Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - บทที่ 680 อย่าถลำลึกไปเลย

เรื่อง โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - บทที่ 680 อย่าถลำลึกไปเลย

บทที่ 680 อย่าถลำลึกไปเลย
  ฝุ่นหนาที่เต็มไปทั่วท้องฟ้าและพื้นดินจางหายไป
  ในตอนนี้สายตาของทุกคนต่างจ้องมองมาที่หลินเฟิง
  และสายตาที่มองมานั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
  ”นี่จบแล้วใช่ไหม? ” คนบางคนเอ่ยอย่างโง่งม “เขาชนะจริง ๆ หรือ? ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ชั้นสองต่อสู้กับดินแดนศักดิ์สิทธิ์สวรรค์ขั้นห้าเนี่ยนะ? เป็นไปได้อย่างไรกัน! ”
  ”ชายคนนี้เป็นใครเหตุใดจึงแข็งแกร่งจนน่ากลัวเช่นนี้?”
  ”เวลานี้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่สวรรค์ชั้นสองแต่กลับต่อสู้แท้จริงได้ถึงจุดนี้ หากเขาโตขึ้นอีกคงยากที่จะนึกภาพออก”
  ”เยี่ยมเลยหายนะกำลังจะมาถึง เราจำต้องพึ่งพาคนหนุ่มสาวเช่นนี้ในการกอบกู้โลก”
  พอผู้คนพูดคุยกันผู้ติดตามของเซิงอี้จึงกลับมามีสติ
  ”พี่เซิงแพ้หรือ?ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย”
  ”ฝ่ามือหินคือพลังวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ลำดับสองในสำนักเจ้าหนุ่มนั่นใช้พลังแบบใดกัน? เขาทรงพลังขนาดนั้นได้อย่างไร?”
  ”อย่ากังวลเลยพี่เซิง เจ้าไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ? ”
  หลินเฟิงยืนอยู่ตรงที่เดิมหน้าอกของเขากระเพื่อม เขายืมพลังลูกปัดมังกรทั้งสองเพื่อใช้ดูดซับออร่าแห่งสวรรค์และโลกไปในขณะเดียวกัน
  ความรู้สึกต่อต้านในร่างกายได้หายไปแล้วเมื่อมองย้อนกลับไปในเวลานั้น เพียงพอที่จะอธิบายชีวิตได้เลยว่าแทบตาย
  กระบวนท่านี้ยังอยู่ในระยะทดลองมันถือเป็นทักษะใหม่ที่หลินเฟิงคิดค้นพัฒนาขึ้นด้วยการรวมสัตว์วิญญาณเข้าด้วยกัน
  ทักษะการรวมร่างเป็นทักษะที่รวมพลังของสัตว์วิญญาณสองชนิดแล้วปล่อยออกมา
  แต่ทว่ามันจะเกิดการต่อต้านกันระหว่างสัตว์วิญญาณกับสัตว์วิญญาณ เช่นเดียวกันกับการต่อต้านระหว่างธาตุกับธาตุในตอนที่ใช้กระบวนท่านี้ เว้นแต่ว่าจะเป็นการรวมร่างสัตว์ที่เกิดจากความยินยอมพร้อมใจ
  ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะไม่สามารถรวมร่างสัตว์กันได้ และในเวลาเดียวกัน ความสามารถของพวกเขาจะทะยานขึ้นสูงถึงระดับดินแดนศักดิ์สิทธิ์สี่สวรรค์
  หลินเฟิงเคยฝึกฝนกระบวนท่านี้มาก่อนแต่ทุกครั้งกลับล้มเหลวลงด้วยเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไป
  หนึ่งในเหตุผลที่ครั้งนี้ประสบความสำเร็จคือพวกเราแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมสองคือเราถูกกดดันให้ต้องลงมือ และสามก็คือโชคช่วย
  และด้วยความสำเร็จนี้เขาจึงได้เชี่ยวชาญทักษะบางอย่างเกี่ยวกับแรงกาย
  ทันใดนั้นมีลมแรงพัดมาจนทำให้ฝุ่นหนาฟุ้งกระจาย
  ภาพภายใต้แสงจันทร์ส่องที่เขาเห็นพื้นที่ที่ถูกทำลายโดยพายุเพลิงจนดูน่าสังเวช และยังหลงเหลือรอยไหม้บนแผ่นดินที่พังทลายอีกหลายแห่ง
  เมื่อมองเห็นร่างที่ยืนอย่างยากลำบากกำลังล้มลงคิ้วของหลินเฟิงจึงเลิกขึ้นเล็กน้อย
  ”ยังไม่ตายอีกหรือตายยากซะจริง ๆ”
  ร่างของเซิงอี้ชุ่มโชกไปด้วยเลือดผิวหนังของเขาถูกไฟไหม้ทั่วทั้งตัวจนดูต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
  ความโกรธของเขาอ่อนแรงจนแทบจะแหลกสลายและหากสถานการณ์เลวร้ายขึ้นกว่านี้อีกนิด เขาคงจะต้องสูญเสียไปพลังไปจนสิ้นเชิง
  เมื่อเห็นภาพนี้ลูกน้องของเซิงอี้จึงรีบบินไปอยู่ข้างกายของเขา
  ”พี่เซิง!ท่านเป็นอย่างไรบ้าง? ”
  เซิงอี้เปิดดวงตาขึ้นเล็กน้อยและอยากจะพูดแต่เขากลับเปิดปากไม่ได้เลย
  พอเห็นว่าเซิงอี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้พวกเขาจึงรู้สึกช็อคไปพร้อม ๆ กันอีกทั้งยังรู้สึกขุ่นเคือง
  ”เจ้าทำร้ายพี่เซิงจนเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?ข้าไม่ยอมเจ้าแน่!”
