Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1759 ทุบหน้าเจ้าให้เละ

เรื่อง ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1759 ทุบหน้าเจ้าให้เละ

ตอนที่ 1759 ทุบหน้าเจ้าให้เละ
สือโส่วต้องทอดถอนใจในใจเมื่อมองเห็นท่าทีของชายหนุ่มผู้นี้แล้ว ที่ควรจะมาอย่างไรเสียก็ต้องมาหลบอย่างไรก็ไม่พ้น เรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องที่อาจารย์ของเขากังวลมากที่สุด แต่ว่า ท้ายสุดก็เกิดขึ้นจนได้

สือโส่วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ฝืนเข้าไปแสดงความคารวะ กล่าวด้วยท่าทีเคารพนอบน้อมว่า “ไม่ทราบว่าเหลียงจวิ้นหวัง (ตำแหน่งรองจากหวังหรืออ๋อง) เสด็จมาไม่ทันได้ต้อนรับ โปรดประทานอภัย โปรดประทานอภัย”

“ตาเฒ่าสือ ที่นี่ไม่ใช่แคว้นซีถัว เจ้ากับข้าต่างกับอยู่ข้างนอก ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้” ชายหนุ่มท่าทีหยิ่งยโส กล่าวเย้ยหยันออกมา

ที่แท้ชายหนุ่มนี้มีชื่อว่าเหลียงยี่หาน เป็นจวิ้นหวังของแคว้นซีถัว เขาเป็นคนสนิทขององค์รัชทายาทแคว้นซีถัว มีฐานะที่สูงส่งในแคว้นซีถัว

ขณะที่สำนักต้นไม้เหล็กเป็นเพียงสำนักขนาดเล็กเท่านั้นเอง แค่จวิ้นหวังคนหนึ่งของแคว้นซีถัวก็สามารถกดดันสำนักต้นไม้เหล็กพวกเขาจนหายใจไม่ออกอยู่แล้ว

สือโส่วเองไม่กล้าพูดอะไรมากกับการเยาะเย้ยถากถางของเหลียงยี่หาน ลำพังแค่เหลียงยี่หานตรงหน้าก็คือระดับราชาสัจธรรม ทักษะยุทธสูงกว่าเขาอยู่ไม่น้อย และมีเพียงยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสำนักต้นไม้เหล็ก หรือก็คือเจ้าสำนักเถี่ยซู่องที่สามารถเทียบกับเขาได้

ขณะที่ยอดฝีมือเช่นเหลียงยี่หานในแคว้นซีถัวมีอยู่จำนวนไม่น้อย ดังนั้น หากแคว้นซีถัวต้องการทำลายล้างสำนักต้นไม้เหล็กเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากเสียอีก

“ได้ยินมาว่าระยะนี้เจ้าสำนักพวกเจ้าธุระยุ่งเหยิงจนไม่มีสิ้นสุด เดินสายเชื่อมสัมพันธ์ไปทั่ว” เหลียงยี่หานทำหน้าเย็นชา กล่าวน่าครั่นคร้ามออกมา

สื่อโส่วถึงกับเย็นวาบในใจเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ เข้าใจได้ว่าฝ่ายตรงข้ามมาด้วยเรื่องนี้ ดูท่าแคว้นซีถัวคงเฝ้าจับตาไปทั่วแคว้น ขอเพียงมีความเคลื่อนไหวแม้เพียงเล็กน้อยก็ยากจะรอดพ้นสายตาของพวกเขาไปได้

“จวิ้นหวังกล่าวหนักไปแล้ว” สือโส่วรีบเร่งกล่าวตอบว่า “ศิษย์พี่เพียงไปพบกับสหายเก่าเท่านั้น ศิษย์พี่มีอายุมากแล้ว ดังนั้น เขาจึงไปพบกับสหายต่างๆ ด้วยเขาเกรงว่าอาจจะมีชีวิตได้ไม่นานนัก จะไม่ทันได้ร่ำลากัน”

