ตอนที่ 1770 รัชทายาทเทียนหวงหาเรื่องอีกแล้ว
ท่ามกลางวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชั้นขาวบริสุทธิ์กองนี้ หลี่ชิเย่ดูแล้วดูอีก เลือกแล้วเลือกอีก เลือกไปเลือกมาก็ไม่ได้วัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนที่เหมาะสมสักที
“ว้าว นี่มันมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนนั้นที่ได้หน้าไปเต็มที่ก่อนหน้าไม่ใช่รึ?” ขณะที่หลี่ชิเย่กำลังเลือกโน่นหยิบนี่อยู่นั้น ปรากฏเสียงเยาะเย้ยดังขึ้น
ในเวลานี้ รัชทายาทเทียนหวงควงหญิงงามเดินเข้ามา เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ที่กำลังคัดเลือกอยู่ตรงนั้น จึงหัวเราะเยาะทีหนึ่ง แล้วเยาะเย้ยหลี่ชิเย่ต่อหน้าผู้คนมากมาย กล่าวว่า “ทำไมรึ กระเป๋าฉีกแล้วสิ ถึงกับต้องมาเลือกหาวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชั้นขาวบริสุทธิ์ตรงนี้แล้ว ถ้าหากในกระเป๋าไม่มีเงินแล้วจริงๆ บอกข้าสักคำก็ได้นะ คนอย่างข้าชมชอบบริจาคทานเสมอ สำหรับมนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่ชอบเพ้อฝันข้ายินดีบริจาคให้บ้างหละนะ”
อันที่จริง รัชทายาทเทียนหวงในฐานะที่เป็นผู้สืบทอดของสายสำนักราชันเซียน มีสถานะที่สูงส่ง มนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาอยู่แล้ว ในสายตาของเขามองมนุษย์ปุถุชนธรรมดาเป็นเพียงมดปลวกตัวหนึ่งเท่านั้น ถ้าหากเขาเห็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งแล้วรู้สึกไม่สบอารมณ์ สามารถสังหารเขาได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว
เดิมทีขณะอยู่ที่ร้านตระกูลฉีนั้น รัชทายาทเทียนหวงต้องการซื้อถ้วยหยกใบนั้นเพื่อมอบให้กับพี่สาวของตน กลับถูกเจ้ามนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่อยู่ตรงหน้าแย่งเอาไป เขาที่อยู่ในฐานะรัชทายาทกลับถูกมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งแย่งชิงเอาของวิเศษไป ไหนเลยจะกล้ำกลืนความอัปยศนี้เอาไว้ได้
ยิ่งไปกว่านั้น เจ้ามนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่อยู่ตรงหน้าไม่เพียงแย่งชิงเอาของวิเศษไปเท่านั้น ยังทำให้เขาต้องได้รับความอับอาย ทำให้เขาเสื่อมเสียเกียรติจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน หากเขาไม่ระบายความแค้นนี้ ก็จะไม่ขออยู่เป็นคน หากไม่เป็นเพราะที่ตรงนี้เป็นเขตอิทธิพลของตระกูลราชันฉีหลินไม่สะดวกที่จะฆ่าคนได้ตามอำเภอใจล่ะก็ เขาคงจัดการถลกหนังเลาะกระดูกมนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่อยู่ตรงหน้านานแล้ว!
