Novel-Kawaii - อ่านนิยาย อ่านนิยายออนไลน์ นิยายพากย์ไทย นิยายซับไทย

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System - ตอนที่ 89

เรื่อง ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System - ตอนที่ 89

Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 89
ตอนที่ 89 การประชุมครั้งแรก

มื้อค่ำจบลง ตามแผนต่อหน้าทุกคน ลู่โจวจะปฏิเสธข้อเสนอหารเงินของเจ้าอ้วนอู๋ กลับกันเขาเดินไปจ่ายเงินแทน

จากนั้นกลุ่มคนเมาก็กลับมหาลัย

หลังจากทุกคนแยกย้ายกันไป ลู่โจวก็พูดกับเจ้าอ้วนอู๋ “ฉันคิดว่ามันไม่ดีเลย”

เจ้าอ้วนอู๋หัวเราะแล้วกล่าว “สตาร์ทอัพ 90% ต่างก็ทำแบบนี้ เราถือว่าเป็นคนใจดี นอกจากนี้ไม่ใช่ว่าเราไม่แบ่งผลประโยชน์ให้พวกเขาสักหน่อย ถ้าเรื่องนี้ยังขัดต่อศิลธรรมของนาย นายก็แบ่งหุ้นให้พวกเขา แต่ฉันคิดว่านายไม่ควรทำแบบนั้น มันไม่มีความหมาย และมันอาจแว้งมากัดนายได้ในภายหลัง”

ลู่โจวไม่ได้พูดอะไร

เจ้าอ้วนอู๋รับผิดชอบด้านการดำเนินการของบริษัท ดังนั้นลู่โจวจึงควรฟังที่เจ้าอ้วนอู๋กล่าว

ลู่โจวรู้ตัวว่าเขาไม่เหมาะกับงานนี้ ดังนั้นมันจึงเป็นการดีสุดถ้าเขาไม่เข้าร่วม

ส่วนการแบ่งหุ้น…

มันดูไร้ความหมาย

ถ้าพวกเขาไม่ได้ทุนจากนักลงทุนผู้ใจดี หุ้นของพวกเขาก็จะไร้ประโยชน์

…..

วันที่สองหลังจากมื้อค่ำนั้น เจ้าอ้วนอู๋ยืมห้องเรียนแล้วเริ่มประชุม[สมาคมแคมปัสเทรนด์]ครั้งแรก

หัวข้อหลักของการประชุมคือการวิเคราะห์ตลาดและผลิตภัณฑ์

ทุกคนต้องคิดไอเดีย ระดมสมอง และหาวิธีรักษาผู้ใช้หลายแสนคน วิธีที่ดีที่สุดการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับแคมปัสเทรนด์

เกือบทุกคนต่างก็มีพลังเหลือล้น พวกเขานำโน๊ตบุ๊คมาแล้วเตรียมบันทึกการประชุม

เมื่อเจ้าอ้วนอู๋เดินเข้ามาในห้องเรียน เขาก็นำถุงพลาสติกสองใบติดมือมาด้วย จากนั้นเขาก็แจกเอเนอร์จี้ดริงค์ให้ทุกคน เมื่อเขาแจกเสร็จ ลู่โจวก็เดินขึ้นเวทีแล้วประกาศเริ่มการประชุม จากนั้นเขาก็มอบโพเดียมให้ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ หยวนลี่เหว่ย หยวนลี่เหว่ยเป็นอัจฉริยะที่ไม่ต้องสอบเข้าปริญญาโท

“เพื่อประหยัดเวลา ผมจะตรงเข้าประเด็นเลย” หยวนลี่เหว่ยกล่าวพร้อมกับเอามือพักไว้บนโพเดียม

“…ผู้ใช้แคมปัสเทรนด์ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษามหาลัย ผู้ใช้กลุ่มนี้ในผลิตภัณฑ์บนอินเตอร์เน็ตถือได้ว่าเป็นผู้ใช้ที่มีคุณภาพสูง พวกเขามีความสามารถในการยอมรับสิ่งใหม่ๆได้อย่างรวดเร็ว มีทักษะการเข้าสังคมสูงกว่าค่าเฉลี่ย และมีพลังการบริโภคสูงกว่าเฉลี่ย ส่วนสำคัญที่สุดก็คือมีศักยภาพที่จะพัฒนากลายเป็นผู้ใช้ระดับไฮเอนด์”

