ตอนที่ 1782 ตรึงสังหาร
การที่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งถึงกับท้าทายแคว้นหงส์ฟ้าเช่นนี้ ไม่เห็นแคว้นหงส์ฟ้าอยู่ในสายตาเช่นนี้ ทำให้ทุกคนต้องมองหน้ากันและกัน มนุษย์ปุถุชนธรรมดาผู้นี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไรกันแน่นะ?
“เจ้า” เดิมทีรัชทายาทเทียนหวงเข้าใจว่าตัวเองสามารถขู่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาผู้นี้ให้กลัวได้ ไม่นึกเลยว่ามนุษย์ปุถุชนธรรมดาผู้นี้ไม่ใส่ใจเอาเสียเลย
“เวลานี้ใช่เวลาที่เจ้าต้องทำตามสัญญาที่เดิมพันเอาไว้ใช่หรือไม่” หลี่ชิเย่กล่าวและขี้คร้านจะไปสนใจในรัชทายาทเทียนหวง
“เจ้า” สีหน้าของรัชทายาทเทียนหวงดูไม่จืดยิ่งนัก เมื่อถูกหลี่ชิเย่บีบจนไม่มีทางที่จะถอยได้อีก อดไม่ได้ที่จะร้องกล่าวเสียงดังออกมาว่า “เจ้ามนุษย์ปุถุชน เจ้าต้องคิดให้ดีนะ พี่เขยของข้าคือราชันสวรรค์ในอนาคต หากพี่เขยข้าเข้าสู่ยุทธภพต้องสยบทั่วหล้าเป็นแน่แท้ หากเจ้ากล้าแตะต้องข้าแม้แต่ปลายเล็บ พี่เขยข้าจะฆ่าล้างเจ้าร้อยชาติพันธุ์!”
พฤติกรรมของรัชทายาทเทียนหวงเป็นที่ดูถูกเหยียดหยามของผู้คน แต่ เมื่อเขายกเอาผู้หนุนหลังของเขาขึ้นมา เมื่อเจาะจงถึงตัวพี่เขยของเขานั้น ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องสะท้านในใจ
จินเก๋อแห่งตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังคือบุรุษผู้สามารถกลายเป็นจอมราชันผู้หนึ่ง ชื่อของเขาเมื่อถูกเอ่ยถึงในชิงโจว กระทั่งสิบสามทวีปก็สามารถเป็นที่หวาดหวั่นของผู้คนได้ ความจริงแล้วครั้งนั้นจินเก๋อต้องได้เป็นราชันสวรรค์
ครั้งนั้น ขณะที่จินเก๋อได้รับการรับรองสัจธรรมก่อนราชันสวรรคต์เต้าหลงเสียอีก อีกทั้งชื่อเสียงและบารมีของจินเก๋อในครั้งนั้นโดดเด่นมากกว่าราชันสวรรค์เต้าหลงเสียอีก เสียงเรียกร้องให้เขาเป็นราชันสวรรค์สูงมาก
ความจริงแล้ว ในครั้งครานั้นเขาเกือบจะได้เป็นจอมราชันอยู่แล้ว จังหวะที่เขากำลังจะสืบทอดชะตาฟ้าอยู่นั้น ถูกร้อยชาติพันธุ์ซุ่มโจมตี ทำให้เขาพลาดโอกาสที่จะได้สืบทอดชะตาฟ้าไป
แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ก็ตาม หลังจากที่จินเก๋อถูกลอบโจมตีในครั้งนั้นแล้ว ด้วยความโกรธ เขาได้สังหารศัตรูกล้าแข็งระดับบรรพบุรุษไปเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน และสังหารกระทั่งจอมเทพ ภายใต้วงล้อมที่หนาแน่น จินเก๋อสามารถพาตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย
การสืบทอดชะตาฟ้าครั้งแรกของจินเก๋อประสบความล้มเหลว เมื่อกลับไปถึงตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังแล้วกักตนฝึกวิชาอย่างหนักอีกครั้ง เพื่อรอคอยโอกาสในการสืบทอดชะตาฟ้าเป็นครั้งที่สอง
