ตอนที่ 1734 ใครกันแน่ที่เดินหมาก
หลี่ชิเย่ถึงกับนิ่งเงียบเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ สุดท้ายทอดถอนใจออกมาเบาๆ กล่าวขึ้นเชื่องช้าว่า “ข้าให้เกียรติกับการตัดสินใจของพวกเขา เส้นทางสายนี้ยาวไกลยิ่งนัก การเป็นราชันเซียนใช่เพียงต้องการสืบทอดชะตาฟ้าเท่านั้น ใช่เพียงต้องการปราศจากผู้ต่อกร ถ้าหากเพียงต้องการชะตาฟ้า ต้องการเป็นผู้ปราศจากผู้ต่อกรเท่านั้น เช่นนั้นแล้วจะต่างอะไรกับมดปลวก หากว่าเพียงเพื่อต้องการชะตาฟ้า หากว่าเพียงต้องการปราศจากผู้ต่อกร…”
“…ต่อให้มีสิบสองชะตาฟ้าในครอบครอง กระทั่งได้ครอบครองชะตาฟ้ามากกว่านี้ มันก็เป็นได้แค่มดปลวกที่แข็งแกร่งตัวหนึ่งเท่านั้น มดปลวกแต่ละตัวที่สามารถทำกร่างอยู่แต่ในรังมดเท่านั้น การเป็นราชันเซียน มันแค่เริ่มต้นก้าวเดินเท่านั้น เส้นทางที่สุดแสนจะยาวไกลรอพวกเขาอยู่ นี่คือภารกิจของราชันเซียน และเป็นการแสวงหาของราชันเซียน ไม่เสียทีที่เกิดมาชาตินี้ ไม่ผิดต่อสัจธรรม!” ครั้นหลี่ชิเย่กล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว ถึงกับทอดถอนใจด้วยความกลัดกลุ้ม
สำหรับคำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่นั้น ไม่ว่าจะเป็นราชันซื่อตี้ หรือกับพวกของราชันสวรรค์ต้าวหลงสิบสององค์ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็นิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง พวกเขาอาศัยความนิ่งเงียบในการแสดงความเคารพสูงสุดแก่บรรดาจอมราชันที่ก้าวขึ้นสู่การเดินทางไกลครั้งสุดท้าย
ไม่ว่าจะเป็็็นศัตรูหรือไม่ก็ตาม แต่ว่า พวกเขาในฐานะจอมราชันไม่สามารถแสดงความเห็นด้วยกับคำพูดของหลี่ชิเย่มากไปกว่านี้ได้อีกแล้ว เฉกเช่นหลี่ชิเย่ได้พูดเอาไว้อย่างนั้น จอมราชันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นการก้าวเดินเท่านั้น ยังคงมีหนทางที่ยาวไกลมาก เป็นการเดินทางไกลสุดท้ายรอคอยพวกเขาอยู่ข้างหน้า
กล่าวสำหรับจอมราชันหรือราชันเซียนแล้ว ในขณะที่ยังไม่ได้สืบทอดชะตาฟ้า เป้าหมายของทุกคนคือได้เป็นจอมราชัน ได้เป็นราชันเซียน สิ่งที่ตามหาคือชะตาฟ้า
ครั้นได้เป็นจอมราชันจริงๆ แล้ว จอมราชันยังคงไม่ได้หยุดการก้าวเดิน ยังคงตามหาให้ได้ครอบครองชะตาฟ้ามากกว่าเดิมอีก
แต่ทว่า เมื่อวันหนึ่งสามารถก้าวไปถึงที่สุดของขีดจำกัด ได้ยืนอยู่จุดสูงสุด ได้ครอบครองสิบสองชะตาฟ้าอย่างแท้จริงแล้ว แต่ บรรดาจอมราชันกลับไม่ได้หยุดการก้าวเดินของพวกเขา ในเวลานี้พวกเขาจึงได้ก้าวขึ้นบนเส้นทางที่ยาวไกลสุดเปรียบเปรยเป็นการเดินทางไกลสุดท้ายอย่างแท้จริง มันเป็นการเลือกของเหล่าจอมราชัน และมันก็คือภารกิจของบรรดาจอมราชัน
การเป็นราชันเซียน เป็นจอมราชัน เป็นเซียนหวาง ใช่เพียงแค่ต้องการชะตาฟ้า และใช่ว่าเพียงต้องการปราศจากผู้ต่อกรหมื่นยุค!
