Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

Jun Jiu Ling หวนชะตารัก - ตอนที่ 97

เรื่อง Jun Jiu Ling หวนชะตารัก - ตอนที่ 97

สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมจริงๆ

นายหญิงสามหนิงโบกพัดดังพรึบพรับ

“ยังจะสละชีวิตช่วยโอรสสวรรค์” นางเอ่ยขึ้น “นี่มันอะไรกับอะไรเล่า”

นายหญิงสี่หนิงนั่งขัดสมาธิบนเตียงเตา แม้ไม่ได้โบกพัด แต่กลับสะบัดผ้าเช็ดหน้า

“แต่งเรื่องส่งเดชช่องโหว่มากมาย” นางว่า “ช่างไร้เหตุผลน่าหัวเราะจริงๆ”

นายหญิงใหญ่หนิงที่นั่งอยู่อีกด้านของโต๊ะเตาสีหน้ายังคงนิ่งสงบ ดวงตาสีหน้ามีความเมตตาหลายส่วน

“ก็กล่าวได้ว่าเป็นเวรกรรมมีจริงคุณพระคุณเจ้าช่วยคนจิตใจดี” นางว่า

“พี่สะใภ้” นายหญิงสามหนิงร้องไม่พอใจ “คนจิตใจดี มีคนจิตใจดีโดยสมบูรณ์อะไรที่ไหน พวกนางดีต่อโอรสสวรรค์ กับพวกเราหาได้มีจิตใจดีอะไร ท่านดูเรื่องที่พวกนางทำสิเรียกว่าอะไร”

“สังหารคนค้นเมือง หวิดจะวางเพลิงอยู่แล้ว” นายหญิงสี่หนิงเอ่ยเสริม “หรือราชโองการของฮ่องเต้เพื่อให้พวกเขาใช้กร่างเช่นนี้หรือ?”

“ไม่ใช่เพื่อหาคนรึ” นายหญิงใหญ่หนิงเอ่ยเสียงอ่อนโยน “เด็กในบ้านหายไป ผู้ใหญ่ยากเลี่ยงร้อนใจ”

“ใช่สิ แค่เด็กอายุสิบห้าคนหนึ่งคืนหนึ่งไม่กลับบ้าน” นายหญิงสี่หนิงเน้นเสียงหนักที่อายุสิบห้าปี “ก็ตีโพยตีพายจนปั่นป่วนทั้งเมือง ค้นเมืองบุกบ้านเหมือนหมาป่าเหมือนเสือ”

“เรื่องเหล่านี้พี่ใหญ่บอกกับพี่รองแล้วไหม? ตระกูลฟางทำเช่นนี้จำเป็นต้องทูลองค์ฮ่องเต้ให้รู้” นายหญิงสามหนิงเอ่ยขึ้น

ตอนที่พวกนางพูดถึงตรงนี้ นายท่านใหญ่ก็เข้ามา หลังร่างหนิงอวิ๋นเยี่ยนก็ตามมาด้วย

หลายเดือนไม่ออกจากบ้าน อยู่ในเรือนทำงานเย็บปักถักร้อยจัดการธุระในบ้าน ทั้งร่างของนางดูแล้วอิ่มเอิบขึ้นมาก

แล้วก็ดูแล้วเบื่อหน่ายนิ่งเฉยไร้ชีวิตชีวาอยู่บ้าง

หลังเข้าประตูก็คำนับมารดากับท่านน้าทั้งสอง สักคำก็ไม่พูดยืนอยู่ด้านข้าง

“เรื่องนี่จะให้น้องรองพูดได้อย่างไร” นายท่านใหญ่หนิงขมวดคิ้วเอ่ยขึ้น “เรื่องเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องให้น้องรองพูด พวกองครักษ์เสื้อแพรเมืองไท่หยวนย่อมรายงาน”

“ถ้าอย่างนั้นผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ทำไมเบื้องบนเบื้องล่างความเคลื่อนไหวสักนิดก็ไม่มี?” นายหญิงสี่หนิงเอ่ยขึ้น “พวกองครักษ์เสื้อแพรครั้งนี้ทำไมเชื่องราวกับแมวเล่า?”

