ตอนที่ 1733 ข้อตกลง
สำหรับคำพูดที่จริงใจของหลี่ชิเย่นั้น ในที่สุด ราชันซื่อตี้ที่นิ่งเงียบได้เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “สิ่งที่ควรทำข้าย่อมต้องไปทำ อีกาทมิฬ วันนี้ควรเป็นเวลาที่เจ้าต้องมอบศีรษะแล้ว แดนที่สิบไม่อนุญาตให้เจ้าดำรงอยู่!”
คำพูดที่ราชันซื่อตี้พูดก็ออกมาจากใจ การที่เขาเรียกร้องให้จอมราชันสิบสององค์มาลอบสังหารหลี่ชิเย่ ณ ที่ตรงนี้ ใช่เป็นเพราะบุญคุณความแค้นส่วนตัวระหว่างเขากับหลี่ชิเย่ ใช่เป็นเพราะหลี่ชิเย่พาลูกสาวของเขาหนีไป เขาคือจอมราชันที่ยืนอยู่จุดสูงสุด เขาเคยบงการมาแล้วยุคแล้วยุคเล่า เขาไม่ได้แก้แค้นหลี่ชิเย่เพราะเหตุผลส่วนตัวเกี่ยวกับลูกสาวของตน
การที่เขาต้องการสังหารหลี่ชิเย่เป็นเพราะยืนอยู่ในฐานะของเผ่าเทพ เผ่ามาร และเผ่าสวรรค์สามเผ่าของพวกเขา เขาต้องการสังหารหลี่ชิเย่ไม่เพียงเพราะหลี่ชิเย่มีความแข็งแกร่งเช่นใด ที่สำคัญมากกว่านั้นก็คือ หลี่ชิเย่มีพลังเรียกร้องที่เยี่ยมยอดมากในแดนที่สิบ ซึ่งจุดนี้ราชันเซียนจากเก้าแดนไม่ว่าองค์ไหนก็ไม่สามารถเทียบเคียงได้
บางที บรรดาราชันเซียนจากเก้าแดนก็มีราชันเซียนประเภทที่สามารถเกรียงไกรไปทั่วสิบสามทวีปได้ แต่หากจะบอกว่าใครบ้างที่สามารถทำให้ราชันเซียนจากเก้าแดนสงบจิตสงบใจแล้วนั่งลงร่วมปรึกษาหารือเรื่องใหญ่ได้ คงมีอีกาทมิฬเท่านั้น และมีเพียงมือมืดที่อยู่เบื้องหลังผู้ที่เป็นตัวเชื่อมโยงมายุคแล้วยุคเล่า ที่สามารถนำเอาราชันเซียนแต่ละองค์มารวมตัวกันได้
กล่าวได้ว่า การดำรงอยู่ของอีกาทมิฬสร้างความคุกคามให้กับเผ่าเทพ เผ่ามาร และเผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่ามากมายเหลือเกิน อีกาทมิฬจุดชนวนสงครามขึ้นหลายครั้ง โดยเฉพาะศึกล่าสังหารราชันที่สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับเผ่าเทพ เผ่ามาร และเผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่าอย่างหนัก สุดท้ายเผ่าเทพ เผ่ามาร และเผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่าจำเป็นต้องเซ็นสัญญากับร้อยเผ่าพันธุ์ นับจากนั้นเป็นต้นมา ทำให้ร้อยเผ่าพันธุ์มีสิทธิ์เสมอด้วยเผ่าเทพ เผ่ามาร และเผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่า อย่างน้อยที่สุดในข้อตกลงเป็นเช่นนั้น!
หากชาตินี้ปล่อยให้อีกาทมิฬขึ้นไปแดนที่สิบอีก ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่สามารถคาดการณ์ได้ก็คือจะต้องกระทบอย่างหนักต่อเผ่าเทพ เผ่ามาร และเผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่าของพวกเขา กระทั่งอาจสั่นคลอนต่อฐานะของเผ่าเทพ เผ่ามาร และเผ่าสวรรค์ทั้งสามเผ่าของพวกเขาก็เป็นได้!
ด้วยเหตุนี้เอง ราชันซื่อตี้จึงได้เรียกร้องให้สิบสองจอมราชันร่วมมือกันลอบสังหารอีกาทมิฬ ณ ที่ตรงนี้ ต้องการลอบสังหารอีกาทมิฬก่อนที่จะได้ขึ้นไปยังแดนที่สิบ!
