Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1746 การดีดลูกคิดรางแก้วของเถี่ยซู่อง

เรื่อง ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1746 การดีดลูกคิดรางแก้วของเถี่ยซู่อง

ตอนที่ 1746 การดีดลูกคิดรางแก้วของเถี่ยซู่อง
เซียนหวางเย่หลิน นางคือเซียนหวางองค์ที่สามของตระกูลราชันฉีหลิน และนับเป็นเซียนหวางที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลราชันฉีหลิน เซียนหวางเย่หลินมีสิบเอ็ดลัคนา และได้ครอบครองชะตาฟ้าสิบเอ็ดสาย!

อาจกล่าวได้ว่า เซียนหวางเย่หลินคือจอมราชันหรือเซียนหวางที่เข้าใกล้ความเป็นระดับสูงสุดของจอมราชันหรือเซียนหวางเพียงแค่คืบเท่านั้นเอง เนื่องเพราะการดำรงอยู่ของเซียนหวางเย่หลิน เคยทำให้ตระกูลราชันฉีหลินรุ่งเรืองขึ้นมาอีกครั้ง โดยเฉพาะในยุคของเซียนหวางเย่หลิน ชื่อเสียงของตระกูลราชันฉีหลินโด่งดังมาก!

“ตระกูลราชันฉีหลินเริ่มมีการทดสอบเช่นนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”หลี่ชิเย่กล่าวขึ้นและจ้องมองไปยังเถี่ยซู่อง

เถี่ยซู่องทำท่าไตร่ตรองนิดหนึ่ง สุดท้ายได้แต่หัวเราะแห้งๆ ว่า “เรื่องนี้เกรงว่าข้าไม่สามารถรู้ได้แล้วหละ ขณะที่ข้ารู้เรื่องนี้มา ทางตระกูลราชันฉีหลินก็ทำอยู่ก่อนแล้ว อย่างน้อยที่สุดในยุคนี้ก็ได้ทำเช่นนี้เรื่อยมา เพียงแต่กระทำการไม่ใหญ่โตอะไรมากนัก ได้ยินมาว่า ในอดีตจะทดสอบเฉพาะศิษย์ของตระกูลราชันฉีหลินเท่านั้น ต่อมาภายหลังตระกูลราชันฉีหลินต้องการรับสมัครศิษย์ที่มีสติปัญญา มีความรู้ เพื่อเป็นการเพิ่มพูนเลือดใหม่ที่สดใหม่กว่า จึงริเริ่มทดสอบกับบุคคลภายนอก

เมื่อหลี่ชิเย่ได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้วยิ้มเฉยเมย จากนั้นมองดูเถี่ยซู่องและกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “เจ้าคิดจะให้ข้าไปสมัครทดสอบในนามของสำนักต้นไม้เหล็ก! เจ้าต้องการให้ข้าเข้าร่วมสำนักต้นไม้เหล็กของพวกเจ้า”

“เหอะ เหอะ เหอะ ข้าสามารถแนะนำท่านได้ เนื่องจากตระกูลราชันฉีหลินกระหายผู้มีความรู้ยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นสำนักใดก็ตาม ขอเพียงอยู่ภายใต้การปกครองของตระกูลราชันฉีหลินก็สามารถแนะนำผู้มีความรู้ความสามารถได้ แน่นอน ถ้าหากท่านสามารถเข้าร่วมสำนักต้นไม้เหล็กของพวกเรา ย่อมเป็นความปรารถนายิ่งของสำนักต้นไม้เหล็กของพวกเรา” เถี่ยซู่องถูมือไปมาและหัวเราะแห้งๆ

“ข้าเข้าใจความหมายของเจ้า ผู้ที่สามารถผ่านการทดสอบจากตระกูลราชันฉีหลินจะได้รับการให้ความสำคัญจากตระกูลราชันฉีหลิน ถ้าหากแนะให้ข้าไปตระกูลราชันฉีหลิน หรือข้าไปเข้ารับการทดสอบจากตระกูลราชันฉีหลินในนามของสำนักต้นไม้เหล็ก ภายหลังข้าได้เป็นศิษย์ของตระกูลราชันฉีหลิน ได้รับการให้ความสำคัญและบ่มฟักจากตระกูลราชันฉีหลินแล้ว…”

ครั้นหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว ยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า “…สำนักต้นไม้เหล็กพวกเจ้าก็สามารถเชื่อมกับตระกูลราชันฉีหลิน อย่างไรเสียเมื่อมีข้าที่อยู่ตระกูลราชันฉีหลิน คอยพูดให้กับเจ้า ก็จะยกฐานะของสำนักต้นไม้เหล็กขึ้นมาได้ ไม่แน่นักอาจไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยแคว้นซีถัวอีก สามารถขึ้นตรงต่อตระกูลราชันฉีหลินได้เลย!”

