Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1742 ผาไหม้ไฟ

เรื่อง ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1742 ผาไหม้ไฟ

ตอนที่ 1742 ผาไหม้ไฟ
ผาไหม้ไฟเป็นสถานที่ที่เสมือนหนึ่งถูกไฟสวรรค์เผาผลาญมาก่อน สถานที่แห่งนี้ถูกไฟเผาจนกลายเป็นพื้นดินแห้งผาก มีแต่ความเงียบสงัดวิเวกวังเวง ไม่ต้องพูดกันถึงเรื่องความมีชีวิตชีวาเลย

ผู้คนจำนวนมากในชิงโจวก็เห็นว่า ผาไหม้ไฟถูกไฟสวรรค์เผาผลาญมาจริง เนื่องจากหินผาจำนวนมากถูกไหม้จนหลอมละลาย กระทั่งมีสถานที่จำนวนไม่น้อยถึงกับปรากฎเหมือนกลายเป็นลักษณะของเครื่องปั้นดินเผาไป ย่อมเป็นการบ่งบอกว่า พื้นดินแห่งนี้เคยถูกความร้อนอุณหภูมิสูงจนสุดจินตนาการเผาผลาญมาก่อน

ไฟที่มีอุณหภูมิสูงถึงขนาดนี้ได้ก็คงมีแต่ไฟสวรรค์แล้วหละ ด้วยสาเหตุนี้เอง จึงมีผู้คนในชิงโจวจำนวนมากคาดเดาว่า ผืนดินแห่งนี้ต้องผ่านการถูกไฟสวรรค์เผาผลาญมาก่อนอย่างแน่นอน

อุณหภูมิของผาไหม้ไฟสูงมาก การเดินอยู่ท่ามกลางทะเลทรายของผาไหม้ไฟ เท้าที่ต้องเหยียบลงบนเม็ดทรายที่ร้อนมาก ขณะที่เหนือศีรษะต้องรับกับแสงอาทิตย์ที่แผดร้อน เกรงว่าผู้คนจำนวนมากที่เดินอยู่บนผาไหม้ไฟจะต้องเกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นมาได้ในไม่ช้า

กล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญตนแล้ว บางทีการเดินอยู่บนผาไหม้ไฟอาจจะไม่เป็นอะไรมาก จะอย่างไรเสียผู้บำเพ็ญตนสามารถเหาะเหินอากาศและดำดินได้ สามารถป้องกันความร้อนความเย็นได้ แต่สำหรับมนุษย์ปุถุชนธรรมดาแล้ว การเดินอยู่บนผาไหม้ไฟหากไม่ขาดน้ำจนตายก็อาจจะหิวตายอันเนื่องมาจากการเดินหลงทาง กระทั่งอาจทนต่อสภาวะที่ร้อนแผดเผาไม่ได้และคลุ้มคลั่งจนตาย

หลี่ชิเย่ในเวลานี้ก็คือมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง ฐานเต๋าถูกทำลาย สูญสิ้นวิชา กระทั่งปราศจากเรี่ยวแรงเทียบไม่ได้แม้แต่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง

เพียงแต่ หลี่ชิเย่สามารถก้าวเดินบนผาไหม้ไฟช้าๆ อย่างมีความสุขเสมือนหนึ่งเดินเล่นอยู่ในสวนหลังบ้านอย่างนั้น ต่อให้เท้าเหยียบลงบนทรายที่ร้อน แสงอาทิตย์ที่แผดเผาอยู่เหนือศีรษะจนแทบจะคลุ้มคลั่ง หิวกระหายจนริมฝีปากแตก ลำคอแทบลุกเป็นไฟ แต่ความทุกข์ยากเช่นนี้สำหรับหลี่ชิเย่แล้วไม่ได้ส่งผลกระทบแต่อย่างใด

เขาเคยผ่านความทุกข์ยากมานับไม่ถ้วนบนโลกมนุษย์ ความทุกข์ยากมากกว่านี้ร้อยเท่าพันเท่าเขาก็เคยผ่านมาแล้ว ดังนั้น ความทุกข์ยากเช่นนี้สำหรับเขาจึงรู้สึกเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่คู่ควรจะกล่าวถึงด้วยซ้ำ

หลี่ชิเย่ใช่ว่าเพิ่งเคยมาที่ผาไหม้ไฟเป็นครั้งแรก ดังนั้น หลังจากที่เขาจับทิศทางได้แล้ว จึง