เถี่ยซู่องเชื่อมสัมพันธ์กับคนที่อยู่เบื้องบน หวังอาศัยสิ่งนี้เชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลราชันฉีหลิน ซึ่งเป็นสิ่งที่แคว้นซีถัวไม่ต้องการเห็นมากที่สุด ภายใต้เขตอิทธิพลของตนไหนเลยจะปล่อยให้ผู้อื่นมายึดครองได้อย่างใด! ดังนั้น แคว้นซีถัวจึงมีทีท่าจะทำการสยบสำนักต้นไม้เหล็กเอาไว้ เพียงแต่แคว้นซีถัวยังไม่มั่นใจว่าสำนักต้นไม้เหล็กในเวลานี้ได้เชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลราชันฉีหลินได้แล้วหรือไม่อย่างไร ดังนั้น แคว้นซีถัวจึงไม่กล้าลงมือโดยง่ายดาย

ด้วยเหตุนี้เอง พวกของเหลียงยี่หานจึงได้มาปรากฏตัวขึ้นที่เมืองฉีหลิน จุดประสงค์ของพวกเขาก็เพื่อต้องการสืบเรื่องนี้ให้กระจ่าง

กล่าวสำหรับเถี่ยซู่อง และหรือสำนักต้นไม้เหล็กแล้ว พวกเขากระหายให้มีโอกาสทะลุทะลวงฝ่าออกไป มิฉะนั้นแล้ว สำนักต้นไม้เหล็กของพวกเขามีโอกาสถูกแคว้นซีถัวทำลายล้างได้ทุกเวลา อีกทั้งการทำลายล้างสำนักต้นไม้เหล็กอาจเป็นไปอย่างเงียบเชียบ กระทั่งไม่มีใครกล่าวขวัญถึง ด้วยเหตุนี้เอง เถี่ยซู่องจึงรีบเร่งที่จะเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลราชันฉีหลินให้ได้!

“อย่างนั้นรึ?” แววตาของเหลียงยี่หานส่งประกายเยือกเย็นออกมา กล่าวน่าเกรงขามว่า “เขามีอายุมากแล้วจริงๆ และคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแล้วจริงๆ กลับไปเตือนเขาว่า ให้ตระเตรียมงานศพให้ดี เดี๋ยวลูกหลานจะไม่มีโอกาสแสดงความกตัญญูได้เต็มที่!” ครั้นกล่าวมาถึงตรงนี้ แววตาเผยปณิธานการฆ่าให้เห็น

สีหน้าของสือโส่วแปรเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของเหลียงยี่หาน เสิ่นเสี่ยวซันและเฮ่อเฉินก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเช่นกัน นี่เป็นการข่มขู่ซึ่งหน้าที่โจ่งแจ้ง กระทั่งเรียกได้ว่ามันคือความจริงแล้ว เพียงรอให้สบโอกาส เกรงว่าแคว้นซีถัวจะต้องลงมือสังหารเถี่ยซู่องเป็นแน่แท้!

“เหอะ เหอะ เหอะ จวิ้นหวังพูดเล่น พูดเล่นแล้ว” สือโส่วรีบข้ามหัวข้อสนทนานี้ไป ไม่ต้องการพูดถึงมันอีก กวักมือต่อเสิ่นเสี่ยวซันและเฮ่อเฉิน และกล่าวว่า “พวกเจ้าสองคนรีบมาคารวะต่อจวิ้นหวัง”

เสิ่นเสี่ยวซันและเฮ่อเฉินแม้จะไม่เต็มใจอย่างยิ่งแต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เข้าไปแสดงความคารวะ

เหลียงยี่หานไม่มองหน้าเฮ่อเฉินเลยสักนิด จ้องมองแต่เสิ่นเสี่ยวซัน และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ตาเฒ่าสือ สำนักต้นไม้เหล็กพวกเจ้าไม่รู้จักกาลเทศะเอาเสียเลย หรือว่าเรื่องเช่นนี้ก็ต้องรอให้องค์รัชทายาทออกปากอย่างนั้นรึ? แม่นางเสิ่นพวกเจ้าสมควรส่งตัวไปยังองค์รัชทายาทนานแล้ว! เอาเถอะ งั้นข้าจะออกปากแทนองค์รัชทายาทก็แล้วกัน…”

“…บังเอิญองค์รัชทายาทก็ประทับอยู่ที่เมืองฉีหลินเหมือนกัน ท่านเสด็จออกมาข้างนอกข้างกายปราศจากผู้ที่คอยปรนนิบัติ ให้แม่นางเสิ่นไปปรนนิบัติองค์รัชทายาทก็แล้วกัน ช่วยล้างเท้าและอุ่นเตียงให้กับองค์รัชทายาท หากองค์รัชทายาทโปรดปราน ประทานให้เจ้าได้ปรนนิบัติสักคืนหนึ่ง!” เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้แล้ว เหลียงยี่หานหัวเราะชั่วร้ายออกมา