หยวนลี่เหว่ยยืนตัวตรง เขาดันกรอบแว่นก่อนจะพูดต่อ “มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะสร้างฐานผู้ใช้คุณภาพสูงนี้ มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำกำไรตอนนี้! ภารกิจแรกของเราคือการเพิ่มกิจกรรมของผู้ใช้! มันไม่ใช่แค่ฐานผู้ใช้ที่ประเมินมูลค่าของแอพ จำนวนผู้ใช้งานรายวันก็สำคัญเช่นกัน!”

“…โดยสามัญสำนึกแล้ว แนวคิดของนักศึกษามหาลัยและซอร์ฟแวร์การจองตั๋วรถไฟนั้นเข้ากันไม่ค่อยได้ อย่างน้อยสำหรับผม จำนวนครั้งที่ผมเปิดซอร์ฟแวร์จองตั๋วจะไม่เกินสิบครั้งต่อปี ไม่ว่าเราจะอัพเกรดบริการจองตั๋วให้ดีแค่ไหน มันก็ไม่ได้สร้างความแต่งต่างมากนัก เพราะผู้ใช้ไม่ได้ใช้แอพอยู่เป็นประจำ”

“ข้อเสนอของผมคือการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่และไม่จำกัดตัวเองกับการจองตั๋วอีกต่อไป”

“ถ้าใครมีความคิดดีๆ เชิญพูดมาได้เลย”

ผู้จัดการปรบมือ เจ้าอ้วนอู๋กับลู่โจวก็ทำตามเช่นกัน

มืออาชีพ!

ลู่โจวคิดในใจ

นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจเก่งในด้านการตลาดและการดำเนินการผลิตภัณฑ์

ผู้ติดตามส่วนใหญ่บนเว่ยป๋อของลู่โจวเป็นนักศึกษามหาลัย นอกจากนี้ตอนที่เขาสร้างแอพ มันเป็นช่วงนักศึกษากลับมหาลัยพอดี ดังนั้นเขาจึงพัฒนาฟังก์ชั่นมากมายให้นักศึกษา และด้วยเหตุนี้ เขาจึงมองข้ามหลักการตลาดมากมาย

หลังจากหยวนวิเคราะห์การตลาดและความต้องการ ลู่โจวก็เข้าใจทันทีว่าเขามีปัญหามากแค่ไหน

นักศึกษาปีหนึ่งยกมือขึ้นแล้วเสนอ “ถ้าเราเพิ่มฟังก์ชั่นตารางเรียนล่ะ? หลักสูตรของมหาลัยเป็นปัญหามากกว่าของมัธยมปลาย นอกจากนี้บางครั้งก็มีเปลี่ยนคาบเรียนอีก”

หยวนลี่เหว่ยไม่ได้ตัดสินไอเดียนี้ทันที กลับกันเขาแค่ยิ้มแล้วใช้ชอล์คเขียนไอเดียลงบนกระดานดำ

ซอร์ฟแวร์ที่คล้ายๆแบบนี้มีอยู่แล้ว แต่การคัดลอกฟีเจอร์ที่คล้ายกันจากซอร์ฟแวร์อื่นไม่ใช่เรื่องแปลกในอุตสาหกรรมซอร์ฟแวร์

การสนทนาเริ่มเข้มข้นขึ้น

อีกคนแนะนำ “ทำไมเราไม่เพิ่มบันทึกวิชาล่ะ? การถ่ายรูปพาวเวอร์พ้อยนั้นยากเกินไป การบันทึกรูปลงในคลังก็ลำบากเช่นกัน ถ้ามีฟังก์ชั่นกล้องในซอร์ฟแวร์ ผู้ใช้สามารถถ่ายรูปแล้วบันทึกรูปเป็นวิชาๆไป…”

