Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1798 ธิดาราชันฉีหลิน

เรื่อง ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1798 ธิดาราชันฉีหลิน

ตอนที่ 1798 ธิดาราชันฉีหลิน
บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกไม่สบอารมณ์นัก เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่นั่งดื่มอยู่ลำพังคนเดียว ในจำนวนนั้นเป็นยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนไม่น้อยที่เป็นระดับเจ้าสำนัก หรือกษัตริย์แห่งแคว้น ปรกติแล้วเวลาที่พวกเขาอยู่ภายในสำนัก หรือแคว้นของตนล้วนแล้วแต่อยู่ในฐานะที่สูงส่งทั้งสิ้น

ถ้าหากไม่เป็นเพราะต้องการรอเข้าเฝ้าธิดาราชันฉีหลินล่ะก็ ทำไมพวกเขาจะต้องลดตัวลงมาเช่นนี้ เป็นไงล่ะตอนนี้ ธิดาราชันฉีหลินยังไม่ทันได้พบ กลับต้องพบกับมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งมาวางมาดต่อหน้าตนเอง ทั้งยังเป็นการวางมาดเกินกว่าที่ควรจะเป็น ไม่เห็นหัวของทุกคนที่อยู่ตรงนี้ แล้วจะให้พวกเขารู้สึกสบายใจได้อย่างไรกันเล่า

สำหรับพวกของเสิ่นเสี่ยวซันที่คอยปรนนิบัติอยู่ข้างกายหลี่ชิเย่ถึงกับตัวสั่นงันงก ปรกติแล้วพวกเขาเป็นเพียงผู้น้อยที่ไม่มีความสำคัญอะไรเท่านั้น ไหนเลยจะเคยพบกับสถานการณ์ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ แล้วเป็นไงล่ะวันนี้ ถึงกับเผยโฉมออกมาอย่างเต็มที่ต่อหน้าบรรดาเจ้าสำนักและกษัตริย์ทั้งหลาย อีกทั้งยังทำเหมือนพวกเจ้าสำนักและกษัตริย์เหล่านั้นไม่มีตัวตนอีกด้วย

สิ่งนี้ส่งผลให้พวกของเสิ่นเสี่ยวซันที่อยู่ข้างกายหลี่ชิเย่ถึงกับเข่าอ่อนทั้งสองข้าง โดยเฉพาะคนหนุ่มอย่างเฮ่อเฉินแล้วเขารู้สึกทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจ

เฉกเช่นพวกเขาที่เป็นเพียงผู้น้อยที่ไม่มีความสำคัญอะไร ไหนเลยจะมีโอกาสแสดงอำนาจต่อหน้าบรรดาเจ้าสำนักและกษัตริย์ทั้งหลายได้ ปรกติแล้ว อย่าว่าแต่แสดงอำนาจต่อหน้าบรรดาเจ้าสำนักและกษัตริย์ทั้งหลายเลย บุคคลตัวน้อยที่ไม่มีความสำคัญเช่นพวกเขาหากพบเจอกับบรรดาเจ้าสำนักและกษัตริย์ทั้งหลายเหล่านี้แล้วมีแต่ก้มโค้งคำนับอย่างเดียว กระทั่งไม่มีสิทธิ์ได้พบเจอหน้าพวกเขาเหล่านี้ด้วยซ้ำ

เป็นไงหละเวลานี้ หลังจากที่พวกเขาติดตามหลี่ชิเย่แล้ว บรรดาเจ้าสำนักและกษัตริย์ทั้งหลายได้แต่ยืนอยู่ข้างๆ แต่โดยดี ทำให้พวกเขาไม่เพียงรู้สึกได้หน้า ยังรู้สึกมีอำนาจขึ้นมาสามส่วน

