Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1749 สาวน่ารักร่วมอาบ

เรื่อง ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1749 สาวน่ารักร่วมอาบ

ตอนที่ 1749 สาวน่ารักร่วมอาบ
เสิ่นเสี่ยวซันที่เดิมมีอารมณ์สงบลงมากแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้วแทบจะกระอักเลือดออกมา คำพูดนี้ช่างยโสเหลือเกิน หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงอาละวาดไปแล้ว

แม้แต่คุณสมบัติที่จะพบหน้าสักกครั้งยังไม่มี คำพูดนี้ไม่ใช่คำพูดยโสโอหังธรรมดา

ความจริงแล้ว เสิ่นเสี่ยวซันย่อมไม่รู้ว่าก่อนหลี่ชิเย่จะมาที่แดนที่สิบนั้น บุคคลระดับปฐมบรรพบุรุษ ยอดฝีมือที่ดำรงอยู่นฐานะสามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้จำนวนเท่าไร คิดจะพบหน้าหลี่ชิเย่ก็ยากยิ่ง

ในเก้าแดน ไม่รู้ว่ามีสายสำนักราชันเซียนจำนวนเท่าไรที่ยินดีให้องค์หญิง เทพธิดาของตนแต่งงานกับคนโหดอันดับหนึ่ง แต่งงานกับราชันอันดับหนึ่งตลอดกาล เสียดายที่องค์หญิง เทพธิดาของพวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะพบหน้าสักครั้ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะให้ก้าวไปในระดับต่อไป

“ว้าว พูดแบบนี้เจ้าก็คืออ๋องหรือโหวแหยของแคว้นเจ้าลัทธิแคว้นใดแคว้นหนึ่งแล้วสิ หรือว่าเป็นบุตรนอกสมรสของผู้ยิ่งใหญ่สักคนแล้ว” เสิ่นเสี่ยวซันกล่าวด้วยท่าทีเคืองๆ คำพูดแฝงไว้ซึ่งการเหน็บแนมในที

“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่เชื่อ และกำลังหัวเราะเยาะข้า” หลี่ชิเย่เองก็ไม่ได้โกรธ กล่าวท่าทีเรียบเฉยว่า “โอรสกษัตรา โอรสราชันอะไรนั้น บุคคลประเภทนี้ไม่มีค่ากระทั่งอีแปะเดียว! เหยาะแหยะไม่สู้โลก

คำพูดลักษณะเช่นนี้เมื่อพูดออกมา ทำให้เสิ่นเสี่ยวซันพูดอะไรไม่ออก กระทั่งเรียกได้ว่านางแทบไม่มีอารมณ์แล้วหละ คนอื่นหากพูดคำพูดที่โอหังอวดดีเช่นนี้บางทีอาจจะมีหน้าแดงให้เห็นบ้าง จะอย่างไรเสียการคุยโตโอ้อวดใช่ว่าทุกคนจะมีความมั่นใจเช่นนี้

แต่ทว่า สำหรับมนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ดูเหมือนคำพูดใดๆ ล้วนแล้วแต่พูดออกมาด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม คนอื่นอาจจะมองว่าเป็นคำพูดที่เหลือเชื่อ หรือเป็นคำพูดที่อวดดีหลงตัวเอง แต่เขาพูดออกมาได้อย่างสงบและเป็นธรรมชาติ ช่างสมเหตุสมผลอะไรอย่างนั้น

ถ้าหากจะบอกว่าคำพูดที่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนนี้พูดมานั้นล้วนแล้วแต่เป็นคำพูดที่คุยโตโอ้อวด นั่นย่อมต้องเป็นคนที่คุยโตโอ้อวดได้เก่งที่สุดที่นางเคยพบมา แล้วหากเขาไม่ได้คุยโตโอ้อวดหละ…

ดังนั้น เสิ่นเสี่ยวซันจึงถือโอกาสไม่พูดอะไรอีก จากที่ได้สัมผัสในระยะเวลาอันสั้น นางบังเกิดความรู้สึกงุนงงขึ้นมา ไม่รู้เลยว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนเช่นใดกันแน่ เหมือนว่ามองไม่ทะลุ ที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เมื่อเข้าไปสัมผัสลึกเข้าไปแล้ว เขาสามารถในการดึงดูดใจได้รุนแรงมาก เหมือนว่าเขาสามารถกลืนกินทุกคนเข้าไปได้อย่างนั้น เมื่อผู้ใดก็ตามถูกกลืนกินเข้าไปก็จะยอมศิโรราบต่อเขาทั้งกายและใจ

ช่างเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่น่ากลัวเหลือเกิน ดังนั้น เมื่อเสิ่นเสี่ยวซันนึกๆ ดูแล้วถึงกับสั่นเทิ้มขึ้นมา!

