Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1779 แพ้อย่างยับเยิน

เรื่อง ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1779 แพ้อย่างยับเยิน

ตอนที่ 1779 แพ้อย่างยับเยิน
ชุดศาสตราวุธเต๋า เป็นอาวุธที่ผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากปรารถนาจะได้ครอบครอง ไม่รู้ว่ามีผู้บำเพ็ญตนจำนวนเท่าไรที่กระหายอยากให้ตนเองนั้นสามารถครอบครองชุดศาสตราวุธเต๋าที่สมบูรณ์ชิ้นหนึ่ง โดยปรกติทั่วไปยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนธรรมดาคนหนึ่งไม่สามารถครอบครองชุดศาสตราวุธเต๋าที่สมบูรณ์ได้ เนื่องจากราคาของมันสูงมากเหลือเกิน

ชุดตัวอ่อนแบบเป็นชุดหมายถึง ชุดตัวอ่อนที่ได้มาจากการตัดเฉือนออกมาจากวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นเดียวกัน อีกทั้ง ชุดตัวอ่อนดังกล่าวยังจะต้องเป็นชั้นคุณภาพเดียวกัน เป็นต้นว่า มีการตัดเฉือนตัวอ่อนออกมาจากวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นหนึ่ง ปรากฏว่าได้ตัวอ่อนชั้นคุณภาพขาวบริสุทธิ์มาสามชิ้น และตัวอ่อนชั้นคุณภาพเลี่ยมทองมาชิ้นหนึ่ง เมื่อเป็นเช่นนี้ ตัวอ่อนนชั้นคุณภาพเลี่ยมทองจะถูกตัดออก คงเหลือตัวอ่อนชั้นคุณภาพขาวบริสุทธิ์สามชิ้น และถูกจัดให้เป็นชุดตัวอ่อนชั้นคุณภาพขาวสะอาดชุดหนึ่ง

ถ้าหากในวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนหนึ่งชิ้น เมื่อผ่าออกมาแล้วได้ตัวอ่อนเป็นชั้นคุณภาพศาสตราอินทนิลจำนวนห้าชิ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ ตัวอ่อนที่เป็นชั้นคุณภาพศาสตราอินทนิลห้าชิ้นนี้ก็จะถูกจัดเป็นชุดตัวอ่อนชั้นคุณภาพศาสตราอินทนิลชุดหนึ่ง!

ชุดตัวอ่อนแบบเป็นชุด คือชุดศาสตราวุธเต๋าที่สมบูรณ์ชุดหนึ่ง ดังนั้น จึงถูกขนานนามว่าชุดตัวอ่อนแบบเป็นชุด อีกทั้งหากเป็นชุดที่สมบูรณ์จะต้องมีบทคัมภีร์อยู่ในนั้นบทหนึ่ง

เมื่อเป็นชุดที่สมบูรณ์และมีบทคัมภีร์อยู่ในนั้น เป็นการบ่งบอกว่าขณะที่ฟ้าดินหลอมรวมกันได้ก่อเกิดเป็นบทคัมภีร์ของฟ้าดินหมื่นกฎเกณฑ์เอาไว้ ซึ่งจะทรงพลังมากกว่าประเภทที่คงไว้ซึ่งหลักกฎเกณฑ์ไม่รู้เท่าไร

ชุดสามชิ้น เป็นการบ่งชี้ว่าจะต้องมีการตัดเฉือนวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นหนึ่งแล้วได้ตัวอ่อนที่อยู่ในชั้นคุณภาพเดียวกันทั้งสามชิ้นจึงรวมเป็นชุดได้ มิฉะนั้นแล้วก็ไม่สามารถนับเป็นชุด

เวลานี้ จากการที่หลี่ชิเย่เป่าลมไปทีหนึ่ง เสมือนดั่งเล่นมายากล บรรดาตัวอ่อนที่ถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบบนโต๊ะขณะนี้พลันปรากฎเป็นหลักกฎเกณฑ์แต่ละข้อขึ้นมา จากนั้น หลักกฎเกณฑ์แต่ละข้อได้ถักทอเข้าด้วยกันกลายเป็นบทคัมภีร์ที่สมบูรณ์ไร้ที่ติบทหนึ่ง ภายในบทคัมภีร์นี้ปรากฎเป็นชุดเกราะและกระบี่แบบเข้าชุดลอยขึ้นมา