กล่าวสำหรับคนหนุ่มอย่างเฮ่อเฉิน ความรู้สึกเช่นนี้ สถานการณ์เช่นนี้ มันทั้งตื่นเต้น ทั้งเร้าใจ แต่กล่าวสำหรับเขามันคุ้มค่าแล้วหละ วันหนึ่งหากแก่ตัวแล้วเขาสามารถนำเอาเรื่องนี้มาคุยโม้ต่อหน้าผู้เยาว์ได้ว่า เคยมีครั้งหนึ่ง เขาได้ยืนหมางเมินต่อหน้ากษัตริย์เป็นร้อย สำนักนับหมื่น ช่างเป็นสิ่งที่สามารถนำไปคุยโวได้อย่างน่าภาคภูมิใจในตนเองเช่นใด

จากการที่บรรดาเจ้าสำนักและกษัตริย์ทั้งหลายที่อยู่ในเหตุการณ์ถูกหลี่ชิเย่แย่งความโดดเด่นไปจนสิ้น ถูกมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งลบหลู่ถึงเพียงนี้ ทำให้พวกเขาต่างรู้สึกไม่สบายในใจ

“ฮึ ไม่รู้สินะว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่คนไหนคอยหนุนหลังอยู่!” มีกษัตริย์ที่จ้องเขม็งหลี่ชิเย่ที่นั่งอยู่คนเดียวด้วยท่าทีไม่พอใจอย่างยิ่ง ถึงกับส่งเสียงแสดงความไม่พอใจออกมา

“ไม่ว่าจะมีผู้ยิ่งใหญ่คนไหนหนุนหลังอยู่ก็ตาม ไม่ช้าก็เร็วเจ้าหนูคนนี้ก็ต้องจบสิ้น” มีเจ้าสำนักที่กล่าวเยาะเย้ยออกมาช้าๆ ว่า “การสังหารรัชทายาทเทียนหวงย่อมไม่มีจุดจบที่ดีอยู่แล้ว คอยดูต่อไปก็แล้วกัน”

ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเจ้าสำนักผู้นี้ ตัวแคว้นหงส์ฟ้าเองคือสายสำนักราชันเซียนอยู่แล้ว เวลานี้ ผู้สืบทอดของพวกเขาถูกมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งสังหาร พวกเขาย่อมไม่เลิกราอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น รัชทายาทเทียนหวงยังเป็นน้องของจินเก๋อ ไหนเลยจินเก๋อจะยอมปล่อยให้มนุษย์ปุถุชนธรรมดาผู้นี้ลอยนวล! หาญกล้าเป็นศัตรูกับผู้ชายที่กำลังจะกลายเป็นจอมราชันต้องตายแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย

หลี่เทียนเหาเองก็รู้สึกไม่พอใจอยู่ในใจ เมื่อเห็นท่าทีของหลี่ชิเย่ที่นั่งอยู่ริมหน้าผาลำพังคนเดียว ถึงกับเอ่ยเสียงแผ่วเบากับเสิ่นจินหลงที่อยู่ข้างๆ ว่า “พี่เสิ่นมีความอดกลั้นที่สูงมาก หากเป็นตัวข้าไหนเลยจะยินยอมให้คนถ่อยเช่นนี้ทำกำเริบเสิบสาน! ต่อให้เขามีผู้ยิ่งใหญ่หนุนหลังแล้วไง ข้าหลี่เทียนเหาหาใช่คนที่กลัวมีเรื่อง พี่เสิ่นเองก็ไม่เคยเกรงกลัวต่อผู้ใดอยู่แล้ว!”

คำพูดของหลี่เทียนเหาก็ใช่ว่าจะเป็นการคุยโตโอ้อวด เขาเป็นถึงหลานของจอมเทพเชียวนะ ฐานะของเขาสูงส่งจนกระทั่งกษัตริย์เจ้าสำนักจำนวนมากเมื่อพบกับเขาแล้วยังต้องโค้งคำนับและทักทาย ยิ่งไปกว่านั้น เขามีคุณปู่ที่เป็นจอมเทพคอยให้การคุ้มครอง เคยกลัวใครที่ไหนกัน