“รัชทายาทเทียนหวง” บรรดาผู้ที่กำลังเลือกหาวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชั้นขาวบริสุทธิ์ที่กองอยู่ข้างหน้าต่างทยอยกันหลบเลี่ยงไปเมื่อมองเห็นรัชทายาทเทียนหวง ผู้คนจำนวนมากต่างมองหน้าเขาทีหนึ่งด้วยความเคารพยำเกรง
ผู้บำเพ็ญตนที่มีชาติกำเนิดจากสำนักขนาดเล็กเปี่ยมด้วยความเคารพยำเกรงต่อรัชทายาทเทียนหวงยิ่งนัก แม้แต่ยอดฝีมือสำนักเจ้าลัทธิทั่วไปก็ให้ความเคารพยำเกรงต่อรัชทายาทเทียนหวงเช่นกัน
ตัวของรัชทายาทเทียนหวงเองก็มีศักดิ์ที่สูงส่งอยู่แล้ว แคว้นหงส์ฟ้าก็เป็นสายสำนักเซียนหวัง ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกน่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นก็คือพี่เขยของเขา พี่เขยของเขาคือจินเก๋อ เป็นคนของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง
ตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังคือสำนักที่ชื่อว่าหนึ่งสำนักห้าราชัน ยิ่งไปกว่านั้น ตัวของจินเก๋อเองยังเกือบจะได้เป็นจอมราชันอีกด้วย
ด้วยสาเหตุนี้เอง แม้แต่สายสำนักเซียนหวังจำนวนมากที่อยู่ในระดับเดียวกันก็ต้องให้เกียรติแก่รัชทายาทเทียนหวงอยู่สามส่วน เมื่อแคว้นหงส์ฟ้าเกี่ยวดองสมรสกับตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง จึงเป็นเรื่องที่สร้างความหวั่นเกรงให้กับผู้คนจำนวนมาก
ผู้บำเพ็ญตนที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุต่างรู้สึกแปลกใจ มนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ไปมีความแค้นกับรัชทายาทเทียนหวงได้อย่างไรกันแน่ และผู้คนจำนวนม่น้อยที่รู้สึกว่ามนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่อยู่ตรงหน้าช่างเป็นคนที่โง่เขลาไม่กลัวอะไรเลย แม้แต่แคว้นเจ้าลัทธิยังไม่กล้าไปตอแยกับรัชทายาทเทียนหวง แต่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนที่อยู่ตรงหน้ากลับหาญกล้าไปมีความแค้ยเคืองกับรัชทายาทเทียนหวง นับว่ากินดีหมีใจเสือมาแท้ๆ
หลี่ชิเย่ขี้คร้านจะไปสนใจต่อคำเยาะเย้ยของรัชทายาทเทียนหวง ยังคงเลือกหาวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชั้นขาวบริสุทธิ์ต่อไป หลังจากเลือกไปได้อีกครู่ใหญ่ ในที่สุดก็สามารถเลือกวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชั้นขาวบริสุทธิ์ได้ชิ้นหนึ่ง
“ชิ้นนี้ก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่ยิ้มและเอ่ยขึ้นพร้อมทำท่าชั่งน้ำหนักวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชั้นขาวบริสุทธิ์ที่อยู่ในมือ
ขนาดของวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชั้นขาวบริสุทธิ์ที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่สั้นยาว และหนาราวท่อนแขนของผู้ใหญ่ ดูไปแล้วคล้ายดั่งเป็นกิ่งไม้แห้งที่ถูกตัดมาจากต้นไม้แห้งต้นหนึ่ง
“ท่านมีสายตาที่ดีมาก” เมื่อพนักงานเห็นหลี่ชิเย่เลือกวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชั้นขาวบริสุทธิ์ชิ้นนี้จึงได้ยิ้มกล่าวว่า “แม้ว่าวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชั้นขาวบริสุทธิ์ชิ้นนี้จะถูกผู้ชำนาญการศิลาของพวกเราจัดให้เป็นวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชั้นขาวบริสุทธิ์ แต่ประวัติความเป็นมาของมันก็ไม่ธรรมดา พบเห็นได้ยากยิ่ง…”
“…วัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นนี้ได้ขึ้นเป็นกาฝากอยู่กับกิ่งไม้แก่ของต้นยวี่หลาน เมื่อต้นยวี่หลานแห้งตายและถูกฝังลึกลงไปในชั้นใต้ดิน เกิดการหลอมรวมเข้าด้วยกันของฟ้าดิน ก่อเกิดเป็นตัวอ่อน ไม่แน่นักท่านอาจจะเลือกได้ชิ้นที่หลุดรอดจากสายตา มีโอกาสที่วัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นนี้จะเป็นตัวอ่อนชั้นศาสตราอินทนิลหลังจากผ่าออกมาแล้ว
พนักงานผู้นี้ไม่เพียงให้ความอบอุ่นต่อหลี่ชิเย่เป็นอย่างยิ่ง ยังมีความรู้ในสินค้าที่อยู่ภายในร้านของตน บอกเล่าเจื้อยแจ้วต่อหลี่ชิเย่เสมือนดั่งเป็นสมบัติภายในบ้านของตน
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมย การมาร่อนหาสมบัติวิเศษของเขาที่นี่เป็นเพียงรู้สึกสนุกขึ้นมาเท่านั้น ถ้าหากเขาต้องการจะได้สมบัติวิเศษที่ล้ำค่าจริง มันมีวิธีตั้งมากมาย
“แหะ เจ้าอย่างได้ฝันกลางวันไปเลย ผู้ชำนาญการศิลาของร้านศิลาล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือระดับสุดยอดทั้งนั้น เมื่อผ่านการยืนยันจากพวกเขาว่าเป็นระดับขาวบริสุทธิ์ย่อมต้องเป็นระดับขาวบริสุทธิ์อยู่แล้วแน่นอน! อาศัยสายตาของมนุษย์ปุถุชนธรรมดาเช่นเจ้าก็คิดจะมาร่อนหาสมบัติกับเขา ไม่อยากจะคิด” รัชทายาทเทียนหวงกล่าวพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง
จะช้าหรือเร็วเขาก็ต้องสังหารเจ้ามนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่ไม่ให้ความเคารพต่อตนอยู่แล้ว ก่อนที่จะสังหารเจ้ามนุษย์ปุถุชนธรรมดา เขาจะต้องทรมานและสร้างความอับอายให้กับมนุษย์ปุถุชนธรรมดาผู้นี้เสียก่อน ให้ผู้คนในโลกหล้าได้รู้ว่า การล่วงเกินต่อรัชทายาทเทียนหวงเช่นเขาจะมีจุดจบอย่างไร!
