หลี่ชิเย่จ้องมองดูจอมราชันทั้งสี่ของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง ยิ้มเฉยเมยและกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ที่ข้ามาครั้งนี้ก็ไม่ได้มีเรื่องราวใหญ่โตอะไรนัก แค่ต้องการมอบผลประโยชน์ให้พวกเจ้าสักเล็กน้อย ไม่รู้สินะว่าพวกเจ้าอยากจะร่ำรวยกันหรือไม่”
พลันที่หลี่ชิเย่ได้พูดคำๆ นี้ออกมา ทำให้พวกของราชันสวรรค์จ้านหวังทั้งสี่คนต่างมองตากันและกัน ในเวลานี้พวกเขาต่างมีท่าทีที่แสดงออกถึงความแปลกใจ
ยังไม่ต้องพูดถึงคำพูดที่ออกจากปากของผู้ดำรงอยู่ในฐานะอีกาทมิฬที่ว่า “ไม่มีเรื่องใหญ่โตอะไร” มันช่างเป็นเรื่องที่ใหญ่ชนิดฟ้าถล่มแน่ หรือแม้แต่ “อยากจะร่ำรวยกันหรือไม่” ก็สามารถทำให้ผู้คนต้องบังเกิดความคิดหลายอย่างผุดขึ้นมาไม่ขาดสาย
สมควรทราบว่า การบรรลุเป็นจอมราชันย่อมได้ครอบครองทรัพยากรที่สมบูรณ์ยิ่ง อยากได้ของวิเศษก็จะได้ อยากได้เหมืองแร่เซียนก็ได้ครอบครองเหมืองแร่เซียน สิ่งที่จอมราชันเซียนหวังมีอยู่ในครอบครองนั้นใช่ว่ายอดฝีมือคนอื่นๆ สามารถเทียบเคียงได้ หรือแม้กระทั่งระดับจอมเทพก็เทียบกันไม่ติด
อาจกล่าวได้ว่า จอมราชันเซียนหวังทุกองค์ล้วนแล้วแต่ร่ำรวยมหาศาล เวลานี้หลี่ชิเย่กลับถามพวกเขาว่าอยากร่ำรวยกันหรือไม่ มันคือคำพูดที่เปี่ยมด้วยความเย้ายวนใจอย่างแน่นอน
ถ้าหากเป็นคนอื่นถามพวกราชันสวรรค์จ้านหวังว่าอยากจะร่ำรวยกันหรือไม่ เกรงว่าแม้แต่พวกราชันสวรรค์จ้านหวังเองก็อยากจะหัวเราะออกมา แต่ว่า เมื่อคำพูดนี้ออกมาจากปากของอีกาทมิฬ พวกของราชันสวรรค์จ้านหวังกลับไม่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าขำแม้แต่น้อย
“ไม่ทราบคำว่าร่ำรวยที่ท่านปรมาจารย์พูดมานั้นหมายถึงเรื่องอะไรกัน?” ราชันสวรรค์จ้านหวังเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ขอท่านปรมาจารย์ได้โปรดไขข้อปริศนาด้วย”
“ไม่มีอะไร” หลี่ชิเย่พูดด้วยท่าทีเรียบเฉยว่า “มันก็แค่เป็นขุมทรัพย์ของเศษยุคสมัยที่ไม่สมประกอบของยุคก่อนเท่านั้นเอง ในฐานะที่เป็นจอมราชันของตระกูลขุนนางโบราณเก่าแก่ แม้ว่าขุมทรัพย์ของพวกเจ้าอุดมสมบูรณ์มาก แต่ข้าเชื่อว่าขุมทรัพย์ของพวกเจ้าอย่างไรเสียก็เทียบไม่ได้กับขุมทรัพย์ของยุคสมัยก่อน ต่อให้เป็นขุมทรัพย์ของยุคสมัยที่เศษเสี้ยวและไม่สมประกอบก็ตาม!”