ขณะที่เสิ่นจินหลงก็มีฐานะที่สูงส่งเช่นเดียวกัน สำนักเจอเยื่อของพวกเขาแข็งแกร่งมากอยู่ก่อนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เบื้องหลังสำนักเจอเยื่อของพวกเขายังมีตระกูลราชันฉีหลินคอยหนุนหลังอยู่ ลองคิดดู สำนักเจอเยื่อของพวกเขาเคยกลัวใครมาก่อน

“ใยต้องรีบร้อน” เสิ่นจินหลงเพียงยิ้มเฉยเมย และกล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “ต่อให้พี่หลี่สังหารเขาในตอนนี้ แล้วยังไงหล่ะ? มันก็แค่ได้ระบายความแค้นส่วนตัวเท่านั้นเอง ไม่ว่าใครก็ตามย่อมจะมีประโยชน์ที่จะใช้สอยได้ทั้งนั้น ลำพังแค่ฆ่าคนอย่างเดียวไม่เห็นจะเป็นการได้รับประโยชน์ที่ดีที่สุด”

“ความหมายของพี่เสิ่นคือ?”หลี่เทียนเหาถึงกับตะลึงนิดหนึ่ง แรกทีเดียวเขายังเข้าใจว่าเสิ่นจินหลงต้องการเป็นผู้ไกล่เกลี่ยเพื่อให้เหตุการณ์ในครั้งนี้สงบลง เวลานี้ฟังจากคำพูดของเสิ่นจินหลงแล้ว เหมือนว่าจะมีจุดประสงค์อื่น

“ฝ่าบาทกำลังจะเสด็จมาถึง ไหนเลยจะปล่อยให้ผู้เยาว์ทำกำเริบเสิบสานที่นี่ได้ ไม่ว่าเขาจะมีประวัติความเป็นมาอย่างไร ไม่ว่าเขาจะมีอภินิหารเช่นใด แต่เมื่อเทียบกับธิดาราชัน เทียบกับตระกูลราชันฉีหลินแล้วก็ไร้ค่าคู่ควรจะกล่าวถึง! หากว่าใครหน้าไหนกล้าท้าทายต่อตระกูลราชันฉีหลิน ใครกล้าท้าท้ายอำนาจของธิดาราชัน ฆ่าไม่มีละเว้น! หากว่าเมื่อถึงเวลานั้น พี่หลี่สามารถรักษาอำนาจของตระกูลราชันฉีหลิน รักษาอำนาจของธิดาราชันล่ะก็ มันคือผลงานที่ยิ่งใหญ่” เสิ่นจินหลงกล่าวขึ้นช้าๆ

แน่นอน คำพูดดังกล่าวมีเพียงเสิ่นจินหลงและหลี่เทียนเหาพวกเขาสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน

“เรื่องนี้…”แววตาทั้งสองของหลี่เทียนเหาพลันเป็นประกายขึ้นมา เมื่อได้ยินคำพูดของเสิ่นจินหลง

ลองคิดดู ธิดาราชันฉีหลินคือบุตรีของตระกูลราชันฉีหลิน ฐานะสูงส่ง มีความล้ำเลิศที่ยากจะหาผู้ใดเทียม ครั้นเมื่อธิดาราชันฉีหลินมาถึงแล้ว ไหนเลยจะยอมให้ผู้เยาว์คนหนึ่งทำกำเริบเสิบสานได้ หากธิดาราชันฉีหลินมาถึงแล้ว หลี่ชิเย่ยังคงไม่รู้จักคำว่าตายแล้วไปล่วงเกินธิดาราชันฉีหลิน

หากว่าหลี่เทียนเหาสามารถลงมือสังหารหลี่ชิเย่ที่เป็นคนอวดดีเช่นนี้ได้ ไม่เพียงทำให้ธิดาราชันฉีหลินรู้สึกดี ยังสามารถส่งเสริมฐานะของเขาให้สูงขึ้นในดินแดนของฉีหลินได้อีกด้วย