เมื่อเหลียงยี่หานกล่าวคำนี้ออกมา ทำให้สีหน้าของพวกสือโส่วทั้งสามคนเปลี่ยนไปทันที โดยเฉพาะเสิ่นเสี่ยวซันพลันมีสีหน้าที่แดงก่ำ โกรธเคืองยิ่งนัก

“ฟิวว” ในเวลานี้เอง ปรากฏขวดหยกใบหนึ่งถูกขว้างเข้ามา พุ่งตรงไปยังใบหน้าของเหลียงยี่หาน แต่ว่าเหลียงยี่หานสะบัดแขนเสื้อนิดหนึ่ง “ปัง” ปัดเอาขวดหยกนี้เบี่ยงออกไปกระทบกับพื้นจนแตกละเอียด

“ขวดหยกราคาห้าสิบล้าน!” เฮ่อเฉินถึงกับร้องเสียงแหลมออกมาด้วยความตระหนกจนหน้าถอดสี เมื่อเห็นขวดหยกที่แตกละเอียดบนพื้น พวกเขาหันมองไปยังที่มา ปรากฏว่าคนที่ขว้างขวดหยกใบนี้ก็คือหลี่ชิเย่นั่นเอง

เวลานี้ พวกของสือโส่วต่างยืนเซ่อดั่งไก่ตาแตก ไม่สามารถเรียกสติกลับมา พลันทำให้ขวดหยกราคาห้าสิบล้านแตกละเอียด คราวนี้เป็นการก่อเรื่องใหญ่ขึ้นมาแล้ว

“บังอาจ เจ้าเป็นใคร!” เมื่อเหลียงยี่หานเห็นว่าหลี่ชิเย่เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น พลันมีแววตาที่น่าเกรงขามและเผยปณิธานการฆ่าที่น่ากลัวออกมา หากไม่เป็นเพราะอยู่ที่เมืองฉีหลิน เขาจะไม่พูดคำๆ นี้ออกมา แค่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นเอง จัดการสังหารเสียก็สิ้นเรื่อง!

หลี่ชิเย่ขี้คร้านจะมองหน้าเขาเสียด้วยซ้ำ กล่าวท่าทีเฉยเมยว่า “ก่อนที่ข้าจะโกรธ ไสหัวออกไปจากสายตาของข้า มิฉะนั้นล่ะก็ ข้าจะเหยียบหัวของเจ้าให้เละ!”

“เจ้าคนที่ไม่รู้จักคำว่าตาย” เมื่อถูกมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งว่ากล่าวเช่นนี้ พลันทำให้เหลียงยี่หานไม่สามารถทนต่อไปได้ ชั่วดีอย่างไรเขาก็คือจวิ้นหวังของแคว้นซีถัว แม้แต่บุคคลอย่างสือโส่วเมื่อเห็นเขาแล้วยังต้องแสดงท่าทีเคารพนอบน้อมยิ่ง เวลานี้แค่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งถึงกับกล้าทำบังอาจต่อหน้าเขา

“ไปจัดการหักขาสองข้างของมันเสีย แล้วลากตัวมาให้ข้า ข้าจะเหยียบหัวมันให้เละในคราเดียว!” เหลียงยี่หานพลันเปี่ยมล้นด้วยปณิธานการฆ่าขึ้นมา สั่งการกับศิษย์ที่อยู่ข้างกาย

“เจ้าเดรัจฉานน้อย เป็นเจ้าที่รนหาที่ตายเอง กล้าลบหลู่จวิ้นหวังพวกเรา!” เวลานี้ศิษย์จำนวนหลายคนดั่งผีห่าซาตานเข้าไปหา ถกแขนเสื้อขึ้นหมายจัดการสั่งสอนหลี่ชิเย่ให้พิการ

“ระวัง” ในเวลานี้ พวกของเสิ่นเสี่ยวซันได้สติคืนกลับมาแล้วถึงกับตระหนกจนหน้าถอดสี หลี่ชิเย่เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นเอง ต่อให้มีความรู้ที่เหนือผู้อื่นก็ยังคงเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งอยู่ดี เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้บำเพ็ญตนก็ปราศจากซึ่งเรี่ยวแรงถูกสยบได้ทันทีอยู่แล้ว