หลี่ชิเย่ขี้คร้านจะไปสนใจต่อรัชทายาทเทียนหวง จณะที่พนักงานก็ไม่กล้าล่วงเกินต่อรัชทายาทเทียนหวง กล่าวกับหลี่ชิเย่ว่า “ท่านจะนำติดตัวไป หรือว่าให้มีการผ่าที่นี่หละ?”
“ให้ผ่าออกที่นี่ก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวออกมาตามอารมณ์
เมื่อรัชทายาทเทียนหวงถูกมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน ทำให้รัชทายาทเทียนหวงรู้สึกสุดจะทนได้ รู้สึกแสบร้อนที่ใบหน้า สีหน้าของเขาพลันดูน่าเกรงขาม ดวงตาทั้งสองบ่งบอกถึงปณิธานการฆ่าที่น่ากลัวออกมา เขาถึงกับกัดฟันกรอด เมื่อออกจากเมืองประจิมเขาจะต้องสังหารมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนนี้กับมือให้ได้ ทั้งยังจะเล่เนื้อออกมาทีละชิ้นๆ เป็นๆ เขาจะให้ทุกคนได้รับรู้ว่า ใครก็ตามหากมีปัญหากับเขา เขาก็จะให้คนๆ นั้นตายเสียยิ่งกว่าอยู่เสียอีก!
พนักงานได้นำหลี่ชิเย่มาถึงบริเวณด้านหน้าของโต๊ะที่ใช้สำหรับผ่า ความจริงแล้วมันไม่ได้เป็นเพียงโต๊ะสำหรับผ่าเท่านั้น มันยังเป็นโต๊ะสำหรับการพนันขนาดใหญ่อีกด้วย กล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญตนที่มาร่อนหาสมบัติที่นี่แล้ว ไม่มีที่ใดที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าอีกแล้ว การผ่าเฉือนเอาวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนออกมาทีละชั้นๆ ขณะที่ผ่าเอาตัวอ่อนออกมานั้น ทำให้หลายคนรู้สึกตื่นเต้น
ดังนั้น ผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยจึงพร้อมที่จะมีการพนันขันต่อกันขึ้นมาก่อนที่จะเริ่มต้นการผ่า อาจจะพนักกับผู้บำเพ็ญตนคนอื่นๆ หรือบางทีพนักกับร้านศิลา ส่วนเดิมพันนั้นขึ้นอยู่กับกำลังของแต่ละฝ่าย
โดยทั่วไปแล้ว ก่อนที่จะมีการผ่าจะต้องจ่ายชำระค่าวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นดังกล่าวให้เรียบร้อยก่อน ดังนั้น พนักงานจึงจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่และกล่าวว่า “ท่านจะจ่ายชำระเวลานี้เลยหรือว่าจ่ายขณะจะออกไปจากที่นี่หละ?”