“เข้ามา” ขณะที่เสิ่นเสี่ยวซันกำลังมีจิตล่องลอยอยู่ เสียงของหลี่ชิเย่ได้ดั่งขึ้นข้างหูของนาง

เสิ่นเสี่ยวซันที่ได้สติกลับมาถึงกับตะลึง ในเวลานี้หลี่ชิเย่นอนแช่อยู่ในสระน้ำ กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ตรงนั้น ให้นางเข้าไปในเวลานี้? นางไม่เคยร่วมอาบน้ำกับผู้ชายมาก่อนเลยนะ!

.“เจ้า เจ้าอย่าเกินไปนัก!” เวลานี้ เสิ่นเสี่ยวซันถึงกับกล่าวด้วยความโกรธว่า “เจ้าเห็นข้าเป็นคนอะไร”

“เจ้าคิดมากไปแล้วหละ” จังหวะที่เสิ่นเสี่ยวซันกำลังจะอาละวาดนั้น หลี่ชิเย่โบกมือไปมาตัดบทคำพูดของเสิ่นเสี่ยวซัน และกล่าวเรียบเฉยว่า “ข้าไม่ได้ให้เจ้าแก้ผ้าล่อนจ้อนอาบน้ำด้วยกันกับข้า ข้าเพียงต้องการให้เจ้าเข้ามาปรนนิบัติข้า ช่วยชำระล้างขัดสีกายาทั่วตัวข้าให้สะอาด”

แม้หลี่ชิเย่จะพูดเช่นนี้ก็ตาม ยังคงทำให้เสิ่นเสี่ยวซันโกรธไม่เบาเลย นางจ้องมองหลี่ชิเย่ทั้งโกรธระคนกับอับอาย จะอย่างไรเสีย เรื่องเช่นนี้นางไม่เคยทำมาก่อน การปรนนิบัติผู้ชายคนหนึ่งที่แก้ผ้าล่อนจ้อนในสระน้ำ เรื่องเช่นนี้นางทำไม่ได้จริงๆ !

“ทำไม่รึ หรือว่ากลัวข้าจะเอาเปรียบเจ้าอย่างนั้นรึ?” หลี่ชิเย่มองดูนางแล้วกล่าวเฉยเมยว่า “แม้ว่าหน้าตาของเจ้าจะใช้ได้อยู่ แต่ว่า ต่อให้เจ้าคิดเอาเปรียบข้า ก็ต้องเข้าคิวยาวเป็นคนที่ล้านขึ้นไป”

“เจ้า” เสิ่นเสี่ยวซันถูกยั่วโมโหจนกระอักเลือด เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่ โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้หญิงจะถือดีในความงามของตนอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสิ่นเสี่ยวซันก็นับเป็นสาวงามคนหนึ่งอยู่เหมือนกัน แม้ว่าไม่สามารถเทียบได้กับกิ่งทองใบหยกของบรรดาแคว้นเจ้าลัทธิ หรือสายสำนักราชันเซียนก็ตาม

แต่ ชั่วดีอย่างไรเสิ่นเสี่ยวซันก็คือสาวงามอันดับหนึ่งของสำนักต้นไม้เหล็ก และชื่อเสียงอยู่บ้างในละแวกนี้ เวลานี้กลับถูกหลี่ชิเย่พูดว่าจะต้องเข้าคิวรอหลังจากหนึ่งล้านคนไปแล้ว นี่เท่ากับเป็นการทำให้นางต้องอับอายขายหน้า ทำให้นางโกรธจนตัวสั่นเทิ้ม!

