บทที่ 606 เรื่องราวแห่งการพัฒนาที่ประสบความสำเร็จ
“พวกเราจะทำอย่างไรถ้าเขาไม่สามารถทนไหวหละ?”เสียงของราชามังกร สั่นและดังขึ้น
”ข้าไม่รู้พลังวิญญาณที่ดูดซับโดยสัตว์วิญญาณทั้งเก้านั้นแย่ขนาดไหน แม้ว่ามันถูกดูดซึมเพียงครึ่งเดียวแต่สถานการณ์ตอนนี้แย่มาก!” ราชามังกรแห่งกาลเวลากำลังประเมินพลังของสัตว์วิญญาณทั้งเก้าของหลินเฟิงและเหมือนว่าพวกเขาจะประเมินพลังของพวกมันต่ำไป
สัตว์วิญญาณทั้งเก้าตัวนั้นเป็นตัวตนแห่งความน่ากลัวอย่างแท้จริง
มังกรดำเป็นเชื้อสายของราชามังกรหมิงในแดนแห่งมืดเสี่ยวเฮยได้กลืนกินหยาง เลือดเนื้อนั้นทำให้มันกลายเป็นนกอมตะแห่งตระกูลฟีนิกซ์ และเถาวัลย์ปีศาจนั้นคือเลือดของสายพันธุ์อื่น สำหรับสายเลือดอื่น ๆ นั้น สัตว์วิญญาณแต่ละตัวต่างก็มีต้นกำเนิดที่ยิ่งใหญ่
ไม่มีใครคาดคิดว่าสัตว์วิญญาณที่ทรงพลังเหล่านี้จะถูกคนเพียงคนเดียวทำพันธะสัญญาด้วย
ในอดีตชายคนหนึ่งเคยทำสัญญากับสัตว์วิญญาณชนิดหนึ่งและถ้าชายคนนั้นก็เป็นอัจฉริยะจึงสามารถทำสัญญากับสัตว์วิญญาณเพิ่มได้อีกเพียงสองหรือสามตัวเท่านั้น แต่ครั้งนี้ชายคนเดียวกับต้องทำสัญญากับสัตว์ถึงเก้าตัว แม้แต่เทพมังกรก็ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน
นี้ถือเเป็นเหตุการณ์แห่งประวัติศาสตร์จริงๆ ไม่เคยมีใครทำอะไรที่ฝืนขนาดนี้มาก่อน
ด้วยเหตุนี้เมื่อวิญญาณทั้งเก้ามารวมกันพลังอันหน้าหวาดกลัวที่พวกมันต้องการดูดซับจึงเกินความคาดหมายของราชามังกรทั้งสองไปมาก
”งั้นนั่นคงเป็นวิธีเดียวเท่านั้นแล้ว!”มังกรแห่งกาลเวลาพูด
ทันใดนั้นราชามังกรก็นิ่งไปก่อนที่เขาจะอ้าปากจากนั้นไข่มุกแห่งมังกรน้ำเงิน ปรากฏขึ้นและมังกรแห่งกาลเวลาก็ร่ายคทา
“นั้นเจ้ากำลังจะทำอะไร ” เมื่อเห็นฉากนี้ราชินีมังกรก็พูดด้วยความตกใจ
ดวงตาของราชามังกรแห่งกาลเวลาเต็มไปด้วยความแน่วแน่:”เขาคือความหวังเดียวของโลกใบนี้ ในกรณีนี้ข้าขอฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ตัวของเขา!”
จากนั้นถึงเวลาที่ราชามังกรแห่งกาลเวลาใส่ลูกแก้วมังกรน้ำเงินลงไปในร่างของหลินเฟิง
ในพริบตาเดียวที่ลูกมังกรได้เข้าไปในร่างมันดูดซับพลังวิญญาณอย่างบ้าคลั่งทันที ซึ่งมันก็ดูดซับพลังวิญญาณที่ทำลายร่างกายของหลินเฟิงลงไปด้วย
”ด้วยลูกแก้วมังกรนั้นพลังในการรักษาของเขา จะสามารถดูดซับพลังวิญญาณเหล่านั้นได้ ในระดับเดียวกับข้า!” ราชามังกรแห่งกาลเวลากล่าว
แต่ใบหน้าของราชินีมังกรนั้นกลับทำให้งงงวยและสับสน”ถ้างั้นความแข็งแกร่งของเจ้าจะลดลงกว่าครึ่งเลยนะ!”