“ชุดเสื้อเกราะกระบี่นะเนี่ย” เมื่อเห็นบทคัมภีร์เช่นนี้ มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนกล่าวว่า “ถือเป็นชุดที่พบเห็นได้ค่อนข้างบ่อย”

“แม้ว่าจะพบเห็นบ่อย แต่อย่าลืมสิ ต่อให้เป็นระดับขาวบริสุทธิ์ ในวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนหนึ่งหมื่นชิ้นจึงมีโอกาสปรากฏตัวอ่อนที่เป็นชุดได้ชุดเดียว อีกทั้งล้วนแล้วแต่เป็นประเภทตัวอ่อนสามชิ้นชุดทั้งสิ้น” ผู้ชำนาญการศิลาที่มีประสบการณ์ผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นมา

ชั้นคุณภาพของตัวอ่อนยิ่งสูงมากเท่าไร โอกาสที่จะปรากฏเป็นชุดก็จะลดลงมากขึ้นเท่านั้น แบบเป็นชุดที่มีชั้นคุณภาพสูงสุดนับแต่โบราณกาลเป็นต้นมาก็พบเพียงไม่กี่ชุดเท่านั้นเอง

“ชุดตัวอ่อนชั้นคุณภาพขาวบริสุทธิ์จำนวนหกร้อยสามสิบเก้าชิ้น” แม้แต่ผู้ชำนาญการศิลาของร้านศิลายังรู้สึกสะเทือนหวั่นไหวยิ่งนัก พึมพำออกมาว่า “ในชิงโจวไม่เคยปรากฎชุดตัวอ่อนชั้นคุณภาพขาวบริสุทธิ์จำนวนมากมายเช่นนี้มานานมากแล้ว!”

อานุภาพของตัวอ่อนเป็นชุดนั้นทรงพลังมาก ตัวอ่อนชั้นคุณภาพขาวบริสุทธิ์เพียงหนึ่งเดียวย่อมเทียบไม่ได้กับตัวอ่อนชั้นคุณภาพอื่นๆ สองชิ้นก็เทียบไม่ได้ สามชิ้นก็ยังไม่ได้…

เมื่อตัวอ่อนชั้นคุณภาพขาวบริสุทธิ์เป็นชุดมีจำนวนมากถึงระดับหนึ่ง ทุกอย่างก็จะกลับกลายเป็นไม่เหมือนเดิมอีก ด้วยจำนวนตัวอ่อนที่มากมายจะก่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านคุณภาพขึ้นมา

ในด้านที่เกี่ยวกับตัวอ่อน ผู้ชำนาญการศิลาจำนวนมากต่างเห็นพ้องต้องกันว่า หากพูดถึงชุดขาวบริสุทธิ์ ขั้นสูงสุดของชุดขาวบริสุทธิ์คือตัวอ่อนจำนวนหกร้อยชิ้น

แต่หากว่าชุดขาวบริสุทธิ์ทะลุขึ้นไปมากกว่าหกร้อยชิ้น มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านของคุณภาพ เนื่องจากจำนวนตัวอ่อนยิ่งมากเท่าไร บทคัมภีร์ของชุดตัวอ่อนก็จะทรงพลังมากยิ่งขึ้น มันจะมีกลิ่นอายขมุกขมัว และพลังของโลกยุคดึกดำบรรพ์ก่อนที่ฟ้าดินจะแยกออกเป็นสองส่วนที่น่ากลัวยิ่งกว่าอยู่ในครอบครอง!