“หลังจากคนที่ลำดับหนึ่งล้านไปแล้ว” เสิ่นเสี่ยวซันถึงกับกัดฟันกรอด เวลานี้นางมีอารมณ์ต้องการอัดใบหน้าผู้ชายที่ธรรมดาให้น่วมเลยทีเดียว

“ในแดนที่สิบคงพูดยาก จะอย่างไรเสียที่นี่คือสิบสามทวีป กว้างใหญ่ไร้ขอบเขตเหลือเกิน” หลี่ชิเย่กล่าวขึ้นมาช้าๆ

คำพูดเช่นนี้ทำเอาเสิ่นเสี่ยวซันเกือบจะกระอักเลือดออกมา นางถึงกับจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธ กล่าวเย็นชาออกมาว่า “เจ้าจะลดความหลงตัวเองลงบ้างอีกสักนิดไม่ได้รึ?”

“เขาเรียกว่ามั่นใจตนเอง” หลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมยว่า “เข้ามา อย่าทำให้แค่อาบน้ำสักครั้งก็ต้องเสียเวลา”

เวลานี้หลี่ชิเย่อาศัยน้ำเสียงที่เป็นคำสั่ง โดยเฉพาะแววตาคู่นั้นที่เรียบเฉยจ้องมองเสิ่นเสี่ยวซันทีหนึ่ง พลันทำให้เสิ่นเสี่ยวซันวิญญาณล่องลอยไป

พริบตาเดียวนั้นเอง เสิ่นเสี่ยวซันรู้สึกเหมือนประกายตาของหลี่ชิเย่ได้ส่องเข้าไปยังวิญญาณของนาง ทำให้วิญญาณล่องลอยขึ้น นาทีนี้นางเหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้ ยามที่วิญญาณของนางล่องลอยรู้สึกว่าช่างมีความปิติยินดีอะไรอย่างนั้น

แววตาของหลี่ชิเย่ที่ลึกล้ำสุดเปรียบเปรยคล้ายดั่งประกอบด้วยตรีสหัสโลกธาตุ สามารถกลืนกินประกายศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด สามารถบหล่อเลี้ยงทุกสรรพชีวิต ดวงตาที่ธรรมดาๆ คู่นี้สามารถทำให้สรรพชีวิตต้องสยบอย่างนั้น

แม้ว่าเวลานี้หลี่ชิเย่คือมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง เขาเคยเป็นผู้บงการเก้าแดนมา เป็นมือมืดที่อยู่เบื้องหลัง ยิ่งไปกว่านั้นเคยเป็นราชันเซียนองค์หนึ่ง ขอเพียงดวงตาของเขาฉายแววเข้ามา ด้วยเสิ่นเสี่ยวซันที่มีทักษะเท่านี้ย่อมไม่สามารถต้านทานเสน่ห์ของหลี่ชิเย่ได้ เขาคือผู้ดำรงอยู่ในฐานะสามารถทำให้ยอมศิโรราบได้ตลอดกาล!

เสิ่นเสี่ยวซันได้ก้าวเดินลงสระแบบสะลืมสะลือ น้ำอุ่นๆ ได้ซึมจนชุดของนางเปียกปอน เผยให้เห็นถึงส่วนเว้าส่วนโค้ง กลมกลึงได้สัดส่วน งดงามต้องตาต้องใจยิ่งนัก

ท่าทีเสิ่นเสี่ยวซันให้ความเคารพและอ่อนโยนในการปรนนิบัติต่อหลี่ชิเย่โดยไม่รู้ตัว ช่วยชำระขัดสีฉวีวรรณให้เขาทั่วทุกส่วนของร่างกาย

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร เสิ่นเสี่ยวซันได้สติคืนกลับมา ในเวลานี้เขาจึงฟื้นรู้สึกตัวขึ้นมาถึงกับสีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นอันมาก ร้องออกมาด้วยความหวาดผวา “เจ้า เจ้า เจ้ารู้จักวิชามาร!”

จะไม่ให้เสิ่นเสี่ยวซันหวาดผวาเช่นนี้ได้อย่างไร เมื่อจู่ๆ ตนเองเหมือนถูกสะกดเอาไว้ เหมือนวิญญาณล่องลอยไปแล้ว ปล่อยให้ทำตามอำเภอใจ เรื่องเช่นนี้ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกสยอง

“โลกนี้ไหนเลยมีวิชามาร” หลี่ชิเย่หัวเราะและส่ายหน้ากล่าวว่า “นี่เขาเรียกว่าอำนาจ เจ้าเคยพบเห็นจอมราชันหรือไม่? ทักษะอย่างเจ้าหากพบเจอจอมราชัน คงไม่เพียงแค่คุกเขาก้มกราบกับพื้นเท่านั้น อานุภาพราชันของเขาสามารถทำให้เจ้าสยบต่อเขาชั่วชีวิต!”