”ถึงลดลงครึ่งหนึ่งยังไงพวกเราก็ไม่สามารถต้านทานหายนะครั้งต่อไปได้ เพราะงั้นไอหนุ่มคนนี้ถึงเป็นความหวังสุดท้าย เขาจะขยายความหวังแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ” ราชามังกรแห่งกาลเวลาดูเหมือนจะตัดสินใจแล้ว เขายังคงกล่าวขานอย่างหนักแน่น
สิ่งนี้ทำให้ราชีนีมังกรนิ่งไป
และการคงสภาพของของหลินเฟิงมีลูกแก้วมังกรของราชามังกรแห่งกาลเวลาเป็นตัวช่วยในการดูดซับพลังวิญญาณมันกำลังทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่
สิ่งนี้ช่วยเร่งการเสริมพลังโดยสัตว์วิญญาณทั้งเก้าในไม่ช้าเขาก็ถึงระดับครึ่งแรกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์
แต่ในเวลานี้ลูกแก้วมังกรของราชามังกรก็ดูเหมือนจะเข้าสู่สภาวะอิ่มตัวและไม่ดูดซับพลังวิญญาณอีกต่อไป
“นี่มันอะไรกันมัน ลูกแก้วมังกรของข้าไม่สามารถดูดซับพลังของสัตว์วิญญาณเหล่านี้ได้อย่างงั้นรึ!”
ราชามังกรแห่งกาลเวลาตกใจมากเขารู้ว่าลูกมังกรของเขาทรงพลังเพียงใด เขารู้ว่ามันเป็นที่พึ่งพาของกำลังมากกว่าครึ่งของเขา แต่ในตอนนี้มันไม่สามารถดูดซับพลังวิญญาณของหลินเฟิงได้แล้ว
”ไม่เป็นไรข้าจะทำเอง!” ลูกแก้วมังกรสีเหมือนน้ำทะเลสั่นไหว แสงสีฟ้าปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงคำรามแห่งท้องทะเล
ในช่วงเวลาต่อมาราชินีมังกรเรียกลูกแก้วมังกรของตนออกมาบ้าง เข้าใส่มันเข้าไปในร่างของหลินเฟิงโดยตรง ทันใดนั้นลูกแก้วทั้งสองก็หมุนวนอย่างรวดเร็วและดูดซับพลังวิญญาณทั้งหมดที่อยู่รอบตัวหลินเฟิง
ในที่สุดสิ่งนี้ก็คลายความกดดันของหลินเฟิงไปได้ในเวลานี้เขาผ่อนคลายลงไปบ้างแล้ว การฟื้นคืนสติก็ค่อย ๆ เป็นไปที่ละนิด
ในเวลานี้การส่งเสริมพลังจากสัตว์วิญญาณทั้งเก้าก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้วพวกมันแต่ละตัวก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้่น ทั้งในด้านโมเมนตัมและรูปลักษณ์ พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่มองไม่เห็นอีกมากมาย
ตัวแรกคือมังกรดำหลังจากไปถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังมีเขาสีทองอีกสองอันบนเขามังกรทั้งแปดบนหัวของมัน เกล็ดสีดำบนร่างกายของมันก็เปลี่ยนไปเช่นกัน มันมีเส้นสีทองระหว่างเกล็ดมากขึ้น
การจับคู่สีดำและสีทองนั้นดูก้าวร้าวและน่าเกรงขาม
ตัวที่สองคือเสี่ยวเฮยซึ่งเป็นเพียงสุนัขสีดำตัวเล็กๆ และมีการเปลี่ยนแปลงครั้งแล้วครั้งเล่า เวลานี้มันไม่เหมือนกับสุนัขสีดำตัวเดิมเลย
มันกลายเป็นเสือและเป็นเสือดาวที่มีปีกข้างหลังมีเปลวไฟสีแดงเข้มและมีเกล็ดที่หลัง
ต่อมาคือเถาวัลย์ปีศาจ เถาวัลย์สีดำด้านบนหนวดนับไม่ถ้วนงอกเงยขึ้นมา และมังกรดำก็มีสิ่งที่เหมือนกันนั่นคือร่างกายมีเส้นสีทอง
……
สัตว์วิญญาณทุกตัวได้รับการเปลี่ยนแปลงที่น่าแปลกตามากพวกมันได้เลื่อนขั้นสำเร็จในเวลาเดียวกันแล้ว
ในช่วงเวลาของการเลื่อนระดับลูกปัดมังกรทั้งสองในร่างของหลินเฟิง หมุนวนรอบกัน เช่นเดียวกับแผนภาพหยินหยางของไทจิแปดทิศ
ในขณะนั้นพื้นที่ทั้งหมดสั่นสะท้านหลินเฟิงรู้สึกได้ว่าโลกนั้นเกิดการสั่นไหว แบบเดียวกับการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขา
บาดแผลเล็กๆ และสิ่งอื่น ๆ ที่เหลือจากการอดทนต่อสู้หายไป ในขณะนั้นหลินเฟิงรู้สึกราวกับว่าเขาเปลี่ยนไป ร่างกายของเขา ความรู้สึกสบายแบบนั้นไม่เคยเป็นมาก็ก็เกิดขึ้น
ประสาทสัมผัสทั้งหกของหลินเฟิงก็แตกต่างไปจากเดิมเช่นกัน
ตลอดเวลานี้เขาอยู่ในต้นไม้แห่งชีวิตเขาสัมผัสได้ถึงสายลมและหญ้าด้านนอก เขาได้ยินเสียงเล็ก ๆ ที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร
นอกจากนี้หลินเฟิงรู้สึกว่าเขามีพลังที่ไม่รู้จักเหนื่อยและความรู้สึกแย่ๆ นั้นทำให้เขากระตือรือร้นที่จะต่อสู้
“นี่คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์หรือ?”