ถ้าหากศาสตราวุธเต๋าแบบเป็นชุดที่มีตัวอ่อนประเภทเป็นชุดและจำนวนตัวอ่อนมากกว่าหกร้อยชิ้นขึ้นไป ย่อมสามารถบดขยี้ศาสตราวุธเต๋าทุกชั้นคุณภาพที่อยู่ในระดับเดียวกันได้ทั้งหมด

เป็นต้นว่า ต่างก็อยู่ในระดับปรัชญาสัจธรรมเหมือนกัน ศาสตราวุธเต๋าแบบเป็นชุดที่มีตัวอ่อนมากกว่าหกร้อยชิ้น มันย่อมมีความได้เปรียบสามารถทำลายศาสตราสวุธเต๋าที่อยู่ในระดับเดียวกันได้ทั้งหมด ต่อให้เป็นชั้นคุณภาพสวรรค์ตราตั้งและเป็นศาสตราวุธประเภทตัวอ่อนที่มีพลังมาแต่กำเนิด ผลที่ออกมายังคงเช่นเดิม!

ถ้าหากจำนวนตัวอ่อนของประเภทชุดชั้นคุณภาพขาวบริสุทธิ์ที่มีจำนวนมากกว่าหนึ่งพันชิ้นขึ้นไป สามารถข้ามระดับไปต่อกรกับศาสตราวุธเต๋าระดับที่สูงกว่าได้! แน่นอน เว้นแต่ที่เป็นชุดตัวอ่อนด้วยกัน!

เมื่อจำนวนตัวอ่อนที่เป็นชุดมีจำนวนทลุไปถึงระดับหนึ่งแล้ว มันจะแสดงความได้เปรียบออกมาทันที โดยความได้เปรียบลักษณะเช่นนี้หาใช่ศาสตราวุธเต๋าที่มาจากตัวอ่อนเพียงหนึ่งเดียวสามารถเทียบเคียงได้

ด้วยเหตุนี้เอง ตลอดเวลาที่ผ่านมาจึงมีผู้คนจำนวนมากต้องการตัวอ่อนประเภทที่เป็นชุด ต่อให้เป็นชั้นคุณภาพขาวบริสิทธิ์ก็ตาม ถ้าหากจำนวนตัวอ่อนมีจำนวนมากเพียงพอล่ะก็ ต้องสามารถขายได้ราคาที่สูงอย่างแน่นอน

ราคาขายของชุดตัวอ่อนชั้นคุณภาพขาวบริสุทธิ์ชุดนี้ อย่างน้อยอยู่ที่ศิลาขมุกขมัวระดับปรัชญาสัจธรรม” ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมาช้าๆ

“ตามความเห็นส่วนตัวของข้าคาดว่า ชุดตัวอ่อนขาวบริสุทธิ์ชุดนี้นำออกประมูลขาย ราคาเริ่มต้นอย่างน้อยต้องอยู่ที่ศิลาขมุกขมัวระดับปรัชญาสัจธรรมหนึ่งแสนเม็ด ชุดตัวอ่อนที่ประกอบด้วยตัวอ่อนหกร้อยสามสิบเก้าชิ้นพบเห็นได้ไม่บ่อย ถ้าหากผู้ยิ่งใหญ่ที่มีกำลังความสามารถนำไปบ่มฟักอย่างจริงจัง อาศัยเวลาที่มากพอไปสรรค์สร้างมัน รอให้มันปรับระดับขึ้นไป ย่อมสามารถทำลายศาสตราวุธเต๋าที่อยู่ในระดับเดียวกันได้ทั้งหมด!” ผู้ชำนาญการศิลาผู้หนึ่งได้ทำการประเมินตัวอ่อนประเภทเป็นชุดชั้นคุณภาพขาวบริสุทธิ์ชุดนี้ของหลี่ชิเย่

เวลานี้ หลี่ชิเย่มองดูรัชทายาทเทียนหวงอย่างช้าๆ และกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าตัวอ่อนประเภทเป็นชุดของข้าชุดนี้มีค่ามากกว่า หรือว่าตัวอ่อนที่มีพลังมาแต่กำเนิดของเจ้ามีค่ามากกว่า?”