คำพูดนี้ของหลี่ชิเย่ที่พูดออกมา พลันทำให้จิตใจของจอมราชันทั้งสี่ของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังหวั่นไหวขึ้นมาทันที แม้ว่าพวกเขาจะเป็นจอมราชันปราศจากผู้ต่อกรก็ตาม ยังคงสะเทือนอยู่ในใจ พวกเขารู้ว่ามันบ่งบอกถึงสิ่งใด มันจะต้องเป็นเรื่องที่สะเทือนฟ้าดินแน่นอน
“ท่านปรมาจารย์หมายถึงไกลกันดารรึ?” ราชันสวรรค์จ้านซัวเอ่ยขึ้นมาช้าๆ
หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเมินเฉยว่า “ยกเว้นไกลกันดารแล้ว ยังมีสถานที่แห่งใดอีกเล่า? ข้าเชื่อว่าในใจของพวกเจ้าก็เข้าใจเป็นอย่างดี กี่ปีมาแล้ว อย่าว่าแต่จอมราชันของเผ่าสวรรค์พวกเจ้า เผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์รวมทั้งร้อยชาติพันธุ์ มีจอมราชันเซียนหวังเผ่าพันธุ์ไหนบ้างที่ไม่อยากได้ของที่อยู่ในไกลกันดารมาก่อนเล่า?”
คำพูดของหลี่ชิเย่ทำเอาจอมราชันทั้งสี่ของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังถึงกับมองตากันและกัน ในสายตาของคนอื่นไกลกันดารคือสถานที่ที่อันตรายอย่างยิ่ง แต่ในสายตาของจอมราชันเซียนหวังมันคือขุมทรัพย์ที่ยอดเยี่ยมมาก เป็นขุมทรัพย์ที่สะเทือนโลกายิ่ง แม้แต่ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะจอมราชันเซียนหวังเช่นพวกเขาก็ต้องหวั่นไหวต่อขุมทรัพย์ของไกลกันดารเช่นกัน
“ท่านปรมาจารย์ขึ้นชื่อว่าไร้ผู้เทียบเทียม แต่ว่า หากไกลกันดารสามารถบุกยึดได้ง่ายดายเช่นนั้นคงไม่เรียกว่าเป็นไกลกันดารแล้วหละ นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน เคยมีผู้ที่บุกตีไกลกันดารมาเท่าไร แต่มีใครบ้างที่ทำได้สำเร็จอย่างแท้จริง?” ในเวลานี้ จอมราชันตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังที่นั่งอยู่ประจำทิศเหนือได้พูดขึ้นมาช้าๆ
“ถูกต้อง ไม่มีใครสามารถจับกุมตัวผู้ยิ่งใหญ่นั่นเอาไว้ได้” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “แต่ ในเมื่อข้ากล้าพูดออกมา ข้าก็มีความมั่นใจว่าจะจับกุมตัวเขาได้ พวกเจ้าคิดว่าอีกาทมิฬอย่างข้าจะคุยโม้หรือไม่?”
“เรื่องนี้ใช่ว่าพวกข้ากำลังสงสัยในความปราศจากผู้ต่อกรของท่านปรมาจารย์” ราชันสวรรค์ซั่วเทียนกล่าวอย่างช้าๆ ว่า “เพียงแต่ หนทางนี้ไม่ง่ายนัก หากว่าราชันเซียนหมิงเหริน ราชันเซียนฉวี่เจินและเหล่าราชันต่างๆ ยังอยู่ โอกาสที่ท่านปรมาจารย์จะชนะก็จะสูงมากขึ้น เพียงแต่สถานการณ์ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมเสียแล้ว”
“ไม่มีอะไรแตกต่าง” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “อดีตเป็นเช่นนี้ ปัจจุบันก็เป็นเช่นนี้ ข้าจะยึดไกลกันดารเอาไว้ อดีตสามารถยึดได้ เวลานี้ก็ยึดได้เช่นกัน เพียงแต่ข้ายินดีจะจ่ายค่าตอบแทนเช่นนี้หรือไม่ เพียงแต่ข้ายินดีเสียสละหรือไม่เท่านั้น!”
