Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - บทที่ 619 เงื่อนไข

เรื่อง โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - บทที่ 619 เงื่อนไข

บทที่ 619 เงื่อนไข
  “แค็ก แค็ก! ฉันก็ไม่รู้ มันน่าจะเป็นเพราะพลังของทั้งสองฝ่ายมันรุนแรงเกินไป” ผู้นำแห่งนิกายจือหยวน ไอและกำลังจะพูด
  แต่ก็มีคนรีบวิ่งเข้ามาจากด้านนอกคน ๆ นั้นคือ ลู่ซื่อจี้
  ”ท่านหลินเฟิงสายลับของพวกเราได้ข่าวกลับมาแล้ว!” ใบหน้าของลู่ซื่อจี้ดูลุกลี้ลุกลน เธอรีบเข้ามาและชี้แจงทันที
  “เกิดอะไรขึ้น?สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้างแล้ว!?” หลินเฟิงถาม
  ลู่ซื่อจี้หายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า: “ตามรายงานของหน่วยสอดแนมพบว่า สายลับหลายคนที่เรามอบหมายหน้าที่เอาไว้ถูก ไล่ล่าโดยอีกฝ่ายมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดชีวิตกลับมา แต่ก็มีหลายคนที่บาดเจ็บสาหัสเช่นกัน!”
  ”นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันถาม!”หลินเฟิงต้องการฟังเหตุการณ์หลัก ๆ ที่เกิดขึ้น
  ”มีการกล่าวกันว่ากลุ่มพันธมิตรแห่งความมืด องค์กรนักฆ่า และฮั่วหยุนจง ร่วมมือกันจริง ๆ ทั้ง 6 สำนักถูกทำลาย และผู้ที่เหลือรอดกว่าครึ่งหนึ่งยอมจำนนเพื่อเข้าร่วมพวกเขา! นอกจากนี้ กลุ่มของปิงหยวนจงและจือหยวน ยังสูญเสียกำลังรบไปมากกว่าครึ่งเช่นกัน การสูญเสียครั้งนี้ยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง! ” ลู่ซื่อจี้พูด เธอไม่สามารถช่วยอะไรได้ และหันไปมองไปที่เหล่าสมาชิกนิกายจือหยวนและปิงหยวนจง
  “มันเป็นความจริงสินะ!การประชุมครั้งก่อนไม่ได้ช่วยอะไรเลยหรือ?” หลินเฟิงไม่เข้าใจ
  “น่าจะไม่!”ลู่ซื่อจี้ส่ายหัว
  หลินเฟิงกุมศีรษะของเขาและพูดว่า”พวกนายรู้ไหมว่าทำไมพวกเขาถึงไม่โจมตีเราก่อน”
  เป็นเรื่องสมเหตุสมผลมากที่จะกล่าวว่าเนื่องจากทั้งสามฝ่ายนั้นได้ร่วมกันกำจัดสำนักทั้งหก นิกายจือหยวนและปิงหยวนจง ผูรับเคราะห์ต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ในกรณีนั้นพวกเขาสามารถโจมตีหลินเฟิงได้แล้วด้วยซ้ำ
  แต่ในอีกด้านหนึ่งพวกเขากลับไม่ทำซึ่งเป็นเรื่องแปลกจริง ๆ
  ด้วยความสงสัยของหลินฟิงทันใดนั้นก็มีอีกคนวิ่งเข้ามาพูดอะไรบางอย่าง ข้าง ๆ หูของลู่ซื่อจี้ จากนั้นก็ออกไปอย่างรวดเร็ว
  ”เกิดอะไรขึ้น?”หลินเฟิงถาม
  ลู่ซื่อจี้มองไปที่หลินเฟิงจากนั้นก็หันไปที่นิกายจือหยวนและปิงหยวนจง ใบหน้าของเธอขุ่นมัวและไม่แน่ใจเธอไม่รู้ว่าจะพูดดีหรือไม่
  ”บอกมาได้แล้ว!”หลินเฟิงเค้นหาคำตอบ
  ในที่สุดลู่ซื่อจี้ก็ก้าวไปหาหลินเฟองและกระซิบบางอย่างที่ข้างๆ หูของเขา
  ”ตามข้อมูลที่ได้มามีผู้นำอยู่หลายคนในกลุ่มพันธมิตรแห่งความมือ ดูเหมือนว่าคนที่ทำให้พวกเขาเลือกลงมือเช่นนี้คือ… เสี่ยวหยาง!” ลู่ซื่อจี้พูดเบา ๆ
  เธอรู้ความสัมพันธ์ระหว่างหลินฟเิงและเสี่ยวหยางดีเธอเองก็อยู่ในตอนที่ เสี่ยวหยางออกจากกลุ่มและเข้าร่วมกับสหพันธ์แห่งความมืด
  ดังนั้นลู่ซื่อจี้จึงลังเลว่าจะพูดดีหรือไม่ในตอนแรกๆ
  ”พูดต่อมาสิ!”หลังจากที่หลินเฟิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็บอกให้เธอพูดต่อ
  ”ว่ากันว่าเมื่อกองกำลังหลักทั้งสามร่วมตัวกันแล้วพวกเขาก็มีข้อเสนอที่จะโจมตีเทียนกงของเราก่อนเป็นอันดับแรก แต่เสี่ยวหยางนี้แหละเป็นคนปฏิเสธ! เขาเสนอให้โจมตีหกสำนักและคนอื่น ๆ ก่อนแทน… ” ลู่ซื่อจี้พูด และทั้งหมดนี่ก็เป็นข่าวที่สายลับได้รับกลับมา
  ”ฉันเข้าใจแล้วดูเหมือนว่าเสี่ยวหยางยังคงห่วงใยพวกเราอยู่หละมั้ง!”