หลินเฟิงตกตะลึงและปลดปล่อยพลังที่อัดอั้นอยู่ในใจของเขาออกมานั้นทำให้มังกรทั้งสองตื่นตัว
”พลังนี้เปรียบได้กับพลังแห่งสวรรค์ขั้นสี่หรือห้าในดินแดนศักดิ์สิทธิ์สินะ” เทพมังกรทั้งสองครุ้นคิด และตกตะลึง
หลินเฟิงไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่เทพมังกรพูดเขาเพิ่งสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของการไปถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ความรู้สึกที่แข็งแกร่งดูเหมือนจะคงอยู่ตลอดไปและควบคุมทุกสิ่งได้
แต่ในไม่ช้าหลินเฟิงก็ส่ายหัวและสลัดความรู้สึกที่มุ่งร้ายแบบนี้ไปเขามองไปที่สัตว์วิญญาณของเขาทั้งหมด
ในเวลานี้สัตว์วิญญาณทั้งเก้าได้เสร็จสิ้นการเปลี่ยนแปลงแล้วพลังของพวกมันแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิงและรูปลักษณ์ของพวกมันก็ต่างไปจากเมื่อก่อนมาก
ในเวลานี้ราชามังกรแห่งกาลเวลาและราชินีมังกรต่างกล่าวว่า”ยินดีด้วย ในที่สุดเจ้าก็ฝ่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์เข้ามาได้!”
ในตอนนี้หลินเฟิงตอบกลับและกล่าวว่า”ขอบคุณท่านเทพทั้งสองมาก ลูกแก้วมังกรของพวกท่าน… ”
หลินเฟิงรู้สึกอับอายเพราะทั้งคู่มอบลูกแก้วมังกรให้คืนไปในฐานะที่มันเป็นตัวช่วยส่งพลังวิญญาณให้กับเขา
ลูกแก้วมังกรทั้งสองหมุนรอบกันแล้วกันคล้ายกับหยินและหยางของไท่จื่อ พลังทางจิตวิญญาณที่มันดูดซับและเก็บไว้นั้นมากเกินกว่าที่ลูกแก้วมังกรทั้งสองจะดูดซับได้หมด
”ไม่เป็นไรพวกเราต้องใช้เวลาหลายร้อยปีในการปรับแต่งลูกแก้วมังกรใหม่อีกครั้งตราบใดที่เจ้าทะลวงผ่านมันไปได้ พวกข้าก็ยินดีด้วย!” ราชามังกรแห่งกาลเวลากล่าว
เวลาหลายร้อยปีมันก็เหมือนกับการจามหรือกระพริบตาสำหรับคนที่มีชีวิตอยู่ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน
”ขอบคุณพวกท่านมากผมจะจดจำน้ำใจครั้งนี้เอาไว้และไม่หลงลืมเป็นอันขาด” หลินเฟิงกล่าว
”เอาล่ะเนื่องจากเราได้พัฒนากำลังของพวกเราไปแล้วเรามาทำความคุ้นเคยกับพลังแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์กันดีกว่าไหม แล้วค่อยกลับไปพักฟื้นก่อน” มังกรแห่งท้องทะเลกล่าวด้วยใบหน้าที่เหนื่อยใจ
เมื่อรู้ว่าพวกเขาต่างก็มอบลูกแก้วมังกรให้กับหลินเฟิงไปแล้วหลินเฟิงจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกำหมัดและพูดว่า “ขอบคุณมาก … ”