พวกเราจะขอคำชี้แนะความปราศจากผู้ต่อกรของเจ้า” กลุ่มคนรุ่นใหม่อารมณ์ร้อน เมื่อหลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา จึงมีผู้ที่ทนไม่ไหวและก้าวออกมาพูดด้วยเสียงอันดังทันที
เมื่อมีคนก้าวออกมา ทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่คนอื่นๆ ก้าวตามกันออกมา เวลานี้ ดาวรุ่งและยอดฝีมือของพันธมิตรร้อยปราชญ์แห่งเก้าแดนต่างทยอยกันก้าวออกมา
เมื่อบรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่ก้าวเดินออกมา ผู้อาวุโสและผู้คุ้มครองที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาก็ก้าวตามออกมาทีละคนๆ
ในเวลานี้ บริเวณที่ที่หลี่ชิเย่ยืนอยู่นั้นถูกล้อมเอาไว้จนน้ำยังเล็ดรอดไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นบนดินหรือบนอากาศ ล้วนมีแต่ศัตรูยืนอยู่เต็มไปหมด ดาวรุ่ง และยอดฝีมือแต่ละคนต่างยึดเอาพื้นที่ที่ตนเองดูจะได้เปรียบมากที่สุด เตรียมโจมตีหลี่ชิเย่เพียงครั้งให้ถึงตาย
“ยังมีอีกมั้ย? ถ้าต้องการลงมือก็รีบหน่อยนะ คนยิ่งมากเท่าไรยิ่งดี จัดการกับพวกเจ้าเพียงครั้งเดียว จะได้ไม่ต้องเสียเวลาลงมือจัดการพวกเจ้าทีละคนๆ “ หลี่ชิเย่กวาดตามองไปทั่ว ก้มมองเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน กล่าวกับทุกคนว่า “คิดจะลงมือก็ให้ก้าวออกมา”
“ฮึ” เดิมยังมีดาวรุ่งที่ลังเลอยู่ แต่ สุดท้ายไม่สามารถทนต่อคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ได้ ส่งเสียงแสดงความไม่พอใจและก้าวออกมา ผู้อาวุโสที่คอยหนุนหลังและยอดฝีมือได้แต่ทยอยกันตามกันออกมาเข้าสู่สมรภูมิรบ
บรรดาผู้บำเพ็ญตน และยอดฝีมือที่ไม่ได้ต้องการแย่งชิงชะตาฟ้าเมื่อเห็นภาพเช่นนี้แล้ว ต่างทยอยกันถอยหลังออกห่าง โดยเฉพาะผู้บำเพ็ญตน และยอดฝีมือทั้งหมดของแดนมนุษย์กษัตรา พวกเขาถอยไปไกลมาก ออกห่างจากสมรพูมิรบในระยะที่ห่างไกลเพียงพอ
กล่าวสำหรับ ผู้บำเพ็ญตน และยอดฝีมือของแดนมนุษย์กษัตราแล้ว แม้ว่าสงครามยังไม่ระเบิดขึ้น แต่พวกเขาสามารถคาดการณ์ถึงผลของมันแล้ว พวกเขารู้ว่าจะมีจุดจบอย่างไร
ผู้บำเพ็ญตนและยอดฝีมือของแดนมนุษย์กษัตรามองว่า ไม่ว่าคนโหดอันดับหนึ่งจะทำเรื่องอะไรก็ตาม ล้วนแล้วแต่สมเหตุสมผลทั้งสิ้น ในโลกนี้ไม่มีสิ่งมหัศจรรย์ใดๆ ที่คนโหดอันดับหนึ่งสร้างขึ้นมาไม่ได้ กล่าวสำหรับคนอื่นมันคือความมหัศจรรย์ ขณะที่กล่าวสำหรับคนโหดอันดับหนึ่งแล้ว มันคือสิ่งที่ปรกติธรรมดาจนไม่รู้ว่าจะธรรมดาอย่างไรแล้ว