“นั่นแน่นอนเพราะองค์ฮ่องเต้ใต้ฝ่าพระบาทไม่ให้เคลื่อนไหว” นายท่านใหญ่หนิงเอ่ยขึ้น “นี่ยังต้องพูดรึ”

นี่แน่นอนว่าไม่ต้องพูด พวกผู้หญิงตระกูลหนิงก็ไม่ได้โง่เดาไม่ออก แต่ยืนยันความจริงเรื่องนี้ก็ยังกรุ่นโกรธไม่คลาย

“ช่างไม่ยุติธรรมจริงๆ” นายหญิงสามหนิงเอ่ยขึ้น สะบัดพัดแค้นนัก

“พวกเจ้าก็ไม่ต้องไปเยาะหยันตระกูลฟางแต่งเรื่องนี้ส่งเดชได้น่าขำ” นายท่านใหญ่หนิงเอ่ยขึ้น นั่งลงบนเก้าอี้

หนิงอวิ๋นเยี่ยนรินชายกเข้ามาทันที

นายท่านใหญ่หนิงรับมาดื่มคำหนึ่ง

“เรื่องนี้ให้ชาวบ้านฟัง ย่อมเหมาะกับรสนิยมของพวกเขา ประหลาดพิสดาร” เขาเอ่ย มองนายหญิงใหญ่หนิง “กงเกวียนกำเกวียน ทำดีได้ดี มีเทพ มีพระพุทธองค์ มีโอรสสวรรค์ มีอันตราย มีคลี่คลายอันตรายเป็นปลอดภัย มีการทำไม่คาดหวัง มีได้ผลตอบแทนไม่คาดฝัน พลิกผันเหนือคาดถึงดึงดูดคน เรื่องนี้ถึงแพร่ออกไปได้ ส่วนช่องโหว่ไร้เหตุผล ชาวบ้านไม่สนใจหรอก”

“ถ้าอย่างนั้นบรรดานายท่านขุนนางก็ไม่สนใจหรือ?” นายหญิงสามหนิงเอ่ยขึ้น

นายท่านใหญ่หนิงยิ้มแล้ว

“นายท่านขุนนางย่อมสนใจ” เขาว่า “พวกเขาจำต้องสนใจเพียงราชโองการนี้เป็นจริงหรือไม่ก็เพียงพอแล้ว ส่วนราชโองการได้มาอย่างไร ส่วนตัวถามได้ถกได้ แต่จะยังยกข้อสงสัยออกมาอีกหรือ? นั่นเป็นเรื่องตั้งสมัยอดีตฮ่องเต้”

เขาดื่มชาคำหนึ่งอีกครั้ง

“ฝ่าบาทย่อมเป็นบุตรกตัญญู” เขาเอ่ยขึ้นทอดความนัยลึกซึ้ง

องค์ฮ่องเต้ตอนแรกที่ขึ้นครองราชย์ก็เพราะเผชิญวิกฤติได้รับคำสั่ง ชั่วขณะมีคำตำหนิมากมาย ได้ยินว่าถูกบีบบังคับด้วยความกตัญญูต่ออดีตฮ่องเต้ถึงตกลง ไม่เช่นนั้นเวลานั้นคงฆ่าตัวตายแสดงเจตนารมณ์ไปแล้ว

ในเมื่อตระกูลฟางบอกว่านี่เป็นราชโองการที่อดีตองค์ฮ่องแต่ประทานให้ ฮ่องเต้จะสงสัยได้อย่างไร

อีกอย่างก็ผ่านการพิสูจน์แล้ว เป็นลายพระหัตถ์และตราพระราชลัญจกรหยกของอดีตฮ่องเต้จริงๆ ทั้งยังจดบันทึกไว้อีก

นายหญิงสามหนิงกับนายหญิงสี่หนิงสบตากันทีหนึ่ง ไม่พอใจอยู่บ้างแต่ก็ทำอันใดไม่ได้

“ถ้าอย่างนั้นตระกูลฟางแห่งนี้ก็ไม่มีใครหาเรื่องได้จริงๆ แล้ว…” พวกนางเอ่ยขึ้น

“หาเรื่องได้หรือไม่ได้ย่อมไม่ได้อยู่ที่ผู้อื่น แต่อยู่ที่ตัวพวกเขาเอง” นายท่านใหญ่หนิงลูบเคราเอ่ยขึ้น “กระทำไร้คุณธรรมมากย่อมฝังตนเอง”

“เขตหยางเฉิงปรากฏของสิ่งนี้ได้อย่างไร” นายหญิงสามหนิงเอ่ยขึ้น กรุ่นโกรธยิ่งนัก

ที่สำคัญที่สุดก็คือของสิ่งนี้ยังมีความเกี่ยวโยงกับพวกเขาตระกูลหนิงอยู่บ้าง

“ช่างเขาสิ หากเขามาค้นตระกูลของพวกเรา ข้าจะเปิดประตูให้พวกเขาค้น อยากค้นอย่างไรก็ค้นอย่างนั้น” นายท่านใหญ่หนิงหัวเราะเอยขึ้น “ยึดทรัพย์ตระกูลของพวกเราก็ได้”

พูดพลางเขาก็หัวเราะฮ่าฮ่าเสียงดังขึ้นมา

“คนที่ถือราชโองการกับคนที่เขียนราชโองการ ย่อมไม่เหมือนกัน อย่าได้เสียความเหมาะควรลืมหน้าที่”