“ฮึ เจ้าไม่ได้เป็นจอมราชันสักหน่อย!” เสิ่นเสี่ยวซักล่าวด้วยท่าทีไม่พอใจ แน่นอนนางย่อมไม่เคยเห็นจอมราชันมาก่อน แต่ว่าเรื่องราวเกี่ยวกับจอมราชันที่ลือกัน นางกลับได้ยินได้ฟังมาไม่น้อยตั้งแต่เด็ก นางสามารถจินตนาการถึงสภาพของการพบกับจอมราชัน มีคำเล่าลือกันว่าหลังจากพบกับจอมราชันมีผู้คนจำนวนมาอดที่จะก้มกราบไม่ได้ บางทีอาจไม่แตกต่างกันสักเท่าไรเหมือนดั่งที่หลี่ชิเย่ได้พูดมา

จังหวะที่เสิ่นเสี่ยวซันได้สติกลับมานั่นเอง เสิ่นเสี่ยวซันกรีดร้องเสียงแหลมด้วยความตระหนก พลันอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ทำอะไรไม่ถูก

เวลานี้นางเปียกปอนไปทั้งตัว ชุดที่สวมใส่จึงแนบกับร่างกายเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้ง อกอวบเต่งตึง เอวที่คอดกิ่ว ก้นที่กลมกลึง…ทั้งหมดล้วนปรากฏอยู่ตรงหน้าหลี่ชิเย่ เผยให้เห็นจนหมดสิ้น

เสิ่นเสี่ยวซันยังเป็นสาวเป็นแส้อยู่ เคยเปิดเผยร่างกายลักษณะเช่นนี้เมื่อไหร่กัน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการอยู่ต่อหน้าผู้ชายคนหนึ่ง ซ้ำร้ายกว่านั้น ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าแก้ผ้าล่อนจ้อนอยู่ตรงหน้านั่นเอง

มาคราวนี้ทำเอาเสิ่นเสี่ยวซันถึงกับต้องนั่งยองๆ ลงให้ร่างกายแช่อยู่ในน้ำ เวลานี้ใบหน้าของนางแดงก่ำ รู้สึกเหมือนปวดร้อนไปทั่วทั้งร่าง ความรู้สึกเช่นนี้มันช่างเก้อเขินเหลือเกินสำหรับนาง

หลี่ชิเย่ไม่คิดจะมองอะไรนางมากมาย กล่าวเฉยเมยว่า “วางใจเถอะ ข้าไม่ได้คิดจะเอาเปรียบเจ้า”

เสิ่นเสี่ยวซันทั้งโกรธระคนกับความอับอาย จ้องตาขมึงด้วยความแค้น แต่ว่า ในสายตาของหลี่ชิเย่มองว่าอย่างไรก็ได้เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ว่าภาพที่อยู่ตรงหน้าจะน่าดูชมก็ตาม

เขาเคยเห็นสาวงามมากนักต่อนักแล้ว ต่อให้ร่างที่งดงามปราศจากผู้เทียบเทียมเขาก็เคยเห็นมาจนนับไม่ถ้วน เฉกเช่นรูปร่าง และความงามของเสิ่นเสี่ยวซันเช่นนี้เขาขี้คร้านจะไปมองดูด้วยซ้ำ เมื่อเปรียบกับสุดยอดสาวงามเหล่านั้นแล้ว ความงามของเสิ่นเสี่ยวซันเป็นเพียงต้นหญ้าเล็กๆ ที่ไม่สะดุดตาต้นหนึ่งท่ามกลางสวนบุปผาที่เหล่าบุปผาต่างแย่งกันเบ่งบานเต็มที่เท่านั้น

แม้แต่รูปร่างที่สุดยอดยิ่งนักของบรรดาสาวงามเหล่านั้น หลี่ชิเย่ยังรู้สึกว่ายังไงก็ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเสิ่นเสี่ยวซันแล้ว

