Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1797 ฆ่าคนแบบไร้รูป

เรื่อง ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1797 ฆ่าคนแบบไร้รูป

ตอนที่ 1797 ฆ่าคนแบบไร้รูป
รัชทายาทซีถัวถูกบีบคอ และถูกยกตัวลอยขึ้นสูงมาก เสมือนเป็นลูกไก่ตัวหนึ่งเท่านั้น พร้อมที่จะถูกบีบจนตายได้ทุกเวลา

ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่ตกใจและรู้สึกเหนือความคาดคิด เมื่อเห็นรัชทายาทซีถัวถูกผู้อื่นบีบคอเอาไว้ แม้ว่าหวังเซี่ยวเทียนจะไม่ถือเป็นดาวรุ่งในบรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่ แต่ก็นับว่ามีความโดดเด่น ในกลุ่มของผู้บำเพ็ญตนก็นับเป็นผู้ที่มีกำลังความสามารถคนหนึ่ง เวลานี้กลับถูกบีบคอเอาไว้ได้อย่างง่ายดายจนกระดิกตัวไม่ได้ พร้อมจะถูกบีบคอจนตายได้ทุกเวลา แล้วจะไม่ให้ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์รู้สึกตื่นตระหนกตกใจได้อย่างไรเล่า

ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองไปที่หลี่ชิเย่ แต่ผู้บำเพ็ญตนที่มีประสบการณ์โชกโชนล้วนแล้วแต่มองออกในแวบเดียวว่า หลี่ชิเย่เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่เพิ่งจะฝึกบำเพ็ญเพียรได้ไม่นานเท่านั้นเอง อีกทั้งทักษะอ่อนด้อยยิ่งนัก แค่บุคคลที่ไม่มีความสำคัญในระดับตะนอยสัจธรรมเท่านั้น พลังอายขมุกขมัวที่เขามีอยู่ในครอบครองก็แค่หนึ่งถึงสองพันลิตรเท่านั้น ไม่เข้าตาทุกๆ คนที่อยู่ในเหตุการณ์เอาเสียเลย

“ไม่ทราบว่าผู้มีทักษะยุทธสูงส่งผู้ใดอยู่ที่นี่?” นายน้อยหนานหยางหลี่เทียนเหาพลันมีประกายตาที่น่ากลัว จ้องมองไปรอบๆ ต้องการสืบค้นว่ามีใครที่คอยบีบคอหวังเซี่ยวเทียนลับๆ เอาไว้หรือไม่

เมื่อหลี่เทียนเหาเอ่ยถามเสียงทุ้มต่ำออกมาเช่นนี้ ทำให้บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองตาม แต่ก็ไม่เห็นมีใครลงมือ ซึ่งสร้างความอึดอัดให้กับยอดฝีมือจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในเหตุการณ์ หรือบางทีอาจมียอดฝีมือที่สุดยอดมากแอบอยู่ในเงามืดก็เป็นได้

แต่มันก็ดูจะไม่สมเหตุสมผล หากผู้มีทักษะสูงเยี่ยมถึงระดับหนึ่งจริงๆ แล้ว หากต้องการสังหารผู้ที่อ่อนกว่าล่ะก็ เขาไม่จำเป็นต้องแอบอยู่ในที่มืดเพื่อลอบสังหาร เผยตัวตนออกมาสังหารโดยตรงก็ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องหดหัวหดหางเช่นนี้

“ผู้มีทักษะสูงส่งอยู่นี่เอง” ในเวลานี้หลี่ชิเย่จึงได้ละสายตากลับมาอย่างเชื่องช้า และกล่าวด้วยท่าทีเฉยเมย

เสียง “ปัง” ดังขึ้น จังหวะที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำนั้นเอง ร่างของรัชทายาทซีถัวถูกจับทุ่มลงกับพื้นอย่างแรง ในขณะนี้เหมือนว่ามีฝ่ามือขนาดยักษ์ข้างหนึ่งจัดการกดรัชทายาทซีถัวหวังเซี่ยวเทียนเอาไว้อยู่กับพื้น

“เจ้า” หลี่เทียนเหาไม่ค่อยอยากจะเชื่อนัก ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็ตาม หลี่ชิเย่ก็คือมนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่เพิ่งจะเริ่มต้นบำเพ็ญเพียร ซึ่งจุดนี้ไม่สามารถหลอกสายตาของเขาได้อย่างเด็ดขาด หลี่ชิเย่ที่มีกลิ่นอายขมุกขมัวเพียงหนึ่งถึงสองพันลิตร พูดแบบไม่น่าฟังก็คือ อย่าว่าแต่เขาเลย แม้แต่รัชทายาทซีถัวแค่เป่าเบาๆ ก็สามารถสังหารเขาได้แล้ว แต่ เวลานี้รัชทายาทซีถัวตกอยู่ในมือของเขากลับประดุจดั่งมดปลวกเท่านั้น

