Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

หมอยาหวานใจท่านประธาน - ตอนที่ 358

เรื่อง หมอยาหวานใจท่านประธาน - ตอนที่ 358

หมอยาหวานใจท่านประธาน – ตอนที่ 358 เป็นที่ต้อนรับ / ตอนที่ 359 ผู้เร้นกายใหญ่อยู่ในเมือง
ตอนที่ 358 เป็นที่ต้อนรับ

พอทั้งคู่เข้ามาในร้านก็พบว่าในนี้มีคนไม่น้อยแล้ว ดูแล้วนับว่าคึกคัก หูปิงซึ่งทำหน้าที่พนักงานเสิร์ฟเห็นอีลั่วเสวี่ย รีบเดินมาทันที

“เถ้าแก่” เขาพูดพลางมองมาที่เฟิงฉี่ รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ใครกันนี่

อีลั่วเสวี่ยชี้ไปที่เฟิงฉี่ “เสวี่ยชี น้องชายฉัน ต่อไปนี้เรียกเขาว่าท่านเจ็ดก็ได้”

ท่านเจ็ด ฮ่าฮ่า ท่านเจ็ดก็ไม่เลวแฮะ เมื่อกี้เขายังนึกโมโหว่าทำไมชื่อตัวเองทั้งสองชื่อล้วนแต่ไม่น่าฟังเลย

“ท่านเจ็ด เถ้าแก่ เชิญทางนี้ครับ” หูปิงผายมืออย่างสง่างาม แล้วชี้ไปที่ห้องพิเศษเล็ๆ ที่ไม่ห่างนัก มีไว้สำหรับอีลั่วเสวี่ยกับเพื่อนที่เธอพามาใช้เท่านั้น นี่เป็นสถานภาพอย่างหนึ่ง

จากนั้นหูปิงก็ยกเหล้าอี้เถียนและเหล้าขาวกาหนึ่งมาให้อีลั่วเสวี่ย ใช้แก้วแบบโบราณ ดูหรูและสบายตา

พอหูปิงผละไปแล้ว เฟิงฉี่จึงขยับเข้ามาใกล้ “เจ๊ คุณมีบริษัทแห่งหนึ่งแล้วไม่ใช่หรือ ทำกำไรได้ไม่น้อย ทำไมถึงมาเปิดร้านนี้ล่ะ?” บาร์เหล้าและคาราโอเกะไม่ใช่บริหารได้ง่ายๆ

อีกอย่างสถานที่แบบนี้มีทั้งคนดีคนเลวปะปนกัน เกิดเรื่องได้ง่าย ที่นี่ยังอยู่ในซีหนานเฉิงซึ่งเป็นบริเวณที่ไม่ค่อยสงบ

อีลั่วเสวี่ยยิ้ม แล้วรินเหล้าอี้เถียนให้เฟิงฉี่แก้วหนึ่ง “หาเงินเป็นเรื่องรอง ฉันไม่ต้องการถูกจำกัด” ถ้าจะทำให้ได้ถึงขั้นไม่ถูกจำกัดก็ต้องทำให้ตัวเองแข็งแกร่งมาก ไม่ว่าฝ่ายธรรมะหรือฝ่ายอธรรมล้วนยำเกรงเธอ

อีกทั้งเรื่องบางเรื่อง ถ้าให้คนทางนี้ไปช่วยจัดการจะง่ายและสะดวกกว่า

การที่สามารถยืนบนที่สูงได้ ไม่ถือว่าเก่ง แต่ถ้าสามารถทำให้คนที่อยู่บนที่สูงนึกยำเกรงได้ นั่นจึงจะถือว่ามีฝีมือ

เฟิงฉี่ครุ่นคิดแล้วเข้าใจบ้างแล้ว บางครั้งสามารถเป็นที่ยกย่องที่ระดับล่างก็ถือว่ามีฝีมือ ที่จริงที่นี่ก็ทำเงินได้ไม่น้อย

“เอ๊ะ…นี่มันอะไร ขมจริง” เฟิงฉี่หยิบเหล้าขึ้นมาดื่ม แล้วรู้สึกขมจนขมวดคิ้ว เหล้าขมแบบนี้จะดึงลูกค้าได้หรือ

แต่พอพูดแล้วเขาก็เริ่มทำปากจ๊วบจ๊าบ “มีรสเปรี้ยวหวานด้วย เอ๊ะ เหล้าอะไรนี่” เป็นครั้งแรกที่ได้ดื่มเหล้าพิเศษอย่างนี้

อีลั่วเสวี่ยยิ้ม แล้วรินเหล้าขาวจอกหนึ่ง “ชิมนี่”

หลังจากเฟิงฉี่ดื่มแล้วก็รู้สึกตาสว่าง “รสชาติพิเศษมาก ชื่อเหล้าอะไร?”