หลี่ชิเย่ขี้คร้านจะมองดูพวกเขาด้วยซ้ำ ยื่นมือขวาออกไป ได้ยินเสียงดัง “แว้งค์” แผ่นทองแดงที่เดิมวางอยู่ในตู้ถึงกับบินออกมาและสวมเข้ากับข้อมือของหลี่ชิเย่ในทันที

“ตึง ตึง ตึง” ได้ยินเสียงดังขึ้น พริบตาเดียวปรากฏถุงมือทองแดงสวมอยู่กับมือขวาของหลี่ชิเย่ ถุงมือทองแดงนี้ส่งประกายทองแดงวูบวาบ ท่ามกลางประกายทองแดงเหมือนมีตรีสหัสโลกธาตุที่ลอยล่องอยู่ภายใน มีอานุภาพสูงสุดที่สร้างความหวดหวั่นจนต้องสั่นเทาให้กับผู้คน เหมือนว่าภายใต้อานุภาพเช่นนี้กระทั่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังคงต้องหมอบกราบ!

“ปัง” หลี่ชิเย่ที่มือขวาสวมถุงมือทองแดงกวาดออกไปตามอารมณ์โดยไม่ต้องมอง พลันจัดการศิษย์จำนวนหลายคนนั่นจนกระอักเป็นเลือดออกมา และกระเด็นกระดอนไปตามแรง

หลี่ชิเย่มองดูเหลียงยี่หานทีหนึ่งและกล่าวท่าทีเฉยเมยว่า “ข้าจะให้เจ้ามีโอกาสลงมือ จะได้ไม่หาว่าข้ากระทั่งไม่ให้เจ้ามีโอกาสได้ลงมือ”

เหลียงยี่หานพลันมีใบหน้าที่ซีดเผือด เมื่อเห็นในมือของหลี่ชิเย่สวมใส่ถุงมือทองแดง แต่ทว่าเวลานี้เขาไม่มีทางเลือก “ตึง” เสียงหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับเสียงร้องดังว่า “เจ้าหนู รนหาที่ตายเอง” หนึ่งกระบี่ดั่งผ้าแพรสีขาว ฟาดฟันเข้าหาหลี่ชิเย่

หลี่ชิเย่ขี้คร้านจะมองดูเขาด้วยซ้ำ มือขวาที่สวมใส่ถุงมือทองแดงซัดออกไปตามอารมณ์ “ปัง” กระบี่ถูกทำลาย เหลียงยี่หานถูกซัดจนลงไปกองกับพื้น กระอักเลือดออกมาอย่างแรง

หลี่ชิเย่ไม่พูดพล่ามทำเพลง ก้าวเท้าเข้าไปพร้อมกับหนึ่งหมัดที่ซัดเข้าไปเต็มใบหน้าของเหลียงยี่หาน “คร๊ากก” ได้ยินเสียงกระดูกที่แตกหักดังขึ้น “อ๊ากก” เสียงแหลมและเศร้ารันทดที่ร้องออกมาอย่างน่าเวทนาดังก้องอยู่ภายในร้านเป็นเวลานาน

เวลานี้ ใบหน้าของเหลียงยี่หานถูกซัดจนแหลกเละ หากไม่เป็นเพราะหลี่ชิเย่ไว้ชีวิตเขา ต่อให้เหลียงยี่หานร้อยคนก็ไม่พอ ถุงมือทองแดงนี้มีพลังระดับจอมราชันหรือเซียนหวังอยู่ในครอบครอง อีกทั้งเวลานำเอาพลังเช่นนี้มาใช้จะไม่มีขีดจำกัด ต่อให้ผู้นั้นปราศ่จากพลังหรือเรี่ยวแรงแม้แต่น้อยนิด ก็สามารถสำแดงพลังของจอมราชันหรือเซียนหวังออกมา

แต่ว่า ผู้ที่สามารถใช้ถุงมือทองแดงที่มีชื่อว่าราชันประจัญบานนี้ได้นั้น ต้องเป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะจอมราชันหรือเซียนหวังเท่านั้น แต่ว่า มีข้อยกเว้นเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นก็คืออีกาทมิฬหลี่ชิเย่!