“ข้าขอแสดงความเคารพสูงสุดให้กับบรรดาปรัชญาเมธีจอมราชันที่หาญกล้าก้าวสู่การเดินทางไกล” ต่อให้เป็นราชันซื่อตี้ จอมราชันผู้ซึ่งมีสิบสองชะตาฟ้าอยู่ในครอบครองก็มีท่าทีที่เคร่งขรึมจริงจัง กล่าวขึ้นช้าๆ ด้วยท่าที่ที่หนักแน่จริงจังยิ่งนัก
ไม่ว่าจะเป็นศัตรูหรือมิตร ผู้ที่อยู่บนเส้นทางสายนี้ล้วนแล้วแต่ทรงคุณค่าเพียงพอให้จอมราชันทั้งหมดได้ให้ความเคารพอยู่แล้ว
หลี่ชิเย่ไม่ได้พูดอะไรมากกว่านี้ รู้สึกสลดภายในใจ ครั้งนั้นราชันเซียนหมิงเหรินริเริ่มการศึกครั้งที่ห้าเวลานั้น เขาเองก็เข้าร่วมอยู่ในนั้นด้วย มันคือสงครามที่โหดเหี้ยมทารุณยิ่งนักครั้งหนึ่ง! แม้จะกล่าวว่า ขณะอยู่เก้าแดนเขาเคยแยกทางแบบไม่เข้าใจกันกับราชันเซียนหมิงเหริน แต่ขณะอยู่แดนที่สิบไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เขาก็จะยืนอยู่ข้างอีกาทมิฬอย่างมั่นคง ศึกล่าสังหารราชันก็เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด
ครั้งนั้น ราชันเซียนหมิงเหรินเป็นผู้ริเริ่มการศึกครั้งสุดท้ายครั้งที่ห้า ตัวเขารู้ดีแก่ใจแล้วว่าผลจะออกมาเป็นเช่นใดแล้ว แต่เขาก็ยังก้าวเดินไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล เนื่องจากนี่คือเส้นทางที่เหล่าราชันเซียนจะต้องผ่าน!
ส่วนราชันเซียนฉวี่เจินผู้ริเริ่มการศึกครั้งสุดท้ายครั้งที่หกนั้น ในขณะนั้นหลี่ชิเย่ในฐานะอีกาทมิฬไม่ได้อยู่ที่แดนสิบ เขากำลังอยู่เก้าแดน แต่การสั่นสะเทือนของฟ้าดินที่เกิดขึ้น อีกาทมิฬที่เปี่ยมด้วยประสบการณ์ก็รู้แล้วว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่แดนสิบ แม้ตัวเขาจะอยู่ที่เก้าแดนก็ตาม
ดังนั้น เวลานี้เมื่อราชันซื่อตี้บอกความจริงเรื่องนี้กับปาก หลี่ชิเย่ก็ไม่รู้สึกเหนือความคาดคิด เขาเพียงรู้สึกสลดภายในใจเท่านั้น
“ถ้าหากเจ้าไม่ได้มีคำสั่งเสียใดๆ ล่ะก็ ควรเดินทางได้แล้วหละ” หลังจากที่ราชันซื่อตี้และบรรดาจอมราชันอีกสิบสององค์อาศัยความนิ่งเงียบเป็นการแสดงความเคารพสูงสุดต่อบรรดาเหล่าจอมราชันที่ก้าวเดินบนเส้นทางสายนี้แล้ว ท่าทีราชันซื่อตี้เย็นชากล่าวขึ้นมาเชื่องช้า เสียงของเขาเปี่ยมด้วยอานาจบารมี เหมือนว่าขณะที่เขาพูดคำๆ นี้ออกมาได้ตัดสินความเป็นความตายของหลี่ชิเย่เอาไว้แล้ว!
“คำสั่งเสีย?” หลี่ชิเย่ เผยรอยยิ้มออกมาให้เห็น และเอ่ยขึ้นเชื่องช้าว่า “ตาเฒ่าเฉี่ยน ถ้าหากเจ้าเห็นว่าข้าน่ะตายแล้วจริงๆ งั้นก็ดี ข้าจะพูดคำสั่งเสียออกมาสักคำก็แล้วกัน คำสั่งเสียคำนี้ว่าข้าจะมีความปรารถนาอะไร แต่ข้าต้องการให้เจ้านำเอาคำๆ นี้ไปให้กับตัวเอง ให้กับบรรดาราชันและเหล่าเทพของแดนสิบ โดยเฉพาะหากเจ้าสามารถพบเจอราชันเทพชิงมู่ ก็ให้บอกเขาว่า อเวจียังคงไม่ได้ถูกทำลาย อีกทั้งพวกเจ้าเองก็เข้าใจเป็นอย่างดีว่า อเวจีน่าจะยังคงมีราชันเซียนถึงเก้าองค์หลบซ่อนตัวอยู่ในเก้าแดน ซ่อนตัวอยู่ภายในมิติมหัศจรรย์!”