แม้ว่าจินเก๋อจะเป็นผู้ที่สูญเสียการสืบทอดชะตาฟ้า แต่ว่าผู้คนจำนวนมากต่างคิดว่าเขาจะประสบผลสำเร็จได้สืบทอดชะตาฟ้าในครั้งที่สองนี้ แม้ว่าเวลานี้ จินเก๋อไม่สามารถสืบทอดชะตาฟ้าได้ แต่ก็ได้รับการมองว่าเป็นผู้ที่เข้าใกล้เป็นราชันสวรรค์มากที่สุด
เนื่องเพราะความเป็นบุรุษผู้สามารถเป็นราชันสวรรค์ได้ ทำให้ผู้คนจำนวนมากหวั่นเกรงในตัวเขายิ่งนัก และทำให้ฐานะของแคว้นหงส์ฟ้าถูกยกตัวสูงขึ้นไปมากทีเดียว
เวลานี้ รัชทายาทเทียนหวงยกเอาชื่อของจินเก๋อซึ่งเป็นพี่เขยขึ้นมา ทำให้ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างเสียวสันหลังวาบบ ชื่อของจินเก๋อเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเอ่ยถึงง่ายดาย
“ไม่รู้จัก นายแมวนายหมาจากไหนกัน” หลี่ชิเย่ไม่ใส่ใจ กล่าวพร้อมกับโบกมือไปมา
“เจ้าเดรัจฉานน้อย เจ้าตายแน่นอนแล้ว ถึงกับลบหลู่พี่เขยข้าต่อหน้าต่อตา…” ในที่สุด รัชทายาทเทียนหวงก็ฉกฉวยโอกาสเอาไว้ได้ ร้องเสียงดังออกมา หวังอาศัยข้ออ้างนี้ทำให้เป็นเรื่องขึ้นมา
“ลบหลู่ก็ลบหลู่สิ มันนับเป็นตัวอะไร” หลี่ชิเย่กล่าวไปตามอารมณ์ว่า “รีบๆ มอบชีวิตออกมา เจ้าจะปลิดชีพตัวเองหรือให้ข้าลงมือ”
ท่าทีที่ตามอารมณ์เช้นนี้ของหลี่ชิเย่ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องงงงัน ในชิงโจวมีสักกี่คนที่หาญกล้าไม่เห็นจินเก๋ออยู่ในสายตา กระทั่งลบหลู่ต่อหน้าธารกำนัล
“นั่นหน่ะสิ เมื่ออยากจะพนัน เมื่อแพ้ก็ต้องยอมรับ มัวแต่โยกโย้นอกเรื่องทำไม” เวลานี้ ท่ามกลางผู้บำเพ็ญตนที่มุงดูพลันปรากฏเสียงหัวเราะและกล่าวว่า “ข้าเซิ่นเหล่าลิ่ว ชั่วชีวิตดูแคลนที่สุดก็คือประเภทแพ้ไม่เป็น ในเมื่อแพ้แล้ว ก็ควรเป็นสุภาพบุรุษหน่อยสิ…”
“บนโต๊ะพนัน เมื่อแพ้แล้วก็ต้องทำตามสิ่งที่ตัวเองเดิมพันเอาไว้ ถ้าหากแพ้แล้วก็เบี้ยว ทุกคนยังจะมาเล่นพนันที่นี่ทำไม มิสู้กลับบ้านไปอุ้มดูแลลูกดีกว่า ตามความเห็นของข้า แม้แต่โต๊ะพนันของร้านศิลาก็ไม่ต้องเปิดมันแล้วหละ มีคนแพ้แล้วก็ไม่ทำตามสัญญา สถานที่พนันเช่นนี้ยังจะมีความหมายอะไร ต่อไปใครกล้าจะมาเล่นพนันด้วย ทุกคนว่าใช่หรือไม่ใช่?”
เวลานี้ ผู้ที่พูดเหน็บแนมรัชทายาทเทียนหวงไม่ใช่ใครอื่น คือลูกพี่ใหญ่ของพรรคอันธพาลเซิ่นเหล่าลิ่วนั่นเอง
ไม่รู้ว่าเซิ่นเหล่าลิ่วปะปนเข้ามาอยู่ในฝูงชนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เขาเฝ้าสังเกตุความเปลี่ยนแปลงของเรื่องราวมาโดยตลอด
“นั่นสิ” คำพูดปลุกระดมของเซิ่นเหล่าลิ่วเช่นนี้ ทำให้ผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวนทยอยพยักหน้าเห็นด้วย ปรากฏระดับกษัตริย์แห่งแคว้นได้กระซิบเสียงแผ่วเบากล่าวว่า “ถ้าหากเกมพนันเช่นนี้ยังไม่สามารถรับประกันได้ ต่อไปพวกเรากล้ามาพนันศิลาที่นี่อีกรึ เกิดฝ่ายตรงข้ามเบี้ยวหนี้ มิเท่ากับไม่มีการรับประกันใดๆ เลยรึ?