“เหล้าอี้เถียนตามด้วยเหล้าดอกท้อ” เหล้าอี้เถียนขมก่อนแล้วค่อยเปรี้ยวอมหวาน พอดื่มเหล้าดอกท้อจะมีกลิ่นหอมทั่วทั้งปาก มีความรู้สึกเหมือนได้ดมดอกท้อเดือนสามบานทั่วขุนเขา

ความรู้สึกนี้ไม่ใช่ฝืนเอง แต่คนที่เคยเห็นดอกท้อหรือเคยดมกลิ่นดอกท้อจะรู้สึกได้

“ไม่เลวเลย เจ๊ คิดไม่ถึงว่าคุณจะรู้เรื่องเหล้าดี” เฟิงฉี่พูดชม แล้วยกเหล้าอี้เถียนขึ้นดื่มอีก พอดื่มเสร็จก็ตามด้วยเหล้าดอกท้อ ท่าทางเหมือนได้กินอาหารรสเลิศ

อีลั่วเสวี่ยยิ้ม “คนเราก็ต้องมีอะไรที่ชอบบ้าง” เมื่อก่อนนอกจากบำเพ็ญเพียรแล้ว พวกเขาผู้บำเพ็ญเพียรไม่ค่อยมีเรื่องที่ทำให้เพลิดเพลินใจ มีเพียงการดื่มเหล้าและชมทิวทัศน์เท่านั้น ก็เท่านี้เอง

ต่างจากโลกนี้ ช้อปปิ้ง เดินเที่ยวตลาด ไปทัศนาจร ล้วนเป็นกิจกรรมที่น่าสนุก ไม่รู้ว่าคนบนโลกนี้เอาแต่เที่ยวเล่นจนขาดสติหรือไม่ พวกเขาใช้ชีวิตอย่างเสพสุขจนทอดทิ้งความลำบากในการบำเพ็ญเพียร

“เจ๊มีความชอบที่พิเศษจริงๆ” เฟิงฉี่ชูนิ้วโป้งขึ้น แล้วนั่งเอนพิงโซฟา รื่นรมย์กับความรู้สึกพิเศษที่เกิดจากเหล้าที่พิเศษ

อีลั่วเสวี่ยกวักมือเรียกหูปิงให้มาหา ในเมื่อคนที่เลือกกินอย่างเฟิงฉี่ยังชอบเหล้าอี้เถียนคู่กับเหล้าดอกท้อ งั้นวันนี้ถือโอกาสเผยแพร่เลยดีกว่า

“เถ้าแก่ ทำแบบนี้อาจจะขาดทุน ทั้งไม่รู้ว่าบาร์เทนเดอร์จะทำได้ไหม”

พอดีบาร์เทนเดอร์ที่ปรุงเหล้าอี้เถียนเดินมาพอดี เชาพูดทันที “ฟี่ปิง ผมจะลองดู” ลองท้าทายดูไม่เห็นจะเป็นไร ทั้งวันนี้เป็นวันเปิดร้านใหม่ สำคัญมาก

ตอนที่ 359 ผู้เร้นกายใหญ่อยู่ในเมือง

เขาพูดออกมาเอง หูปิงจึงไม่พูดแล้ว เพียงแต่ตบไหล่เขา “สู้เต็มที่!”

อีลั่วเสวี่ยเหลือบตาขึ้นมอง “ทำให้เต็มที่ก็ดีแล้ว แก้วแรกฟรี แก้วต่อไปค่อยจ่าย” ที่เธอจะทำไม่ใช่การค้าขายขาดทุน

จากนั้นก็เริ่มทำการแนะนำเหล้าอี้เถียนกับเหล้าดอกท้อที่บาร์ เริ่มแรกทุกคนดื่มแล้วต่างรู้สึกว่าเป็นการกลั่นแกล้ง นึกโกรธ แต่แล้วดวงตาก็ฉายเววตื่นเต้น หลังจากดื่มเหล้าดอกท้อตาม ก็รู้สึกถึงรสชาติยอดเยี่ยมสุดบรรยาย

“นี่เหล้าจับคู่กันหรือ ยกมาโต๊ะนี้สิบแก้วเลย!” เมื่อได้ลิ้มรสชาติที่พิเศษนี้ ลูกค้าก็เริ่มยอมรับ การแนะนำเหล้าชนิดใหม่นี้ได้รับการต้อนรับอย่างเหนือความคาดหมาย

เฟิงฉี่เห็นแล้วแปลกใจ “เจ๊ การค้าของพวกคุณไปได้ดีมากเชียว” เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าการค้าขายดูเหมือนจะไม่ยากเท่าไร

อีลั่วเสวี่ยยิ้ม “ไม่ง่ายอย่างที่คุณคิดหรอก ต่อให้เหล้าดีแค่ไหนพอดื่มมากเข้าก็จะรู้สึกเบื่อ ถ้าอยากไปได้ไกลก็ต้องหาอะไรแปลกๆ จึงจะได้”

อยากทำเหล้าพิเศษให้ขายดี ก็ต้องมีรสชาติถูกใจทุกคน ค้นให้เจอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ทำเหล้าที่ดื่มแล้วติดใจไม่รู้ลืม

“ค่อนข้างซับซ้อน ผมเลิกคิดดีกว่า” เฟิงฉี่โบกมือ ตำราการค้าขายอะไร เขาฟังแล้วปวดหัว

อีลั่วเสวี่ยเห็นท่าทางเฟิงฉี่ไม่สนใจแม้แต่น้อย จึงพูดกึ่งล้อเล่นว่า “เรียนรู้ไว้บ้างเป็นเรื่องจำเป็น วันหน้าคุณยังต้องรับสืบทอดบริษัทของครอบครัวไม่ใช่หรือ ไม่งั้นรอจนปู่กับพ่อจากไปแล้ว คุณจะทำยังไง?”