พลันที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา สายตาของราชันซื่อตี้เยือกเย็นมากยิ่งขึ้นไปอีก จอมราชันทั้งสิบสององค์ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็มีแววตาที่เยือกเย็นลงไม่น้อย จอมราชันที่เคยผ่านสงครามในครั้งนั้นรู้ว่าสิ่งนี้บ่งบอกถึงอะไร ต่อให้จอมราชันที่ไม่ได้ผ่านสงครามในครั้งนั้นก็รับรู่เช่นกันว่าบ่งบอกถึงสิ่งใด เรื่องราวเรื่องนี้เล่าลือท่ามกลางจอมราชันและเซียนหวางตลอดมา
“เจ้าขบคิดอยู่เก้าแดนมายุคแล้วยุคเล่า ที่สุดกลับไม่สามารถฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อเวจีให้สิ้นซาก” ราชันซื่อตี้กล่าวขึ้นมาช้าๆ
หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ตาเฒ่าเฉี่ยน เมื่อเจ้าพูดแบบนี้ข้าควรจะรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งหรือเปล่านะ เจ้าที่เป็นท่านพ่อตาของข้าดูจะให้ความสำคัญข้ามากเลยนะ คิดว่าข้าจะต้องจัดการถอนรากถอนโคนอเวจีจนสิ้นในเก้าแดนได้แน่นอน!”
เคยมีการเล่าลือกันว่า ครั้งนั้นเจ้าขึ้นมาที่แดนสิบขอคำชี้แนะวิธีกำจัดอเวจีมาก่อน” ราชันซื่อตี้กล่าวขึ้นช้าๆ “กระทั่งลือกันว่าเจ้าพบกับราชันเทพชิงมู่มาก่อน!”
“ดูท่าเจ้านี่จะให้ความสำคัญกับลูกเขยอย่างข้ามากเลยนะเนี่ย” หลี่ชิเย่พูดหยอกล้อว่า “เสียดาย ในโลกนี้ไหนเลยจะมีเรื่องง่ายดายเช่นนี้ ครั้งนั้น ราชันเทพชิงมู่ได้มีบัญชาลงมาให้ฆ่าอเวจีโดยไม่มีละเว้น บรรดาราชันและเหล่าเทพของแดนสิบยกกำลังออกมาทั้งหมดยังไม่สามารถถอนรากถอนโคนอเวจีได้หมด เมื่อเขามีมิติมหัศจรรย์อยู่ในมือ บรรดาราชันและเหล่าเทพของแดนสิบมิใช่มองตาปริบๆ ปล่อยให้อเวจีหนีลงไปยังเก้าแดนรึ!”
ความจริงแล้ว หากจะว่ากันถึงเรื่องอาวุโส หลี่ชิเย่มีอายุมากกว่าราชันซื่อตี้เสียอีก ก่อนที่ราชันซื่อตี้จะเกิด หลี่ชิเย่ก็เคยมาที่แดนสิบแล้ว ทั้งยังไม่ได้มาเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
การที่หลี่ชิเย่เรียกราชันซื่อตี้ว่า “ตาเฒ่าเฉี่ยน” มาโดยตลอดนั้น เป็นการหยอกล้อเขาเล่นเท่านั้นเอง เนื่องจากเขาได้ล่อลวงลูกสาวของราชันซื่อตี้ไป คนที่รู้เรื่องนี้ในแดนสิบยังเข้าใจว่าลูกสาวของราชันซื่อตี้หนีไปกับอีกาทมิฬ แต่ความจริงมันห่างไกลจากสิ่งนี้ไปมากทีเดียว
แน่นอน คำพูดที่หลี่ชิเย่พูดกับราชันซื่อตี้หาใช่เป็นคำสั่งเสียอะไร เขาเพียงต้องการอาศัยปากของราชันซื่อตี้นำเอาเรื่องนี้บอกกล่าวต่อจอมราชันและเซียนหวางของแดนสิบเท่านั้น
ราชันซื่อตี้เองก็ไม่แสดงอาการโกรธกับการหยอกล้อเช่นนี้ของหลี่ชิเย่อีกแล้ว เขาเพียงจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยท่าทีเย็นชาเท่านั้น
“ไม่ต้องจ้องมองข้าเช่นนี้” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า “ไม่แน่นัก ระหว่างที่เจ้ากับข้ากำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน อเวจีได้อาศัยมิติมหัศจรรย์แอบหลบหนีขึ้นมาแดนสิบแล้ว พวกเจ้าก็ได้เห็นแล้วนี่ ข้าจัดการทำให้ความแตกต่างของมิติกลายเป็นรูโหว่ขึ้นมามากมายเช่นนี้ หากอเวจีต้องการขึ้นมาจริงคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร! เวลานี้พวกเจ้าเพ่งเล็งทุกอย่างมาอยู่ที่ตัวข้า เกรงว่าจะมีการละเลยบางจุดไป ทำให้อเวจีแอบลักลอบขึ้นมาแล้ว”
คำพูดของหลี่ชิเย่พลันทำให้บรรดาจอมราชันที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับมีแววตาที่เหมือนมองเห็นเรื่องราวได้อย่างชัดเจน เนื่องจากคำพูดลักษณะเช่นนี้ของอีกาทมิฬหาใช่เป็นคำพูดข่มขู่!