ก้าวเดินไปข้างหน้าทีละก้าวๆ ไม่ได้หยุดนิ่งแต่อย่างใด

แน่นอนที่สุด หลี่ชิเย่ไม่ได้รีบเร่งไปจากที่ตรงนี้ กระทั่งไม่รีบเร่งที่จะไปจากชิงโจว ขณะเดียวกันเขาไม่ต้องเป็นกังวลกับพวกของหมิงเย่เสวี่ย อย่างไรเสียเมื่อมีหวงหลงและป้าหู่คอยเปิดทางให้กับพวกเขาแล้วจึงไม่มีอะไรจะต้องไปกังวล

หากหวงหลงและป้าหู่ลงมือพร้อมกัน โดยที่ไม่ใช่จอมราชันระดับสิบสองชะตาฟ้าลงมือด้วยตนเอง จอมราชันและเซียนหวางระดับต่ำกว่าสิบชะตาฟ้าลงมาต่อให้ลงมือพร้อมกันสองคน ก็ยากที่จะสังหารพวกเขาได้

ยิ่งไปกว่านั้น การบุกขึ้นแดนสิบของเรือรบโบราณขนาดยักษ์มีพิกัดตำแหน่งที่ชัดเจนมาก ต่อให้มีจอมราชันถึงสามองค์มาลอบสังหารพวกเขา ก็ต้องมีราชันเซียนจากเก้าแดนรุดมาให้การช่วยเหลือแน่นอน

จากการที่หลี่ชิเย่ก้าวเดินออกจากผาไหม้ไฟทีละก้าวๆ เริ่มเห็นผู้คนประปรายแล้ว แน่นอน ใช่ว่าจะมีผู้คนอาศัยอยู่ที่ผาไหม้ไฟ แต่เริ่มมีผู้บำเพ็ญตนปรากฎตัวขึ้นมาบ้างแล้ว

ครั้นเดินได้ในขอบเขตรัศมีหนึ่งแล้ว สถานที่บางแห่งของผาไหม้ไฟเริ่มปรากฏยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนของแดนสิบให้เห็นบ้าง บรรดาผู้บำเพ็ญตนและยอดฝีมือที่ปรากฏบ้างเพื่อต้องการค้นหาแร่วิเศษ บ้างต้องการค้นหาสมุนไพร และบ้างต้องการบรรลุธรรมและขัดเกลาตนเอง

ส่วนใหญ่แล้ว บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่มายังผาไหม้ไฟจะบินอยู่บนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว หากไม่มาด้วยของวิเศษหรืออาวุธวิเศษก็คือเหินฟ้ากันมา แน่นอน ผู้บำเพ็ญตนบางส่วนก็วิ่งผ่านไปมาอย่างรวดเร็วบนทะเลทราย

เพียงแต่ ไม่มีประเภทที่เป็นดั่งมนุษย์ปุถุชนธรรมดาเหมือนหลี่ชิเย่ที่ก้าวเดินออกมาจากผาไหม้ไฟทีละก้าวๆ อย่างแน่นอน ดังนั้น ขณะที่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาอย่างหลี่ชิเย่ก้าวเดินออกมาจากผาไหม้ไฟลำพังคนเดียวทีละก้าวๆ จึงทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนให้ความสนใจจ้องมองเขามากกว่าปรกติ

ในมุมมองของยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนส่วนใหญ่มองว่า มนุษย์ปุถุชนธรรมดาเป็นเพียงมดปลวกตัวหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาอย่างหลี่ชิเย่จึงไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเขาเหล่านั้น ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนส่วนใหญ่จ้องมองหลี่ชิเย่ทีหนึ่งแล้วก็จากไปอย่างไวขี้คร้านจะสนใจ วุ่นวายแต่เรื่องส่วนตัวของตน

แน่นอน บางจังหวะก็จะมียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนคนสองคนที่มีจิตใจดีงาม เมื่อเห็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งเช่นหลี่ชิเย่ที่ก้าวเดินอยู่บนผาไหม้ไฟทีละก้าวๆ อย่างยากลำบากจึงได้หยุดและร้องถามว่า “นี่ เจ้ามนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนนี้ทำไมถึงได้ตกระกำลำบากมาถึงตรงนี้ได้ ให้ข้าไปส่งเจ้าสักหน่อยดีไหม?”