“มาหาเรื่องกับข้าสามครั้งสี่ครั้ง คิดว่าข้าเป็นหุ่นที่ไม่มีอารมณ์จริงๆ อย่างนั้นรึ?” หลี่ชิเย่มองดูรัชทายาทซีถัวที่ถูกสยบอยู่กับพื้นด้วยสายตาเย็นชา

ในเวลานี้ หนึ่งระลึกของหลี่ชิเย่บังเกิด พลันทำให้กระดูกทั้งตัวของรัชทายาทซีถัวดังคร๊ากก คร๊ากกขึ้นมา เหมือนมีภูเขาเป็นร้อยลูกที่ทับอยู่บนตัวของเขา ต้องการบดขยี้ตัวเขาจนแหลกละเอียดไปอย่างนั้น

ความคิดแวบหนึ่งควบคุมสยบ คือหนึ่งในหกความคิดจากตำราระลึก

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในตำราสวรรค์นพเก้า ตำราระลึกจะแตกต่างจากตำราสวรรค์เล่มอื่นๆ ตำราระลึกจะไม่ขึ้นอยู่กับการฝึก แต่อยู่ที่จิตแห่งการบำเพ็ญเพียร ขอเพียงมีจิตที่แข็งแกร่งเท่าใดความคิดของบุคคลผู้นั้นก็จะทรงพลังมากเท่านั้น เมื่อได้ฝึกตำราระลึกแล้วจะสามารถบังคับควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นต้นว่าเหมือนดั่งอภินิหารลักษณะเช่นนี้ที่บีบคอของรัชทายาทซีถัวเอาไว้อย่างง่ายดายในเวลานี้ ก็คือหนึ่งในหกตวามคิดที่ชื่อว่าอภินิหาร

อย่างไรก็ตาม นี่ยังเป็นเพียงแค่อภินิหารเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ขอเพียงจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของบุคคลผู้นั้นแข็งแกร่งเพียงพอ สามารถอาศัยความคิดแวบเดียวสังหารเทพ สังหารมาร กระทั่งหมื่นแดนกลายเป็นกลางวัน หรือหมื่นแดนกลายเป็นความมืดมิดก็ได้!

เรียกได้ว่า ขอเพียงบุคคลผู้นั้นมีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียร ที่แข็งแกร่งมากพอ เช่นนั้นแล้วทุกสิ่งทุกอย่างในโลกหล้าเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของความคิดของบุคคลผู้นั้นเท่านั้น

ถ้าหากจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรไม่แข็งแกร่งพอ แล้วฝืนอาศัยความคิดของตนไปบังคับควบคุมหล่ะก็ จะทำให้จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรผู้นั้นแตกสลายจนถึงแก่ความตายได้!

หากจะพูดกันถึงจิตแห่งการบำเพ็ญเพียร ในโลกนี้ยังจะมีใครสามารถเทียบเทียมกับหลี่ชิเย่ ได้? ความคิดแวบหนึ่งควบคุมสยบ ดังนั้น ด้วยความคิดเพียงแวบเดียวหากหลี่ชิเย่คิดสังหารรัชทายาทซีถัวก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากเสียอีก

“ท่านเป็นใครกันแน่?” เสิ่นจินหลงขมวดคิ้วทีหนึ่ง และเอ่ยขึ้นมาช้าๆ เมื่อเห็นรัชทายาทซีถัวถูกสยบอยู่กับพื้น

เสิ่นจินหลงยืนอยู่ตรงนั้น กลิ่นอายความเป็นกษัตริย์ยิ่งใหญ่ไพศาล ท่วงท่าแฝงไว้ซึ่งอำนาจที่ข่มเหงผู้คน ในฐานะที่เป็นผู้สืบทอดของสายสำนักราชันเซียน เขาจึงมีท่าทีที่สมกับฐานะความเป็นตัวตนของเขา ยามที่เขาเปล่งเสียงทุ้มต่ำออกมา ให้ความรู้สึกถึงอำนาจที่บีบบังคับของผู้เป็นกษัตริย์ที่อยู่เหนือผู้คน

“หลี่ชิเย่” หลี่ชิเย่ไม่ได้มองหน้าเสิ่นจินหลงมากกว่าครั้ง เพียงจ้องมองไปที่รัชทายาทซีถัวเท่านั้นเอง เวลานี้ในใจของเขาบังเกิดความคิดแวบหนึ่ง พลังพลันเพิ่มขึ้นตามทันที