“นั่นสิ ในเมื่อร้านศิลากล้าเปิดโต๊ะพนัน ก็สมควรมีการรับประกันจึงจะถูก” มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่มาใช้บริการพนันศิลาที่ร้านศิลาเป็นประจำก็เอ่ยเสียงแผ่วเบาขึ้นมา
พวกเขาไม่กล้าไปแหย่แคว้นหงส์ฟ้า และไม่กล้าไปแหย่จินเก๋อ แต่สามารถอาศัยโอกาสเช่นนี้กดดันร้านศิลา จะอย่างไรเสียทุกคนมาพนันศิลาที่ร้านศิลาเป็นประจำอยู่แล้ว หากว่าคราวนี้รัชทายาทเทียนหวงเบี้ยวสัญญา นั่นเท่ากับเป็นการเปิดศักราขึ้นมา ต่อไปบนโต๊ะพนันหากมีนักพนันที่แพ้พนันแล้วเบี้ยว และหากไม่มีการรับประกันล่ะก็ ทุกคนมิพนันฟรีโดยไม่ได้อะไรเลยรึ
ในเมื่อร้านศิลากล้าเปิดโต๊ะพนันที่นี่ กล้าให้ทุกคนมาเล่นพนันที่นี่ ก็ต้องให้การรับประกันกับทุกคน
“ฝ่าบาท โปรดไตร่ตรองให้รอบคอบ” เวลานี้ ท่ามกลางการวิพากวิจารณ์ของทุกคน ยอดฝีมือของร้านศิลาถึงกับกล่าวเตือนเสียงทุ้มต่ำต่อรัชทายาทเทียนหวง ต่อให้พวกเขาไม่บีบให้รัชทายาทเทียนหวงต้องจนตรอก แต่พวกเขาก็ไม่อาจปล่อยให้รัชทายาทเทียนหวงไปจากที่นี่ในลักษณะเช่นนี้ ปล่อยให้เขาเบี้ยวสัญญาเช่นนี้
จะอย่างไรเสีย ร้านศิลาของพวกเขามีชื่อเสียงยอดเยี่ยม และการพนันศิลาก็เป็นแหล่งสร้างรายได้ที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขา ถ้าหากเวลานี้พวกเขาไม่อาจรับประกันให้กับนักพนันได้ จากนี้ไปคงไม่ต้องทำการค้าแล้วหละ ต่อไปใครจะกล้ามาพนันศิลาที่ร้านศิลาของพวกเขาอีก
เมื่อรัชทายาทเทียนหวงถูกบีบคั้นโดยยอดฝีมือของร้านศิลา ทำให้สีหน้าของเขาสลับแดงและคล้ำทั้งโกรธและอับอายอย่างยิ่ง แต่ว่าเขาไม่สามารถทำเหมือนเช่นที่ข่มขู่หลี่ชิเย่มาใช้กับร้านศิลาได้ เพราะเบื้องหลังของร้านศิลาก็คือตระกูลราชันฉีหลิน ซึ่งไม่เกรงกลัวต่อคำขู่ของเขาอยู่แล้ว
“ตกลง ข้ายินดีรับความพ่ายแพ้ ชีวิตข้าอยู่ตรงนี้ เจ้ามีปัญญาก็มาเอาไป จะฆ่าจะแกงสุดแล้วแต่เจ้า” รัชทายาทเทียนหวงที่มีสีหน้าสลับกันไปมาระหว่างแดงและคล้ำตัดสินใจขั้นเด็ดขาด กล่าวน่าเกรงขามออกมา
เวลานี้ ดูจากท่าทีเขาก็รู้แล้วว่าทางร้านศิลาจะไม่ยอมปล่อยให้เขาจากไปง่ายๆ แน่นอน ดังนั้น จึงถือโอกาสทุ่มออกไปสุดๆ
“แวงค์” ในเวลานี้พลังลมปราณของรัชทายาทเทียนหวงพวยพุ่งออกมา กลิ่นอายขมุกขมัวได้ห่อหุ้มร่างทั้งร่างของเขาเอาไว้ พลังของโลกในยุคดึกดำบรรพ์ได้สยบสถานการณ์เอาไว้ ใครก็ตามหากเข้าใกล้ตัวเขาก็ต้องถูกสยบโดยพลังของโลกในยุคดึกดำบรรพ์
“ชีวิตของข้าอยู่ตรงนี้แล้ว มาเอาไปสิ หากว่าเจ้าเอาไปไม่ได้ ได้แต่โทษเจ้าเองที่ฝีมือไม่ดีพอ ไร้ความสามารถ!” เวลานี้ ท่าทีของรัชทายาทเทียนหวงคือไม่ต้องการหน้าตาโดยสิ้นเชิงแล้ว ต้องการเบี้ยวสัญญาท่าเดียว