“ขอบคุณมาก ข้าแค่ต้องการขัดเกลาจิตใจกับสถานที่ที่ยากลำบากเท่านั้นเอง ปล่อยให้ข้าค่อยๆ เดินออกไปเองเถอะ” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวกับยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่ใจดีออกไป

“ระวังต้องตายอยู่ในนี้ ผาไหม้ไฟใช่เป็นสถานที่ที่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาเช่นเจ้าจะมาได้” สำหรับคำพูดของหลี่ชิเย่ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนได้แต่ส่ายหน้า แล้วจากไปโดยไม่ฝืนบังคับ

หลี่ชิเย่ไม่สนใจคนอื่นจะมองอย่างไร ยังคงก้าวเดินออกจากผาไหม้ไฟทีละก้าวๆ

กล่าวสำหรับยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนแล้ว ถ้าหากต้องการมาบรรลุธรรมและขัดเกลาจิตใจล่ะก็ มีสถานที่แห่งหนึ่งไม่ไปไม่ได้ สถานที่แห่งนี้ก็คือหลุมสวรรค์ของผาไหม้ไฟ!

หลุมสวรรค์เป็นสถานที่ที่พิเศษมาก มันตั้งอยู่ค่อนไปทางทิศตะวันตกของผาไหม้ไฟ ที่ตรงนั้นไม่ได้มีหลุมสวรรค์เพียงแค่หลุมเดียว แต่เป็นหลุมขนาดใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วน

เดิมทีผาไหม้ไฟเป็นสถานที่ที่ร้อนแผดเผามาก แต่ที่หลุมสวรรค์กลับแตกต่างกัน หลุมขนาดใหญ่แต่ละหลุมที่นี่บางหลุมกลับเย็นยะเยือกดั่งถ้ำน้ำแข็ง แต่ก็มีหลุมใหญ่ที่ร้อนจนไอร้อนระอุขึ้นมา สามารถเผาไหม้คนทุกคนที่ตกลงไป และมีหลุมใหญ่บางหลุมที่มีน้ำพุไหลเอื่อยๆ ออกมา เหมือนต้องการแปลงที่ตรงนี้ให้เป็นพื้นที่สีเขียวอย่างนั้น…

สิ่งนี้ยังไม่ใช่ความมหัศจรรย์ที่สุดของหลุมสวรรค์ ความมหัศจรรย์อยู่ที่หลุมสวรรค์จำนวนมากมีตราสลักลึกลับอยู่ ขนาดของหลุมสวรรค์ก็ไม่เท่ากัน ความลึกของหลุมสวรรค์ก็ไม่เท่ากัน หลุมบางเหลุมลึกเหมือนหุบเขาขนาดยักษ์ บ้างลึกเหมือนเหวลึก…

ไม่ว่าหลุมสวรรค์แต่ละหลุมของที่นี่จะแตกต่างกันไปหรือไม่ แต่กลับมีจุดเหมือนร่วมกันจุดหนึ่งก็คือ หลุมสวรรค์ขนาดเล็กขนาดใหญ่ล้วนแล้วแต่มีตราสลักลึกลับอยู่เป็นจำนวนมาก

รอยสลักบางรอยเป็นเพียงเหมือนรอยขีดทั้งยาวและลึกเส้นหนึ่งเท่านั้นเอง รอยขีดนี้มีร่องรอยผ่านการเผาไหม้ด้วยอุณหภูมิที่สูง รอยสลักบางรอยเป็นลวดลายเต๋าที่ดูยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ กระทั่งบ้างเป็นอักขระยันต์ที่ดูลึกลับยิ่งนัก…

รอยสลักลึกลับจำนวนนับไม่ถ้วนลักษณะเช่นนี้ดูเหมือนไม่ได้เกิดจากการแกะสลัก กระทั่งไม่ได้เกิดจากการประทับลงไป เหมือนว่ารอยสลักนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เหมือนว่ามันเป็นเช่นนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

ไม่มีใครรู้ว่ารอยสลักเหล่านี้มาได้อย่างไร บางคนบอกว่าเกิดจากผู้ที่อยู่ในฐานะสูงสุดทำทิ้งเอาไว้ และมีบางคนบอกว่าเป็นร่องรอยที่คงเหลือหลังจากเกิดสวรรค์ลงทัณฑ์ กระทั่งมีคนที่บอกว่าเป็นข้อชี้แนะที่สวรรค์ส่งลงมา

แม้ว่าไม่มีใครรู้ว่ารอยสลักเหล่านี้มาได้อย่างไร แต่ชนรุ่นหลังกลับให้ความสนใจในรอยสลักเหล่านี้เป็นอันมาก สิ่งที่สร้างความสนใจให้ผู้คนได้มากที่สุดก็คือ สถานที่แห่งนี้มีจอมราชันและเซียนหวางจำนวนมากเคยมาสถานที่แห่งนี้แล้ว