หลี่ชิเย่มองดูบรรดาจอมราชันทั้งสิบสององค์ที่อยู่ในเหตุการณ์ ยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “ตาเฒ่าเฉี่ยน อย่าลืมข้อตกลงในครั้งครานั้นสิ ครั้งนั้น บรรดาจอมราชัน หรือเซียนหวางทั้งหมดของสิบสามทวีปและราชันเซียนของเก้าแดนล้วนแล้วแต่ได้ลงนามในข้อตกลงเอาไว้แล้ว เวลานี้ พวกเจ้ามีสิบสององค์ ไม่ใช่สิ บวกกับตัวเจ้าด้วยรวมทั้งหมดมีจอมราชันสิบสามองค์อยู่ที่ตรงนี้ เจ้ามีชะตาฟ้ามาด้วยกี่สายข้าไม่รู้หรอกนะ ที่ตรงนี้อย่างน้อยมีชะตาฟ้าอยู่สี่สิบสาย ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนข้อตกลงในครั้งครานั้นแล้ว!”
“หนึ่งในข้อตกลงในครั้งนั้นก็คือ ถ้าหากราชขันเซียนเก้าแดนของพวกเราขึ้นมาถึง จอมราชันที่จะเข้าร่วมในการลอบสังหารห้ามเกินกว่าสามองค์ ชะตาฟ้าที่นำมาห้ามเกินกว่าสิบสองสาย กฎเกณฑ์พวกนี้เจ้ารู้อยู่แล้ว คงไม่ต้องให้ข้าอธิบายมากความกระมัง” หลี่ชิเย่กล่าวขึ้นช้าๆ
ศึกล่าสังหารราชันในครั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นราชันเซียนของเก้าแดน หรือจอมราชันของแดนที่สิบต่างจ่ายค่าตอบแทนกับศึกครั้งนี้สูงมาก ในที่สุด สงครามครั้งนี้ทำให้ทั้งสองฝ่ายนั่งลงเจรจาเงื่อนไข ในที่สุดทั้งสองฝ่ายได้มีข้อกำหนดขึ้นมา
หนึ่งในข้อตกลงก็คือ เมื่อราชันเซียนของเก้าแดนขึ้นมายังแดนที่สิบ จอมราชัน หรือเซียนหวางจากแดนที่สิบที่จะเข้าร่วมลอบสังหารต้องไม่มากกว่าสามองค์ ชะตาฟ้าที่นำมาด้วยต้องไม่เกินสิบสองสาย
แน่นอนที่สุด กล่าวสำหรับราชันเซียนของเก้าแดนแล้ว เมื่อขึ้นสู่แดนสิบแล้วเผชิญกับจอมราชันหรือเซียนหวางสามองค์ และหรือชะตาฟ้าสิบสองสาย มันคือความกดดันที่หนักมากแน่นอน และเป็นบททดสอบแน่นอน คิดจะเอาชนะพวกเขายากยิ่งกว่าคำว่ายากเสียอีก
แต่ว่า สงครามลักษณะเช่นนี้ไม่จำเป็นเสมอไปว่าจะต้องปะทะตรงๆ เสมอไป สามารถอาศัยยุทธวิธีการรบแบบยอกย้อน หรือจะหลบหนีไปโดยตรงก็ได้ ขอเพียงขึ้นไปแดนสิบได้แล้ว การลอบสังหารจะต้องยุติลง และราชันเซียนก็จะก้าวขึ้นสู่แดนที่สิบได้เป็นผลสำเร็จ
ราชันเซียนจากเก้าแดนที่เพิ่งจะขึ้นสู่แดนที่สิบหากใช้วิธีเข้าต่อกรโดยตรงล่ะก็ ยากที่จะต้านเอาไว้ได้ แต่ว่า หากอาศัยยุทธวิธีการรบแบบยอกย้อน หรือหลบหนีไปโดยตรง โอกาสที่จะประสบผลสำเร็จในการขึ้นสู่แดนที่สิบจะมีอัตราที่สูงมาก
จะอย่างไรเสีย มันคือการร่วมมือของจอมราชัน หาใช่เป็นจอมราชันคนเดียวที่มีชะตาฟ้าสิบสองสาย ระหว่างจอมราชันสามองค์มีชะตาฟ้ารวมกันสิบสองสาย กับจอมราชันเพียงองค์เดียวแล้วมีชะตาฟ้าสิบสองสายมันคือคนละเรื่องกัน ต่อให้จอมราชันสามองค์ที่มีชะตาฟ้ารวมกันสิบสองสายร่วมมือกัน ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจอมราชันคนเดียวที่สืบทอดชะตาฟ้ามาถึงสิบสองสาย
สิ่งนี้เป็นการบ่งบอกว่า ภายใต้การร่วมมือของจอมราชันสามองค์ ราชันเซียนจากเก้าแดนมีอัตราหนีเอาชีวิตรอดได้สูงมาก ถ้าหากเป็นจอมราชันเพียงองค์เดียวแล้วยังสืบทอดชะตาฟ้าถึงสิบสองสายมาด้วยตนเอง เช่นนั้นแล้วราชันเซียนที่ขึ้นมายังแดนที่สิบก็จะหมดโอกาสอย่างเด็ดขาด กระทั่งโอกาสในการหลบหนียังไม่มี
แต่ทว่า โดยพื้นฐานแล้ว จอมราชันที่มีสิบสองชะตาฟ้าในครอบครองจะไม่มาด้วยตนเอง เนื่องจากพวกเขาเกรงกลัวสวรรค์ลงทัณฑ์จะไม่ปรากฏตัวออกมาง่ายดายนัก แว้นแต่มีการเปลี่ยนแปลงที่สะเทือนฟ้า มิฉะนั้นล่ะก็ จอมราชันที่สืบทอดชะตาฟ้าสิบสองสายจะไม่ปรากฎตัวอย่างเด็ดขาด ราชันเหยียนตี้ก็คือตัวอย่าง ไม่ว่าใครก็ไม่ต้องการตายภายใต้สวรรค์ลงทัณฑ์!