“อีกาทมิฬ หลายปีผ่านไป เจ้ายังคงมีนิสัยชอบวางแผนให้ร้ายผู้อื่น” เสียงที่เข้มและเปี่ยมด้วยอำนาจสูงสุดของราชันซื่อตี้ดังก้องอยู่บนฟ้าดิน กล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “เจ้าจงใจวางแผนใช้ทุกวิถีทางทำให้ภัยพิบัตินั้นไปตกอยู่กับคนอื่น เจ้าต้องการลวงให้อเวจีเข้ามาอยู่ที่แดนสิบ! เจ้าก่อเรื่องอึกทึกครึกโครมขึ้นมาเช่นนี้ ไม่เพียงต้องการให้ยอดฝีมือจากเก้าแดนสามารถขึ้นมาได้ และไม่เพียงต้องการคิดบัญชีบุญคุณความแค้นระหว่างเจ้ากับทุกๆ คน!”
“ถูกต้อง” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า “ที่ข้าทำให้ความแตกต่างของมิติแตกเป็นช่องมากมาย ไม่ได้เพียงทำเพื่อยกพลบุกขึ้นมายังแดนที่สิบ ที่ข้ารอให้พวกเจ้ามาถึงก็ใช่เพียงต้องการคิดบัญชีบุญคุณความแค้นเก่าระหว่างพวกเรา แต่เป็นการให้โอกาสอเวจี…”
“…ถ้าหากพวกเขาสามารถฉกฉวยโอกาสที่ดีนี้เอาไว้ ถือโอกาสเวลานี้แอบขึ้นมาแดนสิบ ซึ่งเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง ถ้าหากพวกเขาพลาดโอกาสนี้ไปล่ะก็ ไม่รู้ว่าจะต้องรอคอยไปอีกเนิ่นนานเท่าไร” เวลานี้ หลี่ชิเย่ไม่มีอะไรต้องปิดบังอีกต่อไป จึงพูดออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน
ความจริงแล้ว สิ่งนี้คือหนึ่งในแผนการของหลี่ชิเย่จริงๆ การที่หลี่ชิเย่ทำให้ความแตกต่างของมิติกลายเป็นช่องโหว่มากมายเช่นนี้ ทำให้ยอดฝีมือของเก้าแดนมีโอกาสลักลอบขึ้นมายังแดนสิบ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ไม่เพียงต้องการทำเพื่อคนอื่นๆ ยังเพื่ออเวจีอีกด้วย
เหมือนดั่งที่ราชันซื่อตี้พูดเอาไว้อย่างนั้น นี่คือวิธีทำให้ความเสียหายที่จะเกิดกับตนย้ายไปเกิดกับคนอื่นแทน ถ้าหากอเวจีฉกฉวยโอกาสนี้อาศัยมิติมหัศจรรย์แอบขึ้นมายังแดนสิบ เพื่อหวนคืนกลับมาอีกครั้ง ย่อมบ่งบอกว่าอเวจีละทิ้งเป้าหมายเก้าแดนแล้ว และแดนที่สิบจึงจะเป็นสมรภูมิรบของอเวจี!