เถี่ยซู่องถึงกับมีใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เมื่อถูกหลี่ชิเย่จึ้ถูกใจดำขึ้นมา เมื่อครั้งอยู่ที่หลุมสวรรค์เถี่ยซู่องก็ดูออกว่า แม้หลี่ชิเย่จะเป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง แต่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขามีการศึกษาค้นคว้าในด้านดาราศาสตร์ เมื่อได้มีโอกาสสนทนากับหลี่ชิเย่แล้ว ยิ่งรับรู้ว่าหลี่ชิเย่เป็นผู้ที่มีความรู้กว้างขวางมากคนหนึ่ง

แม้ว่าหลี่ชิเย่จะเป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง แต่เขามีความรู้มากล้น ขณะที่ตระกูลราชันฉีหลิน กำลังรับสมัครผู้มีความรู้ความสามารถ ดังนั้น เถี่ยซู่องจึงได้บังเกิดแนวความคิดเช่นนี้ขึ้นมา

“ท่านเป็นผู้ที่มากด้วยความรู้ แม้ว่ายังไม่ได้รับการฝึกฝน แต่อาศัยความรู้ของท่านอนาคตหากก้าวเดินบนเส้นทางผู้บำเพ็ญตนต้องสามารถสร้างผลงานที่โดดเด่นได้มากทีเดียว ต่อให้ไม่สามารถเป็นเจ้าถิ่น เกรงว่าด้วยความรู้ที่กว้างขวางของท่านคงสามารถเป็นที่ปรึกษาหรือวางแผนการให้กับตระกูลขุนนางโบราณได้…”

เถี่ยซู่องรีบเร่งกล่าวต่อไปว่า “…อาศัยความรู้ที่กว้างขวางของท่าน หากคงรั้งอยู่ในแดนของมนุษย์ปุถุชนถือว่าน่าเสียดาย โลกมนุษย์เองก็ยากจะให้ท่านได้สำแดงความมุ่งมาดปรารถนาได้

หากท่านสามารถเข้าไปในตระกูลราชันฉีหลินได้ ไม่เพียงทำให้ท่านสามารถก้าวสู่ตำแหน่งสูงโดยไม่เปลืองแรงแล้ว ด้วยฐานะที่แข็งแกร่งของตระกูลราชันฉีหลินก็จะทำให้ท่านได้มีประสบการณ์สามารถเรียนรู้อะไรอีกมากมาย เรื่องดีๆ เช่นนี้ ไหนเลยท่านจะไม่ทำหละ?” เถี่ยซู่องไม่เพียงยกยอหลี่ชิเย่เป็นการใหญ่ ขณะเดียวกันก็ได้แจกแจงให้หลี่ชิเย่ได้รู้ถึงผลประโยชน์ต่างๆ

ความจริงแล้ว ขอเพียงคนที่รู้จักตระกูลราชันฉีหลินล้วนแล้วแต่รู้ว่า ถ้าหากมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งสามารถเข้าร่วมตระกูลราชันฉีหลินได้ล่ะก็ ย่อมเท่ากับได้ดีในชั่วข้ามคืน ได้รับตำแหน่งสูงโดยไม่ต้องเปลืองแรง เรื่องดีๆ เช่นนี้ สำหรับมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งไม่ว่าใครก็ตามที่รู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลราชันฉีหลินก็จะไม่ปฏิเสธเด็ดขาด กระทั่งเรียกว่าเป็นสุดยอดปรารถนาที่หาได้ยากยิ่ง

หลี่ชิเย่มองหน้าเถี่ยซู่องทีหนึ่ง หากเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนใดก็ตามหากได้ยินคำพูดของเถี่ยซู่องแล้วก็ต้องรู้สึกใจเต้นตูมตาม กระทั่งเลือดในกายเดือดพล่าน

หลี่ชิเย่เพียงมีท่าทีเรียบเฉย เขามองออกไปข้างนอก หลังจาดผ่านไปนานมากจึงได้ละสายตากลับมา

หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้ละสายตากลับมาแล้ว มองดูเถี่ยซู่องทีหนึ่ง กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ข้าไปที่ตระกูลราชันฉีหลินก็ได้ ทั้งยังเข้ารับการทดสอบได้”