สืบเนื่องจากหลังมีข้อตกลงดังกล่าวแล้ว มีเพียงราชันเซียนเพียงองค์เดียวเท่านั้นที่ขึ้นมายังแดนสิบแล้วถูกลอบสังหารสำเร็จ ส่วนราชันเซียนองค์อื่นๆ ต่างขึ้นสู่แดนสิบได้อย่าปลอดภัย! และเนื่องเพราะอย่างนี้นี่เอง ต่อมาภายหลัง ได้ทำให้ความสนใจของจอมราชันจากแดนที่สิบที่จะลอบสังหารราชันเซียนจากเก้าแดนดูจะจืดจางลงทุกที เนื่องจากภายใต้การควบคุมของข้อตกลง ลำพังอาศัยจอมราชันที่มีชะตาฟ้าต่ำกว่าหกสายเป็นผู้ลงมือ คิดจะสังหารราชันเซียนจากเก้าแดนที่สามารถอาศัยวิธีหลบหนีจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก อัตราสำเร็จต่ำมาก สิ่งที่ต้องเสียไปกับสิ่งที่จะได้มาไม่ได้สัดส่วน ดังนั้น ภายหลังจอมราชัน หรือเซียนหวางจากแดนสิบที่เข้าร่วมปฏิบัติการลอบสังหารจึงมีจำนวนน้อยลงไปทุกที
สำหรับจอมราชันที่มีชะตาฟ้าตั้งแต่หกสายขึ้นไป พวกเขาไม่ต้องการเข้ามาแปดเปื้อนน้ำครำเช่นนี้โดยง่ายดาย เนื่องจากพลันที่พวกเขาลงมือ ก็จะมีอัตราสูงนำมาซึ่งถูกสวรรค์ลงทัณฑ์ พวกเขาจึงไม่ต้องการถูกสวรรค์ลงทัณฑ์เพียงเพราะไปลอบสังหารราชันเซียน
ขณะที่สถานการณ์ก่อนมีข้อตกลงนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แม้ว่าในเวลานั้นจอมราชันที่มีชะตาฟ้าตั้งแต่หกสายขึ้นไปก็ไม่ต้องการปรากฎตัวออกมาเช่นกัน แต่จอมราชันที่มีชะตาฟ้าต่ำกว่าหกสายจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะจอมราชันที่มีชะตาฟ้าเพียงสองถึงสามสาย พวกเขาต้องการเข้าร่วมการลอบสังหารเช่นนี้เป็นอันมาก อีกทั้งจำนวนจอมราชันที่เข้าร่วมมีอยู่ไม่น้อยทีเดียว
เนื่องจากกล่าวสำหรับจอมราชันที่มีชะตาฟ้าเพียงสองถึงสามสายเหล่านี้แล้ว ถ้าหากสามารถลอบสังหารราชันเซียนจากเก้าแดนได้เป็นผลสำเร็จ มันจะเป็นโอกาสได้รับสิ่งบำรุงเป็นอันมาก ชะตาฟ้าของราชันเซียน เลือดราชันของราชันเซียน เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสมบัติเซียนที่ล้ำค่าปราศจากผู้เทียบเทียมทั้งสิ้น
เพราะอย่างนี้นี่เอง ก่อนมีข้อตกลง ราชันเซียนที่ขึ้นสู่แดนที่สิบแล้วต้องเสียชีวิตจึงมีความรุนแรงกว่ามาก หากไม่เป็นเพราะมีราชันเซียนองค์อื่นๆ ที่ขึ้นไปก่อนหน้าให้การช่วยเหลือล่ะก็ ราชันเซียนที่ต้องเสียชีวิตก็จะมีจำนวนมากขึ้นไปอีก
หลังจากที่มีข้อตกลงแล้ว จึงมีราชันเซียนเพียงองค์เดียวเท่านั้นที่ต้องเสียชีวิตไป อีกทั้งยังมีราชันเซียนจำนวนไม่น้อยที่สามารถหลบหนีได้สำเร็จจากการลอบสังหารโดยไม่ได้รับการช่วยเหลือจากคนรุ่นก่อน และก้าวขึ้นสู่แดนที่สิบได้เป็นผลสำเร็จ!