คำพูดของหลี่ชิเย่ทำเอาจอมราชันทั้งสี่ของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังถึงกับหวั่นไหวในใจ พริบตาเดียวนี้เอง พวกเขารับรู้ถึงอะไรอย่างหนึ่ง
“ท่านปรมาจารย์เลือกพวกเรา ทำให้พวกเรารู้สึกตื่นตะลึงเพราะได้รับความเมตตาที่ไม่คาดคิดมาก่อน” ราชันสวรรค์จ้านหวังที่เป็นผู้ก่อตั้งตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังพูดขึ้นมาช้าๆ
หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “พูดไปพูดมา พวกเจ้ายังคงไม่เชื่อข้า รู้สึกว่าในนี้มีอะไรไม่ชอบมาพากล ดูท่าในใจของพวกเจ้ายังคงมีอคติกับข้านะเนี่ย”
“อคติน่ะไม่กล้า” ราชันสวรรค์จ้านหวังกล่าวว่า “พวกเราสามารถเชื่อใจท่านปรมาจารย์ได้ แม้ว่าพวกเรากับท่านปรมาจารย์อยู่กันคนละฝ่าย แต่ว่าท่านปรมาจารย์เป็นผู้ที่รักษาคำพูด ท่านปรมาจารย์ยังไม่ถึงกับวางแผนให้ร้ายพวกเรา ตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังของข้ายังไม่เข้าตาท่านปรมาจารย์ หากท่านปรมาจารย์ต้องการทำลายตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังของข้าจริง เกรงว่าอาศัยเพียงแค่โองการฉบับเดียวก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาวางแผนให้ร้ายเช่นนี้”
“ข้ากลับอยากจะฟังข้อกังวลของพวกเจ้า” หลี่ชิเย่หัวเราะนิดหนึ่ง รู้ว่าในใจของราชันสวรรค์จ้านหวังคิดอะไรอยู่
“ข้อกังวลหน่ะมีอยู่” ราชันสวรรค์จ้านหวังเอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “ไม่มีใครรู้ชัดว่าขุมทรัพย์ของไกลกันดารมีอะไรบ้าง ภายในขุมทรัพย์อาจมีอาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคอยู่ชิ้นหนึ่งก็เป็นได้!”
ไกลกันดารเป็นสถานที่ที่พิเศษมาก มันคือเศษของยุคสมัยที่ไม่สมบูรณ์ซึ่งยังคงหลงเหลืออยู่ ในแดนแห่งการสืบค้นมีสถานที่เช่นนี้อยู่หลายแห่ง เฉกเช่นฝอเหย่ก็คือเศษของยุคสมัยที่ไม่สมบูรณ์ซึ่งยังคงหลงเหลืออยู่
แต่ว่า เฉกเช่นผู้ยิ่งใหญ่แต่ละองค์ที่โชคดีและสามารถมีชีวิตรอดท่ามกลางไกลกันดารที่เป็นยุคสมัยเช่นนี้นับว่ามีอยู่ไม่มาก และหาได้ยากจริงๆ
ด้วยเหตุนี้เอง ตลอดเวลาที่ผ่านมาจึงมีผู้ที่ต้องการยึดไกลกันดารจำนวนมาก เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ได้ซ่อนสิ่งที่สามารถทำให้ผู้คนหัวใจเต้นตูมตามมากเหลือเกิน เพียงแต่ว่าผู้ยิ่งใหญ่ที่หลงเหลืออยู่ของไกลกันดารแข็งแกร่งมากเหลือเกิน แม้แต่จอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายในครอบครองยังตายจากการสู้รบ ดังนั้น ต่อให้มีจอมราชันเซียนหวังที่ต้องการบุกโจมตีไกลกันดารก็ต้องรอบคอบเข้าไว้
แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ยังคงมีจอมราชันเซียนหวังจำนวนมากที่คอยสอดแนมไกลกันดารอยู่ตลอดมา เนื่องจากมีจอมราชันเซียนหวังคาดเดาว่า ภายในไกลกันดารอาจมีอาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคซ่อนอยู่ชิ้นหนึ่ง!
อาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคคือสิ่งที่สามารถทำให้หัวใจเต้นตูมตามได้ ไม่ว่าจะเป็นจอมราชันเซียนหวังใดๆ ก็ตาม
“จากนั้นหละ?” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “พวกเจ้าเกรงว่าข้าจะได้ครอบครองอาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุค จึงอดที่จะกังวลใจไม่ได้”
“ถูกต้อง” ราชันสวรรค์จ้านหวังไม่จำเป็นจะต้องปิดบัง พยักหน้าและกล่าวว่า “ท่านปรมาจารย์เป็นที่หวั่นเกรงมากพอแล้ว หากท่านปรมาจารย์ยังได้ครอบครองอาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคอีก เกรงว่าในโลกนี้ยิ่งยากจะมีใครสามารถต้านท่านปรมาจารย์ได้อีก หากท่านปรมาจารย์ได้อาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคมาครอบครอง อนาคตย่อมไม่เป็นผลดีต่อเผ่าสวรรค์ของข้า”
แม้จะกล่าวว่าของวิเศษหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คน แต่ว่าพวกของราชันสวรรค์จ้านหวังยินดีที่จะยืนอยู่ข้างของสถานการณ์โดยรวมมากกว่า ถ้าหากจะช่วยให้หลี่ชิเย่ได้รับอาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุค พวกเขายินดีพลาดโอกาสครั้งนี้มากกว่า
“พวกเจ้ากังวลก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “แต่ว่า พวกเจ้าก็ควรจะรู้ว่า เรื่องเช่นนี้ต่อให้พวกเจ้าไม่ทำ ยังคงมีจอมราชันเซียนหวังที่จะทำ พวกเจ้าเองสมควรรู้ดีว่า ข้าสามารถดึงจอมราชันเซียนหวังที่ไม่ด้อยไปกว่าพวกเจ้ามาได้”
คำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ทำให้พวกของราชันสวรรค์จ้านหวังทั้งสี่ต่างนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง
“ถูกต้อง ข้อนี้ยืนยันได้อยู่แล้ว” สุดท้ายยังคงเป็นราชันสวรรค์จ้านหวังที่พูดออกมา เขากล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “แต่ พวกเราไม่ต้องการเป็นคนบาปของเผ่าสวรรค์ หากจอมราชันเซียนหวังคนอื่นๆ ยินดีช่วยเหลือท่านปรมาจารย์อีกแรง นั่นคือการตัดสินใจของจอมราชันเซียนหวังคนอื่น ที่พวกเราสามารถทำได้คือทำอย่างเต็มที่เท่านั้น”
“คนบาปของเผ่าสวรรค์?” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “จ้านหวัง ข้าไม่ได้มีเจตนาดูถูกเจ้า แต่หากจะพูดถึงคนบาปของเผ่าสวรรค์ ยังมีโอกาสเหลือให้เจ้าได้ทำรึ?”
“บนเส้นทางชั่วร้ายสายนี้ นับสิทธิ์และรุ่นแล้ว ยังมีโอกาสเหลือมาถึงพวกเจ้ารึ?” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมย ขณะที่คำพูดเช่นนี้แหลมคมยิ่งนัก และไม่เกรงใจเอาเสียเลย
คำพูดเช่นนี้ทำเอาพวกราชันสวรรค์จ้านหวังถึงกับหวั่นไหวในใจ
“จ้านหวัง ข้ารู้ว่าตาเฒ่าเฉี่ยนให้ความสำคัญกับเจ้า และเป็นหนึ่งในคู่ปรับของข้าตลอดมา เจ้าเองก็คิดจะสังหารข้ามาโดยตลอด เรื่องนี้ทุกคนไม่จำเป็นต้องมาปฏิเสธกัน” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “ข้ากับตาเฒ่าเฉี่ยนเป็นศัตรูทุกยุคทุกสมัย เขาต้องการสังหารข้าให้มันรู้แล้วรู้รอดไป ข้าเองก็อยากจะถีบเขาให้กระเด็นไปให้ไกล แต่ความแค้นส่วนความแค้น เจ้าสามารถได้รับการไว้วางใจจากตาเฒ่าเฉี่ยน ข้าเชื่อว่าเรื่องความลับบางอย่างตาเฒ่าเฉี่ยนควรจะเคยบอกกล่าวต่อเจ้า”
“ดังนั้น ข้าจึงอยากจะถามจ้านหวัง” ในขณะนี้ท่าทีของหลี่ชิเย่หนักแน่นจริงจัง มองดูราชันสวรรค์จ้านหวังและกล่าวว่า “บนโลกใบนี้พวกเจ้าไม่ลองถามตัวเองสักครั้ง ใครกันที่สามารถทำลายล้างเผ่าสวรรค์ของพวกเจ้าได้เล่า? ข้าเชื่อว่าคนนั้นไม่ใช่ข้า!”
คำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่พลันทำให้ราชันสวรรค์จ้านหวังนิ่งเงียบขึ้นมา ในเวลานี้เอง พวกของราชันสวรรค์ซั่วเทียนต่างมองไปที่ราชันสวรรค์จ้านหวังพร้อมกัน
พวกเขาต่างก็เป็นราชันสวรรค์ของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง แต่ว่าในบรรดาพวกเขาทั้งหมดที่สามารถได้รับการไว้วางใจจากราชันซื่อตี้ก็มีเพียงราชันสวรรค์จ้านหวังเท่านั้นเอง
ราชันสวรรค์จ้านหวังที่ได้รับการไว้วางใจจากราชันซื่อตี้ไม่เพียงเพราะความอาวุโสของเขา และไม่เพียงตัวเขาที่เป็นผู้ชูธงเผ่าสวรรค์อยู่หลายครั้ง ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ เขาเคยให้ความคุ้มครองราชันซื่อตี้ในขณะที่ราชันซื่อตี้ยังอยู่ในวัยหนุ่ม
ยังมีข้อสำคัญที่สุดอีกข้อหนึ่งก็คือ ความจงรักภักดีที่มีต่อเผ่าสวรรค์ของราชันสวรรค์จ้านหวังหาที่ติไม่ได้ เพราะถ้าหากเผ่าสวรรค์มีภัย รับรองได้ว่าราชันสวรรค์จ้านหวังต้องเป็นราชันสวรรค์กลุ่มแรกๆ ที่ก้าวออกมาอย่างแน่นอน!
หากจะกล่าวว่า ขบวนการเทียนฉวนมีนโยบาย หรือข่าวลับเฉพาะอะไรก็ตาม หนึ่งในคนที่ราชันซื่อตี้ยินดีเล่าให้ฟังต้องมีราชันสวรรค์จ้านหวังแน่นอน
ราชันสวรรค์จ้านหวังพลันนิ่งเงียบ และไม่ได้ตอบหลี่ชิเย่เป็นเวลานาน
เป็นความจริง เมื่อเปรียบเทียบกับบรรดาจอมราชันของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังแล้ว เขาล่วงรู้ความลับต่างๆ มากกว่า เรื่องนี้ไม่เพียงเพราะเขามีชีวิตอยู่มานานกว่า แต่เป็นเพราะเขาสามารถเข้าไปอยู่ในวงการของขบวนการเทียนฉวน ภายในวงการขบวนการเทียนฉวนนี้มีความลับมากมายที่บุคคลภายนอกไม่รู้
ผู้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมองค์กรเช่นขบวนการเทียนฉวนได้ต้องเป็นจอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบสายขึ้นไป อีกทั้งการเข้าร่วมอยู่ในขบวนการเทียนฉวนก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะต้องรู้ถึงความลับทั้งหมด เหมือนดั่งที่หลี่ชิเย่พูดเอาไว้ การที่ราชันสวรรค์จ้านหวังสามารถล่วงรู้ความลับมากมายนั้นเป็นเพราะราชันซื่อตี้
“ท่านปรมาจารย์ไหนเลยจะไม่ใช่ผู้ที่คุกคามต่อเผ่าสวรรค์เล่า” ท้ายที่สุด ราชันสวรรค์จ้านหวังได้แต่พูดคำๆ นี้ออกมา
“ข้าไม่ปฏิเสธเรื่องจริงเช่นนี้” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “จ้านหวัง ความจงรักภักดีที่เจ้ามีต่อเผ่าสวรรค์เป็นเรื่องทุกคนล้วนแล้วแต่รู้ดี แต่ เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่า หากวันนั้นมาถึงจริงๆ เจ้าเคยคิดป้องกันตนเองหรือไม่? เคยคิดถึงตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังของพวกเจ้าหรือเปล่า? เจ้าคิดว่าอาศัยธาตุแท้ภายในที่ตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังมีอยู่ในขณะนี้ สามารถยืนหยัดให้พ้นไปจากวันนั้นได้หรือไม่?…”
“…ความจริงแล้วในใจของเจ้าเองก็ไม่มั่นใจเอาเสียเลย” หลี่ชิเย่กล่าวว่า “เจ้าไม่รู้ว่าวันนั้นที่มาถึงจะเป็นลักษณะเช่นใด ดังนั้น กล่าวสำหรับของวิเศษแล้วมีใครบ้างที่บ่นบอกว่ามีมากเกินเล่า? ทรัพยากรสำหรับตระกูลขุนนางโบราณสักแห่งแล้ว ไม่มีวันพอใจตลอดไป! เจ้าไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวเอง เจ้าทำเพื่อตระกูลของเจ้าเอง ต่อสู้เพื่อเผ่าสวรรค์ของพวกเจ้าเอง!”