ครั้นเห็นว่าหลี่ชิเย่ไม่มีทีท่าว่าจะเอาเปรียบตนจริงๆ เสิ่นเสี่ยวซันที่ทั้งเคืองทั้งอับอายได้แต่ปรนนิบัติหลี่ชิเย่ต่อไป แต่ว่านางไม่กล้าจ้องมองร่างกายของหลี่ชิเย่ ภาพที่อยู่เบื้องหน้าทำให้นางอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี

แต่ว่า ตั้งแต่ต้นจนจบ หลี่ชิเย่เพียงเอนกายอยู่ในท่ากึ่งนอนเพื่อรับการปรนนิบัติจากนางเท่านั้น ต่อให้อกที่กลมกลึงอวบอิ่มเคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าของเขา แม้จะห่างกันแค่คืบเท่านั้น หลี่ชิเย่ก็ขี้คร้านจะมองดูสักครั้ง เพียงหลับตาเสพสุขกับการปรนนิบัติเท่านั้น

แรกทีเดียว เสิ่นเสี่ยวซันอารมณ์ทั้งโกรธทั้งอับอาย แต่เมื่อเวลาเคลื่อนผ่านไป เขาจึงสงบลง เนื่องจากหลี่ชิเย่ไม่ได้คิดอะไรกับนางแม้แต่น้อย และไม่มีการกระทำที่นอกลู่นอกทางแม้แต่นิดเดียว

แรกทีเดียวเสิ่นเสี่ยวซันสามารถยอมรับกับสิ่งนี้ได้ แต่ เมื่อหลี่ชิเย่ขี้คร้านจะมองหน้านางแม้สักครั้ง โดยเฉพาะกับความงามที่อยู่ตรงหน้า ท่าทีของหลี่ชิเย่คืออย่างไรก็ได้ ทำให้ภายในใจของเสิ่นเสี่ยวซันอึดอัดจนบอกไม่ถูก

แม้ว่านางจะไม่ใช่สุดยอดสาวงามอะไรนั่น แต่หน้าตาก็นับว่าไม่เลวนัก นางยังคงมีความมั่นใจในรูปโฉมของนาง แม้ไม่อาจบอกว่าสามารถทำให้ทุกคนชื่นชอบ แต่อย่างน้อยที่สุดก็ไม่แย่เกินไป

เป็นไงหละตอนนี้ แม้ว่าภาพจะน่าดูชม แต่หลี่ชิเย่กลับขี้คร้านจะจ้องมองสักครั้งด้วยซ้ำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเสิ่นเสี่ยวซันอยู่บ้าง ทำให้ศักดิ์ศรีของนางถูกทำร้าย

หรือบางทีอาจเป็นเหมือนดั่งที่หลี่ชิเย่ได้พูดเอาไว้ เขาไม่ได้มองเห็นนางอยู่ในสายตาเลย

“ฮึ ปกติแล้วเจ้าก็จะให้สาวงามคอยปรนนิบัติอย่างนั้นรึ?” เสิ่นเสี่ยวซันถึงกับส่งเสียงแสดงความไม่พอใจออกมาเบาๆ เวลานี้นางไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตัวเองนั้นไม่พอใจอะไร ตามหลักแล้ว การที่หลี่ชิเย่ไม่ได้คิดไม่ดีกับนางแม้แต่น้อยควรนับเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง

“มันก็ต้องดูว่าเป็นผู้หญิงแบบไหน” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “ใช่ว่าใครก็สามารถปรนนิบัติได้ วาสนาของเจ้าไม่เลวนัก”

หากเป็นก่อนหน้านั้น เสิ่นเสี่ยวซันคงถูกคำพูดเช่นนี้ยั่วโมโหจนกระอักเลือดออกมา แต่เวลานี้นางเกือบจะรู้สึกยังไงก็ได้กับคำพูดเช่นนี้แล้ว

“โอ้ว พูดแบบนี้ แสดงว่ามีสาวงามมากมายคอยปรนนิบัติเจ้าน่ะสิ เจ้าเคยเห็นรูปร่างของสาวงามมามากมายเท่าไร?” เสิ่นเสี่ยวซันในเวลานี้พูดออกมาแบบเคืองๆ

อ่านตอนอื่นๆของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล คลิกเลย

แฟนเพจ