เล่าลือกันว่าหลุมสวรรค์ของผาไหม้ไฟเคยมีจอมราชันและเซียนหวางเคยมาดูเป็นจำนวนมาก ในจำนวนนั้นรวมทั้งจอมราชันหลายองค์ที่อยู่ในจุดสูงสุดของสิบสามทวีปต่างก็เคยมาแล้วทั้งสิ้น เป็นต้นว่า ราชันสวรรค์หุ้นหยวน ราชันเทพจงหนาน และราชันเหยียนตี้

กระทั่งเล่าลือกันว่า ราชันเทพชิงมู่ก็เคยมาแล้วเช่นกัน แน่นอน ราชันเทพชิงมู่มาจริงหรือไม่อย่างไรก็เป็นเพียงคำเล่าลือเท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่

เนื่องจากราชันเทพชิงมู่คือจอมราชันที่ลึกลับที่สุดในประวัติศาสตร์ของสิบสามทวีป เขาไม่เพียงเป็นจอมราชันองค์แรกของสิบสามทวีปที่มีสิบสองชะตาฟ้าในครอบครอง ทั้งยังถูกผู้คนเข้าใจว่าเป็นจอมราชันที่มีชีวิตยืนยาวมากที่สุด ยิ่งกว่านั้นยังเป็นจอมราชันที่ลึกลับที่สุดในบรรดาจอมราชันทั้งหมด ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับเขาล้วนแล้วแต่คงอยู่ในตำนานเท่านั้น

ไม่มีใครรู้ว่าบรรดาจอมราชัน และเซียนหวางเหล่านี้มาที่นี่ด้วยจุดประสงค์ใด ชนรุ่นหลังรู้เพียงว่าพวกของราชันสวรรค์หุ้นหยวน ราชันเทพจงหนานล้วนแล้วแต่เคยมาดูที่ตรงนี้ ส่วนที่ว่ามาดูด้วยเรื่องอะไร หรือมาทำอะไร ชนรุ่นหลังไม่สามารถรู้ได้

แต่ว่า มีผู้ที่คาดเดาว่า การที่รราชันสวรรค์หุ้นหยวน ราชันเทพจงหนาน พวกเขาอาจมาที่นี่เพื่อบรรลุสัจธรรม แต่เป็นเพียงการคาดเดาไม่มีหลักฐานที่แน่นอน

ด้วยเหตุนี้เอง ชนรุ่นหลังจำนวนมากมาที่นี่เพราะแม้แต่พวกของราชันสวรรค์หุ้นหยวนที่อยู่เหนือสุดยอดยังเคยมาที่นี่ ทุกคนหากไม่มาด้วยดูจะกระไรอยู่

ในยุคหลังๆ ก็มีผู้คนจำนวนมากมาที่นี่เพื่อบรรลุสัจธรรม ทุกคนต่างกระหายต้องการบรรลุอะไรบางอย่างจากรอยสลักลึกลับที่อยู่บนหลุมสวรรค์เหล่านั้น ไม่แน่นัก วันหนึ่งอาจได้กลายเป็นสุดยอดจอมราชันหรือเซียนหวางแห่งยุคก็เป็นได้

แต่ว่ายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่มาบรรลุสัจธรรมได้จริงๆ นั้น นับแต่อดีตกาลที่ผ่านมามีอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ส่วนใหญ่ที่มาสุดท้ายแล้วล้วนแล้วแต่กลับบ้านมือเปล่าทั้งสิ้น

แม้ว่าผาไหม้ไฟจะเป็นสถานที่รกร้าง แต่ที่หลุมสวรรค์ยังนับได้ว่ามีความคึกครื้น ปรกติแล้วจะมีผู้บำเพ็ญตนจำนวนหลายร้อยคนถึงกว่าพันคนมาที่นี่เพื่อดูร่องรอยสลัก กระทั่งต้องการบรรลุสัจธรรมที่นี่ ขณะที่ยามที่มากันน้อยยังคงมีหลายสิบคน

ในเวลานี้ ที่หลุมสวรรค์ได้มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนอยู่ไม่น้อยที่มาดูมาบรรลุสัจธรรม ผู้บำเพ็ญตนบางคนนั่งอยู่ตรงหลุมสวรรค์เพื่อรับรู้ถึงกลิ่นอายขมุกขมัว และพลังจากโลกยุคดึกดำบรรพ์ก่อนที่มีการแยกฟ้าดินเป็นสองส่วน และมีผู้บำเพ็ญตนที่นั่งครุ่นคิดอย่างหนัก เพื่อให้รู้ถึงความลึกซึ้งและยอดเยี่ยมของรอยสลัก และมีผู้ที่ยืนอยู่บนท้องฟ้า มองดูหลุมสวรรค์จากที่สูงเพื่อทำการศึกษาจากภาพรวม