“คนโหดอันดับหนึ่ง!” หลังจากได้ยินชื่อหลี่ชิเย่แล้ว ท่าทีของเสิ่นจินหลงพลันหนักแน่นจริงจังขึ้น เขาเองก็เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับหลี่ชิเย่สังหารรัชทายาทเทียนหวงที่ร้านศิลามาเหมือนกัน

“คร๊ากก” เสียงกระดูกแตกละเอียดดังขึ้นเป็นระลอก ในเวลานี้ พลันที่ความคิดหลี่ชิเย่แวบขึ้นมา มือยักษ์ที่ไร้รูปพลันบดขยี้กระดูกของรัชทายาทซีถัวจนละเอียด

“นายน้อยหลี่ ช่วยข้าด้วย” นาทีนี้รัชทายาทซีถัวบังเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาโดยแท้จริงแล้ว ความเป็นความตายขึ้นอยู่กับเสี้ยวหนึ่งของความคิดผู้อื่น มันช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวเพียงใด เขาถึงกับร้องเสียงแหลมดังออกมา

เสียงดัง “ปุ” รัชทายาทซีถัวเพิ่งจะส่งเสียงร้องแหลมขอความช่วยเหลือออกไป พลันกลายเป็นหมอกเลือดไปกระทั่งไม่ทันร้องเสียงน่าเวทนาออกมา มือขนาดยักษ์ที่ไร้รูปพลันจัดการบีบรัชทายาทซีถัวจนกลายเป็นหมอกเลือดไป ไม่เหลือแม้แต่ซาก

เรียกได้ว่า สาเหตุการตายของรัชทายาทซีถัวเกิดจากความคิดล้วนๆ ของหลี่ชิเย่ที่บีบจนตาย เป็นที่ทราบว่าอาศัยจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่ปราศจากผู้ต่อกรของหลี่ชิเย่นั้น ต่อให้เข่นฆ่าเทพทำลายมารก็ไม่ใช่เรื่องยาก การบีบรัชทายาทซีถัวให้ตายเป็นเรื่องง่ายดายยิ่งนัก

ฆ่าคนไร้รูป คือหนึ่งในสิ่งที่น่ากลัวที่สุดของตำราระลึก

แน่นอน แม้ว่าตำราระลึกจะมีความน่ากลัวยิ่งนัก แต่มันก็ต้องอาศัยจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่แข็งแกร่งไร้ผู้เปรียบเปรยมาคอยสนับสนุน ถ้าหากจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรไม่แข็งแกร่งพอ มันจะส่งผลให้จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของตนเองต้องระเบิดจนถึงแก่ความตายได้

แม้ว่าต่างก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับจิตเหมือนกัน แต่ว่า ตำราระลึกกับกาน้ำสารพัดนึกกลับแตกต่างกันมาก กาน้ำสารพัดนึกสามารถทำให้คนผู้นั้นแข็งแกร่งขึ้นอย่างไม่มีขีดจำกัด สามารถรวบรวมความคิด ความเชื่อให้คนผู้นั้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ขณะที่ตำราระลึก บุคคลผู้นั้นจะต้องมีความแข็งแกร่งพอ จึงสามารถสำแดงอานุภาพออกมาอย่างไร้ขีดจำกัด เหตุและผลของทั้งสองจะตรงกันข้ามกันพอดี

“เจ้า” แม้หลี่เทียนเหาคิดลงมือเข้าช่วยเหลือก็ไม่ทันการเสียแล้ว รัชทายาทแคว้นซีถัวถูกบีบจนกลายเป็นหมอกเลือดตัวเป็นๆ ทำให้หลี่เทียนเหาได้แต่มองตาปริบๆ เห็นรัชทายาทแคว้นซีถัวตายอนาถไปต่อหน้าต่อตา

ซึ่งสิ่งนี้ทำให้หลี่เทียนเหาต้องเสียหน้า ในเมื่อก่อนตายรัชทายาทส่งเสียงของความช่วยเหลือมายังเขา แต่เขากลับไม่สามารถช่วยชีวิตรัชทายาทแคว้นซีถัวเอาไว้ได้ เท่ากับว่าหลี่ชิเย่กำลังท้าทายอำนาจของเขา!