  เมื่อได้ยินข่าวนี่หลินเฟิงคิดในใจเขาก็มีความปิติยินดีปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ดูเหมือนว่าหมอกควันในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาได้สลายไปทั้งหมดแล้วก็เป็นได้
  เขาคิดว่าเสี่ยวหยางตัดเยื่อใยไปแล้วจริงๆแต่ดูเหมือนว่าเสี่ยวหยางก็ยังมีความคิดเป็นของตัวเองอยู่บ้างไม่มากก็น้อย
  ท้ายที่สุดแล้วพรสวรรค์ของเขาคือวิญญาณชั่วร้ายในโลกเขาไม่สามารถเป็นน้องเล็กที่อยู่เบื้องหลังหลินเฟิงได้ตลอดไป
  ”เอาล่ะฉันเข้าใจแล้ว!”หลินเฟิงคิดถึงเรื่องนี้และกล่าวด้วยรอยยิ้ม
  สิ่งนี้ทำให้นิกายจือหยวนและปิงหยวนจงรู้สึกงงงวยมาตลอด อะไรทำให้ในเวลานี้เขายังคงยิ้มออกมาได้กันนะ
  สิ่งที่ทำให้พวกเขาสงสัยมากขึ้นนั้นก็คือสิ่งที่ลู่ซื่อจี้พูดกับหลินเฟิงต่างหาก
  ”พวกคุณทั้งสองผมสามารถตกลงตามคำขอของพวกคุณได้ และเริ่มค้าขายชิปพรสวรรค์นี้ให้กับพวกคุณได้เลย แต่เราจะมอบมันให้เฉพาะผู้ที่อยู่ต่ำกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น และสำหรับเรื่องที่สองนี้พวกผมก็สามารถสัญญาได้ว่าพวกเราจะเป็นพันธมิตรของกันและกัน แต่พวกเราจะถูกนำในชื่อของเทียนกงเท่านั้น!” หลินเฟิงครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวข้อสรุปของเขาออกมา
  ”รับทราบ!”ผู้นำทั้งสองตกลงในทันที
  “แต่ว่า … ” เมื่อทั้งสองคนตัดสินใจแล้ว หลินเฟิงก็พูดขึ้นมาทันที
  ”มีอะไรอีกรึ?”พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งที่หลินเฟิงกำลังจะพูด
  หลินเฟิงหยุดครู่หนึ่งและพูดว่า”แต่พวกคุณจะมอบอะไรให้พวกผมได้บ้าง”
  ”อะ…อืม…” คำถามนี้ทำให้ทั้งคู่งง
  “พวกคุณกำลังถูกทั้งสามฝ่ายตามล่า ถ้าพวกเราร่วมมือกับ พวกผมก็จะต้องต่อสู้กับพวกเขาและนั้นก็จะทำให้พวกเราพบกับปัญหา! ถึงยังงั้นพวกเราก็จะต้องหาผลประโยชน์ร่วมกัน พวกคุณไม่คิดว่าพวกเราจะเห็นด้วยโดยไม่มีข้อโต้แย้งอะไรใช่ไหม! ”
  พวกเขามองหน้ากันพร้อมกับความลังเลครู่หนึ่งแล้วพวกเขาก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน“ พวกเราไม่รู้ว่า ว่าแต่เจ้าสำนักต้องการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่?”