พอเฟิงฉี่ได้ยิน สีหน้าดูอึดอัดทันที แม้คำพูดเธอจะแรงไปหน่อย แต่เป็นความจริง ทำให้อดคิดทบทวนไม่ได้ เขามองสำรวจอีลั่วเสวี่ยสองรอบ ในสมองเหมือนมีแสงสว่างวาบขึ้น

“ผมคิดได้แล้วเจ๊ วันหลังผมจะหาคนที่รู้จักค้าขายอย่างเจ๊มาช่วยรับงานก็ได้แล้ว”

อีลั่วเสวี่ยฟังจบก็สีหน้าหมองลง “เด็กสาวที่รู้จักค้าขายอย่างฉันมีมาก แต่คุณมั่นใจหรือว่าเธอปรับตัวกับสภาพของครอบครัวคุณแล้วสามารถบริหารได้”

พูดให้ง่ายหน่อยหลิงเป่าถังของพวกเขาเป็นสถานที่ขายยาที่รักษาด้วยการประสานแพทย์ตะวันตกเข้ากับแพทย์แผนจีน ถ้าทำได้ไม่ดีก็จะกลายเป็นเพียงร้านขายยา เหมือนโรงงานยาที่ไร้จริยธรรม กินยามากแต่หายช้า

“ฟังดูก็มีเหตุผล หรือว่าต้องรอให้ผมลงมือด้วยตัวเอง?” เฟิงฉี่รู้สึกจนใจ หลิงเป่าถังที่ครอบครัวเขาสืบทอดมานาน จะปล่อยให้ย่อยยับในมือตนเองได้อย่างไร

อีลั่วเสวี่ยหรี่ตาลง “เพราะฉะนั้น ที่จริงคุณสามารถลองช่วยงานปู่กับพ่อบ้าง” ดูเหมือนเธอจะจำได้ว่าหมิงเย่ดูแลด้านแพทย์แผนตะวันตก แม่ของเฟิงฉี่ดูแลแพทย์แผนจีน ส่วนท่านผู้เฒ่าเป็นเสาหลักของบริษัท

“ถ้างั้นผมต้องเลิกบำเพ็ญเพียรหรือ” เฟิงฉี่ตัดใจไม่ได้และลังเล ยังไม่ต้องพูดถึงว่ายากที่จะทั้งซื่อสัตย์และกตัญญู ระหว่างความฝันกับความเป็นจริง เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

ก่อนหน้านี้รู้สึกว่าพ่อแม่ยังไม่แก่ เขาสามารถแสวงหาสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ แต่พอได้ยินที่อีลั่วเสวี่ยพูด เขาก็รู้สึกว่าตนเองไม่สามารถทำตามอำเภอใจเช่นนี้ต่อไปแล้ว ควรจะทำตัวเป็นผู้ใหญ่ แบ่งเบาภาระของพ่อแม่

“คุณดูสิ ถึงฉันจะทำเรื่องเหล่านี้ แต่ฉันละทิ้งการบำเพ็ญเพียรไหม?” อีลั่วเสวี่ยทำตาขวางใส่ ไม่รู้จริงๆ ว่าคนบนโลกนี้คิดอย่างไร จะบำเพ็ญเพียรต้องแยกตัวออกไปจากโลก ไม่ใส่ใจโลกงั้นหรือ

เฟิงฉี่เอียงคอ “ไม่ได้ทิ้ง แต่ผมไม่มีพรสวรรค์อย่างเจ๊ต่างหาก”

“จำไว้นะ อยู่บนเขาแค่ผู้เร้นกายเล็ก อยู่ในเมืองจึงจะเป็นผู้เร้นกายใหญ่ ขอเพียงใจสงบ ความสับสนวุ่นวายใดๆ ก็ขัดขวางความตั้งใจบำเพ็ญเพียรของคุณไม่ได้ จากนี้ค่อยหาเวลา ฉันจะแนะนำให้คุณเรียนรู้”

เฟิงฉี่เรียนตนเองว่าเจ๊ทุกคำ สกุลเฟิงยังมอยเตาหลอมยาให้ ก่อนหน้านี้ก็ช่วยเหลือเธอไม่น้อย เธอถือว่าเฟิงฉี่เป็นเพื่อน จึงควรช่วยเขาบ้าง

อ่านตอนอื่นๆของ หมอยาหวานใจท่านประธาน คลิกเลย

แฟนเพจ