“คร๊ากก” เสียงกระดูกแหลกละเอียดดังขึ้น เวลานี้หลี่ชิเย่ยกเท้าเหยียบลงบนใบหน้าที่แหลกเละของเหลียงยี่หาน กล่าวเฉยเมยว่า “วันนี้ข้าไม่อยากฆ่าคนที่นี่ ดังนั้น จึงไว้ชีวิตสุนัขของเจ้าสักครั้ง กลับไปบอกนายของเจ้า ไม่ว่านายของเจ้าเป็นใคร ออกห่างจากคนข้างกายของข้าให้ไกลสักหน่อย ออกห่างจากผู้หญิงของข้าให้ห่างไกลสักนิด ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ข้าจะฆ่าล้างพวกเจ้าทั้งโคตร!”

เหลียงยี่หานในเวลานี้เป็นเสมือนเนื้อบนเขียงเท่านั้น สุดแล้วแต่หลี่ชิเย่จะเชือดเฉือน หากหลี่ชิเย่ต้องการชีวิตของเขา มันง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากเสียอีก

“จริงสิ เมื่อครู่ทำขวดหยกราคาห้าสิบล้านศิลาขมุกขมัวระดับธรรมมังสัจธรรมไป ให้คิดบัญชีกับเจ้า” หลี่ชิเย่กล่าวท่าทีเฉยเมย จากนั้นสั่งการกับเถ้าแก่ร้านเฒ่าว่า “หนี้ก้อนนี้ให้ทวงคืนจากแคว้นซีถัว ถ้าหากพวกเขาไม่สามารถชดใช้ได้ก็รีดพวกเขาจนแห้ง”

เวลานี้ แม้แต่เถ้าแก่ร้านเฒ่าก็ตะลึงงันอยู่ตรงนั้น ความจริงแล้ว เขาถูกทำให้หวั่นไหวตั้งแต่ราชันประจัญบานไปสวมอยู่บนข้อมือของหลี่ชิเย่ตอนนั้นแล้ว เนื่องจากตระกูลของเขามีตำนานหนึ่งเท่านั้น เป็นตำนานที่ไม่มีวันสิ้นสลายตลอดกาล เป็นตำนานที่เสมือนดั่งเทพนิยาย!

“ไสหัวไป” หลี่ชิเย่ขี้คร้านจะไปสนใจมากมาย กล่าวท่าทีเฉยเมยพร้อมยกเท้าถีบจนเหลียงยี่หานกระเด็นออกไป

เหลียงยี่หานในเวลานี้ไม่กล้าพูดอะไรแม้แต่คำเดียว รีบวิ่งหนีออกไปจากร้านอย่างรวดเร็วภายใต้การลากถูของเหล่าศิษย์ของเขา

หลี่ชิเย่ยื่นมือออกไปหาเสิ่นเสี่ยวซัน เสิ่นเสี่ยวซันหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาผืนหนึ่งยื่นให้กับเขาอย่างมึนงง

หลี่ชิเย่ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดทำความสะอาดคราบเลือดที่ติดอยู่บนราชันประจัญบานอย่างละเอียด เสมือนดั่งลูบไล้บนตัวของสาวคนรักอย่างนั้น สุดท้าย เขาทอดถอนใจออกมาเบาๆ และกล่าวว่า “จอมราชันหรือเซียนหวังไม่ได้ต้องการของสิ่งนี้อีกแล้ว แต่ คนที่ต้องการกลับไม่สามารถยกมันขึ้นมาได้ จึงได้แต่จัดวางอยู่ตรงนี้ให้คนอื่นได้ชื่นชม อย่างไรก็ตาม คนที่รู้คุณค่าของมันมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น”

เมื่อหลี่ชิเย่พูดขาดคำแล้ว ได้ยินเสียงดัง “ตึง” ราชันประจัญบานได้หลุดออกจากมือของหลี่ชิเย่ จากนั้น ได้กลับกลายเป็นแผ่นทองแดงบินกลับไปยังตู้ใบนั้น และตั้งโชว์อยู่ตรงนั้นเหมือนเดิม เหมือนว่าไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อนอย่างนั้น

อ่านตอนอื่นๆของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล คลิกเลย

แฟนเพจ