เวลานี้ ยังไม่รวมราชันซื่อตี้ก็มีจอมราชันถึงสิบสององค์ที่เข้าร่วมการลอบสังหารในครั้งนี้ และมีชะตาฟ้าถึงสี่สิบสาย เรียกได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อตกลงในครั้งนั้นแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลี่ชิเย่คำพูดเช่นนี้ขึ้นมา
“ถูกต้อง ข้อตกลงในครั้งนั้นได้ระบุไว้อย่างชัดเจนเช่นนี้จริง จอมราชันห้ามเกินกว่าสามองค์ ชะตาฟ้าห้ามเกินกว่าสิบสองสาย อีกทั้งพริบจาเดียวที่เหยียบลงบนแดนที่สิบต้องหยุดการลอบสังหารทันที” น้ำเสียงของราชันซื่อตี้ที่เยือกเย็นดังขึ้น มีความเข้มทรงอำนาจสูงสุด กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ข้อตกลงในครั้งนั้นทุกคนต่างได้ลงนาม ร้อยเผ่าก็ต้องปฏิบัติตามข้อตกลง พวกเราเผ่าสวรรค์ เผ่ามาร และเผ่าเทพก็ปฏิบัติตามข้อตกลงเช่นกัน แม้กระทั่งตอนนี้พวกเราก็ปฏิบัติตามข้อตกลง!”
“พูดแบบนี้แสดงว่าตาเฒ่าเฉี่ยนเจ้าค้นพบช่องโหว่แล้วสิ” หลี่ชิเย่บยิ้มกล่าว
“อย่าลืมสิ ในครั้งนั้นข้อตกลงฉบับนี้ร่างขึ้นมาได้อย่างไร ใครเป็นคนเขียน” ราชันซื่อตี้พูดขึ้นมาช้าๆ ว่า “ราชันเซียนจากเก้าแดนมาถึง พวกเราปฏิบัติตาม ยอดฝีมือจากเก้าแดนลักลอบเข้ามา พวกเราก็ปฏิบัติตามเช่นกัน ข้อตกลงย่อมเป็นข้อตกลง เมื่อมีการลงนามแล้วก็จะมีผลตลอดไป…”
“…เจ้าเป็นอีกาทมิฬ ไม่ว่าเจ้าจะได้สืบทอดชะตาฟ้าหรือไม่ ในสายตาพวกเราเวลานี้เจ้าก็ไม่ใช่ราชันเซียน และไม่ใช่ผู้ลักลอบเข้ามา อย่าลืมสิ เจ้าคือผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะสามารถไปกลับระหว่างเก้าแดนและแดนที่สิบได้อย่างอิสระเสรี ขณะร่างข้อตกลงในครั้งนั้น เจ้า อีกาทมิฬไม่ได้อยู่ในข้อตกลง!” ราชันซื่อตี้กล่าวท่าทีหนักแน่นจริงจังว้า “อีกาทมิฬ เจ้าไม่ใช่ราชันเซียน ไม่ใช่มนุษย์ปุถุชน ไม่ใช่ผู้บำเพ็ญตน เจ้ามีเพียงสถานะเดียว นั่นก็คือมือมืดที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งไม่ได้ถูกกำหนดเอาไว้ในข้อตกลงในครั้งครานั้น!”