แน่นอน เรื่องนี้จะประสบผลสำเร็จหรือไม่นั้นหลี่ชิเย่เองก็ไม่รู้ เขาเพียงสร้างโอกาสเช่นนี้ขึ้นมาเท่านั้น
ในเวลานี้ แววตาของพวกราชันซื่อตี้ดูเข้มและน่าเกรงขามยิ่งนัก เพราะถ้าหากอเวจีหวนกลับมาอีกครั้ง กล่าวสำหรับแดนที่สิบของพวกเขาแล้วหาใช่เป็นเรื่องดีอย่างแน่นอน และก็ไม่ใช่ข่าวดี หากอเวจีที่มีมิติมหัศจรรย์อยู่ในมือกบดานไม่ยอมปรากฏตัวออกมา บรรดาราชันและเหล่าเทพของแดนสิบไม่สามารถค้นหาพวกเขาให้เจอได้อยู่แล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ อเวจีก็จะกลายเป็นหอกข้างแคร่ของแดนสิบพวกเขา!
ขณะที่ราชันซื่อตี้และเหล่าจอมราชันทั้งสิบสอบจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยแววตาที่เข้มและน่าเกรงขามนั้น หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า “ไม่ต้องใช้สายตาแบบนี้จ้องมองข้า อะไรที่ต้องคืนอย่างไรเสียก็ต้องคืนให้อยู่แล้ว ครั้งนั้น ข้ามาที่แดนสิบเพื่อครุ่นคิดพิจารณาหาวิธีทำลายล้างอเวจีอยู่นั้น บรรดาราชันและเหล่าเทพในแดนสิบมีกี่คนที่มีความกระตือรือร้นในเรื่องนี้กันบ้าง? อีกอย่าง เป็นใครที่ขับไล่อเวจีลงไปยังเก้าแดน เป็นใครที่ผลักเอาความเสียหายที่เกิดกับตนไปให้กับเก้าแดนแทน? มันเป็นเรื่องที่แดนสิบพวกเจ้าก่อขึ้นมา ดังนั้น เวลานี้ข้าเอาอเวจีส่งคืนให้กับแดนที่สิบ ล่อให้อเวจีขึ้นมายังแดนสิบ ถือว่าเรื่องนี้พวกเราต่างฝ่ายต่างเสมอกัน…”
“…ในอดีต เพื่อทำการฆ่าล้างอเวจีให้สิ้นซากเรียกได้ว่าเต็มไปด้วยอุปสรรคนานา คิดจะสมองแทบระเบิด ถ้าหากอเวจีแอบลักลอบกลับขึ้นมายังแดนสิบ ถึงเวลาที่พวกเจ้าต้องปวดหัวบ้างหละ นี่คือสงครามของพวกเจ้า สงครามครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับเก้าแดน!” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ถือว่าเป็นหนามยอกเอาหนามบ่ง!
ถ้าหากอเวจีลักลอบกลับขึ้นมายังแดนสิบล่ะก็ ถือว่าเป็นการส่งมอบอเวจีคืนให้กับแดนสิบ!
“เวลานี้ใครกันนะที่กำลังเดินหมากอยู่ยังพูดยากนะ” หลี่ชิเย่ยิ้มแต้พูดขึ้นมาขณะมองดูแววตาที่เข้มและน่าเกรงขามของพวกราชันซื่อตี้
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดทำให้ประตูของแดนสิบปิดลง ทำให้พวกของราชันซื่อตี้มีโอกาสซ่อนพิกัดตำแหน่งของหลี่ชิเย่เสีย ทำให้ราชันเซียนของเก้าแดนที่ต้องการช่วยเหลือหลี่ชิเย่มาได้ช้า เพื่อเปิดโอกาสให้พวกของราชันตี้ซื่อได้จัดสุดยอดมหกรรมลอบสังหารขึ้นมา ซึ่งเป็นการเดินหมากของพวกราชันตี้ซื่อ
ขณะที่หลี่ชิเย่ทำลายความแตกต่างของมิติ ส่งกำลังพลบุกขึ้นมายังแดนสิบ เบนความสนใจของพวกราชันซื่อตี้ และหลอกล่อให้อเวจีลักลอบขึ้นแดนสิบได้เป็นผลสำเร็จ
สิ่งนี้แหละคือหมากเกมที่หลี่ชิเย่เล่น หมากเกมนี้ใครจะเป็นฝ่ายชนะฝ่ายแพ้ยังพูดยาก ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายต่างบรรลุเป้าหมายแล้ว
ราชันซื่อตี้สร้างโอกาสลอบสังหารหลี่ชิเย่ขึ้นมา ขณะที่หลี่ชิเย่สร้างโอกาสล่อให้อเวจีลักลอบขึ้นสู่แดนสิบได้เป็นผลสำเร็จ ทั้งสองฝ่ายต่างก็สร้างโอกาสขึ้นมา ส่วนจะสำเร็จหรือไม่อย่างไรก็ต้องรอดูตอนจบแล้ว