“ผลงานที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ควรจะเป็นของพี่เสิ่น” หลี่เทียนเหารู้สึกสั่นเทาทีหนึ่ง เข้าใจแล้วว่า เพราะเหตุใดเสิ่นจินหลงจึงต้องการละเว้นหลี่ชิเย่เอาไว้ ทีแท้ต้องการอาศัยตัวหลี่ชิเย่มาสร้างผลงาน

“ไม่ ควรจะเป็นของพี่หลี่” เสิ่นจินหลงยิ้มกล่าวว่า “วันข้างหน้าสำนักเจอเยื่อเกี่ยวดองสมรสกับตระกูลราชันฉีหลิน ไหนเลยต้องมาอาศัยผลงานเช่นนี้กันเล่า แต่ว่า หลังจากพี่หลี่สร้างผลงานยิ่งใหญ่นี้แล้ว อย่าลืมเรื่องราวในวันนี้หละ”

หลี่เทียนเหาไม่นึกเลยว่าเสิ่นจินหลงจะใจกว้างขนาดนี้ได้ รีบแสดงคารวะแบบจีนและกล่าวว่า “พี่เสิ่นวางใจเถอะ วันหน้าหากพี่เสิ่นมีอะไรจะให้ตระกูลขุนนางโบราณหนานหยางรับใช้ล่ะก็ ขอให้สั่งการมาได้เลย ขอเพียงเป็นเรื่องที่อยู่ในความสามารถของข้าหลี่เทียนเหา จะไม่ปฏิเสธเลย”

“ได้ยินคำพูดนี้ของพี่หลี่ มันคุ้มค่ากว่าทุกสิ่ง” เสิ่นจินหลงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ขณะที่เสิ่นจินหลงกับหลี่เทียนเหากำลังวางแผนกันลับๆ อยู่นั้น บรรดาเจ้าสำนักกษัตราจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ทยอยกันรู้สึกไม่พอใจในตัวของหลี่ชิเย่ขึ้นมา

สำหรับหลี่ชิเย่นั้น เขาไม่ได้ใส่ใจว่าผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จะคิดอย่างไรอยู่แล้ว สายตาของเขาไปอยู่ที่ท้องฟ้าที่พราวพร่างไปด้วยดวงดาว ทำการค้นหาตำแหน่งพิกัดของดวงดาวที่ตกกระทบกับแดนอาถรรพ์เทพกำแหงครั้งแล้วครั้งเล่า เขาต้องการปักหมุดจุดที่จะปรากฏศพของเทพกำแหงให้ได้

เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของผู้เยาว์ที่ตื่นเต้น ดีใจของผู้เยาว์อย่างเฮ่อเฉินแล้ว เถี่ยซู่องนั้นรู้สึกเป็นกังวลยิ่งนัก จังหวะเดียวกันกับขณะที่เขาปรนนิบัติหลี่ชิเย่อยู่นั้น เขาคอยสังเกตท่าทีของบรรดากษัตราเจ้าสำนักที่อยู่ในเหตุการณ์อยู่ เวลานี้ มีกษัตราเจ้าสำนักที่ไม่พอใจในตัวของหลี่ชิเย่เพิ่มมากขึ้นทุกที เขาชักจะเป็นกังวลว่าหลี่ชิเย่จะเป็นศัตรูกับพวกเขา!

“แว้งค์…” ในขณะที่บรรดากษัตริย์เจ้าสำนักกำลังวิจารณ์กันเบาๆ ด้วยความไม่พอใจเกี่ยวกับท่าทีที่ยโสอวดดีของหลี่ชิเย่อยู่นั้น ทันใดนั้นเกิดการสั่นสะเทือนของช่องว่างขึ้นมาทีหนึ่ง