“เห็นทีแม้วาข้าจะรอบคอบก็ยังคงพลาดจนได้ ถูกตาเฒ่าอย่างเจ้าค้นพบช่องโหว่ได้แล้ว” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมาโดยไม่ได้สนใจ กล่าวว่า “ถูกต้อง ถ้าเป็นไปตามที่เจ้าอธิบายมา เป็นความจริงที่ข้าไม่ได้อยู่ในข้อตกลง การลอบสังหารของพวกเจ้าในครั้งนี้ไม่ได้ฝ่าฝืนข้อตกลงในครั้งนั้นจริงๆ”
ในครานั้น ขณะที่มี่การร่างข้อตกลง หลี่ชิเย่ในฐานะอีกาทมิฬไม่ได้คิดวางทางหนีทีไล่ให้กับตน จะอย่างไรเสียเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อตกลงในครั้งนั้นแลกมาด้วยเลือดของราชันเซียน ดังนั้น สาระสำคัญของข้อตกลงจึงพยายามช่วงชิงเพื่อชนรุ่นหลังเป็นหลัก
อีกอย่าง ในครั้งนั้นเขาคือผู้ที่ไม่มีวันตาย สามารถไปกลับระหว่างเก้าแดนกับแดนที่สิบอย่างอิสระ ไม่กลัวว่าจะต้องถูกจอมราชันตามล่าสังหารอยู่แล้ว ในความเป็นจริง เหล่าจอมราชันและเซียนหวางในแดนที่สิบก็ไม่เคยว่างเว้นจากการตามสังหารเขาอยู่แล้ว
“วันนี้ก็ให้มันจบสิ้นกันไป!” ราชันซื่อตี้กล่าวน่าเกรงขามว่า “แต่ว่า เจ้าก็อย่าได้หวังว่าจะมีราชันเซียนมาช่วยเหลือเจ้า ด่านของสิบสามทวีปได้ปิดลงแล้ว เหล่าราชันเซียนคิดจะติดตามพิกัดตำแหน่งของเจ้าเรียกว่ายากยิ่งกว่ายากเสียอีก กว่าพวกเขาจะค้นหาพิกัดตำแหน่งของเจ้าจนพบ เกรงว่าเจ้าคงกลายเป็นเถ้าธุลีไปแล้ว ดังนั้น หากเจ้าคิดจะถ่วงเวลารอความช่วยเหลือ ให้เลิกล้มความตั้งใจเสียแต่เนิ่นๆ ! และนี่ก็เป็นคำเตือนที่จริงใจจากสหายเก่า!”
ราชันซื่อตี้เป็นศัตรูกับหลี่ชิเย่มายุคแล้วยุคเล่า แม้ว่าทั้งคู่ต่างต้องการทำให้ฝ่ายตรงข้ามถึงตาย แต่เมื่ออยู่ท่ามกลางสนามรบเขากลับมีความเปิดเผยยิ่งนัก
“ตาเฒ่าเฉี่ยน ทำไมเจ้าถึงมีความรู้สึกว่าทุกอย่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าหละ” หลี่ชิเย่หัวเราะเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กล่าวว่า “เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าทุกอย่างล้วนอยู่ในความควบคุมของข้าเล่า เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่านี่เป็นหมากกระดานหนึ่งของข้าหละ เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าบรรดาราชันเซียนทั้งหลายรู้ถึงการมาของข้าแล้ว ทั้งยังรู้ถึงพิกัดตำแหน่งอีกด้วย เพียงแต่ข้าได้ตกลงกับพวกเขาแล้ว ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขาเท่านั้นเอง”
คำพูดของหลี่ชิเย่ทำให้สายตาของพวกราชันสวรรค์ต้าวหลงเต้นกระตุกทีหนึ่ง ถ้าหากเป็นคนอื่นพูดเช่นนี้ พวกของราชันสวรรค์ต้าวหลงจะคิดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ลวงขึ้นมา แต่เมื่อออกจากปากของอีกาทมิฬ มันก็ไม่แน่แล้วหละ
ราชันซื่อตี้จ้องมองหลี่ชิเย่อย่างน่าเกรงขาม สุดท้ายพูดขึ้นมาช้าๆ ว่า “มันก็ต้องดูว่าหมากใครจะเหนือกว่ากัน อีกาทมิฬ ต่อให้เจ้ามีราชันเซียนคอยช่วยเหลือ เกรงว่าคงมีราชันเซียนไม่กี่องค์ที่สามารถลงมือช่วยเหลือเจ้าแล้ว ก่อนหน้านั้นมีหมิงเหรินที่ทำการสู้รบครั้งสุดท้ายในครั้งที่ห้าไปแล้ว ต่อมาก็มีฉวี่เจินที่ปฏิบัติการสู้รบครั้งสุดท้ายในครั้งที่หก ราชันเซียนและเซียนหวางที่เจ้าเป็นผู้บ่มฟักขึ้นมาเหลืออยู่ไม่กี่คนแล้ว เจ้าคิดว่าในแดนที่สิบยังจะมีราชันเซียนกี่องค์ที่ยินดีเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเจ้าหละ!”