“จริงหรือ?” เถี่ยซู่องถึงกับรู้สึกดีใจอย่างยิ่งเมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่ รีบโค้งคำนับและกล่าวว่า “ท่านคือผู้มีความรู้ที่สวรรค์ประทานมา มีความรู้กว้างขวาง หากท่านไปล่ะก็ต้องได้รับการคิดเลือก ได้รับการบ่มฟักจากตระกูลราชันฉีหลินแน่นอน”

กล่าวสำหรับเถี่ยซู่องแล้ว สิ่งนี้คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาคาดหวังเอาไว้ ถ้าหากคนที่เขาแนะนำสามารถเข้าไปยังตระกูลราชันฉีหลินได้ ในอนาคตสำนักต้นไม้เหล็กของพวกเขาก็สามารถเชื่อมถึงคนของตระกูลราชันฉีหลินได้ ซึ่งเรื่องนี้กล่าวสำหรับสำนักต้นไม้เหล็กนับเป็นเรื่องที่ดีที่สุด และจะเป็นการยกฐานะของสำนักต้นไม้เหล็กให้สูงขึ้นในตระกูลราชันฉีหลิน

“เจ้าอย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไป” หลี่ชิเย่กล่าวท่าทีเรียบเฉยว่า “ผู้ยิ่งใหญ่อย่างตระกูลราชันฉีหลินใช่ว่าจะพึ่งพาอาศัยได้ง่ายนัก เฉกเช่นผู้ยิ่งใหญ่ระดับนี้หากมีข้อผิดพลาดแม้เพียงน้อยนิดก็สามารถทำให้สำนักต้นไม้เหล็กของพวกเจ้ากลายเป็นเถ้าธุลีได้”

“แน่นอน แน่นอน” เถี่ยซู่องรีบเร่งกล่าวพร้อมกับหัวเราะแหะแหะ เขาย่อมเข้าใจเหตุผลข้อนี้ดี สามารถเกาะตระกูลราชันฉีหลินได้นับเป็นเรื่องดีแน่นอนสำหรับสำนักต้นไม้เหล็ก แต่ก็คงไว้ซึ่งความเสี่ยงในขณะเดียวกัน

เถี่ยซู่องเองย่อมเข้าใจ โลกนี้หากคิดจะได้รับดอกผลก็ต้องมีความเสี่ยงในระดับหนึ่ง หากแม้ความเสี่ยงสักนิดก็ไม่กล้า สำนักต้นไม้เหล็กไม่มีความหวังอยู่แล้ว

“พรสวรรค์ของเจ้าไม่เท่าไร แต่มีแววตาที่ฉลาดเฉลียวมาก มีแผนการในใจที่แยบยล เสียดายเจ้ากำเนิดในสำนักต้นไม้เหล็กเล็กๆ เช่นนี้ หากเจ้ากำเนิดในแคว้นเจ้าลัทธิ นับว่าสามารถทำอะไรได้มากทีเดียว” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นช้าๆ

เถี่ยซู่องหัวเราะเจื่อนๆ และกล่าวว่า “สามารถกำเนิดในสำนักต้นไม้เหล็กข้าก็พึงพอใจมากแล้ว ที่นี่คือบ้านของข้า กล่าวสำหรับข้าแล้ว ไม่มีที่ใดดีไปกว่าที่นี่อีกแล้ว”

เถี่ยซู่องนับเป็นผู้ที่มีความมุ่งมาดปรารถนาคนหนึ่ง เขาสามารถมองคนออก สามารถแยกแยะสถานการณ์ เสียดายที่กลับกำเนิดในสำนักต้นไม้เหล็ก สำนักต้นไม้เหล็กมีขนาดเล็กและอ่อนแอเกินไป ต่อให้เขาได้เป็นถึงเจ้าสำนักก็อยากจะทำการใดๆ ได้ จะอย่างไรเสียสำนักที่มีขนาดเล็กเช่นนี้ พูดถึงทรัพยากรปราศจากทรัพยากร พูดถึงธาตุแท้ภายในปราศจากธาตุแท้ภายใน ภาษิตกล่าวไว้ว่า หากปราศจากวัตถุดิบและเครื่องไม้เครื่องมือ ต่อให้แม่ครัวเก่งแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้ ดังนั้น เถี่ยซู่องก็ไม่สามารถทำให้สำนักต้นไม้เหล็กเจริญและเติบใหญ่ได้

ขณะเดียวกัน พรสวรรค์ของเถี่ยซู่องก็ไม่ดี ทักษะมีจำกัด แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่มีความมุ่งมาดปรารถนา แต่ก็ไม่สามารถนำพาให้สำนักต้นไม้เหล็กยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้