การกระทำเช่นนี้ของรัชทายาทเทียนหวงทำให้ทุกคนต้องมองหน้ากันและกัน แม้ว่าทุกคนต่างมองว่าการกระทำเช่นนี้ของรัชทายาทเทียนหวงน่ารังเกียจยิ่งนัก แต่คำพูดของเขาก็มีเหตุผลในระดับหนึ่ง เวลานี้เขายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว เขาวางชีวิตของเขาอยู่ตรงนั้น หากหลี่ชิเย่ต้องการเอาชีวิตเขาก็ต้องขึ้นไปเอาเอง
เวลานี้ ทุกคนต่างจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ รัชทายาทเทียนหวงมีความแข็งแกร่งยิ่งนัก หลี่ชิเย่ในฐานะมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งไม่สามารถสั่นคลอนเขาได้อยู่แล้ว สำหรับพวกของเสิ่นเสี่ยวซันที่เป็นผู้ติดตามด้านหลังนั้นก็เป็นเพียงผู้บำเพ็ญตนธรรมดาเท่านั้น ไม่สามารถสั่นคลอนต่อรัชทายาทเทียนหวงที่เป็นยอดฝีมือได้อยู่แล้ว
“แหะ แหะ แหะ ข้าได้ทำตามเดิมพันของข้าแล้ว แต่เจ้าไม่มีความสามารถมาเอาเอง โทษข้าไม่ได้นะ” เวลานี้ รัชทายาทเทียนหวงกล่าวพร้อมกับหัวเราะชั่วร้ายและน่าครั่นคร้ามขึ้นมา
คำพูดเช่นนี้ของรัชทายาทเทียนหวงทำให้ผู้คนจำนวนมากถึงกับขยะแขยงในใจ ช่างไร้ยางอายเหลือเกิน แต่ในขณะนี้รัชทายาทเทียนหวงต้องการเอาชีวิตรอด ไม่รักษาหน้าตาฐานะของตนอีกต่อไป ทุกคนก็จนด้วยเกล้า
เสียงดัง “ปัง” ขณะที่รัชทายาทเทียนหวงกำลังลำพองใจอยู่นั้น พลันถูกคนทำให้ล้มลง ร่างกายของเขากระแทกกับพื้นอย่างแรง ถูกคนสยบเอาไว้โดยพลัน
“เจ้า เจ้าทำอะไร!” พลันที่ถูกผู้อื่นทำให้ล้มลงอย่างกะทันหัน รัชทายาทเทียนหวงรู้สึกตกใจพยายามดิ้นรนจะลุกขึ้น แต่พบว่าร่างกายของเขาถูกล็อกเอาไว้ วิชาถูกสยบจนเคลื่อนไหวไม่ได้ สร้างความตระหนกจนวิญญาณแทบออกจากร่าง ในบรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่ตัวเขานับว่าเป็นดาวรุ่งน้อยคนหนึ่ง เวลานี้พลันถูกเขาสยบโดยทันที ย่อมประเมินได้ว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นมีความแข็งแกร่งเพียงใดแล้ว
“ชั่วชีวิตของข้าเกลียดคนไร้สัจจะที่สุด” คนที่ทำให้รัชทายาทเทียนหวงต้องล้มลงบนโต๊ะพนันก็คือเซิ่นเหล่าลิ่วนั่นเอง เขานั่งทับอยู่บนตัวของรัชทายาทเทียนหวงและกล่าวยิ้มแต้ออกมา
“เจ้า เจ้า เจ้าเป็นใคร ข้าคือรัชทายาทเทียนหวง…” รัชทายาทเทียนหวงตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่าง ร้องเสียงดังและยกเอาฐานะของตนออกมา
“ข้ารู้” เซิ่นเหล่าลิ่วยิ้มแต้ และกล่าวว่า “แต่ ข้าแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน”
“ท่าน ชีวิตสุนัขของเขาอยู่ที่นี่ ท่านขึ้นมาเอาไปตอนนี้เลยก็แล้วกัน” เวลานี้ เซิ่นเหล่าลิ่วที่ทับร่างรัชทายาทเทียนหวงเอาไว้รีบกล่าวต่อหลี่ชิเย่
ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกสะใจ เมื่อเห็นรัชทายาทเทียนหวงถูกเซิ่นเหล่าลิ่วทับเอาไว้ การที่รัชทายาทเทียนหวงยโสเช่นนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกขัดหูขัดตา ยิ่งไปกว่านั้น เขาได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าต้องการเบี้ยวสัญญา เวลานี้มีคนจัดการกับเขา จะไม่ให้ผู้คนรู้สึกสะใจได้อย่างไร
หลี่ชิเย่ดึงเอากระบี่ขึ้นมาเล่มหนึ่งอย่างตามอารมณ์ เดินเข้าไปหาอย่างช้า กล่าวท่าทีเฉยเมยว่า “ถึงเวลาที่ข้าจะเก็บหนี้แล้ว”
“เจ้า เจ้า เจ้าอย่าทำบุ่มบ่ามนะ!” ครั้นรัชทายาทเทียนหวงมองเห็นประกายเยือกเย็นจากกระบี่ยาวอยู่ตรงหน้าของตน ทำเอารัชทายาทเทียนหวงวิญญาณแทบออกจากร่าง พริบตาเดียวกันนี้ เป็นครั้งแรกที่รัชทายาทเทียนหวงรู้สึกว่าความตายอยู่ใกล้ตนเองมากเหลือเกิน ในขณะนี้ไม่ว่าชาติกำเนิดอะไรก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
“เจ้า เจ้า เจ้าเสนอมาเลย ไม่ว่าต้องการอะไรข้าก็ตกลง ต้องการเงินให้เงิน ต้องการของล้ำค่าข้าให้ของล้ำค่า สรุปคือต้องการอะไรก็ได้” เมื่อตกใจสุดขีดหน้าตาและศักดิ์ศรีไม่ต้องคำนึงถึงอีกแล้ว รีบร้องขอให้ละเว้นชีวิตของตน
“ข้าต้องการเพียงชีวิตสุนัขของเจ้า” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมย และกล่าวว่า “เจ้าว่าข้าควรจะเริ่มต้นลงมือจากจุดไหนดีหละ”
กระบี่ยาวที่เยือกเย็นกวักแกว่งไปมาอยู่บนตัวของเขา ทำเอารัชทายาทเทียนหวงตกใจจนปัสสาวะอุจจะระราด ช่วงเวลาระหว่างความเป็นความตายเขาไม่สามารถคำนึงถึงสิ่งใดอีกต่อไปแล้ว ร้องเสียงแข็งแต่ภายในใจอ่อนแอและหวาดกลัว “เจ้า เจ้า เจ้าฆ่าข้าไม่ได้นะ พี่เขยของข้าคือจินเก๋อ พี่สาวของข้ามีสายเลือดที่ยากมีผู้ใดเทียบเทียม เจ้า เจ้าฆ่าข้า ในสิบสามทวีปไม่ ไม่ ไม่มีแผ่นดินให้เจ้าได้…”
“ปุ” รัชทายาทเทียนหวงพูดยังไม่ทันจบคำ เลือดสดๆ พุ่งกระจาย หลี่ชิเย่อาศัยกระบี่เดียวแทงทะลุร่างของเขาในบัดดล ตรึงร่างของเขาเอาไว้บนโต๊ะพนันนั่น
นาทีนี้ ดวงตาคู่นั้นของรัชทายาทเทียนหวงเบิกโพลง เกรงว่ากระทั่งตัวตายเขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะต้องตายด้วยน้ำมือของมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง ทั้งยังไม่สามารถขัดขืนได้ด้วย เกรงว่าถึงตายก็นอนตายตาไม่หลับ
เลือดสดๆ ไหลรินจนโต๊ะพนันแดงฉาน ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างนิ่งเงียบ
เดิมทีด้วยกำลังความสามารถของรัชทายาทเทียนหวง ขอเพียงชะตาแท้ยังคงอยู่ กระบี่นี้ไม่สามารถฆ่าเขาให้ตายได้อยู่แล้ว เสียดาย ชะตาแท้ของเขาถูกเซิ่นเหล่าลิ่วล็อกเอาไว้ จึงทำให้กระบี่เดียวของหลี่ชิเย่พลันปลิดชีพของเขาได้ทันที