ในขณะนี้ สีหน้าของรัชทายาทเทียนหวงดูไม่จืดถึงที่สุด อ้าปากค้าง และยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น

“ฝีมือความเป็นผู้ชำนาญการศิลาหาใช่รุ่นพวกเราสามารถเทียบเคียงได้อีกแล้ว เกมนี้ท่านชนะแล้ว” หลี่ล่างซวนเวลานี้ไม่อาจปฏิเสธความพ่ายแพ้ได้

การที่จะผ่าให้ได้ตัวอ่อนที่เป็นชุดจากวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนเพียงชิ้นเดียวใช่เป็นเรื่องง่ายดาย ต่อให้จัดการผ่าวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าของร้านศิลาก็ไม่แน่ว่าจะได้ตัวอ่อนที่เป็นชุดได้

เวลานี้ หลี่ชิเย่เพียงแค่เลือกเอาวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนมาเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น ก็สามารถผ่าได้เป็นตัวอ่อนที่เป็นชุดเช่นนี้ นี่ไม่ใช่เป็นการเสี่ยงดวงอะไรง่ายปานนั้นแล้ว เป็นการบ่งบอกว่าขณะที่หลี่ชิเย่เลือกเอาวัตถุให้กำเนิดตัวอ่อนชิ้นนี้มาก็รู้อยู่แล้วว่าสามารถผ่าออกมาเป็นชุดตัวอ่อนชั้นคุณภาพขาวบริสุทธิ์แล้ว!

ด้วยสายตาและกำลังความสามารถเช่นนี้คืออยู่ในระดับสูงสุดของผู้ชำนาญการศิลาแล้ว แม้แต่ดาวรุ่งผู้ชำนาญการศิลาเช่นหลี่ล่างซวนก็ยอมรับว่าตนนั้นสู้ไม่ได้

วันนี้ที่ดาวรุ่งผู้ชำนาญการศิลาอย่างหลี่ล่างซวนต้องพ่ายแพ้ให้กับผู้ชำนาญการศิลามนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งนั้น กล่าวสำหรับตัวของหลี่ล่างซวนเองแล้วเขาไม่มีอะไรต้องไปโทษอะไร เขาพ่ายแพ้ทั้งกายและใจ

“เจ้าแพ้แล้ว” หลี่ชิเย่มองดูรัชทายาทเทียนหวงทีหนึ่ง แล้วจัดการกวาดเอาศิลาขมุกขมัวและของวิเศษต่างๆ ที่กองอยู่ตรงหน้าดั่งภูเขาย่อมๆ มาเป็นของตนทั้งหมด

“เศษเหล็กเศษขยะมากเกินไป พวกเจ้าเอาไปจำนำซื้อเหล้าดื่มก็แล้วกัน” เวลานี้ หลี่ชิเย่ไม่เพียงคว้าเอาศิลาขมุกขมัวเป็นกำไปตามอารมณ์มอบเป็นรางวัลให้กับพวกเสิ่นเสี่ยวซันทั้งสามคน ขณะเดียวกัน ยังนำเอาของวิเศษแต่ละชิ้นที่รัชทายาทเทียนหวงวางเป็นประกันเอาไว้บนโต๊ะตบรางวัลให้กับพวกของเสิ่นเสี่ยวซันสามคน

พวกของเสิ่นเสี่ยวซันในเวลานี้ต่างตะลึงลาน เมื่อได้สติคืนกลับมาแล้ว พวกเขาต่างรู้สึกตื่นเต้นดีใจยิ่งนัก นาทีนี้พวกเขารู้สึกว่าเหมือนท้องฟ้าได้โปรยปรายเป็นฝนเงิน เงินทองมากมายได้ตกลงไปอยู่ในกระเป๋าของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง

ทำให้ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดต่างรู้สึกอิจฉายิ่ง สามารถพานพบเจ้านายที่เมือเติบเช่นนี้ กล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อย ชั่วชีวิตของพวกเขาไม่เห็นจะสามารถหาเงินได้มากมายถึงเพียงนี้ เวลานี้หลี่ชิเย่กลับทำเหมือนเป็นเศษเหล็กโยนให้กับผู้ติดตามที่อยู่ข้างกาย

แม้ว่าทรัพย์สมบัติของรัชทายาทเทียนหวงจะมีเลวนัก แต่ว่าไม่เข้าตาของหลี่ชิเย่เอาเสียเลย ในสายตาของเขามองสิ่งเหล่านี้มีค่าไม่ต่างอะไรกับเศษเหล็กสักเท่าไร