“เจ้าคนแซ่หลี่ เจ้าอวดดีเกินไปแล้ว ถึงกับจงใจสังหารผู้บริสุทธิ์!” ฉับพลันนั้น กลิ่นอายขมุกขมัวของหลี่เทียนหาวพวยพุ่ง ท่าทีดั่งคลื่นยักษ์ แววตาทั้งสองพลันดูน่ากลัวเผยให้เห็นปณิธานการฆ่าออกมา

เมื่อถูกหลี่ชิเย่ท้าทายอำนาจต่อหน้าผู้คนมากมาย สิ่งนี้กล่าวสำหรับหลี่เทียนเหาแล้วเป็นสิ่งที่ยากจะอดกลั้นเอาไว้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาหน่ะเป็นถึงหลานของจอมเทพเลยนะ ได้รับการคุ้มครองจากจอมเทพ เขารึเคยเกรงกลัวผู้ใดมาก่อน!

“แล้วไง?” ท่าทีของหลี่ชิเย่คืออย่างไรก็ได้โดยสิ้นเชิง เอ่ยขึ้นด้วยท่าทีเบื่อหน่าย

เดิมหลี่เทียนเหามีเพลิงโกรธสุมอยู่เต็มอกอยู่แล้ว เมื่อถูกหลี่ชิเย่ท้าทายเช่นนี้พลันทำให้เพลิงแห่งความโกรธลุกโชน ปณิธานการฆ่าเพิ่มพูนขึ้น ต้องการลงมือต่อหลี่ชิเย่ แต่นาทีนี้กลับถูกเซิ่นจินหลงขัดขวางเอาไว้

เสิ่นจินหลงขวางหลี่เทียนเหาที่กำลังจะอาละวาด ดวงตาทั้งสองของเขาดูลึกล้ำ จ้องมองหลี่ชิเย่ อยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “พี่หลี่สงบสติอารมณ์เอาไว้ก่อน”

เวลานี้ เสิ่นจินหลงจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่กล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “วันนี้นับว่ายากนักที่จะได้จัดงานนี้ขึ้นมา ไม่ว่าใครก็ตามที่มาในงานนี้ทุกคนต่างยินดีต้อนรับ แต่ การเสด็จด้วยตนเองของธิดาราชันเป็นงานใหญ่ หวังว่าทุกท่านสามารถควบคุมอารมณ์ อย่าได้เกิดเหตุไม่พึงประสงค์ขึ้นมา”

ในเวลานี้เสิ่นจินหลงดูจะควบคุมอารมณ์ได้ สิ่งนี้ใช่เป็นเพราะเขามองหลี่ชิเย่ที่อยู่ตรงหน้าไม่ขาดเท่านั้น ขณะเดียวกัน ไม่ง่ายนักกว่าที่จะดำเนินการให้เกิดพิธีการต้อนรับการมาของธิดาราชันฉีหลินขึ้นมาได้ เขาจึงไม่ต้องการให้มันต้องล้มลงตั้งแต่ยังไม่เริ่ม

ที่สำคัญทีสุดก็คือ ต่อให้เวลานี้สามารถสังหารหลี่ชิเย่ที่อยู่ตรงหน้าก็ไม่ได้มีความหมายอะไรมากนัก เป็นเพียงการได้ระบายอารมณ์แค้นส่วนตัวเท่านั้น ไม่แน่นักเจ้ามนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่อยู่ตรงหน้าอาจจะมีประโยชน์มากกว่านี้

ในเมื่อเวลานี้เสิ่นจินหลงได้ประกาศออกมาเช่นนี้ หลี่เทียนเหาก็ไม่อาจไปทำลายชื่อเสียงของเขา จึงได้แต่ส่งเสียงแสดงความไม่พอใจออกมา และทิ้งคำพูดเอาไว้ว่า “เจ้าหนู ระวังตัวให้ดี!”

หลี่ชิเย่ไม่ให้ความสนใจพวกของเสิ่นจินหลง สั่งการกับพวกเสิ่นเสี่ยวซันที่อยู่ข้างกายว่า “ไป ไปจัดการย้ายโต๊ะไปไว้ตรงริมหน้าผา” กล่าวพลาง เขาก้าวเดินไปลำพังยังริมหน้าผาและจ้องมองดูท้องฟ้า

ในเวลานี้ พวกของเถี่ยซู่องศิษย์อาจารย์ทั้งสี่คนต่างมองหน้ากันและกัน พวกเขาจนด้วยเกล้า สุดท้ายได้แต่แข็งใจเคลื่อนย้ายโต๊ะและเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้ามา

บนยอดเขาแห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีการจัดเตรียมเอาสำหรับให้การต้อนรับการมาของธิดาราชันฉีหลินอยู่แล้ว บนยอดเขาแห่งนี้จึงมีโต๊ะเก้าอี้จำนวนไม่น้อยที่ตั้งวางอยู่ แต่ว่า ทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งของๆ เสิ่นจินหลงที่เป็นเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย

เวลานี้ หลี่ชิเย่บังคับให้พวกของเสิ่นเสี่ยวซันเคลื่อนย้ายโต๊ะเก้าอี้ไปชุดหนึ่งไปใช้โดยลำพังคนเดียว ช่างเป็นเรื่องที่พาลเหลือเกิน

กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว การนำเอาโต๊ะเก้าอี้ไปชุดหนี่งไปใช่จะเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร จึงไม่มีใครไปขัดขวางพวกของเสิ่นเสี่ยวซัน หลังจากได้มีการยกเอาโต๊ะเก้าอี้ไปแล้วชุดหนึ่ง เพียงแต่บรรดายอดฝีมือที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกประหลาดตรงที่ว่า มนุษย์ปุถุชนธรรมดาผู้นี้มีความเป็นมาเช่นใดกันแน่ ทำให้ผู้คนจับต้นชนปลายไม่ถูก

ถ้าหากจะบอกว่ามันคือหมาป่าสวมหนังแกะของมนุษย์ปุถุชนผู้นี้รึ ทุกคนต่างรู้สึกว่าไม่เหมือน เขามีทักษะอยู่ในระดับตะนอยสัจธรรมจริงแท้แน่นอน อีกทั้งการเข้าสู่โลกผู้บำเพ็ญตนได้ไม่นานเท่านั้น

แต่ทว่า ด้วยความเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาเช่นนี้แหละ เมื่อครู่กลับบีบรัชทายาทแคว้นซีถัวตัวเป็นๆ ที่เป็นยอดฝีมือกลุ่มคนรุ่นใหม่ตายคามือมาแล้ว

ที่ทำให้เหลือเชื่อมากไปกว่านั้นก็คือ มนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ยังได้สังหารรัชทายาทเทียนหวงไปก่อนหน้าเมื่อไม่นานมานี้ มนุษย์ปุถุชนธรรมดาลักษณะเช่นนี้ออกจะยโสเกินไปแล้วกระมัง

เวลานี้ มีผู้ยิ่งใหญ่บางคนได้คาดเดาในใจ บางทีมนุษย์ปุถุชนผู้นี้อาจจะเป็นลูกนอกสมรสของผู้ยิ่งใหญ่คนใดคนหนึ่งของสำนักเจ้าลัทธิแห่งหนึ่ง เบื้องหลังของเขามีผู้คอยให้ความคุ้มครองอยู่ลับๆ ดังนั้น จึงทำให้เขายโสถึงเพียงนี้ พาลและไร้เหตุผลเช่นนี้

หลายคนที่นึกไปนึกมา รู้สึกว่ามีเพียงการคาดเดาในลักษณะเช่นนี้น่าจะสมเหตุสมผล และน่าเชื่อถือมากที่สุด

หลังจากที่ยกโต๊ะเก้าอี้มาแล้ว หลี่ชิเย่นั่งอยู่ด้านหน้าสั่งการออกไปคำหนึ่ง เสิ่นเสี่ยวซันถือกาน้ำ เฮ่อเฉินก่อเตา เถี่ยซู่องสองศิษย์พี่น้องช่วยกันลงมือต้มชาต่อหน้าผู้คนทั้งหลาย

หลังจากผ่านไปชั่วครู่ มองเห็นไอน้ำชาที่ลอยม้วนตัวขึ้นไป เสิ่นเสี่ยวซันได้ยกเสริฟน้ำชาให้กับหลี่ชิเย่ถ้วยหนึ่ง

หลี่ชิเย่นั่งอยู่ริมหน้าผาเงียบๆ สายตาของเขาจ้องไปที่บนท้องฟ้า ค่อยๆ จิบน้ำชาไป สังเกตดูดวงดาว รางวัดจักรวาล เพื่อคำนวณหาสภาพพื้นที่ของแดนอาถรรพ์เทพกำแหง

บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากต่างอยู่ในเหตุการณ์ หลี่ชิเย่กลับนั่งอยู่หน้าโต๊ะ หมางเมินต่อเหล่าผู้กล้า จิบน้ำชาเพียงลำพัง เหมือนหนึ่งว่าทั่วทั่งยอดเขาชมเทพมีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น ทำให้บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องมองหน้ากันและกัน

ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดไม่เคยเห็นผู้ที่ยโส อวดดีเช่นนี้มาก่อน มนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่อยู่ตรงหน้าช่างไม่เห็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์อยู่ในสายตาเหลือเกิน!

อ่านตอนอื่นๆของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล คลิกเลย

แฟนเพจ