พริบตาเดียวกันนี้เอง บนท้องฟ้าปรากฏผงทองโปรยปรายลงมาทั่วพร้อมกับเสียงที่ใสไพเราะเสนาะหูดังขึ้น เสมือนหนึ่งมีภูติสีทองได้ลงมายังโลกมนุษย์อย่างนั้น เวลานี้ อานุภาพราชันที่เสมือนดั่งเมฆที่ม้วนและคลายตัวบนฟ้าอย่างนั้น บนท้องฟ้าปรากฎกฎเกณฑ์ของจอมราชันแต่ละสายที่ทิ้งตัวลงมา ด้วยอานุภาพราชันที่ยิ่งใหญ่

อานุภาพราชันยิ่งใหญ่ท่ามกลางฟ้าดิน เสมือนหนึ่งจอมราชันเสด็จออกตรวจตรา ทั่วฟ้าดินพลันเงียบสงบขึ้น ภายใต้อานุภาพราชันเช่นนี้ ทำผู้คนต้องลุกขึ้นแสดงความเคารพอย่างสุดซึ้ง ไม่กล้าทำกำเริบเสิบสานแม้แต่น้อย

“ธิดาราชันมาแล้ว!” ขณะอานุภาพราชันอันยิ่งใหญ่มาถึง บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเหตุกาณ์พลันรู้สึกหวั่นไหวภายในใจ ไม่รู้ว่ามีผู้ใดร้องกล่าวขึ้นมา

ในขณะนี้ปรากฏหญิงสาวผู้หนึ่งก้าวเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านั้นยังเห็นอยู่ไกลลิบ เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ขึ้นมายังยอดเขาชมเทพปรากฎตัวอยู่ด้านหน้าของผู้คนทั้งหมดแล้ว

เพียงแค่เสี้ยววินาทีนั่นเอง ธิดาราชันฉีหลินก็ขึ้นมาถึงยอดเขาชมเทพแล้ว กระทั่งกล่าวได้ว่าไม่มีผู้ใดมองเห็นธิดาราชันฉีหลินที่อยู่บริเวณฟากฟ้าขึ้นมาถึงยอดเขาชมเทพได้อย่างไรกัน ความเร็วของนางนั้นช่างรวดเร็วเหลือเกิน กระทั่งเนตรฟ้ายังตามไม่ทัน

ในขณะนี้ ผู้หญิงคนหนึ่งได้ขึ้นมาอยู่บนยอดเขาชมเทพ ยามที่ผู้หญิงคนนี้ปรากฏตัวนั้นอานุภาพราชันที่ตกลงพื้นทำให้พื้นดินเปล่งประกายเป็นสีทองไปทั่ว คล้ายดั่งมีการปูลาดด้วยพรมของกษัตริย์อย่างนั้น อานุภาพแผ่ไปทุกแห่งหน

ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าสวมใส่ชุดหงส์ สวมหมวกทรงสูง แลดูโบราณแต่งดงามยิ่งนัก ยากจะบรรยายนางได้ด้วยตัวอักษร บนตัวของนางได้แผ่พลังที่สูงส่งยากที่จะหาผู้ใดเทียมออกมา แต่ความสูงส่งของสายเลือดก็ไม่สามารถปิดบังซ่อนเร้นรูปโฉมงดงามสุดยอดในหล้าของนาง นางไม่เพียงแค่มีชาติกำเนิดที่สูงส่งเท่านั้น ความงาม และบุคลิกลักษณะอันมีเสน่ห์ของนางสามารถเทียบได้กับตระกูลราชันฉีหลินของนางได้แน่นอน!

ทุกคนได้แต่อาศัยคำดังกล่าวมาเปรียบเปรยนางแล้วเมื่อพบเห็นผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า องค์หญิงของตระกูลราชันฉีหลินที่สูงส่งยากจะหาผู้ใดเทียมรูปโฉมที่งดงามในหล้าของนาง

พานพบครั้งแรกล่มเมือง พบอีกคราล่มชาติ ชม้ายครั้งที่สามสุดยอดหนึ่งเดียวในโลกา! ครั้นมองเห็นธิดาราชันฉีหลินที่อยู่ตรงหน้าแล้ว จึงจินตนาการได้ว่าเหตุใดถึงได้มีชายหนุ่มจำนวนมากที่ได้เห็นโฉมตรูแล้วจึงได้เคลิบเคลิ้มหลงใหลได้ถึงเพียงนี้ ถึงกับไม่เป็นอันจะกิน

ผู้หญิงที่สุดยอดในหล้าเช่นนี้ เกรงว่าผู้ชายจำนวนมากหลังจากพบเห็นนางแล้ว ก็ต้องหลงรักนางจนถอนตัวไม่ขึ้น!