พวกของเสิ่นเสี่ยวซันสามคนได้รับของรางวัลที่หลี่ชิเย่มอบให้เอาไว้ ในขณะนี้ภายในใจของพวกเขาสะเทือนหวั่นไหวจนไม่สามารถสรรหาสิ่งใดมาเปรียบเปรยได้ มิน่าเล่าก่อนหน้านั้นหลี่ชิเย่จึงได้อวดดียิ่งนัก ความจริงแล้วเขาไม่เคยมองสำนักต้นไม้เหล็กพวกเขาอยู่ในสายตาเลย สำนักขนาดเล็กเช่นสำนักต้นไม้เหล็กเป็นเพียงสำนักที่ตกต่ำยากจนเท่านั้นเอง

เวลานี้ ในใจของพวกเสิ่นเสี่ยวซันต่างรู้สึกละอาย ก่อนหน้านั้น พวกเขามีความรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่ามากเมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่ พวกเขามองว่าหลี่ชิเย่เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น เวลานี้พวกเขาจึงได้รู้ว่าคนที่อวดดีหลงตัวเองที่แท้จริงถือตัวของพวกเขาเอง การที่พวกเขาสามารถพานพบกับหลี่ชิเย่ได้ก็คือวาสนายิ่งใหญ่ สามารถติดตามอยู่ข้างกายเขาคือความกรุณายิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว

จังหวะที่หลี่ชิเย่กำลังตบรางวัลให้กับพวกของเสิ่นเสี่ยวซันอย่างมือเติบอยู่นั้น ทำให้รัชทายาทเทียนหวงที่เสียพนันยืนทื่ออยู่ตรงนั้น สมองของเขาในเวลานี้ว่างเปล่า

ขณะที่เขาพนันด้วยเดิมพันสูงลิบในครั้งนี้ เขาพ่ายแพ้จนเลือดเข้าตา เลือดพนันกำเริบจนไม่คิดถึงผลที่จะเกิดขึ้นอีกแล้ว เขามองเพียงว่าหากลงเล่นอีกครั้งจะต้องเอาชีวิตของเจ้ามนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนนี้ได้เป็นแน่แท้ เขาต้องสามารถทรมานมนุษย์ปุถุชนธรรมดาผู้นี้อย่างสาสมต่อหน้าธารกำนัลได้แน่นอน ทำให้เขาได้ระบายความอัดอั้นตันใจได้ และให้ทุกคนได้รับรู้ว่า การเป็นศัตรูกับเขาจะมีจุดจบเช่นใด

เวลานี้ เกมนี้กลับทำให้เขาพ่ายแพ้อย่างยับเยิน แม้แต่ดาวรุ่งผู้ชำนาญการศิลาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา เป็นการพ่ายแพ้อย่างยับเยินอีกครั้ง!

เกมนี้ รัชทายาทเทียนหวงได้วางเดิมพันทรัพย์สินเงินทองทุกอย่างจนหมดตัว กระทั่งยังหยิบยืมเงินจากร้านศิลาถึงห้าล้าน เวลานี้เขาไม่เพียงเป็นไอ้คนจนคนหนึ่งเท่านั้น ซ้ำยังแบกภาระหนี้สินก้อนโตเอาไว้อีกด้วย

แม้ว่าแคว้นหงส์ฟ้าของพวกเขายังคงรับภาระกับหนี้ก้อนนี้ได้ แต่ว่า หากล่วงรู้ถึงหูบิดาของเขา ให้บรรดาผู้อาวุโสราชสำนักรู้เรื่องนี้เข้า เกรงว่าไม่เพียงถูกบิดาของเขาลงโทษจนขาหักสองข้างเท่านั้น อาจจะส่งผลให้สิทธิการเป็นผู้สืบทอดต้องถูกลิดรอนไปด้วย

เมื่อรัชทายาทเทียนหวงนึกถึงเรื่องเหล่านี้แล้ว พลันมีใบหน้าที่แดงคล้ำสลับสับเปลี่ยนกันไป ทั้งหวาดกลัว ทั้งโกรธแค้น