  เกิดเสียงคำรามดังขึ้นตามมาติดๆ กัน นอกจากหญิงสาวในชุดกรุยกรายนั้น ลูกน้องคนอื่น ๆ ก็พุ่งเข้ามาหาหลินเฟิง
  เมื่อได้ดูดซับออร่าแห่งสวรรค์และโลกหลินเฟิงจึงฟื้นตัวขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะต่อสู้ได้กับปรมาจารย์ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลายคน
  ดังนั้นเขาจึงนึกขึ้นในใจและชิปที่สูงกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์สองอันจึงแตกออกที่กลางคิ้วของเขา
  พลังวิญญาณไหลบ่าเข้าไปในกล้ามเนื้อและกระดูกและดวงตาของเขาเปล่งแสงสว่างขึ้นเป็นอย่างมาก
  ”สัตว์วิญญาณสิงโตสายฟ้าสีทอง”เขาเอ่ยออกมาเบา ๆ จากนั้นจึงปรากฏกระแสไฟฟ้าออกมาทั่วร่างอย่างรวดเร็ว และบนหน้าของเขาแสดงให้เห็นถึงความสูงส่ง
  ”กินมันซะ”เขายิงสายฟ้าจำนวนมากไปใส่คนเหล่านั้นอย่างรวดเร็วด้วยการชี้เพียงครั้งเดียว
  คนเหล่านั้นต่อต้านมันอย่างรวดเร็วพร้อมกับประหลาดใจ:”ธาตุสายฟ้า? เจ้ามีสี่ธาตุงั้นหรือ? ”
  หลินเฟิงไม่ได้ตอบเขาคิดเพียงครู่เดียว บรรยากาศอันสูงส่งก็แผ่ขยายไปรอบ ๆ
  หลังจากนั้นเมฆครึ้มสีดำขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นเหนือหัวของหลินเฟิง ภายในนั้นมีเสียงฟ้าร้องกับสายฟ้าสีทองเคลื่อนไหวและกระพริบแปลบปลาบออกมาจากเมฆครึ้มนั้น เสียงฟ้าร้องทึม ๆ ดังกึกก้องราวกับมีเทพเจ้าร่างยักษ์กำลังรัวกล้องศึก
  ”ความเกรี้ยวกราดแห่งสิงโตสายฟ้า…”
  เขาค่อยๆ เปิดปากเอ่ย ไม่นานสิงโตสายฟ้าสีทองที่เกิดจากการรวมตัวกันของสายฟ้าและฟ้าแล่บสีทองจึงก่อตัวเป็นรูปร่าง
  ”นี่คือ…”พอได้เห็นสิงโตสายฟ้าอันทรงพลัง ลูกน้องของเซิงอี้อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอ
  ”ไป!”เสียงของหลินเฟิงดังยิ่งกว่าเสียงฟ้าร้อง วินาทีถัดมา สิงโตสายฟ้าก็คำรามแล้วพุ่งออกไป
  ”หยุดมัน!”มีชายคนหนึ่งร้องออกมาอย่างรีบร้อน
  ทุกคนเรียกใช้ทักษะสัตว์วิญญาณของพวกเขาออกมาทันที
  ”มีดตัดเพลิงแดง!”
  ”ใบมีดวายุคม!”
  ”ปืนใหญ่น้ำ!”