เนื่องจากชิงโจวคือแหล่งรวมร้อยชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาสิบสามทวีป ดังนั้น เผ่ามนุษย์ เผ่ามนุษย์ศิลา เผ่าวิญาณเทพที่ปรากฎอยุ่บริเวณหลุมสวรรค์จึงมีจำนวนไม่น้อย

แน่นอน ย่อมต้องมียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตน ของเผ่าเทพ เผ่ามาร และเผ่าสวรรค์สามเผ่าปรากฏที่หลุมสวรรค์ด้วย

เมื่อหลี่ชิเย่มาถึงแล้ว บนท้องฟ้าของหลุมสวรรค์ก็มีกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังก้มลงมองดูหลุมสวรรค์ เขากำลังศึกษาวิเคราะห์หลุมสวรรค์อยู่ บนหน้าผากของชายหนุ่มมีรูปคทาอำนาจปรากฎอยู่

ชายหนุ่มผู้นี้มีชาติกำเนิดเป็นเผ่าสวรรค์ ขณะที่รูปคทาอำนาจที่บริเวณหน้าผากคือสัญลักษณ์ที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองของเผ่าสวรรค์

แน่นอน ใช่ว่าเผ่าสวรรค์ทุกคนจะต้องมีสัญลักษณ์รูปคทาอำนาจบริเวณหน้าผากทุกคน โดยทั่วไปแล้ว มนุษย์ปุถุชนธรรมดาของเผ่าสวรรค์จะไม่มีสัญลักษณ์รูปคทาอำนาจบริเวณหน้าผาก มีเพียงผู้บำเพ็ญตนที่ก้าวถึงระดับหนึ่งแล้ว หรือเลือดเผ่าสวรรค์ในกายของเขามีความเข้มข้นถึงระดับหนึ่งแล้ว สัญลักษณ์รูปคทาอำนาจจึงจะปรากฏขึ้นที่บริเวณหน้าผาก หรือเผ่าสวรรค์ที่ภายในกายมีสายเลือดที่สูงส่งหลั่งรินอยู่ก็จะมีสัญลักษณ์รูปคทาอำนาจเช่นนี้ตั้งแต่แรกเกิด

หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้มาถึงหลุมสวรรค์แล้ว มองดูที่ตรงนี้ที่เต็มไปด้วยรอยสลักลึกลับ เขาเงยหน้ามองดูท้องฟ้า แววตาของเขาเหมือนยิงตรงไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของอาวกาศ แววตาของเขาเหมือนก้าวข้ามมิติอย่างนั้น

“สวรรค์โจร!” สุดท้าย หลี่ชิเย่เลียริมฝีปากที่แห้งจนแตกแล้วบ่นพึมพำออกมา

หลังจากที่หลี่ชิเย่มาถึงแล้ว เขาหาหลุมสวรรค์หลุมหนึ่งมาได้ จากนั้นก็นอนอยู่ตรงนั้น โดยนอนมองไปบนท้องฟ้าอย่างเลื่อนลอยอยู่ข้างๆ หลุมสวรรค์นั่น

หลี่ชิเย่มองดูท้องฟ้ากระทั่งหนังตายังไม่กระตุก เหมือนว่าบนท้องฟ้ามีสิ่งสวยงามยิ่งนักอย่างนั้น

หลี่ชิเย่นอนอยู่ในลักษณะเช่นนี้หลายวันหลายคืน เขานอนอยู่ตรงนั้นโดยไม่ได้กระดิกตัว ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนบางคนเห็นเขานอนไม่กระดิกตัวอยู่ตรงนั้น ยังเข้าใจว่าเขาได้ตายไปแล้ว ครั้นเห็นนัยน์ตาคู่นั้นของหลี่ชิเย่ยังลืมเบิกตากว้างอยู่ พวกเขาจึงรู้ว่าหลี่ชิเย่ยังคงมีชีวิตอยู่

“เจ้าที่เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งนอนแกล้งตายทำอยู่ตรงนี้เพื่ออะไร อย่าอยู่ตรงนี้เกะกะทุกคนเขา” มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่ตวาดใส่หลี่ชิเย่ด้วยท่าทีเคืองๆ

อ่านตอนอื่นๆของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล คลิกเลย

แฟนเพจ