“กุศโลบายและแผนการของเจ้าวางไว้ได้ดีมาก เจ้าไม่เพียงต้องการเชื่อมกับตระกูลราชันฉีหลินเท่านั้น ยังตั้งใจจะบ่มฟักศิษย์ทั้งสองของเจ้า ให้พวกเขาสามารถนำพาสำนักต้นไม้เหล็กให้แข็งแกร่ง” หลี่ชิเย่กล่าวไปตามอารมณ์ว่า “เสียดาย ศิษย์ทั้งสองของเจ้าแม้มีพรสวรรค์สูงกว่าเจ้าไม่น้อย แต่ไม่มีประสบการณ์ความรู้และความมุ่งมาดปรารถนาเหมือนเช่นเจ้า ไม่เห็นจะเป็นผู้ที่จะประสบความสำเร็จได้”

“เหอะ เหอะ เหอะ ศิษย์ข้าโง่เขลา อายุน้อยประมาทเลินเล่อ ต้องอาศัยท่านสนับสนุนให้มาก ภายภาคหน้ายังต้องอาศัยท่านช่วยขัดเกลาพวกเขาสักหน่อย” โค้งคำนับและกล่าวขึ้นมา

เถี่ยซู่องรู้ตัวดีว่าชาตินี้ของตนไม่มีความหวังอะไรอีกแล้ว อายุของเขานับว่ามากพร้อมจะตายจากได้ทุกเมื่อ ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ พรสวรรค์ของเขามีจำกัด ชาตินี้ของเขาหยุดลงเพียงแค่ระดับราชาสัจธรรมเท่านั้น

แต่ว่าศิษย์ทั้งสองของเขาเฮ่อเฉินและเสิ่นเสี่ยวซันนั้นแตกต่างกับตน ศิษย์ทั้งสองมีพรสวรรค์ที่สูงกว่าตัวเขาผู้เป็นอาจารย์มากนัก โดยเฉพาะเสิ่นเสี่ยวซัน ซึ่งทำให้เถี่ยซู่องฝากความหวังเอาไว้สูงมาก เนื่องจากนางคือศิษย์ที่มีพรสวรรค์ดีที่สุดของสำนักต้นไม้เหล็ก

ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เถี่ยซู่องมีกุศโลบายและแผนการ การที่เขาพยายามบ่มฟักศิษย์ทั้งสองเสมอมา โดยเฉพาะกล่าวสำหรับในเวลานี้แล้ว เถี่ยซู่องเหมือนมองเห็นความหวังแล้ว

กล่าวสำหรับเถี่ยซู่องแล้ว ถ้าหากหลี่ชิเย่สามารถเข้าไปยังตระกูลราชันฉีหลินจริงล่ะก็ ขณะที่ศิษย์ทั้งสองของเขาสามารถบ่มฟักจนประสบความสำเร็จได้ ครั้นพวกเขาสามารถเชื่อมต่อถึงตระกูลราชันฉีหลินได้ล่ะก็ จะส่งผลให้สำนักต้นไม้เหล็กของพวกเขาค่อยๆ เติบใหญ่ขึ้นทีละก้าวๆ

“เจ้าเคยคิดที่จะให้ศิษย์ของเจ้าแต่งเข้าตระกูลราชันฉีหลิน” หลี่ชิเย่มองดูเถี่ยซู่องทีหนึ่งและกล่าวราบเรียบขึ้นมาช้าๆ

“เรื่องนี้…” สีหน้าของเถี่ยซู่องแปรเปลี่ยนไปมากทีเดียว ถึงกับก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว เนื่องจากคำพูดของหลี่ชิเย่พูดตรงกับความคิดของเขา จะไม่ให้เขาต้องตกใจได้อย่างไรกัน เมื่อเขาไม่เคยบอกเล่าแนวความคิดกับผู้ใดมาก่อนเลย

เป็นความจริงที่เถี่ยซู่องเคยมีแนวความคิดเช่นนี้ ศิษย์ที่เป็นสายตรงของตระกูลราชันฉีหลินเกรงว่าคงไม่คิดแต่งงานกับเสิ่นเสี่ยวซัน แต่อาศัยสติปัญญาและความงามของศิษย์ ยังมีโอกาสได้แต่งเข้าตระกูลราชันฉีหลินกับศิษย์ที่เป็นสายแยกในอนาคตได้อยู่แล้ว

ถ้าหากว่า วันหนึ่งศิษย์ของเขาได้โบยบินขึ้นไปแล้วกลับกลายเป็นหงส์ สิ่งนี้ย่อมจะมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อสำนักต้นไม้เหล็กของพวกเขา กระทั่งสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของสำนักต้นไม้เหล็กได้