ถ้าหากเป็นการจ่ายชำระก่อนที่จะออกจากร้านศิลา นั่นหมายถึงเป็นการได้รับบริการระดับแขกผู้มีเกียรติแล้ว ร้านศิลาได้รับการส่งข่าวจากเถ้าแก่เฒ่าของร้านตระกูลฉี ดังนั้น พนักงานของร้านศิลาจึงได้ให้การต้อนรับหลี่ชิเย่อย่างอบอุ่นเช่นนี้ พวกเขาให้การต้อนรับโดยมองว่าหลี่ชิเย่เป็นระดับแขกผู้มีเกียรติ
“ข้าไม่มีศิลาขมุกขมัวอยู่ในมือเสียด้วยสิ” หลี่ชิเย่ยิ้มท่าทีเฉยเมยและเอ่ยขึ้น
คำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องชำเลืองตามอง ด้านหน้าบริเวณโต๊ะสำหรับผ่าวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนมีผู้บำเพ็ญตน และยอดฝีมืออยู่เป็นจำนวนมากอยู่แล้ว เวลานี้ มนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มีเงินแต่ก็กล้าที่จะมาซื้อหาวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อน นับว่าเป็นเรื่องที่ประหลาดมาก
“คุณชาย ข้า ข้ามีศิลาขมุกขมัวอยู่บ้าง” เวลานี้เสิ่นเสี่ยวซันได้แก้ปัญหาให้กับหลี่ชิเย่ รีบเร่งยื่นถุงจักรวาลให้กับหลี่ชิเย่ใบหนึ่ง
เสิ่นเสี่ยวซันนั้นพอจะมีเงินออมอยู่บ้าง ดังนั้นเมื่อหลี่ชิเย่ต้องการใช้เงิน นางจึงไม่ลังเลที่จะหยิบยื่นเงินออมทั้งหมดที่นางมีอยู่ให้กับหลี่ชิเย่
ภาพนี้ได้สร้างความแปลกใจให้กับผู้คนจำนวนมาก ไม่ว่าจะด้านรูปโฉม หรือด้านสติปัญญา เสิ่นเสี่ยวซันก็นับว่าไม่เลวนัก ผู้บำเพ็ญตนลักษณะเช่นนี้กลับเป็นผู้ติดตามให้กับมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง เป็นเรื่องที่ผู้คนคิดไม่ตกจริงๆ
“คงไม่ใช่ลูกนอกสมรสของผู้ยิ่งใหญ่สักคนกระมัง” ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนบางคนอดที่จะคาดเดาไปทางนี้ไม่ได้
“ต้องใช้เงินเท่าไร?” หลี่ชิเย่คาดการถึงเงินในถุงจักรวาลที่อยู่ในมือ เมื่อเปิดออกดู ข้างในมีศิลาขมุกขมัวบรรจุอยู่ไม่น้อยทีเดียว เงินจำนวนนี้สำหรับเสิ่นเสี่ยวซันแล้วนับว่าไม่น้อยเลยทีเดียว มันเป็นเงินออมที่นางสะสมมาหลายปี และตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นนางเสียดายที่จะนำออกมาใช้ ตั้งใจว่าจะสั่งสมเอาไว้ซื้อหาอาวุธที่ดีๆ สักเล่มหนึ่ง มาคราวนี้เมื่อหลี่ชิเย่ต้องการใช้เงิน นางกลับไม่ลังเลที่มอบให้กับหลี่ชิเย่ทั้งหมด
“ขอเรียนท่าน วัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นนี้ทางร้านได้ประเมินราคาเอาไว้ที่ศิลาขมุกขมัวระดับทูตาสัจธรรมสิบห้าเม็ด” พนักงานรีบกล่าวตอบหลี่ชิเย่
คำพูดของพนักงานร้านทำให้เฮ่อเฉินถึงกับร้องกล่าวออกมาด้วยความตื่นตระหนกว่า “ขนาดขาวบริสุทธิ์ยังแพงขนาดนี้หรือเนี่ย” โดยทั่วไปแล้ว ราคาของวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชั้นขาวบริสุทธิ์ที่ซื้อขายกันตามร้านค้าทั่วไป จะซื้อขายกันที่ศิลาขมุกขมัวระดับนักพรตตั้งแต่สิบเม็ดถึงหลายร้อยเม็ดเท่านั้น
เวลานี้ วัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชั้นขาวบริสุทธิ์ของร้านศิลาถึงกับเป็นศิลาขมุกขมัวระดับทูตาสัจธรรม ราคานี้สูงกว่าร้านค้าข้างนอกเป็นร้อยเท่า
“เห่ะ เมื่อจนก็ไม่ต้องเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ ร้านศิลาเป็นสถานที่ที่คนจรจัดอย่างพวกเจ้ามาอย่างนั้นรึ?” จังหวะที่เฮ่อเฉินร้องออกมาด้วยความตกใจ รัชทายาทเทียนหวงได้กล่าวเยาะเย้ยขึ้นมา