  ทักษะแต่ละชนิดปะทะเข้ากับสิงโตสายฟ้าแต่ทักษะเหล่านั้นเป็นแค่เพียงทักษะวิญญาณระดับสูงซึ่งไม่ส่งผลใดต่อกระแสไฟฟ้าได้เลย
  สิงโตสายฟ้าพุ่งชนกับทักษะเหล่านั้นอย่างโอหังแล้วพุ่งไปยังร่างของคนเหล่านั้นอย่างเกรี้ยวกราด
  สายฟ้าแผ่ออกไปราวกับกิ่งก้านของต้นไม้เหล่าผู้คนที่กำลังถูกไฟฟ้าช็อตต่างกระตุกและกรีดร้อง
  สิงโตสายฟ้าตัวนี้ไม่ได้ดุร้ายเท่ากับตอนที่สู้กับเมฆสายฟ้าคราวก่อนหน้าดังนั้นมันจึงทำร้ายเพียงไม่กี่คนและไม่ได้สาหัสมากนัก
  ในตอนที่หลินเฟิงถอนพลังที่ส่งออกไปสายฟ้าจึงหายไปในไม่ช้า
  กลุ่มชายพวกนั้นต่างกุมหน้าอกแล้วล้มลงไปบนพื้นร่างของพวกเขาสั่นกระตุกจากสายฟ้าและฟ้าแล่บที่ตกค้างอยู่
  นี่เขา——
  บรรดาผู้สังเกตการณ์ต่างก็อ้าปากค้าง
  ความแข็งแกร่งของเซิงอี้กับเพื่อนร่วมทีมนั้นไม่ถือว่าอ่อนแออย่างแท้จริงแต่พวกเขาต่างก็พ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของหลินเฟิง
  ในร่างผอมๆ นั่น เหตุใดจึงแข็งแกร่งเช่นนี้?
  หลินเฟิงก้าวเข้าไปหาอย่างช้าๆ จนทำให้หลายคนหวาดกลัวจนถอยร่น พวกเขาถอยจนไปอยู่เคียงข้างเซิงอี้ก็หยุดลง
  ”เจ้าเจ้าจะทำอะไร?” หญิงสาวในชุดกรุยกรายหยุดดูถูกหลินเฟิงไปแล้ว สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
  หลินเฟิงพูดอย่างไร้อารมณ์:”ฆ่าแล้วต้องชดใช้ด้วยชีวิต เป็นหนี้แล้วต้องชดใช้ด้วยเงิน ข้าต้องการเพียงแก้แค้นให้ชายชราผู้นั้น”
  ”ข้าขอบอกเลยว่าเจ้าอย่าได้อวดดีนัก”
  ”เราไม่ได้มาพร้อมกับพี่ใหญ่หากพี่ใหญ่อยู่ที่นี่ด้วย คงไม่ปล่อยโอกาสให้เจ้าได้ทำเรื่องเช่นนี้?”
  น้ำเสียงของหลินเฟิงยังคงไร้ซึ่งอารมณ์:”ไม่ว่าจะอีกกี่ครั้ง ข้าก็จะทำเช่นเดิม”
  หญิงสาวเจ้ามารยาเยาะเย้ยขึ้นทันที:”เจ้าอย่ามาเสแสร้งว่าถูกบังคับ! ความแข็งแกร่งของพี่ใหญ่นั้นอีกครึ่งก้าวก็จะถึงขั้นหก ต่อหน้าเขา เจ้ามันเป็นได้แค่ขยะ! ”
  หลินเฟิงกล่าว”ข้ายังเป็นขยะอีกงั้นหรือ? ดี งั้นเจ้าเรียกเขามาที่นี่เลย”
  หญิงเจ้ามารยาลิ้นเปลี้ยไปชั่วขณะเพราะว่าเธอนั้นไม่มีหนทางใดที่สามารถติดต่อได้เลย
  ความกลัวก่อรวมขึ้นในจิตใจหญิงสาวเจ้าเสน่ห์ตะโกนร้องออกไปยังผู้สังเกตการณ์อย่างรีบร้อน “เจ้าพวกขี้แพ้! มาหยุดเขาไว้สิ”
  ”เห็นหรือไม่ว่าข้าที่เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวถูกรังแกเจ้ามันไม่ใช่ผู้ชาย!”
  ไม่มีใครขยับตัวมีแต่ความรังเกียจที่ฉายขึ้นบนใบหน้าของแต่ละคน
  หลินเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา”โอเค เป็นเช่นนั้น”
  สายฟ้าและฟ้าแล่บสีทองเลื้อยมาพันอยู่รอบปืนราวกับงูตัวหนึ่ง
  แต่ในตอนที่หลินเฟิงกำลังจะลงมือกลับมีเสียงเย็นดังขึ้นทางด้านหลังของเขา
  ”พอเถอะอย่าถลำลึกไปเลย”

อ่านตอนอื่นๆของ โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล คลิกเลย

แฟนเพจ