กระทั่งก่อนหน้านี้ไม่นาน ภายในใจของเถี่ยซู่องยังได้บังเกิดแนวความคิดอีกแบบหนึ่ง ถ้าหากหลี่ชิเย่สามารถเข้าไปยังตระกูลราชันฉีหลินได้จริงๆ และได้รับการบ่มฝักจากตระกูลราชันฉีหลินล่ะก็ ภายในใจของเขากระทั่งเคยคิดยกศิษย์ของตนให้แต่งงานกับหลี่ชิเย่

ถ้าหากเสิ่นเสี่ยวซันแต่งงานกับหลี่ชิเย่ เช่นนั้นแล้วก็จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสำนักต้นไม้เหล็กกับหลี่ชิเย่มีความแน่นเฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้สำนักต้นไม้เหล็กของพวกเขาผงาดขึ้นมาได้ ขอเพียงศิษย์ของเขาสามารถรับผิดชอบภาระสำคัญที่มอบหมายได้

“เหอะ เหอะ สายตาของท่านปราศจากผู้เทียบเทียม” เถี่ยซู่องหัวเราะเจื่อนๆ และกล่าวว่า “กล่าวสำหรับซันเอ๋อร์แล้ว หากสามารถแต่งเข้าตระกูลราชันฉีหลินได้ก็ถือว่าสามารถโบยบินขึ้นไปเป็นหงส์ได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่านางจะมีวาสนาเช่นนี้หรือไม่”

เมื่อเถี่ยซู่องถูกหลี่ชิเย่จับได้จึงไม่ปิดบังอีกต่อไป กระทั่งเขายังคาดหวังให้เสิ่นเสี่ยวซันคบหากับหลี่ชิเย่ แม้ว่าหลี่ชิเย่จะเป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาหรือไม่ก็ตาม เมื่อเขามีความรู้ประสบการณ์เช่นนี้ มีความสามารถเช่นนี้ ต้องทำอะไรได้มากแน่นอน

“การเกี่ยวดองด้วยการสมรสคือวิธีการโบราณแล้วหละ ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงนับแต่อดีตกาลที่ผ่านมา ในโลกนี้ไม่มีความสัมพันธ์ที่เป็นพันธมิตรใดๆ แข็งแกร่งมากไปกว่าการเกี่ยวดองสมรสอีกแล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่ง โดยไม่ได้วิจารณ์ถึงการกระทำของเถี่ยซู่อง

ใบหน้าแก่ๆ ของเถี่ยซู่องรู้สึกร้อนผ่าว วิธีการของเขาไม่เห็นจะมีหน้ามีตาสักเท่าไร แต่เขาก็ได้ตัดสินใจเลือกมันแล้ว

“ท่านพูดได้ถูกต้อง ความสัมพันธ์จากการเกี่ยวดองสมรสเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดเสมอมา” เมื่อมาถึงขั้นนี้ เถี่ยซู่องก็พูดเลยพูดเปิดอกให้มันรู้แล้วรู้รอดไปโดยไม่ปิดบัง กล่าวไม่สะทกสะท้านว่า “ต่อให้สำนักต้นไม้เหล็กพวกเราไม่ได้มีความทะเยอทะยานที่จะผงาดขึ้นมา แต่ก็หวังว่าจะมีวิธีป้องกันตนเองได้บ้าง เฉกเช่นสำนักต้นไม้เหล็กของพวกเราเป็นเพียงมดปลวกเท่านั้นเอง แคว้นเจ้าลัทธิไหนสักแห่งก็สามารถบดขยี้พวกเราจนแหลกลาญได้อย่างง่ายดาย”

ครั้นเถี่ยซู่องเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วได้ทอดถอนใจออกมาเบาๆ และกล่าวว่า “อาจารย์ขณะมีชีวิตอยู่คาดหวังให้สำนักต้นไม้เหล็กสามารถทำอะไรได้บ้าง มิฉะนั้นล่ะก็ การที่ตั้งอยู่ในบริเวณมุมๆ หนึ่งของพื้นที่ที่เป็นพรมแดนด้านตะวันตกเช่นนี้ ถูกใครเขาทำลายล้างสำนักก็ไม่มีใครรู้ เพียงแต่ข้าโง่เขลาไร้ความสามารถ ได้แต่ประคองตัวไปอย่างยากลำบาก และข้าได้แต่คาดหวังให้รุ่นต่อไปสามารถเชื่อมติดต่อกับตระกูลราชันฉีหลินได้”

อ่านตอนอื่นๆของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล คลิกเลย

แฟนเพจ