  ”พวกคุณมีอะไรจะให้อย่างงั้นหรือ?”หลินเฟิงจ้องไปที่ผู้นำแห่งนิกายจือหยวน
  ผู้นำนิกายจือหยวนเป็นผู้หญิงในชุดยาวสีม่วงพร้อมกับผ้าคลุมหน้ายากที่จะจินตนาการว่าเธอเป็นคนแบบไหนกันแน่
  หลินเฟิงรู้จากราชามังกรแห่งกาลเวลาว่าคนเหล่านี้ที่สามารถปิดผนึกตัวเองในสมัยโบราณหรือในยุคที่ห่างไกลกว่านั้นได้พวกเธอย่อมมีสิ่งล้ำค่าที่สุดเทียบกับสวรรค์ได้ด้วยพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุด
  มิฉะนั้นจะไม่สามารถปิดผนึกไว้เป็นเวลานานขนาดนั้นและสามารถกลับมามีชีวิตใหม่ได้ในยุคปัจจุบันแบบนี้
  ทุกคนควรรู้ว่าในภัยธรรมชาติเมื่อนานมาแล้วกองกำลังต่าง ๆ จะปิดผนึกตัวเองในแต่ละครั้งและรอคอยอนาคต
  แต่มากกว่า90 เปอร์เซ็นต์ของกองกำลังเหล่านั้นจะหลับใหลไปตลอดกาล
  และในบรรดาผู้ที่รอดชีวิตเราจะเห็นได้ว่าไพ่ตายของพวกเขาน่ากลัวเพียงใด
  ในเวลานี้ผู้นำของปิงหยวนจงขึ้นนำโดยกล่าวว่า “ฉันจะบอกความจริงกับพวกท่านว่าเราไม่มีสมบัติใด ๆ สมบัติชิ้นเดียวคือหัวใจของพระเจ้าแห่งเหมันต์ที่ได้รับการสืบทอดมา”
  “หัวใจของเทพเจ้าแห่งเหมันต์มันคืออะไร?” หลินเฟิงตกใจและอยากรู้ว่ามันคืออะไร
  ”หัวใจของเทพเจ้าแห่งเหมันต์กล่าวกันว่าเป็นต้นกำเนิดแห่งยุคน้ำแข็งทั้งปวง มีพลังการปิดผนึกด้วยน้ำแข็งที่ไม่มีที่สิ้นสุด! แต่มีเพียงผู้สือทอดพลังแห่งน้ำแข็งเท่านั้นที่สามารถใช้มันได้”
  เมื่อได้ยินเช่นนี้หลินเฟิงก็เข้าใจบางอย่างและพูดกับตัวเองว่า”มีพระเจ้าแห่งน้ำแข็งยังอยู่ในโลกแห่งนี้หรือไม่”
  “ถ้าไม่เป็นอย่างงั้น หัวใจเทพเจ้าแห่งเหมันต์ จะช่วยอะไรกับพวกเราได้บ้าง” หลินเฟิงส่ายหัวและโยนคำถามกลับมาอีกครั้ง
  ”ผู้ที่มีเหมาะสมกับพลังแห่งน้ำแข็งเท่านั้นที่สามารถเข้าไปในพื้นที่ของเทพเจ้าแห่งเหมันต์ได้ เพื่อดูว่าพวกเขาจะได้รับมรดกจากพระเจ้าได้อย่างไร แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับมรดกใดๆ แต่คนที่มีคุณสมบัติน้ำแข็งแล้ว ก็จะมีโอกาสใหม่ ๆ ที่เปิดรับพวกเขามากมาย แต่สำหรับประเภทของสิ่งตอบแทนนั้น พวกเราไม่รู้ อาจะขึ้นอยู่กับโชคหรือดวงชะตาก็ได้
  ”แต่มีเพียงสิบแห่งเท่านั้นที่รองรับพลังสำหรับหัวใจแห่งน้ำแข็งได้ในทุกปีฉันสามารถนำพวกคุณไปที่แห่งนั้นได้สามที่!” ผู้นำของปิงหยวนจงกล่าว
  ”ดี!”หลังจากได้ยินเช่นนี้หลินเฟิงก็ตอบตกลงทันที
  จากนั้นหลินเฟิงยังคงมองไปที่ผู้นำนิกายจือหยวนและพูดว่า”แล้วคุณล่ะ?”
  ”เราไม่มีสิ่งที่ทรงพลังเช่นนั้นแต่นิกายจือหยวนของเรา มีสมบัติหายากที่ชื่อ สมบัติแห่งตำหนักจือหยวน อยู่!” ผู้นำนิกายจือหยวนกล่าว
  ”งั้นมันมีคุณสมบัติอย่างไรเล่าให้ผมฟังหน่อยสิ” หลินเฟิงดูอยากรู้อยากเห็นเป็นพิเศษ
  ”ความมหัศจรรย์ของสมบัติแห่งตำหนักจือหยวนคือผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามาจะได้รับสมบัติที่แตกต่างกันไปตามโชค ดวง และพลังวิญญาณของพวกตนเอง ส่วนความแข็งแกร่งและหน้าที่ของสมบัตินั้นขึ้นอยู่กับการสรรสร้างของแต่ละคน! ” ผู้นำนิกายจือหยวนกล่าว
  ”ดี!งั้นถือว่าพวกเรายอมรับข้อตกลง” หลินเฟิงพยักหน้าด้วยความพอใจทันที!

อ่านตอนอื่นๆของ โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล คลิกเลย

แฟนเพจ