เรื่องเก่าราชวงศ์ก่อนๆ ขุนนางชั้นสูงผู้ทำคุณงามความชอบมากเท่าไร ถือป้ายทองอาญาสิทธิ์ ที่สุดกระทำการเหิมเกริมมีสักกี่คนหนีพ้นความตาย

ตระกูลฟางถือราชโองการแก้แค้นล้างความอยุติธรรมเคลื่อนทหารม้าขุนนาง หรือค้นเมืองหนึ่งตามหาคนผู้หนึ่ง แม้กำแหงแต่ก็ทนรับได้อยู่ แต่เรื่องเช่นนี้หนึ่งได้สองได้ไม่อาจมีสาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถือราชโองการก่อเรื่องข้องเกี่ยวกับราชสำนัก ถ้าอย่างนั้นคนที่ออกมาพูดและตั้งคำถามย่อมไม่ใช่แค่เหล่าชาวบ้านแล้ว

นายหญิงใหญ่หนิง นายหญิงสามหนิง นายหญิงสี่หนิงบนหน้าเผยรอยยิ้ม

“แต่ หากพวกเขาไม่ใช่ต้องการค้นตระกูลของพวกเรา แต่ถือราชโองการบีบพวกเราให้ยอมรับสัญญาแต่งงานของตระกูลจวินเล่า?” หนิงอวิ๋นเยี่ยนที่เงียบไม่พูดขึ้นมาตลอดทันใดนั้นก็เอ่ยขึ้น

เสียงหัวเราะในห้องพลันสลายไป สี่คนสีหน้าเคร่งขรึม

พูดให้ถึงที่สุดแล้วพวกนางทำไมสนใจเรื่องที่ตระกูลฟางมีราชโองการเรื่องนี้เช่นนี้ ที่สนใจเช่นนี้ยังไม่ใช่เพราะความขัดแย้งในอดีตครั้งนั้นรึ

ความขัดแย้งนั่นเดิมทีเพราะยศศักดิ์ฐานะไม่เท่ากัน พวกนางเดิมควรครองความได้เปรียบ

แต่ครั้งหนึ่งสองครั้งดันล้วนเสียท่าพูดไม่ออก หาเรื่องไม่ได้หลบหลีกไป ถอยก้าวหนึ่งทะเลไพศาลท้องนภากว้างใหญ่พวกเราเดินดูท่ากันไปชั่วคราว

ผลปรากฏว่านี่ยังไม่ทันเดินสักกี่ก้าว ยังไม่ทันวางแผนยาวนาน ตระกูลฟางก็ถือราชโองการออกมาอีก

ผู้ที่เปิดร้านแลกเงินคนหนึ่งกลับได้รับการปฏิบัติเฉกเช่นเดียวกับผู้ที่ทำคุณงามความชอบก่อตั้งประเทศ

นี่ทำให้คนหดหู่จริงๆ

นายท่านใหญ่หนิงลูบเครา ร้องเอ๋ขึ้นมา

“เจ้าว่าตอนแรกที่ท่านพ่อสัญญาแต่งงานกับตระกูลจวิน ใช่เพราะรู้ว่าตระกูลฟางมีราชโองการ ความเป็นมาไม่ธรรมดาหรือไม่?” เขาพลันเอ่ยขึ้น

นายหญิงใหญ่หนิงเอามือตบบนโต๊ะดังปัง

การกระทำนี้ทำให้คนในห้องสะดุ้งโหยงอีกครั้ง

นายหญิงใหญ่หนิงน้อยนักจะบันดาลโทสะเสียกิริยาเข่นนี้

“ท่าน ท่านคิดถึงท่านพ่อเช่นนี้ได้อย่างไร?” นายหญิงใหญ่หนิงโกรธเอ่ยขึ้น “ท่านมองท่านพ่อเป็นคนอย่างไรแล้ว”

ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้

บรรยากาศในห้องคลายลง นายท่านใหญ่หนิงยิ้มเขินอายบ้างแล้ว

พูดถึงนายท่านผู้เฒ่าหนิงเช่นนี้ไม่เคารพจริงๆ เขากระแอมทีหนึ่งแก้อาย

“เรื่องนี้เยี่ยนเยี่ยนไม่ต้องกังวลใจ” เขามองหนิงอวิ๋นเยี่ยนเอ่ยขึ้น “ราชโองการของตระกูลฟาง ก็มีเพียงนายหญิงผู้เฒ่าฟางคนเดียวที่รู้ ตอนแรกคุณหนูจวินคนนั้นก็ไม่รู้ ตอนแรกคุณหนูจวินคนนั้นโวยวายเช่นนั้น นายหญิงผู้เฒ่าฟางก็ไม่ได้หยิบสิ่งนี้ออกมาใช้บีบบังคับ ตอนนี้ก็ยิ่งไม่มีทาง”