ในเมื่อคนโหดอันดับหนึ่งประกาศว่าสามารถอาศัยกระบวนท่าเดียวจัดการกับพันธมิตรร้อยปราชญ์แห่งเก้าแดนได้ เขาย่อมสามารถสังหารพันธมิตรร้อยปราชญ์แห่งเก้าแดนได้ในกระบวนท่าเดียว ดังนั้น บรรดาผู้บำเพ็ญตน และยอดฝีมือของแดนมนุษย์กษัตราเวลานี้รู้แล้วว้าจุดจบจะเป็นอย่างไร
สุดท้ายแล้ว ดาวรุ่งและยอดฝีมือของพันธมิตรร้อยปราชญ์แห่งเก้าแดนก็ได้ก้าวออกมาทั้งหมดแล้ว นอกจากตัวของดาวรุ่งและยอดฝีมือแล้ว บรรดาบรรพบุรุษของสำนัก ผู้คุ้มครองของพวกเขาต่างทยอยกันเข้าร่วมสงครามในครั้งนี้ กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วนี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว
พันธมิตรร้อยปราชญ์แห่งเก้าแดนใช่ว่าจะไม่รู้ว่าหลี่ชิเย่นั้นมีความแข็งแกร่ง แต่ว่า กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว พวกเขาไม่มีทางเลือก นี่เป็นโอกาสสุดท้าของพวกเขา และเป็นโอกาสเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
พวกเขาที่เป็นดาวรุ่งและยอดฝีมือต่างเลือกก้าวเดินบนวิถีสวรรค์ นับแต่วันแรกที่พวกเขาฝึกวิชาก็พยายามเพื่อเป้าหมายความเป็นราชันเซียน ถ้าหากนาทีสุดท้ายพวกเขาไม่สู้ล่ะก็ เท่ากับพยายามต่อสู้มาหลายสิบปี กระทั่งเป็นร้อยปีก็จะกลายเป็นเหมือนตะกร้าสานที่นำมาตักน้ำแล้วได้แต่ความว่างเปล่า!
แม้ว่าการเป็นศัตรูกับคนโหดอันดับหนึ่งในเวลานี้เป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลย ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้ดีว่า คนโหดอันดับหนึ่งคือผู้ปราศจากผู้ต่อกรแล้ว มีสิบสามลัคนา สี่ยอดกายเซียน เป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถต้านได้อยู่แล้ว
แต่ว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าชะตาฟ้าแล้วไม่มีคำว่าสติ บรรดาดาวรุ่งและยอดฝีมือที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนแล้วแต่ฝึกวิชามาแล้วหลายสิบปีกระทั่งหลายร้อยปี การที่พวกเขาทุ่มเทให้กับการฝึกหลายสิบถึงหลายร้อยปีเพื่ออะไรหละ? พวกเขาทนขัดเกลาอย่างยากลำบาก พวกเขาหลั่งเลือดก้าวเดินไปข้างหน้าเพื่ออะไรกัน?
ความพยายาม กำลังกายใจที่ทุกคนได้ทุ่มเทลงไป ค่าตอบแทนที่เสียไปก็เพื่อการแย่งชิงชะตาฟ้าในวันนี้มิใช่รึ ถ้าหากพวกเขาต่างไม่ยอมทุ่มเทเสี่ยงกับมันสักครั้ง ความพยายามหลายสิบปีกระทั่งหลายร้อยปีของพวกเขายังจะมีความหมายอะไรเล่า?
อีกอย่าง เวลานี้พวกเขามีคนมากกว่า ถ้าหากสามารถสังหารคนโหดอันดับหนึ่งได้ล่ะก็ พวกเขายังคงมีความหวังได้สืบทอดชะตาฟ้ากลายเป็นราชันเซียนได้
เวลานี้ คนโหดอันดับหนึ่งก็คืออุปสรรคใหญ่กั้นขวางพวกเขาอยู่ตรงหน้า หากพวกเขาคิดจะออกจากมุมอับก็ต้องสังหารคนโหดอันดับหนึ่งเสีย มิฉะนั้นล่ะก็ทุกอย่างพูดไปก็เปล่าประโยชน์