“ทำไมรึ แพ้จนกลัวแล้วหรือ?” ในขณะที่รัชทายาทเทียนหวงยืนเซ่ออยู่ตรงนั้น หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวท่าทีเฉยเมยว่า “ก็เข้าในล่ะนะจะต้องหวาดกลัวเมื่อแพ้จนไม่เหลืออะไรเลย นี่ เอาไปเถอะ เหลือค่าเดินทางไว้ให้เจ้าบ้าง เดี๋ยวจะกลับไปไม่ถึงแคว้นหงส์ฟ้า”

กล่าวพลางหลี่ชิเย่คว้าศิลาขมุกขมัวกำใหญ่กำหนึ่งโยนไปให้รัชทายาทเทียนหวง

“เจ้าเดรัจฉานน้อย” รัชทายาทเทียนหวงเมื่อได้สติกลับมาจึงร้องเสียงดังขึ้นมา ครั้นนึกถึงเรื่องราวต่างๆ นานา เวลานี้รัชทายาทเทียนหวงพ่ายแพ้ต่อสายตาอย่างแท้จริง เขาชี้ไปที่หลี่ชิเย่และร้องออกมาว่า “นี่ นี่ต้องมีการเล่นตุกติก!”

“เล่นตุกติกอะไร” หลี่ชิเย่ขี้คร้านจะไปมองหน้าเขาด้วยซ้ำ กล่าวด้วยท่าทีเหนื่อยหน่ายว่า “ท่ามกลางสายตามากมาย จะไปตุกติกได้อย่างไร? ต่อให้ข้าหลอกเจ้า หรือว่าหลี่ล่างซวนจะหลอกเจ้ารึ หรือว่าร้านศิลาของตระกูลราชันฉีหลินจะหลอกเจ้าอย่างนั้นรึ? หรือต่อให้พวกเราทั้งหมดล้วนแล้วแต่หลอกเจ้า ท่ามกลางสายตาที่จ้องมองกันเป็นพันคู่ ถ้าหากมีการเล่นตุกติกจะไม่มีใครดูออกเลยรึ?”

เวลานี้ ผู้คนจำนวนมากต่างจ้องมองไปที่รัชทายาทเทียนหวง ทุกคนล้วนแล้วแต่ เข้าใจได้ว่า มาคราวนี้รัชทายาทเทียนหวงแพ้จนเลือดเข้าตาแล้ว แต่ว่าทุกคนย่อมสามารถเข้าใจได้ แพ้พนันรวดเดียวสิบล้านเป็นใครก็ต้องคลั่ง มีไม่กี่คนที่กระทั่งเสียเป็นสิบล้านแล้วแม้แต่หนังตายังไม่กระตุกสักที

สีหน้าของรัชทายาทเทียนหวงดำคล้ำ เมื่อถูกผู้คนมากมายจ้องมอง เวลานี้เขาไม่เพียงพ่ายแพ้จนไม่เหลืออะไรเลย ยังเป็นการพ่ายแพ้ให้กับมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขารู้สึกเสียหน้ามากที่สุด!

“ยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้ก็พูดมาตรงๆ เถอะ” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า “เป็นถึงรัชทายาทแห่งแคว้น แม้แต่สิบล้านยังรับไม่ได้ดูจะเสียราคาเหลือเกิน แพ้ไม่เป็นก็แพ้ไม่เป็น แคว้นหงส์ฟ้าเจ้าเป็นแค่แคว้นเล็กๆ ยากจนขนาดนี้ข้าเข้าใจได้อยู่แล้ว แต่ว่า นักพนันก็ต้องมีจรรยาบรรณนักพนัน ยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้ก็อย่าได้ใส่ร้ายผู้อื่น นักพนันที่เป็นนักเลงเช่นนี้ กลับไปนอนกอดแม่ของเจ้าเถอะ”

หลี่ชิเย่จงใจยั่วให้รัชทายาทเทียนหวงโกรธ โดยใช้คำพูดไปกระตุ้นเขา

อ่านตอนอื่นๆของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล คลิกเลย

แฟนเพจ