“ใช่แล้ว ตอนนี้คุณหนูจวินคนนี้เป็นสะใภ้ตระกูลฟางแล้ว” นายหญิงสามหนิงเอ่ยขึ้น ส่ายพัดสีหน้ารังเกียจ “หากนายน้อยตระกูลฟางคนนั้นตายก็เป็นแม่ม่าย ถือราชโองการมาบีบให้นางได้แต่งงานใหม่มายังตระกูลของพวกเราจะว่าไปก็เป็นเรื่องหน้าไม่อายที่นางทำออกมาได้ แต่นายน้อยตระกูลฟางตอนนี้หายป่วยแล้วไม่ตายแล้ว หรือว่าจะถือราชโองการมาสวมหมวกเขียว[1]ให้ตนเองรึ?”

“พูดส่งเดชอะไรเล่า” นายหญิงใหญ่หนิงถลึงตามองนางตำหนิทีหนึ่งเอ่ยขึ้น “ต่อหน้าเด็กนะ”

นายหญิงสามหนิงมองหนิงอวิ๋นเยี่ยน

“เยี่ยนเยี่ยน ดังนั้นถึงบอกว่าไม่ให้เจ้าออกจากบ้าน ถูกคุณหนูจวินคนนั้นเกาะติด สกปรกตัวเจ้าเอง” นางเอ่ยขึ้น

หนิวอวิ๋นเยี่ยนยิ้มเอ่ยขอบคุณ

“ข้าทราบน้าสะใภ้” นางเอ่ยตอบอย่างเชื่อฟัง แล้วตบหน้าอก ท่าทางเปี่ยมไปด้วยความโล่งใจ “ยังดี พี่ชายหนีพ้นภัยไปได้ ก็บอกแล้ว พี่ชายคนดีเช่นนี้ไม่มีทางโชคร้ายเช่นนี้ได้”

“พูดถึงตรงนี้ ไม่ได้เขียนจดหมายให้อวิ๋นเจานานแล้วสินะ?” นายท่านใหญ่หนิงเอ่ยขึ้น “เจ้าเขียนจดหมายฉบับหนึ่งถามเขาดูสิ พักนี้อยู่ดีหรือไม่”

“ก็ไม่ใช่เด็กน้อยแล้ว ท่านยังต้องเป็นห่วงเช่นนี้” นายหญิงใหญ่หนิงหัวเราะเอ่ยขึ้นพลางมองหนิงอวิ๋นเยี่ยน “เจ้าเขียนจดหมายสักฉบับให้พี่ชายของเจ้าเถอะ”

หนิงอวิ๋นเยี่ยนขานรับ

พูดถึงคนและเรื่องที่ตระกูลของตนเองควรค่าหยิ่งทะนง บรรยากาศในห้องก็เบิกบานขึ้นมา ตอนนี้เองด้านนอกประตูเสียงฝีเท้ารีบร้อนก็ลอยมา มีหญิงรับใช้คนหนึ่งเลิกม่านขึ้นสีหน้าตระหนกเดินเข้ามา

“นายหญิง นายหญิง เรื่องของตระกูลฟางเริ่มพูดกันอีกแล้ว” นางรีบร้อนเอ่ยขึ้น

เรื่องของตระกูลฟางไม่ใช่พูดอยู่ตลอดหรือ? มีอะไรน่าตกใจ

“น่ารำคาญ” นายหญิงสี่หนิงเอยขึ้นไม่สบอารมณ์ “ฟังจนหูหนอนจะขึ้นแล้ว”

“ไม่ใช่ ครั้งนี้ไม่ได้พูดเรื่องราชโองการของตระกูลฟางแล้ว” หญิงรับใช้รีบพูด “แต่พูดเรื่องของนายหญิงน้อยฟาง”

นายหญิงน้อยฟาง?

คำพูดนี้ทำให้คนในห้องสีหน้าอึ้ง

จวินเจินเจิน? เรื่องของนางมีอะไรให้เล่า?

เสียงป้าบดังกังวาน ในโรงน้ำชาซึ่งผู้คนเต็มแน่นเงียบเสียงลง สายตาทั้งหมดมองไปบนเวทีสูง

นักเล่านิทานบนเวทีสูงเปิดพัด

“วันนี้เล่าเรื่องตระกูลฟางเจ้าเก่า เรื่องใหม่เกี่ยวกับคนผู้ชาญฉลาด”

……………………………………….

อ่านตอนอื่นๆของ Jun Jiu Ling หวนชะตารัก คลิกเลย

แฟนเพจ