แม้ว่าในทางทฤษฏี นักศึกษาสามารถดาวน์โหลดพาวเวอร์พ้อยจากอาจารย์ แต่คนส่วนใหญ่ไม่สนใจ พวกเขาจะถ่ายรูปหน้าสำคัญเอา

นี่ทำให้มีรูปภาพมากมายถูกบันทึกไว้ในโทรศัพท์ นอกจากนี้เนื่องจากนักศึกษามีหลักสูตรเรียนมากมาย รูปภาพจึงมั่วไปหมดและหาได้ยาก

แววตาของลู่โจวเปล่งประกาย

ฟีเจอร์นี้ดี

แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันทำได้…

หยวนลี่เหว่ยยังไม่ได้พูดอะไร เขายิ้มต่อแล้วพยักหน้าก่อนที่จะเขียนไอเดียลงบนกระดานดำ

หลังจากนั้นก็มีไอเดียมากมายเริ่มปรากฏออกมา

ยกตัวอย่างเช่นบางคนก็แนะนำให้เพิ่มโมเดลย่อยของ’แคมปัสนิวส์’ที่ผู้คนจะสามารถแชร์ข่าวและเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่เกิดขึ้นในมหาลัย มันอาจเป็นแพล็ตฟอร์มเผยแพร่ข่าวสาธารณะเช่นกัน ยกตัวอย่างถ้าใครทำหนังสือหายหรือทำบัตรอาหารหาย พวกเขาก็จะโพสต์ลงบนแอพ…มันจะสะดวกยิ่งกว่าการโพสต์ลงบนฟีดข่าววีแชท

การสนทนายังดำเนินต่อไป ไม่นานพวกเขาก็สรุปว่าข่าวมหาลัย อีเว้นท์และข้อมูลงานสามารถโพสต์ได้เช่นกัน

แน่นอนพวกเขาต้องระมัดระวังข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมด้านการเงิน พวกเขาต้องหารือรายละเอียดนี้ในภายหลัง

เมื่อจบการสนทนา ไอเดียก็มีเกือบเต็มกระดานดำ

เมื่อพวกเขามองดูฟีเจอร์ต่างๆบนกระดาน ก็มีคนเอ่ยถามขึ้นมา “เราจะยังเรียกมันว่าแคมปัสเทรนด์?”

ลู่โจวก็ตระหนักถึงเรื่องนี้ทันที

นั่นสิ เรายังควรเรียกมันว่าแคมปัสเทรนด์หรือ?

ซอร์ฟแวร์จองตั๋วรวมกับตารางเรียน บันทึกวิชา ข่าวมหาลัย อื่นๆ มันไม่เข้ากันนัก

แม้แต่ตอนที่เผชิญกับคำถาม หยวนลี่เหว่ยก็ไม่ได้ตกใจ เขาดันกรอบแว่นแล้วกล่าว “เห็นได้ชัดว่าแอพแคมปัสเทรนด์จะเป็นมากกว่าซอร์ฟแวร์จองตั๋ว ดังนั้นผมขอเสนอให้เปลี่ยนชื่อ”

เมื่อเขาพูดถึงเรื่องนี้ เขาก็หันไปมองลู่โจว

ในฐานะประธานสมาคมแคมปัสเทรนด์ งานสำคัญแบบนี้ย่อมต้องให้ลู่โจวตัดสินใจ

ลู่โจวไม่ได้ตอบ แต่เขาเริ่มคิดอย่างรอบคอบ

ประมาณหนึ่งนาทีผ่านไป…

ขณะที่หยวนลี่เหว่ยอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ลู่โจวก็พลันพูดออกมา

“มีเหตุผล”

เขาหยุดชั่วครู่ก่อนจะกล่าวต่อ “งั้นเราจะเปลี่ยนชื่อเป็น…แคมปัสแอสซิสแตนท์(Campus Assistant)!”

อ่านตอนอื่นๆของ ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System คลิกเลย

แฟนเพจ