การได้มองเห็นรูปโฉมที่สุดงดงามในหล้าพลันที่เสด็จมาถึงของธิดาราชัน ทำให้เวลานี้ต่างรู้สึกหลงไหลดั่งเมาสุรา แม้แต่ผู้ที่เคยเห็นธิดาราชันฉีหลินมาแล้ว เมื่อได้พบเห็นอีกครั้งก็ยังคงเคลิ้บเคลิ้มหลงใหล ตกหลุมรักนางจนถอนตัวไม่ขึ้น

“ฝ่าบาท” ในเวลานี้เอง ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยต่างทยอยกันคุกเข่าลงกับพื้น ต่อให้ไม่เป็นเพราะฐานะทีสูงส่งของนาง ภายใต้อานุภาพราชันที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ผู้ที่มีทักษะยุทธต้องคุกเข่าลงกับพื้นก่อนหน้านั้นไปแล้ว โดยสยบต่ออำนาจราชันของนาง

“คารวะฝ่าบาท” ผู้เยาว์จำนวนมากคุกเข่าลงกับพื้น ต้อนรับการมาถึงของธิดาราชันฉีหลิน มีเพียงกษัตริย์เจ้าสำนักส่วนน้อยที่ไม่ได้แสดงคารวะเต็มรูปแบบ แต่ว่าพวกเขายังคงก้มโค้งแสดงความคารวะ

มีเพียงผู้ที้มีฐานะเช่นเสิ่นจินหลงซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ไม่จำเป็นต้องคุกเข่ากับพื้น แต่เขาก็ก้มโค้งแสดงคารวะหลังจากพบกับธิดาราชันฉีหลินแล้ว ครั้นมองเห็นรูปโฉมที่งดงามสุดยอดในหล้าของธิดาราชันฉีหลินแล้ว เขารู้สึกดีใจยิ่งนักในใจ และยากจะปิดบังซ่อนเร้นความเร่าร้อนที่ปรากฎออกมาจากแววตาของเขาได้

นับแต่ครั้งแรกที่ได้พบเห็นธิดาราชันฉีหลินแล้ว เสิ่นจินหลงก็หลงรักนางเข้าอย่างจัง ด้วยเหตุนี้เอง บรรพบุรุษของสำนักเจอเยื่อจึงได้ไปสู่ขอนางที่ตระกูลราชันฉีหลิน

“ทุกท่านลุกขึ้น” ธิดาราชันฉีหลินเปิดปากแล้ว เสียงนั้นไพเราะเสนาะหูยิ่งนัก แต่ท่ามกลางความเสนาะหูนั้นเผยให้เห็นถึงอำนาจสายหนึ่งที่ผู้คนไม่สามารถขัดขืนได้

ครั้นผู้คนจำนวนมากได้ลุกขึ้นยืนแล้ว ต่างเงยหน้าขึ้นมองธิดาราชันฉีหลินที่อยู่ตรงหน้า

ธิดาราชันฉีหลินได้ก้าวเดินเข้ามาช้าๆ ท่วงท่าของนางดูช่างงดงามและมีความเป็นเลิศเหลือเกิน ทำให้ผู้คนมองดูไม่รู้จักเบื่อ นางก็คือเทพธิดาในโลกมนุษย์ ไม่ว่าใครก็ตามล้วนแล้วแต่ จิตใจหวั่นไหวเมื่อพบเห็นนาง

อ่านตอนอื่นๆของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล คลิกเลย

แฟนเพจ