คำพูดของรัชทายาทเทียนหวงทำให้ใบหน้าของเฮ่อเฉินแดงก่ำ เขารีบก้มหน้าลงไม่กล้าตอบโต้ คนอย่างรัชทายาทเทียนหวงหาใช่คนที่เขาจะไปตอแยได้อยู่แล้ว
แม้ว่าเดิมทีหลี่ชิเย่ขี้คร้านจะไปสนใจมดปลวกอย่างรัชทายาทเทียนหวง แต่หากว่าใครรังแกคนข้างกายของเขาเขายอมไม่ได้ แม้ว่าเฮ่อเฉินไม่นับว่าเป็นผู้ติดตามของเขา แต่เวลานี้เขาติดตนอยู่ ใครมารังแกเขาหลี่ชิเย่ก็จะไม่ไว้หน้าคนๆ นั้น
“เจ้านับเป็นตัวอะไร แค่สวะเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่ขี้คร้านจะไปมองดูรัชทายาทเทียนหวงสักครั้ง กล่าวด้วยท่าทีเบื่อหน่ายออกมา
พลันที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา ทำให้ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ตระหนกจนหน้าถอดสี ผู้คนจำนวนมากต่างเคยได้รับรึ้งความเป็นผู้ที่หยาบคายใช้อำนาจบาตรใหญ่ของเขา โดยเฉพาะหลังจากที่แคว้นหงส์ฟ้าของพวกเขาได้เชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังแล้ว ยิ่งยโสโอหังและพาลไม่มีเหตุผลยิ่งนัก
แม้ว่าผู้คนจำนวนมากจะไม่พอใจต่อรัชทายาทเทียนหวง แต่ไม่มีใครกล้าที่จะล่วงเกินเขา และไม่อาจล่วงเกินเขาได้
เวลานี้ ท่ามกลางสายตาของผู้คนจำนวนมาก มนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งกลับหาญกล้าชี้หน้าด่ารัชทายาทเทียนหวงว่าเป็นพวกสวะ เท่ากับเป็นการตบเข้าไปที่ใบหน้าของรัชทายาทเทียนหวงฉาดใหญ่ มนุษย์ปุถุชนธรรมดาผู้นี้นับว่ายโสจนสุดที่จะเปรียบเปรยได้
“เจ้าเดรัจฉานน้อย ข้าจะเชือดเจ้าเสีย” ใบหน้าของรัชทายาทเทียนหวงพลันดูไม่จืดถึงขีดสุด ทำท่าจะวิ่งเข้าไปสังหารหลี่ชิเย่
“รัชทายาทโปรดระงับโทสะ สถานที่แห่งนี้หาใช่สถานที่ที่สำหรับหลั่งเลือด” พนักงานร้านหลายคนที่อยู่ใกล้เคียงรีบเร่งเข้ามาห้ามทัพ พวกเขาเป็นผู้ทำการค้า ไม่ต้องการให้มีการฆ่าฟันกันที่ตรงนี้
หญิงงามที่อยู่ข้างกายรัชทายาทเทียนหวงก็รีบรั้งตัวเขาเอาไว้เช่นกัน และกล่าวว่า “แค่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ฝ่าบาทใยต้องไปพิโรธ”
ร้านศิลาแห่งนี้เปิดดำเนินการโดยตระกูลราชันฉีหลิน เพื่อมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งแล้วฝ่าฝืนกฎของตระกูลราชันฉีหลินนับว่าไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย
แม้ว่าตัวรัชทายาทเทียนหวงนับว่ายโสอย่างยิ่ง แต่ว่า ก็ไม่กล้าแสดงตนเป็นศัตรูกับตระกูลราชันฉีหลินโดยตรง หลังจากถูกห้ามปรามแล้ว เขาจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ กล่าวน่าครั่นคร้ามออกมาว่า “เจ้ามนุษย์ปุถุชน ในเมื่อเจ้ากล้าเป็นศัตรูกับข้า เช่นนั้นแล้วพวกเราตัดสินกันบนโต๊ะพนัน วันนี้ข้าต้องการแขนทั้งสองข้างของเจ้า!”
ในเวลานี้ผู้คนจำนวนมากต้องทยอยกันมองไปที่หลี่ชิเย่ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ฆ่าคนไม่ได้ แต่หากว่ามีบุญคุณความแค้นหรือขัดแย้งกันล่ะก็ วิธีแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุดก็คือพบกันบนโต๊ะพนันโดยตรง คู่กรณีจะเดิมพันด้วยสิ่งใดก็ได้ กระทั่งสามารถเดิมพันด้วยชีวิต!